ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [OS/SF] come & get it {bnior, marknior, got7}

    ลำดับตอนที่ #4 : { o s } o ne i n m i l l i o n - b n i o r

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 555
      1
      23 ต.ค. 58


    ผมเป็นหนึ่งใน 50 ล้านคน ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินเกาหลีใต้แห่งนี้ 
    ผมเป็นหนึ่งในหลายหมื่นหรืออาจจะหลายล้านคนที่มีชื่อเรียกว่า 'มนุษย์เงินเดือน
    ผมเป็นหนึ่งในหลายร้อยคนที่อาศัยรถสาธารณะในการไป-กลับระหว่างคอนโดและที่ทำงาน 
    ผมไม่รู้ว่าผมเป็นหนึ่งในกี่คนที่แอบมองผู้ชายที่มีชื่อว่า ปาร์ค จินยอง อยู่ 
    ผมก็แค่ผู้ชายปอดแหกคนหนึ่งที่มีชื่อว่า อิม แจบอม 

     

               #OneInMillionBNior

     

    1 เดือนที่แล้ว 


                ผมก้าวขึ้นมาบนรถเมย์สายประจำที่ผมขึ้น ผมไม่สนหรอกว่าผมจะเบียดเสียดใคร หรือชนกับใคร ผมสนแค่ว่าผมเหนื่อยจากการทำงานมามากพอแล้ว และผมต้องการเบาะหลังสุดเพื่อที่จะได้พักผ่อนสายตาอย่างสบายใจ ไม่มีคนรบกวน 

    และผมก็ทำแบบนี้เหมือนกับทุกๆ วัน ใส่หูฟัง หลับตา ตัดขาดจากโลกภายนอก จนเมื่อมีเสียงเสียงหนึ่งไม่สิสองสามเสียง ที่ดังลอดเข้ามาในโสตประสาทของผม

    "ยูคยอมอ่าา ร...เรา จะลงถูกมั้ยง่ะ" 

    "ถูกสิแบมแบม นี่ใคร คิม ยูคยอมนะ" 
    "ต..แต่ แบมกลัวนี่หน่า" 
    "ม..ไม่ต้องกลัวหรอกนะแบม ย..ยูคก็จะพยายามลงให้ถูกนะ" 

    เสียงเด็กอายุราวๆ 6-7 ขวบ คุยกันนี่เอง แต่ด้วยความเป็นเด็ก เสียงเลยเล็กแหลมและออกจะเสียงดังไปหน่อย จนผมเริ่มรู้สึกรำคาญ พ่อแม่เด็กพวกนี้ไปไหนกันนะ ทำไมปล่อยให้เด็กมาขึ้นรถเมย์ยามนี้คนเดียว
                  "พวกหนูจะไปไหนกันครับ?" เสียงอ่อนหวานน่าฟังดังออกมาจากเด็กมหาวิทยาลัยที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าผม
                   "คอนโด JYP ฮะ" เสียงแหลมเล็กตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก เอ๊ะ นั่นมันคอนโดผมนี่หน่า แล้วผมมาฟังเค้าคุยกันทำไมนะ
                   "คอนโดเดียวกับพี่เลย งั้นเดี๋ยวลงรถพร้อมพี่เลย ดีมั้ยครับ?" เด็กมหาวิทยาลัยคนนั้นเอื้อมมือออกมายีหัวเด็กน้อยที่ผมเดาเอาว่าน่าจะชื่อแบมแบม ซึ่งเป็นคนที่นั่งอยู่ใกล้มือของเด็กมหาวิทยาลัยคนนั้นมากที่สุด
                   "ด..ดีฮะ ^^" 
                    "พี่ชื่อจินยองนะ ปาร์ค จินยอง" 
                    "ผมแบมแบมฮะ และนั่นแฝดผมชื่อยูคยอมฮะ" 

    และเสียงหวานปนเสียงแหลมก็ดังไปตลอดทาง แต่น่าแปลกที่ผมเลือกที่จะถอดหูฟังออกแล้วฟังเสียงน่านำคาญนั้นแทน ชักอยากจะเห็นหน้าคนที่ชื่อ ปาร์ค จินยอง ขึ้นมาแล้วล่ะสิ อยู่คอนโดเดียวกันด้วย ทำไมไม่คุ้นเอาซะเลยนะ หรืออิมแจบอม ต้องใส่ใจคนอื่นให้มากกว่านี้นะ


     

    #OneInMillionBNior



     


                     ผมนั่งมองใบหน้าหวานที่นั่งหลับพิงไหล่กว้างของผมซึ่งขยับไปมา ตามแรงสะเทือนของรถเมย์ และผมก็คอยจัดท่าให้น้องนอนให้สบายที่สุด 
                      ใบหน้าหวานตอนนี้ที่ปลายจมูกรวมไปถึงแก้มป่องๆ ที่เคยเป็นสีชมพูตอนนี้แดงระเรื่อไปหมดเพราะพิษไข้ รวมถึงดวงตาที่เคยสว่างสุกใส กลมโตเหมือนแมวน้อย ก็หวานเยิ้มไปหมด แต่ถึงแบบนั้น ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเด็กคนนี้ยิ่งน่าดูแลนะ ผมคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่อยากให้น้องไม่สบาย เพราะผมจะได้ดูแลน้อง

                      3เดือน ที่ผมคอยทำตัวป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ปาร์ค จินยอง จากทุกๆ อย่างที่ผมได้รู้จากตัวตนของน้อง ทำให้ผมหลงรักน้องจนแทบจะทนไม่ไหว ยิ่งรู้จักยิ่งรัก  ยิ่งใกล้ชิด ยิ่งอยากจะใกล้ชิดกว่า ผมไม่เคยเชื่อในคำพูดที่ว่า ตกหลุมรักกับคนเดิมซ้ำๆ แต่ตั้งแต่วันนั้น บนรถเมย์สายนั้น ทำให้ผมเข้าใจ เพราะผมเองก็ ตกหลุมรัก ปาร์ค จินยอง อยู่ทุกวัน

                     "จินยอง จินยองงี่" 
                     "งื้อ ถึงแล้วหรอครับ?" น้องค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองผม ก่อนจะเอนพิงไหล่ผมลงมาอีกรอบ เพราะคำพูดประโยคต่อไปของผม "อีกหนึ่งป้ายน่ะ ตื่นได้แล้ว" 
                     "จินยอง ถ้าไม่ตื่นพี่อุ้มเราลงไปจริงๆ นะ" ผมพูดกับน้องเบาๆ มือกร้านของผมก็คอยแต่จะปัดผมที่ปกปิดใบหน้าหวานไว้ 
                      "งื้อ" 
                       และผมทำแบบที่บอกน้องไปจริงๆ เพราะผมก็ตั้งใจจะอุ้มน้องไปส่งที่ห้องอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้น้องรู้สึกไม่สบายตัวไปมากกว่านี้ เมื่อวานยังบ่นแค่ปวดหัว แต่วันนี้กลับตัวร้อนจี๋ขนาดนี้ มันน่าจะตีให้ตายซะจริงเชียว บอกว่าให้ทานยาก็คงจะไม่ทานจริงๆ 
                       "อ้าว ชิบหายล่ะ คีย์การ์ด" ผมบ่นอยู่กับตัวเองคนเดียว ลืมขอคีย์การ์ดห้องน้องไว้ เพราะงั้นทางเดียวเลย น้องคงต้องไปนอนอยู่ที่ห้องของผมซะแล้วล่ะ ตื่นเมื่อไหร่ค่อยเดินไปส่งที่ห้องล่ะกัน 

                       เมื่อผมอุ้มน้องมานอนบนเตียงเรียบร้อยแล้ว ผมก็ปลีกตัวออกมาเตรียมผ้าและกะละมังเพื่อนำไปเช็ดตัวให้น้อง 
                       "จินยอง พี่เช็ดตัวให้นะครับ" ก็แค่พูดไปตามมารยาท เพราะคนป่วยเองคงไม่มีแรงจะมาตอบรับผมหรอก ป่านนี้คงหลับลึกไปเฝ้าพระอินทร์ถึงชั้นไหนแล้วก็ไม่รู้ 

                          และเอาจริงๆ ผมคงจะลืมไปว่า ถ้าเช็ดตัว ผมก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องสิ!!! โอ๊ย แล้วผมจะทนกับความน่ารักของน้องได้ยังไงล่ะ!! 


                          เฮ้อ

     
                      ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกับปาดเหงื่อที่ผุดออกมาเต็มไรผมของผมไปหมดเมื่อใส่กางเกงนอนซึ่งเป็นอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายให้น้องเสร็จ 

                      ยอมรับแบบอิมแจบอมเลยล่ะกัน ผมเกือบทนไม่ไหวกับร่างกายน่ารักของน้อง ผมเกือบก้มลงไปจูบปากแดงๆ นั้น อยากสัมผัสผิวขาวๆ นั้น อยากลองลิ้มชิมรสชาติของน้องไปทั้งตัว .... ให้ตาย! 



                          #OneInMillionBNior



                 "พ...พี่แจบอม" ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงงัวเงียของนอนที่ลุกขึ้นมากลางดึก อาจเพราะว่ายาที่ผมบังคับให้น้องทานไป มันหมดฤทธิ์แล้ว 
                "หื้อ? ว่าไงจินยอง ไม่สบายตัวตรงไหนรึเปล่า?" รีบกุลีกุจอจากโซฟาในห้องเข้าไปหาน้องที่นอนอยู่บนเตียงพลางอังมือกับหน้าผากมนของน้องเพื่อวัดไข้ว่าน้องดีขึ้นรึยัง

    “ป..เปล่าครับ ผมแค่ หนาวนิดหน่อย” จินยองช้อนตามองผมอ้อนๆ แต่ไอ้ผมก็กำลังเป็นห่วงน้องจนมองข้ามสายตาหวานเยิ้มชวนฝันของน้องไปซะสนิทใจ

    “แต่พี่ห่มผ้าให้สองชึ้นแล้วนะครับ”

    คนเป็นน้องส่ายหน้าจนผมกระจายไปทั่วหมอนใบนุ่ม ผมก็งงสิครับ ที่ผมเห็นน้องห่มผ้าแบบนั้นผมก็ร้อนแทนแล้วนะ - -

    “ก..กอด พี่แจบอมนอนกอดผมหน่อยได้มั้ยครับ”

    “ถ้าพี่ทำแล้วจินยองจะหายหนาวหรอครับ” ผมถามออกไปเพื่อความมั่นใจ ไม่รู้ว่าน้องละเมอรึเปล่า แต่น้องก็ลืมตาแล้วนี่หน่า - -+ โอ๊ยบ ถ้าใกล้กว่านี้ ผมจับน้องปล้ำแน่ๆ ครับ โอ๊ะ ผมไม่ได้หื่นนะ แค่เวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบ ใครจะอดใจไหวอ่ะครับ

    “ครับ หายสิ...” จบคำของน้อง ผมก็ลงไปนอนข้างๆ แล้วดึงน้องมากอดไว้พลางลูบผมนุ่มเบาๆ เตียง 3 ฟุต กับผู้ชาย 2 คน ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่มั้ยครับว่ามันจะแย่แค่ไหน แต่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ต้องขอบคุณที่ผมไม่ยอมซื้อเตียง 6 ฟุตซะมากกว่า เพราะเตียง 3 ฟุต มันทำให้ผมใกล้ชิดน้องเข้าไปอีกนิด

    “ดีขึ้นมั้ยครับ?” ผมก้มหน้าลงไปถามน้องที่พยายามขยับเข้ามาซุกอกของผม ราวกับลูกแมวขี้หนาว

    “มากๆ เลยครับ อ..อุ่น กอดพี่แจบอมอุ่น”

    “จินยองครับ” ผมเรียกชื่อน้องเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือจากผมนุ่มไปเป็นพวงแก้มสีแดงระเรื่อแทน ทำให้เจ้าของแก้มแดงนั้นต้องเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างเลี่ยงไม่ได้

    “ครับ?”

     

    ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก

     

    “หัวใจพี่แจบอมเต้นเร็... อื้มม”ผมก้มลงไปประกบปากกับปากแดงเบาๆ โดยไม่รอให้คนเป็นน้องพูดจบประโยค มันเป็นเพียงจูบธรรมดาๆ ที่ไม่มีการรุกล้ำแต่อย่างใด แต่ผมมั่นใจว่าจินยองเองก็รู้สึกดีไม่ต่างไปจากผมหรอก

     

    ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก

     

    เพราะหัวใจน้องก็เต้นแรงแข่งกับผมเหมือนกัน

     

    “พี่ชอบจินยองนะครับ”

    “.....”

    ความเงียบของจินยองทำให้ผมใจเสียไม่ใช่น้อย

    หากน้องปฏิเสธผมล่ะ?

    น้องจะโกรธผมรึเปล่า?

    น้องจะรังเกียจผมมั้ย?

    แต่เคยได้ยินใช่มั้ยครับ? ถ้าขึ้นหลังเสือแล้วอย่าลง แน่นอน ผมมาขนาดนี้แล้ว ผมก็จะไม่หยุดมันเหมือนกัน ถึงแม้ว่าผมจะกลัวคำตอบของน้องมากๆ ก็เถอะ

    “คบกับพี่นะจินยอง”

    “พี่แจบอม...คือ..”

    “ไม่เป็นไรจินยอง พี่ไม่รีบหรอกครับ พักผ่อนเถอะนะ” ผมคงหมดโอกาสแล้วจริงๆ

    “ผม...ผมก็ ครับ..ช..ชอบพี่เหมือนกัน”

     

     

     

    ผมเป็นหนึ่งใน 50 ล้านคน ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินเกาหลีใต้แห่งนี้

    ผมเป็นหนึ่งในหลายหมื่นหรืออาจจะหลายล้านคนที่มีชื่อเรียกว่า 'มนุษย์เงินเดือน'

    ผมเป็นหนึ่งในหลายร้อยคนที่อาศัยรถสาธารณะในการไป-กลับระหว่างคอนโดและที่ทำงาน

    ผมไม่รู้ว่าผมเป็นหนึ่งในกี่คนที่แอบมองผู้ชายที่มีชื่อว่า ปาร์ค จินยอง อยู่

    แต่ตอนนี้ในสายตาของ ปาร์ค จินยอง มีเพียงแต่ผม อิม แจบอม เท่านั้น

    และในหัวใจของ อิม แจบอม ก็มีเจ้าของคือ ปาร์ค จินยอง คนเดียว

     








    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×