คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Worse Than My Best Friend's Wedding
ห้องของจอห์นและเชอร์ล็อกเต็มไปด้วยกล่องกระดาษ ไหนจะตะกร้ากระบุง ที่ยังไม่ได้จำแนก จนต้องนั่งจัดนั่นนี่กันบนพื้น
เชอร์ล็อกเลื่อนลังหนังสืออ่านเล่นของจอห์นมา แล้วหยิบหนังสือในนั้นออกมาวางข้างนอกเพื่อจะจัด…ศพปริศนา…อ่านทำไม?? โอลิเวอร์ ทวิสท์…ชีวิตจริงเศร้ากว่านี้ไม่ใช่เหรอ….เวิร์ลด์ ทราเวล…ก็ไม่ได้ไปไหน….วอลเปเปอร์…อ่านโชว์สาวหรือไงว่าเก๋…คนปกตินี่มันก็แปลกจริงๆนะ ใช้อะไรไม่เคยตรงฟังก์ชั่น…
สืบซ่อนรัก
หืมม…
จอห์นหันขวับมาเห็นคิ้วกระดกข้างหนึ่งของเชอร์ล็อก แล้วใจก็หายแว้บ
ที่มือกำลังถือหนังสือนิยายเรื่องสืบซ่อนรัก หน้าปกเป็นรูปผู้ชายกับผู้หญิงที่พยายามทึ้งเสื้อผ้ากัน….
“เอ่อ…ของแมรี่” จอห์นรีบตอบก่อนแบมือขอคืน เชอร์ล็อกก็ไม่ติดใจอะไร เพราะจอห์นรีบตอบขนาดนี้ไม่ให้ชัวร์ยังไงไหว
ว่าของเมิงนั่นแหละ…
เชอร์ล็อกจิ้มไปที่เปอร์เซ็นต์ที่ 40 เพราะโดยปกติจะเป็นส่วนที่เริ่มเข้าด้ายเข้าเข็มของนิยายแนวนี้ แล้วก้มหน้าอ่านอย่างจริงจัง
จอห์นหน้าหงิก นี่ถ้าไม่โดนรวบตึงคงซ่อนทัน จอห์นระอากับความขี้สงสัยในเรื่องไร้สาระของไอ้หมอนี่เต็มทน ไปห้างแล้วเจอเทรลเลอร์แบ็ทแมน ดาร์คไนท์ไรเซ่ส กำลังจะชวนไปดูด้วยกัน มันดันถามผ่าออกมาตอนดูเทรเลอร์จบว่า ชุดพวกฮีโร่ในเรื่องมันกดปอดเหรอ ทำไมพูดกันเสียงเบาๆ จนตัวละครต้องเงี่ยหูฟังกันทั้งเรื่อง…เร็วสิจอห์น เป็นหมอก็ตอบสิ!!! จอห์น! จอห์น! จอห์นเซ็ง… ฮีโร่ก็แอ๊บพูดเบากันทั้งนั้นแหละ พูดธรรมดามันจะเท่มั้ย??? ทำเอาจอห์นหมดอารมณ์ซื้อตั๋วไปดู Dark Knight Rises หมดกันน้องทอม ฮาร์ดี้ พี่ดูเรื่องหน้าแล้วกันนะน้อง…
แล้วคราวนี้จะแซวอะไรอีกหละ เขาเป็นคนปกตินะ อ่านนิยายโป๊บ้างจะเป็นไร ไอ้นี่ก็ทำหน้าตกใจยังกะเปิดมาแล้วเจอตุ๊กตาแต่งตัวยังไงอย่างงั้น
จอห์นยื่นมือไปขอคืน แต่เชอร์ล็อกที่ก้มหน้าอ่านก็ไม่สนใจ จนจอห์นต้องดึง แต่มันก็ยังด้านอ่านต่อจอห์นก็ไม่กล้ากระชากแรง เพราะหน้าหนังสือนิยายโรมานซ์ถูกๆมันบางยังกะเอากระดาษห่อโรตีมาเย็บเล่ม หยิกเลยได้ใจอ่านออกเสียง
“คริสทีนสะดุ้ง เมื่อนักสืบแม็กกวายร์แทรกเข้ามาในตัวเธอ…สาวพรหมจรรย์อย่างเธอก็ได้แต่บิดตัว” เชอร์ล็อกอ่านด้วยเสียงรัวเร็วโทนต่ำยังกะอนุมานอยู่ แล้วก็กลอกตามาทางเขา “เป็นหมอ แล้วเดทจนพรุนเป็นรูชีส…ไม่รู้ได้ยังไงว่าใส่เข้าไปทันทีไม่ได้…นางเอกเป็นสาวพรหมจรรย์ด้วย” ทำไมต้องหาว่าพรุนด้วย พรุนอะไรกันก็แค่บุ๋มๆเท่านั้นเอง
“ก็ต้นบทเค้าฟอร์เพลย์กันไปแล้วไง” จอห์นตัดรำคาญ กะอีแค่นิยายอีโรติกสืบสวน จะมาหาความจริงอะไรด้วย จะเนิร์ดไปไหน??
เชอร์ล็อกยิ้มออกมา มองจอห์นด้วยสายตา “แน่ะ!” แล้วก็ยังไม่คืนนิยาย “ฟอร์เพลย์กันไปแล้ว…ไหนว่าไม่ได้อ่าน”
จอห์นจ้องตอบเชอร์ล็อกเขม็ง ขี้เกียจจะเถียง แต่เชอร์ล็อกในที่สุดก็ยอมปล่อยมือแล้วหันไปจัดหนังสือต่อ จอห์นรีบคว้านิยายแล้วโยนไปบนเตียงโดยสัญชาติญาณ ทั้งที่เชอร์ล็อกคิดว่า เดี๋ยวเผลอเมื่อไหร่ค่อยหยิบมาอ่านก็ได้ นับประสาอาร้าย คอมก็ยังโดนเขาใช้จนเลิกหวงไปแล้ว …แล้วตอนนี้อยู่ห้องเดียวกันอย่าหวังว่าจะรอดมือ ดีเหมือนกันที่เชอร์ลีนย้ายเข้ามา อาจจะน่ารำคาญนิดหน่อย…ไม่หน่อยหรอก ขนาดจอห์นรักเด็กยังต้องลุกไปบอกให้ปิดเพลง เปิดซะดังลั่น แล้วจากการอนุมานความฟินในการร้องคลอ และกิริยาอาการตอนไม่ได้เต้น เชอร์ล็อกประมวลผลว่าเด็กต้องกำลังดิ้นกะดุ๊กกะดิ๊กมันเกินเพศตัวเองเกินเพลงที่เปิดอยู่แน่ๆ
“ปิดทำไมจอห์น…ฉันเล่นไวโอลินดังกว่านี้อีกนะ แล้วนี่ก็เพลงสามัคคีชุมนุม” เชอร์ล็อกให้ความเห็นเรียบๆขณะยืนจัดหนังสืออยู่
ก็จริงอยู่ ว่าเป็นเพลงสามัคคีชุมนุม แต่มันเวอร์ชั่นรีมิกซ์ จอห์นคิด ไม่เข้าใจจริงๆว่าเพลงสามัคคีชุมนุมจะรีมิกซ์ไปทำไม...เพลงก่อนหน้านี้ก็มาดอนน่า ไคลี่ย์ เลดี้กาก้า แชร์ แล้วมาลงที่มารายห์เพลงนี้อีก คนข้างบ้านก็คิดว่าเขาจัดงานสันนิบาตกะเทยใน 221b พอดี แล้วต้องไม่มีใครคิดว่าเป็นเชอร์ล็อก เพราะต่อให้เป็นกะเทยก็ไม่มีใครคบ ชาวบ้านมันต้องคิดว่าเป็นเราแน่ๆที่จัด
ยอมไม่ได้ ยังไงก็ต้องเปลี่ยนเพลง!!
จอห์นเดินกลับเข้าห้องมา นี่ขนาดเปลี่ยนเป็นเพลง Litsen แล้วยังจะเต้น…เพลงเศร้านะลูกไม่ใช่เพลงสันธ์ เต้นแบบนี้ถ้าเป็นแอ๊ปเปิ้ลมะละกอกล้วยส้มอาจะไม่ว่าเลย…แต่ยังไงเพลงนี้ก็ดูเป็นผู้หญิงแท้ที่สุดแล้วในเพลย์ลิสท์ …จอห์นไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กกิริยาหวานแหววแบบนี้ถึงได้มีรสนิยมกะโหลกไขว้ใจเกินหญิงได้ขนาดนั้น นี่ขนาดไม่นับเฟอร์ที่เอามาพาดบ่าตอนเต้นแล้วนะ…แต่ดูเหมือนจะดีดดิ้น ขี้แย แต่ก็ไม่เห็นว่าจะกรี๊ดกร๊าด แววตาก็ดันใสเหมือนเด็กเล็กๆ แล้วตัวสูงกว่าเด็กทั่วไปอีกหละ จอห์นยิ่งคิดยิ่งงง เลยปล่อยไปก่อน…คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมั้ง?
ตอนนี้สำหรับเชอร์ล็อก มันคือชีวิตขาขึ้น เพราะจอห์นเข้ามาอยู่ด้วย จริงๆแล้วเขาจะเริ่มมั่นใจว่าจะรวบตึงจอห์นก็ตั้งแต่ไปอยู่ปลีกวิเวกเพื่อจัดการลูกน้องของมอริอาร์ตี้ อย่าเข้าใจผิดนะ เอามาเป็นเพื่อนนั่นแหละ…เพราะตั้งแต่จอห์นเข้ามา เขามาทบทวนดูแล้ว หลายอย่างมันดีขึ้น แถมปัญหาที่คั่งค้างก็ถูกแก้ไขให้หมดไป
1. เขาไม่ต้องหาเพื่อนร่วมแฟล็ต นอกจากจอห์นใครมันจะอยู่กับเขาได้หละ แล้วพอมีคนแชร์ค่าห้อง ก็เลือกงานได้ตามสบาย ถ้าไม่มีจอห์น เขาก็คงต้องลงเอยกับการต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์หาเงินประทับชีวิตไปพร้อมกับการเป็นนักสืบ ….พอเขาคิดยา หรือสารเคมีดีๆได้ โลกก็คงสงบสุข…ซึ่งเขาไม่ต้องการ!!! เชอร์ล็อกคิดถึงตรงนี้ก็ส่ายหน้า
ดีจัง…ที่มีจอห์น
2. ไม่ต้องรบกับแอนเดอร์สันตัดขั้นตอนปัญญาอ่อน อีเดียทออกไปจากชีวิต
3. แม่เลิกรบเร้าให้หาเมียหรือดูตัวซักที เพราะจอห์นดูแลเขาดีมาก จนเขามีไปอ้างกับแม่ได้ว่า ถ้ามีเมีย ก็ต้องแยกกันอยู่กับจอห์น เมียก็ดูแลไม่ดีเท่าจอห์น แม่จะเอาหรือไง?? แม่เลยไม่พูดเรื่องนี้อีกเลย….แต่ตอนยังไม่เจอจอห์นแม่รบเร้าทุกวันจนเขาคิดแผนจะแต่งงานกับมิสซิสฮัดสัน ถ้ามิสซิสฮัดสันไม่ยอมร่วมกันหลอกแม่ เขาก็จะรำเลิกบุญคุณจนมิสซิสฮัดสันเถียงไม่ออกและยอมจดทะเบียนในที่สุด…และถ้ามิสซิสฮัดสันตาย 221 อย่าว่าแต่ b เลย a กับ c ก็ต้องเป็นของเขาทั้งหมด!!! เพราะเป็นสามีตามกฎหมาย บรรดากิ๊กๆทั้งหลายหมดสิทธิ์ ดีจะตาย ไม่ต้องหาแฟล็ตเมทอีก…แต่พอดีจอห์นเข้ามาพอดี มิสซิสฮัดสันก็เลยรอดตัวไป
จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีแต่ข้อดี ข้อเสียก็มี คือมีจอห์นอยู่เขาก็จะมีจุดอ่อน แต่มันก็แก้ได้โดยเขาจะปกป้องจอห์นด้วยชีวิตแม้ว่ามันอาจจะหมายถึงการต้องตายแทน ดีซะอีกตายไปแล้วก็จบ มันจะต้องไปเจ็บไปร้าวไปเบื่ออะไรอีก แค่นี้ก็หมดปัญหา …ส่วนจอห์นจะอยู่ต่อไปยังไงก็เรื่องของมัน…ถ้ามีจอห์นอยู่ดีกว่าไม่มีเพราะจะไม่ต้องพบกับความน่าเบื่อ ไม่ต้องดีลกับพวกอีเดียท พูดไม่รู้เรื่องก็มีคนพูดแทน แถมไม่ต้องมีเมียมีลูก
และถึงมีก็มีคนเลี้ยงให้!!!!
ชีวิตในฝันชัดๆ!!!!
และแม้เขา…มิสเตอร์เชอร์ล็อก โฮล์มส์ …คนที่ฉลาด และมีสไตล์ที่สุด ก็จะสร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติดแบบนี้ไม่ได้
ถ้าไม่มีจอห์น
ตอนนี้มอริอาร์ตี้ก็ตายไปแล้ว เขาคิดว่าถ้าจอห์นอยู่ในมือเขาอย่างเต็มตัวเมื่อไหร่ จะไม่มีอะไรจะทำให้จอห์นต้องออกจากชีวิตเขาไปอีก นอกจาก
ผู้หญิง…
ตอนนี้ยังดีที่อยูด้วยกัน …เขาไม่ต้องหันหน้าไปดูยังรู้ว่าตอนนี้จอห์นกำลังลากโต๊ะไม้เล็กๆมีล้อมาวางข้างหัวเตียง เชอร์ล็อกได้ยินเสียงวางกรอบรูป
เสียง…
แหวนแต่งงานสองวง
รูปหัวเตียงเป็นแมรี่สินะ
เชอร์ล็อกคิดไปคิดมาจัดหนังสือผิดๆถูกๆ …สืบซ่อนรักนี่ของแมรี่ใช่มั้ย พรุ่งนี้จะเอาไปเผาส่งคืนไปให้เหมือนกระดาษเงินกระดาษทอง เป็นไงหละเชงเม้งนอกเทศกาล อยู่ที่โน่นคงดีใจเหมือนเจอคริสท์มาสนอกฤดูหนาวเลยสินะ.…เป็นห่วงคุณมอร์แสตนว่าถ้าไม่มีอะไรจะอ่านแล้วเหงาแล้วจะมาหลอกหลอนแถวนี้…อยากได้อะไรเอาคืนไปให้หมดเลยนะ
ยกเว้นจอห์น…..
เขาจำได้ว่าจอห์นเสียผู้เสียคนไปตอนที่เข้าใจว่าเขาตาย ตอนนั้นจอห์นมานั่งเศร้าที่หลุมศพเขาทุกวัน เชอร์ล็อกทั้งอยากทัก ทั้งอึดอัด แต่ทุกข์วันนั้นมันยังทนได้ แล้วเขาก็รู้สึกดีที่จอห์นเสียใจปางตาย เพราะนั่นยืนยันได้ว่า ถ้าเขากลับมาจอห์นต้องยินดีที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันแน่นอน
แต่อยู่ๆจอห์นก็หายไป และไม่กลับมาอีกเลย จนเขาเผลอไปมัวสืบเรื่องจอห์นจนเกือบเสียทีให้กับลูกน้องของมอริอาร์ตี้ แต่ก็ได้รู้ว่าจอห์นกำลังจะเดินไปข้างหน้า และเลือกแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อแมรี่ ตอนนั้นเชอร์ล็อกเสียใจเล็กๆน้อยๆเหมือนเด็กอนุบาลที่เพื่อนสนิทไปเล่นกับคนอื่น…เขาไม่เคยยอมรับกับคนธรรมดาว่าตัวเองเหมือนเด็ก เพราะว่าคนอื่นจะเข้าใจไปอีกทาง แต่ในความคิดของเขา เด็กคือคนที่ไม่ต้องประณีประณอมคอมโพรไมซ์เพราะยังไม่รู้จักโลก พอรู้จักโลกแล้วเป็นคนที่ไม่ฉลาดพอจะเลือกได้หละก็ เลยจำเป็นต้องต่อรอง แต่สำหรับเขา เชอร์ล็อกโฮล์มส เขาไม่จำเป็นต้องต่อรองกับอะไรทั้งนั้น เขาเลือกที่ใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้ ในขณะที่ทุกคนหน้าดำคร่ำเครียด ดังนั้น เขาจึงใช้ชีวิตได้ไม่ต่างจากตอนที่เป็นเด็ก ทุกครั้งที่คนด่าว่าเขาทำตัวเป็นเด็ก เขาก็จะต่อประโยคในใจว่า ขอบใจนะ แต่นั่นเพราะฉันคู่ควร…
ตอนนั้นเด็กชายหยิกเสียใจ แต่ก็เสียใจไปได้แป๊บๆ ก็เปลี่ยนเป็นนับถือจอห์น….เขาได้เห็นว่าจอห์นเก่งกว่าที่เขาคิด คนตายไปแล้วจะมาสนใจทำไม แกร่งแบบนี้แหละ จอห์นของฉัน…..อย่างน้อยก็มีเรื่องหนึ่งที่จอห์นทำได้ดีกว่า คือการลืมเขา สำหรับเขาขนาดว่าจอห์นยังไม่ตายเขายังจิตตก(แม้ว่าไม่อยากจะยอมรับ) แต่นี่เขาตายต่อหน้าต่อตา จอห์นยังลืมและก้าวไปข้างหน้าได้ นี่แหละคนที่ควรค่าให้เชอร์ล็อก โฮล์มสจะเรียกว่าเพื่อนสนิท
เชอร์ล็อกมองไปที่โต๊ะหัวเตียง
แต่ทีแมรี่ ทำไมลืมไม่ได้วะ??
เขาอุตส่าห์หลงคิดมาตั้งนานสองนานว่าจะแกร่งจริง…
ที่ไหนได้….
ลืมคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ…
หึหึ เชอร์ล็อกหัวเราะในใจ ที่เขาไม่แพ้จอห์นจริงๆซักหน่อย….เสมอกันต่างหาก เขาก็ไม่เคยลืมจอห์น จอห์นก็ไม่เคยลืมแมรี่…งั้นๆแหละว้าจอห์นเอ๊ย…ยังอีกไกลนะจ๊ะถ้าจะวัดรอยเท้า…เพราะนอกนั้นฉันชนะหมด
“เป็นไรหนะเชอร์ล็อก” จอห์นมองเขาอย่างสงสัย แถมทำหน้าเป็นห่วงอีก
“หืม???”
“เห็นทำหน้าเศร้า…. ไม่เป็นไรนะลูกหนะฉันเลี้ยงเอง เครียดเรื่องนี้อยู่เหรอ” จอห์นหน้าเสีย เขาไม่เคยเห็นเชอร์ล็อกทำหน้าเศร้ามาก่อน ขนาดคืนก่อนที่จะต้องวัดกับมอริอาร์ตี้ยังแค่เงียบๆ ไม่ได้ทำหน้าเศร้าแบบนี้
เชอร์ล็อกอึ้งไปสองวิ…เพราะไม่เคยมีใครทักว่าเขาทำหน้าเศร้ามาก่อน
“ก็ดี” เชอร์ล็อกฉวยคำที่ลอยอยู่ใกล้ที่สุดมาตอบ เพราะหลังจากสองวิแล้วก็ยังอึ้งอยู่ แล้วรีบเคลียร์สีหน้า
“ขอบคุณหนะเป็นมั้ย เลี้ยงลูกให้หนะเรื่องใหญ่นะ”
จอห์นถามด้วยเสียงและสีหน้าที่เหมือนทั้งจริงจังเหมือนทั้งเสียใจหน่อยๆ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่อยากจะเอามาคิดมากอีกแล้ว…นึกได้แบบนี้จอห์นก็ถอนหายใจ เชอร์ล็อกไม่เคยเห็นคุณงามความดีเห็นแต่ฟังก์ชั่นของเขามาโดยตลอด เห็นเป็นคนใช้ ใช้ทำนั่นทำนี่ นี่ถ้าอยู่ด้วยแล้วไม่สนุก จอห์นคงไปตั้งนานแล้ว…จริงๆก็พยายามจะไปตั้งนานแล้วหละ แต่ไปไม่ได้สักทีต่างหาก แล้วพอกำลังจะไปได้ แม้ว่าจะไม่สวยนัก…
มันก็ดันกลับมา…
เชอร์ล็อกเงียบ ทำคิ้วย่นเพราะคิดว่าไม่จำเป็นต้องขอบคุณ …ไม่ใช่ว่ากวนตีนหรืออะไร เพราะเรื่องที่ยิ่งใหญ่และควรขอบคุณกว่านี้ คือขอบคุณพระเจ้า ที่สร้างจอห์นขึ้นมาและพาให้เขากับจอห์นมาพบกัน แต่ในเมื่อพระเจ้าไม่มีจริง ดังนั้นเขาก็ไม่ต้องขอบคุณใครหรืออะไรในโลกอีก เพราะทุกอย่างในชีวิตของเขามันสำเร็จไปตั้งแต่จอห์นมาอยู่กับเขาแล้ว… จริงๆเคยอยากพูดให้จอห์นฟัง แต่กลัวจอห์นจะเข้าใจผิด เดี๋ยวจะหาว่าใสเซเลอร์มูน แล้วเดี๋ยวจะเข้าใจว่าอยากได้จอห์นเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน เดี๋ยวก็พาลกลัวเตลิดเปิดเปิงหนีข้ามชายแดนไปจะว่ายังไง? ไม่ได้ !! พูดไม่ได้เด็ดขาด!!
จอห์นเห็นเชอร์ล็อกเงียบแล้วกลอกตาไปมาอย่างตื่นๆ ก็ได้แต่ปลง เอาเหอะมันคงไม่รู้เรื่องจริงๆ…ไอ้นี่รู้จักช่วยชีวิตเขา มิสซิสฮัดสัน และสารวัตรเลสตราดก็บุญแล้ว …จะไม่เห็นหัวกันไม่เห็นความสำคัญก็ไม่เป็นไรหรอก ก็น่าจะรู้ชัดอยู่แล้วตั้งแต่วันที่เชอร์ล็อกกลับมาบ้าน เขาทิ้งไม้เท้า กลับมาเดินได้ปกติอีกครั้ง พุ่งเข้าไปกอด แถมร้องไห้โฮแบบไม่อายฟ้าดิน แต่ไอ้นี่ได้แต่ทำหน้าเฉยๆก็แค่กอดตอบแล้วก็กระซิบเบาๆว่า “ฉันกลับมาแล้วนี่ไง”เศร้าสักนิดก็ไม่มี…ดีใจหรือก็เปล่า…ทั้งที่ที่ผ่านมาตั้งแต่เจอกันเนี่ย จอห์นเหมือนได้ของขวัญที่พระเจ้าทำร่วง จู่ๆก็เหมือนพระเจ้ากระชากคืนชีวิตก็พัง แต่ก็ยังเจอแมรี่เลยทรงตัว แล้วพอแมรี่ตายก็ทรุด แล้วพอมันกลับมา…ก็เหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง ชีวิตเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่สิ มันเหมือนไปนั่งอยู่บนโรลเลอร์โคสเตอร์…แต่ไอ้นี่กลับตอบด้วยเสียงเรียบเฉย….“ก็กลับมาแล้วไง” นี่คือคำอธิบายวิบากกรรมทั้งหมดของจอห์นจากปากเชอร์ล็อก
ก็แค่นั้น
จอห์นก้มหน้าแล้วก็ปิดลังที่กำลังจัดอยู่ ก็จัดจะเสร็จแล้วหละ…
“ไปกินข้าวเย็นกันมั้ย แอนเจโล่ พาลูกสาว…” เชอร์ล็อกมองตาขวางๆ จอห์นเลยต้องแก้ก่อน “….ของฉันไปแนะนำด้วยก็ดี”
* * * * * * * * * *
ตอนนี้เชอร์ลีน จอห์นและเชอร์ล็อกกินอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว แน่นอนว่าตอนอยู่ในร้านแอนเจโล่จะต้องรู้ว่านี่ลูกสาวใคร หน้าเหมือนกันยังกับก๊อปปี้เพสท์แล้วปริ๊นออกมา ขาดแต่ว่าพ่อมันไม่ยอมเซ็นต์สำเนาถูกต้องเท่านั้น แล้วพอรู้ว่าจอห์นจะรับเป็นลูกบุญธรรมพรุ่งนี้แอนเจโล่ก็ยิ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แสดงความยินดีกับเชอร์ล็อกด้วยว่าจะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว แล้วก็ไปเอาดอกไม้จากไหนไม่รู้มาให้หนูเชอร์ลีน แล้วก็ตามเคยคือบอกว่า “ครอบครัว” นี้กินฟรี แบบไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นเชอร์ล็อกก็ไม่ยอมเถียงปล่อยให้จอห์นอธิบายอยูคนเดียว เด็กมันก็หัวเราะฮื่อๆๆ ฮี่ๆๆๆ ดีใจที่มีคนเอาดอกไม้มาต้อนรับ เลยไม่ได้แก้ต่างอะไรแทนจอห์นไปด้วยอีกคน
จอห์นสังเกตว่าแปลกอย่างนึงที่มีเด็กผู้หญิงโต๊ะข้างๆมองมาที่เชอร์ลีนแล้วพยายามทัก แถมทำตาเป็นประกายอีกต่างหาก… แต่เชอร์ลีนทำเป็นไม่เห็น เชอร์ล็อกก็แอบขำ นี่มันรู้อะไรกันแล้วไม่บอกฉันอีกแล้ว ถามเข้าเชอร์ลีนก็เอาแต่ก้มหน้า เชอร์ล็อกก็เอามือไปลูบโบสีน้ำเงินบนหัวเชอร์ลีนแล้วก็ยิ้มๆ ทำหน้ามีเลศนัย เชอร์ลีนก็ลอบมองเชอร์ล็อกเหมือนน้อยใจที่เชอร์ล็อกขำเธอ แล้วก็ขยับส้อมกับมีดก๊อกๆแก๊กๆเหมือนจะกินก็กินไม่ค่อยลง แต่พยายามฝืนตัดเนื้อใส่ปากอย่างทุลักทุเล
ตอนนี้กลับมาถึงห้องนอนแล้วต่างคนต่างขึ้นเตียงคนละข้าง จอห์นอยากจะถามใจจะขาดว่าพูดออกมาดอกพิกุลมันจะร่วงหรือไง ร่วงมาเลยจะได้เอาไปขาย??? เบื่อจะกัดก้อนเกลือกินแล้วเนี่ย...เขาพลิกตัวไปดู…อื้อหืมมม เต็มตา ไม่ใช่แค่หลับแล้ว แต่ถอดหมดแล้ว ต่อไปนี้จะนอนแก้ผ้าทุกคืนเลยใช่มั้ย….ผ้าห่มก็พันอยู่แค่สะโพก ตื่นเช้ามาก็คงจะเจอมันมุดมาอยู่ในผ้าห่มเขา ไม่ก็นอนท่าปลาดาวไร้อาภรณ์ปกคลุมแน่ๆ
จอห์นคิดว่าห้ามเท่าไหร่ก็คงไม่ฟัง เดี๋ยวต้องหาเหตุผลร้ายแปดพันประการมาซัพพอร์ตการแก้ผ้านอนอีกแน่ๆ แล้วมันก็โวหารเยี่ยมซะด้วย ถ้าชักแม่น้ำทั้งห้าไปเรื่อยๆจนเขาก็เริ่มอินแล้วแก้ผ้านอนตามมันจะทำยังไง? ดังนั้นเขาจึงต้องงัดมาตรการณ์เด็ดขาดมาจัดการ! ว่าแล้วเขาก็หยิบไอโฟนคู่ใจมาถ่าย …ถ่ายมันนี่แหละจะถ่ายใคร…. นี่ถ้าพูดไม่รู้เรื่องคงต้องขู่แบล็กเมล์แล้วสินะ …คราวนี้แหละมึง…จะดังเป็นคิม คาร์ดาเชี่ยน….เชอร์ล็อกเป็นคนหลับลึก … จอห์นเลยจับพลิกแถมดึงผ้าให้ต่ำพอปิด…แล้วก็ถ่ายเก็บไว้สารพัดมุม
จอห์นฝันถึงวันที่เชอร์ล็อกจะโดนเขาต้อนจนมุมบ้าง อยากเห็นมันกรีดร้องว่า ทำไมภาพมันหลุดไปได้!!! เขาก็จะตบมันกลับด้วยประโยคคลาสสิก...
....Because I took you Pics ไงหละหยิก…เป็นไงหละ หลึมไปเลยสิ!!!
เชอร์ล็อกหลับลึกจริงๆ ชนิดเอาน้ำสาดก็ยังไม่ตื่น เรียกก็ไม่ลุก ปลุกก็ทำเฉย
แต่พอดีคราวนี้
ฉันยังไม่หลับเลยไง….เชอร์ล็อกคิด
ถ่ายได้ถ่ายไป ...ถ้ากิ๊กเอาโทรศัพท์มาเล่น….มึงนั่นแหละจะเดือดร้อน…..
...ในท้องพระโรงยังแก้ผ้ามาแล้ว …แต่เอาเหอะนะ ปล่อยให้รู้สึกเป็นต่อมั่งดีกว่า…
ยังคิดไม่เสร็จโทรศัพท์ก็มา จอห์นก็หยุดถ่ายรูป แล้วรีบรับ
กิ๊ก ….กิ๊กโทรมา
จอห์นก็เริ่มคุยงุงิ ตามประสาคนจีบกัน อายุไม่ใช่น้อยแต่หาได้แคร์ไม่เพราะคนนี้ยังวัยรุ่น แค่ 27 เท่านั้นเอง เชอร์ล็อกที่ทำเป็นหลับแล้ว ก็คิดว่า เห็นทีต้องหลับจริงๆสักที ไม่รู้จะฟังประโยคปัญญาอ่อนไปทำไม ผ่านไปสิบนาที เชอร์ล็อกก็ยังไม่หลับ จอห์นก็คุยไปขำไป ดึงผ้าห่มไป แถมยังมีเสียงลอดมาว่า บ้าหรา จริงดิ เต็งก็ หมีน้อย ลิงจ๋อ งุงิ คริคริ กรักกรัก กริ๊กกริ๊ก ประโยคแถบๆไอคิวสี่สิบทำไมคนเป็นแฟนกันต้องคุยกันแบบนี้วะ? หมีเหมอลิงเลิงอะไรเนี่ย กุดูเมาคลีลูกหมาป่าอยู่หรือไง?…. เชอร์ล็อกรำคาญใจจะขาด เพราะทั้งง่วงทั้งที่ไม่อยากให้จอห์นมีกิ๊กเลยสุดทนคว้ามือถือมา จอห์นจะห้ามก็ไม่ทันเพราะคิดว่าเชอร์ล็อกหลับเลยไม่ได้ป้องกันตัว
เขากลัวจอห์นจะแย่งคืนไปได้เลยยืนขึ้นพูด ยืนแก้ผ้าจอห์นเลยไม่เข้ามาใกล้มาก แถมยืนตรงหน้าต่างอีก….ทำให้คนในตึกฟากตรงข้ามหากมองมาจากมุม 45-120 องศาตะวันออก จะสามารถรับชมปรากฏการณ์นี้ได้ด้วยตาเปล่า เพราะวันนี้ท้องฟ้าและผ้าม่านเปิด หากมีกล้องส่องทางไกลจะเห็นได้ถึงร่องก้นเลยทีเดียว…
จอห์นนึกว่าจะคว้าไปแค่ปิด
แต่…. มันคว้าไปพูดเลย
“ โทรมาพรุ่งนี้แล้วกันนะครับคุณลิง…หรือคุณหมี…”
เอ๊ะจอห์น…เมื่อกี๊คุยกับตัวอะไรนะ??” เชอร์ล็อกหันมาถามหน้าจริงจัง...
เชอร์ล็อกถามแต่จอห์นยังไม่ทันจะตอบก็หันไปกรอกเสียงลงโทรศัพท์ต่อ จอห์นก็ได้แต่กุมขมับ
“อืม…จอห์นไม่ง่วงแต่ผมง่วง…อ๋ออ ทำไมต้องรำคาญเหรอ …พอดี”…เชอร์ล็อกเคาะนิ้วกับผนังกุกๆแบบว่าจะพูดว่าอะไรดีนะ?? …..
“อ้อ ผมนอนข้างเขาหนะครับ…”
เชอร์ล็อกกรอกเสียงลงโทรศัพท์อย่างง่วงๆ เป็นต่อๆ แถมโทนกำมะหยี่ชวนสยิ้วกิ้ว…แล้วยังจะแฝงแววกัดจิก…ได้ยินแบบนี้ไปผู้หญิงที่ไหนจะไม่ช็อก เป็นเก้งหม้อก็ไม่บอก สาวปลายสายได้แต่อึ้ง สามนาทีต่อมาหล่อนมีสติ โทรมาด่าจอห์น จอห์นมองเชอร์ล็อกที่ทำเป็นหลับอย่างแค้นๆ เขาโมโหเลือดขึ้นหน้า ก่อนลุกจากเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อจะไปข้างนอก ถอดแม่งตรงนี้แหละ กำลังโมโห เมิงแก้ได้กุก็แก้ได้!
เชอร์ล็อกหันขวับรวบผ้าห่มมาห่อตัว แล้วทำหน้าเฉยที่สุดเท่าที่จะเฉยได้
“ถ้าจะออกไป กลับมาก็ไปนอนโซฟาแล้วกันนะ ฉันไม่อยากตกใจตื่นเสียงเปิดประตู... นอนไม่พอเดี๋ยวสมองฝ่อ พอดีไม่อยากโง่จนต้องคุยกับสัตว์!!!” ในที่สุดเขาก็เหวี่ยงจนได้ทั้งคำพูดทั้งน้ำเสียงและระดับความดังที่ดังไปกว่าไวโอลินซะอีก
จอห์นเองก็สุดทน…หาเรื่องเองแล้วยังไล่ไปนอนโซฟา ตัวเองก็หลับลึกยังกะอะไรดี
“คงไม่ต้องนอนโซฟาหรอก… เพราะคืนนี้ฉันกำลังจะไปนอนเตียงอื่น!!” จอห์นโต้กลับ เสียงดังยิ่งกว่าเพลงที่เชอร์ลีนเปิด แล้วจอห์นก็รีบเดินออกจากห้องไปอย่างโกรธๆ
เชอร์ล็อกโมโหลุกขึ้นมาปิดประตูไล่หลังเสียงดังสนั่น กูไม่ได้นอนคนทั้งซอยก็ไม่ต้องนอน!! เขางุ่นง่านจนนอนไม่หลับ เลยต้องใส่เสื้อผ้าเดินลงมาข้างล่าง แล้วกระแทกตัวลงบนโซฟา
คิดสิคิด ทำไงให้หลับดี
คิดเสร็จแล้วเขาก็เอาสีมาทาผนังเป็นรูปหัวใจ ทับหน้ายิ้ม ทาเสร็จแล้วก็ลืมไปเลยว่าทำไมไม่เปลี่ยนทิศ พรุ่งนี้ก็ต้องมานอนหน้าตากแดดอีก…
เชอร์ล็อกเดินไปแง้มม่านหน้าต่างชั้นสองดูจอห์น เขาเห็นว่าจอห์นไปถึงเกาะกลางถนนแล้ว …ดังนั้นสียังไม่ทันจะแห้งเชอร์ล็อกก็ต้องคว้าปืนมารัวยิง เชอร์ลีนตกใจวิ่งลงมาข้างล่าง แต่ก็ไม่ได้กรี๊ด…ตามสไตล์หละ... นึกว่าเกิดอะไรขึ้น …. เป็นไปตามคาดว่าจอห์นต้องได้ยินเสียงปืนแล้วจะต้องเป็นห่วงเด็ก…จอห์นโทรมาที่บ้านบอกว่าไม่ต้องตกใจ อาจะกลับมารับ ….ก่อนไปเด็กมายืนแอบมองเชอร์ล็อกอยู่ข้างประตูว่าทำไมต้องยิงปืน ทำตาแป๋ว ปากก็มุบๆมิบๆ ทั้งตกใจทั้งสงสัย….แล้วเชอร์ล็อกก็ยิงอีกสี่ห้านัด จนเชอร์ลีนต้องรีบคว้าเสื้อโค้ทสีแดงเข้มแล้ววิ่งลงไปนั่งรอจอห์นข้างล่าง
หึ!!! ดูซิกระเตงลูกเล็กเด็กแดงเบอร์กันดีไปแบบนี้ จะเดทกันยังไงไหว จะไปผับก็ไม่ได้ จะม่านรูดก็ไม่ดี จะไปแจ๊ะกันในบ้านเด็กจะไปนอนตรงไหน?? เด็กอายุแค่สิบสาม ถ้าเอาไปด้วย…คนอย่างจอห์นคงไม่อยากจะให้นอนดึก
….ยังไงก็ต้องกลับมาในไม่เกินสองชั่วโมงนี้แหละ....
หึ…เชอร์ล็อกยิ้มออกมา โยนปืนที่ไร้กระสุนแล้วไว้บนโซฟา แล้วก็ค่อยๆเดินขึ้นไปนอนบนห้อง
มิสซิสฮัดสันมาตั้งนานแล้วแต่ขาไม่ดีเลยขึ้นมาถึงช้า “เชอร์ล็อก เธอนี่แย่จริงๆเลยนะ ฉันสะดุ้ง ฉัน….” แต่เชอร์ล็อกก็ไม่หยุดหันมามองแม้แต่น้อย
ตอนนี้เขาพร้อมจะหลับแล้ว ใครมันจะตื่น ใครมันจะจิตหงุดหงิม ใครมันจะง่วงแต่นอนไมได้ก็ช่างมันปะไร...แล้วก็สลัดผ้าลงไปนอนขดบนเตียงอันแสบอบอุ่น
* * * * *
เลสตราดเดินมึนอยู่ที่สวนสาธารณะ นี่มันก็ตีสองแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะครบเวลาที่ศพต่อไปกำลังจะเกิดขึ้น เขาพยายามจะคิดให้ออกว่าฆาตกรเป็นใคร หรือจะหาหลักฐานต่อไปยังไง หรือแม้กระทั่งศพต่อไปควรจะเป็นใครก็ยังดี แต่เขาก็คิดไม่ออก หรือต้องพึ่งเชอร์ล็อกอีกแล้ว? เขาคิดก่อนถามทุกครั้งไม่ใช่ว่าเอะอะอะไรจะถามเชอร์ล็อกหมด แค่นี้มันก็ว่าเขาปัญญาอ่อนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ??? แต่เอาเหอะเขามีหัวใจ เขาจะไม่ปล่อยให้ใครต้องตายอีกแม้จะโดนด่าอีกกี่ครั้งดูถูกดูแคลนทำร้ายจิตใจอีกกี่หกก็ช่าง ….เขาก็เป็นหัวใจเหมือนกัน ทำไมใครๆก็ชอบบอกว่าเชอร์ล็อกเป็นสมองจอห์นเป็นหัวใจวะ??
แล้วฉันหละ แล้วฉัน?
ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาเห็นจอห์น แน่หละต้องเป็นจอห์น กับสาวหมือนจะมาเดท แต่มาเดทกลางสวนสาธารณะเนี่ยนะ แล้วนั่นอะไร หม้ายเหรอ?? ทำไมมีลูกโตตัวจะเท่าจอห์นอยู่แล้วมาเดินด้วย แต่ทำไมคนจับมือเด็กคือจอห์น ไม่ใช่แม่เด็ก??
ช่างเหอะโทรหาเชอร์ล็อกก่อน ใครจะเป็นเมียใคร เด็กจะลูกใครก็เอาไว้ก่อนแล้วกัน
* * * * * * * * * * * *
เชอร์ล็อกตื่นจากฝันหวานหลังหลับไปสองชั่วโมง ตอนนี้ตีสองแล้ว แต่เพราะเสียงโทรศัพท์ดัง และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเลสตราดกับจอห์น จอห์นกำลังโมโหถ้าจะต้องมาเงียบๆแล้วเข้ามานอนเลย ถ้าจะพูดกันอีกทีก็คงต้องเป็นตอนเช้า…
ต้องเป็นเลสตราด…
“คดีอะไร” เชอร์ล็อกเซ็งนิดๆ ว่าจะหลับท่ามกลางคนตาค้างทั้งย่านซักหน่อย …แต่เขาก็กลายเป็นคนที่จะไม่ได้นอนแน่ๆคืนนี้ซะอย่างงั้น….เขารู้สึกเสียเหลี่ยมนิดๆเพราะรู้ว่าตอนนี้คนทั้งซอยก็คงกำลังสมน้ำหน้าว่ามึงนั่นแหละที่ไม่ได้นอน…ฟินเหมือนดูละครแล้วนางอิจฉาโดนตบ ดูจบแล้วก็นอนฝันดี….หึ!!!ช่างเหอะ คดีมาแล้วรอมาตั้งนาน อารมณ์เสียหงุดหงิดง่ายก็เพราะแบบนี้ไม่ใช่เหรอ นี่ก็จะได้อารมณ์ดีแล้วนี่หว่า…
“มารับได้เลย…” เชอร์ล็อกบอกหลังจากได้ทราบรายละเอียดคดี แล้วลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าที่อยู่ในตะกร้าแล้วเอาน้ำหอมฉีดๆ เอาเหอะ ใส่มันแบบนี้ …ยับหน่อยก็ไม่ต้องถอดโค้ทแล้วกันจะได้ไม่เห็น…โค้ทนี่ช่วยมาหลายงานแล้ว ทำปกตั้งๆยิ่งบังอย่างดี แถมคนมองว่าทำแล้วคูลอีกต่างหาก …ใครจะบอกวะว่าทำเพราะล้วนแล้วแต่ขี้เกียจซักผ้า…กลับมาค่อยฝากจอห์นซัก เพราะพรุ่งนี้จอห์นจะเอาไปใส่เครื่อง …แอบเอาวางไว้ก้นตะกร้าเอาผ้าจอห์นปิดๆ ตอนเทจอห์นก็คงไม่ได้ดูหรอก กว่าจะรู้ตัวก็ตอนเอาไปตากแล้วนั่นแหละ…
“จอห์นเดทแม่หม้ายเหรอ” เลสตราดถามยิ้มๆ ขณะเชอร์ล็อกเดินลงจากบันไดมา เชอร์ล็อกไม่ตอบ มองตรงไปข้างหน้าเลสตราดเลยมองตาม จอห์นพาเชอร์ลีนเด็กน้อยในโค้ทสีแดงเพลิง โบสีน้ำเงินเดินเข้ามาพอดี เลสตราดเห็นหน้าเธอชัดๆแล้วก็เป็นอันใบ้กิน แล้วยังไม่พอ จ่าโดโนแวนที่น่าจะเห็นเธอตอนนั่งอยู่ในรถก็เดินเข้ามาดูด้วย หล่อนไม่พูดอะไรแต่สายตามันฟ้อง เชอร์ล็อกกลอกตา เออ ให้มันได้งีสิแม่นางเอก แม่คนมีคุณธรรม ผัวชาวบ้านหนะ ยืมมาแล้วคืนเขาหรือยัง??….
เป็นอันว่าไม่ต้องถามกันแล้วว่าลูกใคร แต่จอห์นก็พูดออกมากันบรรยากาศมาคุ
“ลูกผมเองแหละ” จอห์นยักไหล่ “เชอร์ลีนหนูไปนอนก่อนนะ เดี๋ยวอาจะไปกับคุณพ่อไปทำงานกัน นอนได้เลย คืนนี้หนูนอนดึกมากแล้วนะจ๊ะ” จอห์นบีบไหล่เชอร์ลีนทีนึง แล้วก็ยิ้มให้ เชอร์ลีนเล่นกำไลอันใหม่ ที่ทำจากบล็อกตัวอักษรไปด้วยพร้อมพยักหน้า แล้วก็ปลดมันใส่ในกระเป๋าโค้ท
“ไม่ต้องไปหรอก” เชอร์ล็อกตอบ จริงๆคดีนี้มันไมได้น่าสนใจอะไรเลย เขารู้ตัวคนร้ายแล้วแต่ที่ไปคืออยากเหวี่ยงจอห์นมากกว่า
“ชอบอะไรน่าเบื่อนักก็ไม่ต้องไป” เชอร์ล็อกหันมาตอบหน้าตาเฉย จอห์นฉุนขึ้นมา นี่จะเอายังไงกัน ทำไมเด็กแบบนี้ …แล้วนี่จะมาอยู่ด้วยกันทำไม ย้ายออกพรุ่งนี้เลยดีมั้ยแล้วเอาเชอร์ลีนไปอยู่ด้วย…
“เออ ฉันก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน” จอห์นตอบโดยไม่หันมามอง ก่อนเดินนำเชอร์ลีนขึ้นชั้นบน
เชอร์ล็อกเหลือบตามองตาม เขาแน่ใจว่าคืนนี้จอห์นต้องเสียดายที่ไม่ได้ไปทำคดีด้วยกันแน่ๆ แต่มันผิดแผนเล็กน้อยตอนที่เดทนี้มันเป็นไปด้วยดีนี่สิ เชอร์ลีนดูสนุก แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ใจดี และคนใจดีมักจะชื่นชมคนใจดี ผู้ชายที่ยอมเลี้ยงลูกให้เพื่อนนี่ยิ่งแมน น่ารัก อบอุ่นเข้าไปใหญ่ ในขณะที่เขาดูเป็นคนเลวไม่มีความรับผิดชอบ ใจร้าย คนธรรมดาอยู่ข้างตัวร้ายมันก็กลายเป็นพระเอก….ฝั่งจอห์นเองก็คงปลื้มที่สาวไม่ว่าอะไรที่พาเด็กมา เดทครั้งต่อไปคงได้คุยกันเรื่องครอบครัว…
เขาดันโมโหจนลืมอนุมานลักษณะผู้หญิง เลยผลออกมาแบบนี้
ทำไมอะไรๆมันเป็นแบบนี้ไปได้ นอนห้องเดียวกับจอห์นนี่แทนที่จะควบคุมได้ง่าย กลายเป็นยากกว่าตอนอยู่คนละห้องอีก…แถมยังต้องมาเจออะไรที่ไม่อยากเจอ …รูปเมียเก่าที่ลืมไม่ได้ ทำให้เขาผิดหวังว่าจอห์นไม่แน่จริงนี่หว่า กับอีกเรื่องที่แย่กว่าอีกคือ ต่อไปนี้เขาต้องมานอนฟังจอห์นคุยกับกิ๊กทุกคืนเหรอ แล้วจะนอนหลับลงได้ยังไง?? ไอ้เขาก็ไม่เคยมีแฟนเลยลืมไปซะสนิทว่าคนเป็นแฟนกันมันต้องคุยกันทุกวี่ทุกวัน ยิ่งตอนยังจีบกันไม่ติด….คงจะคุยมาราธอน แล้วไหนจะเดทกันจนยับเยิน…
“เชอร์ล็อก…เป็นอะไรหนะ….ทำไมหน้า…เศร้า… ไม่ใช่สิ ไม่ค่อยสบายใจ…” เลสตราดถามตะกุกตะกักเพราะงง เนื่องจากไม่เคยเห็นเชอร์ล็อกหน้าเศร้ามาก่อน…
“เศร้า???” เชอร์ล็อกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเศร้าหรือไม่เศร้าแต่ต้องรีบชักสีหน้ากลับไปเป็นเทพบุตรแวมไพร์เหมือนเดิม คือฉันฉลาด ฉันหล่อ ฉันรวย ฉันดีกว่าทุกคน…
แต่ทำไมวันนี้มีสองคนแล้วที่ทักว่าเขาทำหน้าเศร้าๆ
ช่างเหอะ
เพราะThe Show Must Go On
* * * * * * * * *
จอห์นล้มตัวลงนอน ทำไมมันปวดหัวแบบนี้วะ แล้วต่อไปจะอยู่กันยังไง จอห์นลุกขึ้นไปล็อกกลอนประตู เขาไม่เคยทำพฤติกรรมเด็กแบบนี้มาก่อน เอาสิ รบกับเด็กมันก็ต้องทำแบบนี้หละวะ
คืนนี้ใครกันแน่ที่ต้องนอนโซฟา?
จอห์นหยิบรูปแมรี่มาดู เขาสำนึกได้ว่า แม้ชีวิตช่วงนั้นจะทั้งเศร้า ทั้งน่าเบื่อแค่ไหนสำหรับทั้งเขาและแมรี่ผู้ซึ่งแต่งงานกับเขาเพื่อเลียแผลใจเพราะคู่หมั้นของเธอเสียชีวิต, แต่มันก็เป็นช่วงที่ชีวิตเต็มไปด้วยความสงบสุข
เขาผล็อยหลับไปทั้งที่วางรูปแมรี่ไว้บนอก
* * * * *
ปล 1 ไปดู ดาร์กไนท์ไรเซ่สกันนะทุกคน เราไปกรุงเทพไม่ได้ คิดว่าต้องรอดีวีดี เพราะว่าที่บ้านเรามัน...มีแต่ภาษาไทย ฮ่วยยยยย อังกฤษก็มีนะคะ แต่คงจะน้อยรอบมากกกก
ปล 2 http://www.youtube.com/watch?v=HBxt_v0WF6Y ชอบเพลงนี้อะทุกคน แต่ชอบไม่ทั้งเพลงนะ เพลงแดนซ์สมัยนี้ไมได้เรื่องเลยอะมันเพราะไม่ทั้งเพลง เราชอบตอนร้องว่า where have you been all my liffeee อะอะอ่า อะอะอ่ายยย
ความคิดเห็น