สารคดีชีวิต..ตอน เรื่องของ ‘เพื่อน’ กับ ‘เพื่อน’ ( Y ) - สารคดีชีวิต..ตอน เรื่องของ ‘เพื่อน’ กับ ‘เพื่อน’ ( Y ) นิยาย สารคดีชีวิต..ตอน เรื่องของ ‘เพื่อน’ กับ ‘เพื่อน’ ( Y ) : Dek-D.com - Writer

    สารคดีชีวิต..ตอน เรื่องของ ‘เพื่อน’ กับ ‘เพื่อน’ ( Y )

    ก็เป็นแค่เรื่องบเบวมๆที่เพื่อนดันมาหลงรักเพื่อนโดนที่ไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่าเพื่อนก็หลงรักเพื่อนเหมือนกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    527

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    527

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  ตลก-ขบขัน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.ค. 50 / 15:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      สารคดีชีวิต..ตอน เรื่องของ 'เพื่อน' กับ 'เพื่อน'

                      ผมชื่อ เก่ง รูปร่างหน้าตาก็พอรับได้ แต่เพื่อนของเพื่อนผม บอกว่าผมหน้าตาดี ตอนนี้ ผมเรียนอยู่ ม. 5  มีเพื่อนสนิทอยู่คน ชื่อ แบงค์ ผมกับมันสนิทกันมาตั้งแต่ ม.ต้น พอขึ้น ม.ปลาย พวกเราก็เลือกเรียนสายเดียวกันและก็ได้อยู่ห้องเดียวกันอีก เพราะความสนิทของพวกเราก็เลยมีข่าวลือออกมา ว่าผมกะแบงค์เป็น คู่เกย์ กัน แต่มันก็ไม่ใช่นะครับ ผมกะมันอ่ะ เป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อนกันจริงๆนะครับ ถึงบางทีจะรู้สึกดีเวลาอยู่กับมัน แต่มันก็แค่นั้น

                      ไม่นานมานี้ผมกับแบงค์ทะเลาะกัน เรื่องมันเริ่มตรงที่ แบงค์ มันทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มอีกคน ผมก็เป็นคนกลาง ครั้งนี้ผมเห็นว่าแบงค์มันงี่เง่าเอง ผมก็เลยเข้าข้างอีกฝ่าย ไปๆมาๆ มันก็ไม่พูดกับผมซะงั้น นี่ผมผิดใช่มั้ยครับที่ไม่เข้าข้างมัน คนอย่างผมถ้าไม่ผิดไม่ง้อหรอกครับ มันคิดว่าผมมีมันเป็นเพื่อนแค่คนเดียวรึไง

                      ตั้งแต่นั้น ชีวิตผม ที่เคยไปไหนมาไหนกับมันก็เปลี่ยนไป ผมก็ไปเที่ยวกับเพื่อนนอกโรงเรียน ไม่มีมันผมก็เที่ยวได้ไม่ง้อหรอก  มันจะรู้สึกอะไรบ้างมั้ยที่ไม่มีผมอยู่ข้างๆเหมือนเคย  เพื่อนนอกโรงเรียนผมมันเป็นเด็กเที่ยว พวกมันเที่ยวกันที่ไหนผมก็ตามๆมันไป อยู่กับแบงค์ผมไม่ได้เที่ยวที่แบบนี้หรอกเพราะแบงค์มันเป็นคนดี

       วันนึง เพื่อนที่ผมเที่ยวกับมันก็ชวนผม 'ขาย' มันบอกครั้งแรกได้ราคาดี ตอนนี้ผมก็มีของที่อยากได้อยู่ชิ้นนึง แต่ผมก็ปฏิเสธมัน ผมไม่ทำครับ ก็ผมไม่ใช่เกย์นี่จะให้ทำกับผู้ชายได้ยังไง   วันรุ่งขึ้น ผมนึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้ ตัวผมเองยังไม่เข้าใจเลย ผมเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนในกลุ่มที่ห้องฟัง

      "เฮ้ยแม่ง  เมื่อวานไปเที่ยว เพื่อนกูเเม่งชวนกูขาย ไม่รู้คิดอะไรของแม่ง อยู่ๆก็บ้า" ผมเล็งไว้แล้วแหละว่าคนที่ผมเล่าให้ฟังมันต้องสนใจ มันเป็นเพื่อนผู้หญิงนะครับแต่มันบ้าการ์ตูนเกย์

      "แล้วแกว่าไง ไอ้ที่ขายนี่...แกเป็นฝ่ายโดนใช่มั้ย"

      ดูสิครับ มันรู้ดี...ผมชักจะขำกับท่าทางเก็บอารมณ์ไม่อยู่ของมันและ

      "กูจะรู้ได้ไงว่ะนี่"

      "หน้าอย่ามึงอ่ะ เป็นฝ่านโดนชัวร์ๆ ระวังนะเฟ้ย ไอ้พวกนี้ถ้ามันจะทำ แกเสร็จมันแน่"

      นี่ล่ะครับคำว่าเพื่อน ถึงท่ามันจะแสดงออกว่าอยากให้ผมเป็นเกย์ แต่มันก็ยังห่วงผม ผิดกับคนบางคน...ก็ไอ้เพื่อนแบงค์นั้นแหละ ถึงมันจะไม่ใช่คนที่ผมนั่งคุยด้วย แต่ผมก็รู้นะว่ามันได้ยิน แต่.....ดูหน้ามัน ทำท่าเย็นชา มันไม่ห่วงผมที่เป็นเพื่อนมันมาตั้งกี่ปี ดูท่ามันแล้วมันคงไม่สนใจว่าผมจะโดนผู้ชายอื่นทำเลยซักนิด  คิดดูดิครับมันน่าเจ็บใจแค่ไหน ไอ้ผมล่ะห่วงมันไปซะทุกเรื่อง แต่มันก็เย็นชากับผมเรื่อย แถมเรื่องที่ทะเลาะกันก็มันเป็นต้นเหตุ  ผมไม่ง้อ...แต่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าผมเกิดตกลงจะ'ขาย'ขึ้นมา มันจะรู้จักทำหน้าที่เพื่อนที่ดีกับผมบ้างรึเปล่า

      "คงไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยววันหยุดนี้กูว่าจะลองไปเจอดู ตอนนี้มีของที่อยากได้ซะด้วยสิ"

       นี่ผมพูดซะขนาดนี้แล้ว มันยังไม่มีปฏิกิริยาที่จะมาพูดเตือนพูดห้ามผมซักนิด ไม่หันมามองหน้าผมด้วยซ้ำ  ในระหว่างที่ผมกำลังคิดโน้นนี่เพื่อนสาวของผมก็พร่ามเรื่องอะไรซักอย่าง ผมตั้งใจหลุดปากบอกโรงแรมนัดพบให้เธอรู้ ผมพูดดังเลยล่ะก็อยากรู้อ่ะ ว่าเพื่อนยังเป็นเพื่อนกันอยู่รึเปล่า แต่ไอ้แบงค์มันก็ตีนิ่ง ผมกำลังจะหลงผิดแล้วนะ ทำไมมันไม่เตือนอ่ะ .... ไม่เป็นไรเหลือเวลาอีกสองสามวันก่อนถึงวันนัด ดูสิว่ามันจะมาเตือนผมมั้ย....

      .................................................................

      "พี่เอก...เก่งบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าที่มานี่แค่เพื่อน แค่มารู้จักกันในฐานะเพื่อน...ถึงไม่ได้เกลียดเกย์แต่เก่งก็ไม่ใช่" ในที่สุดวันนัดก็มาถึง ไอ้แบงค์มันก็ยังไม่สนใจใยดีผม  ....  พี่ที่เค้าสนใจผมหล่อมากๆจนไม่คิดว่าเค้าจะมาซื้อผู้ชาย แต่ก็นะคงเหมือนที่สาวๆมันคุยกัน 'หล่อนักมักเป็นเกย์'

      "อื้ม..รู้แล้วเพื่อนโทรมาบอกแล้วล่ะ แต่ไหนๆเก่งก็มาแล้ว ถือว่าวันนี้มาเดทกับพี่แล้วกัน หิวป่ะโรงแรมนี้อาหารอร่อยมาก พี่เลี้ยงน่า ถือว่ามารู้จักเพื่อนใหม่"

      ว่าแล้วพี่เค้าก็โอบผมดันเข้าโรงแรมเฉย  แต่ท่าทางพี่แกก็เป็นสุภาพบุรุษดี คงไม่ทำอะไรมั้ง??  โรงแรมที่พี่เอกพาเข้ามาหรูมาก นี่ถ้าผมตอบโอเคมา ที่นี่คงเป็นที่เปิดบริสุทธิ์ก้นผมสินะ พอคิดแล้วมันก็หวิวๆพิกล

      "นั่นเพื่อนรึเปล่า...เห็นมองนานแล้ว"

      อยู่ๆพี่เอกก็ทักขึ้น พี่เค้าชี้ออกมาที่หน้าโรงแรม...ไม่น่าเชื่อ การที่ผมป่าวประกาศสถานที่นัดออกไปจะได้ผล ไอ้เพื่อนแบงค์มันมาแอบดูผม คงห่วงผมล่ะสิท่า แต่เห็นท่ามันแล้วผมหมันไส้ ดูมันเก๊กดิ... ห่วงเพื่อนแม่งก็ไม่พูด ผมได้ทีก็ประชดมันเลย  ผมเกาะแขนพี่เอกเดินเข้าโรงแรมต่อหน้าต่อตามัน เชอะ!! มันไม่มาเตือนผม ผมก็แกล้งทำเป็นว่าความบริสุทธิ์ของผมซื้อได้ด้วยเงินซะเลย ยังไงมันก็ไม่ได้ยินเรื่องที่ผมคุยกับพี่เค้าอยู่แล้ว คอยดูพรุ่งนี้ผมจะแกล้งโทรไปร้องห่มร้องไห้กับมันว่าผมโดนข่มขืนและโทษมันเต็มที่ว่าเพราะมันไม่ห้ามผม ผมเลยหลงผิด  คงฮาน่าดู...

      "นี่เก่ง  ที่อยู่ข้างนอกนั้นแฟนเหรอ ควงพี่แบบนี้ประชดเค้าล่ะสิ"

      ง่ะ...ผมปล่อยพี่เอกทันที พี่แกพูดอะไรเนี่ย กระทั้งพี่ที่เพิ่งเจอกันก็เห็นผมเป็นแฟนกับไอ้แบงค์เหรอนี่

      "ไม่ใช่ เก่งก็บอกแล้วว่าไม่ใช่เกย์จะมีแฟนเป็นผู้ชายได้ไง นั่นเพื่อนที่โรงเรียนแค่กำลังวางแผนแกล้งมันนิดหน่อย" ผมก็รู้นะ ว่าพวกเพื่อนๆผม มันชอบเอาเรื่องผมกับไอ้แบงค์ไปนินทาว่าเป็นเกย์ ทั้งๆที่ผมกับมันก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงทั้งคู่แต่เผอิญตอนนี้มันไม่มีก็แค่นั้น อีกอย่างผมกับมันก็ไม่เคยนัวเนียกันในห้องเหมือนเพื่อนบางคน แต่ทำไม๊ทำไมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมมีแต่คนมองว่าผมกับมันเป็นแฟนกัน ขนาดเกย์ตัวเป็นๆยังบอกว่าผมกับมันเป็นแฟนกัน  ไอ้เรื่องไม่เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยคิด ผมเริ่มคิดซะแล้วสิ...แต่ความคิดของผมก็จบลง นี่ผมกำลังเข้าโรงแรมกับผู้ชายอื่นนะ ถ้ามันชอบผมมันก็ต้องมีปฏิกิริยาบ้างดิ แต่นี่ขนาดการตักเตือนแบบเพื่อนที่หวังดีมันยังไม่มี  ผมคงฟุ้งซ้านบ้าๆไปชั่วครู่ที่คิดว่ามันชอบผมแบบนั้น

      ......................................................................................

      ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง ผมทานข้าวทานขนมเสร็จ พี่เอกก็ถามเกริ่นๆเรื่องอย่างว่า ผมรู้ตัวเลยรีบชี้งออกจากโรงแรม  หวิดเสียตูดแล้วมั้ยเรา...  ข้างในโรงแรมมันสว่างเลยไม่รู้ว่าข้างนอกมืดแล้ว ผมมองดูนาฬิกาว่ายังทันรถเมล์รึเปล่า พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเพื่อนตัวดียังยืนอยู่ที่เดิม มันห่วงผมขนาดมารอผมเลยเหรอ...คงใช่อ่ะ ถ้ามันห่วงผมขนาดนี้ทำไมมันไม่ยอมพูดกับผมแต่แรก ผมเลยตัดสินใจแกล้งมัน  ผมแกล้งวิ่งออกจากโถงหน้าโรงแรมแบบนางเอกมิวสิกเลย ร้องไห้นิดๆ ระหว่างวิ่งผ่านผมแกล้งทำว่าไม่เห็น  โอ้โห..มันวิ่งตามอ่ะ มันกอดผมซะแน่น ทำหน้าซีเรียสด้วยนะ มันโอ๋ผมใหญ่เลย ผมแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เล่นเอาน้ำตาร่วง

      "อย่าร้องไห้..เฮ้ย เก่งอย่าร้อง  ไม่เป็นไรหรอกนะ ช่างมัน  ช่างมัน"

      มันปลอบผมลูบหัวลูบหางทำยั่งกะผมเป็นเด็กสี่ขวบ  คงเพราะมันไม่คุยกับผมหลายอาทิตย์มั้ง..ผมถึงได้คิดถึงเสียงมันขนาดนี้

      "แบงค์....แบงค์" 

      ผมเรียกสติเพื่อนผม  รู้สึกผมจะแกล้งมากไปหน่อย ไอ้แบงค์มันร้องไห้ซะแล้ว ถึงผมจะเลิกเล่นแล้วแต่ดูท่าว่าอารมณ์ผมมันคงค้าง ท่าทางและสีหน้าของผมคงยังเหมือนคนที่เพิ่งโดนเปิดบริสุทธิ์มามั้งไอ้แบงค์มันไม่ยอมปล่อยผมซะที จากที่พูดปลอบตอนนี้แค่กอดเงียบๆ  นี่มันถนนกลางใจเมืองนะเฟ้ย คนเค้ามองกันใหญ่แล้ว

      "แบงค์ปล่อยได้แล้ว...แบงค์...เฮ้ย!! ปล่อย กูอายคนอื่นนะเฟ้ย"

      พอ..จบ...ผมเลิกเล่น อายชาวบ้านชาวเมืองเค้า  ในที่สุดไอ้แบงค์มันก็ปล่อยผม มันยังไม่พูดอะไร...ผมเห็นหน้ามันแล้วต้องอมยิ้มอ่ะ หน้ามันงงๆ  ฮาอ่ะ... ผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ผมขำซะตัวงอ มันคงรู้ตัวแล้วว่ามันโดนแกล้ง มันเดินหนีผมเลย ผมคว้ามือมันไว้แล้วเดินตามไม่ให้มันหนีหายไปไหนอีก

      "แบงค์คิดว่าเก่งโดนจริงๆเหรอ  คิดว่าเพื่อน....ฮะๆๆๆ  โห  คิดได้ไงว่าเพื่อนจะยอม"

      "ไอ้เพราะแบบนี้แหละ มันน่านัก น่าจะโดนซักทีจะได้รู้สึก"

      ซะงั้น...มันไล่ผมไปมีอะไรกับคนอื่นอ่ะ  ผมชักยั๊วอุตส่าห์ว่าจะดีด้วยซะหน่อย

      "ก็มึงไม่สนใจกูอ่ะ  มึงก็ได้ยิน ทำไมมึงไม่เตือนกูแต่แรก  ทำไมมึงไม่ห้ามกูล่ะ"

      นั้นล่ะ...ผมงอนมัน

      "......................."

      "ว่าไงนะ"  ไอ้แบงค์มันก้มหน้าตอบผมงึมงำงึมงำอะไรของมันไม่รู้เรื่อง  พอผมถามย้ำมันก็ไม่ตอบ  ผมสะบัดมือมันเดินไปทางตรงข้าม ป้ายรถเมล์มีเยอะแยะผมไปขึ้นอีกป้ายก็ได้...  เหอะๆผมเดินมาไม่กี่ก้าวมันก็ดึงมือผมไว้....แล้วลากผมเดินตามมัน

      "มึงไม่อยากพูดกับกูไม่ใช่เหรอ  ไปไหนก็ไปไป๊"  ถึงผมจะพูดแบบนั้นแต่ผมก็เดินตามมันต้อยๆ  มันเงียบครับ มันไม่พูดอะไรเลยจนถึงป้ายรถเมล์ แต่มันก็ไม่ปล่อยมือผมนะ  ป้ายรถเมล์เว้งว้างมาก มีผมกับมันยืนรอรถอยู่แค่สองคน

      "นี่ตกลงจะไม่พูดกันจริงๆใช่มั้ย"

      "พูด"

      ในที่สุดมันก็ตอบผม  แต่ก็แค่นั้น...ผมเหนื่อยแล้วที่จะเซ้าซี้มัน ผมก็เลยหยุด   เงียบไปซักพักใหญ่รถกลับบ้านก็มา ผมกำลังเคลิ้มได้ที่เลย แบงค์สะกิดแล้วจูงมือผมขึ้นรถ  มีที่นั่งคู่พอดี  แบงค์เป็นคนจ่ายค่ารถให้ ผมกำลังง่วงๆก็เลยถือโอกาสซบไหล่มันหลับซะเลย มันอยากสูงกว่าผมทำไมล่ะ  แต่ก็หลับไม่สนิทหรอก ตอนนี้ผมมาคิดๆกับอาการของตัวเอง ผมก็ไม่เข้าใจว่าที่ผมง้องแง้งกับมัน นี่ผมต้องการอะไรกันแน่ ทำไมผมต้องเรียกร้องความสนใจจากมันขนาดนี้นี่ 

      "เพราะห่วงหรอกนะถึงได้ตามมา หัดรู้ซะบ้างว่าเป็นห่วง เล่นเอานอนไม่หลับไปหลายวัน"

      "จะพูดกับคนหลับให้ได้อะไรฟะ"

      ผมรู้สึกดีมากๆกับคำพูดของเพื่อนผม  ปลื้มมากเลยอ่ะ  มันกังวลเรื่องของผมด้วย คงเป็นนี่ล่ะมั้งที่ผมต้องการ แค่รู้ว่าเพื่อนมันห่วงผม ผมก็โอเคแล้ว    ผมหลับตลอดทางจนถึงบ้านแบงค์มันก็เรียกผมและยันผมลงรถเมล์ทั้งที่ยังไม่ตื่นอย่างไร้ใยดี  ไอ้เพื่อนที่แสนดีของผมเมื่อกี้มันหายไปไหนไม่รู้ ผมได้ไอ้คนขี้แกล้งกลับมาอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรผมถือว่านี่ผมดีกับมันแล้ว เวลาไม่ได้คุยกับมันผมรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย

      .................................................................

      เรื่องเดิมๆหมุนวนมาอีกครั้ง  ผมกับมันกลับมาคุยกันเหมือนเดิม ไปไหนเห็นมันก็ต้องเห็นผม ถ้าใครตามหาผมหามันเจอก็หาผมเจอ  ขนาดไปห้องน้ำผมกับมันยังต้องไปด้วยกันเลย....  

      "เฮ้ย..เล่นป่ะ"

      ตอนนี้คาบว่างผมได้รับคำเชิญจากเพื่อนผู้ทรงเกลียดให้ร่วมเล่นเกมฝึกการคำควณความน่าจะเป็น เหอะๆ ตั้งกันเป็นวง  แต่ก็เหมือนที่บอก ผมเล่น..ไอ้แบงค์ก็เล่น  นั่งไปได้ซักพัก...ทำไมผมชักเสียเยอะว่ะแล้วไอ้แบงค์มันไม่เสีย  และในจังหวะที่ผมกำลังจะอารมณ์บูด เพื่อนสาวที่ไอ้แบงค์ฝากตังส์ไปซื้อคุกกี้มันก็เอาของมาส่ง  แหะๆ ของไอ้แบงค์ก็เหมือนของผม ไอ้แบงค์รับถุงขนมจากเพื่อนแล้วมันก็ส่งให้คนข้างๆ   เฮ้ย....นั่นมันต้องเป็นของผมนี่ทำไมมันวนข้างโน้นอ่ะ เพื่อนที่เป็นคนแกะถุงคุกกี้หยิบเผื่อให้ไอ้แบงค์ชิ้นนึงแล้วส่งวนต่อ    ปกติไอ้แบงค์มันต้องให้ผมก่อนดิ  ทำไมอ่ะ...ถ้าวนด้านโน้นผมก้ต้องได้คนสุดท้ายอ่ะดิ  วงไพ่วงเบ้อเร่อมันจะเหลือมั้ยล่ะ  เป็นไปตามคาด....คุกกี้ที่น่ารักมันหมดชิ้นสุดท้ายก่อนถึงผมพอดี  คนกำลังอารมณ์เสียๆแม่งไม่ได้กินอีก  เซ็งโว๊ย!! 

      "แบงค์" จากการอดคุกกี้ของตัวเองก็เล็งชิ้นที่อยู่ในมือคุณเพื่อน  เสียงเรียกทำให้ทั้งวงหันมาดูเหตุการณ์  ผมมองหน้ามันให้รู้ว่าผมคิดอะไร ไอ้แบงค์มันแสยะยิ้มแล้วยัดคุกกี้ชิ้นนั้นเข้าปากเฉย ทำเอาผมมองตาค้าง  เฮ้ยยยย...เพื่อนกันแบ่งกันซักนิดก็ไม่ได้ มันก็น่าจะรู้...ผมแค่ต้องการเศษเซี้ยวซักเล็กน้อยพอให้น้ำตาลไหลเวียนในเลือด  แต่มันก็กินหมดไม่แบ่งผมซักนิด คุกกี้ตั้งชิ้นนึงกินคนเดียวไม่แบ่ง..ใจดำ นี่เหรอที่เค้าเรียกว่าเพื่อน    ผมลุกออกจากวง เสียไพ่ก็เสียแถมยังไม่ได้กินคุกกี้อีก 

      "ไอ้แบงค์มึงตามไปเลย เมียงมึงงอนแล้ว"  เพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ไล่มัน...แต่คำพูดไม่เข้าหูผมเอาซะเลย ก็บอกไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าผมไม่ใช่เกย์ยังหาว่าผมเป็นเมียไอ้แบงค์มันอีก   แต่ท่าทางไอ้แบงค์มันจะไม่สน มันลุกมาง้อผมเฉย

      "อ่ะ...ให้เก่งคนเดียวเลย"  อ่า...อันที่จริง ไอ้แบงค์มันก็แค่แหย่ผมนี่หว่า คุณเพื่อนคนดีของผมยื่นคุกกี้ถุงใหม่ให้ผม  มันซื้อมาสองถุงกะแล้วว่าถุงแรกผมต้องไม่ได้  ....  เมื่อมันให้ ผมก็รับดิ  ผมแกะถุงคุกกี้ กะไม่แบ่งใครเลยนะนี่ ผมงับคุกกี้ไปครึ้งชิ้นคาไว้ในปากในขณะที่ผมกำลังจะยกมือจับมัน ไอ้แบงค์มันก็ก้มลงมางับคุกกี้ที่เหลืออีกครึ่งชิ้นคาปากผม... 

      "คนซื้อมีสิทธิ์กิน..ใช่มั้ย"  คนซื้อมีสิทธิ์กินน่ะใช่  แต่เมื่อกี้มันจงใจจูบผมไม่ใช่รึไง   ผมนิ่งอึ้งกลืนคุกกี้ในปากแทบไม่ลง

      "แบงค์....แบงค์ชอบเก่งใช่ป่ะเนี่ย"  ง่ะ....ผมยังหาเหตุผมไม่ได้ว่าทำไมถึงถาม  แต่มันก็ถามไปแล้วอ่ะ

      "แล้วมีใครล่ะที่จะจูบคนที่ไม่ชอบ" โอ้ว...นี่คือคำตอบที่มันตอบผม แล้วมันก็ทิ้งผมที่สับสนไปนั่งเล่นไพ่ต่อ   ผมคว้าถุงคุกกี้ที่กำลังจะหลุดมือ พยายามตั้งสติ....เฮ้ย เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปีอยู่ๆมาบอกชอบผมนี่นะ (แล้วเธอถามมันทำไมไม่ทราบ)

      "มานี่" ผมกระชากมันเดินออกจากกลุ่มเพื่อนโดยที่ไม่สนใจฟังคำแซวใดๆทั้งสิ้น 

      "แป๊บนะ  สงสัยที่รักจะต้องการ" ดูมัน...ไอ้ท่าทางแบบนี้ ตกลงเมื่อกี่ที่มันจูบผมมันหรือมันจริงกันแน่ว่ะนี่   ผมลากมันเข้ามาในห้องแล็ปที่ว่างอยู่

      "ที่แบงค์เล่นเมื่อกี้ เก่งไม่ชอบ รู้ไม่ใช่เหรอ" อ่า..ผมตั้งสติได้  นี่ผมแค่ไม่พอใจที่มันเล่นเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ผมก็ไม่เข้าใจทำไมผมต้องหน้าแดงด้วย...อ๊าก  เป็นไรไปฟะกรู

      "ก็แบงค์ชอบเก่ง....รึว่าเก่งไม่ได้ชอบ"  ง่ะ....มันก็จริงนี่เนอะ ถ้าเกลียดกันจะเป็นเพื่อนกันได้ไง 

      "ชอบ.....แต่..."  เพื่อนกันเค้าจูบกันด้วยเหรอ!?  ผมอายเกินกว่าจะพูดออกไปได้ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมคิดว่ามันชอบผมแบบอื่นที่เกินเพื่อน ผมก้มหน้าหลบตามัน ก็มันเล่นจ้องซะ  ในตอนที่ผมไม่ทันตั้งตัว มันก็ก้มลงมาจูบผมอีก นี่ที่ปากผมไม่มีคุกกี้แล้วนะ มันจะจูบหาอะไรอีกเนี่ย       อ๊าย...มันกอดผมอ่ะ  ผมพยายามผลักมัน ไม่ได้รังเกียจแต่มันเขิลอ่ะ แล้วผมก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมมันถึงทำแบบนี้กับผม ปกติมันก็ชอบแกล้งผมจะตาย แต่คราวนี้มันดูจริงจังยังไงพิลก  หรือว่ามันจะชอบผมอย่างนั้น...เหมือนอย่างที่เพื่อนๆมันลือกัน

       "แบงค์  ...  แบงค์เป็นเกย์เหรอ"

      "เปล่า   แต่ชอบเก่ง"

      "งั้นชอบแบบเพื่อนใช่ป่ะ"

      "อื้ม....ชอบ"

      งั้นเองเหรอ.....โธ่  ผมละตกใจ  พอมันตอบผมก็ซบหน้าลงกันไหล่มันถอนหายใจสองสามที  นี่ถ้ามันตอบว่าแบบคนรักผมจะทำยังไงนี่  ผมยังไม่พร้อมที่จะเป็นเกย์ตอนนี้....อ๊ากกกกก   ผมคิดอะไรนี่  ผมกำลังคิดว่าในไม่ช้าผมต้องเป็นเกย์ใช่มั้ย???  แต่นั้นยังไม่สำคัญเท่าเรื่องที่....ทำไมถ้ามันชอบผมแบบคนรักแล้วผมต้องเป็นเกย์   มันสิต้องเป็นไม่ใช่ผม  รึว่า??  ถ้ามันสารภาพรักกับผม ผมจะตอบตกลงกับมันงั้นเหรอ  พอคิดๆดู...สรุปว่าผมชอบมันแบบคนรักใช่มั้ยเนี่ย....ผมจะทำยังไงดี  ผมแอบชอบเพื่อนตัวเอง ผู้ชายซะด้วยสิ แถมมันยังชอบผมแค่เพื่อนอีกต่างหาก  ถ้าผมบอกมันว่าผมชอบมัน  มันคงเกลียดผมแน่  ผมจะทำยังไงดี...ผมจะรักษาความเป็นเพื่อนของเราได้ยังไง ก็ตอนนี้ผมรู้ตัวแล้วว่าผมชอบมัน

      "เป็นไร..." 

      คงเพราะผมนิ่งไปแบงค์ก็เลยถามผม  ผมส่ายหน้า ผมมองหน้ามันไม่ติด ผมไม่อยากเสียเพื่อนไปแต่การที่จะ...ทนกับความรู้สึกของตัวเองก็ยาก     ไม่ได้ไม่ได้...ผมสับสนไม่ได้ ผมต้องตั้งสติก่อนที่แบงค์จะรู้ตัวว่าผมรู้สึกกับมันเกินเพื่อน 

      "แบงค์ไปเล่นไพ่ต่อเถอะ มือกำลังขึ้นไม่ใช่เหรอ  ได้แล้วพาเก่งไปเลี้ยงด้วย"

      ผมเฉไฉออกนอกเรื่อง  ก้มหน้าไม่มองมัน

      "งั้น..ก็ได้  ขอโทษนะที่บอกว่าชอบ ไม่ต้องคิดมาหรอกน่า ยังไงเราก็จะเป็นเพื่อนกัน"

      แล้วมันเดินออกไปทิ้งผมไว้คนเดียว  ผมไม่รู้จะทำยังไงแต่คำว่าเพื่อนที่ผมได้ยินบ่อยๆตอนนี้มันกำลังทำร้ายผม แบงค์มันย้ำกับผมขนาดนี้ผมคงบอกมันไม่ได้ว่าผมคิดกับมันเกินเพื่อน ผมคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมันอยู่ข้างๆ  ถ้าผมบอกชอบมัน  มันคงตีตัวออกห่างผม  ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน  เพราะงั้น แม้ผมจะต้องทรมานเก็บความรู้สึงที่มีต่อมันไว้เพียงใด ผมก็จะอดทน ผมจะพยายามทำตัวเป็นปกติ....เพื่อรักษาความเป็นเพื่อนของผมกับมันไว้     ......ผมขออยู่ใกล้คนที่ผมรัก  เพียงแค่ในฐานะเพื่อนก็เพียงพอ......

      อ๊ะ!! แล้วนี่ผมมั่นใจตัวเองได้ไงว่าผมรักมัน  .....  ผมอาจรักมันแบบเพื่อนก็ได้นี่  ผมแค่ต้องการมันตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้มัน อยากให้มันมองผมเพียงคนเดียว...นี่ผมแค่หวงมันเฉยๆไม่ใช่เหรอ  นี่สิ...ผมอาจคิดมากไปเอง  ผมอาจชอบมันแบบเพื่อนก็ได้  ....โอ๊ย  ความคิดผมมันกำลังสับสน  แต่ไม่ว่ายังไง  ผมก็ขาดมันไม่ได้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีก  ตอนนี้ผมกับมัน...ก็อยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน  ง่ะ....ทำไมพอคิดว่าเป็นเพื่อนแล้วเจ็บปวดนี่....โอ๊ย...เครียด...สงสัยผมจะเป็นโรคหัวใจ หรือผมแอบรักเพื่อนตัวเองกันแน่ ชักไม่มั่นใจซะแล้วสิ

      ………………………………….

      Fin. ตอน เรื่องของ 'เพื่อน' กับ ' เพื่อน' 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×