อาเธียร์ร่า - นิยาย อาเธียร์ร่า : Dek-D.com - Writer
×

    อาเธียร์ร่า

    โดย A-farbet

    การต่อสู้เพื่อการล้างแค้นทำให้ เลส หญิงสาวผู้ใช้มนตราตัดสินใจเดินทางสู่อาเธียร์ร่า ดินแดนในตำนาน หวังเพียงเธอจะแข็งแกร่งขึ้น และโชคชะตาก็ลิขิตให้เธอได้พบกับความรัก ณ ที่ดินแดนแห่งนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    206

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    206

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 มิ.ย. 51 / 00:31 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    บทนำ 

     

     

     

    แซ่ก แซ่ก   เสียงฝีเท้ากระทบกับใบไม้แห้ง    เมื่อชายหญิงคู่หนึ่งเดินผ่านใต้ต้นไม้ใหญ่ที่บัดนี้กำลังสลัดใบทิ้งเพื่อความอยู่รอดในฤดูหนาวที่โหดร้าย  อากาศรอบๆ เริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ เพราะท้องฟ้าที่มืดลงทุกที  ชายหญิงทั้งคู่ยังคงมุ่งหน้าเดินต่อไป

    เจ้ารู้สึกเหมือนข้ามั้ย   ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวในขณะที่เท้าของเขาและเธอยังคงก้าวเดินต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

    ฮึ พวกภูตเร่ร่อน ก็ดีเหมือนกัน ข้าจะได้ยืดเส้นยืดสายหน่อย  เดินทางมาทั้งวันไม่มีอะไรสนุกๆ ให้ข้าทำเลย

    งั้นข้าคงไม่ต้องลงมือใช่มั้ย

    เชื่อมือข้าเถอะน่า สบายมาก หญิงสาวตอบก่อนจะหยุดเดิน หันทิศไปหาเป้าหมายที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  ไม่นานนักสายลมก็โหมกระพือหนักราวกับว่าจะเกิดพายุกลางป่าทึบแห่งนี้  และท่ามกลางสายลมกระหน่ำนั้นก็ ปรากฎร่างของภูตเร่ร่อนหลายตน  พวกมันล่องลอยอยู่ในผ้าคลุมสีดำสนิท มีเพียงจมูกยาวแหลมเท่านั้นที่โผล่พ้นผ้าคลุมออกมา และก่อนที่กลุ่มภูตเร่ร่อนจะทันพุ่งเข้าใส่หญิงสาว

    มนต์แห่งข้า ซาฟีโรน่า เมจิคัล ขอสาปให้พวกแกเป็นผีเฝ้าต้นไม้!

    อ๊ากก!! เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของภูตเร่ร่อนดังก้องไปทั่วป่าใหญ่เมื่อพวกมันโดนคาถาต้องสาปของเธอ

    ฮ่ะๆ เจ้านี่มันร้ายกาจจริงๆ นะเดียน่า เจ้าแค่ใช้มนต์ทำให้พวกมันหายไปก็ได้นี่นา

    ฮึ เจ้าไม่รู้อะไร ข้าล่ะเกลียดนักพวกภูตเร่ร่อน ความสามารถแทบจะไม่มีแต่บังอาจคิดจะมาดูดเลือดข้าเนี่ยนะ  มันน่าโมโหชะมัด  ข้าดูเป็นพวกอ่อนหัดที่พวกมันจะมาดูดเลือดได้ง่ายๆ รึไงกัน

    เอาน่า ภูตเร่ร่อนพวกนี้มันเลือกคนดูดซะที่ไหนล่ะ  เมื่อมันอ่อนแอมันก็ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดก็เท่านั้น เจ้าก็แค่บังเอิญเข้าไปอยู่ในรัสมีสายตาของมัน  ฮ่ะๆ

    เจ้าจะหัวเราะอีกนานมั้ย

    ข้าเปล่าหัวเราะเจ้านะ ข้าก็แค่สงสารพวกมันที่ต้องมาเจอแม่มดจอมร้ายกาจเข้าซะนี่

    เจ้าว่าใครเป็นแม่มดจอมร้ายกาจย่ะ  ฟาร์รอน! กลับมานี่เลยนะ

    รีบตามข้ามาดีกว่าน่า นี่ก็ใกล้จะมืดแล้ว พวกเราต้องรีบเดินทางนะ

    เชอะ ตาบ้านั่น ชอบทำตัวเป็นนักบุญขี้สงสารนักนะ  อ้อ พวกแกก็อยู่เป็นผีเฝ้าต้นไม้นี่ไปละกันนะ ข้าไปก่อนล่ะ ฮ่าๆ

                ณ ใจกลางของป่าใหญ่ แสงดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ถึงเวลาของแสงแห่งจันทราที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน  ทุกอย่างกลับมาเงียบสงบอีกครั้งเมื่อสองหนุ่มสาวเดินจากไป  ในขณะที่อีกมุมของป่าในตอนนี้หาได้สงบเหมือนทุกครั้งไม่

     

    เปรี้ยง !!  ข่ายเวทมนต์ที่ผู้เป็นเจ้าของได้สร้างเอาไว้ ในตอนนี้ได้ถูกทำลายลงเนื่องจากใครก็ตามที่บุกรุกเข้ามา

    ใครน่ะ!  ข้าถามว่าใคร   เงียบ  ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา

    จิตแห่งมนตรา ฟิสิคัล อาโรร..

    ช้าก่อน!  ข้ามาดีนะ   สิ้นเสียงพูด ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ก็เดินออกมาจากพุ่มไม้

    เจ้าเป็นใคร ?  ถึงแม้ผู้บุกรุกจะยอมปรากฏตัวออกมาแต่หญิงสาวก็หาได้ไว้ใจไม่ เธอยังคงยืนอยู่ในท่าที่พร้อมจะต่อสู้ได้ทุกเมื่อหากว่าอีกฝ่ายคิดจะเล่นไม่ซื่อ

    ข้าหาใช่ศัตรูไม่  ได้โปรดเชื่อข้า

    ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร!  ตอนนี้เธอรู้เพียงแค่ชายตรงหน้าเป็นพวกผู้ใช้การ์เดี้ยน เพราะเครื่องประดับที่เขาสวมใส่  คนพวกนี้ใช้เครื่องประดับเหล่านี้ในการต่อสู้ ถ้าเธอจำไม่ผิด เขาเรียกกันว่า ทาร์ม สินะ ของที่ดูเหมือนเครื่องประดับธรรมดาๆ แต่สามารถกลายเป็นอาวุธได้หลากหลายหากเจ้าของต้องการ

    ข้าเป็นเพียงคนที่เดินผ่านมาทางนี้เท่านั้น และข้าก็มองไม่เห็นข่ายเวทมนต์ของเจ้า ไม่คิดว่าจะทำให้เจ้าตกใจ

    เธอยังไม่ไว้ใจคนตรงหน้า แค่เห็นจำนวนเครื่องประดับที่เขาสวมใส่ก็รู้ได้ทันทีว่าความสามารถไม่ธรรมดาเลย

    โอเค ข้าชื่อ จาร์มิน ข้าเป็นพวกใช้การ์เดี้ยนน่ะ น่าแปลกใจจริงๆ ปกติข้ามักจะมองเห็นข่ายเวทมนต์ของพวกผู้ใช้มนตรา แต่เหตุใดข้าถึงมองไม่เห็นข่ายเวทมนต์ของเจ้ากัน 

    ข้าชื่อ เลส

    ยินดีที่ได้รู้จักเจ้า  ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างทันทีเมื่อรู้สึกได้ว่าความหวาดระแวงที่ผู้หญิงตรงหน้าสร้างไว้ในตอนแรกได้หายไป

    เจ้าเป็นผู้หญิง เหตุใดจึงมาเดินอยู่ในป่าตอนเวลาใกล้มืดแบบนี้ แถวนี้มันอันตรายนะ

    ข้ารู้ แต่ข้าจะไปอาเธียร์ร่า หากไม่รีบเดินทางอาจจะไม่ทันพิธีเข้าฝึกตน

    นี่ก็แสดงว่าเจ้ากำลังจะเดินทางไปรับการฝึกสินะ ข้าก็จะเดินทางไปอาเธียร์ร่าเหมือนกัน   ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างอีกครั้ง ซึ่งมันดูตลกในสายตาของเลส แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ศัตรูแน่นอน

    เคยมีคนบอกเจ้ามั้ยว่าเจ้าเป็นคนที่ยิ้มแล้วดูตลก เอ่อ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะหมายความไปในทางไม่ดีนะ

    โอ้ ท่านหญิง ท่านจะตกหลุมรักข้าไม่ได้นะ

    ฮะๆ เจ้านี่ตลกชะมัด

    จะเป็นไรมั้ยถ้าข้าจะขอเป็นเพื่อนร่วมทาง

    มีเพื่อนร่วมทางคงดีกว่าเดินทางคนเดียวสินะ

               

    สองหนุ่มสาวออกเดินทางต่อไปท่ามกลางป่าใหญ่ที่ในตอนนี้เริ่มมืดลงทุกที จุดหมายของพวกเขาคือ อาเธียร์ร่า ดินแดนในตำนาน

     /p>

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น