code refactor
แนวหุ่นรบสู้กับไคจูเพื่อปกป้องมนุษยชาติ
ผู้เข้าชมรวม
99
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Code refactor ภาคปฐมบท
ปีค.ศ.2050น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ได้เกิดการแตกตัวขึ้นหลังจากนั้นก็ได้มีสัตว์ประหลาด2ตัวปรากฎตัวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุซึ่งภายหลังถูกเรียกว่าB.G.S.หรือ Belphegorraiser
(เบลเฟกอร์ไรเซอร์) หลังจากที่มันได้ปรากฎขึ้นมาจากน้ำแข็งแล้วได้มีต้นไม้ขนาดใหญ่มหึมางอกขึ้นมามันมีความสูงประมาณ 300 เมตร จากระดับน้ำทะเลจากนั้นมันได้
ปล่อยสิ่งที่คล้ายกับรากต้นไม้ออกไปดูดซับพลังชีวิตทั้งหมดในขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้และ
แอนตาร์กติกาจากนั้นพวก B.G.S. ทั้งสองตัวได้บุกไป 2 ทาง {ตัวแรกมีลักษณะคล้ายแรดผสมจระเข้
โดยที่หัวมีปากที่ยาวและยื่นออกมาเหมีอนจระเข้และมีนอเหมือนแรด แล้วมีหางแบบจระเข้ มีความสูง15เมตร
ซึ่งสัตว์ประหลาดตัวนี้บุกไปบริเวณแถวทวีปออสเตรเรียและได้ทำลายทั้งทวีปและหมู่เกาะในพื้นที่บริเวณแถวนั้นทั้งหมด ไม่นานหลังจากที่มันทำลายทวีปออสเตรเลียทั้งหมดและได้แวะทำลายประเทศอินโดเนเซียจากนั้นมันได้บุกมาทางประเทศสิงค์โปร์ต่อเลย
และหลังจากนั้นกองเรือสหรัฐลำหนึ่งไปพบสิ่งมีชีวิตปริศนาพอมันเห็นว่าเรือลำนั้นกำลังขวางมันอยู่มันก็เลยพุ่งเข้าไปโจมตีเรือลำนั้นจนทำให้เรือได้เกิดการระเบิดขึ้นและเรือพิฆาต4ลำได้ขับตามมากับเรือดำน้ำนิวเคลียร์ได้เข้าต่อสู้กับมันและมันได้ทำลายเรือพิฆาตไป2ลำจาก4ลำได้แต่มันก็ได้ตายด้วยการที่เรือดำน้ำนิวเคลียร์ยิงหัวรจนิวเคลียร์ใส่มันในจังหวะที่มันอ้าปากพอดีเรือดำน้ำได้ระดมยิงหัวรจนิวเคลียร์ทั้งหมดที่มีเข้าทางปากของมันจนมันได้ตัวระเบิดไป}
ตัวที่2มีลักษณะตัวเป็นคิงคองมีงวงเหมือนช้างมีงาคล้ายแมมมอธมีหางเป็นแมงป่อง มันได้ออกจากขั้วโลกเหนือและได้มุ่งหน้าไปทางตะวันออกของรัชเซียแล้วก็เริ่มการทำลายโดยการที่มันได้พ่นปรสิตที่คล้ายๆเมล็ดพืชลงไปที่ดินจากนั้นมันก็เริ่มพุ่งลงไปใต้ดินจากนั้นก็เริ่มงอกรากออกกัดกินสิ่งมีชีวิตทุกๆอย่างบนผืนดินจนไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่แผ่นดินบนชั้นธรณีภาคก็ตามหลังจากนั้นมันก็เดินทางมาถึงมณฑลเซิ่นยางแล้วมันก็ได้ทำแบบเดิมเหมือนที่ทำกับรัชเซียทำให้บริเวณหัวไก่ของประเทศจีนได้หายไปและตอนนี้มันได้มาถึงเขตชายแดนจีนเกาหลีเหนือแล้วพอเดินทางถึงกองทัพเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธไปซึ่งหลังจากที่ยิงขีปนาวุธได้เกิดฝุ่นคลุ้งไปทั่วบริเวณแต่ถว่า.... มันไม่เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำอย่างกับผิวของมันทำมาจากไทเทเนียมท่านผู้นำยอมใช้อาวุธนิวเคลียร์โดยการให้
ท่านผู้นำได้สั่งให้รถถังทุกคัน
“รถถังทุกคันจงฟังจงเปลี่ยนไปใช้กระสุนnewclear(นิวเคลียร์)แล้วระดมยิงใส่เจ้าสัตว์ประหลาดที่มันบังอาจเหิม
เกริมบุกมายังประเทศชาติของพวกเราชาวเกาหลีเหนือ” หลังจากที่ระดมยิงใส่ร่างของ B.G.S.จนมันหล่นลงกระทบกับพื้นดัง
“ตึ้มๆๆๆๆๆ!!!!!!!”
แล้วหลังจากนั้นสัตว์ประหลาดก็หล่นไปกับพื้น
“ตึ้ม!!!!!”
เสียงนั้นได้ดังไปทั่วประเทศแล้วหลังจากนั้นร่างของมันได้สลายกลายเป็นฝุ่นแล้วปลิวหายไปตามสายลมทำให้ไม่สามารถเอาศพของมันไปพิสูจน์เพื่อตรวจสอบการทำงานของร่างกายจุดอ่อนและโครงสร้างDNAของมันแต่ยังโชดดีที่ระหว่างระดมยิงงาของมันได้หักออกข้างนึงและงาข้างที่หักออกมาไม่ได้กลายเป็นฝุ่นเหมือนตัวมันไปด้วย (ถ้าชิ้นส่วนที่หลุดออกมาจะไม่กลายเป็นฝุ่นแต่ถ้าเป็นร่างกายหลังจากที่ตายจะกลายเป็นฝุ่น) ทำให้เกาหลีเหนือได้ของสำคัญที่สามารถเอาไว้ใช้วิเคราะห์หาวิธีรับมือพวกB.G.S.ที่จะมารุกรานมนุษยชาติในอนาคตและหลังจากวันนั้น
วันที่10ธันวาคม ค.ศ.2050ผ่านไปได้3วันนักข่าวทั่วโลกได้พูดออกทางทีวีในแต่ละประเทศ
“ขณะนี้ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างมหาศาลแก่โลกของพวกเราค่ะภาพด้านหลังดิฉันคือแผนที่โลกก่อนเกิดเหตุการณ์ค่ะส่วนอีกภาพคือแผนที่โลกของพวกเราหลังเกิดเหตุการณ์เมื่อ3วันก่อนค่ะหลังจากที่มีสัตว์ประหลาดหรืออีกชื่อที่นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งชื่อสายพันธ์แก่พวกมัน B.G.Sหรือbefegorraiser(เบเฟกอไรเซอร์) พวกมันได้ทำลายล้างทั้งทวีป ออสเตรเรีย อินโดเนเซีย หมู่เกาะสุมาตรา หมู่เกาะบอร์เนียว ขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ ประเทศรัชเซียทางตะวันออก ประเทศจีนบริเวณมณฑลเซิ่นยาง และได้พบภาพว่าขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ได้มีต้นไม้ปริศนาที่มีขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่แทนค่ะซึ่งคาดว่ามันอาจจะเป็นที่ๆให้พวกB.G.S ออกมาทำลายล้างพวกเรากันแน่ค่ะแต่ไม่วิตกจนเกินไปนะค่ะเพราะเมื่อสองวันก่อนท่านผู้นำคิมจังซานแห่งเกาหลีเหนือกับท่านนายกโรเซรินแห่งสหรัฐอเมริกาได้จับมือยุติความขัดแย้งความเกลียดชังต่อกันและได้จับมือกันเพื่อเป็นสัญญาณว่าจะยอมเชื่อใจกันและยอมเปิดประเทศเกาหลีเหนือเพื่อรับรองความสัมพันธ์นี้และทั้งสองท่านได้เปิดการประชุมก่อตั้งกองพันธ์สหประชาชาติขึ้นที่นครเปียงยางประเทศเกาหลีเหนือโดยมีผู้นำทุกประเทศบนโลกเข้าประชุมด้วยจนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ได้ผลสรุปแล้วว่าทุกประเทศตกลงเห็นด้วยโดยตัวแทนบริหารองค์กรจะได้รับการแต่งจากสองผู้นำในภายหลังและได้เลือกประเทศศูนย์กลางอยู่ที่ญี่ปุ่นและได้มีการดึงนำวิศวกร นักวิจัยชั้นนำของแต่ละเทศและอื่นๆจากทั่วโลกมาร่วมงานด้วย และสุดท้ายนี้ในไม่กี่นาทีนี้ดิฉันเพิ่งได้รับรายงานว่าท่านผู้นำได้เลือกตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น คุณสุนิมิยะ โชโตะ มาเป็นผู้บริหารองค์กรนี้ ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปเนื่องจากอาคารกำลังอยู่ในระหว่างการสร้างจึงยังไม่ได้เป็นผู้อำนวยการในช่วงนี้ รายงานช่วงนี้มีเท่านี้ค่ะขอบคุณค่ะ”
ผลงานอื่นๆ ของ chujikg ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ chujikg
ความคิดเห็น