ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Sherlock BBC : My (Best Friend's) Daughter!

    ลำดับตอนที่ #2 : John's POV

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 900
      18
      29 มิ.ย. 55

    My (Best Friend's) Daughter
    ลูกเพื่อน...ก็เหมือนลูก"เรา" 
     
     
     
     
     
    ตอนที่ 2 : John’s POV
     
     
    วันนี้ช่วงเช้านี่แหละที่เด็กจะเข้ามาหาเขา ตอนนี้เชอร์ล็อกกำลังนั่งกินสโกนกับแยมบลูเบอรี่เป็นมื้อเช้าอยู่ที่โต๊ะ ถ้าวันนี้เชอร์ล็อกไม่อยู่หละแย่แน่ แต่ตอนแรกจอห์นก็แอบคิดว่าเชอร์ล็อกจะไม่สนใจซะอีก ก็เมื่อคืนเขาขอให้เชอร์ล็อกอย่าไปไหนเชอร์ล็อกก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน เรียกชื่อก็ยังไม่ยอมขาน นั่งอ่านหนังสือเงียบ จนเขาต้องไปนั่งใกล้ๆอยู่นาน จนเขาหมดอารมณ์เรียกไปเองแต่ตอนนี้เขาแน่ใจว่าเชอร์ล็อกคงจะไม่ไปไหน  จอห์นหยิบถ้วยกาเตรียมชงชารับเด็กไปก็แอบยิ้มไป แหม่ะ!...สโกนลูกเท่าขนมจีบ กินไม่เสร็จซะทีหั่นอยู่ได้! ไม่ตั้งใจจะอยู่ด้วยแล้วจะเรียกว่าอะไร ?
     
    นี่ก็ใกล้เวลาที่เด็กจะมาแล้ว เชอร์ล็อกเข้าใจถูกเผงว่าเด็กไม่ได้ต้องการให้เขา จอห์น วัทสันเลี้ยงดู เพราะเชอร์ล็อกให้ความเห็นว่า ดูจากสภาพซองจดหมาย มันเหมือนแฟนเมลมากกว่า ทั้งฉูดฉาด ทั้งแสดงตัวตน บ้านก็อยู่ในลอนดอน ถ้าอยากให้เลี้ยงก็น่าจะมานานแล้ว เนื่องจากเชอร์ล็อกคิดว่าเด็กอ่านบล็อก ซึ่งก็จริงเด็กก็น่าจะรู้ว่าจอห์นเป็นคนยังไง อยากมีครอบครัวขนาดไหน เมื่อวานตอนเชอร์ล็อกพูดถึงตรงนี้ในซุปเปอร์ จอห์นก็แอบหงุดหงิดหน่อยๆ อยากมีครอบครัวนะไม่ได้อยากมีครอบครัวจนตัวสั่นอย่างที่เชอร์ล็อกพูดออกมา ในจดหมายเด็กบอกว่าพ่อเลี้ยงน่าสงสัย เธอเตือนแม่แล้วแต่แม่ไม่ฟังเพราะเขารวยมาก ….ถ้าจริงทั้งหมดหละก็น่าเห็นใจ แต่ยังไงก็ต้องให้เด็กเข้ามาพบเชอร์ล็อกก่อนค่อยคิดอ่านกันว่าจะเอายังไงกันต่อ
     
     
    จอห์นนึกๆอยู่ก็ได้ยินเสียงกริ่ง เชอร์ล็อกมองไปในทิศทางเดียวกับเสียงกริ่งแว่บหนึ่งก็หันไปหั่นสโกนต่อ นี่ถ้าเป็นวันอื่นจอห์นคงหมั่นไส้จับยัดใส่ปาก เขาไม่ดุก็จริงแต่สงสัยว่าจะหั่นเล่นทำไมนัก แต่วันนี้ยังก่อนประเด็นเด็กน้อยตามหาพ่อสำคัญกว่าจอห์นจึงต้องโน้ตไว้ในว่า เดี๋ยววันหลังค่อยจัดการกับเด็กอมข้าว แล้วก็ละเดินลงมาเปิดประตู เอาจริงๆก็ใจตุ๊มๆต่อมๆพอสมควร ทั้งที่ทำใจมาทั้งคืนแล้วนะ เขาเปิดประตู ทันทีที่เห็นหน้าเด็กที่ทำหน้าหวาดๆ กลัวๆไม่แน่ใจ เขาก็เกิดอาการสงสาร ผสมตื้นตันไปหมดจึงกอดเด็กไว้ก่อนทักทาย
     
     
    พอคนปลอบเด็กก็เกิดอาการอยากร้องไห้ขึ้นมาน้ำตาหยดเผาะ เธอใส่สายเดี่ยวสีชมพู จะโชว์ทำไมนมก็ไม่มี ผมแดงแปร๊ดยังกะ Black Widow ในเรื่องอะไรนะเรื่องไรอะ ช่างเหอะ จอห์นสังเกตเด็กต่อ ผูกโบว์ใหญ่สีน้ำเงินตัดกับสีผม เล็บมือเล็บเท้าก็ทาเป็นสีน้ำเงินตัดขับกับสีเสื้อ  กางเกงสีชมพูเข้มก็สั้นเสมอชื่อต้นของมอริอาร์ตี้ ลากกระเป๋าใบใหญ่เท่าบ้านสีม่วงเข้มหนังแก้วมันแว้บ ยังไม่หนำใจ ยังต้องเอากลิทเทอร์มาแปะที่จับส่วนที่ไม่โดนมือด้วยจริงๆเขาไม่ชอบผู้หญิงสไตล์นี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เด็กก็คือเด็กจะแสบซ่าแค่ไหนก็ไม่มีทางก่อเรื่องอะไรได้มากนักหรอก
     
    จอห์นพาเด็กเข้าบ้าน เชอร์ล็อกเดินลงมาพอดี ก็เห็นอยู่ว่าอนุมานถูกหมด ตั้งแต่เรื่องที่ไม่ได้หวังให้เขา-จอห์น วัทสันเลี้ยงดู และบอกถูกว่าเด็กน่าจะมาจากโลกบาร์บี้ม้ายูนิคอร์น เค้กครีมสีชมพู
     
    นั่นไง เชอร์ล็อกโฮล์มส์เขามองไปทางเพื่อนสนิท เด็กมองตามไปสบตากับเชอร์ล็อกพอดี
     
     
     
    แล้วเชอร์ล็อกก็ทรุดลงไปนั่งตรงบันได
     
    อนุมานถูกหมด แต่ผิดอย่างเดียวคือ
     
    เด็กมันหน้าเหมือนเชอร์ล็อก….คือในจดหมายเด็กบอกว่าหนูเป็นลูกของคุณโฮล์มส์ พาหนูเข้าบ้านหน่อย หนูไม่กล้าติดต่อพ่อโดยตรงค่ะ
    ไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอ แต่ก็ยากที่จะไม่ใช่ เพราะหน้าบล็อกเดียวกัน เอาเป็นว่าถ้าพาสองคนนี้ไปทิ้งไว้กลางตลาด แล้วให้เชอร์ล็อกสร้างฉากเริ่มโต้ไดอะล็อก “ไม่!แกใม่ใช่ลูกฉัน” รับรองต้องมีคนตะโกนมาว่า “ใช่!,ไอ่นี่แหละพ่อเด็ก,มองไปที่โหนกหน้ามันเซ่” ไม่ต้องไปดูเสื้อผ้าหน้าผม กางเกงพับขาไม่พับขาให้เสียเวลา แถมถ้าเชอร์ล็อกไม่เคยไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนจริงๆ มั่นใจในความเวอร์จิ้นแกะกล่อง มันคงแจ้นพาเด็กไปตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่ใช่มานั่งช็อกอยู่ตรงนี้
     
    จอห์นค่อยๆเดินไปหา แต่เชอร์ล็อกส่ายหน้า เขาเดินไปที่โซฟา แต่ก่อนจะได้นั่ง ก็เหมือนจะหน้ามืดล้มลงนอนนิ่งลงไปอย่างสวยงามบนเบาะปล่อยให้จอห์นงง และเด็กก็ยืนเก้กังถือกระเป๋าหน้าเสียๆอยู่ตรงนั้น
     
     
    “เชอร์ลีน หนูไปนั่งตรงนั้น” จอห์นบอกให้เด็กที่กำลังหน้าเสียเหมือนจะร้องไห้ ไปนั่งรอที่อาร์มแชร์อีกตัว อืม เด็กชื่อเชอร์ลีน อลิซ วัทสัน รวมตัวย่อก็ได้คำว่า saw พอดี ตอนนี้จิตวิญญาณของเชอร์ล็อกก็คงหวีดสยองสั่นเป็นลูกนกสมชื่อเด็ก เด็กก็ลากกระเป๋าก็อกแก็กมาด้วย ยังไม่ทันที่จอห์นจะปฐมพยาบาล เชอร์ล็อกก็ลืมตาผึงขึ้นมาพอดี ยังกะวันนี้ทุกอย่างอยู่ในตีม horror
     
     
    เชอร์ล็อกลุกขึ้นนั่งทำหน้าฉลาด ทั้งที่แก้มยังมีรอยยับร่องเบาะพิมพ์อยู่บนหน้า เขาหรี่ตามองเด็กที่กำลังน้ำตารื้นๆ  แต่จอห์นก็พอเข้าใจว่าทำไมเชอร์ล็อกต้องช็อก เพราะไหนจะคิดว่าตัวเองฉลาดมาตลอด ดันต้องมาโดนเด็กกับเพื่อนสนิทรวมหัวกันหลอก ไหนจะมีลูกทั้งที่ไม่คิดว่าจะพลาดได้ ไหนจะลูกที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นสก๊อย จะหน้าเหมือนตัวเองอีก เชอร์ล็อกคงไม่ชอบนักที่จะได้เห็นตัวเองแต่งหญิงแล้วผมยาวสยายเป็นนางเงือกแล้วจริตจก้านมารยา งุงิ หวานแหวว
     
     
     เธอยอมรับว่าคิดแผนนี้ออกเพราะนามสกุลพ้องกับเขา เธอบอกว่ามาทางจดหมายน่าจะดีที่สุด เพราะถ้าโทรหาจอห์น จอห์นจะต้องว่าไปตามหลักการ process มันก็จะยาว พ่อดูท่าทางชอบตามชอบเช็คคุณอาอยู่แล้ว กลัวจะจับได้ก่อนไม่ได้เข้ามาในบ้าน แถมถ้าส่งมาเป็นจดหมาย จดหมายเป็นสิ่งที่แกะซองไม่ได้ และทุกคนเห็นซอง ยังไงคุณพ่อต้องอนุมานโดยไม่เปิดซองเพราะมั่นใจในฝีมือตัวเอง และหนูรู้ว่า วันที่พ่อสร้างหนูขึ้นมา in the course of biology เป็นครั้งแรกของคุณพ่อ เพราะแม่บอก และจากการอ่านบล็อก หนูก็คิดว่า ไม่น่าจะมีแฟนหรือความสัมพันธ์อีก ดังนั้นเป็นไปได้ว่าพ่อจะไม่เอะใจว่าเป็นลูกของตัวเอง คิดว่าเป็นลูกของอา เลยไม่ทันกันหนูออกไป
     
     
    เชอร์ลีนยังเขียนบอกมาในจดหมายด้วยว่า การที่เป็นแบบนี้ ที่หนูนามสกุลพ้องกับคุณอาเพราะพระเจ้าทรงมีแผนการณ์ของพระองค์ให้พวกเราได้อยู่ด้วยกัน จอห์นนึกถึงตรงนี้ก็ไม่ได้อินแต่รู้สึกว่าเด็กยังใสมาก เขาก็นึกสงสารจับใจ
     
    เชอร์ล็อกจอห์นมองเชอร์ล็อกอย่างขอความเห็นใจ เรื่องที่เด็กขอมันยากจริงๆนี่นา แม้ว่าเด็กจะยืนยันว่าอ่านบล็อกของเขากับเชอร์ล็อกมานานด้วยความภูมิใจว่ามีคุณพ่อฉลาด แล้วบอกว่าแน่ใจว่าพ่อจะฟังคุณอาแน่ๆ แต่เขาไม่แน่ใจเลย  เชอร์ล็อกทำหน้าตาเฉยแล้วไปนั่งไขว่ห้างเต๊ะท่าบนโซฟา หยิบจดหมายมาอ่านอย่างละเอียดรอบหนึ่ง ….
     
    พ่อเลี้ยงก็ฆ่าเมียเก่าอย่างที่คิดนั่นแหละเชอร์ล็อกพูดขณะเก็บจดหมายลงไปในซอง มองซองแว่บหนึ่ง ก่อนเหลือบตามามองหน้าเด็ก
     
     “แต่..มาทางไหนไปทางนั้น ฉันไม่อยากมีภาระเชอร์ล็อกเหวี่ยงคำพูดนิ่งๆแต่แรงตรงไปยังเด็ก แล้วลุกขึ้นช้าๆโงนๆเงนๆไปหยิบกระเป๋าของเด็กจากมือแล้วลากไปโยนลงหน้าต่างไปหน้าตาเฉย เด็กก็ตกใจร้องวี้ดวิ่งไปดูกระเป๋าที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นถนนแล้วโดนรถที่ผ่านมาชนจนกระเด็นไปอยู่อีกฝั่ง จอห์นก็ห้ามไม่ทันไม่คิด แม้จะรู้ว่าไม่มีสมบัติผู้ดีมานานแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะใจไม้ไส้ระกำกับลูกตัวเองที่ไม่มีที่ไปต่อหน้าเพื่อนสนิทที่เชอร์ล็อกรู้แน่ว่ารับไม่ได้กับเรื่องนี้แน่ๆ ตอนนี้เด็กที่สะอื้นอยู่แล้วก็ร้องไห้หนักจนตัวงอ เอามือขยี้ตาไปมา หน้าตามันก็บ้องแบ๊วเหมือนสัตว์กินพืช ตาใสแจ๋ว เหมือนเชอร์ล็อกที่ไร้เล่ห์เหลี่ยม คิ้วก็ไม่ค่อยจะมี เหมือนใครเอาขนไม่กี่เส้นไปโรยไว้บนโหนกคิ้ว ด้วยโครงหน้าเช่นนี้แหละทำให้เวลาร้องไห้จะดูยู่ยี่น่าสงสารกว่าคนอื่นจอห์นเดือดปุดๆ ถึงแม้เขายังไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริงยังไงดีเอ็นเอก็ยังไม่ได้ตรวจ แต่เชอร์ล็อกทำแบบนี้มันส่อว่าเชอร์ล็อกมั่นใจว่าเป็นลูกตัวเอง
     
     
    จอห์นพาเด็กลงไปข้างล่าง ลากกระเป๋าสีม่วงวาววับ ด้ามจับประกายกลิทเทอร์อย่างทรนงองอาจไม่อายใครเพราะกำลังโมโหจัด แล้วพาเด็กไปไว้ที่ห้องตัวเอง เททุกอย่างลงบนเตียง เอาสิเชอร์ล็อก จะเอายังไงก็เอาแล้วหละวันนี้
     
     
    เชอร์ล็อกเดินตามมาที่ห้อง เด็กหาที่ลงไม่เจอ เขาเลยบอกให้เด็กนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ของโต๊ะกระจก
     
     
    ไม่รับใช่มะจอห์นเสียงสั่น เชอร์ล็อกหน้านิ่ง แถมหัวเราะหึออกมาอีกเบาๆทีนึงอีกต่างหาก เด็กเลยทนไม่ได้ลุกขึ้นเก็บเสื้อผ้า ใส่กระเป๋า เม้มปากแน่นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ แต่มือก็เอามาป้ายน้ำตา เห็นซีนอารมณ์บีบเค้นแบบนี้มีหรือจอห์นจะทนไหว ประโยคที่เด็กเขียนว่า นี่คงเป็นแผนการณ์ของพระเจ้า ให้เราได้มาอยู่ร่วมกันมันใสเซเลอร์มูนทรมานใจจอห์นมาก คนเราจะเป็นยังไงเมื่อไม่มีใครต้องการ จอห์นทนไม่ได้ จับมือเด็กไว้ทั้งสองข้าง หนูอยู่ที่นี่จอห์นมองเชอร์ลีนเข้าไปในตาเพื่อบอกให้เธอเชื่อมั่น ว่าไม่ต้องไปไหน
     
     
    สงสารก็รับเองสิ ฉันไม่รับในเมื่อแม่เด็กไม่ได้มาติดต่อให้ฉันตรวจดีเอ็นเอฉันก็จะไม่รับอยู่แบบนี้แหละจะทำไมเชอร์ล็อกทำหน้าไม่ใยดีก่อนหันหนี แต่จอห์นก็กระชากแขนไว้
     
     
    ได้! ฉันรับเองจอห์นคิดว่าถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกเชอร์ล็อกจริงๆ เขาก็จะรับเป็นพ่อบุญธรรม แค่สี่ห้าปีเป็นพ่อมันจะตายมั้ย โตขนาดนี้ขอแค่ที่นอน ที่อยู่อาศัยต้องมาอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อม ให้นม ป้อนข้าวโอ๊ตเมื่อไหร่ ทำไมเชอร์ล็อกทำตัวแบบนี้ เขาหละผิดหวังจริงๆ
     
     
    ไปคุยกับแม่เด็กเองนะ ฉันไม่ไปเชอร์ล็อกพูดลอยหน้าลอยตา ก่อนทำท่าง่วงแล้วกำลังจะเดินไปนอนต่อ
     
     
    จอห์นหมดหนทาง เลยต้องพาเด็กไปคุยกับแม่ จอห์นโทรไปหาเลขาแม่ของเชอร์ลีน วัทสัน เธอบอกให้รอไปก่อน คุณนายกำลังทำสปาและช็อปปิ้งค่ะ ผู้หญิงอะไรลูกกำลังลำบากทำไมชิวขนาดนี้
     
     
     
    จอห์นกับเชอร์ลีนรอจนรากงอก พอถึงเวลาจริงๆก็อนุญาตง่ายดาย บอกว่าอ่านบล็อกของเขามานาน และรู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นลูกใคร เด็กชอบทั้งเขาและเชอร์ล็อก ผิดกับเธอกับสามี เด็กนับถือเธอในฐานะแม่เท่านั้นไม่ใช่ชื่นชมในฐานะอื่นด้วยแถมตั้งแง่กับสามีของเธออีก เธอเลยเห็นควรว่าถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นไร แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะเป็นคนออกให้
     
     
    จอห์นพาเชอร์ลีนขึ้นแท็กซี่กลับ
     “หนูว่าไงหละ เป็นลูกอาได้มั้ย??” จอห์นเห็นเด็กหน้ายิ้มแหยๆก็รู้ว่าเกรงใจ เขาเลยพูดต่อไปว่า “รู้มั้ยว่าอยู่กับอา อารู้สึกเหมือนมีลูกชายอายุสัก 12 อยู่แล้ว 1 คน ส่วนหนู 13แล้ว อาให้เป็นลูกคนโตแล้วกันนะจอห์นยิ้มให้เด็กอย่างอ่อนโยน เด็กก็หัวเราะหึหึ ออกมา จอห์นดีใจที่บรรยากาศดีขึ้น
     
     
    หนูอยากอยู่กับอากับพ่อค่ะ แต่พ่อคงเกลียดหนู แต่หนูสัญญานะคะว่าจะไม่เป็นภาระเด็กยิ้มแต่ก็ขอบคุณเขาด้วยเสียงสั่นๆ คงไม่รู้จะมีความสุขหรือทุกข์ดีที่มีคนใจดีรับเธอเป็นลูก แต่พ่อแท้ๆกลับรังเกียจ จริงๆช็อกเพราะอยู่ๆมีลูกมันก็ไม่ได้แย่อะไรนักหรอก แต่การแสดงออกของเชอร์ล็อกมันก็ใจร้ายเกินไป
     
     
    จอหนคิดว่าดีแล้วหละที่เด็กเหมือนเชอร์ล็อกแค่รูปกาย ไม่อยากจะได้เด็กโข่งอีกคน เพราะแค่เด็กยักษ์คนเดียวเขาก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ยังกะมีคนมาแชร์ปอด แชร์หัวใจกับเขายังไงอย่างงั้น
     
     
    ทั้งสองลงแท็กซี่ก่อนที่เชอร์ลีนจะเดินนำเข้าประตูไป จอห์นเตือนอย่างไม่จริงจังนักก่อน เพราะไม่รู้ว่าเข้าไปจะพบเชอร์ล็อกหรือไม่ “เชอร์ล็อกปากคอมันร้ายนะ อย่าไปพุดกับมันมาก อยากได้อะไรบอกอาแล้วกัน” จอห์นกับเชอร์ลีนหันมายิ้มด้วยกัน
     
     
    ยังไม่ทันที่จอห์นจะเปิดประตูเข้าไป เชอร์ล็อกก็เปิดประตู เดินหน้าหงิกงออกมาแถมไม่ปิดประตูด้วย เชอร์ลีนจับแขนเขาแน่น “อาขา” เชอร์ลีนปากเริ่มเบะ เอ่อ แล้วโครงหน้านี้เวลาเบะมันจะเยอะกว่าหน้าแบบอื่นขี้แยหรือเปล่าเขาก็ชักไม่แน่ใจ เพราะว่าวันนี้ก็เสียน้ำตาไปเยอะแล้ว แต่มันก็บีบคั้นจริงๆ แต่ขอร้องหละอย่าปัญญาอ่อนเหมือนพ่อเลยนะแต่คงไม่ใช่หรอกเพราะวันนี้เจอเชอร์ล็อกเหวี่ยงใส่ไปแล้วหลายดอก รวมที่เดินผ่านหน้าไปเมื่อกี้ด้วย
     
     
    “ไปกันเหอะ ไปห้องอากัน หนูนอนเตียงอานอนพื้นนะ” จอห์นคิดว่าคงต้องเปิดประตูไว้ตลอดกันคนคิดไม่ดี แล้วหาฉากมากั้นในห้องให้เด็กแต่งตัว เพราะประตูมันต้องเปิดตลอด แต่พอขึ้นไปถึงห้องจอห์นถึงกับผงะ ของในห้องเขาหายไปไหนหมดก็ไม่รู้เหลือแค่โต๊ะ เตียง ตู้
     
     
    “ตรงนี้เลย! จอห์นได้ยินเชอร์ล็อกตะโกนเรียกใครสักคนจากถนนข้างล่าง
     
     
     
     
    ที่ออกไปคือไปโบกรถ
     
     
     
     
    รถขนเตียง
     
    เชอร์ล็อกเปิดประตูห้องของเขาให้คนงานบริษัทเฟอร์นิเจอร์เข้ามาในบ้าน มีทั้งคนขนเตียงแยกชิ้นส่วน ฟูกสปริง หมอน รวมๆแล้วคือเครื่องนอนอีกหนึ่งชุดเข้ามาในห้องเชอร์ล็อก จอห์นเดินเข้ามาสมทบกับเชอร์ล็อกที่มองสอดส่ายสายตาหาที่วางเตียงอีกเตียง
     
     
    ยังไม่ทันที่จอห์นจะพูดอะไร เชอร์ล็อกก็พูดขึ้นมาทั้งที่ตามองคนงาน
     
     
    “เราต่างหากต้องนอนห้องเดียวกันจอห์น เด็กโตเป็นสาวแล้ว นอนรวมกับเราคนใดคนหนึ่งไม่เป็นไรก็จริง แต่จะทำไรไม่สะดวกกันทั้งคู่ ให้ห้องเด็กไปเหอะ” เชอร์ล็อกพูดเสร็จก็ชี้นิ้วไปที่ข้างเตียงตัวเอง “ตรงนี้แหละขอบคุณครับ”
     
     
    “เอาเตียงมาติดกันจะได้กว้างๆ วางมุมห้องก็แคบหมด ฉันเกลียดห้องแคบ” เชอร์ล็อกพูดเสร็จสรรพ พวกคนงานก็เดินลงไปข้างล่าง
     
     
    จอห์นพอจะรู้ว่า ในเวลาที่เขาไปนั่งรอแม่เด็กทำสปาบวกช้อปปิ้งห้าชั่วโมงนี่เชอร์ล็อกไปให้คนงานเก็บห้อง บวกจัดแจงซื้อเครื่องนอนให้เขายกเซ็ทเสร็จสรรพแบบมาแล้วไม่ต้องทำอะไรอีกนอกจากเอาของที่ขนมาแล้วมาจัด ก็แค่นั้น... จอห์นย่อลงยกลังกระดาษที่ใส่เท็กซ์และชี้ทวิชาแพทย์ของเขาไปวางบนตู้ ก่อนสะบัดหัวหนึ่งที
     
     
    “ทำไมไม่ถามกันก่อนซักนิดนึง” จอห์นมองเชอร์ล็อกสีหน้าจริงจัง โดนตัวลูกมัดมือชกให้เปิดบ้านให้พ่อมันยังมัดมือชกตัดหน้าเลือกห้องนอนไปแล้วซะฉิบ ...
     
     
    “แม่เด็กทำสปาตั้งนาน….มัวรออยู่คืนนี้จะนอนกันยังไง? ฉันชอบห้องนี้ ไม่ถามเพราะกลัวอิดออด ไม่ดีเหรอจอห์นเตียงนี้ฉันซื้อให้ฟรีๆนะ ของก็ไม่ต้องขนเอง ยืมคนของไมครอฟท์มาขนให้” เชอร์ล็อกทำหน้าจริงจัง
     
    เหมือนเสียสละ
     
     
    เหมือนมีพระคุณ
     
     
     
     
    I Ha กุเลี้ยงลูกให้ยังไม่กล้าจะลำเลิก..จอห์นคิด
     
     
    จอห์นเดินไปหยิบตะกร้าผ้า “เอาไงดีหละ ดีเอ็นเอเด็กจะตรวจเมื่อไหร่ ถ้าใช่ฉันจะได้รับเป็นพ่อบุญธรรม” จอห์นถามเข้าประเด็น แต่เชอร์ล็อกทำเงียบ ทำหน้าเหมือนไม่ได้ยินอีกแล้ว ก่อนเดินไปมองทางเชอร์ลีนที่ยืนงง ค้างคาอยู่ข้างเตียงตัวเองในห้องเก่าของจอห์น
     
     
    “ห้องนั้นเป็นของเธอแล้ว” แล้วเชอร์ล็อกก็ทำหน้าหงุดหงิดหน่อยๆ “จัดห้องเร็วๆสิจอห์น” แล้วก็ทำท่าเหมือนช่วยจัด
     
     
    “ไม่ชอบนอนห้องรกๆ เร็วๆ ไม่ต้องมองหน้าแล้ว”
     
     
    เหอะ นอนห้องรกไม่ได้ เห็นนอนที่ห้องนั่งเล่นทุกบ่าย รกยังกะป่าดงดิบ ก็เห็นหลับสนิทดี เรียกไม่อยากจะตื่น ถ้าอยากเปลี่ยนเรื่องก็หาอะไรที่เนียนกว่านี้หน่อยได้มั้ย? จอห์นยิ้มอย่างประชดประชัน แต่ก็ไม่ได้มองไปทางเชอร์ล็อก แต่ก็แน่ใจว่าเชอร์ล็อกต้องเห็น เอาเหอะ จะหนีความจริงไปได้นานแค่ไหนกัน
     
     
    มีลูกก็ดี แม้ว่าเชอร์ล็อกจะให้เขารับเป็นพ่อ แต่เขาก็จะพยายามทำให้เชอร์ล็อกรับว่าเด็กเป็นลูกให้ได้ มีลูกก็ดี เชอร์ล็อกจะได้เป็นผู้ใหญ่ซักที จอห์นหันไปมองเชอร์ล็อกที่นั่งช่วยเขาจัดของ เพราะอ้างว่าจะนอนไม่ได้ถ้าห้องรก คงอยากจะทำความดีกลบเกลื่อนสินะ แต่จริงๆสีหน้าเชอร์ล็อกก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไรมากนัก ค่ำนี้ยังอีกยาวไกล เพราะตอนนี้คนสองคนที่มีของเยอะต้องมาแชร์ห้องกันถ้าได้ตรวจดีเอ็นเอแล้วผลของเด็กแม็ทช์กับเชอร์ล็อก คงจะต้องอยู่กันแบบนี้ไปอีกสี่ปี จอห์นถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่เขาก็เต็มใจ 
     
     
    จอห์น วัทสัน ไม่ได้เลือกอาชีพทหารเพราะความมั่นคง ไม่ได้เลือกอาชีพแพทย์เพราะอยากร่ำรวยเหมือนคนอื่น การได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง มันก็เป็นความสุขของเขาเช่นกัน โดยเฉพาะการช่วยเหลือเด็กที่แม่ไม่สนใจพ่อก็ทิ้ง กับเด็กโข่งอีกคนหนึ่ง ที่ควรจะเป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้ว เขาไม่รู้หรอกว่าเชอร์ล็อกโกรธแม่เรื่องอะไร ไม่รู้ว่าเพราะเธอไปทำลายหอยสังข์ของเชอร์ล็อกหรือเปล่า แต่ถ้าโตขึ้นมาสิ่งที่สวมอยู่ตอนนี้คือรูปเงาะหละก็ เขานี่แหละ ได้โอกาสจะทุบมันให้แตกแล้ว..
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×