ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Exo ] Trust

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 14 : ส่วนลึกในใจคน...ใครจะรู้จริง

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 56


     
     

    Chapter 14 : ส่วนลึกในใจคน...ใครจะรู้จริง

     

     

    คุณเคยรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เหมือนติดอยู่ในจิตสำนึกบ้างไหม?บางสิ่งที่เหมือนติดอยู่ในความทรงจำ...พยายามจะนึกถึงแต่กลับจำไม่ได้

    ใช่ครับ!นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังเผชิญอยู่

    ผม'โอเซฮุน' อย่างที่รู้กันครับ ผมเกือบจะไม่ฟื้นขึ้นมาเพราะใครบางคนพลั่กผมลงไปหาพื้นจากตึกสูงเพื่อต้องการให้ผมตาย แต่ขอบอกว่าโชคร้ายหน่อยนะครับ โอเซฮุนคนนี้ตายยากไปหน่อย

    ไม่กี่วันมานี่ผมเพิ่งฟื้นจากอาการไม่ได้สติที่เป็นมานานร่วมเดือน ความรู้สึกตอนที่ฟื้นนะครับ มันเหมือนกับตื่นจากฝัน...ผมว่ามันไม่ร้ายด้วยซ้ำ แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนอยากจะลงไปไร้สติเหมือนเดิมเลยครับ อะไรบางอย่างที่ต้องมีอิทธิพลกับผมมากๆ ผมไม่อยากจากสิ่งนั้นเลย... แต่ผมก็หาคำตอบไม่ได้อยู่ดีว่าสิ่งนั้นคืออะไร... เหมือนเป็นเสี้ยวความรู้สึกที่ถูกปิดไว้เพราะอยากเก็บไว้คนเดียว...แต่โอเซฮุนคนนี้จะไปรู้เรื่องไหมครับ...ว่ามันคืออะไร โอ้ย!ยิ่งพูดยิ่งงงครับ!

    อืม...แต่สิ่งที่ผมจำได้.... คือลู่ฮานฮยองรักซิ่วหมิน ไม่ได้รักผม... ผมไม่รู้ว่าผมไปรู้มาจากไหน แต่ผมแน่ใจมากว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ

    รอยยิ้มพร้อมกับคำพูดต้อนรับของลู่ฮานฮยองในตอนที่ผมฟื้นขึ้นมาไม่ได้ทำให้ผมประทับใจสักนิด...กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นกำลังกลบเกลื่อนสิ่งที่ผิดไว้ต่างหาก

    แต่แปลก...ผมกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดสักเท่าไร ไม่รู้สิ เหมือนผมยอมรับมันได้นะ... คนหนึ่งคือคนที่ผมอยากจะมอบและทำทุกอย่างให้ ส่วนอีกคนคือคนที่ผมคิดว่าเขาคือคนที่ผมไว้ใจเขาให้ดูแลคนที่ผมรักได้



    ทั้งลู่ฮานกับซิ่วหมิน...ผมว่า เขาสองคนก็เข้ากันได้ดีนะ...แต่เมื่อไรเขาจะมาพูดความจริงกับผมสักที...



    อ่า...แล้วอีกเรื่องหนึ่งที่ผมแปลกใจ

    ผู้ชายคนที่ยื่นแก้วน้ำให้ผม...ผู้ชายผมสีแดง อ่า...เขาดูอบอุ่นมากเลย ผมพอจำได้นะว่าเขาเป็นใคร แต่ทำไมผมยังหลุดปากถามออกไปแบบนั้น...

     

    เขาคือคนบ้าที่พูดคนเดียวได้ครับ...

     

    !!!

    จริงๆนะ!รู้สึกว่าจื่อเทากับซิ่วหมินเคยบอกชื่อเขากับผม...แต่ผมก็จำไม่ได้อยู่ดี!

    ช่างเถอะครับ...ตอนนี้ผมอยากขอบคุณพระเจ้าซะมากกว่าที่ประธานพรให้ชีวิตใหม่กับผม...

     

    แต่จะดีกว่านี้นะครับ...ถ้าพระเจ้าลงโทษคนที่ตั้งใจทำร้ายผม!!!

    ....................................

    ไม่ผิดหรอก...พระเจ้ากำลังลงโทษคนที่ทำร้ายเธอแล้ว...

    โอเซฮุน

    พวกเขากำลังทรมาน จากการกระทำของพวกเขาเอง....

    ....................................

     

    ผมรู้สึกกำลังจะหมดแรง... ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อเลยครับ กับเรื่องของโอเซฮุน... ตอนนี้เหมือนผมกำลังเคว้งคว้างไปไหนต่อไม่ถูกเลยครับ... เรื่องที่คิดไว้ว่าถ้าเขาฟื้นขึ้นมาแล้วเราจะทำอะไรกันบ้าง ทุกอย่างพังทลายหมดเลย โอเซฮุนจำผมไม่ได้ด้วยครับ...

    ผม'คิมจุนมยอน'หรือ'ซูโฮ' คนที่ถูกลืมครับ... จริงๆแล้วผมก็เคยได้ยินมานะครับ ว่าระหว่างที่เป็นวิญญาณกับเมื่อเป็นมนุษย์ในกรณีที่ฟื้นแบบนี้ จะมีความเป็นไปได้ว่า คนๆนั้นจะจำเรื่องราวในขณะที่เป็นวิญญาณได้มาก แต่...ก็มีส่วนน้อยที่จำไม่ได้

    ทำไมโชคชะตาต้องกลั่นแกล้งซูโฮด้วย ...ทั้งๆที่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว แต่ทำไมโอเซฮุนถึงต้องลืมผมด้วย...

    ผมพยายามใช้เวลาของผมกับการเรียน กิจกรรม ที่โรงเรียนเหมือนเดิม ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม...เหมือนตอนที่โอเซฮุนไม่รู้จักผม ซูโฮ...ก็ดูไม่มีค่าอะไรแล้ว

    แต่ผมจะทำยังไงกับไอ้สิ่งที่วางที่โต๊ะหนังสือผมดี... ไอโฟนของเซฮุนยังอยู่ที่ผมแบบนี้  เมื่อวานผมลองกดเข้าไปดู แต่ว่าเขาก็ล๊อครหัสผ่าน แล้วตอนที่เขาเป็นวิญญาณก็ลืมถามไปเลยไงครับ... หรือว่าผมควรจะทิ้งมันแล้วก็ลืมๆไปซะจะดีกว่า พอคิดอีกที...ราคามันก็มากอยู่นะ จะทิ้งก็เสียดาย ถ้าเอาไปคืนมีหวังเซฮุนได้สงสัยแน่ๆว่ามันมาอยู่ที่ผมได้ยังไง... งั้นก็ปล่อยมันวางไว้เฉยๆอย่างนั้นจะดีกว่า...

    แต่ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ ว่าทำไมพระเจ้าถึงต้องกลั่งแกล้งผมอย่างนี้ด้วย...

     

    ....................................

    พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยกลั่นแกล้งบุตรของท่าน

    เพียงแต่ว่า พระผู้เป็นเจ้าเพียงขีดเขียนเส้นทาง

    ให้อดัมและอีฟมาพบเจอกัน....

    ....................................

     

    คุณเคยเสียความรู้สึกมากๆกับเรื่องบางเรื่องที่ดูไร้สาระบ้างไหมครับ?ตอนนี้ผมเหมือนกำลังจะตาย.... ไร้เรี่ยวแรงที่จะทำอะไรๆ หัวสมองหนักทึบแทบจะคิดไม่เป็นด้วยซ้ำว่าผมกำลังเป็นอะไร

    ผม'คิมจงแด'หรือ'เฉิน' ผมเอาแต่หมกตัวอยู่ที่ผับสักแห่งหนึ่ง อยากบอกว่ารสชาติแอลกอฮอร์ที่นี่ใช้ไม่ได้เลยสักนิด แต่ผมก็เลือกที่จะดื่มกลืนมันให้ลงคออย่างหยาบกระด้าง ผมไม่ได้กลับไปนอนที่หอจะเป็นอาทิตย์ ส่วนเหตุผล ...คุณๆก็รู้กันอยู่ อย่าสงสัยไปครับ ช่วงกลางวันผมไปหมกตัวที่ไหน...ก็ที่โรงเรียนหล่ะครับ เพียงแค่ผมเข้าชั้นเรียนเพื่อไปนอนหลับแค่นั้นเอง...

    ผมรู้ว่าไม่ควรเถลไถลแบบนี้แล้ว แต่ว่าผมก็ไม่อยากจะยอมรับว่าผมไม่อยากยอมรับเลยว่าเพื่อนที่ผมทุ่มเทให้จะไม่เห็นหัวผม... มันเจ็บและเสียใจมากที่สุดเลย

    มีคนบอกว่ามีคนฆ่าตัวตายเพราะเรื่องรักๆใคร่ๆแบบชู้สาวถมไป ...ผมอยากถามว่า ไอ้เรื่องแบบนั้นมันเจ็บมากกว่าที่ผมโดนอยู่หรือไงกัน!

    ผมว่านะก็ที่ถูกเพื่อนทำแบบนี้ มันเจ็บว่าเรื่องที่ถูกเลย์ปฏิเสธมากมายก่ายกอง! แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนแบบนั้นน้ะ....แบบว่าเวลาทะเลาะกันก็เอาเรื่องของเพื่อนตัวเองไปเล่าด่าให้ใครๆฟัง... ไม่ผมแทบไม่พูดด้วยซ้ำ ไม่อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากตอกย้ำตัวเอง

    ตัวเองที่น่าสมเพชแบบนี้....

    ตัวเองที่ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง....

    ไม่มีอะไรดีสักอย่าง เกเรไปวันๆ...ไม่ตั้งใจเรียน...หาเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่นไปทั่ว...ให้ความรักกับใครก็ไม่เคยได้รับความรักตอบกลับมา ทั้งเรื่องเพื่อน...และเรื่องความรัก

    ผมนี่มันน่าสมเพชจังเลย....

    ..............................................

    การที่เราไม่ประสบความสำเร็จไม่ได้แปลว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย

    แต่มันหมายถึงเราอาจจะยังทำได้ไม่ดีพอ

    บางทีการที่เราจะทำอะไรให้สำเร็จ

    ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางที่โปรยแตกลีบกุหลาบ

    เจ็บบ้างร้องไห้บ้างเสียใจบ้าง

    มันจะสอนเรา

    และอาจทำให้คนๆนั้นรู้ตัวก็ได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่...

    ...............................................

     



     

    โรงเรียนที่เต็มไปด้วยเหล่านักเรียนที่กำลังตื่นเต้นกับการเข้าค่ายครั้งแรกของปีการศึกษาที่กำลังก้มตัวอย่างทุลักทุเลเพื่อลากของสัมภาระของตัวเองขึ้นบนรถบัสคันหรูสร้างความสนใจกับนักเรียนระดับอื่นที่ไม่ได้ไปมากๆ

    การไปเข้าค่ายที่ปูซาน เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักเรียนเกรด11และ12บางกลุ่มเท่านั้น โถ่!แค่ที่ปูซาน เงินพ่อเงินแม่พวกเขาก็มีให้ไปน่ะ... แต่การเข้าค่ายครั้งนี้ดูต่างออกไปจากทุกครั้งตรงที่กิจกรรมแต่ละฐานที่จัดขึ้นจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเกรด11และเกรด12

     

    ซูโฮกำลังยกของสัมภาระเกือบ10ใบลงจากท้ายรถของตัวเองอย่างยากลำบาก... สัมภาระพวกนี้ไม่ใช่ของเขาทั้งหมดด้วยซ้ำ!แล้วทำไมต้องมายกด้วยวะเนี่ยครับ...

    "ว้ากส์!!!ไอ้หมา!!!แกหยุดดึงกางเกงฉันน้ะโว้ย~"

    "แล้วใครสั่งให้แกใส่กางเกงในฉันวะ!!!"

    นั่นคือคู่แรก.... วิ่งอย่างเด็กประถม!

    "คยองซูอา~ จงอินหิวอ่า...ไปหาซื้อตุนขนมกันเถ้อะ~"

    "...ไม่ดีกว่านะจงอิน"

    ส่วนนี่ก็อีกคู่....

     

    บอกทีครับว่า...จะมีใครช่วยซูโฮยกบ้างครับ!!! (T_T)~

    จะว่าไปก็เกือบร่วมอาทิตย์แล้วที่ซูโฮกลับมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เกี่ยวกับเรื่องของเซฮุน จะทำไงได้หล่ะ...ถ้าคนนั้นจำเขาไม่ได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในความทรงจำออกมา

    ซูโฮเลือกที่จะทำกับปัจจุบันให้ดีที่สุด เขาอยู่เกรด12แล้ว เรื่องเรียนต่อจึงสำคัญกว่า ถึงแม้ตอนนี้จะมีที่เรียนในมหาลัยแล้ว แต่ยังไงก็ต้องรักษาเกรดเฉลี่ยของเขาให้ดีอยู่ดี

     



     

    "ย๊าห์!!!โอเซฮุน!!!ฉันบอกไม่ให้นายมาไง!นายยังไม่หายดีเลยนะ!"

    เสียงโหวกเหวกโวยวายจากด้านหน้าโรงเรียนทำให้หลายๆคนหันไปให้ความสนใจ

    ร่างสูงผิวขาวซีดที่ถูกเพื่อนๆในกลุ่มพยายามฉุดรั้งไว้ไม่ให้ลากสัมภาระเข้ามาบริเวณนักเรียนที่กำลังจะไปเข้าค่าย แต่ร่างสูงก็ทำแค่พยายามเดินผ่านเข้ามาอยู่ดี

    โอเซฮุนกำลังพยายามเดินแหวกเข้ามาทั้งๆที่ซิ่วหมินและจื่อเทาทั้งดึงทั้งคว้าไว้

    "ถ้าเซฮุนอยากไปก็ให้ไปสิซิ่วหมิน...ปล่อยเขาเถอะ เดี๋ยวเขาก็ช้ำกว่าเก่านะ"

    รุ่นพี่เกรด12อย่างลู่ฮานให้ความเห็น ทั้งๆที่คำพูดเหมือนเป็นห่วงเซฮุน แต่เจ้าตัวคงไม่รู้เลยว่าสีหน้าและท่าทาง มือที่พยายามจับข้อมือซิ่วหมินอย่างเบามือ ลู่ฮานห่วงซิ่วหมินไม่ใช่เซฮุน...


    "ยุ่ง!"คำพูดสั้นๆแต่กลับทำคนได้ยินรู้สึกเจ็บแปลบ

    ถึงตอนนี้...ทุกอย่างเฮงซวยๆที่เกิดขึ้นวันนั้น ยังไม่มีอะไรดีขึ้นสักอย่าง!

     

     

    "หืม...เซฮุนฟื้นตัวไวจังเน้อะ..."เสียงใสๆข้างๆใบหูทำให้ซูโฮสะดุ้งหลุดจากความสนใจในคนกลุ่มนั้นแล้วหันมาหาคยองซูที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง

    "อ่ะ...อื้ม"ซูโฮเงอะๆงะๆแล้วทำเป็นหันกลับไปจะยกของ แต่หลังรถกลับว่างเปล่า...

    "พวกนั้นยกกันไปหมดแล้วหล่ะ..."

    "อ๋อ"

    "ถ้าซูโฮเป็นห่วงเซฮุนซะขนาดนั้น ไม่ไปแนะนำตัวหน่อยหล่ะ..."

    คำพูดคยองซูทำให้ซูโฮนิ่ง ทำไม...ตัวซูโฮเองยังไม่เคยคิดจะทำเลยนะ ถ้าเป็นแบบนั้นคงเป็น'การเริ่มต้นใหม่'สินะ... แต่ไม่หรอก...ซูโฮคนนี้ขี้ขลาดจะตาย เขากลัวการเริ่มต้นใหม่ที่สุด

    "อ้ะ!ไม่พูดแล้ว ดูเหมือนทางโน้นจะเรียกแล้วนะ!"คยองซูเปลี่ยนเรื่องพูดแล้วลากแขนซูโฮให้เดินตามไป

     

     

    "รุ่นพี่ซูโฮครับ!นี่รายชื่อนักเรียนห้อง5ซีครับ!ทั้งหมดมาครบแล้วครับ!"

    "พี่ประธานนักเรียนครับ...รถคันของผมยังมีที่เหลือนะ ถ้าห้องไหนนั่งไม่พอให้ไปนั่นเลยนะครับ!"

    "ประธาน~ สัมภาระจัดเรียบร้อยแล้ว~"

    "อ่า...ซูโฮยา ครูขอบใจนะที่ช่วยจัดทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ไปหาที่นั่งได้แล้ว เราจะเดินทางกันแล้ว~"

     

     

    ต้องบอกว่าเหนื่อยจริงๆกับการจัดเด็กดื้อพวกนี้ให้เข้าที่เข้าทาง ตกลงเขาเป็นประธานนักเรียนหรือกรรมกรกันครับ? ต้องไปยกของ(ครู) ไปแหกปากตะโกน(แบคฮยอนทำ)บอกให้เด็กๆขึ้นรถ!ให้ตายเถอะ เหนื่อยครับ!!!

     

    พวกเขา5คนลากสังขารไปยังรถบัสที่จอดสตาร์ทเตรียมออกเดินทาง

    "ขอโทษฮะฮยอง~ ว่างแค่4ที่เอง"

    ซูโฮยืนตาปริบๆ ทำไมพระเจ้ากลั่นแกล้งกันแบบนี้ 4คน!นั่นมันแสดงว่า2คู่สิครับ~ แล้วผมก็เป็นส่วนเกิน!!!

    ซูโฮพยักหน้าให้ไอ4คนขึ้นไปนั่น แต่ดูท่าพวกมันจะอาลัยอาวรณ์เขาเหลือเกิน ที่ซูโฮทำได้ก็แค่ยิ้มให้4คนนั้น

    เขาค่อยๆเดินไปหารถอีกคันหนึ่งที่ดูน่าจะมีที่ว่างให้นั่ง



    "เอ่อ...มีที่ว่างสักที่ไหมอ่ะครับ?"ซูโฮเอียงหัวถามรุ่นน้องที่โหนตัวกับประตูท้ายรถอยู่

    "อ๋อ~ ว่างๆฮะ พี่ชายขึ้นมานั่งสิ"

    ถึงท่าทางจะกวนสักหน่อยแต่ว่านิสัยก็พอใช้ได้เลย ซูโฮยิ้มให้อีกรอบก่อนที่จะเดินขึ้นไปภายในคันรถ



     

    "...!!!"

    ทำไมโชคต้องทำร้ายซูโฮขนาดนี้ด้วย!!!!

    บอกทีว่าที่นั่งอยู่ด้านหน้านั่นเซฮุน!!!

    แล้วซิ่วหมินที่นั่งคู่กับจื่อเทา ลู่ฮานนั่งคู่กับเลย์ด้านหลังซิ่วหมิน และคริสนั่งคนเดียว...



    เดี๋ยวนะ!

    "ทำไมเฉินยังไม่มาหล่ะ!?"ยังไม่ทันที่ความคิดซูโฮจะนึก ซิ่วหมินก็ตะโกนโหวกเหวกเสียก่อน...

    เจ้าตัวลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วหันหน้ากลับมามองที่ประตู

    "...รุ่นพี่ประธานนักเรียน!"

    ซิ่วหมินตะโกนหลังจากเจอซูโฮแทนเฉิน เขาควักมือเรียกคนตัวขาวอย่างร่าเริง ...ก็แค่การกระทำไม่ใช่ภายในความรู้สึก

    "อ้าว!ฮยอง!มานั่งนี่สิ  ว่างพอดีเลย~"จื่อเทาเป็นอีกคนที่เรียกเขา

    แต่ซูโฮกลับยืนนิ่ง... ที่นั่งข้างๆคริสก็มีนี่นา...เขาไม่อยากนั่งกับเซฮุน

    ซูโฮเดินเข้าไปใกล้ๆคริสแล้วก้มตัวจะถามว่าที่มันว่างใช่ไหม

    "ไม่ให้นั่ง..."

    แต่ยังไม่ทันปริปากถาม คริสก็พูดตอบทั้งๆที่ยังไม่หันหน้ามามองเขาสักนิด

    อะไรกัน!!!ทำไมนิสัยเสียแบบนี้!ที่ก็ว่าง!!!ฮึ่ย!

     


    ซิ่วหมินหวังจะเดินมาลากตัวคนตัวขาวที่ยืนงงๆอยู่เพื่อลากให้มานั่งกับเพื่อนตัวเองข้างหน้า แต่ร่างบางของคนหน้าหวานอย่างลู่ฮานก็มายืนขวางไว้

    "ถอย!"

    "ไม่!"

    "ผมบอกให้ถอย!!!"

    "ไม่มีทาง!"

    "เอ่อ...ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว ฉันมานั่งแล้ว..."ซูโฮใช้มือแยกสองคนที่กำลังยืนจ้องหน้ากันอย่างดุเดือด ...จริงๆเรื่องของเขามันไม่น่าจะใช่เรื่องที่จะเอามาทะเลาะกันสักหน่อย แล้วทำไมสองคนนี้ดูจริงจังขนาดนี้.... ทั้งๆที่ตอนแรกๆ รักกันจะตาย

     


    ปึก

    ซิ่วหมินพลั่กลู่ฮานออกแล้วเอื้อมมือไปดึงตัวซูโฮให้มานั่นข้างหน้าเขา...กับเซฮุน

    พระเจ้าทรงกลั่นแกล้งลูก!!!

     

    ".
    .."

    ซูโฮแทบไม่ปริปากพูดด้วยซ้ำ ไม่ใช่ไม่มีอะไรจะพูด ...แต่เพราะคนข้างๆเอาหูฟังยัดหูแล้วเปิดเสียงดังจนออกมาข้างนอก คงไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นหล่ะ หรือไม่...ก็คงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนมานั่งข้างๆ

     

     

    ในขณะที่รถบัสกำลังแล่นออก ใครบางคนที่เพิ่งมาก็กระโจนตัวขึ้นรถมาอย่างหวุดหวิด สร้างความตกใจให้คนในรถอย่างมาก...

    ไม่ใช่หน้าตาของคนที่กระโจนขึ้นรถมา แต่เป็นกลิ่นบุหรี่ที่ปนกับกลิ่นเหล้าจนคนได้กลิ่นแทบสะอิดสะเอียน

    เฉิน...

    สภาพแบบนี้ยังจะมา?

    ซูโฮหันไปมองเฉินที่สะพายกระเป๋าสีหม่นไว้ที่บ่า ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาข้างหน้าเพื่อหาที่ว่างให้ตัวเองนั่ง

    เฉินหยุดฝีเท้าที่ที่ว่างข้างๆคริส แล้วมองเพื่อนตัวเองด้วยสีหน้าและแววตาที่ว่างเปล่า ไร้ความรู้สึก  ทั้งสองคนมองหน้ากันแบบอธิบายไม่ถูกว่าคิดอะไรอยู่ ไม่มีใครปริปากพูดก่อน และเฉินเองก็ยังไม่นั่งลงด้วย

     


    "...มาทำไม?"

    คริสกลายเป็นคนเปิดปากพูดก่อน แต่ช่างเป็นการใช้คำพูดถามเชิงไล่ซะมากกว่า...

    "ไม่ใช่ธุระของแก..."เฉินตอบแล้วถือวิสาสะนั่งลงตรงที่ว่างโดยไม่ถามคริสเลยสักนิด จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อคลุมตัวยาวออกแล้วเอามันพาดไว้ที่หน้าขา กลิ่นบุหรี่กับเหล้าจางลงอย่างสังเกตได้ชัด อืม...มันคงมาจากเสื้อตัวนั้นสินะ

    ซูโฮยังคงเอียงหัวมองดูคนกลุ่มข้างหลังอยู่ในท่านั่งที่เอี้ยวตัวหัน

    ทำไมคริสกับเฉินทำหน้าอย่างกับทะเลาะกันเลย?

    ซิ่วหมินก็เอาแต่มองเหตุการณ์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้?

    ลู่ฮานก้มหน้าหงุด เหมือนไม่อยากจะฟัง?

    พวกนั้นทะเลาะอะไรกันนะ?

     

     

    "นี่...จะอยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นอีกนานไหม?"

    "!!!"ใครแม่งพูดได้กวนส้นเท้าแบบนี้กับซูโฮวะครับ!!?

    พอหันควับมา ก็พบกับโอเซฮุนที่มองเขาหัวจรดเท้า(หยาบคาย!!!!)ด้วยสายตาที่ถามว่ามาจากไหนวะครับ?

    "ขอโทษนะครับ...ถ้าคุณสังเกตบ้างอะไรบ้างหรือไม่ก็เอาไอหูฟังนั่นออก คุณก็จะรู้เองหล่ะครับว่าผมมาตั้งนานแล้ว!"พูดแล้วอยากตบปากตัวเองจังเลย!!!ปากมันเร็วกว่าความคิดแบบนี้ได้ไงเนี่ยซูโฮ!!!เขาไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้~

    "นี่ขอโทษนะพี่โอโม่!พูดกวนโมโหผมจังเลย!"

    "..."อะไรนะ!!!เรียกเขาว่าโอโม่ได้ไง!คนนะไม่ใช่ผงซักฟอก!!!

    "อีกอย่างนะพี่โอโม่!ตรงนี้มันที่นั่งของผม ถ้าพี่จะนั่งก็ควรให้ผมอณุญาติก่อนหน่ะ!"

    "..."ไอ้...ไอ้เด็กปากร้าย!!!

    "อ้อ...แต่ช่างเถอะ!ก็พี่นั่งมันแล้วนี่ ต่อไปพี่ก็ควรทำตามที่ผมบอกด้วย!"

     


    "...รู้งี้ไม่น่าฟื้นมาเลย"ซูโฮไม่เถียง เขาหันหนีหนีไปอีกทาง แล้วบ่นงึมงำคนเดียว

    ทั้งคำพูด ทั้งคำเรียกแทนตัวเขาของเซฮุน ดูต่างจากตอนที่เซฮุนยังเป็นวิญญาณตั้งเยอะ...

    นั่นสินะ...ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

    ซูโฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่รู้เขาจะย้ำตัวเองทำไม...

    ส่วนเซฮุน เขายู่ปากอย่างขัดใจ!หนอย...คนอะไร ขนาดโดยจิกโดนกัดซะขนาดนั้นกลับไม่เถียงสักคำ แล้วยังทำท่าเหนื่อยอ่อนแบบนั้น

    เขาแอบเหลือบมองคนตัวขาวที่นั่งเว้นระยะห่างจนจะตกขอบที่นั่ง สีหน้าเหนื่อยๆแต่แววตาก็ยังคงสดใส

    ทำไมผู้ชายคนนี้ดูราวกับแสงสว่างในความมืดจัง(ก็เขาขาวขนาดนั้นนี่อิเน่...)

    เมื่อรู้ว่ามองคนข้างๆนานเกินไป เซฮุนก็สะบัดๆหัวไล่ความคิดออก ก่อนที่จะหันกลับไปมองนอกหน้าต่างเหมือนเดิม

     


    เอี๊ยด!!!

    ปึก!โคลม!

    "0_0"โอเซฮุนถลึงตาหันกลับมามองคนตัวขาวที่ถลาลงไปกองกับพื้นรถอย่างเรียบร้อยด้วยตาที่โตจะเป็นไข่ห่าน...

    เขารีบลุกขึ้นไปเพื่อจะไปช่วยคนตัวเล็กให้ลุกขึ้น

    แต่ว่า...

    หมับ!

    "พี่ซูโฮทำไมซุ่มซ่ามจังเลยครับเนี่ย..."

    เจ้าของแก้มกลมๆก็มาตัดหน้าพยุงซูโฮเสียก่อน ซิ่วหมินดูท่าจะอยากสนิทสนมกับพี่โอโม่นี่เกินไปไหม?...

    เซฮุนกลับหันไปหาคนขับแทน

    "ขอโทษนะครับคุณน้า...พวกผมก็จ่ายเงินดี แล้วทำไมขับห่วยแตกแบบนี้หล่ะ!!!"

     

    แบบนี้จะเรียกว่าพาลได้หรือเปล่า?

    แต่คำพูดนั่นดูอารมณ์เสียมากๆ คนขับรถก็พลอยกลัวขนพองสยองกล้าไปด้วย คนขับรถได้แต่โขโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่เซฮุนก็ดูไม่สนใจเอาเสียเลย

    "นั่งริมไปเลยไป..."เขาหันมาพูดกับซูโฮที่จะหย่อนตัวนั่งด้านนอกอย่างไม่พอใจ แต่ซูโฮก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาขยับไปนั่งแทนที่เซฮุนอย่างเชื่อฟัง

    เซฮุนไม่เข้าใจตัวเองจริงๆว่าทำไมเขาต้องอารมณ์เสียกับคนที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อด้วย

     


    อืม...แต่เมื่อกี้ซิ่วหมินเรียกพี่โอโม่คนนี้ว่าซูโฮ ...ชื่อซูโฮงั้นหรอ

    เซฮุนจับบ่าซิ่วหมินที่ยังยืนถามอาการซูโฮเบาๆ ก่อนที่ซิ่วหมินจะหันหน้ามามองเซฮุน

     

    "นายดูท่าเป็นห่วงพี่คนนี้จังเลยนะ...ฉันว่านายควรไปสนใจลู่ฮานที่กำลังหึงนายจนเลือดขึ้นหน้าดีกว่า..."

    ซิ่วหมินกลืนน้ำลายอึกใหญ่...ไม่ใช่เพราะที่ลู่ฮานกำลังหึง แต่เพราะคำพูดของเซฮุน ที่อย่างกับรู้ว่าเขากับลู่ฮานมีบางอย่างที่ปิดบังไว้อยู่ต่างหาก...

    ซิ่วหมินรีบก้มหน้าหงุดแล้วเดินไปนั่งที่นั่งตัวเองทันที เขาหนักใจเพราะเรื่องนี้มาเป็นอาทิตย์กำลังหาทางหาวิธีบอกเซฮุน แต่...ก็ถูกขัดจังหวะทุกครั้ง

    ถ้าเลือกได้ซิ่วหมินจะไม่ทำให้เพื่อนเสียใจ

    แต่ในเมื่อซิ่วหมินรักลู่ฮานมากขนาดนั้นมันช่วยไม่ได้เลยที่จะเลิกรักลู่ฮาน ต่อให้ถูกทำร้ายมากแค่ไหน...ความรู้สึกมันก็ยิ่งแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม

     

    รักมาก...แต่ก็เกลียดมาก

     

     

    เซฮุนนั่งลงสงบสติอารมณ์อย่างเงียบๆ เขามองเส้นผมสีแดงที่น่ายีเล่นนั่นอย่างเหม่อลอย...

    ให้ตายเถอะ!ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงทำให้โอเซฮุนปั่นป่วนได้ขนาดนี้...

    ตกลง...เซฮุนเคยรู้จักผู้ชายตัวขาวนี่มาก่อนหรือเปล่านะ!?

     

    เซฮุนไม่ชอบเลยกับความรู้สึกที่ไม่เข้าใจแบบนี้!

    ให้ตายเถอะเขายังไม่เข้าใจตัวเองเลย...แล้วคนอื่นจะมาเข้าใจเขาได้ไง!!!

     

     

     


    :)  Shalunla 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×