หัสดินเล่ห์รัก

:) Shalunla

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเคราะห์ซ้ำหรือกรรมซัด ‘แพรหวาน’ ต้องมาชดใช้หนี้ที่ตนเองไม่ได้ก่อ แถมการชำระหนี้ครั้งนี้ ต้องแลกมาด้วยการ ‘ขายศักดิ์ศรี’ เธอจึงต้องดิ้นรนสุดชีวิตที่จะหนีออกจากทางนรกที่รอเธออยุ่รอมร่อ จนกระทั่งพระเอกขี้ม้าขาวก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอไว้ แต่การชำระหนี้อีกทอดจากเขาก็มีเงื่อนไขเช่นเดียวกัน เงื่อนไขนี้จะดีหรือร้ายก็ยังเดาไม่ถูก ตกลงพ่อพระเอกขี่ม้าขาวคนนี้ จะเป็นม้าขาวเคลือบพยัฒย์ม้าสีนิลรึเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ คราวนี้จะเคราะห์ซ้พำกรรมซัด หรือกรรมรักก็ต้องประเมิน ‘ฌามส์’ พ่อพระเอกหนุ่มขี่ม้าขาว ว่าจะมาไม้ไหนกันแน่ 

 

“เอ..หรือว่าจะจูบจริงดีนะ จะได้แนบชิดสมจริงยิ่งกว่านี้ จะว่าไปก็ดีนะมันจะไม่เห็นหน้าคุณเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว เพราะถึงเห็นก็ไม่รู้หรอกว่าใคร” หญิงสาวหน้าแดงจัด ก่อนจะกัดฟันกรอดๆ และพูดด้วยใบหน้าไม่พอใจว่า

“นี่คุณ!!”  ชายหนุ่มเลิกคิ้วก่อนจะกดจมูกเข้าไปใกล้ยิ่งกว่าเดิมจนเบียดกัน “จะบอกเลยก็ได้นะ เผื่อผมจะช่วยอะไรได้” ชายหนุ่มยิ้ม แต่หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่

“คุณช่วยฉันไม่ได้หรอก ถึงช่วยได้คุณก็ไม่ช่วย” หญิงสาวจ้องตาชายหนุ่มเขม็งอีกครั้ง เขาจึงเลิกคิ้วก่อนพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบขึ้นมาว่า

“ก็ไม่แน่นะ ผมเป็นคนใจบุญซะด้วยสิ” หญิงสาวยิ้มมุมปากก่อนจะกรอกตา

 “ก็ได้” ชายหนุ่มเลิกคิ้วอีกครั้งก่อนจะทำหน้าสงสัย ตอนนี้ร่างกายของทั้งสองยังคงเบียดกันราวกับคนจู๋จี๋กันอยู่กลายๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองว่าคนที่ตามหญิงสาวยังอยู่หรือไม่ เพราะ ณ ตอนนี้เขาสนใจแต่ใบหน้าหวานตรงหน้าเท่านั้น ไม่รุ้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เขาต้อง รู้สึกตกอยู่ในภวังค์เพียงแค่แรกพบ อาจเป็นเพราะเธอไม่เหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ ที่เมื่อเห็นเขาก็ยอมศิโรราบก็เป็นได้

 

ฌามส์

นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ซึ่งจะขึ้นมาเป็นผู้บริหารหนุ่มคนใหม่ของบริษัท เขาเป็นคนทะเยอทะยานและจริงจังกับทุกๆสิ่งที่เข้ามาในชีวิตเขา ชีวิตของฌามส์แขวนอยู่บนเส้นด้ายของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งที่พยายามจะตีเสมอธุรกิจส่งออกของเขา แต่ด้วยความหล่อเหลา ที่ไมได้มีเพียงเท่านั้น ความพยายามทำตามความชอบใจของผู้เป็นบิดา ก็ส่งผลให้เขาทะเยอทะยานอยากได้ทุกสิ่งที่ขวางหน้า และจริงจังกับทุกสิ่ง ไม่เว้นแม้กระทั่ง
‘เธอ’

‘เอ...แต่ผมเป็นคนอยากได้อะไรก็ต้องได้นะ ระวังตัวไว้ให้ดีแล้วกัน’  ชายหนุ่มยิ้มมุมปากก่อนจะช้อนคางหญิงสาวให้เชิดขึ้นก่อนจะหัวเราะในลำคอ

“นี่กะจะทำเหมือนตัวร้ายในละครที่อุ้มฉันเป็นกระสอบทรายเข้าบ้าน เอาแจกันตีหัวแล้วก็ข่มขืนฉันน่ะเหรอ!!” หญิงสาวเบิกตากว้างก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปม ชายหนุ่มเมื่อเห็นท่าทางก็หัวเราะร่า ก่อนจะจิ๊ปากเยาะเย้ยความคิดของหญิงสาว

“ก็อยากจะทำนะ จะลองมั้ยล่ะ ถึงจะอยากได้อะไรก็ต้องได้แต่ผมมันน่ารักกว่าที่คุณคิดเยอะ” ชายหนุ่มอมยิ้มพลางเอามือลูบศีรษะของหญิงสาวอย่างเบามือ

“เช่น..ทำให้เคลิ้มก่อนเป็นไง”  หญิงสาวเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตัวแข็งทื่อมือไม้ปัดเป่าพัลวัน จนเป็นตนเองที่ล้มหงายหลังลงไป โชคดีที่วงแขนกำยำรับตัวหญิงสาวไว้ได้ทัน ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะเป่าศีรษะของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาแล้วหัวเราะในลำคอ

“ตกหลุมพรางจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยหรือครับคุณผู้หญิง” 


 

แพรไหม

หญิงสาวไร้เดียงสา ..ก็แค่หน้าเท่านั้นแหละ

เธอเป็นผู้หญิงที่คิดเสมอว่าโชคชะตากลั่นแกล้งให้ต้องมาชดใช้หนี้ที่ไมได้ก่อ แถมยังจะต้องไปชดใช้ด้วยวิธีอกุศลอีกต่างหาก ทั้งยังไม่รู้จะไว้ใจ ‘พระเอก’ ขี่ม้าขาวคนนี้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

ฝากติดตาม ‘หัสดินเล่ห์รัก’ ด้วยนะคะ  ชอบก็สามารถติชมได้เลยค่ะ