ประมวลเรื่องราวของคำว่ารัก

เนื้อเรื่อง

ประมวลเรื่องราวของคำว่า "รัก"

ฉันก็เป็นคนหนึ่ง ที่อยากจะมีความรัก ที่สมหวังเหมือนทุกคนที่วาดหวังเอาไว้ และอยากสมหวังในความรักเหมือนดังที่ฝันเอาไว้ แต่ฝันก็เป็นได้แค่ความฝันแหละ เพราะกี่ทีที่รักใครก็กลายเป็นเราที่แห้วทุกที "ทำไมนะคนที่เรารักกลับไม่รักเรา แต่คนที่เราไม่รักกลับรักเรา" นั่นเป็นคำถามที่ฉันตั้งถามในใจอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยมีคำตอบสักที บางครั้งฉันก็คิดว่าฉันคงเป็นคนที่อาภัพรัก เพราะไม่เคยได้สมหวังในความรักเลย จนมาถึงตอนนี้ ฉันถึงเข้าใจความหมายที่แท้จริงของความรักว่า "ความรักมีแค่ได้รับรัก กับเสียสละ ความรักไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะรักคือการให้ ให้คนที่เรารักมีความสุข ความสุขของเราก็จะตามมาเอง"

ความรักคือสิ่งสวยงาม และทุกคนก็คาดหวังที่จะมีรัก แม้จะไม่รู้ว่ารักของตนจะเป็นอย่างไรก็ตาม หรือแม้แต่รักของตนจะแย่เพียงใด แต่ทุกคนก็ไม่ละทิ้งความรักที่ตนเป็นผู้ก่อขึ้นมา รักก็เหมือนกับต้นไม้ที่เราจะต้องดูแลให้ต้นไม้เติบใหญ่ ต้องคอยดูแลให้ความรักแทนปุ๋ยหรือน้ำ รักนั้นก็จะยาวนานเหมือนต้นไม้ที่สมบูรณ์ และความรักก็เปรียบเหมือนเรือที่มีคน 2 คนนั่งไปด้วยกัน คน 2 คน ในเรือนั้นก็ต้องช่วยกันพายช่วยกันประคับประคองเรือเพื่อให้เรือไปถึงจุดหมาย คลื่นลมก็เหมือนสิ่งต่าง ๆที่ทำให้เราทั่งคู่ผิดใจกัน แต่ถ้าคนทั้งคู่ต่างร่วมมือร่วมใจอาศัยความเข้าใจที่ดี ก็จะสามารถนำเรือหรือความรักไปถึงจุดหมายได้ แต่ถ้าต่างคนต่างไปไม่สนใจกันเรือหรือความรักนั้นก็จะล่มลงไป เพราะฉะนั้น "ความรัก" จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจเพื่อให้ความรักนั้นราบรื่น สดใส และ Happy Ending.

การรักใครสักคนไม่ใช่สิ่งง่ายๆ จะต้องใช้เวลาพิสูจน์ว่าคนที่เรารักนั้นเป็นคนอย่างไร เราจะเข้ากันได้ไหม ไม่ใช่เจอปุ๊บรักปั๊บ ต้องคบหาดูใจกันไปก่อน จนกว่าจะแน่ใจว่าเรา 2 คนเข้ากันได้ เพราะถ้ามันลองเจ็บมันก็จะรักษายาก แผลกายอาจรักษาให้มันหายไปง่าย แต่แผลใจนี่สิต้องใช้เวลานานกว่าจะเยียวยาให้หายได้

ความรักไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่เป็นสิ่งที่สวยงาม พอเรามีความรักก็จะมองว่าโลกนี้สดใส มองสิ่งต่างๆ ไปในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่เคยเห็นว่าไม่ดีก็กลับดีซะหมด แต่ก็ควรแบ่งแยกความรักกับเรื่องอื่นบ้าง จะได้ไม่เป็นบ้าและต้องไปนอนพักผ่อนที่ศรีธัญญา

ถ้ารักเขาข้างเดียวอาจจะเจ็บสักหน่อย เพราะเรารักเขาอยู่ฝ่ายเดียว ยิ่งถ้าคนที่เรารักนั้นเขามีแฟนแล้วหรือเขาไม่รักเรา ก็จะเจ็บมากไม่ต้องบอกเหตุผลก็คงรู้อยู่แก่ใจว่าทำไมแต่ถ้าเขายังไม่มีแฟนก็บอกรักเขาไปเลยเพราะเขาอาจจะสนเราอยู่บ้างก็ได้ ( เข้าทางล่ะ )

ฉันรู้จักคนคนหนึ่ง เค้าเป็นเพื่อนฉัน เค้าชอบเพื่อนในห้องคนหนึ่ง แต่เพื่อนคนนั้นคิดกันเค้าแค่เพื่อน เค้าก็เสียใจมาก พอมาเรียนปวช. เค้าก็เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเป็นคนใหม่ จากที่เค้าเคยไปชอบใคร ไปจีบใครแล้วคนที่เค้าชอบ เค้าจีบไม่มอง เปลี่ยนไปไม่ว่าจะจีบใครเค้าก็รักตอบเสมอ แต่เพื่อนฉันก็มีอะไรที่ไม่ดีคือ ชอบรักเผื่อเลือก รักใครหลายๆคน แต่หนึ่งในนั้นก็มีคนที่เค้ารักที่สุดเพียงคนเดียว

เพื่อนคนที่สองของฉันที่จะกล่าวถึง เค้าเป็นคนที่ไม่เคยมีความรักกับใคร พอมามีความรักก็ต้องอกหัก ซึ่งทำให้เค้าไม่กล้าที่จะลองรักใคร ทำให้เค้ามองโลกสีชมพูของคนที่มีความรักเป็นหม่นหมองได้

ผู้หญิงทุกคนต้องการได้รับความรักจากคนที่เรารัก แม้ว่าผู้ชายจะมองว่าน่าเบื่อก็ตาม ลองคิดดูซิว่าทำไม ผู้หญิงต้องจู้จี้ ขี้บ่น ขี้งอน ขี้หึง และอะไรอีกหลายๆอย่างที่นินทาผู้หญิง แต่ทุกอย่างที่เค้าทำไม่ใช่เพราะคำว่ารักหรอ เพราะรักคำเดียวสามารถเปลี่ยนผู้หญิงที่เคยอ่อนหวานเป็นยักษ์เป็นมารได้ หรือเปลี่ยนจากผู้หญิงที่ห้าวให้อ่อนหวาน อ่อนโยนได้ คุณผู้ชายทั้งหลายที่ไม่เข้าใจ ก็ลองไปฟังเพลงของปานดูเผื่อจะรู้อะไรบ้าง เมื่อรู้แล้วก็ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ทำเอาหูทวนลมเวลาเค้าว่า ไม่ทำนอกลู่ นอกทางให้เค้ามานั่งหึง แค่นี้ก็ไม่เกิดเรื่องต้องน้อยใจกัน เลิกรากัน และที่ผู้ชายต้องปรับปรุงคือ นิสัยเห็นผู้หญิงสวย น่ารักเดินผ่านก็มองตาม ขอบอกเอาไว้นะว่าผู้หญิงไม่ชอบเป็นอย่างมาก ถ้าคุณปรับปรุงได้ก็จะดีมากๆ

เมื่อเราแนะนำผู้ชายไปแล้วก็ถึงตาผู้หญิงบ้าง ข้อสำคัญที่คุณผู้หญิงควรรู้คือ ผู้ชายเค้าจะไม่ค่อยชอบพูดคำว่ารัก เค้าจะชอบแสดงออกเป็นความรู้สึก เช่น คอยห่วงใย ดูแลเอาใจใส่เรา เพราะฉะนั้นเราก็อย่าไปจูจี้ถาม เพราะจะทำให้เค้ารำคาญเรา และอีกนิสัยของผู้ชายคือ ชอบมองผู้หญิง ก็ให้เรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเค้ายังไม่ได้แต่งงานกับเรา เค้าก็ยังมีสิทธิ์ที่จะมองคนอื่น เราก็ต้องเข้าใจไว้บ้าง

เมื่อทั้ง 2 ฝ่าย เลิกทำสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ชอบแล้ว ก็สามารถพารักไปให้ถึงจุดหมายได้