ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คิดผิดนะฟิคนี้...ที่มีหนูเป็นลูกการิน!

    ลำดับตอนที่ #50 : :>>: บทที่ 47 :

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 322
      8
      21 ต.ค. 56

            ความเดิมตอนที่แล้ว >>>

            “ขอรายละเอียดคดีฆาตกรรมในห้องถ่ายเอกสารของเมื่อ 3 ปีก่อนได้ใช่ไหม? ใครทำเรื่องนี้ล่ะ?”
            “แฟนของนีน่ะ เดี๋ยวฉันไปคุยกับเพื่อนคนนี้ให้ ไม่ได้เจอกันซะนานก็ต้องไปหากันหน่อย” แม่ยิ้มหวาน พ่อพยักหน้า ก่อนที่จะเอากุญแจรถมาจากมือแม่
            “งั้นก็ไปกันเลย”


    -------------------------------------------------------------------


    :>>: บทที่ 47 :<<:
    พิรุธ



            < :: WRITER :: >

            ทันทีที่น้ำอบเดินไปจนถึงลาดจอดรถ เธอก็ปรี่เข้าไปที่รถปิ๊กอัพสีดำสนิทซึ่งจอดแน่นิ่งอยู่ตรงช่องจอดสำหรับ ‘ผู้อำนวยการโรงเรียนนิศาพาณิชย์’ โดยเฉพาะ แต่สายตาเธอเหลือบไปเห็นใครบางคนที่คุ้นตาขึ้นมาเสียก่อน เธอนั่งอยู่ตรงม้านั่งหินอ่อนใกล้ๆ กับทางเข้าอาคารเรียน
            “ลูกหว้านี่นา... ยังไม่คิดจะกลับบ้านอีกเหรอ?”
            น้ำอบพูดพึมพำคนเดียว ...น่าแปลกที่นานๆ ทีจะเห็นเพื่อนสาวคนนี้กลับบ้านช้า เธอเอาโน้ตบุ๊กขึ้นมาตั้งเล่นด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยจนน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ...เหมือนกับรอคอยอะไรบางอย่าง...
            ไม่เอาน่า อย่าคิดมากสิ!...น้ำอบคิดในใจ แล้วไล่ความคิดสกปรกที่เป็นความหวาดระแวงออกไปให้พ้น
            สาวน้อยเดินไปหาลูกหว้าที่นั่งหน้านิ่งอยู่อย่างแผ่วเบา แต่ว่าดูเหมือนว่าเพื่อนสาวคนนี้จะใจจดใจจ่ออยู่กับโน้ตบุ๊กเกินไป เลยทำให้ไม่รู้ว่าน้ำอบแอบย่องมาจนถึงด้านหลังเธอแล้ว
            เอาละ...จะแกล้งให้ตกใจจนตกเก้าอี้ไปเลย!
            น้ำอบพยายามหายใจเบาๆ แล้วเอื้อมมือสองข้างหมายจะแตะบ่าลูกหว้าอย่างไม่ให้เจ้าตัวรู้ตัวเสียก่อน แต่ทว่าเพียงแค่น้ำอบกำลังจะจับไหล่เพื่อนสาว น้ำอบก็ถึงกับหยุดชะงักไป ใบหน้าของเธอถึงกับซีดลงทันตา
            ไม่จริงน่า...!
            แกร๊กๆ...แกร๊กๆ
            เสียงลูกหว้าใช้นิ้วทั้งสิบสาละวนอยู่กับแป้นพิมพ์ แน่นอนว่ามันคงจะดึงดูดสมาธิของลูกหว้าไม่ให้สนใจใครทั้งสิ้น...แม้แต่คนที่ มายืนอยู่ด้านหลังแล้วเห็นความลับของเธอ!
            สิ่งที่อยู่บนหน้าจอโน้ตบุ๊กคือภาพเว็บไซต์ที่ดูท่าคงจะเชื่อมต่อกับ WIFI ของโรงเรียนนี้ แต่ทว่า...สิ่งที่ปรากฏและเฉิดฉายอยู่ตรงหน้ากลับไม่ใช่เพียงแค่เว็บไซต์ ธรรมดา แต่กลับเป็นเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยสื่อรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาเนื้อหาอนาจารเต็มบอร์ด ตระกูลหนังเรต R ทั้งหลาย กระทู้เว็บไซต์ที่มีแต่สื่อแนวอายุ 18+ หรือแม้แต่กระทั้งลูกหว้าที่ดูเหมือนจะเป็นสมาชิกอยู่ในเว็บไซต์แห่งนี้อยู่ เหมือนกัน
            คลิก!
            เสียงลูกหว้าคลิกเมาส์ทำให้ฉันตัดสินใจถอยหลังนี้ออกไปอย่างเงียบเชียบ ดูเหมือนว่าลูกหว้ากำลังเอาอะไรซักอย่างลงในเว็บไซต์เว็บนั้นอยู่อย่างใจจด ใจจ่อ แม้กระทั่งฉันเดินจากเธอไปแล้ว ลูกหว้าก็คงยังไม่รู้ตัวว่าฉันเคยยืนอยู่ตรงนั้น...ที่ข้างหลังของเธอ...
            บรื้นนนนนน...
            ฉันขับรถออกไปจากตัวโรงเรียนแล้ว พอดิบพอดีกับรถของพ่อและแม่ที่ออกมาจากโรงเรียนในเวลาเดียวกัน แต่ทว่าจุดมุ่งหมายของเราคงจะไปคนละทาง พ่อกับแม่ถึงได้เลี้ยวรถคนละฝั่งกับทางเข้าบ้านเราอย่างสิ้นเชิง

            < :: LAL PART :: >

            ทันทีที่เห็นป้ายนามสกุลสีทองสลักอยู่บนป้ายหินอ่อน การินก็ได้เลี้ยวเข้าไปโดยที่มีแม่บ้านเปิดประตูให้เข้าไป จนกระทั่งขับเข้าไปตามเส้นทางได้ไม่กี่เมตร ก็พบกับบ้านหลังงาม 2 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้าเรานี่เอง แต่ทว่าบ้านที่เห็นนั้นไม่ได้ดูฟู่ฟ่าซะเท่าไหร่ ออกแนวธรรมชาติมากกว่าจะเป็นบ้านแบบคนรวย ก่อนที่การินจะจอดรถอยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านของนีโดยไม่ได้ดับเครื่องยนต์
            บรืนนนนน...บรืนนนนน
            ดูเหมือนว่าการินจะไม่อยากลงจากรถคันนี้ง่ายๆ เขาก็เลยทำการเบิ้ลเครื่องยนต์เรียกคนในบ้าน ฉันแอบดุเขาด้วยสายตา แต่ทว่ามันก็ไม่ทันเสียแล้ว
            “เอ๊ะ? ใครมาเบิ้ลเครื่องหน้าบ้านฉันเนี่ย ...อ๊ะ!!!?”
            เจ้าของบ้านเดินออกมาดูด้วยตาตัวเอง แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อฉันเห็นว่าคนที่คุ้นตากำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน ฉันก็เลยเดินลงมาจากรถแล้วทักทายด้วยรอยยิ้มบ้าง
            “เป็นไงบ้างนี สบายดีไหม? ^^?”
            “ลัล!!!? อ๊ายยยยยยย คิดถึงแกจังเลย! >_<!”
            ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย แต่ทว่าเพื่อนสนิทยังไงก็คือเพื่อนสนิทอยู่วันยันค่ำ เธอพุ่งตัวเข้ามากอดฉันอย่างดีอกดีใจ ในขณะที่ฉันฉีกยิ้มอย่างมีความสุขแล้วกอดเพื่อนคนนี้ตอบ
            “นึกว่าใครมาเบิ้ลเครื่องหน้าบ้าน กะจะออกมาด่าแล้วเชียว แต่ว่าเซอร์ไพรซ์มากมายที่รู้ว่าเป็นลัลนั่นเอง อุแหม ลมอะไรหอบมาล่ะเนี่ยยยย”
            เพื่อนได้ผละออกมาแล้วขยับแว่นให้เข้าที่ ถึงแม้ว่านีจะอายุมากแล้ว แต่ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ยังดูผิวพรรณดีอยู่เลย ยิ่งเธอปล่อยผมให้ยักศกยาวสลวย ยิ่งทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่และดูดีไปอีกแบบ
            “ใครมาล่ะนี?”
            เสียงผู้ชายอีกคนเดินออกมาจากบ้าน ดูเหมือนว่าเขาคงจะเพิ่งไปทำหน้าที่ในเครื่องแบบมา ถึงได้ยังแต่งตัวซะเต็มยศแบบนั้น
            “เดช ลัลมาเยี่ยมแน่ะ” ‘เดช’ หรือ ‘ชัยเดช’ คู่กัดกับนีตั้งแต่ตอนรู้จักกันใหม่ๆ ในตอนนี้ก็ได้มาร่วมหัวจมท้ายจนมีลูกชายด้วยกันแล้ว และดูเหมือนว่าลูกชายของนีจะยังไม่กลับมาบ้าน
            “ตำรวจนี่ท่าทางจะงานหนักน่าดูเลยนะเดช” ฉันพูดพลางส่งยิ้มให้ เดชหัวเราะร่าแล้วตอบกลับมา “ฮ่าๆๆ ยศระดับพันตำรวจโทก็ต้องมีหนักบ้างสิ ...แล้วการินไม่ได้มาด้วยเหรอ?”
            “มาสิ นั่นไง พูดถึงก็มาเลยนะ พ่อคนตายยาก”
            ฉันหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นการินดับเครื่องตรงหน้าบ้านนีนั่นแหละ แล้วเขาก็เดินลงมาจากรถพร้อมกับเดชที่ทักทายออกมาด้วยท่าทีที่ร่าเริงเหมือน เคยๆ
            “ไง การิน”
            การินพยักหน้าให้ด้วยสีหน้าเรียบๆ แต่คงจะเป็นเพราะพวกเรามีภูมิต้านทานการินกันมากพอล่ะมั้ง จึงได้ไม่รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศที่อยู่รายล้อมตัวการินแบบนี้
            “ลูกสาวคนสวยของเธอไม่มาด้วยเหรอลัล ตอนแบเบาะเห็นการินอุ้มเช้าอุ้มเย็นซะขนาดนั้น ฮะๆๆ”
            นีแซว ฉันส่ายหัวแล้วตอบแทนการิน
            “ไม่มาด้วยหรอก ที่มาหาเนี่ยเพราะจะมาธุระด้วย ...เกี่ยวกับคดีเมื่อ 3 ปีก่อนที่ห้องถ่ายเอกสารโรงเรียนของเราน่ะ”
            “!!!!!”
            ทั้งนีและเดชถึงกับหยุดชะงักด้วยกันทั้งคู่ ฉันยิ้มบางๆ ก่อนที่จะถามด้วยสีหน้าที่เย็นยะเยือก
            “คุยด้วยได้ไหม?”
            “...แน่นอน เข้ามาสิ”
            นีเชื้อเชิญเข้ามาในบ้าน แล้วเดินเข้าไปในนั้นพร้อมกับเดช ส่วนฉันก็เดินเข้าไปพร้อมกับการินที่เอามือมาโอบไหล่ฉันแล้วเดินเข้าไปพร้อม กัน

            “งั้นเหรอ? เข้ามานี่เพื่อจะมาขอรูปแบบคดีของ 3 ปีที่แล้ว ที่เป็นเกี่ยวกับรายละเอียดของคดีฆาตกรรมและการคาดคะเนสาเหตุสินะ?”
            เดชถามด้วยสีหน้าที่สุขุมไม่เหมือนเคย ฉันพยักหน้า การินถามคำถามขึ้นมา
            “ฉันขอเอารูปแบบและหลักการของคดีนี้กลับไปไตร่ตรองดูได้ไหม?”
            “เกรงว่าจะไม่ได้ ...ถ้าไม่ใช้เส้นสายนะ” เดชยิ้มกริ่ม ฉันยิ้มแทนการิน
            “ขอบใจมากนะเดช”
            “ไม่ได้เพื่อตัวพวกเธออย่างเดียว แต่เพื่อการไขคดีและจับกุมคนร้ายในท้ายที่สุดตั้งหากล่ะ ...แน่นอนว่าฉันไม่เอาดีใส่ตัวหรอกนะ หึๆ”
            “ว่าแต่ว่าพวกเธอนึกยังไงถึงได้มาทำคดีนี้อีก ฉันว่า 3 ปีที่แล้วยังไม่ค่อยกระตือรือร้นในการสืบเท่าตอนนี้เลยแหะ” นีทำหน้าสงสัย ฉันพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มเย็นยะเยือก
            “...แรงบันดาลใจ...”
            “จากใครกัน?”
            การินตอบบ้าง “จากน้ำอบ”
            “ลูกสาวนายเนี่ยนะการิน!?”
            “เออ ...ลูกสาวฉันเนี่ยแหละ”
            “ให้ตายสิ! ทำไมล่ะ?” นียังไม่หมดคำถาม ฉันตอบเธอบ้าง “เรื่องมันยาว เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังทีหลัง ...ไหนล่ะรูปแบบคดีที่ฉันกับการินขอเอาไปอ่านน่ะ?”
            “อ๋อ เดี๋ยวแป๊บนึง...” เดชลุกขึ้นจากโซฟา เขาหายไปซักพักพร้อมกับกลับมาด้วยแฟ้มสีเขียวหนาทึบ แน่นอนว่าภายในนั้นบรรจุไปด้วยกระดาษเต็มความจุ
            “นี่แค่ส่วนนึงเท่านั้น เดี๋ยวส่วนที่เหลือฉันจะเอาไปให้วันหลัง”


    ::: ~~~ To be continues ~~~ :::
    -------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×