ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Exo ] Trust

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 : ตัดออกที่ละช้อยส์

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 56





    Chapter 11  : ตัดออกที่ละช้อยส์

     

    "ฟู่~คุณตำรวจฮะ~มีบุหรี่ให้ผมม้า~"

    "..."

    "เฮ้~ผมจะขาดใจตายแล้วน้ะถ้าไม่ได้ดูดอ้ะ~"

    "..."

    "...ย๊าห์!!!โทรศัพท์ผมดัง~ รับให้ที~"

    จงแดยืนเกาะลูกกรงเหล็กสีดำในโรงพักของเขตอยู่อย่างเซ็งๆ

    ให้ตายเถอะ!คนก็อุตส่าห์รับไปแล้วว่าทำ แล้วไหงแม่งยังจะรอคำสั่งศาลอะไรอีกไม่รู้ เฮ้อ~

    "ไม่ต้องมาพูดมาก!!!ฉันขอแนะให้แกเก็บเสียงแหลมๆก่อนจะโดนอีกข้อหา!"

    'ไอ้ลูกจ๊อกเอ้ย!!!คิดว่ากูจะกลัวมึงหรอ?!'

    เฉินเบ้ปากแล้วส่ายหัวก่อนที่จะเอาเท้าเตะๆไปที่ลูกกรงอย่างไม่สบอารมณ์

    ไอ้หมวดเฮนรี่ก็หายหัวไปไหนไม่รู้ แม่งรายงานให้ผู้อำนวยการโรงเรียนยังก็ไม่รู้ งานนี้เขาคงไม่ต้องคิดเลยว่าอนาคตจะมีทางสดใส

    ทั้งโดนไล่ออกจากการเป็นนักเรียน ทั้งถูกจับเข้าคุก อ่า...คงไม่มีแล้วหล่ะ อะไรที่สามารถทำได้

     

     

    ฮึ!แลดูเขาไม่มีทางรอดจริงๆ...งั้นหรอ?แน่ใจน่ะน่ะ? : )

     

     

    ครืดๆ

    "เฮอะ!เอาเถอะ ฉันสงสารเด็กตาดำๆ ตอนนี้หมวดเฮ็นรี่กำลังสรุปสำนวน ฉันก็ให้แกรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้..."ไอ้ลูกจ๊อกคนนั้นพูดแล้ว ยื่นโทรศัพท์ของเฉินเข้ามาในห้องขัง

    "ขอบใจ..."

    เฉินพูดแล้วรับมาอย่างไม่ค่อยอยากจะรับเท่าไร มันต้องเล่นตัวบ้างไรบ้าง(?)

     
     

    "ยอโบเซโย อัปป้า"

    "ลูกอยู่เฉยๆ เดี๋ยวพ่อจัดการเอง..."

    "ผมยังไม่ได้พูดไรเลยนา..."

    "ลูกพ่อทั้งคนนะ เฉินเฉิน"

    "ฮึ...คงจะจัดการแบบของพ่อสินะ"

     

    "เสร็จแล้วคร้าบ~ขอบคุณนะครับ คุณตำรวจ~"เฉินพูดแล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้

    ให้ผมอยู่นิ่งๆหรอ?โอเค~

     

     

    หมวดเฮนรี่ที่เพิ่งจัดการเอกสารสรุปสำนวนเสร็จ เขารวบทุกอย่างไว้รวมกองเดียวกัน ก่อนที่บิดข้อไม้ข้อมือสบัดความเมื่อยออกไป

    ที่เหลือก็แค่รายงานกับพ่อของโอเซฮุน เรียกพบครอบครัวของคิมจงแด รายงานให้กรมตำรวจรับทราบ รอคำสั่งศาลตัดสินในตอนสุดท้าย

    แต่...มันง่ายเกินไปไหม?ที่คิมจงแดสารภาพยอมรับออกมาอย่างนั้น แต่...ถ้าดูจากคำสารภาพแล้วหลักฐาน ลายนิ้วมือทุกอย่างชี้ไปที่คิมจงแดชัดๆ

    แต่...ก็ดูเหมือนจงใจไปหรือเปล่า?

     
     

    เฮนรี่หยิบเอกสารสรุปสำนวนขึ้นมาถือแล้วเดินออกจากห้องทำงาน ก่อนที่จะแวะไปที่ห้องขังที่จงแดอยู่

    "เฮ้..."

    "อะไร?"

    "ฉันกำลังจะไปหาพ่อของโอเซฮุน และเรื่องทุกอย่างจะจบสักที"

    "อ่าฮะ...แล้วไง?"

    "เตรียมตัวไว้แล้วกัน..."

    ฮึ...ใครกันที่ต้องเตรียมตัว?มันไม่ใช่คิมจงแดคนนี้หรอกครับ~ผู้หมวดเฮนรี่

     

     

    เฮนรี่เดินเข้ามาภายในลานจอดรถของสถานีตำรวจที่แทบไม่มีคนใช้ เขารู้สึกเหมือนใครกำลังจ้องมองเขาอยู่จึงหยุดฝีเท้าแล้วหันควับกลับไปมองทางที่เขาคิดว่ามีใครอยู่

    แต่ก็พบแต่ความมืด

    เขาส่ายหัวน้อยๆเป็นเชิงไล่ความคิดไร้สาระออก

    'ใครจะกล้ามา?นี่มันสถานีตำรวจนะ...'


     

    เขาไม่คิดอะไรจากนั้นก็ขึ้นไปนั่งในรถก่อนที่จะขับไปยังที่หมาย

    'บ้านของตระกูลโอ...'

     

    ระหว่างทางเขาสังเกตตลอดทางว่าวันนี้แทบไม่ค่อยมีรถวิ่งเลยด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะตอนนี้ก็เกือบจะตี2แล้วหล่ะมั้ง

    "หืม?..."เฮนรี่อุทานออกมาเมื่อสังเกตเห็นรถคันหนึ่งที่ขับตามเขามาสักพัก

    เขาเริ่มรู้สึกว่ามีอะรแปลกๆจึงลองเลี้ยวซ้ายตรงทางแยก...

    รถคันนั้นก็ยังขับตามมา

    อืม...ลองเลี้ยวขวาอีกที

    รถคันนั้นก็ยังขับตามมา

    "คิดจะทำอะไรฉันหรอ?!"เฮนรี่แสยะยิ้มออกมา เมื่อคิดว่าพวกที่ขับตามมานั่นจ้องเล่นงานเขา คิดว่าจะรอดพ้นสายตาฉันหรอไงห้ะ?!

     
     

    เฮนรี่เป็นตำรวจคนหนึ่งที่ค่อนข้างจะมีความรักในกฎหมายรักความยุติธรรม เขาจะเชื่อต่อเทื่อสิ่งนั่นมีหลักฐานพยานมายืนยัน เขาไม่ยอมเอาความรู้สึกมารวมกับงานที่ทำอย่างแน่นอน แต่เพราะอย่างนั้น...เขาก็มีสิทธิ์ทำงานพลาดเช่นกัน

    การแส่ยุ่งเรื่องเล็กๆแล้วทำให้เป็นเรื่องใหญ่หน่ะ หลายๆคนก็ไม่ชอบสักเท่าไรหรอก มันคิดว่าอยากจะแย่งชิงเอาผลงานซะมากกว่า

    หรือไม่มันก็เป็นการสร้างผลงานที่ผิดพลาดจะเป็นได้

     

    เฮนรี่เลี้ยวซ้ายอีกทีแล้วหวังจะจอดรถเพื่อเคลียร์กับไอคนที่ตามมา เขาเลี้ยวแล้วจอดที่ซอกหลืบมุมมืด ก่อนที่จะเอื้อมมือไปแตะกับกระบอกปืนเพื่อป้องกันตัวเอง

    ปึง!

    "..."เฮนรี่เปิดประตูรถออกมาอย่างแรงแล้วชูกระบอกปืนไปด้านหน้าอย่างมั่นคง...


    แต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า...

    หืม?พวกมันหายไปไหน?

    หรือพวกมันไม่ได้ตามมา?

    เฮนรี่หันซ้ายขวามองหาคนพวกนั้น...แต่กลับไม่พบอะไรเลย

    "ไม่ได้ตามหรอ..?"



    ควับ!

    อั่ก!!!

    แกร๊ง!!!!



    แต่พอหันมาอีกที อะไรบางอย่างก็กระทบเข้าที่ข้อมืออย่างจัง ทำให้กระบอกปืนกระเด็นออกไปทันที

    เขาพยายามยันตัวลุกขึ้นแต่ก็ถูกสันเท้าเตะเข้าที่สีข้างเต็มๆ ทำเอาต้องคุกเข่าลงกับพื้น

     

    "กะ...แกเป็นใคร!!!"

    เฮนรี่เลยหน้าขึ้นถาม

    เขาพบกับผู้ชายในชุดสูทสีดำสนิทกว่า10คนที่ยืนล้อมรอบเขา แต่ละคนสีหน้านิ่งเรียบเฉย แต่ใบหน้าก็ไม่ได้ปกปิดด้วยอะไร

    เขารีบมองหาปืนทันทีก่อนที่จะพุ่งตัวเพื่อหยิบปืน



    "อั่ก!!!!"

    ปึดปึด!

    "อ้ากส์!!!!!!!!!"

    มือขาวที่ถูกฝ่าเท้าหนาบดขยี้ทำเอาเสียงร้องโอดครวญดังระงม

    "คิดว่าปืนกระบอกเดียวจะทำอะไรได้วะ!ไอ้ตัวแส่หาเรื่อง!!!"คนที่เหยียบมือเขาพูดแล้วดึงปืนขึ้นมาแก่วง

    "กะ...แก!ไม่เคยมีเรื่องกับฉัน!!!ทำไม!!!"

    "ทำไมหน่ะหรอ..."

    "..."

    "ฉันมาสั่งสอนแกว่าไม่ควรแส่หาเรื่องชาวบ้านถ้าไม่แน่จริง...

    ถ้าจับคนร้ายตัวจริงไม่ได้ ก็อย่าสะเออะจับแพะ

     
     

    ปล่อยจงแดซะ...ถ้าไม่อยากให้ครอบครัวแกเดือดร้อน...

    สรุปสำนวนว่าเป็นอุบัติเหตุถ้าอยากอยู่สบายๆ

    หยุดยุ่งเรื่องของชาวบ้านแล้วดูแลครอบครัวตัวเองให้ดีก่อนเถอะ!"

    "เฮอะ!คิดว่าฉันกลัวคำขู่ของพวกแกหรอไง...ถุ้ย!ต่อให้ฉันตาย ฉันก็จะจับคนร้ายให้ได้!!!"

    "หรอ...งั้นฟังนี่นะ..."

     

     

     

    "..."

    "ฮาโหล?คุณพ่อหรอค่ะ?"

    "..."

    "ป๊าเฮนรี่เมื่อไรจะมารับแอมมีค่ะ?แอมมี่ง่วงแล้วน้ะ~"

    "...!"

    "แอมมี่รออยู่กับคุณน้าคนหล่อนานแล้ว เมื่อไรป๊าจะมารับค้ะ~"



    หมับ!

    ปึก!!!

    "โอ้ะ!!!ยังไม่จำอีกหรอ?"

     

    "ป๊าค่ะ?เสียงใครหรอ...อ้ะ กรี๊ด!!!!!!!"

     
     

    "ม่ายยยยยยยย!!!อย่าทำลูกฉัน!!!"

    "สายไปแล้วหล่ะ!!!"

    ตุ้บ โครม เพล้ง ผลั่วะ!!!

    "อ้ากส์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

     





     

    5วันผ่านไป

    เฮนรี่ในสภาพเนื้อตัวมีแต่รอยแผลทั้งรอยช้ำรอยถูกตีด้วยของแข็ง ที่กระทบไปยังอวัยวะภายใน ทำให้ตอนนี้แทบจะขยับไม่ได้ สายระโยงระยางที่ต่อเข้าไปในตัวของเขาแสดงถึงอาการของเขายังไม่ดี

    แต่เขาก็ยังมีสติมากพอ...

    "ผู้หมวดๆได้ยินผมไหม?"

    "อะ...อื้อ"

    เฮนรี่ค่อยๆปรือตาขึ้นมาอยากลำบาก เขาหันไปมองผู้ช่วยเขา

    "คุณไปเจออะไรมา?มันเป็นพวกไหน?"

    "มะ...มะ ไม่รู้..."

    "พวกของเด็กนั่นหรือเปล่า?"

    "ไม่ใช่!!!"

    "โอเคๆครับ คุณต้องการอะไรไหม?เดี๋ยวผมจะเอาให้?"ผู้ช่วยถามแล้วยืนขึ้น ทำหน้าจริงจัง

    "ช่ะ..ช่วย สรุป สำ ...นวน คดีโอ ...โอเซฮุน ว่า...เป็น อุบัติ...ติเหตุ"

    "หา?ไหนเด็กนั่น?..."ผู้ช่วยกำลังจะถามต่อ แต่มือที่ไร้เรี่ยวแรงนั่นก็ยกขึ้นเบาๆ

    "ยกฟ้อ...ง ศาล จงแด...ไม่ได้ทำ..."

    "ห๊า?!!!!"

     

     
     

     

    แกร๊ง....แอ๊ด~

    "ฟู่~ ในที่สุด ฉันก็ได้ออกจากลูกกรงแล้วเว้ย~ ฮิ้วๆ~"

    เฉินวิ่งกระโดดเถลอถลาออกมาหลังจากอยู่ๆ คดีก็พลิกจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ

    ภายใน...5วัน

    เขาเดินวนไปซ้ายขวาแสดงถึงอารมณ์ดีสุดๆ

    ผิดกับสภาพของตัวเอง...

    เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปื้อนรอยดำสกปรก ผมที่ยุ่งชี้ กางเกงขายาวที่มอมแมม


    สภาพดูไม่ได้สุดๆ...


    เขายังคงวิ่งถลาออกมายังหน้าสถานีตำรวจที่เต็มไปด้วยคนค่อนข้างเยอะ

    เอ๋?วันนี้มันวันอังคารนี่นา...ทำไมคนยังเยอะงี้เนี๊ย!

    เขาหยุดยืนเอียงหัว แล้วมองหาทางที่จะแทรกตัวออกจากสถานีตำรวจนี่

     
     

    เอ้า!อึ๊บ!!!

    ในที่สุดเขาก็เบียดตัวออกมาได้สักที!!!

    เขายังคงเดินด้วยอารมณ์ดีสุดๆค่อยๆกระโดดลงบันไดไปทีละ2ขั้น

    ปึก!

    "อั๊ยช์!!!สวัสดีอิสระภาพ~"เขายืนที่หน้าสถานีตำรวจแล้วกางมือออกก่อนที่จะทำท่ากอดลมอากาศ...เยี่ยงคนบ้า-_-!



    "เฉิน!!!"

    หมับ!!!

    0_0?!แต่ขณะที่กำลังจะกอดตัวเอง เขาก็ถูกใครสักคนกระชากคอไปกอดเสียก่อน

    กลิ่นหอมๆที่ผมกับอ้อมกอดแน่นๆ...

    ผมโทนสีน้ำตาล...

    เฉินจำได้!

    "เลย์!"เฉินจับที่แขนของเลย์ที่กอดเขาแน่นให้คลายออก

    "ย๊าห์!!!ไม่ต้องเลย!!!นายมันคิดอะไรอยู่ห้ะ!!!นายไม่ได้ทำแล้วไปรับแบบส่งๆๆได้ไง!!!!"เลย์โวยวายกลับไปอย่างรวดเร็วแล้วกำมือทุบๆไปที่หัวเฉินเบาๆ

    "แกนี่มันแส่หาเรื่องจริงๆ!!!!ย้ากส์!!!"

    "โอ้ย~"

    คริสที่ไม่รู้มาจากไหนเริ่มด้วยการประทุษร้ายคนตัวเตี้ยอย่างจริงจัง ทั้งกระชากคอเสื้อ ทั้งเขย่าตัวแทบปลิว ทั้งล็อคคอ

    "นายนี่มันพระเอกจริงๆเลย..."

    เสียงที่มาขัดจังหว่ะทำให้คริสหยุดกระชากคอเสื้อเฉินแล้วหันกลับไปมอง

    ลู่ฮานยืนเท้าเอวอยู่อย่างโกรธๆ...

    "นายรู้ไหม!เพื่อนมันเดือดร้อนไม่ได้หลับไม่ได้นอน มาขอตำรวจเพื่อจะเข้าไปหาแก...แต่กลับไม่มีปัญญาทำอะไร"

    "..."

    "มันเจ็บนะโว้ย!!!"ลู่ฮานตะโกนลั่นแล้วเอามือกุมหน้า

    "ลู่ฮาน...อย่าร้องไห้สิ"ซิ่วหมินพยายามจะเอื้อมมือไปแตะตัวที่สั่นเทา แต่เจ้าของร่างกลับสะบัดหนี

    "โอ๋เอ๋~มาม้ะ...มากอดฉันให้หายคิดถึงเถอะ ทุกคนเลย!!!"เฉินพูดแล้วอ้าแขนกว้างพร้อมด้วยรอยยิ้ม

    "ถ้าหายใจไม่ออกอย่ามาว่ากันนะไอเตี้ย!!!"

    หมับ!หมับ!หมับ!หมับ!หมับ!หมับ!

     
     

    บางที...ผมอาจจะคิดผิดที่ให้พวกมันกอด!!!

    อ้ากส์!!!ผมจะขาดอากาศตายแล้วครับ~

     
     

     

    เฉินยืนโบกไม้โบกมือไล่ไอ้พวกตัวแสบให้กลับบ้านไปนอนได้แล้วอยู่นาน กว่าแต่ละคนจะแยกย้ายกันไปจริงๆ

    คราวนี้เขาก็ไล่คริสให้กลับไปก่อนอีกแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าจะกลับบ้านสักวันสองวัน

    แต่น่าแปลก...ทำไมไม่เห็นจะมีใครเคยเห็นพ่อแม่ของเฉินชัดๆสักที นี่ก็ลูกตัวเองถูกจับเข้าคุกแท้ๆ...ไม่เห็นจะมีวี่แววของคนที่ชื่อว่า'พ่อแม่'มาสนใจหรือมาวุ่นวายในโรงพักสักนิด

     



     

    เอี๊ยด~

    รถลีมูซีนคันสีดำที่ติดกระจกทึบสีดำมาจอดด้านหน้าเฉินที่ยืนเกาหัวอยู่ ประตูด้านคนขับถูกเปิดออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชายสวมสูทสีดำจะรีบเดินอ้อมมาเปิดประตูด้านหลังออกแล้วผายมือเชิญให้เข้าไปอย่างยำเกรง

    เฉินเลิกคิ้วนิดหน่อยแล้วก้มตัวเข้าไปนั่งด้านในอย่างสบายๆ

    พอเข้าไปแล้ว สิ่งแรกที่เขาทำคือล้วงบุหรี่ขึ้นมาสูบ...



    "เป็นไงบ้างลูก...ลำบากสิท่า..."คนที่นั่งชิดขวาพูดขึ้นหลังจากรถเริ่มขับอีกครั้ง

    เฉินโยนกระเป๋าวางไว้ที่เท้าก่อนที่จะยกขาขึ้นพาดไปยังที่นั่งข้างหน้าแทน

    "สกปรกชะมัดนะฮะ..."เฉินบ่นให้ผู้เป็นพ่อฟัง เขาจับไปที่เสื้อตัวเองแล้วปัดๆมันอย่างรังเกียจ

    "แม่เขาเป็นห่วงลูกจนไม่สบายไปแล้วหน่ะ"พ่อเขาพูดต่อ

    "แล้วทำไมพ่อไม่บอกแม่ให้ไม่ต้องห่วงผมหล่ะ?พ่อนี่...."

    "เดี๋ยวเห็นหน้าลูกเดี๋ยวก็หาย~"

    "ฮะฮะ นานๆพ่อจะอารมณ์ดีนะฮะ?"

    พ่อของเฉินไม่พูดต่อ เขาแค่เอื้อมมือมาลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู ทั้งๆที่อยากกอด...แต่ก็แสดงออกไม่ค่อยจะได้ เขายิ้มให้ลูกชายตัวเองอีกครั้ง


    "โอ้ะ!แล้วพ่อจัดการกับตำรวจนั่นยังไงฮะ?"

    "ส่งไปแค่10คนเอง..."

    "ยังไม่ตาย?"

    "อืม...ลูกขอร้องไม่ให้เอาตายนี่นา"

    "แล้วเด็กหล่ะฮะ?"

    "ปลอดภัย แต่ไม่ไร้รอยข่วน"

    "พ่อคิดว่ามันจะยอมจบจริงหรอ?"

    "จบไม่จบ มันก็เล่นกับโชคชะตาของครอบครัวมันนั่นหล่ะ..."

    "แล้วพ่อเคลียร์หลักฐานทุกอย่างยังฮะ?"

    "หลักฐานในที่เกิดเหตุพ่อซื้อมันคืนมาแล้ว"

    "โอเค...ตัดออกไปช้อยส์หนึ่ง..."

    "ค่าปิดปากกับคำขู่มันก็คงรู้ตัว"

    "โอเค...ตัดออกไปช้อยส์หนึ่ง..."

    "ครอบครัวมันก็คงจะอยู่ไม่สุขหรอก"

    "โอเค...ตัดออกไปช้อยส์หนึ่ง..."

    "สักพักมันคงถูกย้ายไปที่อื่น เพราะหัวหน้ามันรับเงินพ่อไปแล้ว"

    "โอเค...ตัดออกไปช้อยส์หนึ่ง..."

    "แล้วลูกอยากจะได้อะไรอีกไหมหล่ะ..."

    "อืม...แค่ให้คดีมันปิดไปสักทีก็พอ"

    "โอเค พ่อจะทำให้..."

    "ขอบคุณมากนะฮะ~"

    เฉินพูดด้วยความอารมณ์ดี

    อย่างน้อย...คราวนี้ ก็ไม่มีคนตาย

    อื้ม!แค่ให้รู้ว่ากำลังเล่นกับใครก็พอ

    "พ่อถามอย่างหนึ่งสิ..."

    "อ่าฮะ?"

    "ลูกไปยอมรับทั้งๆที่ไม่ได้ทำ ทำไม?"

     

     

    ".....ถ้าพ่อรู้ว่าคนที่ทำเป็นเพื่อนที่เราไว้ใจ

    พ่อก็คงทำแบบผมหล่ะมั้ง"

     


     

    รถจอดสนิทที่บ้านหลังใหญ่ภายในบริเวณที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เงียบสงบ

    สนามหญ้ากว้างที่ถูกใส่ใจดูแลเป็นอย่างดี สวนดอกไม้หลากสีที่ปลูกไว้เป็นวงเล็กๆก็ช่วยให้น่าอยู่ขึ้นบ้าง

    ขาเรียวก้าวออกมาจากรถคันหรูก่อนที่เจ้าตัวจะยืนบิดขีเกียจ พร้อมๆกับสูดอากาศอย่างคิดถึง

    เฉินไม่ได้กลับมา'บ้าน'เกือบปี เพราะมัวแต่ขลุกอยู่ที่หอกับเพื่อนๆจนเคยตัว


    "คิดถึงลูกจังเลย..."

    เสียงหวานดังขึ้น ก่อนที่ผู้หญิงชุดครีมจะเดินออกมาจากประตูบานใหญ่ รอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้าอ่อนกว่าวัยดูมีความสุขมากๆ

    เฉินเดินเข้าไปหาแล้วก้มลงจูบแก้มเนียนเบาๆ เธอเลยจะโอบลูกชายของเธอตอบ

    แต่เฉินกลับยกมือห้ามเสียก่อน

    "ผมสกปรกมากเลย เดี๋ยวไปอาบน้ำแล้วค่อยกอดนะฮะ แม่..."

    เธอยิ้มเป็นคำตอบก่อนที่จะจับมือลูกชายเดินเข้าบ้านไป

    ผู้เป็นพ่อเห็นแล้วก็ยิ้มออกมา ถ้าลูกมาอยู่ด้วยกันก็ดีสิ...

    "นายครับ...แล้วเอาไงต่อครับ เรื่องไอตำรวจนั่น"

    "จ้องมันจนกว่ามันจะปล่อย"

     

     

    มาถึงตอนนี้คงจะสงสัยกันสินะ ว่าครอบครัวของเฉินทำอะไร?

    ครอบครัวใหญ่ที่เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างกว้างขวาง...แต่มักจะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ใต้ดิน อะไรทำนองนั้น จะเรียกว่าเป็น'มาเฟีย'ในจีน หรือ'ยากูซ่า'ในญี่ปุ่นก็คงได้ แต่ว่ามันจะต่างกันก็ตรงที่ครอบครับนี้จะไม่ทำอะไรคนที่ไม่ได้เริ่มทำร้ายพวกเขาก่อน ส่วนใครที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน...ก็คงต้องกำจัดกันไป อาชีพที่ทำก็เป็นการฆ่าคนจากการร้องขอหรือจ้างวาน เล่นหุ้น แล้วก็งานผิดกฎหมาย ค้าของเถื่อน

    แต่'เฉิน'กลับไม่ชอบและไม่อยากให้เรื่องของครอบครัวไปให้ใครรู้ เขาอยากเป็นคนธรรมดาๆที่ดูไม่มีปัญญาทำอะไรจะดีกว่า อยากเจอเพื่อนที่สามารถไว้ใจได้เหมือนชีวิตวัยรุ่นทั่วๆไป

    นั่นคือสาเหตุที่แทบไม่มีใครรู้จักครอบครัวเขาจริงๆจังๆเลย

    แต่ว่าบางทีก็คงต้องใช้อำนาจอิทธิพลเหล่านี้ในการสั่งสอนคนอื่นไปบ้างหล่ะ

     

     

    เพราะยังไงความยุติธรรมก็แพ้อำนาจเงินตราและอำนาจความเป็นใหญ่อยู่วันยังค่ำหล่ะ...

     

     

    :)  Shalunla 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×