ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Until The End Of Time

    ลำดับตอนที่ #20 : บทที่ 1 Before Crisis ตอนที่6แสงทองแห่งทิวดอกไม้ที่ส่องสะท้อนเงาจันทร์(3/3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 151
      0
      3 เม.ย. 50


                    ลมเบาๆพัดผิวกับต้นไม้ค่อยๆไหวๆเบาตามแรงลม เสียงใบไม้กระทบกับเบาๆส่งเสียงแซ่กแซ่

    ผสาน
    กับเสียงหริ่งเรไร ความเงียบสงัดยามราตรีกาล บลิทซ์เงยหน้าขึ้นรับลมเย็นๆยามกลางคืนก่อนจะสูดก

    ลิ่มหอมหวานจางๆจากพันธ์ไม้สีเหลืองนวลสมฉายาแห่ง
    'ทิวดอกไม้สีทอง'


                   
    เนื่องจากฐานปฏิบัติงาน ตึกเรียนของแบล็คฟอร์มจะอยู่ห่างจากไวท์สูทร่วมครึ่งโรงเรียนโดยมีทิว

    ดอกไม้สีทองและหอพักนักเรียนธรรมดาและห้องพักระดับพิเศษที่จัดหาไว้ให้คนจากรูนโดยเฉพาะขั่น

    ระหว่างกลาง พวกเขาจึงต้องนั่งรถไฟฟ้าลงมาสถานีที่10 ที่เป็นจุดที่ใกล้กับตึกแบล็คฟอร์มมากที่สุด ที่จริงจะ

    นั่งเลยมาถึงตึกเรียนส่วนในก็ได้....เพียงแต่....นอร์เฟรเซียไม่ยอม....


                   
    เด็กหนุ่มเส้นผมสีดำขลับเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือของตน ดวงเนตรสีน้ำเงินพื้นน้ำรัตติกาลมอง

    เข็มเวลาที่บอกว่าล่วงเลยเวลานอนของ
    'เด็กดี' มามากแล้ว


                   
    ....5 ทุ่ม 10 นาที......


                   
    กับคนที่ปรกตินอนแต่สามทุ่มก็ย่อมปิดปากหาววอดไปเดินไปเป็นธรรมดา แม้ร่างกายจะก้าวเดิน

    หากแต่ข้างใน...คงจะแทบไม่ทำงานแล้ว บลิทซ์สะบัดดวงหน้ามลแรงๆแล้วตบเบาๆเพื่อเป็นการปลุกตัวเอง

    ให้ตื่น.....ดูท่า...กาแฟดำที่กินไปตอนนั้น...คงจะเอาไม่อยู่....


                    
     ชึ้บ
    !


                   
    เด็กหนุ่มร่างสูงผวาตื่นจากหลับในเมื่อรู้สึกเมือมีแรงเหนี่ยวจากด้านหลังรั้งเขาเอาไว้ บลิทซ์

    กระหวัดตามองไปยังด้านหลังพบมือของชายเรือผมสีดำจับที่คอเสื้อของตนแล้วยกขึ้นด้วยแรงจนตัวเกือบ

    ลอย ก่อนจะหันไปด้านหน้า ชายสูงศักดิ์หรี่ตามองลงเมื่อเห็นว่าเท้าของเขาห่างจากขั่นบันไดลงไปไม่ถึง

    เซนต์


                   
    "เดินระวังหน่อยสิ เดี๋ยวก็ได้กลิ่งโค่โล่ตกบันไดขาหักหรอก" รูลว่าก่อนจะเอามือออกจากคอเสื้อวาง

    ร่างของบลิทซ์ลง สอดแขนกอดอกทำวางมาด
    "ให้ตาย...ฉันล่ะนับถือความสามารถในการหลับได้ทุกสถาน


    การณ์และทุกที่ของนายจริงๆเลยน่า
    "


                   
    "อ่า....ครับ คือ...ขอโทษครับแล้วก็...ขอบคุณนะ รูล  " บลิทซ์ลุบตาลงมอง ก่อนจะขยี้ตาไปมา จนดวง

    เนตรสีน้ำเงินเข้มเริ่มบวมแดง แล้วก้าวเท้าเดินลงบันไดไป .....รู้สึกเหมือน...ตอนนี้กำลังทรมาณตัวเองอยู่

    เลย.....


                   
    รูลสั่นหน้าน้อยๆแล้วตบหน้าผากแรงๆ....ทำเป็นพูดดีไปว่าบลิทซ์อย่างนั้นทั้งที่ตัวเองก็ง่วงแทบตาย

    เหมือนกัน เด็กหนุ่มเดินหน้าพลางคิดถึงเตียงนุ่มๆในห้องนอน....กลับไปถึงหอ...พ่อจะเปิดแอร์ให้เย็นช่ำ

    แล้วนอนตื่นสักบ่ายเลยคอยดู


                   
    ว่าไม่ว่าเปล่า ดวงเนตรสีแดงโลหิตหันไปมองยังห้องพักนักเรียนด้านข้างที่อยู่ใกล้ๆด้วยสายตา

    อาวรณ์....ป่านนี้ทุกคนคงหลับกันหมดแล้วทั้งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแท้ๆ.....แต่ไหงมีแต่พวกเราที่ต้องแกร่วเดินอยู่

    ที่นี่ด้วยล่ะ....อยากกลับไปนอนจัง...พรุ่งนี้วันหยุดด้วย...


                   
    รูลรีบสาวเท้าเร็วๆเมื่อหันกลับไปพบว่าอีกสองคนเดินนำหน้าตนอยู่หลายก้าวนักจึงรีบเดินเพื่อตาม

    ให้ทัน เด็กหนุ่มหันหน้ามาทางนอร์เฟรเซียก่อนริมฝีปากบางจะเอ่ยถาม
    " ทำไมถึงไม่ไปพิสูจน์ผีที่ทิวดอกไม้

    สีทองก่อนล่ะ? จะเทียวไปทางตึกแบล็คฟอร์มแล้วเทียวกลับมาอีกเหรอ?
    "


                   
    "ก็นะ..."เด็กสาวลากเสียงหวานแล้วหันไปทางรูลแล้วอมยิ้ม" จะพิสูจน์ทีฉันก็เลยอยากจะเรียงลำดับ

    ให้ตรงกับในข่าวนี่คะ
    " รูลย่นคิ้วก่อนเบ้ปากยิ้มแห้งๆแล้วก้มหน้าลงนิ่งยกมือขึ้นกุมขมับ


                   
    เป็นพวกแอบเอาแต่ใจ...ดื้อเงียบแล้วทำตาใส.....นี่หว่า....?


                   
    บลิทซ์ขยับรอยยิ้มน้อยๆก่อนจะหลุดขำออกมาเบาๆ การเคลื่อนไหวของฝีเท้าเริ่มช้าลงจนเดินรั้ง

    ท้ายแต่ก็ยังรักษาระยะห่างดวงเนตรสีน้ำเงินเข้มทอดมองคนสองคนด้านหน้าผ่านเบื้องหลัง...แววตาส่อง

    ประกายลึกจนมิอาจจะแสดงความหมายใดๆให้คนอื่นเข้าใจได้.....นอกจากตัวเอง...


                   
    "
    อ่ะ..อ๋า?!"


               
    โคร้ม!!!


                   
    เสียงนุ่มเผลอร้องสบถอย่างตกใจเพราะสะดุดกับอะไรบางอย่างก่อนจะต้องล้มครืนไปลงยังทางไม้

    พุ่มที่จัดแต่งเอาไว้อย่างไม่เป็นท่าจนเสียมาดของตัวเอง พลันคนเดินนำทั้งสองก็หันมาตามเสียงก่อนจะเดิน

    มาทางพุ่มไม้ที่บลิทซ์นั่งจมอยู่ ก่อนนอร์เฟรเซียก้มกายลงแล้วถามด้วยความเป็นห่วง
    "เป็นอะไรหรือเปล่า

    คะ... บลิทซ์?
    "


                   
    "
    โอย..ไม่เป็นไร....ครับ" เด็กหนุ่มร้องครางเบาๆพลางปัดเศษใบไม้ที่ติดอยู่ตามตัวออก....เจ็บ...ไม่

    สิ...ไม่เจ็บเลย...รู้สึกเหมือนมีอะไรที่นิ่มๆเหมือนกับ....ขนมเยลลี่รองรับอยู่ข้างล่าง บลิทซ์ก้มตาลงมองด้าน

    ล่างตามสัญชาติญาณ พลันดวงเนตรสีเข้มก็เบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด


                   
    บลิทซ์รีบลุกขึ้นทันทีเมื่อดวงเนตรสีน้ำเงินเข้มเหลือบเห็นบางอย่างที่เป็นสีชมพูอ่อนๆราวกับแป้ง

    ของขนมซากุระโมจิ รองรับอยู่ด้านล่าง ถึงจะเหมือนแป้งขนม...แต่..เขาก็รู้...ว่านี่เป็น....สิ่งมีชีวิต...
    !?


                   
    "ขะ....ขอโทษ...ขอโทษนะครับ" บลิทซ์ก้มหัวปลกๆใส่สิ่งมีชีวิตประหลาดที่เหมือนขนม มันค่อยๆ

    ลุกขึ้น ตัวสีขาวออกชมพูอ่อนสูงราวขวดน้ำอัดลม 2 ลิตร รูปร่างกลมๆแม้หน้าจะบู่บี้ไปบ้างเพราะถูกทับแต่ก็รู้

    ได้ว่ามันมีลักษณะคล้ายๆแมวคือมีหูเล็กแหลมแต่ออกมน มันขยับปีกสีขาวราวเทวดาขัดจากหางสามเหลี่ยม

    ของปีศาจ นัยน์ตาสีดำขลับกวาดมองบลิทซ์อย่างเคืองโกรธ


                    
     
    "ขอโทษแล้วมันหายเหรอฟร๊ะ!!!" มันร้องออกมาน้ำเสียงเล็กๆดูน่ารักราวกับเด็กแต่ก็จับได้ว่ากำลัง

    โมโหจัด
    แล้วมันค่อยๆกระพืบปีกสีขาวของมันแล้วบินขึ้นไปอยู่ในระดับสายตาของบลิทซ์


                   
    แค่นั้น.....นอกจากความประหลาดของมันที่มันจะเหมือนแมวก็ไม่ใช่แล้วแต่มันยังขยับปากพูดได้

    อีกด้วย นอร์เฟรเซียกับรูลขยับถอดกรูดด้วยความตกใจ ฝ่ามือบางคว้าข้อแขนแข็งแรงเป็นที่พึ่งก่อนจะเกาะกุม

    เอาไว้เสียแน่น....หากแต่....บลิทซ์....คนที่น่าจะกลัวที่สุดกลับเอียงคอลงแล้วทำหน้าซื่อ
    "แล้วจะให้ผมทำยังไง

    เหรอครับ?
    "


                   
    "ไม่รู้เฟ้ย!" สิ่งมีชีวิตประหลาดตอกกลับมาเสียงดังลั่นจนบลิทซ์หลับตาลงแน่นแล้วห่อไหล่น้อยๆ

    แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมาเสียงเล็กดุๆเงียบลง....แต่แค่พักเดียว...พักเดียวเพื่อเว้นช่องหายใจ


                    "ว่อย...อย่ามาทำแอ๊บแบ้ว....แหม่..ไอ้นี่นิ คิดว่าตัวเองเก่งแล้วจะทำอย่างนี้ไปนะ...ไอ้ๆๆ.......ฯลฯ" 

     
    ทันที่มี่เริ่มพูดอีกมันก็ยังคงพล่ามไม่หยุดเสียงเล็กปนเปกันจนคนฟังจับแทบไม่ได้ว่าพูดอะไรบ้าง บลิทซ์

    ค่อยๆยกมือขึ้นปิดหูราวกับไม่อยากได้ยินเสียงบ่นเล็กๆของมันสักเท่าไร่....จะว่ารำคาญ...ก็ไม่เชิง


                   
    "บะ...บลิทซ์…" รูลกล่าวเสียงสั่นกวักมือหยอยๆเรียกบลิทซ์โดยไม่รอให้มันเทศน์จบ คนถูกเรียก

    คลายมือที่ปิดหูออกก่อนเขยิบกายเข้าไปใกล้ๆ ดวงเนตรสีเข้มแสงความสงสัย
    "นาย...ไม่กลัว..ไอ้..เอ่อ...ไอ้

    ขนมมันจู(เป็นขนมของญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นสีขาวนิ่มๆ)นี่เหรอ?
    " เด็กหนุ่มพรมน้ำเสียงเบาๆราวกับกระซิบ

    บลิทซ์เงียบลง.....ไม่ใช่เพราะอะไรแต่กำลังกลั้นหัวเราะอยู่จนปวดท้อง เห็นดังนั้น รูลและนอร์เฟรเซียเอียง

    คอลงพร้อมกันด้วยความสงสัย


                    
     "
    ไม่ตกใจบ้างเลยเหรอคะ?" นอร์เฟรเซียถาม คิ้วเรียวบางสีน้ำตาลอ่อนค่อยๆเคลื่อนชิดกันจนขมวด

    แน่นราวกับเป็นปมของโบว์ บลิทซ์ยิ้มกว้างก่อนจะปลดปล่อยเสียงหัวเราะที่กลั้นเอาไว้ออกมาเบาๆอย่างคนมี

    มารยาทเด็กหนุ่มก้าวเดินไปทางสิ่งมีชีวิตประหลาดแล้วโน้มกายลง ฝ่ามือนุ่มๆคว้าร่างนั้นไว้อย่างเบาบางและ

    ถนุถนอมบลิทซ์อุ้มมันให้กระชับกับตัวแล้วหันไปยิ้ม


                   
    "
    แล้ว.....ผมจะกลัวงานวิจัยของตัวเองทำไมล่ะครับ?"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×