ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic exo] CHANBAEK "ร้ายรัก Hunny Bad"

    ลำดับตอนที่ #4 : .:: H u n n y B a d ::. ตอนที่ 3 *คริสฮุนออกน้า -/-*

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 117
      3
      20 ต.ค. 57

    . . . . "3" . . . .





     

    ตอนที่ 3 . .


    .
    .
    .


    แสงพระอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่าง เข้ามากินบริเวณพื้นที่เตียงสีขาวสะอาด บรรยากาศเย็นสบายของช่วงฤดูหนาวนี้ทำให้คนตัวเล็กที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงแทบไม่อยากจะตื่นขึ้นจากภวังค์แสนหวาน. . .เพราะในความฝันตอนหลับไหลนั้น มันช่างสวยสดและงดงามกว่าชีวิตจริงของเขาเป็นไหนๆ

     

    บยอนแบคฮยอน ชายหนุ่มร่างเล็กวัยสิบเจ็ดปี เจ้าของผมสีดำสนิท พยุงร่างของตัวเองขึ้นจากเตียงเล็กน้อย พลางเหลือบมองนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณห้องสี่เหลี่ยมกว้างอย่างเบื่อหน่อย. . .

     

    สามวันสามคืนติดต่อกันมาแล้วสินะ ที่แบคฮยอนไม่ได้ย่างกายออกไปไหนมาไหนจากบ้านหลังนี้ แม้แต่โรงเรียนที่แบคฮยอนชอบที่จะพบเจอกับเพื่อนๆและผู้คนมากมาย มันก็ไม่มีความรู้สึกที่อยากจะไปเลยแม้แต่นิด มีแต่โอเซฮุนเพื่อนสนิทของแบคฮยอนที่คอยโทร.ถามสารทุกข์สุกดิบเขาเสมอ เมื่อไหร่กันนะที่บยอนยูนาจะกลับมาอยู่กับแบคฮยอนเสียที มันทรมานมากนะรู้ไหมที่ต้องอยู่กับคนที่จ้องจะเล่นงานเขาอยู่ตลอดเวลา ตามลำพังเพียงสองคนแบบนี้


    . . .เหตุการณ์วันนั้นมันยังหลอกหลอนแบคฮยอนอยู่ทุกครั้งที่เขาปิดเปลือกตาบางลง. . .

     

    ฟึ้บ ~

     

    ร่างเล็กล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เดิมอีกครั้ง ดวงตากลมสวยที่แฝงไปด้วยความเศร้าหมองและคราบน้ำตาเหม่อมองขึ้นไปยังเพดานกว้างของห้องอย่างเหม่อลอย...~

    แบคยอนต้องอดทนสิ. . .
    แบคยอนจะไม่ท้อแท้เพราะเรื่องแค่นี้. . .
    แบคยอนจะไม่โกรธพี่ชานยอล. . .เพราะเรื่องแค่นี้. . .

     

    เจ้าของร่างเล็กเอียงใบหน้าเรียวสวยซุกลงที่หมอนสีขาวข้างกาย พลางหลับตาพริ้มพร้อมกับหยดใสๆที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวย ไหลรินเปรอะแก้มเนียนขาวทั้งสองข้าง. . . ~

     

    .
    .

    .
    .


    ชายร่างสูงเจ้าของผมสีน้ำตาลช็อกโกแลต ยืนมองภาพวาดที่ติดอยู่ข้างฝาผนังห้องของเจ้าตัว มือเรียวไล้ลูบไปตามลายเส้นของภาพวาดอย่างทะนุถนอมและเบามือ. . .

     

    "แม่ครับ. . .ผมกำลังทำให้เค้าเจ็บอย่างที่แม่เคยรู้สึก อีกไม่นานเค้าจะต้องได้รับผลกรรมที่เค้าทำไว้...แม่เชื่อใจผมนะ"

    ปากบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาริบหรี่ สีหน้าของชานยอลไม่สู้ดีเอาเสียเลย ไม่เหลือคาบของความเข้มแข็ง ความเย็นชา ต่างจากตอนที่ชานยอลอยู่ต่อหน้าแบคฮยอนเป็นร้อยเท่าพันเท่า ทว่าชานยอลตอนนี้ เจ้าตัวช่างอ่อนแอเสียเหลือเกิน ภายนอกที่แสดงออกให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ท่าทางเพิกเฉยที่ปรากฏให้เห็น เพียงเพราะต้องการปกปิดความอ่อนแอที่ซ้อนเล้นอยู่ภายใต้จิตใจของเขา ไม่มีใครเข้าใจคนที่ขาดทั้งพ่อและแม่ และต้องใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาถึงแปดปีอย่างชานยอล. . .เท่าตัวของเขาเองหร่อก

     

    ทำไมกัน. . .ทำไมชานยอลถึงได้รู้สึกอ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กัน ทำไม..?

     

    มือเรียวละออกจากภาพวาดของหญิงสาวผู้เป็นแม่ พลางใช้นิ้วเรียวยาวปาดคาบน้ำตาที่เปรอะเปื่อน ก่อนจะเดินไปยังระเบียงของห้องสี่เหลี่ยมกว้าง สายลมยามเช้าพัดเอื่อยแตะสัมผัสเข้าที่ใบหน้าของชานยอลเบาๆอย่างโอนโยน บวกกับกลิ่นหอมละมุนของดอกไม้อ่อนๆที่โปรยปลิวจากระเบียงห้องข้างๆด้วยแล้ว ทำให้เจ้าตัวรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างไม่น้อย สายตาแสนเย็นชาเสมองไปทางระเบียงห้องของแบคฮยอนอย่างตั้งใจ

     

    พอนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อนนั่นแล้ว ความรู้สึกแปลกๆ ที่ชานยอลก็ไม่อาจบอกได้ว่ามันคืออะไรก็ถาโถมเข้ามาในหัวสมองเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

     

    ความรู้สึกแปลกๆที่ว่านั่น. . .ก็คงเป็นความรู้สึกเกลียดที่มากกว่าเดิมสินะ หึ. . .

     

    ตื้ดดด ตื้ดดด ตื้ดดด..~

     

    ชานยอลที่ยืนอยู่ริมระเบียงหลุดออกจากภวังค์ความคิดของเจ้าตัว ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาในห้องเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์จากมือถือสมาร์ทโฟนของเจ้าตัวดังขึ้น มือเรียวคว้ามือถือสมาร์ทโฟนที่วางหราอยู่บนโซฟาสีน้ำตาลอ่อนขึ้น พลางเหลือบมองชื่อเจ้าของเบอร์ที่โทร.เข้า ก่อนจะกดรับสายนั้น

     

    "อืมว่าไง" ชานยอลเอ่ยถามปลายสายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
    "ยังอยู่หรอมึง กลับโซลไม่เคยบอกกูอะ จดมงจดหมายก็ไม่มีลา โทร.บอกกูสักนิดก็ไม่มี"

    "กูรีบโทษทีว่ะ แล้วโทร.จากอังกฤษมาเกาหลีนี่ไม่เปลืองตังค์ไงวะ?"
    "อังกงอังกฤษห่าไร กูอยู่หน้าบ้านมึงแล้วเนี่ย ลงมาเปิดประตูให้กูด้วย แค่นี้นะ"

     

    อะไรของมัน..

     

    ชานยอลยกโทรศัพท์ออกจากหูอย่างงงๆ พลางวางมือถือสมาร์ทโฟนลงที่โซฟาสีน้ำตาลอ่อนอย่างที่มันถูกวางไว้เหมือนเมื่อครู่

     

    ชานยอลเดินดุ่มๆออกมาจากห้องนอนของเขา พลางเสมองไปที่ห้องนอนห้องถัดไป ฝาเท้าของเจ้าตัวย่างก้าวตรงไปยังประตูห้องของแบคฮยอนอย่างเนิบๆ ก่อนจะค่อยๆเปิดมันออกช้าๆ และเบามือที่สุด

     

    เหอะ ขี้เซาชะมัด~”

     

    ชานยอลก้าวขายาวๆของเขาตรงมายังข้างเตียงสีขาวสะอาดที่มีคนตัวเล็กนอนหลับไหลอยู่ ฝาเท้าหนาหยุดลงที่ข้างเตียงของแบคฮยอน ชานยอลยืนจ้องมองใบหน้าหวานนั่น ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งที่ไม่อาจเดาได้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดสิ่งใด ในแววตาแสนเย็นชาที่เคยปรากฏ บัดนี้ถูกปรกคุมและแทนที่ไปด้วยแววตาแห่งความสงสัย

     

    คนคนนี้น่ะหรอ . . .ที่เค้าจะใช้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นบยอนยูนา?
    คนคนนี้น่ะหรอ . . .ที่เค้าจะทำร้ายให้เจ็บปวดและทรมาน?

     

    .
    .
    .
    .


    คริสชายหนุ่มร่างสูงลูกครึ่งจีนแคนาดา นั่งอยู่บนรถเฟอร์รารี่คันหรูสีแดงสด ปรายนิ้วทั้งห้าที่วางอยู่บนขอบประตูรถเคาะไล่ไปทีละนิ้วอย่างว่างงาน บนใบหน้าหล่อเหลาสวมเพียงแว่นตากันแดดสีดำ เจ้าของใบหน้าหล่อหลับตาลงช้าๆอย่างผ่อนคลาย พลางเอนหลังพิงกับพนักพิงของเบาะรถรอการต้อนรับจากเพื่อนชายเจ้าของบ้านอย่างสบายใจ

     

    ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ๊งต่อง~

     

    แต่ก็ยังไม่ทันที่แผ่นหลังกว้างจะได้แตะสัมผัสกับพนักพิงแสนนุ่มนิ่มของเบาะรถแต่อย่างใด ชายร่างสูงก็กระเด้งตัวขึ้นคล้ายกับตกใจเสียงกริ๊งที่ส่งเสียงดังขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ. . .

     

    ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ้งต่อง~

     

    . . . และมันยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ. . .เรื่อยๆ . . .

     

     

    "นี่! จะกดอะไรนักหนา ไม่เห็นหรือไงว่ามีคนกำลังนอนอยู่น่ะห้ะ"

    คริสตะหวาดใส่โอเซฮุนเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปี เจ้าของผมสีทองสว่างที่เป็นต้นเสียงของออดเมื่อครู่ อย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก


    "นี่! ถ้าลุงจะนอนก็กลับไปนอนที่บ้านตัวเองนู้นสิ จะมานอนทำไมหน้าบ้านของคนอื่น"

    โอเซฮุนหันหลังกลับมาแหวใส่อย่างไม่ยอมแพ้ คริสที่นั่งอยู่บนรถถึงกับชะงักกึกไปชั่วขณะ ก่อนจะถอดแว่นกันแดดนั่นออก เผยให้คนตรงหน้าได้เฉยชมความหล่อเหลาของเขาอย่างเต็มตา


    "แล้วนี่มันบ้านนายหรือไง ถึงมาทำเป็นพูดดีน่ะห้ะ หรือว่าจะมาขโมยของ?"


    "โจรบ้าอะไรกดกริ๊งก่อนขโมยของ แก่แล้วไปเช็คสมองบ้างนะลุง เหอะ~"

    โอเซฮุนพูดแขวะ ก่อนจะหันหลังกลับไปยังประตูรั่วหน้าบ้านของแบคฮยอน พลางชะเง้อชะแง้มองหาเพื่อนสนิท


    "เด็กนี่มัน. .หึ้ย~" คริสสบทออกมาอย่างหัวเสีย


    .
    .

     

    ไม่นานเกินรอ ก็มีบุคคลของบ้านบยอนเดินออกมาเปิดประตู สีหน้าของโอเซฮุนดูงุนงงเล็กน้อยเมื่อเห็นชานยอลชายแปลกหน้าที่ไม่คุ้นหูคุ้นตาเอาเสียเลย เดินออกมาเปิดประตูให้กับเขา ผิดกับคริสที่เด้งตัวออกจากรถคันหรู ก่อนจะกระโจนเข้าหาชานยอลเพื่อนซี้อย่างคนคุ้นเคย

     

    "ทำไมมาเปิดช้านักวะ กูเกือบโดนหมาในปากเด็กนี่กัดตายแล้วรู้ไหม" ชานยอลมองหน้าเพื่อนชายอย่างงุนงงกับคำพูดของคริส

     

    ดูเหมือนวันนี้สมองของชานยอละไม่ค่อยสั่งงานเอาเสียเลย - -

     
    "เอ่อ คือผมมาหาแบคฮยอนน่ะครับ แบคฮยอนอยู่ไหม?" เซฮุนไม่สนใจกับถ้อยคำกวนประสาทของชายอีกคนพลางถามชานยอลออกไปเสียงเรียบ
    "ผิดบ้านแล้ว บ้านหลังนี้ไม่มีคนชื่อแบคฮยอน"

    "ขโมยชัวร์" คริสพูดเสริม
    "เฮ้! ไม่ใช่นะ ผมโอเซฮุนเป็นเพื่อนสนิทของแบคฮยอนจริงๆนะ อีกอย่างบ้านหลังนี้มันเป็นบ้านของตระกูลบยอน งั้นแบคฮยอนก็ต้องอยู่สิ"
    "ฉันบอกว่าไม่อยู่ไง ไม่เข้า.." ชานยอลยังคงโกหกหน้าตาย แต่ก็ต้องชะงักถ้อยคำที่กำลังจะพ้นออกมา เมื่อมีเสียงเล็กร้องแทรกขึ้นมาแต่ไกล 


    "เซฮุนน่าาาา~" แบคฮยอนที่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงวิ่งออกมาหาโอเซฮุน ด้วยรอยยิ้มร่าที่ทำให้โลกดูสดใสขึ้นอย่างถนัดตา

     

    เซฮุนเสมองชานยอลที่พยายามโกหกเขาเรื่องแบคฮยอนอย่างสงสัยสลับไปมากับใบหน้าหวานของเพื่อนสนิท

     

    "ไอ้คริสเข้าบ้าน" ชานยอลเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พลางคว้าเข้าที่คอเสื้อของคริส ก่อนจะลากเพื่อนซี้เดินตามเขาเข้าบ้านไปอย่างหน้าตาย

     

    "ผู้ชายคนนั้น ใครน่ะแบคยอน?"
    "เอาไว้จะเล่าให้ฟังนะ เราเข้าบ้านกันก่อนเถอะ" เซฮุนพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามหลังแบคฮยอนเข้าไปเงียบๆ

     

    .
    .
    .


    ชายหนุ่มร่างสูงเดินตามหลังชานยอลขึ้นไปยังห้องนอนสี่เหลี่ยมกว้าง พลางกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณบ้านหลังใหญ่ เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่คริสไม่ได้มาเยี่ยมชานยอลที่โซล เพราะเวลาที่ชานยอลจะกลับมาเกาหลีแต่ละครั้ง คริสก็ไม่เคยว่างตรงกันเลยซะที

     

    "ไอ้ชานทำไมบ้านมึงเงียบจังวะ มึงอยู่กับเด็กนั่นสองคนหรอ?" คริสที่กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณบ้านตลอดทางที่ก้าวเท้าเข้ามาไม่พบกับบุคคลอื่นแต่อย่างใดนอกจากชานยอลและแบคฮยอน เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย


    "อื้ม อยู่กันสองคน" ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง มือเรียวคว้าเข้าที่ลูกบิดประตูพลางเปิดมันออก ก่อนจะดันหลังคริสให้เข้าไปในห้องอย่างบังคับ

     

    คริสเป็นเพื่อนสนิทของชานยอลตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลาย เป็นช่วงที่ชานยอลย้ายไปเรียนที่อังกฤษ และเป็นช่วงเดียวกันที่แม่ของเขาเสียไป ชานยอลและคริสสนิทกันมาก ไปไหนไปกัน ลุยไหนลุยกัน ถึงแม้ว่านิสัยของทั้งคู่จะต่างกันจนไม่น่าเชื่อว่าจะมาเป็นเพื่อนสนิทกันได้ก็ตาม

     

    "เออ ไอ้ชานแล้วเด็กผู้ชายผมทองๆอีกคนนั่นอะใครวะ?" คริสเอ่ยถาม หลังจากที่วางข้าวของสัมภาระของเจ้าตัวเสร็จสรรพ

     
    "เด็กไหนวะ หัวทองๆ?" ชานยอลทำน่างงเล็กน้อย ก่อนจะจับกีต้าร์ตัวโปรดของเขาขึ้นมาวางบนตักอย่างไม่ใส่ใจคำถามของเพื่อนสนิทเท่าไหร่นัก


    "ไอ้ห่านี่ ความจำสั้นหรือแกล้งโง่กันแน่วะ ก็เด็กที่มาหาน้องมึงไง" คริสเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย พลางเดินออกไปสูดบรรยากาศแสนเย็นสบายด้านนอกระเบียงอย่างผ่อนคลาย

     

    สายตาเจ้าเลห์เหลือบไปยังระเบียงห้องข้างๆอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่มันดันไปสบเข้ากับโอเซฮุนเจ้าของผมสีทองสว่างที่ยืนเชยชมต้นไม้น้อยใหญ่อยู่ที่ริมระเบียงเข้าอย่างจัง 


    "อะแห่ม~" คริสกะแอม ก่อนจะเดินไปยังมุมระเบียงที่ใกล้กับระเบียงของอีกฝั่ง

    "อะไรของมึงวะ ตกลงจะให้กูบอกไหม - -" ชานยอลที่งงงันกับท่าทางของเพื่อนชายเอ่ยถามขึ้น

    "......." คริสไม่เอ่ยปากตอบอะไรชานยอลกลับ พลางสนใจกับบุคคลที่อยู่ระเบียงห้องข้างๆต่อ

     

    กูเพื่อนมึงไหม - -

     

    ชานยอลละออกจากกีต้าร์ตัวโปรด ก่อนจะวางมันลงพลางลุกขึ้นจากโซฟาตัวนิ่มสีน้ำตาลอ่อน

     

    "เดี๋ยวเอาของว่างมาให้นะ - -" ชานยอลเอ่ย ก่อนจะสาวเท้าออกจากห้องไปอย่างเซ็งๆ


    จังหวะที่ชานยอลเปิดประตูออกมานั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แบคฮยอนเดินถือจานผลไม้มาถึงหน้าห้องของเจ้าตัวพอดิบพอดี สายตาเย็นชาจ้องมองแบคฮยอนสลับไปมากับจานผลไม้ที่คนตัวเล็กถืออยู่ในมือ

     

    แบคฮยอนที่ไม่กล้าเอ่ยอะไร ทำได้เพียงยืนนิ่งพลางหลุบตาลงต่ำอย่างหวาดระแวง


    "ฉันมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง" ชานยอลเอ่ยถามเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเข้าไปประชิดตัวแบคฮยอน 
    "เอ่อ~ แบคยอนขอตัวนะฮะ (.  .)" ร่างเล็กพูดพลางทำท่าจะหันหลังไปคว้าลูกบิดประตู

     

    หมับ!

     

    แบคฮยอนไม่ทันแม้แต่จะได้ขยับตัว ชานยอลที่ยืนมองใบหน้าหวานนั่น จู่ๆเจ้าตัวก็คว้าร่างเล็กเข้ามากอดไว้แน่น

     

    ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก!

     

    ก้อนเนื้อที่หน้าอกด้านซ้ายของทั้งคู่ผลัดกันเต้นแรงอย่างไม่มีใครยอมใคร ทำไมมันถึงได้เต้นแรงและรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้นะ . . ?

     

    ใบหน้าหวานของแบคฮยอนที่ซุกแผ่นอกกว้างของชานยอล ได้ยินเสียงหัวใจของชานยอลที่เต้นตึกตึก อย่างชัดเจน มันเต้นแรงมากแรงซะจนแบคฮยอนที่ได้สัมผัสมันเริ่มรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก

     

    อะไรกัน...ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน?

     

    "พี่ชานยอล. ." ปากบางเอ่ยเรียกสติของพี่ชายตรงหน้าเบาๆ


    ชานยอลที่เพิ่งได้สติ ผละออกจากร่างเล็กตรงหน้า พลางจ้องมองแบคฮยอนอย่างสงสัยกับความรู้สึกของตัวเองที่ก่อตัวขึ้นเมื่อครู่


    "เข้าห้องไปซะ" ชานยอลเอ่ย ก่อนจะหันหลังมุ่งหน้าสู่ชั้นล่างของบ้าน

     

    แบคฮยอนไม่ตอบหรือถามอะไรกลับ พลางยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังของพี่ชายที่เดินห่างออกไปจนลับสายตา ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่มันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวสมองของแบคฮยอนไม่จางหาย เมื่อกี้คืออะไรกัน...สัมผัสอันอบอุ่นเมื่อครู่ของชานยอลอยากจะบอกอะไรเขากันแน่?

     

    มันคงไม่ใช่อย่างงั้นหลอกมั้ง... เฮ้อ~ (.//.)

     

    แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางคว้าเข้าที่ลูกบิดประตู ก่อนจะเปิดมันออกและจ้ำฝีเท้าเล็กเข้าไปอย่างเงียบๆ

     

    "ฝากไว้ก่อนเหอะไอ้ลุงบ้า!"  แบคฮยอนที่เพิ่งจ้ำอ้าวเข้ามาถึง มองเพื่อนชายอย่างสงสัย ก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างๆ


    "อ้าว แฮลโล้น้องชาย ^^" คริสโบกมือไหวๆ ก่อนจะเอ่ยคำทักทายแบคฮยอนที่เพิ่งเดินมาหยุดอยู่ข้างๆโอเซฮุน


    "สวัสดีฮะ มาทานผลไม้ที่ห้องแบคยอนก็ได้นะ มีเยอะแยะเลย ^^" 


    "แบคฮยอน!" เซฮุนหันมามองค้อนใส่เจ้าเพื่อนตัวเล็กของเขา


    "อะไรอ่า ก็มันเยอะจริงๆนี่นา เซฮุนน่ากินหมดหรอ?" 


    "แบคฮยอนนี่น่ารักจริงๆ ไม่เหมือนคนบางคนไม่น่ารักแล้วยังไม่มีน้ำใจอีกต่างหาก" คริสพูด พลางยืนกอดอกมองเซฮุนที่ตอนนี้ควันเริ่มจะออกหูทั้งสองข้างของเขา เพราะโมโหกับถ้อยคำกวนประสาทของชายอีกคน


    "เข้าไปข้างในกันเถอะแบคฮยอน ฉันจะไปล็อกประตู!" เซฮุนไม่พูดเปล่า พลางหันไปมองค้อนใส่คริส ก่อนจะคว้าข้อมือเล็กของแบคฮยอนให้เดินตามเจ้าตัวเข้ามาในห้อง

     

    แม่งน่ารักว่ะ. . .

     

    มุมปากของชายร่างสูงกระตุกยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

     

    คนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงได้ทุกครั้งที่สบตาแบบนี้เค้าเรียกว่าตกหลุมรักหรือเปล่าวะ?


    .
    .

    .


    เซฮุนเดินหน้ามุ่ยเข้ามาในห้อง ก่อนจะหย่นก้นของเจ้าตัวนั่งลงที่โซฟาตัวนิ่ม แบคฮยอนที่เห็นเพื่อนสนิททำท่าทำทางเหมือนเด็กก็อดที่จะหลุดขำออกมาไม่ได้
    "ไม่ต้องมาขำเลยนะแบคฮยอน" เซฮุนหันมามองค้อน ทำให้แบคฮยอนที่หลุดขำอยู่ ปิดปากของเจ้าตัวแทบไม่ทัน
    "กินผลไม้ก่อนนะ อารมณ์จะได้ดีขึ้น ^^" แบคฮยอนที่ถือชิ้นแอปเปิ้ลอยู่ในมือ ส่งยื่นให้กับเพื่อนสนิทอย่างปลอบใจ
    "ขอบใจนะ ไอ้ลุงนั่นน่ะเทียบแบคฮยอนของฉันไม่ติดเลยซักนิด~"
    "ฮ่าๆ เซฮุนน่าพูดอะไรก็ไม่รู้" คำพูดของเพื่อนชาย
    ถึงกับทำให้แบคฮยอนที่ถูกกล่าวถึง ลอบยิ้มออกมาเล็กน้อย
    "ว่าแต่ นายยังไม่บอกฉันเลยนะ ว่าผู้ชายที่ออกมาเปิดประตูให้น่ะคือใคร"

    อ๋อ พี่ชายน่ะ" แบคฮยอนเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
    "พี่ชาย? คนที่แบคฮยอนบอกว่าเป็นพี่ชายที่รักที่สุดเลยน่ะหรอ?"
    "อื้ม.."
    "แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่เลยนะ"
    อ่าเซฮุนคิดงั้นหรอ. . ." 
    "แบคฮยอน นายอยู่กับพี่ชายสองคนนายสบายดีใช่ไหม?" เซฮุนเอ่ยถามพลางกุมมือแบคฮยอนแน่น

    "อื้มสบายดีสิ เดี๋ยวฉันลงไปเอาน้ำมาให้นะ" แบคฮยอนหาข้ออ้างที่จะเลี่ยงจากประเด็นการสนทนานั้น ก่อนจะลุกทำท่าจะเดินออกไป
    "ไม่ต้องหรอกแบคยอน ฉันจะกลับเลยน่ะ" โอเซฮุนร้องทักทำให้คนตัวเล็กหยุดชะงักฝีเท้าของเขาลง
    "งั้นฉันจะไปส่งเซฮุนที่หน้าบ้านนะ"
    "โอเค"

     

    เด็กวัยสิบเจ็ดปีเดินตามกันลงบันไดไปอย่างเงียบๆ เซฮุนที่เดินนำหน้าแบคฮยอน เหล่มองเพื่อนสนิทตัวเล็กอย่างนึกห่วง เซฮุนหยุดฝีเท้าของเจ้าตัวลงอย่างกระทันหัน ทำให้แบคฮยอนที่เดินก้มหน้าก้มตาอยู่ชนเข้ากับแผ่นหลังของโอเซฮุนอย่างจัง

     

    "โอ้ย! เซฮุนหยุดเดินทำไมอ่า เปลี่ยนใจจะไม่กลับแล้วหรอ?" แบคฮยอนที่ลูบหน้าผากของเจ้าตัวอยู่เอ่ยถามขึ้น
    "แบคฮยอน นายมีอะไรไม่สบายใจก็บอกฉันได้นะ"
    "เปล่านี่ ฉันสบายดี"
    "ฉันรู้จักนายมานานนะแบคยอน..."
    "ฉัน....." แบคฮยอนเอ่ยออกมาเสียงเบาอย่างลังเล

     

    เซฮุนที่ยืนมองแบคฮยอนอยู่นาน เชยคางของเพื่อนตัวเล็กขึ้น ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกดจูบที่ริมฝีปากบางนั่นเบาๆ แบคฮยอนเบิกตากว้างตกใจกับการกระทำของโอเซฮุนที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับมิตรภาพของความเป็นเพื่อน

     

    "ฉัน....." เซฮุนถอนจูบนั้น ก่อนจะเอ่ยเบาๆด้วยท่าทีรู้สึกผิดกับการกระทำของเขาเมื่อครู่
    "ฉันส่งเซฮุนแค่นี้นะ ขอตัวขึ้นไปนอนก่อน (.  .)" แบคฮยอนที่ไม่เข้าใจกับการกระทำของเพื่อนสนิท เอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินขึ้นห้องไป

     

    .
    .

     

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แบคฮยอนและโอเซฮุนจะรู้ไหมว่า มีบุคคลที่สามยืนอยู่และเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดได้อย่างชัดเจนและเต็มสองตา . . .

     

     

     

    จะรู้สึกอะไรดีล่ะไอ้ชานยอล!

     

    .

    .

    .

     ?#ฟิคร้ายรัก

    .

    .

    .

    Chanom . . J



    © themy butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×