คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #66 : [SF] เมีย [ครึ่งหลัง .03]
เมีย ครึ่งหลัง [.03]
ชายหนุ่มโยนเสื้อไว้บนโซฟาก่อนที่เขาจะล้มตัวลงไปนอนบนนั้นอย่างคนหมดแรง ชวมินโฮพึ่งรู้ตัวเองเดี๋ยวนี้ว่าเขาเหนื่อยมาก เหนื่อยกับเมีย เหนื่อยกับเรื่องที่บ้าน แล้วกว่าจะพาคุณเมียสุดแสบกลับมาที่รังรักได้ก็เล่นเอาเขาแทบบ้า ไม่รู้ว่าอยากแกล้งเขาให้ขายหน้าต่อหน้าตระกูลตัวเองหรืออย่างไร ลีแทมินถึงได้ขี้อ้อนรั้งจะนอนอีกสักคืน ตอนตกลงกันก็ทำทีเข้าใจอย่างชัดเจนแต่พออยู่ต่อหน้าพ่อแม่แทมินก็กลับคำเอาซะดื้อๆ โดยเฉพาะอยู่ต่อหน้าคิมซูโฮที่ต้องมาทำงานในบ้านใหญ่ตอนที่เขาและภรรยาอยู่ด้วยกัน เมื่อกลับมาถึงเรือนหอร่างเล็กก็รีบร้อนเปิดประตูรถวิ่งหายเข้าไปในบ้านแล้วก็คงล็อคประตูห้องนอนเสร็จสรรพ
เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงที่เขานั่งจมปุกอยู่บนนั้น หมดเบียร์ไปแล้วสองกระป๋อง โทรศัพท์แบตหมดตั้งแต่กลางวันยังไม่ได้ชาร์จครั้นจะเรียกนาบีลงมาใช้งานแต่พอเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือป่านนี้แล้วแม่บ้านที่จ้างมาก็คงจะกลับบ้านกลับช่องกันหมด
ชายหนุ่มลุกขึ้นอย่างไม่ค่อยมั่นคงเพราะเบียร์สองกระป๋องทำให้เขามึนหัวนิดหน่อย ร่างสูงเดินตรงไปที่ห้องครัวหวังจะหาอะไรกิน เพราะอยู่บ้านเมียเขากินอะไรไม่ลงจริงๆ
“คุณมินโฮ”
“ซูยอง?”
ชายหนุ่มตื่นเต้นและดีใจมากที่สุดเมื่อเจอแม่นมคนสนิท หญิงวัยกลางคนยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วก็ดันตัวเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้ บนโต๊ะอาหารที่ว่างปล่าวในตอนแรกถูกจัดอาหารลงมาวางทีละอย่างๆแล้วไม่นานข้าวสวยร้อนๆก็ลงมาวางตาม
“คุณหนูแทมินเธอน่ารักมากนะคะ มื้อกลางวันเธอก็เตรียมให้คุณ”
แม่นมซูยองตักซุบหอมๆวางไว้ข้างๆกับเนื้อหมูผัด หล่อนรู้ว่ากับข้าวพวกนี้เป็นของโปรดมินโฮทั้งนั้น
“คุณแม่ให้ซูยองมาหรอ?”
“ค่ะ คุณผู้หญิงท่านน่ะกลัวว่าสาวใช้ที่คุณมินโฮหามาน่ะจะไม่ถูกใจคุณหนู”
“ซูยองไม่ต้องเหนื่อยขนาดนั้นหรอกครับ ยังไงซะผมกับเขาก็คงไม่ได้ทานอาหารร่วมโต๊ะกัน”
“โถคุณมินโฮ น่าตีนักเชียวแต่เอาเถอะค่ะ รีบทานแล้วก็รีบขึ้นหาคุณหนูเธอเถอะ นมเห็นตาแดงๆคิดว่าคงจะทะเลาะอะไรกันมาแน่”
เขาแค่นยิ้มแล้วก็ทานข้าวต่อจนหมด พอจะช่วยแม่นมจัดการทำความสะอาดส่วนที่เหลือกลับเป็นหล่อนซะเองที่เร่งเร้าเขาให้รีบขึ้นไปข้างบนเสีย
ร่างสูงยืนนิ่งอยู่หน้าบานประตูสีขาว เสียงรอบข้างเงียบสนิทเหมือนกับคนด้านใน เขาไม่รู้ว่าแทมินจะหลับหรือยังมือที่ยกค้างกำลังจะเคาะประตูหยุดนิ่งเมื่อรู้สึกว่าคนด้านในกำลังจะเปิดออกมาข้างนอก
“คุณ!?”
แทมิมทำท่าจะชักประตูกลับแต่ร่างสูงกลับยึดลูกบิดเอาไว้แล้วก็แทรกตัวเข้าไปด้านใน กลิ่นหอมสะอาดทำให้เขารู้ว่าแทมินพึ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ
“คิดว่านอนแล้วซะอีก”
“หลีก”
“คืนนี้ฉันจะนอนด้วย”
“ชเวมินโฮ!”
ร่างเล็กขยับหนีเล็กน้อยเมื่อกลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ลอยมาปะทะจมูก เขาไม่อยากยุ่งกับมินโฮตอนนี้เพราะแทมินไม่รู้ว่าพอเมาแล้วชายหนุ่มคนนี้จะหน้ามืดหรือทำอะไรที่มันเกิดฝืนกำลังแทมินเข้า
“ทำท่าแบบนั้นกลัวฉันจะปล้ำหรือไง?”
เขานึกขำไอ้ท่าตัวลีบและสีหน้าหวาดๆของแทมิน ตอนอยู่บ้านแม่ไม่เห็นเป็นแบบนี้ พอได้หยอกครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง เดี๋ยวนี้เขาลืมตัวบ่อยครั้งที่ชอบแกล้งแทมินด้วยการจูบ โกรธก็จูบ โมโหก็จูบ แทมินทำหน้าขัดใจก็ยิ่งอยากจูบและก็กว่าจะนึกได้อีกครั้งก็เพราะอยู่ใกล้ร่างเล็กทีไรก็มักมีแรงดึงดูดให้แตะนั่นแตะนี่อยู่เสมอ
และคราวนี้ก็เช่นกันตอนที่เขารั้งเอวบ้างเข้ามาใกล้และกอดร่างผอมบางแน่นๆจนเจ้าตัวร้องโวยวายแต่ก็เพียงไม่นานเมื่อเขาประทับจูบริมฝีปากนุ่มอย่างอดใจไม่ไหว เขาดันตัวแทมินทั้งที่ยังจูบไม่ปล่อยเข้าไปในห้อง อีกมือที่ว่างอยู่ก็ดันประตูปิดแล้วก็ล็อค กลอน อย่างที่ว่าต่อให้แทมินจะตะโกนโวยวายหรือร้องเรียกให้ใครช่วย เรือนหอราคาหลายล้านวอนที่ประกอบด้วยห้องที่ถูกตบแต่งไว้อย่างสมฐานะคงจะเก็บเสียงได้เงียบเชียบ เพราะฉะนั้นแล้วเขาถึงปล่อยร่างเล็กที่กำลังดีดดิ้นออกจากอ้อมกอด พอแทมินยืนยิ่งอย่างมั่นคงฝ่ามือนิ่มๆถึงได้ฟาดเข้าฉาดใหญ่บนใบหน้าของเขา
“ฉันไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของคุณจากคิมซูโฮ เพราะฉะนั้นได้โปรดให้เกียรติฉันด้วย!”
“แล้วไอ้ที่เทียวประกาศต่อหน้าคนอื่นอย่างนั้นอย่างนี้ บอกว่าฉันเก่งมากไม่ใช่หรือไงเรื่องบนเตียงน่ะ แทบทำเอาเธอลุกไม่ขึ้น”
“เพราะฉันแค่อยากเอาชนะคนของคุณ แค่เห็นมันดิ้นตายฉันก็สะใจแทบบ้า กว่าจะครบสามเดือนมันก็คงกลายเป็นหมาบ้าพอดี!”
“ลีแทมิน!”
“โอ้ย!ปล่อยสิวะ ไอ้บ้าปล่อยฉัน!”
“ปากดีแบบเธอเนี่ยมันน่าเอาเลือดออกซะหน่อยนะ”
“ทำไม! ตอนนี้ไม่ได้อยู่ต่อหน้าแม่ฉันแล้วนี่ จะทำอะไรตบฉันหรอ เอาสิ!อยากตบก็ตบสิ!”
แทมินตะโกนใส่หน้าเขา แรงบีบที่ต้นแขนเริ่มหนักขึ้นจนคนปากเก่งเริ่มก่อนเกิดความรู้สึกหวาดกลัว เพราะไปท้าชเวมินโฮโดยที่รู้ว่าต่อให้เขากล้าตบเขาก็ไม่ทำเพราะสิ่งที่เขาเลือกจะทำคือจับแทมินโยนลงบนเตียง
“ฉันมีวิธีที่จะเอาชนะคนอย่างเธอจนเธอเจ็บไปจนวันตาย”
“ชเวมินโฮ ไอ้บ้า!!!ปล่อยฉันนะ!!!!”
สองแขนถูกเขาขึงนาบไปกับพื้นเตียง แรงกดทับที่ตามลงมาทั้งตัวสร้างความอึดอัดจนแทมินแทบเป็นบ้า ซอกคอขาวๆถูกริมฝีปากของเขากระตุ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสื้อผ้าที่บรรจงใส่อย่างเรียบร้อยก็ถูกเขาฉีกทึ้งอย่างใจร้อน
ไม่เหมือน….มันไม่เหมือนหลายครั้งก่อนหน้านี้
“ขอร้อง…มินโฮขอร้อง…ยะ…อย่า…”
“จำไว้แทมินนี่คือบทเรียนจากฉัน!”
เขากระซิบที่ข้างหูแล้วก็ไล่ขบเม้มมาตามแนวลาดไหล่ ผิวของแทมินขาวมากพอริมฝีปากแนบลงไปรอยสีแดงจึงได้เกิดง่ายทั่วตัวแบบนี้ แล้วมันก็ช่างสวยงามเมื่อมันถูกประดับบนผิวขาวนุ่มนิ่มของร่างบาง
ความหวาดกลัวและไม่คุ้นชินที่ถูกคนอื่นแตะต้องตัวทำให้ร่างเล็กพยายามผลักดันสัมผัสเหล่านี้ ไอเย็นๆลอยมาปะทะผิวบอบบางเสียจนนึกอาย แทมินตัวเปลือยเขาก็เช่นกันนอกจากไม่อายชายหนุ่มยังจัดการทำมากกว่าทุกครั้ง เขาตั้งตัวครอบครองร่างกายของแทมิน แรงอารมณ์ที่ถูกเขาปลุกปั่นถูกกระตุ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจากริมฝีปากหรือฝ่ามือ
เสียงครางทุ้มต่ำดังอยู่ข้างหูเมื่อเขามัวเมากับรสสัมผัสผิวขาวๆ ไม่ว่าความถูกต้อง ความไม่ชอบ หรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกอย่างล้วนเหนือการควบคุม ทั้งมินโฮและแทมินลืมทะเบียนสมรสลืมความตั้งใจสำหรับการแต่งงานลืมแม้กระทั่งภาพของใบหย่าที่ต่างคนต่างต้องการหลังจากสามเดือนต่อจากนี้
“อ๊า!!!!เจ็บ!!!!!ปล่อยนะ!!!!!”
ความตึงแน่นตรงช่วงล่างสร้างความเจ็บปวดเสียจนต้องร้องตะโกนให้ชายหนุ่มหยุดขยับเสียที อารมณ์ในตอนนี้แตกต่างกัน ชเวมินโฮที่เต็มไปด้วยความสุขเมื่อเคลื่อนผ่านความคับแน่นเข้าไปเรื่อยๆ แต่กับอีกคนที่ถูกบังคับขืนใจไม่มีความจำยอมไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับมัน แม้ว่าจะถูกชเวมินโฮกระตุ้นด้วยอารมณ์ปรารถนาซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม
ความเจ็บปวดมันมีอยู่ทั่วทุกที่แต่ที่เจ็บหนักที่สุดคือตรงนี้…เนื้ออกข้างซ้าย ที่ถูกเขาจัดการอย่างไม่เหลือชิ้นดี
“อา….แทมิน…บ้าเอ้ย!ทำไมแน่นแบบนี้วะ!”
เขาคำรามแล้วก็จัดการเดินหน้าต่อ หลายต่อหลายครั้งที่บีบเค้นจนร่างเล็กๆแทบแหลกสลาย เขาไม่สนว่าแทมินจะรู้สึกอย่างไร นอกจากสั่งสอนก็คงทำหน้าที่สามีได้อย่างเสร็จสมบูรณ์
“คุณมินโฮ”
“ซูยองถ้าเกินสิบโมงแล้วช่วยขึ้นไปดูเขาหน่อยแล้วกัน”
“ทำไมหรือคะ?”
“รายนั้นคงตื่นสายตามปรกติแต่วันนี้อาจจะสายหน่อยหรือไม่ตื่นเลยก็ได้ ยังไงซูยองช่วยเป็นธุระจัดหาข้าวปลาให้เขาทานที”
“ค่ะคุณมินโฮ”
แม่นมรับคำแล้วก็นึกฉงนอยู่ไม่น้อยที่คุณชายชเวมินโฮเดินยิ้มอย่างอารมณ์ดีลงมาได้ ทั้งที่เมื่อคืนได้ยินเสียงทะเลาะกันจนคนแก่อย่างเธอเป็นห่วง แต่ไม่นานทุกอย่างก็เงียบสนิทจนตอนเช้า
แม่นมเดินขึ้นไปด้านบนแล้วก็เคาะประตูตามมรรยาท เธอรออยู่ครู่หนึ่งก็ไม่มีใครเปิดออกมาเสียที เธอจึงตัดสินใจเปิดเข้าไปด้านใน ภาพที่เห็นทำให้ซูยองแทบลมจับ ข้าวของภายในห้องกระจัดกระจายราวกับผ่านสมรภูมิรบมาตลอดทั้งคืน ร่างคุณหนูน้อยขดตัวอยู่ใต้ผืนผ้า ผิวขาวๆมีรอยแดงเป็นจ้ำทั่วตัว
“คุณหนู”
“อือ…..”
ไม่มีเสียงตอบรับจากปากคุณหนูน้อยนอกจากอาการอ่อนเพลียและเพ้อเพราะพิษไข้ ร่างกายผอมบางสั่นเทาและครางเพราะความเจ็บตอนที่ซูยองบรรจงเช็ดตัวให้อย่างเบามือ
“คุณซูจอง”
แทมินพยายามจะลุกหนีเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าข้างกายไม่มีคุณสามีอยู่ด้วย มีแค่แม่บ้านแล้วก็ข้าวต้มส่งกลิ่นหอมฉุยวางอยู่ข้างเตียง
“ไม่ต้องลุกหรอกค่ะคุณแทมินเดี๋ยวนมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้”
“มะ….ไม่ต้องฮะ”
แทมินพยายามขยับหนี สะโพกนิ่มระบมจากเมื่อคืนมากโขแม้บนพื้นเตียงนุ่มถ้าเคลื่อนผิดท่าก็เจ็บจนน้ำตาจะไหล
“ให้นมช่วยเถอะค่ะ”
แม่นมซูยองว่าแล้วก็ช่วยจัดการให้คุณหนูน้อยได้นอนในท่าที่สบายมากขึ้นพร้อมกับชุดใหม่เอี่ยมที่นำมาเปลี่ยนให้ น่าอายซะจริงยังดีที่เป็นแม่นมของมินโฮที่กระทำต่อแทมินด้วยความเมตตากรุณาจัดเตรียมอาหาร เสื้อผ้ามาให้ ไม่ปล่อยให้เขาเจ็บปวดจนตายบนเตียงเหมือนคนใจร้าย
“ไค”
“ฮายเบบี๋~ เป็นอะไรน่ะ? ร้องไห้หรอ?”
“อยู่ไหน มารับหน่อยได้มั้ย”
“บ้านผัวเธอหรอ อะ….โอเค เดี๋ยวฉันไปเดี๋ยวนี้เลยที่รัก”
ชายหนุ่มหนักใจอยู่ไม่น้อย นานๆครั้งแทมินจะโทรมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแบบนี้ พอได้ฟังเขาก็เริ่มใจไม่ดีไม่รู้ว่าร่างเล็กจะเป็นอย่างไรบ้าง เขาเหยียบคันเร่งพอๆกับความคิดที่มันเตลิดไปก่อนหน้านี้แล้ว
เป็นอย่างที่คาดไว้ ร่างเล็กนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นบันไดหินอ่อนแลล้วก็ร้องไห้เพียงอย่างเดียว พอเห็นเขาแทมินก็วิ่งเข้ากอด ทั้งสะอื้นจนตัวโยน
“เป็นอะไรไปแทมิน?”
“ไค ฮึก!...ไอ้บ้านั่น…ฮึก…มะ….มันปล้ำฉัน”
“เวรเอ้ย!”
“ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้หา!”
“ฮึก….พาฉันไปจากที่นี่ คะ…คอนโดนาย ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”
แทมินร้องไห้แล้วก็แทบฟังไม่รู้เรื่อง แม้ว่าการพาตัวแทมินมาจากเรือนหอหลายล้านจะเป็นเรื่องผิดมหันต์ แต่ใครจะสน แทมินเพื่อนคนเดียวของเขาต้องการความช่วยเหลือและคนที่ช่วยร่างเล็กได้ก็มีแต่เขาคนเดียว จงอินแทบเป็นบ้าตอนที่เห็นรอบๆลำคอและผิวขาวๆมีแต่รอยแดงเต็มไปหมด เขาไม่ได้ไรเดียงสาจนดูไม่ออกว่าไอ้รอยพวกนั้นมันเกิดจากอะไร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ควันบุหรี่สีขาวลอยฟุ้งออกมาจากร่างขาวๆที่กำลังนั่งสูบอยู่บนเตียง ร่างกายของแทมิน ใบหน้า หรือแม้แต่ริมฝีปากไม่ควรคู่กับนิโคตินพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะสถานะของไคเป็นแค่เพื่อนจึงไม่มีสิทธิ์ห้ามปราม
หลายชั่วโมงที่ลักพาเจ้าสาวหมาดๆออกมาจากเรือนหอ กระจกสีขาวถูกเปิดรับลมเย็นๆจากด้านนอกแทนการเปิดแอร์จากด้านใน ควันบุหรี่สีขาวลอยทั่วตัวแทมินแบบนั้นมาเป็นชั่วโมง
“น้ำหน่อยมั้ย?”
น้ำเย็นๆที่เขาพึ่งไปรินมาจากในครัวถูกยื่นไปแตะแก้มใสเบาๆ และร่างเล็กก็หันมามองด้วยสีหน้าเย็นชาเหมือนควันบุหรี่
“ไม่อ่ะ”
“กินอะไรมาบ้างหรือยัง?”
“ไม่”
“เลิกพูดคำว่าไม่สักที”
“อืม….” คำว่าอืมด้วยเหมือนกัน
พื้นที่บนผืนเตียงนุ่มยวบลงไปเมื่อเมื่ออีกคนจงใจนั่งลงมาแล้วก็คว้าบุหรี่ตรงหน้าของแทมินมาขยี้ทิ้ง แล้วทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นรวดเร็วแม้กระทั่งถูกดึงตัวเข้าไปจูบ
ไม่ใช่แล้วแบบนี้
“ไค…อื้อ!....ไม่!!!...อย่า….”
ในหัวมันตีกันยุ่งไปหมด แทมินพึ่งผ่านเรื่องแบบนี้มาเมื่อคืน ร่างกายยังเจ็บอยู่แล้วแผลตรงนี้ก็ยังไม่หายดี พอถูกซ้ำในใจมันก็เจ็บปวดจนต้องร้องไห้ออกมา
“ขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลยนะ”
“แบบไหน?”
“แบบเขา”
แบบที่เขาทำมันทำร้ายหัวใจกันมากเกินไป นอกจากเขาจะไม่รัก เขายังไม่สงสาร เขาเอาแต่ความสะใจตัวเองเป็นใหญ่แล้วทุกๆการกระทำของเขาก็ช่างสร้างบาดแผลให้แทมินมากเหลือเกิน เขาสร้างความทรงจำแย่ๆในหัวสมองแล้วก็บนร่างกายนี้อีก
จริงอยู่ว่าแต่งงานกันแล้วสามี มีสิทธิ์จะทำอะไรกับภรรยาก็ได้โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง แต่มันไม่ใช่กับชเวมินโฮและลีแทมิน เขาพูดกรอกหูอยู่เสมอว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางรักภรรยาของปลอมนี้เด็ดขาด
แต่การกระทำมันขัดกัน เขาไม่ได้รักแต่เขาทำร้าย ทำอย่างไม่สนเสียงร้องห้ามปราม แทมินขอให้เขาเมาซะยังดีกว่าอีก คำพูดของเขามันเจ็บแสบ เอาแต่คาดโทษแล้วด็ต่อว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะแทมินเพียงคนเดียว หลังจากเสร็จกิจเขาก็ทำเหมือนแทมินเป็นผู้หญิงหลายๆคนที่เขาเคยนอนด้วย อ้อมกอดของเขาไม่อบอุ่น ไม่มีคำพูดดีๆนอกจากสายตาของเขาที่หันกลับมามองอย่างคนเกลียดกัน
แล้วแบบนี้…เพื่อนที่ไว้ใจที่สุดยังทำให้นึกถึงมันอีกหรอ
“ลืมมันซะแทมิน”
“ไม่…ฮึก….ปล่อย ขอร้อง”
เขาดันตัวแทมินลงบนเตียงแล้วก็เริ่มจูบอย่างนุ่มนวล อาการขัดขืนเล็กๆของแทมินทำให้เขารำคาญแล้วรอยพวกนี้ที่มีอยู่ทั่วตัวก็เริ่มทำให้เขาโมโห
“เป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ ทำแบบนี้ทำไม”
“ก็อยากเป็นอย่างอื่น นายก็ไม่ให้ฉันสักที”
“…………………”
“ฉันโมโหจนอยากจะฆ่ามันจะตาย แต่เพราะมันเป็นผัวเธอ ฉันถึงต้องทนมองเธอกับมันใช้ชีวิตร่วมกัน ทำไมแทมิน มันเองก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอแล้วเธอทำไมไม่คิดถึงฉันบ้าง”
“มันไม่เหมือนกันไค”
แบบไหนที่ไม่เหมือน แบบเพื่อนหรือแบบไหน
“ต้องแบบไหนถึงจะเหมือน ต้องรอให้เธอรักมันก่อนหรือยังไง”
“ยังไงฉันก็ยังไม่หย่า”
“แล้วจะให้ฉันรอถึงเมือไหร่ สามเดือน สามปี หรือตลอดชีวิต แบบไหนที่จะมีที่ยืนในหัวใจเธอ”
เขาผละออกจากร่างปวกเปียกของแทมิน ร่องรอยของมินโฮทำให้เขาโมโหมากจริงๆแล้วพอเห็นน้ำตาของแทมินรวมถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไป บอกเลยว่ารังแกไม่ลง ตอนนี้แทมินกำลังหลงทางแล้วก็กำลังหาที่พักพิง
“ขอเวลาหน่อยให้ฉันหย่ากับเขา”
“ก็หย่าเลยสิ วันพรุ่งนี้เลย”
แทมินส่ายหน้า ทั้งที่พยายามเข้มแข็งแต่ก็ร้องไห้ออกมาอีกจนได้
“เธอเองมันประเภทรักพ่อแม่ รักตระกูล ทั้งๆที่ดื้ออยู่แล้วแท้ๆ ทำไมกันนะตกลงแต่งงานกับฉันตั้งแต่แรกเธอก็จะมีความสุขกว่านี้ แต่เพราะไอ้คำว่าเพื่อนของเธอฉันถึงทำอะไรไม่ได้สักที”
“ขอบคุณนะที่ไม่ทำร้ายฉันมากกว่านี้”
มันเป็นน้ำเสียงสั่นๆจากปากของคนขี้กลัวอย่างแทมิน ก็แค่ทำเป็นเก่งทั้งที่กลัวสุดชีวิต หยิ่ง และร้องไห้ในวันที่อ่อนแอ จงอินดึงร่างเล็กเข้ามากอดปลอบแล้วก็นึกเอ็นดูร่างเล็กๆที่เอาแต่ร้องไห้มากเหลือเกิน แม้จะกลัวว่าถ้าชเวมินโฮได้เห็นมุมแบบนี้ของแทมินก็จะหลงเข้าสักวันเหมือนกัน
ไม่มีทาง ไม่มีทางยอมแน่ๆ
ปากการาคาแพงในมือถูกหมุนเล่นอย่างไม่รู้จุดหมาย เสียงแอร์ในห้องทำงานอย่างดีเยี่ยมแต่กับคนที่ร้อนใจมาตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สงบลง แก้วกาแฟเย็นชืดจากเลขาสาวที่เทียวแวะเข้ามาเพื่อหาเรื่องพูดคุยกับท่านประธานหนุ่ม พอหล่อนแสดงตัวมากๆเข้าก็กลายเป็นน่ารำคาญ เขาจึงออกปากไล่
สายตาคมเหลือมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลกันนักหลายต่อหลายครั้งเผื่อว่าที่บ้านอาจจะโทรมาฟ้องอะไรบ้าง แต่มันเงียบมาสี่ชั่วโมงแล้วและเดี๋ยวนี้เวลาที่โทรศัพท์โชว์หมายเลขโทรศัพท์จากซูโฮเขาก็ไม่ตื่นเต้นเหมือนครั้งก่อน นอกจากไม่ตื่นเต้นยังรู้สึกเฉยๆ เพราะในหัวของเขามีแต่ภาพของเมียเต็มไปหมด โดยเฉพาะลีแทมินที่เพิ่งกลายเป็นกลายเป็นเมียหมาดๆทั้งสถานะและร่างกาย
ก็สมควรอยู่หรอกทั้งปากดีและอวดเก่งขนาดนั้น ถ้าทำตัวให้มันน่ารักไม่ดื้อเขาก็อยากจะสงสารอยู่บ้าง
“ใคร?”
“…………”
“ถ้าไม่พูดจะวางแล้วนะ”
“………….”
“ใครน่ะยาหยี?”
“ไม่รู้สิ โรคจิตหรือปล่าวไม่รู้ โทรมาแบบนี้หลายสายแล้วด้วยแถมยังไม่พูดอีก”
“ผัวเธอหรือปล่าว?”
“ฝันไปเถอะว่าจะเป็นเขา”
เสียงโทรศัพท์เงียบไปแล้วพอๆกับความคิดของคนที่พึ่งโทรไปเมื่อครู่ เขาเลิกฟุ้งซ่านรวมถึงการสำนึกผิดและนั่งกำโทรศัพท์ด้วยความโมโห
“ก็ไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่นี่แทมิน คิดว่าจะนอนป่วยตายบนเตียงซะอีก”
เขายิ้มเยาะกับความโง่เง่าของตัวเอง ภาพของเมียที่ถูกเขาทารุณอาการปางตายนอนซมเป็นผักอยู่บนเตียงตามรังควาญใจจนไม่เป็นอันทำงาน แล้วเขาก็คิดมากถึงขนาดนี้ที่ให้คนสนิทตามหาเบอร์มือถือของแทมิน แล้วก็ได้รู้ว่าตอนนี้ลูกสะใภ้คนดีของแม่นอกจากจะหายป่วยแล้วยังออกไปแรดกับผู้ชายคนอื่นแล้วเขาก็เดาไม่ผิดซะด้วยว่าเมียของเขาอยู่กับใคร
แสงไฟในบ้านสร้างความแปลกใจให้กับชเวมินโฮอยู่ไม่น้อย เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือที่ล่วงเข้าวันใหม่มาเกือบห้านาที ทำไมไฟในบ้านถึงยังเปิดอีก แล้วความสงสัยของเขาก็ถูกต้องเพราะร่างเล็กเดินถือกระเป๋าออกมาด้วยความรีบร้อน
“ถึงกับย้ายบ้านไปอยู่กับชู้เลยหรอ มันรอเธออยู่ไหนล่ะ?”
แทมินแปลกใจเล็กน้อยแล้วก็ตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะกลับมาตอนนี้ และดูเหมือนคนที่กำลังรีบจะไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับเขามากนัก นอกจากหลบและตรงไปที่โรงรถ
“นี่คนสวย ฉันถามก็ตอบหน่อยสิ”
“อ๊ะ! ปล่อยนะ!”
“แสบนักนะ จะไปไหน?”
“ปล่อย! จะไปไหนก็เรื่องของฉัน”
เพราะเขาบีบหนักมือขึ้นเรื่อยๆข้อมือผอมบางถึงทนต่อแรงชเวมินโฮไม่ไหว กระเป๋าเสื้อผ้าที่ตั้งใจถือมาอย่างดีหล่นไปกองที่พื้น
“เรื่องเธอคนเดียวที่ไหน เรื่องของฉันด้วยต่างหาก ไอ้เราก็รีบกลับมาเพราะกลัวเมียจะนอนตายบนเตียงซะก่อน แต่ที่ไหนได้ไปนอนให้ชู้เอาต่อซะงั้น”
“มันจะมากไปแล้วนะชเวมินโฮ!”
“ถ้าเกิดติดลูกขึ้นมา ฉันก็ชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าฉันหรือมันทำให้เธอท้อง”
คราวนี้แทมินทนไม่ไหวสะบัดมือตบหน้าเขาอย่างแรง แล้วมันก็ทำให้คนอย่างเขาหยุดคำพูดร้ายๆแล้วก็หันมาเล่นเกมส์จ้องตากับแทมินแทน เขาจะพูดยังไงก็ช่างเถอะยังไงซะแทมินก็ไม่ให้อภัยชเวมินโฮเด็ดขาด
“ใช่ ฉันจะท้องกับใครมันก็เรื่องของฉัน แต่ต้องไม่ใช่คุณ!”
เขาโมโหหนัก เขาลากแทมินที่เอาแต่โวยวายเข้ามาให้บ้าน และคนฤทธิ์มากอย่างแทมินไม่ได้หยุดด้วยการพูดจาโต้ตอบกันแค่นี้หรอก อย่างแทมินต้องรอจนกว่าจะเจอของจริงและคนจริงอย่างเขาก็มีวิธีปราบคนอวดเก่งให้จดจำ และทีหลังจะได้ไม่กล้าลงไม่ลงมือกับเขาอีก ความเก่ายังไม่ชำระความใหม่ก็เข้ามา
“ปล่อยฉันสิ!!!ชเวมินโฮ!!! ปล่อย!!!”
“ไหนๆก็ไปกับชู้อยู่แล้วนี่ กับฉันสักสองสามยกก่อนดีมั้ย”
“ไอ้บ้า! ปล่อยนะ!”
เสียงด่าทอดังลั่นพอๆกับร่างกายผอมบางดีดดิ้นไปมา เขาช่างอดทนลากแทมินมาจนถึงชั้นสองได้พอปล่อยมือเพื่อจะเปิดประตูคนที่ขัดขืนอยู่เมื่อครู่นี้ก็ดิ้นหลุดหวังจะหนีไปจากเขา
“ฤทธิ์เยอะนักนะคนสวย อยากโดนเอาต่อหน้าคนอื่นหรือยังไง!?”
“ปล่อยฉันนะ!ปล่อยสิ!”
ตะโกนให้ตายก็ไม่มีใครออกมาช่วยแทมินหรอก หรือตอนที่ร่างเล็กกลับเข้ามาในบ้านไม่ได้สังเกตเลยหรือยังไงว่าแม่นมเองก็ไม่อยู่ด้วย ชายหนุ่มยกยิ้มแล้วก็ลากเอาร่างเล็กที่กำลังขัดขืนไปโยนไว้ในห้อง
“ชเวมินโฮอย่านะ! ขอร้อง ไม่เอาแบบนี้”
ร่างเล็กแสดงออกทางสีหน้าว่าหวาดกลัวการกระทำของเขา เมื่อคืนก็บอกได้ชัดเจนว่าเขาบ้าพลังมากขนาดไหน แล้วด้วยความโมโหของเขาคงจะทำให้ร่างเล็กแหลกลาญคามือของเขาแน่
“กลัวหรอคุณหนู ทีตอนทำผิดไม่เห็นกลัว”
“ฉันทำอะไร?”
คุณหนูรุกรี้รุกรน พยายามหาทางหนีทีไล่แต่เขาก็ช่างเข้ามาใกล้ ไล่ต้อนความรู้สึกหวาดกลัวให้เข้ามาหาแทมินมากขึ้น เขาไม่เพียงแต่ไม่ตอบคำถาม กระดุมเสื้อที่ข้อมือเขาก็เริ่มแกะมันแล้วก็ตรงคอของเขาอีก สูทเนื้อดีก็ถูกเขาถอดแล้วโยนไว้บนพื้น
ร่างกายของเขาอาจจะทำให้คู่นอนใจสั่น และเซ็กส์ของเขาก็ทำให้เจ้าหล่อนพวกนั้นถวิลหาไปอีกหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะฝ่ามือแข็งแรงยามเมื่อเขาถอดเข็มขัดแบรนด์เนมออกมาเหวี่ยงทิ้งแทมินที่คิดว่ายังไงก็ไม่รอดแน่มีอยู่สองทางเลือกคือยอมง่ายๆเพื่อที่จะไม่เจ็บตัวมาก กับขัดขืนแล้วทุกอย่างก็รุนแรง
ไม่น่าเลือก
แล้วก็ไม่อยากเลือก
“พูดอะไรหน่อยสิ”
“อึก….”
“ทำไมถึงชอบทำให้โมโห”
“อ่า….อื้อ….!!!!”
แทมินจิกเล็กลงบนแผ่นหลังแข็งแรงของเขา ยิ่งลงน้ำหนักมือมากแค่ไหนก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาลงโทษแทมินแรงมากขึ้นมากเท่านั้น ความคิดทั้งหมดจดจ่ออยู่กับร่างกายของเขาที่ผ่านเข้ามาอย่างรุนแรง จนบางครั้งจุกจนพูดไม่ออก
“ขอร้อง…อึก….ยะ….อย่าทำให้เจ็บมากกว่านี้เลย…ฮึก….”
“เธอมันน่าโมโห”
เขากัดฟันแล้วก็ส่งกายอย่างหนักแน่นเหมือนครั้งแรก เขาไม่สนเพราะความขุ่นข้องหมองใจทั้งหลายเขาลงกับร่างกายของแทมินทั้งหมด ทั้งความโหยหาทั้งหมดทั้งมวลก็ลงกับร่างกายผอมบางนี้อย่างหนักมือเช่นกัน
“พอได้ไหม…รอบนี้”
แทมินเงยดวงตาช้ำๆขึ้นมองเขา เหงื่อกาฬผุดขึ้นตามไรผมสีเข้ม แล้วก็ไหลตามโครงหน้าหล่อเหลากลิ่นกายของเขาก็ช่างน่าเผลอไผล แทมินที่มองเขาผ่านม่านน้ำตาช่างเลือนรางเหลือเกิน แต่น้ำเสียงของเขา แรงบีบ รวมถึงอะไรหลายๆอย่างบอกกับแทมินว่าเขาเองก็ไม่สามารถหยุดร่างกายของตัวเองได้เหมือนกัน
“ไม่…”
“โกรธมากเลยหรอ?”
“ใช่”
“อ่า…อึก…ในเมื่อคุณ…อึก…คุณเองก็ทำแบบเดียวกัน”
“ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร!”
เขาตอบ ร่างผอมบางของแทมินถูกเขาพลิกหันหลัง สะโพกกลมถูกรั้งขึ้นสูงแล้วไม่นานความโล่งเมื่อเขาถอนตัวออกไป ก็ถูกดันกลับเข้ามาใหม่ซ้ำยังแรงกว่าเดิม แทมินสะดุ้งพยายามจะขยับหนีเขาหลายรอบแต่ไม่มีแรงเลย แทมินทำได้เพียงเอามือปิดปากกลั้นเสียงน่าอายเอาไว้ บางอย่างข้างในที่เขาปล่อยทิ้งไว้มันไหลย้อนมาตามง่ามขาแล้วพอเขาดันกายเข้าออกเสียงน่าอายมันก็ตามมา
“ทำไม ฉันมันอ่อนปวกเปียกมากขนาดที่เธอต้องไปหามันเลยหรือไง”
“…….อื้อ”
“อ้าปาก แล้วตอบ!”
เขาจับคางของแทมินตอนที่กอดร่างบางขึ้นมาทั้งที่ยังหันหลัง สองนิ้วล้วงเข้าไปในปากเหมือนจงใจจะให้แทมินเค้นคำสารภาพออกมาทั้งหมด เขาโกรธโมโห แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังโกรธอยู่
“อื้อ….อ๊า!.....ขอร้อง…ฮึก….เจ็บ…”
กลไกของร่างกายฝ่ายรับช่างน่าตื่นเต้นโดยเฉพาะการถึงจุดสุดยอดด้วยความรุนแรงที่ว่านี้ คุณหนูคนสวยผู้อ่อนต่อโลก ทำตัวกร้านโลกไปเท่านั้นทั้งที่ความจริงแม้แต่การมีเซ็กส์จริงๆครั้งแรกก็ยังไม่เคย
คุณหนูคนสวยนอนหายใจรวยรินอยู่ใต้ผ้าห่ม เปลือกตาปิดแนบสนิทข่มความเจ็บปวดไว้ในห้วงนิททราแม้จะข่มตาให้หลับอย่างยากลำบากเพราะทั้งคืนกว่าเขาจะปล่อยก็เกือบสว่างเข้าไปแล้ว มันช่างเป็นความเจ็บปวดที่ยาวนานและต่อเนื่อง แล้วร่างสูงที่ประคองกอดร่างเล็กเอาไว้แนบอกไม่ได้ทำอย่างเคยหรือทิ้งคู่นอนที่หลับไปอย่างมีความสุขเหมือนทุกครั้ง เขากอดแทมินเอาไว้จนเช้าแล้วก็แนบชิดมากซะจนไม่มีสิ่งใดๆสามารถแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ได้ แล้วอีกไม่นานเมื่อตื่นขึ้นร่างบางอาจจะโวยวายหรือไม่ก็ดีดดิ้นอย่างที่เคยทำ
“อื้อ….”
เพราะความอึดอัดทำให้ร่างบางครางฮืออย่างไม่สบายตัว แล้วไม่นานดวงตากลมโตก็ลืมขึ้นมาท่ามกลางความแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ถูกเขากอดแน่นมากแบบนี้
“ปล่อยนะ!”
“รบกวนคนที่หลับอยู่ตอนนี้ไม่ดีนะคุณหนู”
เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจเบียดร่างกายเปลือยปล่าวของตัวเองเข้ากับบั้นท้ายงามจนคุณหนูคนสวยรู้สึกถึงความอันตรายของเขา ที่แทมินรู้ว่าเขาตื่นเพราะบางอย่างจากตัวเขาเองมันดุดันอยู่ใต้ผืนผ้าห่ม แล้วคนดื้ออย่างแทมินก็ทนไม่ได้แน่หากเขาเกิดอารมณ์แล้วทำแทมินที่กำลังเจ็บเจียนตายตอนนี้
“ปล่อยฉัน!”
“เธอพูดคำนี้มาทั้งหมด 50 ครั้ง แล้วยังไงเห็นว่าถูกปล่อยหรือปล่าว?”
เขาซุกปลายจมูกไล่มาตามหลังคอ พรมจูบจนแทมินสั่นไปทั้งร่างแม้กระทั่งหดคอพยายามไม่ให้เขาลวนลามไปมากกว่านี้ แต่ไม่เคยได้ผลเลย สุดท้ายก็ถูกเขาจัดการแล้วก็นอนเจ็บอยู่อย่างนี้
“เก็บเสื้อผ้าจะไปไหน?”
“……………..”
“ฉันถามก็ตอบ อย่าให้โมโห”
“ไปบ้านแม่”
“ไปทำไม?”
“ไม่ตามไปตบชู้ของคุณก็แล้วกัน”
“อื้อ!!!!”
เขาลงโทษด้วยการดูดหัวไหล่กลมๆจนเป็นรอยแดง แล้วก็พาลถึงส่วนอื่นที่เขาเริ่มหมั่นเขี้ยว
“อยู่กับฉันมันลำบากมากขนาดนั้นหรือไง?”
“ใช่ อยู่กับคนที่เกลียดน่ะ ยังไงก็ไม่ดีขึ้นหรอก”
“งั้นก็คงต้องทน เพราะอีกสองเดือนครึ่งเธอคงต้องทนอยู่กับฉันให้ฉันทรมานอีกนาน”
“แล้วทำไมต้องเป็นฉัน เป็นซูโฮไม่ได้หรือยัง ถ้าอยากมากนักก็คู่ขาเก่าของนายสิ”
“ก็ทำไม่ได้เท่าเมีย กับเมียจะเอาเมื่อไหร่ก็ได้”
น้ำตาไหลอย่างกลั้นไม่อยู่ ไม่ใช่ไม่มีหัวใจแต่พอโดนย่ำยีมากๆเข้ามันก็เจ็บจนอยากจะตาย ยิ่งกับคนๆนี้ คนที่แทมินตั้งใจจะเอาชนะจนยอมแลกอะไรหลายๆอย่างสุดท้ายก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ซะเอง คิมซูโฮพูดถูกทุกอย่างว่าชเวมิโฮไม่เคยรักแทมินต่อให้เอาทะเบียนสมรสขึ้นมาขู่ หรือป่าวประกาศบอกใครต่อใคร คำว่าเมียที่ได้มาอย่างถูกกฏหมายแต่กลับถูกกระทำต่างกัน
เมียคือคู่ชีวิต ไม่ใช่คนที่ควรมาพ่นคำด่าหรือว่าร้ายให้ใจเจ็บ ข้อนี้ชเวมินโฮคงลืมไป
...........................................................................................................
มาแล้วนะ มาแบบทำร้ายน้องแทมินด้วยแหละ ช่วงนี้ก็เอื่อยอีกแล้วครับท่าน
ไม่ค่อยอัพเลยจริงๆ ช้าอีกแล้ว ขอบคุณคนที่ทวงฟิคแล้วก็ขอโทษด้วยจริงๆ
ที่ปล่อยให้รอนานขนาดนี้ อยากจะบอกว่าไปอ่านของคนอื่นบ้างก็ได้ อ่านรอฟิคเรา(อันนี้ได้)
แต่ห้ามหายไปจากฟิคเราเด็ดขาดอันนี้ไม่ยอม5555555 จริงๆเป็นคนรักแฟนฟิคมากนะ
รักม๊ากมากกกก ขอบคุณคอมเมนต์นะฮะ ขอบคุณโหวตด้วย
บางคนจำยูสได้ อยู่กับฟิคของ Gun’snwt มานานมาก ขอบคุณนะ
ความคิดเห็น