Produce101 OS ตุ๊กตา แบคฮวี ( Baekhwi ) - Produce101 OS ตุ๊กตา แบคฮวี ( Baekhwi ) นิยาย Produce101 OS ตุ๊กตา แบคฮวี ( Baekhwi ) : Dek-D.com - Writer

    Produce101 OS ตุ๊กตา แบคฮวี ( Baekhwi )

    คังดงโฮผู้มีรสนิยมชอบสะสมของเก่า และได้พบเข้ากับตุ๊กตาตัวหนึ่ง

    ผู้เข้าชมรวม

    1,128

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.12K

    ความคิดเห็น


    28

    คนติดตาม


    110
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ก.ย. 60 / 13:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    คังดงโฮก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่ง เป็นผู้ชายธรรมดาๆทั่วไป อาจจะไม่ธรรมดาเหมือนคนทั่วไปเสียทีเดียวเพราะเขานั้นเป็นถึงประธานบริษัทนำเข้าและส่งออกเครื่องประดับรายใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ แม้เขาจะอายุได้เพียง25ปี แต่การบริหารงานของเขานั้นก็ไม่เป็นสองรองใครเลย

    นาฬิกาไม้โบราณเรือนใหญ่ที่ตั้งอยู่ชิดริมกำแพงห้องทำงานตีบอกเวลา18นาฬิกา พร้อมปากกาที่ถูกละออกจากกระดาษใบสุดท้ายบนโต๊ะและถูกปักลงตรงที่เสียบปากกาที่ตั้งอยู่ไม่ไกล คังดงโฮดัดนิ้วแก้เมื่อยหลังจากนั่งอ่านและเซ็นต์เอกสารมาตั้งแต่ช่วงเช้าถึงกระนั้นงานของเขาก็ใช่ว่าจะสร็จดีแต่เพราะเขามีที่ประจำที่จะต้องไปเสียก่อนที่จะกลับมาเครียงานต่อที่บ้านอีกที

    ร่างสูงใหญ่เดินออกมาและเอ่ยสั่งให้เลขาที่เฝ้าอยู่หน้าห้องทำงานแวะเอางานที่เหลือไปฝากไว้ที่บ้านให้เขา ซึ่งเธอก็ตอบรับอย่างรู้งาน เขาลงลิฟท์มาหยั่งชั้นใต้ดินของบริษัท รถคลาสสิคสีดำวาวจอดเด่นอยู่ที่โซนวีไอพีของอาคารจอดรถ ร่างสูงก้าวเท้าตรงไปที่มันอย่างไม่รีบร้อนเขายังมีเวลาให้กับเป้าหมายในวันนี้อีกมาก รถคลาสสิคคันสวยพุ่งตัวออกจากลานจอดรถโดยที่เจ้าของเป็นผู้ขับเคลื่อนมัน ปลายเท้าภายใต้รองเท้าหนังหุ้มส้นนั้นเหยียบคันเร่งให้ความเร็วของรถอยู่ในระดับที่พอเหมาะ ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเขาก็มาถึงหยั่งที่หมาย เขาเลี้ยวรถไปจอดไว้ที่ข้างๆของร้านซึ่งบริเวณนี้ก็มีเพียงร้านเดียวเท่านั้นที่ตั้งอยู่ บรรยากาศช่วงหัวค่ำเงียบสงบและแทบจะร้างไร้ผู้คนแต่คังดงโฮรู้ดีว่าภายในร้านประจำที่เมื่อก่อนเขามักจะมาบ่อยๆนี้มีคนอยู่ด้านใน เมื่อก่อนเขามาที่นี่ค่อนข้างบ่อยทว่าช่วงหลังมานี้งานรัดตัวจนแทบขยับไปไหนไม่ได้แต่ถึงกระนั้นเขาก็พยายามหาเวลามาที่นี่จนได้

    “สวัสดีค่ะคุณดงโฮ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”

    เสียงของหญิงสาววัยสามสิบกว่าๆเอ่ยทักร่างสูงที่ผลักบานประจูไม้แล้วสาวเท้าก้าวเข้ามาในตัวร้าน แม้จะอายุเลยเลขสามไปแล้วแต่ใบหน้าของเธอก็ยังดูอ่อนเยาว์และงดงาม ดวงตาเฉี่ยวคมริมฝีปากแดงสดเล็บยาวที่ถูกทาทับด้วยน้ำยาทาเล็บสีเลือดหมู ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอนั้นสวยมาก

    “พอดีช่วงนี้ผมยุ่งๆหน่ะ”

    ดงโฮยิ้มรับคำพูดนั้นตามมารยาท สายตาก็กวาดมองไปรอบๆร้านเพื่อหาสิ่งที่ตนสนใจ

    “เลือกตามสบายเลยนะคะ ดิฉันขอไปดูคุกกี้ที่อบไว้หลังร้านสักครู่”

    ดงโฮไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหญิงสาวเท่าไหร่นัก เขาเดินดูของภายในร้านไปเรื่อยๆแม้ภายในนี้จะไม่ใหญ่มากเพราะเป็นร้านกึ่งบ้านที่ชั้นล่างเปิดไว้เพื่อขายของส่วนชั้นบนนั้นดงโฮคิดว่าคงเป็นที่สำหรับนอนหลับพักผ่อนของคนที่เดินหายไปทางด้านหลังบ้าน แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเขาการมาที่นี่ก็เพื่อจะได้เดินมองของที่ตนชอบอยู่อย่างนี้ งานอดิเรกของคังดงโฮก็คือการสะสมของโบราณซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ร้านที่เขาอยู่ตอนนี้นั้นเป็นร้านขายของโบราณ คนตัวสูงค่อยๆเดินดูของภายในร้านไปเรื่อยๆอย่าใจเย็น

    นาฬิกาโบราณ…..ไม่……เขามีมันเต็มไปหมดแล้วทั้งเรือนเล็กเรือนใหญ่หรือแม้กระทั่งนาฬิกาทราย

    ถ้วยชามแบบสมัยก่อน…….ไม่…..นี่ก็ไม่ใช่เป้าหมายของเขาแน่ๆเพราะเขาก็มีมันเยอะแล้วเช่นกัน

    เครื่องประดับ บ้างก็มีเพชรพลอยติดประดับตกแต่ง บางก็เป็นเพียงแค่เครื่องประดับอย่างที่คนสมัยก่อนใช้กันธรรมดาๆ…….สิ่งนี้แม้จะยังมีไม่เยอะแต่ดงโฮเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรเยอะแยะในเมื่อเขาไม่ใช่ผู้หญิง

    ดงโฮเดินดูไปเรื่อยๆทุกๆอย่างที่ผ่านตาวันนี้กลับไม่มีอะไรเข้าตาเขาซักอย่าง คนตัวสูงคิดว่าวันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยวซะแล้ว ตั้งใจว่าจะเดินเข้าไปเอ่ยลาเจ้าของร้านก่อนกลับ ดงโฮผลักบานประตูที่คาดว่าเป็นห้องครัวเข้าไปภายในห้องไม่ได้สว่างมากแต่ก็ไม่ได้มืดจนมองไม่เห็น เขาไล่สายตามองไปรอบๆ กลางห้องมีหม้อสีดำใบใหญ่วางอยู่ ริมห้องมีเตาผิงที่จุดไฟไว้และเก้าอี้โยกที่ตั้งอยู่หน้าเตาผิง บรรยากาศภายในนี้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านชาวยุโรปสมัยก่อน ใช้ตะเกียงจุดไฟรอบๆเพื่อให้ความสว่างแทนที่จะเป็นหลอดไฟดั่งเช่นสมัยนี้ ฉับพลันสายตาที่ไล่มองสำรวจภายในห้องก็ไปหยุดลงตรงมุมหนึ่ง ตุ๊กตาตัวใหญ่ที่ถูกตั้งใส่กล่องไว้อย่างดี มันดึงดูดสายตาเขาเสียจนเลิกมองไม่ได้ ไม่รอช้าดงโฮสาวเท้าเดินเข้าไปหาตุ๊กตาตัวนั้นอย่างรวดเร็ว 

    แม้ว่าตุ๊กตาตัวนี้จะถูกเก็บเอาไว้ในกล่องไม้แต่พลาสติกใสด้านหน้ากล่องก็ทำให้มองเห็นรายละเอียดของเจ้าตุ๊กตาตัวนี้ได้เป็นอย่างดี เรือนผมสีน้ำตาลเข้มออกส้มเมื่อแสงไฟจากตะเกียงในห้องสะท้อนมา นัยน์ตาลึกล้ำเหนือคำบรรยาย ปากสีชมพูระเรื่อเชิดขึ้นน้อยๆดูน่ามอง สวยงามจนราวกับว่าเป็นมนุษย์เสียมากกว่าจะเป็นตุ๊กตาที่ถูกทำขึ้น มือเล็กๆที่ดูท่าทางนุ่มนิ่มวางทาบลงบนอกทับเสื้อลายทางสีขาวสลับเทาที่ถูกสวมใส่เอาไว้ ที่กลางปกคอเสื้อมีเข็มกลัดเม็ดใหญ่ติดอยู่และเหมือนว่ามันจะถูกสลักตัวอักษรไว้เสียด้วย

    'อี แด ฮวี'
    ดงโฮอ่านชื่อที่สลักไว้บนเข็มกลัดนั่นเบาๆ คนตัวสูงยกย้มน้อยๆด้วยความถูกใจ

    “คุณ!”
    น้ำเสียงที่ดูตื่นตกใจของหญิงสาววัยกลางคนก็เอ่ยเรียกเขาไว้เสียก่อน คนตัวสูงละออกจากตุ๊กตาตัวน้อยแล้วหันไปสบตากับหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนัก 

    “พอดีผมจะมาลากลับน่ะครับ ตอนที่เดินดูข้างในยังไม่เจอของที่ผมถูกใจเท่าไหร่”

    “ไม่เป็นไรค่ะ ไว้วันหลังคุณค่อย….”

    “แต่ตอนนี้ผมเจอของที่ผมอยากได้แล้วหล่ะ”
    ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยได้จบประโยคดีเสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มก็เอ่ยแทรกขึ้น ดวงตาฉายแววเปล่งประกายอย่างปิดไม่มิด

    “ถ้าหากคุณหมายถึงตุ๊กตาในกล่องนั้นหล่ะก็ ดิฉันขอไม่……”

    “เท่าที่คุณต้องการ”
    เป็นอีกครั้งที่เขาพูดแทรกขึ้น

    “…………”

    “ผมจะจ่ายให้เท่าที่คุณต้องการ เพียงแค่ยอมขายตุ๊กตาตัวนั้นให้กับผม…….นะครับ”






    หลังจากข้อเสนอที่แสนคุ้มค่าถูกเอ่ยขึ้นหญิงสาวเจ้าของร้านใช้เวลาคิดเพียงครู่เดียวก็ตอบตกลงขายมันให้กับเขาทันที แม้ตุ๊กตานี่จะตัวใหญ่ใช่เล่นแต่มันก็ไม่ได้หนักอะไรมากนักดงโฮจึงขนมาไว้ที่ท้ายรถและนำกลับมาบ้านได้ด้วยตัวคนเดียวอย่างสบายๆ คนตัวสูงนำมันมาวางไว้ในห้องของตนเองแทนที่จะเป็นห้องเก็บของสะสมดั่งของชิ้นอื่นๆ เขาคิดเพียงแต่วาอยากมองตุ๊กตาตัวนี้ต่ออีกซักนิดก็เท่านั้นหรือไม่เขาก็อาจจะนำมันตาตั้งไว้ประดับห้องเสียเลย ดงโฮตั้งตุ๊กตาที่อยู่ภายใต้กล่องไม้ไว้กลางห้องแล้วลงไปทานอาหารที่แม่บ้านเตรียมไว้ด้านล่างด้วยความหิวแน่นอนว่าตั้งแต่ออกจากบริษัทมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเขาแม้แต่น้อย 

    เวลาห้าทุ่มกว่าหลังจากทานอาหารเสร็จและนั่งเล่นอยู่ซักพักพอให้อาหารย่อยดงโฮก็กลับขึ้นไปบนห้องและเตรียมตัวอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายหลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน

    น้ำอุ่นๆในอ่างกว้างทำให้ดงโฮผ่อนคลายได้ไม่น้อย ตาคมหลับลงอย่างคนต้องการจะพักไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีที่เจ้าของห้องยังคงนอนแช่ในอ่างน้ำอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งนาฬิกาในห้องตีบอกเวลาเที่ยงคืน

    ตึง!

    พร้อมกับเสียงของบางอย่างที่ล้มลงกระแทกพื้นเสียงดัง ด้วยความตกใจมือหนาคว้าผ้าขนหนูมาพันไว้รอบเอวแล้วเดินออกมาดูอย่างรีบร้อน แต่ก็ต้องตกใจยิ่งขึ้นเมื่อพบว่าเสียงนั้นเกิดจากกล่องไม้ที่คราแรกมีตุ๊กตาตัวใหญ่อยู่ด้านในล้มลงกับพื้น ส่วนตุ๊กตาที่ควรจะอยู่ในกล่องดันนั่งอยู่บนพื้นพรมในห้องของเขาแทน ดวงตากลมโตเงยขึ้นสบตากับเขาพร้อมกับท่าทางตื่นตกใจ

    มันควรเป็นเขามากกว่าไม่ใช่หรืออย่างไรที่ควรจะต้องตกใจ



    ♡35%♡



    เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะ ดงโฮสบสายตากับสิ่งที่ก่อนหน้านี้เขาเรียกมันว่าตุ๊กตาหากทว่าตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น เขาไม่แน่ใจว่าจะต้องเรียกสิ่งตรงหน้านี้ว่าอะไร ตุ๊กตา? คน? หรืออย่างอื่น?

    “คุณ”

    ใช้เวลาคิดกับตัวเองเพียงครู่ เสียงของเจ้าตุ๊กตาก็เอ่ยขึ้นแผ่วๆ แม้จะเบาเพียงใดทว่าในห้องที่เงียบสงัดก็ทำให้ดงโฮได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน

    และเขาพึ่งค้นพบว่าเสียงของตุ๊กตานั้นช่างหวานจับใจ………ไม่ได้หวานนุ่มดั่งหญิงสาวทว่ากลับมีสเน่ห์และน่าดึงดูดแบบที่เขาก็ไม่สามารถหาคำใดมาอธิบายความรู้สึกของตนเองใด้

    “อ….อย่าเข้ามา”

    สองขาที่จะก้าวเข้าไปหาสิ่งตรงหน้าหยุดชะงักเมื่อเสียงหวานๆนั่นเอ่ยห้ามพร้อมกับเจ้าตัวที่กระเถิบตัวหนีไปด้านข้างจนร่างบางๆนั่นชนเข้ากับเตียงไม้ เจ้าตุ๊กตานั่นสะดุ้งตกใจเมื่อชนเข้ากับเตียงอย่างไม่รู้ตัว จนเจ้าของที่ยืนมองอยู่ถึงกับหลุดขำ

    คังดงโฮไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตุ๊กตาจะขี้กลัวและขี้ตกใจได้ถึงเพียงนี้ และไมาเคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าตุ๊กตาตัวบางๆนั่นจะน่ารักได้ถึงเพียงนี้……..

    “ท…..ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่”
    เป็นอีกครั้งที่เสียงหวานๆของเจ้าตุ๊กตาดึงให้ดงโฮหลุดออกจากห้วงความคิดของตนเอง 

    “แล้วคุณเป็นใคร…..”

    ไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยตอบคำถามแรก เสียงหวานๆนั่นก็เอ่ยถามคำถามต่อไปทันที ท่าทางเลิ่กลั่กนั่นทำให้ดงโฮนึกอยากจะแกล้งเจ้าตุ๊กตาผู้ไร้เดียงสาขึ้นมาทันใด ไม่รอช้าคนตัวหนาเดินตรงเข้าไปหาตุ๊กตาตัวบางที่บัดนี้จะเรียกว่าเป็นมนุษย์ก็คงไม่ผิดนัก พอเขาเดินเข้ามาใกล้เจ้าตัวก็ทำท่าเหมือนกับว่าจะลุกหนี แต่คนสูงนั้นไวกว่า เขานั่งลงตรงหน้าเจ้าตุ๊กตาตัวบางพร้อมกับใช้แขนทั้งสองข้างกั้นไว้กับขอบเตียงไม้เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าลุกหนีไปไหนได้ ดวงตากลมใสมองสบกับดวงตาคมอย่างกล้าๆกลัวๆ

    “ฉันจะตอบคำถามเธอ แต่…..”

    “…….”

    “เธอก็ต้องตอบคำถามฉันด้วยเหมือนกัน”

    “……”

    “ตกลงมั๊ย?”
    คนตรงหน้าไม่ตอบแต่หากพยักหน้าขึ้นลงเพื่อเป็นการบอกเขากลายๆว่าตกลง

    “งั้นฉันจะอณุญาติให้เธอเริ่มถามก่อนก็แล้วกัน”

    “ค….ครับ……แต่ก่อนอื่น คุณควรแต่งตัวให้เรียบร้อย”

    “โอ๊ะ! ขอโทษที”
    ดงโฮลืมไปว่าก่อนหน้านั้นเขาสวมเพียงรีบลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผามาใส่อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นชุดนอนจึงไม่ต้องแต่งอะไรมากมาย เมื่อเสร็จแล้วคนตัวสูงก็เดินมานั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าคนตัวเล็กกว่าทันที

    “ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

    “ฉันซื้อเธอมา”

    “ซื้อ?”

    “ใช่……ตาฉันถามบ้าง”
    ดงโฮเว้นจังหวะการพูดไปนิดหน่อยก่อนจะถามต่อ

    “เธอเป็นอะไรกันแน่”

    “ผมเป็นมนุษย์……เป็นมนุษย์เหมือนกันกับคุณ”

    “แล้วทำม…….”
    แดฮวีเริ่มอธิบายต่อ ดงโฮที่กำลังจะเอ่ยถามข้อข้องใจจึงเงียบลง

    “ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คุณเชื่อ……ความจริงแล้วผมโดนสาป”

    “โดนสาป?”
    ดงโฮถามกลับด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่สื่อออกมาว่าสงสัยกับสิ่งที่อีกคนพูด แดฮวีพยักหน้าขึ้นลงเพื่อย้ำคำๆเดิมให้คนตัวใหญ่ตรงหน้ารับรู้

    “เมื่อหลายสิบปีที่แล้วหลังจากที่แม่ของผมจากไป พ่อของผมแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอสวยและดูจิตใจดี ไม่ว่าชายใดเห็นเป็นต้องหลงรักแทบทุกราย……..แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น เธอหลอกลวงผู้ชายทุกคนที่มีฐานะร่ำรวย เมื่อได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วเธอก็ฆ่าพวกเขาทิ้ง……..รวมถึงพ่อของผมด้วย”

    ท้ายประโยคคนเล่าเอ่ยด้วยเสียงอันแผ่วเบา แววตาเจือไปด้วยน้ำใสที่ไหลคลออ่อนๆ ยามนึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นทีไรแดฮวีก็เป็นเช่นนี้แทบทุกครั้ง

    “เธอโอเคมั๊ย? ฉันเสียใจกับเรื่องนี้ด้วยนะ”
    ดงโฮเอื้อมมือไปแตะไหล่คนตัวเล็กกว่าแล้วตบลงไปเบาๆสองสามทีเพื่อให้กำลังใจ แดฮวีพยักหน้ารับรู้ดั่งเช่นที่ทำมาก่อนหน้านี้

    “คุณอยากฟังต่อมั๊ยครับ”
    แดฮวีเงยหน้ามามองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า

    “ถ้าเธอไม่ไหวก็ไม่เป็นไร”

    “ผมโอเคแล้ว…..จริงๆนะ ฟังผมต่อเถอะนะครับ”
    คราวนี้เป็นฝ่ายดงโฮที่พยักหน้ารับ

    แดฮวีเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นต่อ………………
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ช่วงก่อนที่มนุษย์จะเข้าสู่ยุคสงครามโลก บ้านเมืองสุขสงบ มนุษย์เริ่มคิดค้นและประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆขึ้น เริ่มมีความเชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการพัฒณาในด้านต่างๆ ความเชื่อเรื่องแม่มดและเวทมนต์ค่อยๆหายไป กระนั้นเรื่องราวของความรักที่มีมาทุกยุคทุกสมัยก็ยังคงอยูและบ้านของตระกูลอีก็เช่นกัน………

    หลังจากที่คุณนายอีเสียชีวิตได้ไม่นาน คุณชายผู้เป็นใหญ่ในบ้านได้ตัดสินใจแต่งงานใหม่กับสาวงามนางหนึ่ง สาวงามที่ใครๆต่างก็หมายปอง หน้าตาเธอช่างงดงาม รวมถึงกิริยามารยาทก็งาม แน่นอนว่าชายหนุ่มมากมายล้วนหมายปองหล่อน

    พิธีแต่งงานเริ่มขึ้นแบบเรียบง่าย อีแดฮวีบุตรคนเดียวของตระกูลจำต้องพยายามทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มตัวเล็กนั่งมองพิธีการตรงหน้าด้วยใจที่เหม่อลอย

    “น้องต้องอดทนนะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น”

    มือเล็กๆของแดฮวีถูกดึงไปกุมไว้โดยบุคคลที่นั่งอยู่ข้างๆ คำพูดปลอบประโลมจากคนๆนี้เปรียบดั่งสายน้ำที่ชะโลมหัวใจอันบอบช้ำของเขา แดฮวีหันไปส่งยิ้มให้คนรักที่นั่งอยู่ข้างกาย มือหนาจึงส่งมาลูบผมคนตัวเเล็กเบาๆด้วยความเป็นห่วง……..แดฮวีไม่อยากคิดเลยว่าหากเขาไม่มีผู้ชายคนนี้อยู่ข้างกาย เขาจะมีสภาพเยี่ยงไร 

    หลายเดือนต่อมา………

    แดฮวีและแม่คนใหม่เริ่มปรับตัวเข้าหากัน เธอดูแลและรักใคร่แดฮวีเหมือนลูกแท้ๆของตน เมื่อผู้เป็นพ่อเห็นดังนั้นก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังนั้นผู้หญิงคนนี้มีนิสัยเป็นอย่างไร

    “สวัสดีครับคุณน้า”
    ชายหนุ่มร่างสูงโค้งทักทายนายหญิงคนล่าสุดของบ้านตระกูลอี

    “สวัสดีค่ะ……เชิญคุณชายเข้ามาด้านในก่อนสิคะ”
    เธอยิ้มรับและผายมือเชื้อเชิญชายหนุ่มให้เข้ามาในบ้าน

    “ครับ”
    ชายหนุ่มโค้งให้หญิงสาวอีกครั้งก่อนจะเดินเข้ามานั่งบนโซฟารับแขกในบ้านหลังใหญ่

    “ดื่มน้ำเสียหน่อยนะคะ”
    หญิงสาวถือถ้วยน้ำชามาวางไว้ตรงหน้าผู้มาเยือน 

    “ขอบพระคุณมากครับ”
    เสียงทุ้มเอ่ยขอบคุณตามมารยาทพร้อมกันนั้นมือหนาก็จับแก้วกระเบื้องยกขึ้นจิบเบาๆ โดยไม่ทันสังเกตุเห็นรอยยิ้มร้ายที่มุมปากของหญิงสาว

    “คุณชายมาหาแดฮวีใช่หรือไม่คะ”
    เธอเอ่ยถามชายหนุ่ม 

    “ใช่ครับ รบกวนคุณน้าช่วยตามน้องแดฮวีมาให้กระผมทีได้ไหมครับ”

    “เผอิญว่าน้ากำลังยุ่ง……คงต้องรบกวนคุณชายให้ขึ้นไปตามเจ้าแดฮวีเสียเอง”

    “จะดีหรือครับ”
    แม้เขาจะคบหากับแดฮวีมาเป็นเวลาปีเศษแต่เขาก็ไม่เคยขึ้นไปบนห้องนอนของแดฮวีเลยสักครั้ง เขาอยากให้เกียรติแดฮวีมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้าเขาและแดฮวีก็จักต้องเข้าพิธีหมั้นกันอยู่แล้ว วันนี้ที่เขามาก็เพื่อรับคนตัวเล็กไปลองชุดนั่นเอง

    “น้าคิดว่าเจ้าแดฮวีคงไม่ว่าอะไรคุณชายหรอกค่ะ เพียงแค่ขึ้นไปปลุกเท่านั้นเอง”

    “ปลุก? น้องแดฮวียังไม่ตื่นหรือครับ”

    “ใช่ค่ะคุณชาย แล้วแดฮวีก็ออกจะตื่นยากไปสักหน่อย……ยังไงฝากคุณชายช่วยเข้าไปปลุกเจ้าแดฮวีให้ทีนะคะ ขึ้นบันใดไปห้องในสุดด้านขวา น้าขอตัวไปดูซุปในครัวสักครู่”
    หญิงสาวรีบพูดตัดบทเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มมช่องทางปฏิเสธ

    “ก็ได้ครับ”
    สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องรับคำแล้วเดินตรงไปหยั่งชั้นสองของบ้าน วันนี้เขารู้สึกว่าบ้านออกจะเงียบกว่าทุกวันไปเสียหน่อย ตามปกติแล้วในทุกๆครั้งที่มาจะมีคนรับใช้มากหน้าหลายตาอยู่ต้อนรับและคอยทำนู่นทำนี่ แต่วันนี้เขากลับยังไม่พบใครเลยนอกจากคุณผู้หญิงของบ้าน

    ก๊อกๆ~

    “แดฮวี แดฮวีครับ”
    ชายหนุ่มเคาะลงไปบนประตูไม้สีน้ำตาลเข้มแต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากคนในห้องอย่างสื้นเชิง

    “พี่เข้าไปนะ”

    จบคำชายหนุ่มก็หมุนลูกบิดแล้วก้าวเข้าไปหยั่งห้องที่คิดว่าคนรักของตนจะอยู่ในนั้น แต่เมื่อเข้ามาเขาก็ต้องตกใจเพราะสิ่งที่เห็น ผู้มีศักดิ์เป็นพ่อตาตัวแข็งเป็นหิน หน้าตาท่าทางดูเหมือนกับว่ากำลังตกใจอะไรบางอย่างอยู่ แต่ที่ทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่งคงเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่หน้าตาช่างเหมือนกับคนรักของเขาเสียเหลือเกิน

    “หึ”

    เสียงหัวเราะเยาะในลำคอดังขึ้นด้านหลัง เรียกให้ชายหนุ่มหันไปมอง หญิงผู้เป็นนายรองของตระกูลอียืนส่งรอยยิ้มที่ดูสุดแสนจะสะใจมาให้เขา ชายหนุ่มผงะไปเล็กน้อยแต่เมื่อตั้งสติได้ก็เอ่ยพูดหญิงตรงหน้าทันที

    “คุณทำอะไรพวกเขา”

    “ก็อย่างที่คุณชายเห็น”
    หญิงสาวพูดด้วยเสียงนิ่งๆพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดาและมันสร้างความโมโหให้แก่ชายหนุ่มเป็นอย่างมาก

    “พวกตระกูลอี ไม่มีอะไรดีนอกจากเงินแล้วก็เงิน พอพวกนี้ไม่อยู่สมบัติทั้งหมดก็จะได้กลายเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว คุณชายคิดว่าไง? ดีใช่มั๊ยหล่ะ”

    “เจ้ามันโรคจิต”
    ชายหนุ่มกำหมัดแน่นกับคำพูดแสนไร้ยางอายนั่น แดฮวีพร่ำบอกกับเขาเสมอว่าผู้หญิงคนนี้ลึกๆแล้วร้ายกาจกว่าที่เขาเห็นมากนัก แต่เขาก็เอาแต่คิดว่าที่คนรักพูดอย่างนั้นเพราะยังคงยอมรับกับการแต่งงานใหม่ของผู้เป็นพ่อไม่ได้แต่เปล่าเลย…….เขาน่าจะเชื่อแดฮวีตั้งแต่แรก 

    ชายหนุ่มหวังจะพุ่งไปจัดการกับปีศาจในคราบมนุษย์ตรงหน้า แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ก้าวไปไหน ขาทั้งสองข้างของเขาก็เริ่มอข็งตัวและกลายเป็นหินอย่างช้าๆ

    “โอ๊ะ! สงสัยว่าน้ำชาที่คุณดื่มเข้าไปจะเริ่มออกฤทธิ์แล้วสิ”

    “เจ้า!”

    “ฉันทำไมอย่างนั้นหรือคุณชาย”
    หญิงสาวเหยียดยิ้มเยาะใส่ชายตรงหน้า

    “กับสองพ่อลูกที่น่ารำคาญนี่ไม่มีโอกาส แต่สำหรับคุณ ฉันมีตัวเลือกให้นะ”
    ชายหนุ่มกัดฟันกรอดด้วยความโกรธเกี้ยว แต่หญิงตรงหน้าก็ไม่ได้สะทกสะท้านแม้แต่น้อย

    “ทางเลือกแรกคือ ยอมแต่งงานกับฉันแล้วยกสมบ้ติทุกอย่างของคุณชายให้แก่ฉัน”

    “……….”

    “หรือสองแข็งเป็นหินตามสองพ่อลูกนั่นไป…..เลือกเอาซะนะ”

    “หากต้องแต่งงานกับหญิงใจอำมหิตเยี่ยงท่าน ข้าขอยอมตาย!”

    สิ้นคำของชายหนุ่มนางก็ใช้มือทุบหินรูปท่านพ่อของแดฮวีที่ก่อนนั้นเคยเป็นมนุษย์แตกสลายไปกว่าครึ่ง ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยแต่ด้วยศักดิ์ศรีในตน เขาจึงพยายามกักเก็บมันไว้ไม่แสดงออกมาให้หญิงตรงหน้าได้เห็น

    “ดี! งั้นท่านก็จงแข็งตายไปซะ!”
    นางพูดด้วยความโมโห หญิงสาวเตรียมเดินออกไปจากห้อง

    ปัง!

    แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้เดินออกไปไหน ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรง

    “จับนาง นางเป็นแม่มด!”
    เสียงของบาทหลวงคนหนึ่งเอ่ยสั่งกับผู้ติดตามที่มาด้วยกัน

    “หยุด! หากใครกล้าเข้ามา ข้าจะทำลายตุ๊กตากระเบื้องนี่ซะ!”

    “เจ้าย่อมรู้ดีว่าเจ้าไม่มีทางทำลายตุ๊กตานั่นได้”

    “เจ้าจะลองดูหรือไม่หล่ะ”

    “อย่า!”
    ชายหนุ่มกลัวว่าผู้เป็นที่รักของตนจะเป็นอะไรไป เขาจึงเอ่ยห้ามขึ้น

    “ท่านฟังข้านะ นางไม่สามารถทำอะไรคนผู้บริสุทธิ์ได้ ไม่อย่างนั้นชีวิตนางก็จะดับไปด้วยเช่นกัน หากคนของท่านบริสุทธิ์ทั้งกายใจก็จงอย่ากลัว ทหารจับนาง!”
    บาทหลวงพยายามพูดเกลี้ยกล่อมชายหนุ่มหากแต่เขาก็ยังไม่วางใจและพยายามเอ่ยห้าม

    “ข้ายอมตายดีกว่าโดนพวกเจ้าจับ”

    แต่ช้าไป ทันทีที่เหล่าทหารกล้ากำลังจะเข้าประชิดตัวนาง หญิงสาวก็จัดการทุบตุ๊กตากระเบื้องจนแตกเป็นเสี่ยงๆ

    “ไม่!”

    พร้อมกับร่างของนางที่ค่อยๆสลายหายไปและเสียงร้องอย่างปวดใจของชายหนุ่มที่เห็นคนรักแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา ทันทีที่นางหายไปหินแข็งที่โอบล้อมชายหนุ่มมาเกือบครึ่งตัวก็ได้มลายหายไปด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นอิสระชายหนุ่มจึงตรงไปหยั่งเศษกระเบื้องที่เคยเป็นคนรักของตน เขาทรุดลงนั่งลงตรงหน้าเศษกระเบื้องเหล่านั้นด้วยจิตใจที่ไม่สู้ดีนัก

    “ภรรยาของข้าอาจช่วยท่านได้”
    บาทหลวงคนเดิมเดินเข้าไปแตะไหล่ชายหนุ่มเบาๆ

    “โปรดหลีกทางให้ข้า”
    หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นภรรยาของบาทหลวงเดินเข้ามาตรงที่ชายทั้งสองนั่งอยู่ ทั้งสองลุกขึ้นเพื่อหลีกทางให้เธอ 

    “พวกท่านออกไปก่อน”
    เธอหันไปพูดกับเหล่าทหารที่ยืนกันอยู่ทั่วทั้งห้อง พวกนั้นโค้งคำนับให้หล่อนก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปจนหมดเหลือเพียงชายหนุ่มและบาทหลวง เมื่อประตูปิดลงเธอจึงเริ่มร่ายมนต์ลงไปหยั่งตุ๊กตากระเบื้องที่แตกสลาย ตรงหน้าปรากฎแสงสีม่วงดูทรงอำนาจ แสงเหล่านั้นค่อยๆโอบล้อมเศษกระเบื้องให้มารวมเข้าด้วยกันและประติดประต่อทีละน้อย จนกระทั่งชิ้นส่วนสุดท้ายประกบเข้าด้วยกัน เวทมนต์หายไปหญิงวัยกลางคนทรุดลงและหอบหายใจอย่างหนัก 

    “หากไม่ไหวก็จงอย่าฝืน”
    บาทหลวงปรี่เข้าไปโอบประคองตัวภรรยาของตนด้วยความเป็นห่วง

    “ข้าคงช่วยท่านได้เท่านี้ พลังของข้าไม่แกร่งกล้าพอจะทำให้คนรักของท่านกลับเป็นเหมือนเดิมได้”

    เธอพูดต่อ

    “แต่เวทมนต์ของนางจะเสื่อมลงในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงที่สิบสองซึ่งจะมีเพียงสิบสองปีครั้ง ข้าจะให้พรกับพวกเจ้าหนึ่งข้อ”

    หญิงงามค่อยๆลุกขึ้นยืนโดยมีบาทหลวงช่วยประคอง ก่อนจะเริ่มให้พรแก่ตุ๊กตากระเบื้องแสนงาม
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    “ทำไมไม่เล่าต่อหล่ะ”
    ดงโฮเลิกคิ้วขึ้นถามคนที่อยู่ๆก็หยุดเล่าไป

    “ผมจำได้เพียงเท่านี้…….ไม่สิ จริงๆแล้วผมจำอะไรไม่ได้เลย เรื่องพวกนี้มีคนเล่าให้ผมฟังอีกที”

    “แล้วคนๆนั้นเขาไม่ได้เล่าต่อหรือว่าต้องทำยังไงถึงจะแก้คำสาปได้”
    แดฮวีส่ายหน้าแทนคำตอบ 

    “ถึงว่าหล่ะ…..”
    ดงโฮพึมพำกับตัวเองเบาๆ

    “คุณพูดว่าอะไรนะครับ”
    แดฮวีเอียงคอถามด้วยความสงสัย

    “เปล่าหรอก ไม่มีอะไร……….เธอช่วยขยับเข้ามาใกล้ๆฉันหน่อยสิ”
    คนตัวเล็กเม้มปากแน่น แววตาสื่อถึงความหวั่นเกรงอย่างปิดไม่มิด

    “ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”

    อาจด้วยรอยยิ้มอบอุ่นของคนตรงหน้าหรืออะไรก็แล้วแต่จึงทำให้แดฮวีที่แทบไม่ได้พบเจอผู้คนมานานค่อยๆขยับเข้าไปใกล้กับคนตัวใหญ่กว่าตรงหน้า ดงโฮยืนขึ้นและยื่นมือขวาออกไปตรงหน้าของแดฮวี คนตัวเล็กลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ท้ายที่สุดก็ยอมวางมือลงไปบนมือใหญ่ของอีกคน ดงโฮดึงมือแดฮวีให้ลุกขึ้นยืนตามตนเอง ทั้งสองพากันเดินไปหยั่งริมระเบียงห้อง ทันทีที่เปิดประตูออก ลมเย็นๆพัดเข้ามาประทะตัวของทั้งสอง แสงจันทร์นวลสาดส่องขับให้ผิวของแดฮวีดูผุดผ่องยิ่งกว่าตอนอยู่ด้านในห้องเป็นไหนๆ

    “วันนี้พระจันทร์สวยนะ เธอว่าไหม”

    “ครับ”
    แดฮวีตอบรับคำพูดของคนข้างๆโดยที่ดวงตาจับจ้องไปหยั่งพระจันทร์ที่สาดแสงสีนวลสวยอยู่บนท้องฟ้า ผิดกับใครอีกคนที่เอาแต่จับจ้องคนตัวเล็กอย่างไม่ละสายตา

    “แดฮวีครับ”
    คนถูกเรียกละสายตาจากดวงจันทร์แล้วหันมาให้ความสนใจกับคนตัวใหญ่แทน ดงโฮจับไหล่ของแดฮวีให้หันมาประจันหน้ากับตัวเองตรงๆ

    “อยากรู้วิธีถอนคำสาปรึเปล่าครับ”
    ดงโฮมองลึกเข้าไปในดวงตาของแดฮวี คำพูดแลสายตานั้นไม่มีแววล้อเล่นเลยสักนิด

    “คุณรู้หรือครับ”
    แดฮวีถามกลับ ณ ตอนนี้ความกลัวในคราแรกที่พบเจอได้หายไปแล้ว ความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆเริ่มเข้ามาแทนที่ อะไรบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในใจของแดฮวี 

    สิ่งสุดท้ายที่คนตัวเล็กเห็นคือใบหน้าของดงโฮที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนดวงตาคู่สวยจะปิดลงและค่อยๆสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มที่จรดลงตรงริมฝีปาก ทั้งสองหลับตาซึมซับสัมผัสของกันและกัน แสงสีม่วงโอบล้อมรอบตัวของทั้งสองก่อนจะแปลเปลี่ยนเป็นแสงสีนวลแล้วค่อยๆสลายหายไปในที่สุด

    ทั้งคู่ค่อยๆผละออกจากกันอย่างช้า ส่งมอบรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความสุขให้แก่อีกคน น้ำสีใสไหลออกมาจากดวงตาของแดฮวีแต่หากเป็นน้ำตาแห่งความสุข ดงโฮใช้นิ้วโป้งค่อยๆเกลี่ยมันออกให้ผู้เป็นที่รัก ทั้งสองโอบกอดกันท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องในยามค่ำคืน 

    ตอนนี้แม้พวกเขาจะยังคงจำเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกาลได้ไม่ทั้งหมด หากแต่พวกเขาก็ยินดีที่จะร่วมกันสร้างเรื่องราวความรักครั้งนี้ขึ้นมาใหม่ แม้ระยะเวลาเกือบร้อยปีที่ไม่ได้พบกันแต่ด้วยความรักที่ทั้งสองคนมีให้กัน ต่อให้เวลานั้นผ่านไปเนิ่นนานกว่านี้สักเพียงใดรักแท้ก็ยังคงเป็นรักแท้ เช่นเดียวกัน แค่คุณยังคงเชื่อมั่นในความรัก สายใยบางๆที่ผูกคุณเข้าไว้กับใครสักคนหนึ่งก็จะยังคงอยู่ ตราบนานเท่านาน


    END ~♡








     35% 120%
    เอา os มาฝากค่ะ จริงๆแต่งไว้นานแล้วแต่ลืมลงㅠㅠ ได้แรงบันดาลใจมาจากแดฮวีช่วงเพลงneverเลย น้องจ๋าเหมือนตุ๊กตาม๊ากมาก >_< อดไม่ไหวเลยเกิดเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา อีก60%จะตามมาในไม่ช้า(รึป่าว) ถ้าชอบเรื่องนี้กันเราจะรีบมาต่อด้วยความเร็วแสงเลยค่ะ ส่วนตอนนี้ก็เอ็นจอยรีดดิ้งน๊า~

    120% TALK นานไปหน่อยมั๊ยนี่ แฮ่ๆ เปอเซ็นต์หลังยาวมากค่อยๆอ่านกันนะคะ ขออภัยที่มาช้าด้วยเน้อ ;_; มีพาร์ทอดีตกับปัจจุบันนะคะเผื่อใครงงตรงไหน เรื่องอื่นๆเพิ่มเติมสงสัยตรงไหนสอบถามได้เลยนะคะ คอมเม้นต์ติชมได้เสมอน้า เราจะอ่านให้หมดทุกคอมเม้นต์เลย ขอบคุณสำหรับการติดตามด้วยนะคะ♡♡♡

    -เข้ามาแก้ไขคำผิด ถ้าแจ้งเตือนขึ้นบ่อยต้องขออภัยด้วยนะคะ T/\T

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ​เนื้อหาอยู่หน้า​แร๥๦อ๫บท๨วามนะ​๨ะ​♡♡♡

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×