เชี่ยวหลานเฟยเฟิ่ง จักรพรรดินีเลือดเย็น

            แคว้นซ่งและแคว้นเหลียนต่างก็เป็นแคว้นขนาดใหญ่ที่ที่มีแคว้นขนาดเล็กและชนเผ่าต่างๆ ภายใต้อาณัติมามาย 

            สู้รบกันมาเนิ่นนาน นอกจากจะเสียเวลาครึ่งศตวรรษโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ยังสูญเสียกำลังพลและกำลังทรัพย์ไปโดยไม่ได้สิ่งใดกลับมา 

ความไม่สงบของชายแดน ทำให้แคว้นซ่งและแคว้นเหลียนต่างต้องรับศึกจากแคว้นที่หมายจะครอบครองอำนาจของทั้งสองแคว้นเช่นกัน

มาถึงกาลขององค์ชายของทั้งสองแคว้นที่ต่างนำทัพเข้าห้ำหั่นกัน จากการพบกันในสนามรบทำให้ทั้งสองได้กลายเป็นสหายต่างแคว้นกัน เมื่อองค์ชายทั้งสองได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ จึงมีความเห็นตรงกันว่าควรจะยุติการศึกระหว่างทั้งสองแคว้นเสีย

เงื่อนไขของการยุติศึกที่ยาวนานมีหลายข้อ ทั้งด้านการทูต การแลกเปลี่ยนทางการค้า การเดินทางระหว่างเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย

และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับข้อแม้ที่สำคัญที่สุดสำหรับราชวงศ์ ก็คือ การอภิเษกระหว่างแคว้น

ทางแคว้นซ่งจะส่งองค์หญิงเพื่อมาอภิเษกที่แคว้นเหลียน

ขณะที่แคว้นเหลียนก็ต้องส่งองค์หญิงมาอภิเษกที่แคว้นซ่งเช่นกัน

โดยเจาะจงต้องอภิเษกกับรัชทายาท และฐานันดรขององค์หญิงต้องเป็นพระชายาเท่านั้น

บุตรคนแรก หากเป็นองค์ชาย ให้ใช้แซ่ของบิดา แต่หากเป็นองค์หญิง สามารถใช้แซ่ของมารดาได้

แต่ในรุ่นของฮ่องเต้ทั้งสองพระองค์ ก่อนการเจรจาเงื่อนไขสัมพันธไมตรีนี้ องค์รัชทายาทล้วนมีคู่หมายอยู่ก่อนแล้ว 

ดังนั้น ทั้งสองแคว้นจึงตกลงให้องค์หญิงอภิเษกเข้าตำหนักบูรพาในฐานะพระชายารอง ให้มีฐานันดรและอำนาจเทียบเท่าพระชายา

เมื่อรัชทายาทขึ้นเสวยราชสมบัติ พระชายาได้เลื่อนขึ้นเป็นฮองเฮา พระชายารองเลื่อนเป็นหวงกุ้ยเฟย ซึ่งปกติตามธรรมเนียม หากมีการแต่งตั้งฮองเฮาแล้ว จะไม่มีตำแหน่งหวงกุ้ยเฟยในวังหลังอีก แต่ครั้งนี้เป็นเงื่อนไขพิเศษที่ฮ่องเต้ของทั้งสองแคว้นทรงเห็นดีเห็นงาม เพราะแต่ละฝ่ายต่างต้องการอำนาจขององค์หญิงต่างแคว้นมาคอยถ่วงดุลอำนาจของตระกูลฮองเฮาในราชสำนัก

ทำให้หลายแคว้นและชนเผ่าต่างๆ ต่างไม่พอใจที่มีเพียงองค์หญิงจากแคว้นซ่งหรือแคว้นเหลียนเท่านั้นที่สามารถนั่งบนบัลลังก์ทองคู่กับโอรสสวรรค์ได้

รวมทั้งขุนนางในราชสำนักก็ต่างไม่พอใจ เพราะต้องการให้ฝ่ายของตนได้กุมอำนาจแห่งวังหลัง

องค์หญิงเชี่ยวหลานฟางอิ่ง พระธิดาคนเล็กแห่งแคว้นเหลียน พ้นวัยปักปิ่นมาหนึ่งปี ทั้งยังไม่มีคู่หมาย ถูกส่งมาอภิเษกกับรัชทายาทแห่งแคว้นซ่งเป็นคนแรก 

ส่วนทางแคว้นซ่งก็ส่งองค์หญิงเก้า ในวัยไล่เลี่ยกัน ซึ่งเกิดจากมารดาตำแหน่งกุ้ยเฟย ไปอภิเษกกับรัชทายาทแห่งแคว้นเหลียน

องค์หญิงเชี่ยวหลานฟางอิ่ง ให้กำเนิดธิดาองค์น้อยก่อนที่รัชทายาทจะขึ้นครองราชย์หนึ่งปี มีพระนามว่า เชี่ยวหลานเฟยเฟิ่ง หรือ องค์หญิงเชี่ยวหลาน พระธิดาลำดับสามแห่งรัชทายาทในขณะนั้น

แต่น่าเสียดายที่องค์หญิงเชี่ยวหลานฟางอิ่งร่างกายอ่อนแอจากการเสียเลือดไปมาก เมื่อครั้งประสูติพระธิดาองค์น้อย 

เมื่อเชี่ยวหลานเฟยเฟิ่งอายุได้หกขวบ พระมารดาก็สิ้นพระชนม์

เหลือเพียงหลิวรุ่ยหลินที่เป็นนางกำนัลคนสนิทของพระมารดาคอยอบรมเลี้ยงดู และเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่นมหลิว 

และมีนางกำนัลข้างกายที่มีตำแหน่งเป็นพี่เลี้ยงอีกหนึ่งคน คือ หลิวรุ่ยเสียหรือรุ่ยเสีย ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของแม่นมหลิว

ชีวิตในวังหลังของเชี่ยวหลานเฟยเฟิ่งจะเป็นอย่างไรต่อไป

เหตุใดจึงมีคนขนานนามนางว่าเป็น จักรพรรดินีที่เลือดเย็น โหดเหี้ยม อำมหิต จิตใจหยาบช้า เจ้าอารมณ์ ร้อยเล่ห์มารยา ใจไม้ไส้ระกำ ผู้คนรังเกียจ แล้วก็...

เชี่ยวหลานเฟยเฟิ่ง : เอิ่ม... พอเถอะ ดูเหมือนว่าตัวข้าจะหาดีไม่ได้เลย

ผู้เขียน : จะ..เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ พอก็ได้