คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : [SF] Paradise สวนสวรรค์ ตอนที่ 11
บทที่ 11
น้ำตกสรวงสวรรค์ดังที่คิดชื่อนี้ในใจเหมาะนักจะเรียกสถานที่สวยงามแห่งนี้ ภาพวาดในจินตนาการที่เคยดูกับอี้ฟานเมื่อตอนยังเป็นเด็กของจริงสวยงามกว่ามากนัก ของจริงสัมผัสได้ มีกลิ่นมีความเย็น มีความสวยงาม เจ้าหญิงน้อยที่มัวแต่เพลิดเพลินกับสายน้ำเย็นฉ่ำ ตนนั้นว่ายน้ำไม่เป็นแต่กลับชอบเหลือเกิน อยากจะลงไปด้านล่างสัมผัสผิวน้ำดังที่เห็นเหล่ามัจฉาแหวกว่ายด้วยความสนุกสนาน
“เจ้าหญิงชอบหรือพะยะค่ะ”
คีย์เองก็อดตื่นเต้นไม่ได้ บินผ่านมาตั้งหลายหนไม่ได้มีโอกาสลงมาเล่นจริงๆเสียที และก็ยิ่งยิ้มดีใจเมื่อเจ้าหญิงน้อยฉายยิ้มถูกใจยิ่งนัก
“ป่านนี้องค์ชายจะยังมิกลับหรือ?”
“ไม่ต้องห่วงพะยะค่ะ ชเวมินโฮไม่มีทางว่าอะไรเจ้าหญิงแน่ๆหากเขาจะตามละก็นั่นเป็นอีกเรื่อง”
“เขาจะตามมา”
“แน่ละพะยะค่ะ หม่อมฉันสองคนลักพาพระชายามาถึงที่นี่ หากมินโฮรู้เข้าละก็”
“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรน่ะคิบอม”
“โธ่…พูดถึงมินโฮสักนิดสักหน่อยไม่ได้เชียว เป็นอะไรของเจ้านะ”
“หุบปากเถอะ ขออภัยพะย่ะค่ะพระชายา ได้โปรดอย่าถือสาหม่อมฉันและคิมคิบอมเลย”
แทมินอมยิ้มและนึกในใจว่าสองคนนี้จะต้องมีบางอย่างปิดบังกันแน่ๆ คิบอมก็ดูน่ารักออกซะขนาดนี้เป็นไปไม่ได้หากองครักษ์จินกิจะไม่นึกชอบพอเอาเสียเลย แต่แล้วเจ้าหญิงน้อยก็เก็บความสงสัยเอาไว้เมื่อเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในม่านน้ำตก ปลายหางสีน้ำเงินอมฟ้าเป็นประกายกระทบกับแสงแดดผิวเนื้อเป็นมันเลื่อมและมีเกล็ดประกายสวยงามแปลกตายิ่งนัก
“เจ้าเป็นอะไรกัน?”
ทันทีที่เจ้าสัตว์ประหลาดร่างครึ่งบนเป็นมนุษย์แต่ด้านล่างกลับมีหางคล้ายปลาว่ายเข้ามาใกล้ แทมินไม่กลัวนอกจากประหลาดใจและเดินเข้าไปใกล้โขดหินที่สัตว์ประหลาดนั้นว่ายเข้ามาเกาะ
“เราเป็นเงือก เจ้าเป็นผู้ใดกันจึงมาอยู่ที่นี่”
“เรามากับเพื่อนทั้งสองคน”
ร่างเล็กชี้ให้เงือกสาวดูองครักษ์ทั้งสองที่มัวแต่เถียงกันไม่หยุดหย่อน “เจ้าอาศัยอยู่ที่นี่หรอ?”
“ใช่เราอยู่ที่นี่ ปกติแล้วชาวโครนอสจะรู้จักเรา แต่น่าแปลกนักเจ้าไม่รู้จักเราหรือ?”
“เราไม่เคยเห็น และเราก็มิใช่โครนอสโดยกำเนิด เราเป็นโฟรเซนการ์ด”
“เจ้าเป็นชาวน้ำแข็งอย่างนั้นหรือ จ….เจ้าเป็นปิศาจอย่างนั้นสิ!”
น้ำเสียงของนางเงือกนั้นแลดูหวาดกลัวและไม่ทันไร ก็เปล่งเสียงร้องแสบแก้วหู เจ้าหญิงน้อยไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตเสียงหวีดหวิวราวกับใจจะขาด แทมินไม่รู้วิธีรับมือกับไซเรนเหล่านี้ ร่างของเจ้าหญิงน้อยจึงล้มฟุบลงกับพื้น
“เจ้าหญิง!!!”
“พวกเจ้าออกไปนะ ไปให้พ้น!!!”
คีย์แกว่งดาบขับไล่ไซเรนทั้งหลาย ยิ่งพวกนางส่งเสียงร้องดังมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลเสียต่อเจ้าหญิงน้อยมากเท่านั้น เขาเห็นพวกเงือกเหล่านั้นแหวกว่ายไปตามผิวน้ำและจมหายไปกับกระแสน้ำ จินกิประคองร่างของเจ้าหญิงน้อยขึ้นมา พวกไซเรนเกลียดและกลัวชาวน้ำแข็งยิ่งนักเพราะครั้งหนึ่งเคยถูกขับไล่และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จนต้องหนีมา
“ทำอย่างไรดีจินกิ เจ้าหญิงถูกพิษของไซเรนเข้าเช่นนี้กว่าจะฟื้นใช้เวลานานเท่าไหร่กันนี่”
คีย์ร้อนใจกว่าใคร เจ้าหญิงน้อยไม่เคยพบกับไซเรนเพราะฉะนั้นจึงไม่รู้วิธีป้องกันตัวปล่อยให้เสียงของไซเรนแทรกเข้าโสตประสาทจนเป็นลมไปนับว่ายังโชคดีที่ไซเรนตกใจกลัวจึงส่งเสียงร้องเพื่อเรียกพักพวกเท่านั้นมิได้คิดทำอันตรายแต่อย่างใด
“แทมิน!”
“มะ….มินโฮ”
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเมียข้าถึงเป็นเช่นนี้”
“ข้าไม่ได้ตั้งใจ…เจ้าหญิง ฮึกเจ้าหญิงน้อยถูกเสียงของพวกนางเงือกเข้า”
คีย์ตั้งตัวไม่ทันไม่คิดว่ามินโฮจะตามมาเร็วเช่นนี้ ทั้งกลัวความผิดเหลือเกินจนต้องร้องไห้เพื่อหวังว่าจะรอดพ้นเงื้อมือมินโฮ
“เจ้าทั้งสองคนทำอะไรกันอยู่เหตุใดจึงปล่อยเมียข้าเช่นนี้ หากนางเป็นอะไรขึ้นมาข้าจะลงโทษพวกเจ้า”
“ข้ารู้….ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้วมินโฮ”
ร่างบางเดินตามเจ้าชายหนุ่ม หวังเหลือเกินว่าให้เจ้าหญิงน้อยที่นิทราอยู่ในอ้อมกอดของมินโฮฟื้นตัวขึ้นมาเสียที หากไม่ใช่เพราะเขาชวนเจ้าหญิงมาละก็เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด
“ตายแล้ว!!”
ซอนมีร้องเสียงดังเมื่อเห็นเจ้าชายมินโฮอุ้มเจ้าหญิงน้อยเข้ามาในตำหนักทั้งที่ร่างเล็กยังไม่มีสติ
“หุบปากของเจ้าซะ แล้วไปตามหมอมา!”
มินโฮวางร่างของแทมินลงบนเตียง ฝ่ามือหนาลูบใบหน้าหวานอย่างแสนรัก ในใจก็ภาวนาอย่าให้เจ้าหญิงน้อยต้องเป็นอะไรไปเลย “เจ้าหญิงฟื้นขึ้นมาเถอะ” ร่างบางนอนหลับพริ้มอยู่บนเตียงนอน มินโฮอยากให้แทมินลุกขึ้นมาต่อว่าเขาเช่นเดิมดีกว่าการหลับไปแบบนี้เพราะไม่รู้ว่าร่างเล็กจะหลับไปอีกนานเท่าไหร่
“ข้างบนเอะอะโวยวายอะไรกัน?”
อี้ฟานพยายามมองผ่านความมืดเมื่อได้ยินเสียงนางรับใช้ที่นำอาหารเข้ามาให้เขาทุกวันๆ พวกนางนั้นต่างพากันอึกอักไม่ยอมพูดสิ่งใดทั้งสิ้น
“คือว่า….เจ้าหญิงน้อย…”
“แพนโดราเป็นอะไร!!”
ชายหนุ่มกระตุกโซ่จนเสียงกระทบกันดังลั่นห้องขัง เพียงแค่รู้ข่าวเจ้าหญิงน้อยเขาก็แทบกระโจนออกไปหากไม่ได้โซ่ใหญ่คล้องข้อเท้าเอาไว้
“เจ้าหญิงถูกพิษของไซเรนเจ้าคะ”
“ไปบอกเจ้าชายมินโฮให้ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้ารู้วิธีรักษานาง”
มินโฮไม่สามารถทำสิ่งใดได้นอกจากปล่อยตัวอี้ฟานออกมาเพื่อมารักษาเมียของตน ชาวน้ำแข็งคุ้นเคยกับไซเรนเพราะเคยขับไล่และหาวิธีป้องกัน แต่กับเจ้าหญิงน้อยที่อยู่แต่ในปราสาทมาตั้งแต่เกิดนั้นไม่เคยได้พบเจอสิ่งเหล่านี้เพราะเช่นนั้นอี้ฟานจึงต้องคอยปกป้องและทันทีที่เห็นร่างนิททราของเจ้าหญิงองครักษ์หนุ่มไม่แยแสต่อชเวมินโฮใดๆทั้งสิ้นเขานั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงและจับมือเจ้าหญิงเบาๆ
“เจ้าหญิงพี่ขอโทษ พี่ปกป้องเจ้าไม่ได้ อภัยให้พี่ด้วย”
“จะรักษาอันใดก็รับทำเสียสิ เมียข้าทั้งคน”
เพราะต้องการย้ำให้คนต่ำต้อยอย่างอี้ฟานได้รู้ไว้ว่าเจ้าหญิงน้อยเป็นของผู้ใด หากจะโกรธจะเกลียดกันก็ขอให้เจ้าหญิงฟื้นมาก่อนอย่างไรเสียเขาก็มั่นใจว่าแพนโดราไม่ปันใจให้ชายหนุ่มผู้รับใช้เป็นแน่
อี้ฟานร่างมนตร์วิเศษเกิดเป็นมวลน้ำแข็งรายล้อมรอบกายเจ้าหญิงน้อย เพียงไม่นานมวลน้ำแข็งเหล่านั้นก็ซึมสู่ร่างกายเจ้าหญิง ร่างที่นอนนิทรามาได้พักหนึ่งค่อยๆรู้สึกตนกระพริบตาด้วยความงุนงง
“ท่านพี่”
“ตื่นแล้วหรือเจ้าหญิง”
ใบหน้าหวานยิ้มยินดีเมื่อชายหนุ่มอี้ฟานนั้นยังอยู่ดี บาดแผลที่ถูกมินโฮทำร้ายนั้นจางลงมาก
“แทมิน”
“พระองค์”
ร่างเล็กจมหายเข้าไปในอ้อมกอดของมินโฮ และอี้ฟานก็รู้แล้วว่าหัวใจของเจ้าหญิงนั้นมีเพียงพอแล้วสำหรับเจ้าชายมินโฮ เขาได้แต่ยืนมองสองร่างที่ยืนกอดกันด้วยความคิดถึง และราวกับในห้องนี้มีเพียงสองใจที่โอบอุ้มกันเพียงเท่านั้น หัวใจขององครักษ์หนุ่มนั้นชาชินเหลือเกินกับความเจ็บปวด
ร่างสูงของอี้ฟานถูกคุมตัวไว้อีกครั้งเพื่อกลับเข้าไปในห้องขัง แต่ร่างน้อยกลับอ้อนวอนขอเว้นโทษจากสามี
“พระองค์เพคะ ได้โปรดปล่อยท่านพี่ไปเถอะเพคะ อย่างไรเสียท่านพี่อี้ฟานก็ช่วยหม่อมฉันเอาไว้”
“เจ้าหญิง เรามั่นใจเหลือเกินว่าเจ้านั้นรักเราอย่างแน่แท้เพราะเช่นนั้นเราจะไม่เกรงกลัวสิ่งใดอีก หากมันอยากได้ตัวเจ้านักก็ให้มันเข้ามาแย่งชิงกับเรา”
“หม่อมฉันขอถวายคำสัตย์ หม่อมฉันมิได้คิดอื่นใดกับเจ้าหญิงน้อยนอกเสียจากจะเอ็นดูนางเช่นน้องชายเท่านั้น”
“ถ้าเช่นนั้นก็ดี เพราะอย่างไรเสียนางก็เป็นเมียของเรา เมื่อนางขอเราจะปล่อยเจ้า”
“ขอบพระทัยเพคะ”
“แม้เราจะปล่อยองครักษ์ของเจ้าก็ใช่ว่าเจ้าจะพ้นโทษที่หนีเราไปวันนี้”
เจ้าหญิงน้อยยิ้มรับบทลงโทษจากเจ้าชายหนุ่มและมินโฮก็ช่างรวดเร็วเหลือเกิน เขาไล่พวกนางรับใช้และทุกคนออกไปจากห้องจนหมด จากนั้นจึงขังตนอยู่กับเมียรัก บทลงโทษครั้งนี้ช่างหอมหวานเหลือเกิน เมียรักอ้าปากร้องครางยามเมื่อถูกกลั่นแกล้งให้เอียงอาย แทมินอ้าขาเปิดเปลือยทุกสิ่งอย่างเรียวขาขาวตั้งชันกับพื้นเตียงใบหน้าหรือก็ร้อนวูบไปทั้งหน้า ปล่อยให้เจ้าชายหนุ่มรักด้วยความเอ็นดู
“เจ้าสวยเหลือเกินเมียข้า”
เสียงครางพร่ำเพ้อยามเมื่อปลายลิ้นลิ้มเลียทั่วทุกอณูผิว ฝ่ามือบางก็ขยุ้มผมชายหนุ่มเอาไว้เมื่อเขารังแกจุดที่ต่ำกว่าใต้สะดือ ร่างงามเกร็งท้องน้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่ายามที่หยัดสะโพกขึ้นไปตามริมฝีปาก บทลงโทษไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิดกลับกันมันคือการลงโทษด้วยความรัก แม้ว่าสุดท้ายแล้วต่างคนต่างมีความสุขทั้งคู่ก็ตาม เขาหญิงน้อยใช้เรียวขาเกาะเกี่ยวสะโพกชายหนุ่มเอาไว้ยามเมื่อเขาถอนตัวออก และอีกครั้งที่เขาปลดปล่อยความดุดันเข้ามา เขาช่างเร่าร้อนและรุนแรงเสียจริงยามถูกโหมบทรักใส่ ร่างกายนั้นเหมือนจะแหลกเป็นผุยผงแต่ขณะเดียวกันก็ไม่อาจสะกลั้นความทรมาน ปล่อยให้เขาบีบเค้นร่างกายจนล้นไม้ล้นมือ
“อะ….อา….หม่อม…ฉัน…อึก….”
“ว่าอย่างไรหรือเมียข้า”
“หม่อมฉันรักพระองค์เหลือเกิน”
มินโฮพอใจเหลือเกินกับคำออดอ้อนของเมียรัก เขาโหมกระหน่ำสะโพกมิได้หยุดยั้งราวกับทำศึกเพราะชัยชนะนั้นจะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว เมียรักก็ช่างเร่งเร้ามิได้เกรงกลัวว่าเสียงหวานนั้นจะหลุดรอดออกไปให้ใครฟัง แต่ถ้าหากมันหน้าไหนมาแอบฟังหรือแอบคิดสิ่งใดกับเมียรักของเขาละก็ชเวมินโฮจะตามไปปลิดชีพมันให้หมด
“อา….อดทนหน่อยเจ้าหญิง…อีกนิดเดียวเท่านั้น”
ปากแดงเร่งครางความดันในท้องน้อยก่อตัวขึ้นจนมวลพายุพากันมากระจุกอยู่ที่ปลายลำ…..สุดท้ายแล้วเมื่อทนบทรักครั้งนี้ไม่ไหวร่างงามเกร็งกระตุกตนโอบรัดเจ้าชายหนุ่มเอาไว้แล้วฟุบลงบนฟูกเสียเอง และไม่นานเจ้าชายก็เร่งกระชั้นชิดติดตามมาและฟุบตามลงไปเช่นกัน
“อา….เมียข้า….ข้ารักเจ้าเหลือเกินแทมิน”
ซอนมีนั้นแอบยิ้มดีใจเหลือเกินอยู่ด้านนอก แม้จะยอมไปห่างๆจากตำหนักอย่างที่เจ้าชายบอกเอาไว้ก็พอจะรู้อยู่ลางๆว่าเจ้าหญิงน้อยนั้นจะถูกปฏิบัติเช่นไร
“อย่างไรเสียเจ้าหญิงน้อยของข้าจะต้องมีพระโอรสตามมาติดๆแน่ๆ”
ชเวมินโฮนอนมองเมียตัวน้อย หลังจากเสร็จกิจเมื่อครู่แทมินก็เข้าสู่นิททราอย่างที่เห็น และมินโฮก็หนักใจเรื่องของลู่ฮานไม่รู้จะบอกแทมินว่าอย่างไรดี แต่หากไม่เอ่ยปากไปตอนนี้สักวันแทมินต้องรู้เข้าอยู่ดี
“เจ้าชาย”
“เจ้ามิง่วงหรือเหตุใดจึงตื่นขึ้นมาอีก”
“พระองค์มีอะไรไม่สบายใจหรือเพคะ”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
“หม่อมฉันเห็นสีหน้าพระองค์แล้วก็พอจะเดาทางถูกเพคะ”
ช่างน่าเอ็นดูนักชายหนุ่มจึงจุมพิตริมฝีปากอิ่มอย่างหลงใหล แทมินน่ารักเหลือเกินและก็อ้อนมากเสียด้วย พักหลังมานี้เจ้าหญิงน้อยว่าง่ายเหลือเกินไม่อิดออดไม่เย็นชาไม่ปากร้ายหรือแท้จริงแล้วที่ต้องทำแบบนั้นเพราะเขาใจร้ายด้วยกันแน่สุดท้ายแล้วเจ้าชายมินโฮกว่าจะรู้ตนก็ตกหลุมรักลีแทมินเข้าจริงๆซ้ำยังเอ่ยปากบอกรักมิได้ขาด เล่นเอาร่างกายผอมบางช้ำไปเสียมาก
“เมื่อไหร่เจ้าจะอุ้มท้องลูกให้ข้า”
“พระองค์”
“หรือที่ข้าทำทุกวันนี้มันยังไม่พอต้องมากกว่านี้กระมังเมียรักจึงจะยอมอุ้มท้องให้”
เมียรักหรือก็เขินจนแก้มแดง ทั้งโดนจับผิวกายใต้ผ้าห่มจนต้องร้องออกมาด้วยความเขินอาย ช่วงกลางวันยังถูกแกล้งไม่หยุดหย่อนมีหรือกลางคืนจะได้หยุดพัก
“ข้าอยากมีลูกกับเจ้านักแทมิน”
“มะ…หม่อมฉันก็อยากอุ้มท้องให้พระองค์เพคะ”
เจ้าหญิงน้อยร้อนไปทั้งตัว เมื่อถูกดวงตาคมจับจ้องสายตาเขานั้นช่างทรงพลังยามเมื่อเขาต้องการสิ่งใดแล้วก็มิอาจต้านทานได้พละกำลังของมินโฮก็มากกว่ายามเมื่ออเขากอด เมียร่างน้อยก็ดูตัวเล็กลงถนัดตาเพราะเช่นนี้เขาจึงเอ็นดูเสียมาก
“ข้าอยากฆ่าตัวเองนักที่ปฏิเสธเจ้าแต่แรก”
“หากเจ้ายอมข้าเสียแต่แรก ข้าจะมิรุนแรงกับเจ้าเลยแพนโดรา และสิ่งที่ข้าจะบอกเจ้าต่อไปนี้ข้ายอมรับผิดแต่โดยดีเพราะข้าเองก็รักเจ้ามากเหลือเกิน”
เมียตัวน้อยนอนฟังในสิ่งที่เจ้าชายกำลังจะกล่าว
“ลู่ฮานตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ลูกของข้าเพราะเช่นนั้นแล้วทั้งเจ้าและลู่ฮานข้าจึงต้องเอาใจใส่ให้เท่ากัน จนอย่าได้กรรแสงหรือโกรธเคืองข้าเลยแทมิน”
แทมินเงียบสนิท ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกนอกจากความเจ็บปวดมันจุกอยู่กลางอกจนสุดท้ายแล้วก็สะกดกลั้นแรงสะอื้นไม่ไหวร่ำไห้ต่อหน้ามินโฮจนได้
“หม่อมฉันรู้ตนว่ามาทีหลังเพคะ เพราะฉะนั้นแล้วในเมื่อให้พระองค์ไปหมดแล้วจะทรงทำอย่างไรก็ได้เพียงแค่ปราณีหม่อมฉันและมาหาหม่อมฉันเพียงแค่นี้ก็ดีแล้ว”
แม้ว่าแทมินจะพูดเช่นนี้แต่น้ำเสียงกลับตัดพ้อนัก ทั้งคิดน้อยใจมิได้ต่างจากแต่ก่อนเมื่อลู่ฮานตั้งท้องเช่นนี้ความรักของมินโฮมีหรือจะเท่ากันแทมินรู้ตัวดีเพราะตนนั้นก็เป็นลูกเมียน้อย แม้จะไม่เคยเจอหน้าพระมารดาเลยสักครั้งเดียวก็พอจะรู้จากพระนมว่าพระมารดานั้นสวยงามและมีเมตตาเพียงใด เพราะพระบิดาเอ็นดูพระมารดาของแทมินมากกว่าจึงถูกเสด็จแม่ใหญ่จงเกลียดจงชังแต่เด็ก
“อย่าน้อยใจเราเจ้าหญิง”
แรงบังคับให้แทมินพลิกกายมาหา แม้ตนจะขืนตัวเพราะความเจ็บปวดอยู่ก็ตาม
“เรารักเจ้าเหลือเกิน ในขณะเดียวกันเราก็ทิ้งลู่ฮานไม่ได้”
“ฮึก…อย่างไรเสียพระองค์ก็ต้องรักเจ้าหญิงแอนโดรเมดรามากกว่าหม่อมฉันมิเช่นนั้นจะพาหม่อมฉันมาให้ลำบากใจเช่นนี้ทำไม”
ต้นแขนของมินโฮเป็นรอยไปหมดเพราะเกิดจากรอยข่วนและรอยเล็บจิกจากเจ้าหญิงน้อย เขาว่ากันว่าแรงสตรีหึงนี้รุนแรงยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
“แทมินฟังเราได้โปรด”
“จะให้หม่อมฉันฟังสิ่งใดเล่า หม่อมฉันเกลียดพระองค์ ฮึก…ไม่อยากเห็นหน้า ไม่ต้องมากอดหม่อมฉัน…ฮึก”
แรงสะอึกสะอื้นค่อยๆเบาลง แต่กระนั้นเจ้าหญิงผู้หวงตัวก็ไม่ยอมให้เจ้าชายได้กกกอดสมใจ
แรงปิดประตูเงียบลงปล่อยให้เสียงสะอื้นร่ำไห้ผู้เดียวอยู่บนเตียง ทั้งน้อยใจทั้งเสียใจไม่รู้เลยว่าตนเองจะถูกเจ้าชายเบื่อวันไหน รู้เพียงอย่างเดียวว่าสู้กับความเจ็บปวดเช่นนี้ไม่ไหว และหัวใจเจ้าหญิงน้อยก็อ่อนแอเหลือเกิน
จากวันเป็นเดือนและผ่านไปหลายเดือนจนวันเวลาล่วงเลยสู่ฤดูใหม่ เจ้าชายมินโฮก็แวะเวียนเข้ามาหาบ้างแต่สุดท้ายแล้วมักจะถูกเจ้าหญิงน้อยไล่ไปและไม่ยอมออกมาพบหน้ากันอีก ยิ่งเจ้าชายมินโฮพยายามมากเท่าไหร่เจ้าหญิงน้อยก็ยิ่งห่างเหิน ลู่ฮานเองก็ต้องการเอาใจใส่เพราะอย่างนี้แล้วตำหนักตะวันตกจึงครึกครื้นกว่าปกติ
“โธ่พระชายา ไล่เจ้าชายไปแล้วเหตุใดจึงมานั่งเศร้าเช่นนี้เล่าเพคะ”
“อย่าพูดถึงใครให้เราได้ยินอีก เราไม่ต้องการฟัง”
“เพคะ ได้โปรดเถิดเพคะ เสวยสักหน่อยเถิดอาหารเย็นชืดหมดจะไม่มีรสชาตินะเพคะ”
“ไม่…เราไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น”
“โธ่พระชายาของหม่อมฉัน ถ้าเช่นนั้นก็ออกไปข้างนอกบ้างอยู่แต่ในตำหนักเช่นนี้จะมิสบายกายเอานะเพคะ”
“เรามิสบายกายตั้งแต่เขาพาเรามาที่นี่”
แววตาเลื่อนลอยและริมฝีปากสั่นระริก ความรักช่างยิ่งใหญ่นักแต่เมื่อถึงคราวทำลายล้างก็ทำให้หัวใจดวงน้อยแตกหักไม่มีชิ้นดี ทุกคืนวันได้แต่เฝ้าต่อว่าเจ้าชายมินโฮเหตุใดจึงใจร้ายกับตนมากเท่านี้ ซอนมีเองก็หนักใจไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใดให้เจ้าหญิงน้อยรู้สึกดีได้บ้างเพราะซอนมีต้องระวังคำพูดมิให้หลงเอ่ยชื่อขององค์ใดองค์หนึ่งทางตำหนักทิศตะวันตก
“ซอนมี”
“เพคะเจ้าหญิง”
“หยุดเรียกเราแบบนั้นได้แล้ว เรามิใช่เจ้าหญิงเสียหน่อย”
ไม่ว่าใครต่างรู้ทั้งนั้นว่าพระชายาเป็นชาย แต่ความเป็นชายก็งดงามเสียเหลือเกินทั้งกิริยาและการพูดจา แต่หากวันนี้เจ้าหญิงน้อยดังที่เคยเรียกมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกกลับให้เปลี่ยนสรรพนามเสียใหม่
“เจ้าตัดผมให้เราได้หรือไม่?”
“เจ้าหญิง…เอ่อ…เจ้าชายต้องมิทำเช่นนั้นนะเพคะ”
“เจ้าจะทำให้เราหรือไม่หรือต้องให้เราทำเอง”
ซอนมียอมปลงผมยาวสลวยของเจ้าหญิงน้อย เส้นเกศาก็ยาวสลวยสมกับเป็นหญิงหากตัดออกไปเช่นนี้จะเป็นเช่นไร นอกจากแรงหึงงจะอยู่คู่สตรีเส้นเกศายาวสลวยก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สตรียอมไม่ได้หากต้องตัด
“ตัดให้เราเสีย”
“เพคะ”
ไม่มีแม้น้ำตาสักหยดเดียว เมื่อเส้นผมสีดำสนิทถูกตัดจนสั้นกุดเหมือนชายดังชาติกำเนิด ใบหน้าหวานนั้นหากสวยอย่างไรก็ยังสวยอย่างนั้นมิอาจเปลี่ยนได้อีก
“เจ้าจงนำชุดใหม่มาให้เราเปลี่ยนเถิดเราจะมิใส่ชุดกระโปรงนี้เด็ดขาด”
“เพคะ”
.......................................................................................................................
ความคิดเห็น