ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Until The End Of Time

    ลำดับตอนที่ #21 : บทที่ 1 Before Crisis ตอนที่ 7 แสงสงัดแห่งห้วงรัตติกาล (1/3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 163
      0
      3 เม.ย. 50


                     "
    งานวิจัย?" นอร์เฟรเซียพึมพำทวนคำราวกับถาม เอียงคอลงพลางมุ่มคิ้วแน่น ขยับมือบางที่

    เกาะ
    กุมลำแขนแข็งแรงให้กระชับกว่าเดิมจนคนถูกจับเริ่มรู้สึกตัวว่าหมือนมีอะไรบางอย่างสัมผัสตน  รูลก้ม

    มองฝ่ามือบอบบางครู่หนึ่ง ทันทีเมื่อรู้ว่าสิ่งที่จับตนอยู่นั้นคืออะไร พลันดวงหน้าคมเข้มค่อยๆเริ่มเปลี่ยนเป็น

    สีแดงจัด จนต้องก้มลงเพื่อให้ผมหน้าม้าบังเอาไว้ เสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะระรัวถี่จนต้องกำมือแน่นๆ

    ระดับอกราวกับพยายามควบคุมมันอย่างไร้ผล


                   
    รูลพยายามอยู่ให้นิ่งเท่าที่สุด ราวกับไม่อยากให้เธอรู้ตัว....อยากจะอยู่อย่างนี้....แบบนี้....อยากจะ

    หยุดเวลาเอาไว้แค่ตรงนี้....แค่ตรงนี้...เท่านั้น....


                   
    อยาก...อยู่อย่างนี้ไปนานๆ....


                   
    "เอ่อ...นอร์เฟรเซีย มือ…." แต่พลันไอ้ปากเจ้ากรรมดันไม่ประสานร่วมกับความคิด เมื่อปากพล่อยๆ

    มันแซงพูดก่อนใจจะนึกห้ามได้ทัน รูลกันกรามแน่นนึกอยากง้างมือขึ้นมาตบปากตัวเองที่มันสะเออะไวเกิน

    เหตุให้รู้แล้วรู้รอด


                   
    "
    อ๊ะ....ขอโทษค่ะ" นอร์เฟรเซียร้องขึ้นเมื่อมองตามมืออย่างที่รูลบอก เด็กสาวชักฝ่ามือบางออกจาก

    แขนของรูลทันทีด้วยดวงหน้าหวานอันแดงระเรื่อ แล้วหลุบตาลงก้มมองลงด้านล่าง...


                   
    ดวงเนตรสีน้ำเงินไพลินทอดมองเหตุการณ์ณ์เมื่อครู่...ถึงไม่อยากมอง...แต่ก็เห็นทุกอย่าง...ทั้งที่ไม่รู้

    ว่าทำไมเพียง...แค่นั้น...แค่เท่านั้นจริงๆแต่....มันกลับทำให้รู้สึก...เจ็บแปลบๆ....


                   
    "ค...ครับ...งานวิจัย" บลิทซ์รับก่อนจะขยับรอยยิ้มจางๆพยายามขับน้ำเสียงให้เป็นปรกติราวกับไม่

    รับรู้อะไรเกิดขึ้น....หรือไม่...บางทีอาจจะไม่อยากจะรับรู้ถึงมัน....บลิทซ์กระชับสิ่งมีชีวิตในอ้อมกอดแน่นขึ้น

    เพราะมันเริ่มดิ้นพล่านๆราวกับต้องการให้เขาปล่อยมัน
    "คุณคงรู้จัก....ไคมิร่า แอนนิมัลล์ นะครับ"


                   
    "เอ่อ...ค่ะ...เคยได้ยิน...เห็นว่ามันออกข่าวเมื่อต้นปีแต่...เอ๋?! หรือว่า?"  นอร์เฟรเซียร้องอุทานเสียง

    ดัง ยกมือบางขึ้นประกบปาก บลิทซ์ขยับรอยยิ้มจางๆแล้วพยักหน้าราวกับตอบรับแทนคำพูดว่า
    'เป็นอย่างที่

    คุณคิดนั่นแหละครับ
    ' เด็กสาวคลายมือออกก่อนจะยิ้มกว้างแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้ๆบลิทซ์เพื่อดูเจ้าสัตว์ทดลอง

    นี้ให้ถนัดตา


                   
    "
    แหม...น่ารักจังเลยค่ะ" นอร์เฟรเซียว่าฝ่ามือบางค่อยๆวางลงบนศรีษะของไคมิร่าตัวนั้นอย่างเบามือ

    ดวงเนตรสีฟ้าใสแสดงความเอ็นดู


                   
    รูลเก้าเท้าเดินมาด้านหน้าใกล้ๆกับบลิทซ์ก่อนจะโน้มกายลง พลางหรี่ดวงเนตรสีแดงโลหิตเพ่งมอง

    ไปยังเจ้าไคมิร่าแอนนิมัลล์ในอ้อมกอดของเพื่อนวัยเด็ก
    "เนี่ยน่ะนะ สิ่งมีชีวิตดัดแปลง สัตว์ที่เกิดจากการตัด

    ต่อพันธุกรรมน่ะ....ฉันก็นึกว่ามันจะเท่ห์ กว่านี้ที่ไหนได้....มันก็แมวมีปีกดีๆนี่ล่ะว้า.....
    "


                   
    "ไม่ใช่แมวเฟ้ย!เสือต่างหาก เสือน่ะเสือรู้จักไหมห๊า!!!! เสือขาวน่ะ!" ไคมิร่าตะโกนลั่นน้ำเสียงเล็ก

    ร้องอย่างไม่พอใจก่อนจะขยับตัวเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของบลิทซ์เพราะอยากจะบินอัดหน้ารูลที่บังอาจว่า

    มันเป็นแมว
    "แล้วก็อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นสัตว์เลี้ยงนะเฟ้ย ไอ้เด็กพวกนี้"


                   
    "
    ใจเย็นสิจ๊ะ ไคมิร่าจัง" นอร์เฟรเซียกล่าวน้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างร่าเริง แล้วค่อยๆไล้มือไม่ตาเส้น

    ขนสีขาวประกายชมพูฟูนุ่มๆของมัน ถึงจะบอกว่า...ไม่ใช่แมวก็เถอะแต่ขนนิ่มๆแบบนี่น่ะ...มันขนแบบเดียว

    กับของแมวเลย...ไม่ใช่เหรอ?
    "ชื่ออะไรจ๊ะ?"


                   
    "อ๊ากกก....ก็บอกว่าอย่าทำเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยง!!" ไคมิร่าร้องโวยวายดังลั่นเมื่อเห็นนอร์เฟรเซียทำ

    ในสิ่งที่มันเกลียดที่สุดคือ....การมองมันเหมือนกับเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆตัวหนึ่ง หากแต่ปากบางเล็กของเจ้า

    ไคมิร่ากลับขยับตอบคำถามตามนิสัย
    "ฉันชื่อ นีโอ ย่อมาจากรหัส NEO 0048 ของฉัน"


                   
    รูลย่นจมูกแล้วเบ้ปาก ดวงหน้าคมคายตีสีหน้ายั่วประสาทก่อนจะดึงไคมิร่าออกจาอ้อมแขนของ

    บลิทซ์แล้วเหวี่ยงเล่นไปมาให้ลอยคว้างในอากาศเล่นๆ  
    " นีโอ.....โห.....ชื่อเท่ห์ไปมั๊ง แมวเปี๊ยกแป้งขนมมันจู

    อย่างแกน่ะน่าจะแค่ชื่อ...เอ่อ.....
    "รูลใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่วางเบาๆบนริมฝีปากบางราวกับกำลังใช้ความคิด


                   
    "ปล่อยฉันนะเฟ้ย ปล่อย!!!" ระหว่างที่รูลกำลังหยุดเพื่อใช้ความคิดสิ่งมีชีวิตในมือก็ขยับตัวดิ้นรนหา

    ช่องทางหนีจากมือใหญ่ที่จับคอตนแล้วเหวี่ยงไปมาจนน่าเวียนหัว ทั้งเตะอากาศชกลมปนเปกันมั่วหวังเพียง

    เพื่อมันจะออกจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้ได้เป็นพอ
    "บอกให้ปล่อยฉันลง ปล่อยเด๊!!!!"


               
    ตุ้บ!!!


                   
    ดวงหน้ากลมของสัตว์ร่างเล็ก จมอยู่กับพื้นดินจนติดชิดเพราะมือหนาที่จับคอของมันจู่ๆก็ปล่อย

    ออกจนหล่นตุบลงมากองกับพื้น มันค่อยๆยันร่างขั้นจากพื้นแล้วสะบัดหน้าแรงๆแล้วหันไปทางรูลที่ทำหน้า

    ยิ้มแป้นระรื่น พอเห็นว่าคู่กรณีทำหน้าอย่างนั้นทั้งที่โยนมันจนร่วมหน้าจิ้มดิน ไคมิร่าร่างเล็กจึงตะโกนร้อง

    ลั้นด้วยความโกรธ
    "ทำอะไรของแกเนี่ย!ไอ้บ้า!"


                   
    "ก็....บอกเองว่าให้ปล่อยไม่ใช่เหรอไง...เนี๊ยว"  รูลกล่าวเสียงร่าเริงราวกับเห็นเป็นเรื่องเล่นเขา

    ค่อยๆโน้มกายลงใกล้ก่อนมือไวๆของเด็กหนุ่มจะดึงหนังตรงคอของไคมิร่าขึ้นเหมือนกับตอนอุ้มแมวแล้ว

    ค่อยๆวางเนี๊ยวลงบนศรีษะของบลิทซ์ ก่อนจะกรอกตาไปมาเมื่อมันทำท่าเหมือนพองขนขู่
    "แล้วไอ้เนี๊ยวนี่

    ใครมิทราบ
    !!"


                   
    บลิทซ์ลอบถอนในเบาแล้วเหลือบขึ้นมองไคมิร่าบนศรีษะแล้วหลับตาลงอย่าปลงตก ถึงปากจะ

    บอกว่าไม่ใช่แมวมันก็เถอะนะแต่ว่า.....


                   
    พองขนได้แบบนี้มัน....แมว...ชัดๆเลยนี่ครับ....


                   
    "
    ก็.....นายไง....ชื่อเนี๊ยวแหละดีแล้วเหมาะกับแมวดีน่ารักด้วย ก็ชื่อนีโอน่ะมันเท่ห์เกินตัวนายไปมั๊ง"

    รูลว่าพลางยกมือเท้าเอวก่อนจะแสร้งตีสีหน้าครุ่นคิดเมื่อเจ้าคุณชายเพื่อนวัยเด็กเริ่มหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ

    ราวกับกำลังจะจับความคิดของเขาอยู่
    "เธอก็คิดอย่างงั้นใช่ไหม นอร์เฟรเซีย?"


                   
    รูลหันไปทางนอร์เฟรเซียราวกับขอความเห็นในขณะเดียวกันก็เหมือนกับการร้องขอหาพวกช่วยลง

    ความเห็นเป็นอีกนัย เด็กสาวเอียงคอลงก่อนจะขยับรอยยิ้มกว้าแล้วพยักหน้ารับ
    "เห็นด้วยค่ะ ชื่อเนี๊ยวน่ารัก

    กว่าเยอะเลยนะ
    "


                   
    เนี๊ยวถอนใจฮึดฮัดอย่างหัวเสียแต่พอจะง้างปากพูดพลันมือนุ่มๆของเจ้าของศรีษะที่มันนั่งอยู่ด้าน

    บนก็ค่อยๆจับแล้วเอาลงมาอุ้มมองในระดับสายตา บลิทซ์ชิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนเจ้าไคมิร่าน้อยจะ

    สบถคำหยาบด่าพวกรูล
    "คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันครับ?"


                   
    "
    ถามได้นะบลิทซ์ ไคมิร่าน่ะเป็นสัตวใช่ไหม? แล้วอย่างเนี๊ยว ฉันว่าก็คงจะเป็นสัตว์เลี้ยงของนัก

    เรียนไม่ก็อาจารย์สักคนในโรงเรียนนั่นแหละ เดี๋ยวไปประกาศในเว็บบอร์ดโรงเรียนหาเจ้าของก็ได้
    " รูลกล่าว

    น้ำเสียงง่ายพลางโบกมือพลัดๆอย่างเย็นใจหากแต่คนฟังกับทำหน้าซีเรียสกว่าเดิม บลิทซ์หลับตาลงก่อนจะ

    สูดหายใจเข้าแล้วมองรูลแล้วโคลงศรีษะเบาๆ


                   
    "ไม่ใช่ครับ..." น้ำเสียงนุ่มดูจริงจังและเด็ดขาดมีอำนาจแฝงเร้นจนน่ากลัว ดวงหน้าหวานคมดูนิ่ง

    เฉยจับอารมณ์ความรู้สึกตอนนี้ได้ยากยิ่ง ไม่เหลือเค้าของเด็กซื่อเมื่อครู่เอาไว้เลยแม้แต่น้อย.....รูลนิ่งกลืน

    น้ำลายลงได้อย่างลำบาก เขารู้จักบลิทซ์ดี.....ใช่เพราะรู้จักดี.....หากไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายจริงๆบลิทซ์คงไม่

    แสดงสีหน้านี้ออกมาหรอก.....สีหน้าของ...ผู้นำรูนผู้กำชีวิตของคนทั้งโลก....บลิทซ์ อฟอร์ดีเทร เซเรสเซียร์ ซี

    ซัส..... 


                   
    รูลขยับถอยหลังราวกับหนีความรู้สึกกดดันบางอย่างที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เลย....ว่าอะไรมันคือกัน

    แน่....ตัวตนที่แท้จริงของบลิทซ์คือใครกัน.....เจ้าคุณหนูเพื่อนสมัยเด็กแสนซื่อ หรือประธานรูนผู้ทรงอำนาจ

    และมีสิทธิ์ในทุกอย่างแม้แต่ชีวิตของโลก...

                       "จริงอยู่ครับที่ไคมิร่าเป็นสัตว์ทดลองที่สมบูรณ์แบบแต่...." เด็กหนุ่มสูดลมหายใจลึกเพื่อเว้นวรรค

    ช่วงประโยคก่อนจะกล่าวต่อ "แต่ไคมิร่ายังเป็นสัตว์ทดลองอยู่ครับ ถึงจะสมบูรณ์แบบแล้วแต่ก็ยังวางใจอะไร

    ไม่ได้สักเท่าไร เพราะไคมิร่าร่างทดลองส่วนใหญ่ตอนนี้ยังคงถูกเพาะเลี้ยงเพื่อพัฒนาความสามารถอยู่ใน

    หลอด LC ที่ศูนย์วิจัยที่ 24 ครับ....แต่เรื่องนั้นมัน คงจะไม่สำคัญเท่ากับทำไมไคมิร่ารูปแบบแมว...เอ่อ เสือขาว

    ถึงออกจากศูนย์วิจัยมาได้ต่างหาก"

                 "ออกจากศูนย์วิจัย...?" รูลทวนคำน้าเสียงเข้มดูตื่น เด็กหนุ่มขยับก้าวเข้ามาหาบลิทซ์ระยะประชิด
     
    ดวงหน้าคมเข้มฉายแววความตกใจอย่างปิดไม่มิด "เดี๋ยวสิบลิทซ์ ! ศูนย์วิจัยที่ 24 น่ะมันอยู่ไกลจากที่นี่จะ

    ตาย....แล้วลำพังสัตวตัวเล็กๆ แมวเปี๊ยกอย่างเจ้าเนี๊ยวจะถ่อมาถึงวัลฮัลลานี่ได้ยังไงกันล่ะ  นอกจากจะเป็นนัก

    วิจัยระดับหัวหน้างานไม่ก็พวกหน่วยฮันเตอร์เท่านั้นและที่มีสิทธิ์เอามันออกมาจาห้องทดลองได้"             

                      "นั่นแหละครับที่ผมสงสัย..."  เด็กหนุ่มกล่าวเสียงเบาด้วยความจริงจังวางนิ้วเรียวยาวที่ปลายคาง

    ก่อนจะกดเปลือกตาลงแน่นดวง ดวงหน้าคมติดรอยความกังวลใจอย่าซ่อนไม่มิด แต่พลันที่ความคิดเป็นอัน

    ต้องหยุดเมื่อเจ้าของเสียงเล็กในอ้อมแขนพูดขึ้นแทรก
    " จะสงสัยอะไรนักหนาเล่า......ก็เป็นอย่างที่ไอ้เด็กตา

    แดงนั่นว่า
    "


                   
    "เอ๋....หมายถึงที่เป็นสัตว์เลี้ยงของอาจารย์น่ะเหรอครับ" บลิทซ์ตอบเสียงซื่อเด็กหนุ่มร่างสูงเอียงคอ

    ลง ดวงเนตรสีน้ำเงินส่องประกายความไร้เดียงสาจัดเสียจนขัดกับคนจริงจังเมื่อครู่ รูลขมวดคิ้วแน่นก่อนจะ

    หลุดถอนใจหัวเราะออกมาเบาๆเพื่อไม่ให้เจ้าคนข้างตัวที่ความสนใจอยู่กับสัตว์ร่างเล็กได้ยิน.....


                   
    .....กลับเข้าสู่สภาวะปรกติ....แล้วสินะ.....


                   
    "ไม่ใช่เว้ย!!!" เนี๊ยวร้องดังราวกับเด็กที่โดนขัดใจแต่ก็ใช่ว่าจะโมโหอะไรหนาเพราะเจ้าคนซื่อนี่ก็

    เล่นทำตาแป๋วไม่รู้เรื่องรู้ราวซะจนโกรธไม่ลง บลิทซ์ค่อยๆคลายมือที่โอบรัดมันออกแล้วปล่อยให้มันบินอยู่

    ใกล้ในระดับสายตา
    "ถ้าไม่ใช่แล้วมันคืออะไรเหรอครับ?"


                   
    "
    เฮ้อ....." ไคมิร่าถอนใจยาวพลางสั่นศรีษะไปมาแล้วมองไปรอบๆก่อนร่างเล็กจะค่อยร่อนลงมาอยู่

    บนศรีษะของเจ้าชายแห่งรัตติกาลเบาๆ
    บลิทซ์เหลือบตาขึ้นมองเนี๊ยวเด็กหนุ่มหลุบมือขึ้นลูบเบาๆตามแนว

    ขนนุ่มด้วยความอ่อนโยนตามนิสัยของคนรักสัตว์ รูลขยับรอยยิ้มกว้างวางมือบนปลายคางแล้วหัวเราะอีก

    ครั้งอย่างนึกเอ็นดู


                   
    .....ดูท่า...เจ้าเนี๊ยวจะติดใจเด็กซื่อนี่ซะแล้วสิ....


                   
    เนี๊ยวปิดตากลมโตสีดำขลับแสนน่ารักลง ก่อนจะไสหัวไปตามเส้นผมสีเข้มของบลิทซ์อย่างนึกชอบ

    ใจเพราะแสนจะนุ่มสบายเสียจนน่านอน หากแต่เจ้าไคมิร่าที่กำลังจะหลับกลับฉุกคิดขึ้นได้เสียก่อนว่ากำลัง

    พูดค้างเอาไว้ มันจึงค่อยผงกหัวขึ้นแล้วกล่าวต่อ
    " มีเจ๊ฮันเตอร์นิสัยเสียคนหนึ่งเขาเอาฉันออกจากศูนย์ที่24

    น่ะ แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ใช่ไคมิร่าร่างทดลองธรรมดาๆนะแต่เป็นไคมิร่า แอนนิมัลล์ที่สมบูรณ์ตัวแรกด้วย

    เพราะงั้นก็เลยเอาออกมาจากถังทดลองแคบๆนั่นได้ไง
    "


                    
     
    เจ้าสัตว์สมบูรณ์ตัวแรกพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิอย่างโอ้อวดมันยันตัวขึ้นน้อยๆอย่างวางมาดจนรู

    ลนึกอยากใช้มือกระหวัดให้มันตกลงพื้นหน้าจิ้มดินอีกรอบ...หากแต่รั้งมือเอาไว้เสียก่อน ไม่ได้กลัวเจ้าแมว

    ปากมากนี่โกรธหรอกแต่ไอ้ที่จะกลัวก็คงกลัวตรงเจ้าของศรีษะที่มันใช้ต่างที่นั่งอยู่นั่นแหละ....


                   
    "
    ฮันเตอร์...นิสัยเสีย…" เด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาลแดงประกายเพลิงทวนคำ นอร์เฟรเซียเอียงคอลง

    อย่างนึกขำในพูดที่ช่างเราะร้ายขัดกับความน่ารักของเจ้าสัตว์ตัวเล็กนี่น่าดู ท่าทาง....เจ๊ฮันเตอร์นิสัยเสียอย่างที่

    ว่าคงเลี้ยงเนี๊ยวมาดีจัดล่ะมั๊ง.....


                   
    "แล้วเหตุผลที่หน่วยฮันเตอร์คนนั้นนำไคมิร่าร่างสมบูรณ์ออกมา........."บลิทซ์เหลือบตาขึ้นมองเจ้า

    ไคมิร่าที่อยู่บนหัว เด็กหนุ่มตีสีหน้ายุ่งคิ้วเรียวขมวดแน่นก่อนริมฝีปากบางจะค่อยขยับเอ่ย
    "มันเพราะอะไร

    กันเหรอครับ?
    "


                   
    หน่วยฮันเตอร์คือหน่วยนักล่าที่จัดการระบบความเรียบร้อยในส่วนที่ทหารและนักวิจัยทำไม่ได้

    เหมือนกับเป็นหน่วยสื่อกลางระหว่างหน่วยงานต่างๆของรูน ถ้าเทียบกันแล้วไม่นับผู้นำองค์กรและหัวหน้า

    หน่วยทหารและวิจัยแล้วฮันเตอร์คนหนึ่งก็มีเอกสิทธิ์สูงมากทีเดียว


                   
    สูงถึงขนาดจัดการอะไรเองได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องขอจากส่วนกลางเพื่อรอให้ประธานสภา

    สูงสุดอนุมัติให้เลยทีเดียวถ้าเกิดมันไม่ใช่เรื่องเดือดร้อนต่อองค์กร........ถึงจะครองสิทธิสูงก็จริงแต่....จะต้องมี

    เหตุผลที่เป็นหลักสมควรแก่การกระทำเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับรูน.......


                   
    เพราะอย่างนั้นเหตุผลที่ฮันเตอร์คนนั้นนำไคมิร่า แอนนิมัลล์ที่ทดลองสมบูรณ์ออกมาคืออะไรล่ะ?


                   
    "
    ใครจะไปรู้วะ ยายโหดนั้นนอกจากโขกสับแล้วเคยบอกอะไรฉันซะที่ไหน"  เนี๊ยวบ่นพึมพำเบาๆ

    กับตัวเองอย่างเซ็งระคนหน่ายในตัวของคนที่ตอนนี้สถานะน่าจะเป็น
    'เจ้านาย' ของมัน หากแต่ในฐานะของ

    สิ่งมีชีวิตแล้ว ยายนั่นน่ะจะเป็นคนสุดท้ายที่จะคิดถึงเวลาใครมาถามว่าอยากเป็นสัตว์เลี้ยงของใคร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×