[[นิยามบาดใจวัยสะรุ่น]]
หวัดดีจร้า คราวนี้นู๋จางอิงมาพร้อมกับนิยายดีๆ ที่ประทานให้ทุกๆคนเอาไว้เป็นเกล็ดชีวิต อิอิ มาลองอ่านดูกันน้า
ผู้เข้าชมรวม
319
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Jarng_Eing’s Story
ดาบที่ทุกชักออกมาต่อสู้
และมีเลือดของศัตรูนั้น
เป็นเพียงชัยชนะจอมปลอม
ที่หาได้ง่ายดาย
หากดาบที่ถูกชักออกมาต่อสู้
แต่ไร้เลือดของศัตรู
นั่นแลคือชัยชนะที่แท้จริง
มนุษย์ต่างไม่ยอมรับความเจ็บปวด
ไม่ยอมรับความทุกข์
ไม่ยอมรับการสูญเสีย
หากแต่ความรู้สึกเหล่านี้
คือเครื่องยืนยันว่าเรายังมีชีวิตอยู่
และพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ในวันพรุ่งนี้
หากโลกใบนี้ไม่มีเวลากลางคืน
พระจันทร์คงไม่สามารถสาดแสงนวลได้
หากโลกใบนี้ไม่มีมุมที่มืดมิด
คงไม่เห็ฯแสงสว่างที่ปลายทาง
หากโลกนี้ไม่มีอุปสรรค์
ชีวิตของเราคงไม่มีความหมาย
แม้มีดาบที่แข็งแกร่ง
และสวยงามที่สุดในโลก
ก็มิอาจสู้กิ่งไม้เล็กๆ
ในมือของผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็ง
ดุจเหล็กหล้า
ต่อให้มีกระจกที่ใสราวพื้นน้ำ
ที่สามารถสะท้อนทุกอย่างได้เหมือนของจริง
ก็ไม่สามารถสะท้อนภาพในจิตใจของเรา
ได้ชัดเจนดั่งกระจกแห่งความรอบรู้
ในดวงตาของเราเอง
ของที่ได้มาฟรีๆ
ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน
ก็ไม่น่าภาคภูมิใจ
แต่ของที่ต้องทุ่มเทพยายามเพื่อให้ได้มา
ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน
ก็คือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตเรา
พวกเราทุกคนชอบมองคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว
และยกย่องคนที่ยิ่งใหญ่อย่างภาคภูมิใจ
หากแต่เวลาที่คนเหล้านี้กำลังพยายามเพื่อมาถึงจุดแห่งแส้นชัย
พวกเราไม่เคยแม้แต่เหลือบสายตาหันกลับไปมองเลย
โลกนี้ช่างแปลกนัก
มีบุคคลเพียงสองคน
ที่ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้อรู้จักให้ได้มากที่สุด
หนึ่งคือคนที่เรารักยิ่งชีวิต
สองคือศัตรูที่เราเกลียดชัง
แต่จุดประสงค์กลับต่างกันโดยสิ้นเชิง
อาวุธก็เหมือนสัญลักษณ์แห่งการทำลายล้าง
แต่ในทางตรงกันข้าม
มันคือสัญลักษณ์แห่งการปกป้องเช่นกัน
ปกป้องผู้ที่ถือมันจนกว่าจะหักสะบั้นลง
ถ้ามัวแต่กางร่ม
ก็ไม่รู้สิว่าเม็ดฝนเป็นอย่างไร
ถ้ามัวแต่กลัวล้ม
ก็คงไม่มีวันที่จะวิ่งได้
ถ้ามัวแต่รอใครพยุง
ก็คงไม่เห็นคุณค่าของความพยายาม
ความกลัวเป็นคำที่ถูกประณามว่าเป็นคำขลาด
ถูกประณามว่าเป็นเครื่องหมายของคนอ่อนแอ
แต่จงกลัวไปเถิด
เพราะมันคือความรู้สึกแรก
ก่อนที่จะย่างก้าวไปสู่คำว่ากล้าหาญ
การหลอกลวงและการโกหก
เป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับทุกคนสินะ
แต่ถ้าคำพูดเหล้านี้ถูกใช้
เพื่อให้หัวใจใครบางคนเข้มแข็งขึ้น
มันจะเลวร้ายรึปล่าว??
เพราะเรามัวแต่ไม่กล้า
จึงถูกรังแก
เพราะมัวแต่ไม่รู้จักปฎิเสธ
จึงตกเป็นรอง
ในโลกนี้ไม่มีใครรังแกเราได้
นอกจากเรา...
ที่รังแกตัวเราเอง
คุณคงกล่าวคำว่า..เสียใจด้วยนะ...
กับใครซักคนที่เสียคนที่รักไป
คุณคงปลอบใจใครคนนั้นราวกับรู้ความเจ็บปวดเสียเอง
แต่คุณไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร
นอกเสียจากคุณจะสัมผัสมันเอง
ผู้ที่จะมายืนบนจุดที่เรียกว่าผู้นำได้
ไม่ใช่บุคคลที่เก่งกาจที่สุดหรือมีฝีมือที่สุด
หากแต่เป็นบุคคลที่สามารถเรียนรู้
จากสิ่งที่เรียกว่าความพ่ายแพ้
จนเข้าใจความหมายที่แท้จริงของมัน
ทำไมต้องมัวแต่เดินตามหลังอัจฉริยะ
ทำไมต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคนเหล่านั้น
ในเมื่อหากมีความมุ่งมั่นแล้วไซร้
เราเองก็สามารถเป็นคนธรรมดาสามัญ
ที่เก่งกาจที่สุดได้
ไม่ว่าจะเป็นของสิ่งใด
เมื่อยามพังเสียหาย
ก็ต้องถูกโยนทิ้ง...กลายเป็นขยะ
แล้วคนที่โยนทิ้งล่ะ ยามสิ้นลมหายใจ
ก็ต้องกลับสู่ดิน
กลายเป็นขยะเหมือนกันใช่หรือปล่าว
หากก้าวล้ำนำหน้าก็จะถูกชิงชัง
หากก้าวถอยหลังก็จะถูกตราหน้า
หากก้าวเสมอผู้อื่นก็จะไม่ไปไหนเสียที
นี่แหละ คือโลกของการแข่งขัน
อย่าได้คิด
โอดครวญให้กับชะตาชีวิต
เพราะชะตาชีวิต
จะไม่มีวันอ่อนข้อให้กับเรา
แม้อยากทำตามที่ใจนึก
แม้อยากโอดครวญระบายความเจ็บปวด
ก็มิอาจทำได้ดั่งใจ
เพราะสิ่งที่ตีตรวนฉุดกระชากไว้
คือหน้าที่และศักดิ์ศรี
ถึงฟังด้วยหู ใช่แปลว่ามิใช่การหลอกลวง
ถึงเห็นด้วยตา ใช่แปลว่ามิใช่ภาพหลอน
ถึงสัมผัสด้วยมือ ใช่แปลว่ามิใช่ของปลอม
แล้วความจริงที่แท้นั้นคืออะไร
หากเราไร้ซึ่งความเชื่อใจในตัวเราเอง
แสงสุริยันลาลับฟ้า
แต่เราเชื่อว่าพรุ่งนี้แสงสุริยันจะทอประกายอีกครั้ง
เราเชื่อเช่นนั้นและเป็นเช่นนั้น
แต่หากวันใดสุริยันไม่ทอแสงเช่นที่เราเชื่อ
สิ่งที่เรายึดติดนักหนา
ก็จะกลายเป็นดาบสองคมที่ทิ่มแทงตัวเราเอง
ที่รู้สึกว่าความหวังไกลออกจากมือ
ไม่ใช่ว่าเราไม่คู่ควรกับมันหรอก
หากเป็นเพราะเรามัวแต่หยุดอยู่นิ่ง
และเอาแต่พูดซ้ำๆว่า
‘ไม่มีทางเป็นไปได้’ ต่างหาก
ประวัติศาสตร์
เป็นเพียงหน้าหนึ่งจากบทเรียนในอดีตให้เราเรียนรู้
ชีวิตเราก็คือประวัติศาสตร์
ที่เราควรเรียนรู้อดีตที่ผ่านมา
เพื่อแก้ไขปัจจุบันและอนาคตให้ดีที่สุด
อย่ามองใครจากหน้าตา
เพราะมันอาจหลอกเราได้
อย่ามองใครจากความร่ำรวย
เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน
ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้
เพราะเพียงยิ้มเดียว
ก็ทำให้วันที่หมองหม่นกลับสดใสอีกครั้ง
อย่าพูดว่าทำไม่ได้ทั้งที่ยังไม่ได้ลองทำ
ไม่มีสิ่งใดได้มาง่ายๆโดยไม่แสวงหา
อย่าท้อแท้ท้อถอยเสียแต่แรกเริ่ม
ยอดเขาที่สูงที่สุด
มนุษย์ก์ยังพิชิตมาแล้ว
ดวงจันทร์ที่เคยได้แต่แหงนมอง
หลายคนก็ไปฝากรอยเท้ามาแล้ว
สิ่งที่เป็นไปไม่ได้แท้จริงแล้วก็อาจเป็นได้
หากพูดว่าทำไม่ได้ทั้งที่ยังไม่ได้ลองทำ
ก็ไม่มีวันที่จะทำได้
จิตใจเปรียบดั่งน้ำบริสุทธิ์
ส่วนสิ่งปรุงแต่งทั้งหลายคือรูปลักษณ์ภายนอก
คนส่วนมากมักหลงใหลไปกับ กลิ่น สี และรสหอมหวานติดลิ้น
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า
ทั้งหมดนั้นไม่สามารถแก้กระหายได้
น้ำต่างหากคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ
การเดินทางของวันเวลาอาจดูยาวนาน
หากเราปล่อยเวลาให้ปล่าวประโยชน์
หากเราเดินทางไปพร้อมกับวันเวลา
ทุกย่างก้าวก็จะมีความหมาย
ตราบเท่าที่หัวใจยังไม่หมดลาน
ถ้ารู้ว่าเป็นได้เพียงดอกหญ้า
ก็ต้องเป็นดอกหญ้าที่โอ่อ่าและอิ่มเต็ม
กับวันเดียวที่ได้เป็นดอกหญ้าในทุ่งกว้าง
ได้เบ่งบานได้ท้าทายกับสายลม
แม้ว่าจะต้องร่วงโรยหลังอาทิตย์ลาลับ
แต่ชีวิตหนึ่งนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเสียดาย
อุดมคตินั้นเสมือนดวงดาว
ท่านแตะต้องมันด้วยมือไม่ได้
แต่เช่นเดียวกับคนเดินเรือในท้องสมุทร
เชาจะใช้ดวงดาวช่วยนำทาง
แล้วแล่นเรือไปถึงจุดหมายปลายทางได้
นางนวลที่เติบโตเต็มที่แล้ว
ย่อมออกหากินด้วยปีกและปากของตัวมันเอง
มนุษย์เมื่อเติบโตเต็มวัยก็ควรมีเกียรติแห่งตน
ควรแสวงหาความภูมิใจในชีวิตด้วยตนเอง
Present by Jarng_Eing
ป.ล. ช่วยเม้นด้วยน้า จุฟๆ>o<
ผลงานอื่นๆ ของ ~Miz-J~ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ~Miz-J~
ความคิดเห็น