ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The last tear น้ำตาหยดสุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #3 : ผู้หญิงที่น่าสงสารทีสุดในโลก

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 55


     1

     

    “ เอ่อ แพรวาเธอทำรายงานเสร็จรึยังอ่ะ “  ยัยเอมถามฉันในขณะที่ฉันเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

    “..................” ไร้เสียงตอบรับจากคนที่ถูกถาม

     

    “ วา...แพรวา....แพรวา “ 

    “ อะไรเอม “ ฉันสะดุ้งสุดตัวกับเสียงเรียกของเอมที่ดังขึ้น

    “ เธอเป็นอะไรของเธออ่ะ แพรวา “

    “ เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร แค่คิดอะไรนิดหน่อย “ ฉันบอกเอมพรางทำหน้าให้สดใส ตอนนี้หน้าของฉันคงจะโทรมมากถึงมากที่สุด เพราะฉันคิดเรื่องของติวทั้งคืนจนไม่ได้นอน

    “ ที่ฉันถามเธอเรื่องรายงาน เธอทำเสร็จรึยัง “  เอมถามฉันอีกครั้ง  แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบกลับมีเสียงๆหนึ่งขัดจังหวะขึ้น และเจ้าของเสียงนั่นก็คือติวไผ่ คนที่ทำให้ฉันคิดเรื่องเขาจนไม่ได้นอน

    “ ไง “ ติวไผ่ทักขึ้นโดยที่ฉันไม่รู้ว่าเค้าทักฉันหรือว่าทักเอม ฉันจึงตัดสินใจที่จะเงียบและให้เอมเป็นฝ่ายทักตอบแทน

    “ ไงจ๊ะ หนุ่มหล่อมารับแฟนกลับบ้านหรอ “ เอมพูดพรางยิ้มล้อเลียนฉันด้วยคำพูดที่ดูดี แต่สำหรับฉันมันช่างเหมือนเข็มที่แหลมคมที่จิ้มมากลางใจของฉัน

    เอมยังไม่รู้ว่าเมื่อวานตอนที่ฉันสารภาพกับเขาว่า ขอเป็นแค่เงา แต่ไม่ได้ขอเป็นแฟนอย่างที่เธอเข้าใจ

    “ คงงั้นล่ะมั้ง “ ติวไผ่ตวัดตาสายตาคมๆปรายตามองฉันเหมือนมีเลสนัยบางอย่าง ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาพยายามค้นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในคำพูดนั่น แต่สิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชา

    “ แหม หวานกันจริงเชียวงั้นฉันกลับบ้านก่อนแล้วกัน ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนแถวนี้ “ ยัยเอมจีบปากจีบคอพูด ก่อนจะรีบหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

    ระหว่างนั้นฉันนั่งนิ่งโดยไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยกับติวยังไง อยู่ดีๆร่างสูงก็กระชากข้อมือของฉันให้ลุกขึ้นเดินออกมาจากห้อง พวกนักศึกษาที่อยู่บริเวณแถวนั้นมองตามฉันและติว ฉันที่ขาสั้นกว่าเขามากจึงต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะถึงแม้จะร้องบอก แต่อีกคนก็ไม่ยอมฟังอยู่ดี เมื่อติวเดินมาถึงลานจอดรถหน้าคณะตึกเรียนฉันก็เป็นฝ่ายแกะมือเขาออก ร่างสูงมีสีหน้าไม่พอใจก่อนจะพูด

    “ ทำไม?! อยากเป็นนักไม่ใช่หรอเงาน่ะ ตอนนี้ฉันให้เธอเป็นแล้วไง ”

    “ นายหมายความว่าไง “

    “ ฮึๆๆ “ ติวทิ้งเสียงหัวเราะปริศนาไว้ให้ฉันแล้วดันฉันเข้าไปในรถของเค้า โดยที่ฉันไม่รู้ว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน แต่ในเมื่อฉันรักเขาและยอมเป็นของเล่นสำหรับเขาแล้ว ฉันยอมทุกอย่างแล้วจริงๆ

    ฉันไม่รู้ว่าติวจะพาฉันไปที่ไหนกันแน่ตลอดเวลาฉันทำได้แค่มองติวเป็นระยะ เมื่อถึงทางเข้าบ้านหลังหนึ่งมันคงจะเป็นบ้านติวนั่นเอง เขาเปิดประตูรถแล้วอ้อมรถมาหาฉันแล้วกระชากข้อมือฉันขึ้นไปถึงห้องๆหนึ่ง

    “ติว หยุดนะฉันเจ็บ “

    “ นี่ชุดของแม่ฉันเปลี่ยนซะ ฉันรีบ “

    “ แม่นายไปไหนไม่ว่านายหรอที่เอามาให้ฉันใส่แบบนี้อ่ะ “

               “ เธอไม่มีหน้าที่มาถามฉัน เธอมีหน้าที่แค่ฟังและทำตามที่ฉันบอกเท่านั้น รีบแต่งตัวซะ “

    “ ทำไมนายถึงใจร้ายกับฉับแบบนี้ติว “ ฉันพึมพำพรางถอนหายใจมองติวที่กำลังเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่รู้ว่าฉันจะเสียใจกับคำพูดของเขาขนาดไหน

    30 นาทีต่อมาฉันมองดูตัวเองในกระจกฉันหวังว่าการแต่งหน้าของฉันจะโอเคสำหรับเขาเพราะฉันแต่งแบบบางๆเท่านั้นเอง ไม่ได้แต่หน้าหนาเหมือนเพื่อนที่มหาลัยบางคนที่แต่งหน้าจนไม่เห็นผิวหน้าที่แท้จริงของตัวเองมันเหมือนกับว่าจะไปเล่นงิ้วนั่นเอง

     

    21.50 น.

    Wave club

    เมื่อมาถึงสถานที่ที่ติวได้พาฉันมามันคือคลับสถานที่ฉันเกลียดที่สุดและฉันก็ไม่เคยคิดจะมาอีกเพราะตอนที่ฉันมาครั้งแรกเคยโดนพวกขี้เมามาลวนลาม ซึ่งมันทำให้ฉันมีอคติไปเลยจนฉันไม่คิดที่จะมาที่แบบนี้อีก แต่บริเวณรอบๆมีผู้คนพลุกพล่านชายหญิงแต่งตัวกันมาอย่างเต็มที่ เสียงเพลงแดนซ์ที่ดังกระหึ่มย้ำเตือนฉันว่าได้มาที่นี่จริงๆมันเริ่มทำให้ฉันกลัวอย่างบอกไม่ถูก

    ฉันคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ  

    เราสองคนเดินเข้าไปข้างในอย่างช้าๆเพราะผู้คนเริ่มเบียดเสียดกัน เราเดินไปได้ซักพักก็มีคนกลุ่มหนึ่งฉันโบกมือให้กับติวฉันเดาว่าคงเป็นเพื่อนของติวที่ฉันไม่รู้จัก

    “ มาช้าว่ะมัวทำไรอยู่วะ แล้วนี่แกพาใครมาด้วยน่ะ “

    “ แฟนฉันเอง ชื่อแพรวา “

    “ จริงอ่ะ เดี๋ยวนี้แกรู้จักมีกับเค้าด้วยหรอวะแฟนน่ะ ฉันนึกว่าแกตายด้านเรื่องนี้ซะอีก “ ผู้ชายผมสีเทาพูดขึ้นเมื่อมองมาทางฉันพร้อมส่งสายตาแบบแปลกๆมาให้ฉัน

     “ อย่าลามปามนะเว้ย นี่แพรวาฉันขอแนะนำแฟนฉันเองโอเคมั้ย “

    “ สวัสดีครับผมเชน “ เขาแนะนำตัวอย่างหยิ่งๆยังไงไม่รู้ท่าทางเขาดูจะนิ่งเงียบฉันเลยยิ้มเก้อๆส่งให้เขาไป แต่งตัวอย่างกับจะไปเดินสยามฯอย่างนั้นแหละครบสูตรรูปร่างหน้าตาเสื้อผ้าหน้าผมจัดว่าโอเคแบบเว่อร์เลยทีเดียว

    “ ดีคร๊าฟฟ ผมนัทนะครับยินดีที่ได้รู้จักครับ “ นัทคงจะเป็นหนุ่มหล่ออีกคนคงจะไม่ผิดนักเรือนผมสีดำเข้มใบหน้าดูตี่จีนเลยล่ะ ดูเด็กๆขี้เล่นน่ารักจัง น่าจะมีอัธยาศัยกว่าคนอื่นล่ะมั้งดูเฟรนลี่ดี คงมีแต่เชนล่ะมั้งที่มองฉันด้วยสายตาแปลกๆมันทำให้ฉันอธิบายไม่ถูกเลยจริงๆว่าที่เชนมองฉันนั้นสื่อถึงอะไรกันแน่

    “ สวัสดีค่ะทุกคนฝากตัวด้วยนะคะ “

    โต๊ะของเราคงจะมีกันสี่คนพนักงานจึงเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟติวเอาเตกีล่าในขณะที่ฉันไม่รู้ว่าจะเอาอะไรดีเลยขอน้ำส้มแต่...

    “ เอาพันซ์ให้ผู้หญิงล่ะกัน “

    “ ติว ฉันไม่เอานะ “

    “ อย่ากลัวฉันก็อยู่ ไม่เมาหรอกเรามาสนุก “ ฉันเม้มปากอย่างชั่งใจก่อนรับเครื่องดื่มจากพนักงานก่อนดื่มอย่างช้าๆแปลกจังมันไม่รู้สึกขมหรือว่ามันร้อนคอเลยซักนิด หวานชะมัดเลยอร่อยจังฉันเลยกระดกหมดแก้วเหมือนน้ำหวานเลยทีเดียว

    “ กินช้าๆก็ได้เดี๋ยวเมาหรอกเรามีเวลาเยอะไม่ต้องรีบ “

    “ ก็มันอร่อยอ่ะ ฉันขออีกได้มั้ยอ่ะ อร่อยดี “

    “ได้สิ ตามที่เธอต้องการ “ ฉันขอเพิ่มอีกซึ่งติวก็ไม่ห้ามและเอามาให้ฉันดื่มอีกติวคุยกับเพื่อนๆเรื่องอะไรไม่รู้ฉันรู้แต่ว่าได้มองเขาแบบนี้เพลินดีจัง ฉันเริ่มรู้สึกมึนหัวนิดๆนี่มันเริ่มเมารึเป่ลานะ

    “ พี่ติวๆ เบลดีใจจังเลยค่ะวันนี้พี่ติวมาด้วย  “

    ใครกันนะที่มาทักติว ชื่อเบลสินะน่ารักจังตัวขาวอวบนิดๆสเป็กผู้ชายต้องแบบนี้รึเปล่านะ เนื้อ นม ไข่ แต่ฉันก็อดยอมรับไม่ได้จริงๆว่าเด็กเบลนั่นน่ารักอย่างที่ผู้ชายปฎิเสธไม่ได้จริงๆแล้วมาทักติวทำไม?

    “ สวัสดีครับน้องเบล “

    “ นี่พี่ติวพาใครมาด้วยหรอคะ “

    “ แฟนพี่เอง ทำไมหรอ “ ฉันรู้สึกยืดนิดนึงกับการที่ติวแนะนำว่าฉันเป็นแฟนของเขาอย่างน้อยเขาก็ยังไม่คิดจะปิดใครต่อใคร

    “ หรอคะ แต่เมื่อวันก่อนพี่ติวพามาไม่ใช่คนนี้นี่คะ วันนั้นเบลจำได้ “

    “ พี่ว่าจำผิดแล้วล่ะ แล้วมีธุระอะไรกับพี่รึป่าว “

    “ เบลแค่จะชวนไปเต้นน่ะค่ะเพื่อนเบลรออยู่  นะคะพี่ติว นะคะ “ นี่แปลว่าติวควงผู้หญิงมาที่นี่บ่อยสินะยัยเด็กเบลถึงกับต้องพูดออกมาฉันคงต้องเงียบๆไว้เพราะฉันรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่ไม่สามรถพูดอะไรได้เลย นี่ชักจะเยอะแล้วนะถึงกับดึงแขนติวเลยแบบนี้แปลว่าคงจะสนิทกันสินะ ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บที่หัวใจของฉันจัง

    “ ไปสิ “ ติวพูดขึ้นถึงจากที่ยัยเด็กเบลนั้นชวนเขาเดินออกไปกับเด็กนั่นเหมือนกับเขาไม่แคร์ฉันเลยซักนิดเดียว

    “ ฉันขออะไรที่แรงๆหน่อยๆได้มั้ย “ ฉันหันไปบอกพนักงานเพื่อที่จะลดความเจ็บให้ลดน้อยลกว่านี้หน่อย

    “ เดี๋ยวเธอจะเมาเอานะอย่าเพิ่งคิดอะไรมากนะน้องเบลนั่นรู้จักกับพวกเราทุกคนไม่มีอะไรหรอก และเธอไม่ต้องกังวลด้วย “ นัทบอกกับฉันอย่างเป็นหวง

    ฉันได้แต่นั่งนิ่งๆถอนหายใจปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวรู้สึกมึนๆหัวด้วยนี่ฉันเริ่มเมารึเปล่า เสียงเพลงที่ดังอยู่นี้ทำให้นักเต้นยามราตรีเต้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยฉันได้แต่มองติวที่โดนเพื่อนๆของยัยเบลนั่นห้อมล้อม ยัยเบลกับติวนั่นเกาะกันเต้นอย่างสนิทสนมทำไมติวถึงไม่ให้เกียรติฉันเลยนะถึงฉันรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหนก็เถอะน่าจะให้เกียรติฉันบ้างสิ ฉันทนมองภาพบาดตานั่นไม่ได้แล้วจริงๆเหมือนจะขาดใจไปตรงนี้เลยจริงๆ

    “ ฉันไปห้องน้ำเดี๋ยวมานะคะ “

    “ เธอไหวนะดูเธอมึนๆนะเดี๋ยวฉันเรียกไอ้ติวให้พาไปให้มั้ย “

    “ ไม่ต้องหรอกค่ะ ปล่อยเขาไปเถอะ “

    หลังจากคุยกับนัทและเชนเสร็จฉันก็เดินออกมาจากโต๊ะเพื่อไปเข้าห้องน้ำในห้องน้ำมีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งหน้าอยู่ปากของเธอแดงมากจนฉันรู้สึกว่าหน้าตัวเองซีดมากถ้าเทียบกับเธอคนนี้ฉันจึงละสายตาจากเธอคนนี้แล้วเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยน้ำตาที่เอ่อล้นรอบดวงตาของฉันฉันไม่รู้ว่าร้องไปนานแค่ไหนแค่คิดภาพเหตุการณ์ที่ติวใกล้ชิดผู้หญิงแบบนั้นตัวฉันเหมือนหมดแรงขึ้นมาทันที

    ฉันมาทำอะไรที่นี่กันแน่ ?

     ฉันที่เดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อจะไปที่โต๊ะได้ยินเสียงติวและเชนคุยกันอยู่ตรงระเบียงฝั่งซ้ายมือของห้องน้ำ พวกคุยเรื่องอะไรกันนะเรื่องฉันรึเปล่า

                “ นี่แกทำอะไรของแกกันแน่ แกปล่อยให้แพรวานั่งอยู่คนเดียวแล้วแกก็ออกไปเต้นกับผู้หญิงอื่นแล้วทิ้งคนที่เป็นแฟนให้นั่งดูหรอวะ “

              “ เชนแกไม่รู้เรื่องอะไรอย่ามาพูดดีกว่ามันเรื่องระหว่างฉันกับแพรวา ยัยนั่นหาเรื่องให้กับตัวเองฉันจะสอนให้ยัยรู้จักกับความเจ็บปวดเอง ” ติวพูดขึ้นเหมือนคนไม่มีหัวใจ แต่คำพูดในวันนี้จะฝังรากรึกในจิตใจของคนแต่ละที่ได้ยินคำๆนี้และมันจะส่งผลในอนาคตอย่างแน่นอน

                “ แล้วเรื่องอะไรที่คนอย่างแกถึงมันไปได้ขนาดนี้แกช่วยบอกฉันหน่อย “

    “.............................”

    “ ในเมื่อแกไม่บอกฉันฉันก็จะไม่ถามแกแต่อย่างหนึ่งที่ฉันจะบอกแกคือ ความรักทำให้คนเราเจ็บปวดเจียนตายได้ ”

    “ พอดีว่าฉันไม่เชื่อว่ะ เพราะฉันไม่ได้รักแพรวา “ ติวพูดแผ่วเบาในประโยคสุดท้ายจนเชนไม่ได้ยินแต่มันชัดในความรู้สึกของแพรวา

                เพล้ง

                ขวับ O_O        

                ใคร .... ?

    © Tenpoints !
    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×