คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7
กลางดึก ณ บ้านพักริมชายหาด เสียงคลื่นซัดกระทบฝั่ง ในห้องนอนของพราวตะวัน เจ้าของห้องกำลังนอนหลับจากฤทธิ์ยาที่รับประทานเข้าไปเมื่อตอนหัวค่ำ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลายครั้งติดต่อกันจน ปลุกให้หญิงสาวต้องงัวเงียตื่นขึ้นมารับสาย "ใครกันนะที่โทรมาดึกดื่นป่านนี้" หญิงสาวได้แต่คิดในใจ และเอื้อมมือไปกดรับโทรศัพท์
"สวัสดีค่ะ พราวตะวันค่ะ" หญิงสาวกรอกเสียงลงไปตามสาย
"เป็นยังไงบ้าง" เสียงปลายสายถามขึ้น หญิงสาวได้แต่สงสัยจึงถามกลับไป
"ขอโทษนะค่ะ ไม่ทราบว่าใครพูดค่ะ"
"ผมเอง" เสียงปลายสายตอบกลับมา เมื่อได้ยินดังนั้นหญิงสาวซึ่งต้องงัวเงียขึ้นมารับโทรศัพท์กลางดึก เริ่มอารมณ์ไม่ดี จึงย้อนถามกลับไปว่า
"ผมหน่ะใคร โรคจิตรึเปล่า ไม่อย่างนั้นฉันจะวางสายแล้วนะ" เมื่อชายหนุ่มจับน้ำเสียงของคนตัวเล็กว่าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง จึงรีบตอบกลับไปว่า
"พร้อมพิทักษ์" พอรู้ว่าปลายสายเป็นใคร หญิงสาวจึงรีบโวยวายใส่ทันที
"คุณนี่ จะบ้ารึเปล่า โทรมาดึกดื่นป่านนี้ คนจะหลับจะนอน ไม่รู้จักเวลาเอาซะเลย"
"อ้าว ก็ผมเพิ่งเสร็จธุระนี่ แล้วนี่มันก็เพิ่งสามทุ่มเอง คิดว่าคุณคงยังไม่หลับ"
"ฉันนอนแล้ว และที่ตื่นก็เพราะเสียงโทรศัพท์คุณนั่นแหละ"
"อ้าว ถ้างั้นผมก็ขอโทษกัน แค่โทรมาถามว่า คุณเป็นยังไงบ้าง เท้ายังบวมอยู่รึเปล่า แล้วไข้ลดรึยัง" เมื่อรู้วัตถุประสงค์ของคนโทรมา หญิงสาวจึงเสียงอ่อนลง แล้วตอบกลับไปว่า
"ฉันดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณที่เป็นห่วง"
"ถ้างั้นแค่นี้นะ ผมไม่กวนแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยพลางวางสายลงโดยไม่รอคำตอบจากคนตัวเล็กที่ปลายสาย หญิงสาวได้แต่พึมพำกับตัวเอง "แปลกจริง เค้าเป็นอะไรของเค้านะ" ในขณะที่ชายหนุ่มที่ปลายสายอีกทางก็ได้แปลกใจตัวเองว่าทำไมต้องรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยหญิงสาวมากมายจนถึงขั้นต้องโทรศัพท์ไปสอบถามอาการเจ็บป่วยยามค่ำคืน เมื่อยังไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง ชายหนุ่มจึงได้แต่โคลงศีรษะ และล้มตัวลงนอน
--------------------------------------------------------------------------------------------------
สัปดาห์ถัดมา ณ โรงแรมหรูใจกลางเมือง ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ถูกเนรมิตให้เป็นแคตวอร์คสำหรับจัดงานแฟชั่นโชว์การกุศล ที่จัดขึ้นโดยสมาคมแม่บ้านทหาร เพื่อจัดหาทุนสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับเด็กในชนบท พราวตะวันติดตามคุณหญิงรุ่งทิพย์มาในฐานะเลขา และบอร์ดี้การ์ดส่วนตัว
"สวัสดีค่ะคุณหญิง"เอื้อนจิตรเลขาคุณหญิงศรีแก้ว ยกมือไหว้ทำความเคารพคุณหญิงรุ่งทิพย์ "เชิญทางนี้เลยค่ะ คุณหญิงศรีแก้วกำลังรออยู่ในห้องรับรอง
"พราวจะเข้าไปกับป้ารึเปล่าลูก" คุณหญิงรุ่งทิพย์หันมาถามพราวตะวัน
"คุณป้าต้องให้พราวเข้าไปช่วยอะไรไม๊ค่ะ"
"ไม่มีหรอกจ๊ะ ป้าจะเข้าไปทักทายคุณหญิงนิดหน่อย"
"ถ้ายังงั้น พราวขอรอข้างนอกค่ะ"
"จ๊ะ รอป้าอยู่แถวๆนี้ก็ได้ เดี๋ยวป้ากลับมา"
"ค่ะ" เมื่อคุณหญิงรุ่งทิพย์เดินตามเลขาคุณหญิงศรีแก้วเข้าไป พราวตะวันก็เดินไปยังบริเวณที่เวทีตั้งอยู่เพื่อดูสถานที่สำหรับรักษาความปลอดภัยในงานคืนนี้ พร้อมกับใช้สายตามองหาบุคคลคนหนึ่ง
"ต่อไปเป็นคิวของคุณพร้อมกับคุณน้องนะค่ะ พอคุณพร้อมเดินมาถึงตรงนี้ คุณน้องก็เดินออกมาได้เลย แล้วคุณพร้อมก็เดินมารับคุณน้องตรงนี้นะค่ะ" เสียงออร์กาไนเซอร์ยืนบอกบทให้กับนายแบบ และนางแบบกิตติมศักดิ์ จนทำให้หญิงสาวต้องหันไปมอง แล้วพบว่านายแบบ และนางแบบกิตติมศักดิ์ที่ถูกเอ่ยถึงคือ พันตรีพร้อมพิทักษ์ และพรรณฤดี
"อ้าว ยัยพราวมาเหมือนกันเหรอ" นวดี หรือ ออม เพื่อนสนิทของหญิงสาวที่รับหน้าที่เป็นคนดูแลเสื้อผ้าในงานนี้เอ่ยทักทายเพื่อนสาว
"อืม ฉันเห็นทีมงานแกอยู่แถวนี้ เลยคิดว่าแกก็คงมาด้วย เลยเดินมาดูนี่ไง" หญิงสาวตอบกลับ
"ก็ยัยคุณหญิงจอมวุ่นวายนั่นแหละที่ทำให้ฉันหัวหมุนอยู่ตอนนี้ ตอนแรกนะ ฉันก็กะว่าจะส่งน้องๆในทีมมาเพราะยังเข็ดกับงานครั้งที่แล้วไม่หาย แต่ที่ไหนได้ คุณหญิงท่านให้เลขามาบอกว่าฉันต้องมาดูแลความเรียบร้อยเอง ถึงจะจ้างบริษัทฉัน พี่ตาก็บ้าจี้ตาม บอกว่าได้ๆ ฉันล่ะเบื่อจริงๆพวกคุณหญิงคุณนายเนี๊ยะ แต่ว่ายกเว้นคุณหญิงป้าของแกนะเว้ย คนนั้นฉันรักสุดหัวใจ" แล้วหญิงสาวก็ผูกขาดการสนทนาต่อไปอีก
"ตอนแรกฉันคิดว่า ชุดฟินาเล่ คืนนี้ต้องเป็นของแกแน่ๆเลยพราว แต่ผิดคาดไปหน่อย งานนี้ยัยคุณหญิงกลับดันให้ลูกสาว แม่เจ้าประคุณท่านคงอยากจะแจ้งเกิดลูกสาวคืนนี้ หรือจะเป็นแผนเปิดตัวว่าลูกเขยรึเปล่าก็ไม่รู้ เห็นว่าผู้พันพร้อมกลับมาจากต่างประเทศแล้ว ได้ยินมาว่ายัยคุณหญิงหมายมั่นปั้นมืออยากได้เป็นลูกเขย ว่าแต่แกเห็นผู้พันรึยัง เค้าดูดีนะแก นั่นไงอยู่บนเวที แต่เอ๊ะเหมือนเค้าจะมองมาทางแกด้วยนะ" นวดี เอ่ยขึ้นเมื่อมองขึ้นไปบนเวทีแล้วพบว่า พันตรีพร้อมพิทักษ์กำลังมองมาบริเวณที่หล่อนกับพราวตะวันยืนอยู่
"อืม เค้าเป็นเพื่อนกับพี่ธง เราเจอกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
"อ้าว ไม่เห็นแกเคยบอกฉันเลยว่าพี่ธงมีเพื่อนหน้าตาดีๆ แบบนี้ด้วย ชายในฝันของฉันเลยนะ" นวดีเอ่ยพลางทำหน้าตาเคลิบเคลิ้ม
"ฝันร้ายนะสิ" พราวตะวันตอบ
"ฝันร้ายอะไรเหรอพราว" นวดีเริ่มคาดคั้นพราวตะวัน
"เปล่า ไม่มีอะไร" แล้วบทสนทนาระหว่างหญิงสาวทั้งสองก็หยุดลงเมื่อคนที่ถูกเอ่ยถึงบนเวที เดินลงมาปรากฏตัวอยู่ด้านข้าง
"หายแล้วเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยทักทายหญิงสาว
"ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณ"
“นี่ นวดีค่ะ ออมเป็นเพื่อนฉัน แล้วก็เป็นคอสตูมในการจัดงานครั้งนี้”
“สวัสดีค่ะ ตัวจริงผู้พันดูดีกว่าในโทรทัศน์อีกนะค่ะ” นวดีเอ่ย เมื่อทำความเคารพผู้พันหนุ่มเรียบร้อยแล้ว และเมื่อเห็นพันตรีพร้อมพิทักษ์มีสีหน้าสงสัย นวดีจึงตอบไปว่า
“ออมเคยเห็นผู้พันให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดค่ะ”
“อ๋อ ครับ” ชายหนุ่มตอบ เมื่ออีกฝ่ายคลายความสงสัยให้ และบทสนทนาก็จำเป็นต้องหยุดลง เมื่อมีเสียงหวานดังแทรกขึ้นมา
"พี่พร้อมลงมาอยู่ตรงนี้นี่เอง น้องเดินตามหาจนเมื่อยเลย" พรรณฤดีเอ่ยขึ้นพลางเดินมาเกาะแขนชายหนุ่มราวกับประกาศความเป็นเจ้าของ
"พอดีเห็นพราว พี่ก็เลยมาทักทาย แล้วก็จะมาถามหาเจ้าธงด้วย" ชายหนุ่มคนเดียวในที่นั้นเอ่ยตอบ
"อ้าว พราวตะวันเธอก็มาเหรอ งานนี้ไม่ได้เชิญเธอมาเดินแบบก็อย่าว่ากันนะ พอดีผู้ใหญ่เค้าประชุมกันว่าอยากได้นางแบบหน้าใหม่ๆบ้าง" พรรณฤดีเอ่ยกับพราวตะวัน ก็จะไม่ให้หล่อนพูดแบบนี้ได้อย่างไร ในเมื่อทุกครั้งที่สมาคมมีงาน ตำแหน่งนางแบบที่สวมใส่ชุดฟินาเล่จะต้องตกเป็นของพราวตะวันไปเสมอ แต่ในเมื่อคุณหญิงแม่ของหล่อนเป็นประธานจัดงาน ตำแหน่งของนางแบบที่จะได้ใส่ชุดฟินาเล่จะเป็นใครไม่ได้นอกจากหล่อนผู้เป็นบุตรีของท่านประธาน
"เชิญคุณน้องเถอะค่ะ ฉันก็เบื่อการเป็นนางแบบกิตติมศักดิ์นี้แล้วเหมือนกัน มีคนมารับช่วงต่อไปก็ดี" พราวตะวันโต้ตอบประโยคสนทนาดังกล่าวเมื่อเห็นว่าพรรณฤดีเริ่มล้ำเส้นหล่อนมากเกินไป เมื่อได้ยินดังนั้น พรรณฤดีถึงกับชักสีหน้า แต่ก่อนที่สงครามน้ำลายจะเริ่มไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มคนเดียวก็เอ่ยขึ้นว่า
"ไปเถอะครับคุณน้อง เดี๋ยวซ้อมเสร็จ คุณน้องต้องไปแต่งตัวอีกไม่ใช่เหรอ"
"จริงด้วยค่ะพี่พร้อม เราอย่ามาเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย ว่าแล้วหญิงสาวก็คล้องแขนชายหนุ่มเดินออกไป
"เจ๋งไปเลยพราว น่าหมั่นไส้จริงๆ แค่ได้เดินชุดฟินาเล่ ก็มาเกทับแกซะแล้ว แกเดินเป็นสิบๆรอบ ฉันยังไม่เคยเห็นแกไปเกทับใครเลย" นวดีเอ่ยชมเพื่อนสาว
"ช่างเค้าเถอะออม แต่อย่ามาล้ำเส้นฉันให้มากไปกว่านี้ล่ะกัน" พราวตะวันตอบ
"แต่น่าเสียดายผู้พันเนอะ ถ้าต้องไปเป็นคู่หมั้นยัยคุณน้อง ฉันเห็นใครๆก็ชมผู้พันดีอย่างโง้น น่ารักยังงี้ แถมสุภาพด้วย ใครได้ไปคงโชคดีน่าดู" พราวตะวันไม่ได้เอ่ยตอบอะไร ได้แต่โครงศีรษะกับอาการของเพื่อนสาว
"เออ พราว ฉันเตรียมชุดสำหรับคืนนี้ไว้เผื่อแกด้วยนะ"
"โอ้ย ไม่ต้องหรอก วันนี้ฉันมาเป็นบอร์ดี้การ์ดคุณป้า คงแต่งสูทปกตินั่นแหละ"
"ไม่ได้นะ ไหนๆก็มาแล้ว เลขาคุณหญิงรุ่งทิพย์จะแต่งตัวปอนๆแบบนั้นได้ยังไง อีกอย่าง ฉันว่าคุณหญิงป้าแกก็คงไม่ยอมเหมือนกัน"
แล้วก็เป็นอย่างนวดีพูดไว้ไม่มีผิด คุณหญิงรุ่งทิพย์ก็ไม่ยอมให้พราวตะวันแต่งกายตามที่หญิงสาวคิดไว้
"ไม่ได้หรอกพราว หนูออมพูดถูก พราวจะแต่งตัวแบบนั้นได้ยังไง ป้าขอสั่งให้พราวแต่งชุดที่หนูออมเตรียมไว้ให้"
จึงเป็นเหตุผลให้ตอนนี้หญิงสาวถูกเพื่อนรักจับมานั่งแต่งตัวตามใจชอบ
"อ้าว เสร็จแล้ว" นวดีเอ่ยขึ้นเมื่อแต่งตัวให้เพื่อนรักเสร็จเรียบร้อย จริงๆแล้วหญิงสาวต้องไปช่วยพรรณฤดีแต่งตัว แต่หล่อนอ้างว่าปวดศีรษะ ไม่สบายจึงส่งทีมงานไปแทน ตอนแรกคุณหญิงศรีแก้วก็ไม่ยอม แต่พอดีกับที่ดวงตา หรือพี่ตาเจ้าของร้านมาช่วยพูดพร้อมกับบอกว่าจะส่งทีมงานมืออาชีพมาช่วยดูแลความเรียบร้อย คุณหญิงศรีแก้วจึงยอม
"ฉันว่ามันโป๊ไปนะออม" พราวตะวันเอ่ย เมื่อพบว่าชุดราตรีที่สวมใส่ เปิดเปลือยให้เห็นแผ่นหลังนวลเนียน มีเพียงสายสร้อยลูกปัดมุกที่คล้องชุดสวยไว้กับลำคอระหงเท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนสาวตัวดียังจับหล่อนเกล้าผมขึ้นจนเผยให้เห็นแผ่นหลังเปลือยชัดเข้าไปอีก
“เซ็กซี่ดียัยพราว ฉันว่าหนุ่มๆในงานถ้าเห็นแก ต้องตะลึงแน่ๆ”
“นี่มันงานการกุศลนะยัยออม ไม่ใช่งานประกวดนางแบบ” พราวตะวันค้อนให้เพื่อนสาว
“เออน่า มันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ งานราตรีการกุศล เค้าก็ตั้งใจจัดให้แขกในงานแต่งตัวมาประชันกันอยู่แล้ว
“เป็นยังไงบ้างสาวๆ แต่งตัวกันเสร็จรึยัง” เสียงคุณหญิงรุ่งทิพย์ดังขึ้นที่หน้าห้องประตูห้องแต่งตัว
“เสร็จแล้วค่ะคุณป้า” เสียงนวดีตอบ
“ป้าขอเข้าไปหน่อยนะ”
“เชิญค่ะ”
“โอ้โฮ ออม หนูแต่งตัวให้ยัยพราวถูกใจป้ามากเลยลูก เดี๋ยวป้ามีรางวัลให้” คุณหญิงรุ่งทิพย์เอ่ยชมเพื่อนรักของหลานสาว เมื่อเห็นผลงาน พอได้รับคำชม นวดีถึงกับหน้าบาน แถมยังหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อนสาวอีก
“พราวว่ามันโป๊ไปนะค่ะคุณป้า” หญิงสาวเริ่มโอดครวญ
“ไม่หรอกลูก ป้าว่าดูดีออก แบบนี้แหละที่ป้าชอบ ลองเปลี่ยนสไตล์บ้าง พราวของป้าสวยอยู่แล้ว แต่งยังไงก็สวย”
“อ้าว เป็นยังงั้นไป คุณป้าก็พลอยเห็นดีเห็นงามกับยัยออมไปด้วย” เป็นอันสรุปว่าวันนี้หล่อนก็คงต้องแต่งชุดนี้ไปงานอย่างปฏิเสธไม่ได้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภายในงานคืนนี้ คลาคล่ำไปด้วยบรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่ และคู่สมรส รวมถึงผู้ติดตามจำนวนมาก พราวตะวันยืนอยู่กับพันตรีธงไทยบริเวณหน้าซุ้มอาหาร
“ยัยพราว พี่ว่างานวันนี้คนเยอะกว่าทุกงานที่ผ่านมานะ”
“ใช่สิพี่ธง ก็คุณหญิงศรีแก้วเชิญแขกแทบจะทุกกรมกองเลย”
“สงสัยกะจะเปิดตัวลูกเขย ดูนั่นสิ เล่นประกบติดคุณหญิงพิมพ์ดาวซะขนาดนั้น”
“พี่ธงก็พูดไป ผู้หญิงเค้าเสียหายนะ” ถึงแม้จะไม่ชอบหน้าแม่ลูกคู่นี้นัก แต่พราวตะวันก็ไม่มีนิสัยที่จะพูดจากระทบกระเทียบคน แล้วบทสนทนาระหว่างพี่น้องก็หยุดลงเมื่อบุคคลที่สามก้าวเข้ามา
“ตามหาตั้งนาน มาอยู่กันที่นี่เอง” พันตรีพร้อมพิทักษ์เอ่ยทักทายพันตรีธงไทย
“อ้าว ก็ฉันเห็นแกไม่ว่างนี่หว่า แล้วนี่มายืนอยู่ตรงนี้ คุณน้องไม่ตามหาเสียให้ควั่กแล้วเหรอว่ะ นายแบบกิตติมศักดิ์เล่นหายตัวมาแบบนี้”
“เค้าแต่งตัวอยู่” พันตรีหนุ่มตอบเพื่อนรัก ระหว่างที่ฟังสองหนุ่มสนทนากัน พราวตะวันแอบลองสังเกตชายหนุ่มตรงหน้า วันนี้เขาดูภูมิฐานในชุดทักสิโดสีดำ ใบหน้าดูสดใส ในขณะที่พันตรีพร้อมพิทักษ์นั้นเห็นหญิงสาวตั้งแต่เดินเข้ามากับครอบครัวแล้ว เมื่อแรกที่เห็นชายหนุ่มดูไม่ชอบใจนักกับการแต่งกายหญิงสาวในวันนี้ ไม่ใช่ว่าหล่อนดูไม่ดี หากแต่วันนี้หญิงสาวดูดี และสง่างามมาก จนชายหนุ่มในงานหลายคนถึงกับตะลึงเมื่อยามหญิงสาวเดินผ่าน และเมื่อยิ่งมาเห็นหน้าหญิงสาวในระยะใกล้ ลมหายใจของชายหนุ่มแทบจะสะดุดทีเดียว
“ขอโทษนะค่ะผู้พัน คุณน้องให้มาตามผู้พันค่ะ งานกำลังจะเริ่มแล้ว” เอื้อนจิตรเลขาคุณหญิงศรีแก้วเอ่ยขึ้นมาเดินมาถึงบริเวณที่ชายหนุ่มยืนอยู่
“ครับ เดี๋ยวผมตามไป”
“นั่นไง คุณเธอส่งคนมาตามแล้ว รีบๆไปเถอะหว่ะ”
“เออ แล้วเดี๋ยวเจอกัน” พันตรีหนุ่มเอ่ยพลางแล้วเดินตามเลขาคุณหญิงศรีแก้วเข้าไป
ความคิดเห็น