เป็นเวลาค่ำหลังจากปฏิบัติภารกิจเสร็จ คาคาชิก็ให้ ซาซึเกะ นารุโตะ และซากุระไปพักได้
“เฮ้ นารุโตะ เจ้าซื่อบื้อ” เจ้าของชื่อหันควับทำหน้ายุ่งแต่ก็ไม่พูดโต้อะไร
// ปฏิกริยาผิดปกติแฮะ// เด็กหนุ่มผมดำคิดเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย
“มากับฉันหน่อย มีเรื่องจะคุย” ซาซึเกะเอ่ยขึ้น
ร่างเล็กทำหน้าสงสัยปนไม่สบอารมณ์แล้วตอบแค่ว่า—อือ---- คำเดียว
ทั้งคู่เดินเข้าหมู่บ้านมาพร้อมกัน ตลอดทางเด็กหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าใสไม่พูดอะไรเช่นเดิม
//เจ้านารุโตะเป็นอะไรถึงได้เงียบแบบนี้นะ// ซาซึเกะคิดรู้สึกอึดอัด
ไม่นานนักทั้งสองก็มาหยุดอยู่หน้าร้านราเม็งชื่อดังของหมู่บ้าน
ซาซึเกะที่กำลังจะเดินเข้าไปในร้านหันกลับมามองเด็กหนุ่มอีกคน
“เข้ามาเหอะน่า คุยที่นี่มันสะดวกอีกอย่างฉันเองก็หิวแล้ว นายเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง”
ร่างเล็กเดินตามเข้ามาอย่างฉุนๆและดูเหมือนจะลืมสังเกตไปว่า
ซาซึเกะเลือกที่นั่งตรงริมหน้าต่างมีนารุโตะเดินตามเข้ามานั่งอีกฝั่งของโต๊ะและยังคงทำหน้ามุ่ย
//ไม่พอใจอะไรก็น่าจะพูดกันตรงๆ// ซาซึเกะคิด
“จะรับอะไรดีจ๊ะ พ่อหนุ่ม 2 คนนี้” หญิงแก่อายุประมาณห้าสิบที่เป็นเจ้าของร้านเอ่ยถาม
“ผมขอชาอู่หลงกับน้ำถั่วแดง แล้วก็ราเม็ง 2 ชาม”
“ของหวานเอามั้ยจ๊ะ” เจ้าของร้านถามอีก
“ผมไม่....นายล่ะ”
เด็กหนุ่มจิ้งจอกเก้าหางส่ายหน้าปฏิเสธ
“แค่นี้ใช่มั้ยจ๊ะ รอสักครู่นึงนะ” เจ้าของร้านเดินเลี่ยงไปเพื่อสั่งชายอีกคนที่ทำราเม็งอยู่หลังร้าน
//วันนี้ทั้งวันก็ไม่ค่อยพูด เป็นอะไรนะ// ซาซึเกะคิดพลางเหลือบมองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“มี’ไร”
นารุโตะเอ่ยถามสั้นๆห้วนๆ ดูท่าทางไม่อยากเอ่ยอะไรนัก
ซาซึเกะหันกลับมาจ้องอีกฝ่ายตรงๆ
“ก่อนฉันไปถึง นายคุยอะไรกับหมอนั่น”
“ใคร”.
“อิทาจิ”
“เปล่า”
//โอ๊ย!!! ความจริงเขาไม่ได้อยากถามเรื่องนี้ซักหน่อย//
ซาซึเกะคิดอย่างปวดหัว แต่เขารู้ว่ามีบางอย่างที่นารุโตะปิดบังไว้
“นี่น้ำถั่วแดงของนาย” ซาซึเกะพูดพร้อมเลื่อนแก้วไปให้ร่างเล็กก่อนลงมือกับ
ราเม็งของตัวเองซึ่งไม่ถึง 20 นาทีก็ไม่มีเหลือ เด็กหนุ่มหันไปมองฝ่ายตรงข้ามคาดว่าน่าจะทานหมดแล้วเหมือนกันเพราะปกติทั้งคู่มักจะกินเร็วไล่เลี่ยกัน
(น่าจะเป็นแข่งกันกินมากกว่า) แต่ว่าเขาคาดผิด
“ทำไมไม่กินให้หมด ไม่อร่อยหรือไง” ซาซึเกะถาม
“ก็กินอยู่” เด็กหนุ่มจิ้งจอกเก้าหางตอบสั้นๆแหมือนเมื่อครู่
//ถามคำตอบคำอีกล่ะ// เด็กหนุ่มนัยน์ตาสีดำคิด
ซาซึเกะได้แต่นั่งรอให้ร่างเล็กทานเสร็จพลางมองท่าทีที่เนือบนาบ
ผิดปกติของนารุโตะจนเขาต้องสั่งชาถ้วยที่สอง สักพักเด็กหนุ่มจิ้งจอกเก้าหางก็เลื่อนชามที่มีราเม็งเหลืออยู่เกือบครึ่งมาให้เขา
“ส่งมาทำไม ไม่กินต่อเรอะ” นารุโตะส่ายหัวแล้วยกน้ำถั่วแดงมาดื่มแทน
ซาซึเกะเลยต้องทานต่อให้
//ทำหยั่งกะจะไดเอทเหมือนผู้หญิงไปได้// ซาซึเกะบ่นพึมพำ
ร่างเล็กหันมามองแวบนึงด้วยสายตาสงสัยแล้วก็ดื่มน้ำถั่วแดงของตัวเองต่อไป
พอทานเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่ลุกขึ้น นารุโตะกำลังจะหยิบเงินในกระเป๋า
“ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจ่ายเอง” เด็กหนุ่มจิ้งจอกเก้าหางทำหน้าอึ้งจนซาซึเกะรู้สึกเขินนิดๆ เลยพูดแบบแก้ตัวออกไป
“ก็ฉันลากนายมาเอง ฉันก็ควรจ่ายไม่ใช่หรือไง”
“อือ” เป็นคำตอบแสนสั้นที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ร่างบางเผยยิ้มออกมานิดนึงแต่ก็หุบลงทันที ซาซึเกะก็สังเกตเห็นท่าทีนี้และนึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ
หลังจากจ่ายเงินเสร็จทั้งคู่เดินออกมานอกร้าน อากาศภายนอกเริ่มเย็นลง
ผู้คนแทบจะไม่มีเหลือบนถนน
แต่ทางหน้าต่างบ้านเรือนกลับมีแสงไฟอันอบอุ่นลอดออกมาเรียงราย
กันไปตามทาง
“บ้านนายไปทางไหน” เด็กหนุ่มจิ้งจอกเก้าหางใช้การชี้แทนการพูด
บอกกับซาซึเกะ
“ทางเดียวกับฉัน” เด็กหนุ่มผมดำเอ่ย
ซาซึเกะจึงเดินกลับบ้านพร้อมนารุโตะ ทั้งคู่เดินไปเรื่อยๆ
“แค่เห็นนายยิ้ม แค่เห็นนายหัวเราะ หรือได้ยินเสียงนายความเหงาในใจมันก็หายไป”
ไม่รู้ว่านารุโตะได้ยินหรือไม่ เพราะเห็นยังเดินไม่พูดไม่จา
นารุโตะเอาไว้ ร่างบางดูตกใจ เด็กหนุ่มตัดสินใจถาม
“นายเป็นอะไร วันนี้ทั้งวันไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยหัวเราะ
แล้วพอชวนมากินราเม็งของชอบก็ไม่ค่อยกิน........ฉัน........ไม่สบายใจ...รู้มั้ย”
ซาซึเกะพูดในสิ่งที่รู้สึกจนหมดเปลือก นารุโตะมองเขาแบบไม่รู้ว่าจะทำไงดี แก้มเป็นสีแดงเรื่อ
“ฉะ....ฉัน...เอ่อ...ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด ไม่อยากยิ้ม ไม่อยากหัวเราะ
หรือไม่อยากกินราเม็ง นายชวนมาฉันว่าแปลกแต่ก็ดีใจมาก
และก็รู้สึกดีใจที่นายเอาใจใส่ฉันอยู่เหมือนกันดีใจที่นายรู้ว่าฉันชอบอะไร
ร่างเล็กเงียบไปครู่หนึ่ง จนซาซึเกะต้องกระตุ้นถาม
“ฉัน......ทำไมหรือ” ซาซึกะเอ่ยเสียงอ่อนโยนลงมาก
“ฉันเป็น............ร้อนใน.........."
"พอพูดมันก็เจ็บ พอยิ้มมันก็เจ็บ แล้วพอหัวเราะมันก็ยิ่งเจ็บ พอกินก็ยิ่งเจ็บ
หนักกว่าเดิม ฉันเลยพยายามไม่พูด ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ แล้วก็ไม่กิน”
ซาซึเกะได้ฟังก็อึ้ง //อะไรมันจะคิดได้น่ารักแบบนี้เนี่ย!!!!//
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอ๊ย ฉันนึกว่านายเป็นอะไรไปซะอีก”
“อ๊ะ อย่าหัวเราะนะ ก็ฉันคิดว่ามันจะหายเร็วกว่าถ้าทำแบบนั้นนี่”
“เขาต้องดื่มน้ำมากๆแล้วนอนแต่หัวค่ำถึงจะหายเร็วต่างหากล่ะ”
“อ้าว ก็ไม่รู้นี่ อึ๊ก! ตอนพูดนี่ก็ยังเจ็บเลยง่ะ”
นารุโตะน้ำตาเล็ด มือจับแก้มข้างที่เป็นร้อนใน
“นายนอนดึกใช่มั้ย เลยเป็น”
“ก็ไม่ดึกนักหรอก” นารุโตะพูดอย่างระวังสุดขีด ซาซึเกะเหล่ อย่างไม่เชื่อเท่าไหร่
“ไม่ดึกของนายน่ะ....กี่โมง”
“เอ่อ.......”นารุโตะเริ่มทำท่าไม่อยากบอก “ตะ..ตี 1”
“เนี่ยนะไม่ดึก มัวทำอะไรอยู่ล่ะ ฮึ”
“ก็มันนอนไม่หลับนี่”
“คิดอะไรอยู่ถึงนอนไม่หลับ”
พอถึงตรงนี้นารุโตะทำท่าหนักใจที่จะตอบยิ่งกว่าเดิม เหงื่อเริ่มตก
“ เพราะนายแหละ พอฉันจะนอน นายเข้ามาโผล่ในหัวฉันทำไมล่ะ
ฉันเลยนอนไม่หลับเลย เห็นมั้ย อึ๊ก! เจ็บอ่ะ ฮือ...” นารุโตะตะโกนว่าเสียงดังแบบเด็กๆ
ซาซึเกะได้ฟังก็ยิ้มกรุ่มกริ่ม แล้ว กอดนารุโตะไว้หลวมๆ พร้อมเชยคางขึ้น
“น่ารักแบบนี้จูบซะดีมั้ย” พอร่างบางได้ฟังก็มองอย่างอึ้งๆ
“ฉะ ...ฉันเป็นร้อนในนะ” นารุโตะพยายามหาข้ออ้างขอหลีกเลี่ยง
แต่ซาซึเกะโน้มตัวกระซิบข้างหูเบาๆ
“ฉันไม่ใช้ลิ้นหรอกน่า”
นารุโตะตาเบิกโพลงแต่ไม่ทันได้ห้ามอะไรทั้งนั้น
ริมฝีปากของซาซึเกะก็ทาบลงมาเนิ่นนาน
“นุ่ม..” ซาซึเกะบอกแผ่วเบาข้างหูหลังจากถอนริมฝีปากออกอย่างไม่เต็มใจนัก
“ลามก” ร่างบางย้อน
“รอให้หายก่อนเหอะ จะทำยิ่งกว่านี้อีก”
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“บ้า!!” นารุโตะผละจากซาซึเกะแล้ววิ่งไปทันที
เด็กหนุ่มจึงตะโกนไล่หลังร่างบางไป
“อย่านอนดึกล่ะเดี๋ยวหายช้า”
นารุโตะหันกลับมาแลบลิ้นใส่
“จะไม่นอนเลยคอยดู!!!!!!” ร่างเล็กหันมาตะโกนกลับ
หลังจากนั้นซาซึเกะก็เดินอมยิ้มกลับบ้าน คืนนี้ช่างดีเสียจริง
เด็กหนุ่มฮัมเพลงไปตลอดทาง
The End
---------------------------------------------------------------------------------
แถมท้าย
วันรุ่งขึ้น ระหว่างไปปฏิบัติภารกิจ
คาคาชิ : “นี่ ซาซึเกะคุง แบกน้ำมาทำไมเยอะแยะ ฮึ”
ซาซึเกะ : “ผมเอามาให้นารุโตะ”
ซากุระ : “แล้วทำไมต้องเอามาให้นารุโตะล่ะจ๊ะ” (ให้ฉันแทนไม่ได้เหรอ)
ซาซึเกะ : ถามนารุโตะสิ
[ ส่งสายตามีเลศนัยไปทางนารุโตะที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้างต้นไม้ ]
นารุโตะ : [ หันกลับมา เหงื่อตก ] ‘เจ้าซาซึเกะแกล้งตรูอีกแล้ว’
จบจริงๆแล้วจ้า
ว่าแต่คุยไรกับอิจจี้หว่า -0-???
I LOVE SASUNARU
แต่งได้สนุกมากค่ะ
ชอบสุดๆๆเลยค่ะ
สนุกค่า
.
.
.
...
....
.....
คิดได้ไงเนี่ย!!!
โธ่ๆๆ เดี๋ยวเค้าจะจูบ.. เอ๊ย รักษาให้หายเลย
กร๊ากกกก
กร๊าากกก
ขำน้ำตาเล็ด ฮา อ่ะ
เเหม ซัสจังขี้เเกล้งจังนะ อิอิ
โอ้ยย ฮาครับ
น่ารักได้ใจจริงๆ ทั้งคู่นี้แบบว่า เป็นอะไรที่คลั่งมากนั้นแหละนะ
ขำมากๆเลยอ่ะตอนที่บอกว่าเป็นร้อนใน
น้ำตาแทบเล็ด
สนุกมากเลย
ขำนารุโตะ
5555+
น่ารักดีอ่ะ
อ่านไปยิ้มไป
^^
เหตุผลนารุคุงช่าง...งี่เง่าสิ้นดี =__=;;;;
ซาสึคุงช่วยเบามือด้วยนา...
นึกว่าเป็นอะไร ที่แท้ดันเป็นร้อนใน 555
ไ อ้เราก็คิดมาก ที่แท้เจ้าโตะมันเป็นร้อนใน อุ๊...555+