ความฝัน..ความจริง - ความฝัน..ความจริง นิยาย ความฝัน..ความจริง : Dek-D.com - Writer

    ความฝัน..ความจริง

    ใครจะไปเชื่อว่าอยู่ๆ วันหนึ่งคนแปลกที่เคยฝันถึง จะมาปรากฎอยู่ในโลกของความเป็นจริง จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    97

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    97

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 มี.ค. 49 / 23:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      วันนี้บรรยากาศของหอพักนักศึกษา ช่างเงียบเหงาเสียเหลือเกิน ไม่รู้ว่าผู้คนหายไปไหนเสียหมด  เธอก็เป็นอีกคนที่อาศัยอยู่ที่นี่....

      ในห้องสี่เหลี่ยมที่อาศัยอยู่เพียงคนเดียวตามลำพัง...ความเงียบความเหงาทำให้เธอคิดถึงบ้านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอจึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอกดีกว่าที่จะนั่งอยู่กับความเหงาคนเดียวในห้องนี้ ว่าแล้วใจของเธอได้พาร่างเดินลงบันไดมายังชั้นล่าง แต่แล้วเธอพบกับชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ที่ม้านั่งยาวกลางทางเดินของห้องโถงชั้นล่าง  ตัวเธอเองรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่พบชายหนุ่มผู้นี้ แม้เขาจะใส่หมวกซึ่งมีปีกหมวกปิดหน้าปิดตา แต่เธอก็แน่ใจว่าเธอรู้จักเขาอย่างแน่นอน วันนี้เขาใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ เขากำลังนั่งก้มหน้าก้มตาวาดอะไรบางอย่างลงบนกระดาษร่างแบบ  เธอหยุดมองลายเส้นของดินสอที่เขาขีดเขียนลงบนกระดาษแผ่นนั้น และเมื่อกับว่าเขาจะรู้ตัวว่าเธอกำลังมองเขาอยู่  เขาละสายตาจากงานมามองเธอแว๊บนึงก่อนที่จะก้มหน้าวาดภาพต่อ

      "อ้าว...เธอพักอยู่ที่นี่เหรอ"  เขาถามเธอขณะที่ก้มหน้าก้มตาขีดเส้นต่างๆ เพื่อให้ได้ดั่งใจ

      "อืม" เธอตอบเขาเพียงเท่านี้ พร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับเขา ซึ่งสายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่กระดาษแผ่นนั้น ที่ตอนนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว

      "แล้วนี่จะไปไหนเหรอ"  เขายังคงสนทนากับเธอต่อไป  โดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดวาดรูปนั้นเหมือนกัน

      "กะว่าจะออกไปเดินเล่นหน่อยอ่ะ อยู่ในหอคนเดียวมันน่าเบื่อ" 

      "งั้นดีเลย เราว่าเธอมาเป็นแบบให้เราวาดรูปเธอหน่อยสิ จะทำงานส่งอาจารย์นะ"  เขาละสายตามองหน้าเธอ

      "จะดีเหรอ จะวาดรูปเราไปทำไม" เธอรู้สึกแปลกๆ พิกล ก็ตั้งแต่เกิดมา เธอยังไม่เคยเป็นแบบให้ใครวาดซักที แล้วอีกอย่างเธอไม่ชอบที่จะต้องนั่งอยู่เฉยๆ ห้ามขยับนู้นขยับนี้สักด้วยซิ

      "ดีซิ เพราะเรายังหาแบบไม่ได้เลย แล้วถ้าไม่มีแบบเราก็วาดไม่ได้ พอวาดไม่ได้ก็ไม่มีงานส่ง คราวนี้ก็ไม่มีคะแนน แล้วในที่สุด...."  ชายหนุ่มพูดสาธยายสักยืดยาวจนในที่สุด เธอเองเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ ต้องขัดขึ้นมาก่อนที่จะต้องเวียนหัวไปกว่านี้

      "อืม  ก็ได้"

      *****************

       

      "ติ๊ด...ติ๊ด.." เสียงโทรศัพท์มือถือที่ถูกตั้งปลุกไว้แทนนาฬิกาปลุก ทำให้หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงอย่างรำคาญเสียงที่ดังรบกวนเวลานอนของเธอ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าโทรศัพท์ก็จะไม่ยอมแพ้เธอเช่นกัน เสียงของมันกลับยิ่งดังขึ้น ดังขึ้น จนเธอเองที่เป็นฝ่ายยอมแพ้เสียก่อน เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงมากดปุ่มเพื่อปิดสัญญาณซะ ก่อนที่จะตัดใจลุกจากที่นอน ไปอาบน้ำแต่งตัว

      -------------------------------//////------------//////---------------------------------------

      "ก๊อก...ก๊อก" เสียงใครบางคนเคาะประตูห้อง

      "เชิญจ้า" เสียงคนในห้องที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ตามปกติของวันหยุด  ขานรับเสียงของคนที่มาเคาะประตู  คนเคาะประตูเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม

      "แม้วันนี้รินตื่นเช้าจัง ตอนแรกเรานึกว่ารินจะยังไม่ตื่นซะอีก" ผู้มาใหม่กล่าวทักคนในห้อง  ก็จะไม่ให้เธอทักอย่างนั้นได้ยังไง เพราะปกติถ้าไม่มีเรียนไม่มีทางได้เห็นรรินทร์ตื่นเช้าอย่างนี้เด็ดขาด

      "ก็เมื่อคืนนะสิ เราลืมว่าวันนี้วันเสาร์เลยตั้งปลุกไว้ แล้วมันก็ทำให้เรารำคาญจนต้องยอมแพ้" เสียงหัวเราะจากเพื่อนสาว ทำให้คนเล่ามองตาขวาง

      "หัวเราะอะไรจ้ะ" คำที่ใช้ถามฟังดูอ่อนโยน แต่น้ำเสียงนั้นไม่ได้อ่อนโยนด้วยเลย จนทำให้คนที่หัวเราะต้องหุบปากลง

      "เอานะ ไหนๆ ก็ตื่นแล้วไป เดี๋ยวเราไปหาอะไรทานกันดีกว่า" ปาณิตาเป็นฝ่ายชวนเพื่อนสาวขึ้น เพื่อลดอารมณ์ที่กำลังจะพุ่งพล่านของรรินทร์เสียก่อน

      "อืม ก็ดีเหมือนกัน เราเริ่มหิวแล้ว"  เธอพูดไปพร้อมกับเอามือลูบท้องของตัวเอง

       

      หลังจากที่ทั้งสองเลือกร้านอาหารกันอยู่นานสองนาน...ในที่สุดก็จบลงที่ร้านเจ้าประจำ  ร้านนี้ไม่มีชื่อร้าน เป็นเพลิงที่สร้างขึ้นแบบชั่วคราว ตั้งอยู่ริมชายหาด ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของมหาวิทยาลัย  บรรยากาศยามเช้ากับการทานอาหารริมชายหาด ช่างรู้สึกดีเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด....

      เมื่อสองสาวมาถึงร้าน ทั้งคู่เดินไปนั่งโต๊ะที่อยู่ริมชายทะเลที่สุด เพื่อจะได้สูดกลิ่นไอของทะเลให้ชุ่มปอด

      "วันนี้รินทานอะไรดี" หญิงสาวฝั่งตรงข้ามถามขึ้นพร้อมกับถือปากกาไว้ในมือเตรียมพร้อมที่จะจดรายการอาหาร

      "อืม..." คนถูกถามก้มหน้าก้มตาดูแผ่นรายการอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนที่จะตัดสินใจเลือกบางอย่าง

      "เราเอาข้าวราดกระเพราปลาหมึกแล้วกัน  แล้วปาณจะทานอะไรดี" ปาณิตาก้มลงจดรายการอาหารของเพื่อนก่อนที่จะดึงรายการอาหารไปดูบ้าง และก้มจดของตัวเอง

      ปาณิตาลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินถือแผ่นกระดาษที่จดรายการอาหาร

      "ป้าค่ะ ข้าวราดกระเพราปลาหมึกหนึ่ง แล้วก็ ข้าวราดผัดฉ่าทะเลหนึ่งนะค่ะป้า ขอข้าวไม่ต้องเยอะค่ะ" หญิงสาวกล่าวพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ป้าเจ้าของร้าน 

       

      ปาณิตารู้สึกว่าวันนี้รรินทร์ เพื่อนของเธอไม่เหมือนกับทุกวัน เพราะปกติรรินทร์จะเป็นฝ่ายชวนให้เธอดูนู้นดูนี้ตลอด แต่วันนี้กลับนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ทำให้ปาณรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยก่อนที่จะดึงสติเพื่อนสาวกลับมา

      "ริน...ริน..มีอะไรหรือปล่าว"  ปาณิตาถามขึ้นอย่างห่วงใย

      คนถูกเรียกละสายตาจากทะเลและขอบฟ้ากลับมาหาเพื่อนสาวที่นั่งฝั่งตรงข้าม  "อะไรนะ...ปาณ" 

      "เราถามว่า...รินมีอะไรหรือปล่าว เราเห็นรินนั่งเงียบตั้งนานแล้ว"

      "ปล่าวหรอก แค่นึกถึงความฝันเมื่อคืนนิดหน่อย"

      "เมื่อคืนรินฝันร้ายเหรอ"

      "ปล่าว" รรินทร์หยุดคำตอบไว้เพียงเท่านี้ เพราะได้ข้าวที่สั่งไปได้แล้ว ทำให้เรื่องที่กล่าวไว้หยุดอยู่แค่นั้นไปโดยอัตโนมัติ

      ทั้งสองก้มหน้าก้มตาตักข้าวในจานของตน และในที่สุดรรินทร์ก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน

      "ปาณ ... ปาณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั๊ย"

      "อะไรนะริน"

      "เราแค่ถามปาณว่า ปาณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั๊ย"

      "ถ้ารินถามเรา...ส่วนตัวเราเชื่อนะ...เอ๊ะ !  ทำไมวันนี้รินถึงพูดเรื่องนี้ได้นะ"  คนตอบยิ้มล้อ คนที่ถามคำถามนี้ขึ้นมา

      "ไม่มีอะไรหรอก  เพียงแค่เมื่อคืนเราฝันอะไรบางอย่างนะ"

      "ฝันถึงชายหนุ่มรูปงามหรือจ้ะ"  ปาณิตายังคงซักคนนั่งฝั่งตรงข้าม ก็วันนี้เพื่อนสาวคนนี้แปลกไปจริงๆ นะในสายตาของเธอ

      "ก็ไม่เชิงหรอก"  คำตอบของรรินทร์ ทำให้เพื่อนสาวอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีก

      "บอกมาซะดีๆ ว่าเมื่อคืนรินฝันว่าอะไร"

      "เราฝันถึงผู้ชายคนนึง แต่เราไม่รู้จักเค้านะ ไม่เคยเห็นหน้าเลย แถมในฝันเราก็ไม่เห็นหน้าเค้า แต่มันมีอะไรบางอย่างก็ไม่รู้ทำให้เรานึกถึงเค้านะ มันมีความรู้สึกแปลกๆ เราเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันปาณ"  ปาณิตาเอื้อมมือมาจับมือของเพื่อนสาว

      "ริน...คิดมากไปหรือเปล่า มีอะไรเล่าให้เราฟังได้มั๊ย" ปาณิตาถามอย่างไม่จริงจังนะ เพราะเธอรู้นิสัยเพื่อนคนนี้ดีว่า ระหว่างเค้าทั้งสองไม่เคยมีความลับอะไรต่อกัน ไม่ช้าก็เร็วเธอก็จะรู้เอง

       

      และแล้วสิ่งต่างๆ ที่รรินทร์ฝันเมื่อคืนก็ถูกถ่ายทอดออกมาให้เพื่อนสาวได้รับรู้สิ่งที่กำลังก่อกวนจิตใจเธออยู่ในตอนนี้

      "เราว่ารินไปดูหรือไปฟังอะไรมาหรือเปล่า แล้วเอาเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะ" ปาณิตาพูดแกมล้อเพื่อนสาวเล่น ทั้งๆ ที่ความรู้สึกของเธอก็บอกว่าความฝันครั้งนี้แปลกๆ

      "ปาณ...ไม่ต้องมานั่งอมยิ้มเลย" รรินทร์เอื้อมมือไปตีมือของปาณิตา  "ปาณก็รู้ว่าปกติเราไม่ค่อยฝัน พอฝันที่ไรเกิดขึ้นทุกที  แล้วอย่างงี้จะให้เราไม่กังวลได้ยังไงหล่ะ ก็ในฝันเรารู้สึกว่า....."

      "รู้สึกว่าอะไรจ้ะ"  ปาณิตาแทรกขึ้นหลังจากเห็นเพื่อนสาวนั่งอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ รรินทร์รู้สึกถึงความผิดปกติทางสายตาของเพื่อนสาว เธอจึงแกล้งเปลี่ยนประเด็นการสนทนา

      "ปาณ เราว่ากลับหอกันดีกว่า อิ่มแล้วไม่ใช่เหรอ" รรินทร์ว่าพลางขยับตัวลุกจากเก้าอี้เพื่อจะไปจ่ายเงิน การเปลี่ยนเรื่องคุยของรรินทร์ ทำให้ปาณิตาถึงกับส่ายหน้า

      "จ้า" ปาณิตาว่าพร้อมกับลุกตามเพื่อนสาวที่เดินนำหน้าออกไป 

       

      ************--------------------***************

       

      "ริน..ริน  ทางนี้" เสียงของปาณิตาที่ตะโกนแข่งกับเสียงกลองที่ถูกตีโดนเพื่อนร่วมคณะ เพื่อต้อนรับน้องๆ ปีหนึ่ง ที่มารายงานตัว เสียงตะโกนนั้นดังพอที่จะทำให้คนถูกเรียกหันไปทางต้นเสียง รรินทร์รีบเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวที่ตอนนี้ยืนชะเง้อโบกไม้โบกมือให้กับเธอจนคอยาวจะเป็นยีราฟอยู่แล้ว

      "ทำไมถึงเพิ่งมาหล่ะริน ตื่นสายอีกตามเคยหล่ะสิ" รรินทร์พยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่จะกวาดตามองไปรอบๆ ตึกคณะ เธอสังเกตเห็นคนอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งมีแต่ผู้ชาย พวกเขามีกันประมาณ 5-6 คน แต่เสียงที่พวกเขาพูดคุยกันนั้นเอะอะราวกับมีกันอยู่ 20 ได้ ขณะที่สายตาของเธอกำลังสังเกตคนเหล่านั้นอยู่ เธอกลับรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมายังเธอ และก่อนที่เธอจะหันไปสบตากับสายตาคู่นั้น ก็มีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

      "ริน ไปทางนู้นกัน น้องๆ รออยู่" ปาณิตาว่าพลางจูงมือเพื่อนซี้ให้เดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่มีน้องปีหนึ่งยืนอยู่รายล้อม แต่ตลอดทางที่เดินไปนั้น รรินทร์สามารถรู้สึกได้ว่ามีคนมองเธออยู่

      จนในที่สุดเธอตัดสินใจหันไปสบตากับเจ้าของสายตาที่จับจ้องเธออยู่ในขณะนี้ เขาเพียงส่งยิ้มให้เธอ แต่ทำไมรอยยิ้มของเขาทำให้เธอกลับรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ เธอพยายามนึก...นึก...แล้วก็นึก...และในที่สุดความคิดของเธอก็หยุดลง 'ใช่แล้ว ในฝัน' เธอบอกกับตัวเองอย่างนั้น ทั้งๆ ที่เธอเองไม่ได้เห็นหน้าคนในฝันเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมเธอถึงมั่นใจนักว่าผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคนเดียวกัน 'ความรู้สึกไง..ความรู้สึกมันบอกว่าใช่' เธอตอบตัวเองได้เพียงเท่านั้น  ก่อนที่จะดึงสติกลับเข้าสู่เหตุการณ์ที่อยู่รอบข้าง

       

      **************

      "เฮ้อ..."  ปาณิตาถอนหายใจพร้อมกับทิ้งตัวลงบนเตียงเมื่อย่างกายเข้าห้องพัก แต่ห้องนี้ไม่ใช่ของเธอแต่เป็นของเพื่อนสาวเธอต่างหาก  "วันนี้เหนื่อยจังเลยเนอะริน"

      "อืม...ปีนี้น้องปีหนึ่งเยอะจังเลยเนอะ ปาณว่ามั๊ย" รรินทร์เดินมาทิ้งตัวลงบนเตียงข้างเพื่อนสาวที่นอนอยู่ พร้อมกับหันหน้าไปหาเพื่อนสาว

      "ปาณ...เรามีอะไรจะเล่าให้ปาณฟัง"  

      "ฮือ...มีอะไรเหรอ"

      "ปาณจำเรื่องที่เราฝันได้มั๊ย" ปาณิตาจ้องหน้าเพื่อนสาวที่กำลังหลับตาลงอย่างอ่อนแรง  และเธอค่อนข้างมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง...ว่าความฝันของเพื่อนคนนี้คงเกิดขึ้นแล้ว

      "มีอะไรเกิดขึ้นหรือริน"

      "ก็ไม่มีอะไรหรอก...เพียงแต่..."  รรินทร์หยุดสูดลมหายใจพร้อมกับลืมตามองหน้าคนที่นอนอยู่ข้างกาย

      "เพียงแต่...อะไรหรือริน"  ปาณิตามองดวงตากลมโตของรรินทร์ ที่แววตาตอนนี้อาจจะดูอ่อนล้าไปบ้างเพราะอาจจะเหนื่อยจากการไปต้อนรับน้องๆปีหนึ่ง

      "เรากำลังคิดว่า...วันนี้เราเจอผู้ชายคนนั้นแล้วแหล่ะ ปาณ"

      "อะไรนะริน..."  รรินทร์พยักหน้าอย่างเหนื่อยล้า

      "แล้วรินมั่นใจได้ยังไงว่าเป็นคนเดียวกัน ไหนรินบอกเราว่าในฝันรินไม่เห็นหน้าไงหล่ะ"

      "ความรู้สึกนะปาณ เรามีความรู้สึกว่า คนที่เราเจอวันนี้เค้ามีอะไรบางอย่างที่ฉันรู้สึกได้อย่างเดียวกับในฝันนะ เราเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน..ปาณ"

      "แต่เราไม่เห็นรินคุยกับใครเลยนะ" 

      "แค่มองกันเฉยๆ นะ"

      "แล้วรินมั่นใจเหรอว่าใช่"

      "ไม่รู้สิ...แต่เราว่านอนกันเถอะปาณ วันนี้เราเหนื่อยเหลือเกิน" 

      "ก็ดีเหมือนกัน..เราเองก็เหนื่อยเหมือนกัน อยากจะหลับสักงีบ"

      และแล้วทั้งสองสาวก็หลับไปโดยใช้เวลาเพียงไม่นานหลังจากบทสนทนาได้ยุติลง แต่เพียงไม่นานรรินทร์ก็ต้องสะดุ้งตื่นจากภวังค์ 'ใช่..เธอฝันถึงผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว' เธอหันมามองเพื่อนสาวที่ยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง พร้อมกับหลับตาลงอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอไม่อาจที่จะหลับได้เลย ในหัวของเธอมีแต่เรื่องราวของผู้ชายแปลกหน้าเข้ามา ยิ่งพยายามจะลบมันทิ้งไปก็ยิ่งเหมือนกับจะย้ำให้เธอรู้สึกมากยิ่งขึ้น

       

      "อ้าว...รินตื่นนานแล้วเหรอ" ปาณิตาขยี้ตา มองเพื่อนสาวที่นั่งพิงหัวเตียง

      "อืม"

      "แล้วทำไมรินไม่ปลุกเราหล่ะ"  ปาณิตาต่อว่าต่อขาน

      "ก็เห็นปาณ กำลังหลับสบายอยู่นิ ใครจะไปกล้าปลุก" รรินทร์หันไปส่งยิ้มให้ปาณิตา

      "แล้วนี่หิวหรือยัง"  ปาณิตามองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง  "ตายแล้ว...นี่มัน 2 ทุ่มแล้วเหรอ เราว่าไปทานข้าวกันดีกว่าริน" ปาณิตาไม่พูดเปล่า เธอลุกขึ้นจากที่นอนและไม่วายหันมาฉุดมือรรินทร์ให้ลุกตามเธอออกไปด้วย

       

      ---------- ^--^ -----------

      และตอนนี้ทั้งคู่ก็มานั่งอยู่ที่ร้านขายอาหารหน้ามหาวิทยาลัย ต่างก้มหน้าก้มตาทานอาหารของตนเอง พูดคุยเหย้าแหย่กันไปเรื่อยตามภาษาคนเป็นเพื่อนกัน แต่แล้วบทสนทนาก็ต้องยุติลง เมื่อมีคนที่สามก้าวเข้ามาหยุดที่โต๊ะ

      "อ้าว...ว่าไงยายแนน" รรินทร์ทักทายเพื่อนสาวที่มาใหม่

      "นั่งก่อนสิ..แล้วนี่แนนมากับใครเนี่ย" ปาณิตาลากเก้าอี้ที่อยู่ข้างตัวออกไปให้ ผู้มาใหม่นั่งลงอย่างเป็นกันเอง

      "มากับพี่ชายนะ"

      "ไหนเหรอ...พี่ชายแนน" ปาณิตาว่าพลางสอดส่ายสายตาไปทั่วๆ เพื่อมองหาคนที่ถูกพลาดพิงถึง

      "นั่นไง..." ปาณิตากับรรินทร์มองตามทางที่เพื่อนสาวชี้ไปที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งนั่งห่างจากโต๊ะของพวกเธอไม่เท่าไหร่ ทำให้มองเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน รรินทร์รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ก็พี่ชายของแนนก็คือผู้ชายคนนั้น และดูเหมือนว่าคนถูกมองจะรู้ตัวจึงลุกเดินมาที่โต๊ะของพวกเธอ

       

      "พี่เขตต์..นี่ปาณกับรินค่ะ เพื่อนแนนเอง"  สองสาวที่ถูกเอ่ยชื่อยกมือไหว้ผู้มาใหม่ ชายหนุ่มยกมือรับไหว้พร้อมรอยยิ้ม

      "นี่พี่เราเอง...ชื่อพี่เขตต์ เรียนอยู่ที่นี่เหมือนกัน แต่อยู่ศิลปกรรมนะ" แนนแนะนำพี่ชายให้เพื่อนทั้งสองของเธอรู้จักอีกครั้ง

      "ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ ปาณพอรู้เหมือนกันว่าแนนมีพี่ชายเรียนอยู่ที่นี่เหมือนกันแต่ไม่เคยได้เจอกันซักที"

      "พอดีปีที่แล้วพี่ต้องไปนอกสถานที่บ่อย เลยไม่ค่อยได้เจอกันนะครับ"

      "เราไปก่อนดีกว่า"  แนนบอกเพื่อนสาวทั้งสอง แล้วจึงหันไปบอกพี่ชายของตัวเอง "ไปกันเถอะค่ะพี่เขตต์"  ชายหนุ่มพยักหน้าให้เป็นการตอบรับ

      "ไปก่อนนะครับ...แล้วเราคงได้เจอกันอีก" รรินทร์ฟังประโยคหลังแล้วถึงกับสะดุ้ง เพราะรู้สึกว่าคนพูดเหมือนกับจงใจให้เธอฟังเป็นพิเศษ ก่อนที่จะเดินจากไป

       

      เมื่อแขกทั้งสองจากไปแล้ว รรินทร์จึงตัดสินใจบอกปาณิตา ว่าผู้ชายคนที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นคนเดียวกับในฝันของเธอ ก็คือ คนๆ นี้ หลังจากที่ปาณิตาได้ฟังถึงกับอุทานออกมา

      "อะไรนะ..."

      "อืม..ปาณฟังไม่ผิดหรอก"

      "โอ๊ย..ทำไมโลกมันกลมอย่างนี้นะ"

      "คงไม่มีอะไรหรอกปาณ...บางทีเราอาจคิดมากไปเองก็ได้  เราว่าพวกเรากลับหอกันดีกว่า ดึกแล้ว"

      "อืม..."

       

      ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

       

      "ตี๊ด...ติ๊ด...ตี๊ด..."  เสียงโทรศัพท์มือถือของรรินทร์ดังขึ้น  หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบจากหัวเตียงท่ามกลางความมึนงง....เพราะตอนนี้มันเที่ยงคืนกว่าแล้ว  ใครนะโทรมาซะดึกเชียว แถมเบอร์ที่ขึ้นอยู่หน้าจอก็ไม่คุ้นเอาเสียเลย

      "สวัสดีค่ะ"  รรินทร์กรอกเสียงไป

      "เอ่อ...ขอสายรินหน่อยครับ"  รรินทร์รู้สึกไม่คุ้นเสียงของคนนี้เลย ถ้าลังเลนิดนึงก่อนที่จะกรอกเสียงกลับไป

      "พูดอยู่ค่ะ  ไม่ทราบใครโทรมาค่ะ" 

      "ผม...เขตต์นะครับ" 

       "เขตต์"  หญิงสาวทวนชื่อนั้นอีกครั้ง  "เอ่อ..ขอโทษนะค่ะ  ไม่ทราบว่าเขตต์ไหน"

      "เขตต์ พี่ของแนนไงครับ"  ประโยคที่ถูกเอ่ยถัดมาทำเอาหญิงสาวตะลึ่งและเงียบไป  เธอเองไม่รู้ว่าเงียบไปนานแค่ไหน เพราะเธอมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาเรียกเธอนั่นแหล่ะ

      "ริน  รินครับ ฟังผมอยู่รึเปล่า"

      "ค่ะ  ขอโทษทีค่ะ เมื่อกี้พี่เขตต์ว่าอะไรนะค่ะ" 

      "คือว่า..พี่อยากโทรมาคุยกับรินนะ ไม่รู้ว่ารินจะรังเกียจหรือเปล่าครับ" 

      "แล้วทำไมพี่เขตต์ถึงอยากโทรมาคุยกับรินหล่ะค่ะ  แล้วนี่พี่รู้เบอร์รินได้ยังไงค่ะเนี่ย"

      "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากคุยกับริน  แต่เมื่อเช้าที่พี่เจอริน พี่มีความรู้สึกว่า....เหมือนเราเคยรู้จักกันมาก่อน แต่พี่นึกไม่ออกว่าเราเคยเจอกันที่ไหน  ส่วนเบอร์พี่ก็ขอน้องพี่มาสิครับ  รินลืมไปแล้วเหรอว่าพี่เป็นพี่ชายเพื่อนรินนะ"

      "ค่ะ"

      "แล้วสรุปพี่โทรมาคุยกับรินได้หรือเปล่าครับ"  เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป เขาจึงถามซ้ำอีกครั้ง "ว่าไงครับ  หรือว่ารินรังเกียจพี่"

      "ป่าวค่ะ  รินไม่ได้รังเกียจอะไรพี่เขตต์เลย"

      "อย่างนั้นก็หมายความว่าพี่โทรมาคุยกับรินได้ใช่มั๊ยครับ"  เขาเลยฉวยโอกาสนี้เข้าข้างตัวเองจนยิ่งสาวนึกขัน กับการกระทำของเขา

      "ได้ค่ะ ถ้ารินว่างนะค่ะ" 

      "ครับ  อย่างงั้นคืนนี้พี่ไม่รบกวนรินแล้วดีกว่า มันดึกมากแล้ว"  หญิงสาวอดที่จะค่อนแคะเขาไม่ได้

      "รู้ด้วยเหรอค่ะ ว่าดึก"  แล้วก็ส่งเสียงหัวเราะตามไป  ชายหนุ่มได้แต่ส่งเสียงหัวเราะกลับมา

      "โอ.เค. ครับ  คืนนี้ฝันดีนะครับ"

      "ค่ะ"

       

      รรินทร์มองย้อนกับไปในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้  และหยุดอยู่กับประโยคของเขาที่ว่า  'พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากคุยกับริน  แต่เมื่อเช้าที่พี่เจอริน พี่มีความรู้สึกว่า....เหมือนเราเคยรู้จักกันมาก่อน แต่พี่นึกไม่ออกว่าเราเคยเจอกันที่ไหน'

      ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนกับเธอนะ  หรือว่า...เขาจะเป็นเนื้อคู่ของเธอจริงๆ เป็นคนในฝันคนนั้นจริงๆ  และเธอก็อดขำให้กับชะตาชีวิตของตัวเองไม่ได้ที่วันนึงก็ฝันถึงใครก็ไม่รู้ และอยู่ก็ได้เจอกับเขาคนนั้น แม้ในความฝันอาจจะไม่เห็นหน้า แต่ความรู้สึกของเธอก็ยืนยันว่าคนที่เธอเจอคือคนเดียวกันกับที่ฝันถึง………นี่คงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะบอกเธอได้ว่า'คนในความฝันจะกลายมาเป็นตัวจริงของเธอหรือเปล่า'

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×