คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : .:: H u n n y B a d ::. ตอนที่ 3 *คริสฮุนออกน้า -/-*
ตอนที่ 3 . .
.
.
.
แสงพระอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่าง เข้ามากินบริเวณพื้นที่เตียงสีขาวสะอาด บรรยากาศเย็นสบายของช่วงฤดูหนาวนี้ทำให้คนตัวเล็กที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงแทบไม่อยากจะตื่นขึ้นจากภวังค์แสนหวาน. . .เพราะในความฝันตอนหลับไหลนั้น มันช่างสวยสดและงดงามกว่าชีวิตจริงของเขาเป็นไหนๆ
บยอนแบคฮยอน ชายหนุ่มร่างเล็กวัยสิบเจ็ดปี เจ้าของผมสีดำสนิท พยุงร่างของตัวเองขึ้นจากเตียงเล็กน้อย พลางเหลือบมองนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณห้องสี่เหลี่ยมกว้างอย่างเบื่อหน่อย. . .
สามวันสามคืนติดต่อกันมาแล้วสินะ ที่แบคฮยอนไม่ได้ย่างกายออกไปไหนมาไหนจากบ้านหลังนี้ แม้แต่โรงเรียนที่แบคฮยอนชอบที่จะพบเจอกับเพื่อนๆและผู้คนมากมาย มันก็ไม่มีความรู้สึกที่อยากจะไปเลยแม้แต่นิด มีแต่โอเซฮุนเพื่อนสนิทของแบคฮยอนที่คอยโทร.ถามสารทุกข์สุกดิบเขาเสมอ เมื่อไหร่กันนะที่บยอนยูนาจะกลับมาอยู่กับแบคฮยอนเสียที มันทรมานมากนะรู้ไหมที่ต้องอยู่กับคนที่จ้องจะเล่นงานเขาอยู่ตลอดเวลา ตามลำพังเพียงสองคนแบบนี้
. . .เหตุการณ์วันนั้นมันยังหลอกหลอนแบคฮยอนอยู่ทุกครั้งที่เขาปิดเปลือกตาบางลง. . .
ฟึ้บ ~
ร่างเล็กล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เดิมอีกครั้ง ดวงตากลมสวยที่แฝงไปด้วยความเศร้าหมองและคราบน้ำตาเหม่อมองขึ้นไปยังเพดานกว้างของห้องอย่างเหม่อลอย...~
แบคยอนต้องอดทนสิ. . .
แบคยอนจะไม่ท้อแท้เพราะเรื่องแค่นี้. . .
แบคยอนจะไม่โกรธพี่ชานยอล. . .เพราะเรื่องแค่นี้. . .
เจ้าของร่างเล็กเอียงใบหน้าเรียวสวยซุกลงที่หมอนสีขาวข้างกาย พลางหลับตาพริ้มพร้อมกับหยดใสๆที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวย ไหลรินเปรอะแก้มเนียนขาวทั้งสองข้าง. . . ~
.
.
.
.
ชายร่างสูงเจ้าของผมสีน้ำตาลช็อกโกแลต ยืนมองภาพวาดที่ติดอยู่ข้างฝาผนังห้องของเจ้าตัว มือเรียวไล้ลูบไปตามลายเส้นของภาพวาดอย่างทะนุถนอมและเบามือ. . .
"แม่ครับ. . .ผมกำลังทำให้เค้าเจ็บอย่างที่แม่เคยรู้สึก อีกไม่นานเค้าจะต้องได้รับผลกรรมที่เค้าทำไว้...แม่เชื่อใจผมนะ"
ปากบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาริบหรี่ สีหน้าของชานยอลไม่สู้ดีเอาเสียเลย ไม่เหลือคาบของความเข้มแข็ง ความเย็นชา ต่างจากตอนที่ชานยอลอยู่ต่อหน้าแบคฮยอนเป็นร้อยเท่าพันเท่า ทว่าชานยอลตอนนี้ เจ้าตัวช่างอ่อนแอเสียเหลือเกิน ภายนอกที่แสดงออกให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ท่าทางเพิกเฉยที่ปรากฏให้เห็น เพียงเพราะต้องการปกปิดความอ่อนแอที่ซ้อนเล้นอยู่ภายใต้จิตใจของเขา ไม่มีใครเข้าใจคนที่ขาดทั้งพ่อและแม่ และต้องใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาถึงแปดปีอย่างชานยอล. . .เท่าตัวของเขาเองหร่อก
ทำไมกัน. . .ทำไมชานยอลถึงได้รู้สึกอ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กัน ทำไม..?
มือเรียวละออกจากภาพวาดของหญิงสาวผู้เป็นแม่ พลางใช้นิ้วเรียวยาวปาดคาบน้ำตาที่เปรอะเปื่อน ก่อนจะเดินไปยังระเบียงของห้องสี่เหลี่ยมกว้าง สายลมยามเช้าพัดเอื่อยแตะสัมผัสเข้าที่ใบหน้าของชานยอลเบาๆอย่างโอนโยน บวกกับกลิ่นหอมละมุนของดอกไม้อ่อนๆที่โปรยปลิวจากระเบียงห้องข้างๆด้วยแล้ว ทำให้เจ้าตัวรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างไม่น้อย สายตาแสนเย็นชาเสมองไปทางระเบียงห้องของแบคฮยอนอย่างตั้งใจ
พอนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อนนั่นแล้ว ความรู้สึกแปลกๆ ที่ชานยอลก็ไม่อาจบอกได้ว่ามันคืออะไรก็ถาโถมเข้ามาในหัวสมองเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
ความรู้สึกแปลกๆที่ว่านั่น. . .ก็คงเป็นความรู้สึกเกลียดที่มากกว่าเดิมสินะ หึ. . .
ตื้ดดด ตื้ดดด ตื้ดดด..~
ชานยอลที่ยืนอยู่ริมระเบียงหลุดออกจากภวังค์ความคิดของเจ้าตัว ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาในห้องเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์จากมือถือสมาร์ทโฟนของเจ้าตัวดังขึ้น มือเรียวคว้ามือถือสมาร์ทโฟนที่วางหราอยู่บนโซฟาสีน้ำตาลอ่อนขึ้น พลางเหลือบมองชื่อเจ้าของเบอร์ที่โทร.เข้า ก่อนจะกดรับสายนั้น
"อืมว่าไง" ชานยอลเอ่ยถามปลายสายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"ยังอยู่หรอมึง กลับโซลไม่เคยบอกกูอะ จดมงจดหมายก็ไม่มีลา โทร.บอกกูสักนิดก็ไม่มี"
"กูรีบโทษทีว่ะ แล้วโทร.จากอังกฤษมาเกาหลีนี่ไม่เปลืองตังค์ไงวะ?"
"อังกงอังกฤษห่าไร กูอยู่หน้าบ้านมึงแล้วเนี่ย ลงมาเปิดประตูให้กูด้วย แค่นี้นะ"
อะไรของมัน..
ชานยอลยกโทรศัพท์ออกจากหูอย่างงงๆ พลางวางมือถือสมาร์ทโฟนลงที่โซฟาสีน้ำตาลอ่อนอย่างที่มันถูกวางไว้เหมือนเมื่อครู่
ชานยอลเดินดุ่มๆออกมาจากห้องนอนของเขา พลางเสมองไปที่ห้องนอนห้องถัดไป ฝาเท้าของเจ้าตัวย่างก้าวตรงไปยังประตูห้องของแบคฮยอนอย่างเนิบๆ ก่อนจะค่อยๆเปิดมันออกช้าๆ และเบามือที่สุด
“เหอะ ขี้เซาชะมัด~”
ชานยอลก้าวขายาวๆของเขาตรงมายังข้างเตียงสีขาวสะอาดที่มีคนตัวเล็กนอนหลับไหลอยู่ ฝาเท้าหนาหยุดลงที่ข้างเตียงของแบคฮยอน ชานยอลยืนจ้องมองใบหน้าหวานนั่น ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งที่ไม่อาจเดาได้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดสิ่งใด ในแววตาแสนเย็นชาที่เคยปรากฏ บัดนี้ถูกปรกคุมและแทนที่ไปด้วยแววตาแห่งความสงสัย
คนคนนี้น่ะหรอ . . .ที่เค้าจะใช้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นบยอนยูนา?
คนคนนี้น่ะหรอ . . .ที่เค้าจะทำร้ายให้เจ็บปวดและทรมาน?
.
.
.
.
คริสชายหนุ่มร่างสูงลูกครึ่งจีนแคนาดา นั่งอยู่บนรถเฟอร์รารี่คันหรูสีแดงสด ปรายนิ้วทั้งห้าที่วางอยู่บนขอบประตูรถเคาะไล่ไปทีละนิ้วอย่างว่างงาน บนใบหน้าหล่อเหลาสวมเพียงแว่นตากันแดดสีดำ เจ้าของใบหน้าหล่อหลับตาลงช้าๆอย่างผ่อนคลาย พลางเอนหลังพิงกับพนักพิงของเบาะรถรอการต้อนรับจากเพื่อนชายเจ้าของบ้านอย่างสบายใจ
ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ๊งต่อง~
แต่ก็ยังไม่ทันที่แผ่นหลังกว้างจะได้แตะสัมผัสกับพนักพิงแสนนุ่มนิ่มของเบาะรถแต่อย่างใด ชายร่างสูงก็กระเด้งตัวขึ้นคล้ายกับตกใจเสียงกริ๊งที่ส่งเสียงดังขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ. . .
ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ้งต่อง~
. . . และมันยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ. . .เรื่อยๆ . . .
"นี่! จะกดอะไรนักหนา ไม่เห็นหรือไงว่ามีคนกำลังนอนอยู่น่ะห้ะ"
คริสตะหวาดใส่โอเซฮุนเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปี เจ้าของผมสีทองสว่างที่เป็นต้นเสียงของออดเมื่อครู่ อย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก
"นี่! ถ้าลุงจะนอนก็กลับไปนอนที่บ้านตัวเองนู้นสิ จะมานอนทำไมหน้าบ้านของคนอื่น"
โอเซฮุนหันหลังกลับมาแหวใส่อย่างไม่ยอมแพ้ คริสที่นั่งอยู่บนรถถึงกับชะงักกึกไปชั่วขณะ ก่อนจะถอดแว่นกันแดดนั่นออก เผยให้คนตรงหน้าได้เฉยชมความหล่อเหลาของเขาอย่างเต็มตา
"แล้วนี่มันบ้านนายหรือไง ถึงมาทำเป็นพูดดีน่ะห้ะ หรือว่าจะมาขโมยของ?"
"โจรบ้าอะไรกดกริ๊งก่อนขโมยของ แก่แล้วไปเช็คสมองบ้างนะลุง เหอะ~"
โอเซฮุนพูดแขวะ ก่อนจะหันหลังกลับไปยังประตูรั่วหน้าบ้านของแบคฮยอน พลางชะเง้อชะแง้มองหาเพื่อนสนิท
"เด็กนี่มัน. .หึ้ย~" คริสสบทออกมาอย่างหัวเสีย
.
.
ไม่นานเกินรอ ก็มีบุคคลของบ้านบยอนเดินออกมาเปิดประตู สีหน้าของโอเซฮุนดูงุนงงเล็กน้อยเมื่อเห็นชานยอลชายแปลกหน้าที่ไม่คุ้นหูคุ้นตาเอาเสียเลย เดินออกมาเปิดประตูให้กับเขา ผิดกับคริสที่เด้งตัวออกจากรถคันหรู ก่อนจะกระโจนเข้าหาชานยอลเพื่อนซี้อย่างคนคุ้นเคย
"ทำไมมาเปิดช้านักวะ กูเกือบโดนหมาในปากเด็กนี่กัดตายแล้วรู้ไหม" ชานยอลมองหน้าเพื่อนชายอย่างงุนงงกับคำพูดของคริส
ดูเหมือนวันนี้สมองของชานยอละไม่ค่อยสั่งงานเอาเสียเลย - -
"เอ่อ คือผมมาหาแบคฮยอนน่ะครับ แบคฮยอนอยู่ไหม?" เซฮุนไม่สนใจกับถ้อยคำกวนประสาทของชายอีกคนพลางถามชานยอลออกไปเสียงเรียบ
"ผิดบ้านแล้ว บ้านหลังนี้ไม่มีคนชื่อแบคฮยอน"
"ขโมยชัวร์" คริสพูดเสริม
"เฮ้! ไม่ใช่นะ ผมโอเซฮุนเป็นเพื่อนสนิทของแบคฮยอนจริงๆนะ อีกอย่างบ้านหลังนี้มันเป็นบ้านของตระกูลบยอน งั้นแบคฮยอนก็ต้องอยู่สิ"
"ฉันบอกว่าไม่อยู่ไง ไม่เข้า.." ชานยอลยังคงโกหกหน้าตาย แต่ก็ต้องชะงักถ้อยคำที่กำลังจะพ้นออกมา เมื่อมีเสียงเล็กร้องแทรกขึ้นมาแต่ไกล
"เซฮุนน่าาาา~" แบคฮยอนที่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงวิ่งออกมาหาโอเซฮุน ด้วยรอยยิ้มร่าที่ทำให้โลกดูสดใสขึ้นอย่างถนัดตา
เซฮุนเสมองชานยอลที่พยายามโกหกเขาเรื่องแบคฮยอนอย่างสงสัยสลับไปมากับใบหน้าหวานของเพื่อนสนิท
"ไอ้คริสเข้าบ้าน" ชานยอลเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พลางคว้าเข้าที่คอเสื้อของคริส ก่อนจะลากเพื่อนซี้เดินตามเขาเข้าบ้านไปอย่างหน้าตาย
"ผู้ชายคนนั้น ใครน่ะแบคยอน?"
"เอาไว้จะเล่าให้ฟังนะ เราเข้าบ้านกันก่อนเถอะ" เซฮุนพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามหลังแบคฮยอนเข้าไปเงียบๆ
.
.
.
ชายหนุ่มร่างสูงเดินตามหลังชานยอลขึ้นไปยังห้องนอนสี่เหลี่ยมกว้าง พลางกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณบ้านหลังใหญ่ เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่คริสไม่ได้มาเยี่ยมชานยอลที่โซล เพราะเวลาที่ชานยอลจะกลับมาเกาหลีแต่ละครั้ง คริสก็ไม่เคยว่างตรงกันเลยซะที
"ไอ้ชานทำไมบ้านมึงเงียบจังวะ มึงอยู่กับเด็กนั่นสองคนหรอ?" คริสที่กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณบ้านตลอดทางที่ก้าวเท้าเข้ามาไม่พบกับบุคคลอื่นแต่อย่างใดนอกจากชานยอลและแบคฮยอน เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
"อื้ม อยู่กันสองคน" ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง มือเรียวคว้าเข้าที่ลูกบิดประตูพลางเปิดมันออก ก่อนจะดันหลังคริสให้เข้าไปในห้องอย่างบังคับ
คริสเป็นเพื่อนสนิทของชานยอลตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลาย เป็นช่วงที่ชานยอลย้ายไปเรียนที่อังกฤษ และเป็นช่วงเดียวกันที่แม่ของเขาเสียไป ชานยอลและคริสสนิทกันมาก ไปไหนไปกัน ลุยไหนลุยกัน ถึงแม้ว่านิสัยของทั้งคู่จะต่างกันจนไม่น่าเชื่อว่าจะมาเป็นเพื่อนสนิทกันได้ก็ตาม
"เออ ไอ้ชานแล้วเด็กผู้ชายผมทองๆอีกคนนั่นอะใครวะ?" คริสเอ่ยถาม หลังจากที่วางข้าวของสัมภาระของเจ้าตัวเสร็จสรรพ
"เด็กไหนวะ หัวทองๆ?" ชานยอลทำน่างงเล็กน้อย ก่อนจะจับกีต้าร์ตัวโปรดของเขาขึ้นมาวางบนตักอย่างไม่ใส่ใจคำถามของเพื่อนสนิทเท่าไหร่นัก
"ไอ้ห่านี่ ความจำสั้นหรือแกล้งโง่กันแน่วะ ก็เด็กที่มาหาน้องมึงไง" คริสเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย พลางเดินออกไปสูดบรรยากาศแสนเย็นสบายด้านนอกระเบียงอย่างผ่อนคลาย
สายตาเจ้าเลห์เหลือบไปยังระเบียงห้องข้างๆอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่มันดันไปสบเข้ากับโอเซฮุนเจ้าของผมสีทองสว่างที่ยืนเชยชมต้นไม้น้อยใหญ่อยู่ที่ริมระเบียงเข้าอย่างจัง
"อะแห่ม~" คริสกะแอม ก่อนจะเดินไปยังมุมระเบียงที่ใกล้กับระเบียงของอีกฝั่ง
"อะไรของมึงวะ ตกลงจะให้กูบอกไหม - -" ชานยอลที่งงงันกับท่าทางของเพื่อนชายเอ่ยถามขึ้น
"......." คริสไม่เอ่ยปากตอบอะไรชานยอลกลับ พลางสนใจกับบุคคลที่อยู่ระเบียงห้องข้างๆต่อ
กูเพื่อนมึงไหม - -
ชานยอลละออกจากกีต้าร์ตัวโปรด ก่อนจะวางมันลงพลางลุกขึ้นจากโซฟาตัวนิ่มสีน้ำตาลอ่อน
"เดี๋ยวเอาของว่างมาให้นะ - -" ชานยอลเอ่ย ก่อนจะสาวเท้าออกจากห้องไปอย่างเซ็งๆ
จังหวะที่ชานยอลเปิดประตูออกมานั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แบคฮยอนเดินถือจานผลไม้มาถึงหน้าห้องของเจ้าตัวพอดิบพอดี สายตาเย็นชาจ้องมองแบคฮยอนสลับไปมากับจานผลไม้ที่คนตัวเล็กถืออยู่ในมือ
แบคฮยอนที่ไม่กล้าเอ่ยอะไร ทำได้เพียงยืนนิ่งพลางหลุบตาลงต่ำอย่างหวาดระแวง
"ฉันมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง" ชานยอลเอ่ยถามเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเข้าไปประชิดตัวแบคฮยอน
"เอ่อ~ แบคยอนขอตัวนะฮะ (. .)" ร่างเล็กพูดพลางทำท่าจะหันหลังไปคว้าลูกบิดประตู
หมับ!
แบคฮยอนไม่ทันแม้แต่จะได้ขยับตัว ชานยอลที่ยืนมองใบหน้าหวานนั่น จู่ๆเจ้าตัวก็คว้าร่างเล็กเข้ามากอดไว้แน่น
ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก!
ก้อนเนื้อที่หน้าอกด้านซ้ายของทั้งคู่ผลัดกันเต้นแรงอย่างไม่มีใครยอมใคร ทำไมมันถึงได้เต้นแรงและรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้นะ . . ?
ใบหน้าหวานของแบคฮยอนที่ซุกแผ่นอกกว้างของชานยอล ได้ยินเสียงหัวใจของชานยอลที่เต้นตึกตึก อย่างชัดเจน มันเต้นแรงมากแรงซะจนแบคฮยอนที่ได้สัมผัสมันเริ่มรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก
อะไรกัน...ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน?
"พี่ชานยอล. ." ปากบางเอ่ยเรียกสติของพี่ชายตรงหน้าเบาๆ
ชานยอลที่เพิ่งได้สติ ผละออกจากร่างเล็กตรงหน้า พลางจ้องมองแบคฮยอนอย่างสงสัยกับความรู้สึกของตัวเองที่ก่อตัวขึ้นเมื่อครู่
"เข้าห้องไปซะ" ชานยอลเอ่ย ก่อนจะหันหลังมุ่งหน้าสู่ชั้นล่างของบ้าน
แบคฮยอนไม่ตอบหรือถามอะไรกลับ พลางยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังของพี่ชายที่เดินห่างออกไปจนลับสายตา ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่มันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวสมองของแบคฮยอนไม่จางหาย เมื่อกี้คืออะไรกัน...สัมผัสอันอบอุ่นเมื่อครู่ของชานยอลอยากจะบอกอะไรเขากันแน่?
มันคงไม่ใช่อย่างงั้นหลอกมั้ง... เฮ้อ~ (.//.)
แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางคว้าเข้าที่ลูกบิดประตู ก่อนจะเปิดมันออกและจ้ำฝีเท้าเล็กเข้าไปอย่างเงียบๆ
"ฝากไว้ก่อนเหอะไอ้ลุงบ้า!" แบคฮยอนที่เพิ่งจ้ำอ้าวเข้ามาถึง มองเพื่อนชายอย่างสงสัย ก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างๆ
"อ้าว แฮลโล้น้องชาย ^^" คริสโบกมือไหวๆ ก่อนจะเอ่ยคำทักทายแบคฮยอนที่เพิ่งเดินมาหยุดอยู่ข้างๆโอเซฮุน
"สวัสดีฮะ มาทานผลไม้ที่ห้องแบคยอนก็ได้นะ มีเยอะแยะเลย ^^"
"แบคฮยอน!" เซฮุนหันมามองค้อนใส่เจ้าเพื่อนตัวเล็กของเขา
"อะไรอ่า ก็มันเยอะจริงๆนี่นา เซฮุนน่ากินหมดหรอ?"
"แบคฮยอนนี่น่ารักจริงๆ ไม่เหมือนคนบางคนไม่น่ารักแล้วยังไม่มีน้ำใจอีกต่างหาก" คริสพูด พลางยืนกอดอกมองเซฮุนที่ตอนนี้ควันเริ่มจะออกหูทั้งสองข้างของเขา เพราะโมโหกับถ้อยคำกวนประสาทของชายอีกคน
"เข้าไปข้างในกันเถอะแบคฮยอน ฉันจะไปล็อกประตู!" เซฮุนไม่พูดเปล่า พลางหันไปมองค้อนใส่คริส ก่อนจะคว้าข้อมือเล็กของแบคฮยอนให้เดินตามเจ้าตัวเข้ามาในห้อง
แม่งน่ารักว่ะ. . .
มุมปากของชายร่างสูงกระตุกยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
คนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงได้ทุกครั้งที่สบตาแบบนี้เค้าเรียกว่าตกหลุมรักหรือเปล่าวะ?
.
.
.
เซฮุนเดินหน้ามุ่ยเข้ามาในห้อง ก่อนจะหย่นก้นของเจ้าตัวนั่งลงที่โซฟาตัวนิ่ม แบคฮยอนที่เห็นเพื่อนสนิททำท่าทำทางเหมือนเด็กก็อดที่จะหลุดขำออกมาไม่ได้
"ไม่ต้องมาขำเลยนะแบคฮยอน" เซฮุนหันมามองค้อน ทำให้แบคฮยอนที่หลุดขำอยู่ ปิดปากของเจ้าตัวแทบไม่ทัน
"กินผลไม้ก่อนนะ อารมณ์จะได้ดีขึ้น ^^" แบคฮยอนที่ถือชิ้นแอปเปิ้ลอยู่ในมือ ส่งยื่นให้กับเพื่อนสนิทอย่างปลอบใจ
"ขอบใจนะ ไอ้ลุงนั่นน่ะเทียบแบคฮยอนของฉันไม่ติดเลยซักนิด~"
"ฮ่าๆ เซฮุนน่าพูดอะไรก็ไม่รู้" คำพูดของเพื่อนชายถึงกับทำให้แบคฮยอนที่ถูกกล่าวถึง ลอบยิ้มออกมาเล็กน้อย
"ว่าแต่ นายยังไม่บอกฉันเลยนะ ว่าผู้ชายที่ออกมาเปิดประตูให้น่ะคือใคร"
“อ๋อ พี่ชายน่ะ" แบคฮยอนเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"พี่ชาย? คนที่แบคฮยอนบอกว่าเป็นพี่ชายที่รักที่สุดเลยน่ะหรอ?"
"อื้ม.."
"แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่เลยนะ"
“อ่าเซฮุนคิดงั้นหรอ. . ."
"แบคฮยอน นายอยู่กับพี่ชายสองคนนายสบายดีใช่ไหม?" เซฮุนเอ่ยถามพลางกุมมือแบคฮยอนแน่น
"อื้มสบายดีสิ เดี๋ยวฉันลงไปเอาน้ำมาให้นะ" แบคฮยอนหาข้ออ้างที่จะเลี่ยงจากประเด็นการสนทนานั้น ก่อนจะลุกทำท่าจะเดินออกไป
"ไม่ต้องหรอกแบคยอน ฉันจะกลับเลยน่ะ" โอเซฮุนร้องทักทำให้คนตัวเล็กหยุดชะงักฝีเท้าของเขาลง
"งั้นฉันจะไปส่งเซฮุนที่หน้าบ้านนะ"
"โอเค"
เด็กวัยสิบเจ็ดปีเดินตามกันลงบันไดไปอย่างเงียบๆ เซฮุนที่เดินนำหน้าแบคฮยอน เหล่มองเพื่อนสนิทตัวเล็กอย่างนึกห่วง เซฮุนหยุดฝีเท้าของเจ้าตัวลงอย่างกระทันหัน ทำให้แบคฮยอนที่เดินก้มหน้าก้มตาอยู่ชนเข้ากับแผ่นหลังของโอเซฮุนอย่างจัง
"โอ้ย! เซฮุนหยุดเดินทำไมอ่า เปลี่ยนใจจะไม่กลับแล้วหรอ?" แบคฮยอนที่ลูบหน้าผากของเจ้าตัวอยู่เอ่ยถามขึ้น
"แบคฮยอน นายมีอะไรไม่สบายใจก็บอกฉันได้นะ"
"เปล่านี่ ฉันสบายดี"
"ฉันรู้จักนายมานานนะแบคยอน..."
"ฉัน....." แบคฮยอนเอ่ยออกมาเสียงเบาอย่างลังเล
เซฮุนที่ยืนมองแบคฮยอนอยู่นาน เชยคางของเพื่อนตัวเล็กขึ้น ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกดจูบที่ริมฝีปากบางนั่นเบาๆ แบคฮยอนเบิกตากว้างตกใจกับการกระทำของโอเซฮุนที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับมิตรภาพของความเป็นเพื่อน
"ฉัน....." เซฮุนถอนจูบนั้น ก่อนจะเอ่ยเบาๆด้วยท่าทีรู้สึกผิดกับการกระทำของเขาเมื่อครู่
"ฉันส่งเซฮุนแค่นี้นะ ขอตัวขึ้นไปนอนก่อน (. .)" แบคฮยอนที่ไม่เข้าใจกับการกระทำของเพื่อนสนิท เอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินขึ้นห้องไป
.
.
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แบคฮยอนและโอเซฮุนจะรู้ไหมว่า มีบุคคลที่สามยืนอยู่และเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดได้อย่างชัดเจนและเต็มสองตา . . .
จะรู้สึกอะไรดีล่ะไอ้ชานยอล!
.
.
.
.
.
.
Chanom . . J
ความคิดเห็น