คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER EIGHT
[ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER EIGHT
ปาร์คเยอึนมา . . มาหาผม . . มาทำไมวะ ????
ถ้าเธอเข้ามาที่นี่ เธอจะกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่มาเหยียบย่ำอพาร์ตเม้นท์ของผม และยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร ลู่หานคนซื่อก็เปิดประตูให้เธอซะแล้ว
เวรกรรม . .
เยอึนยังอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียน เธอเดินเข้ามาในบ้านของผมพร้อมรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ จริงๆแล้วผมก็เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่าเธอน่ะสวยมาก ซึ่งน่าจะสมเหตุสมผลเพียงพอว่าด้วยเรื่องที่เธอจะเดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ป . . แต่ใช้เส้นพ่อเข้ามาเป็นนางเอกน่ะผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
แต่ผมจะไม่ยุ่ง . .
“เซฮุนน่า ไม่ได้คุยกันที่โรงเรียนเลย” เธอทักผม นั่งแหมะลงบนโซฟาอีกฝั่งหนึ่ง ผมอึ้งกิมกี่ . . ส่วนลู่หานนั้นก็ยืนงงอยู่ไม่ไกล เขาโดนเยอึนปรายตาไปมองด้วย “นายอยู่กับเพื่อนคนนี้เหรอ”
“เขาเป็นผู้จัดการฉันน่ะ” ผมตอบงงๆ . . ถ้าเยอึนรู้ว่าลู่หานเป็นผู้จัดการผมคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะยังไงก็จะได้ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว
“อ๋อ เหรอ” น้ำเสียงของเธอฟังดูต่างจากที่ทักผมครั้งแรกมาก “ทำไมนายไม่โทรมาหาฉันเลยล่ะ ที่ฉันให้เบอร์นายไปน่ะ ถ้ารู้ว่าจะได้ร่วมงานกันนายก็น่าจะโทรมาบ้าง”
เบอร์โทร??? ผมเอ๋อสุดๆ มองไปที่ลู่หานที่ยักไหล่ให้ผมราวกับต้องการบอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
“เอ่อ ฉันคงทำมันหล่นมั้ง” แต่คุ้นๆว่าผมขยำทิ้งตั้งแต่รู้ว่าเธอแจกเบอร์ . . ขอโทษครับ
“พี่แจซอกก็ไม่ยอมให้เบอร์นายกับฉัน ไม่ว่าฉันกับผู้จัดการจะตื๊อแค่ไหน แต่ก็เอาเถอะ ฉันมาหานายถึงห้องก็ได้” เยอึนบอกพร้อมรอยยิ้ม
“เธอรู้ที่อยู่ฉันได้ไงน่ะ” ผมถามอย่างหวาดระแวง
“ไม่เห็นจะยาก แฟนคลับนายเพียบรออยู่ที่ด้านล่าง”
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ . . เลยทำหน้านิ่งใส่เธอ
“หิวน้ำจัง คุณผู้จัดการของโอเซฮุนคะ ขอน้ำหน่อย” เธอหันไปขอน้ำจากลู่หาน ซึ่งลู่หานก็สะดุ้งและก็รีบไปหยิบน้ำให้เธอ . .
ผมมองตามหลังเขาไป . .
“แปลกจริง ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่านายมีผู้จัดการสองคน”
“เธอมาทำอะไรที่นี่” ควรจะเข้าประเด็นหลักได้ตั้งนานแล้ว . . ผมมองดูลู่หานเสิร์ฟน้ำให้เธอ
เยอึนมองลู่หานและก็เงียบ ราวกับว่าเธอไม่อยากให้เขาอยู่ตรงนี้ และเธอต้องการคุยกับผมเป็นการส่วนตัว ลู่หานเหมือนจะรู้ เขาก็เลยเดินหนีไป ผมอ้าปากห้ามเอาไว้แทบไม่ทัน
“นายไม่ควรมีผู้จัดการสองคนนะ” เธอจิบน้ำและก็พูด
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ”
“นายไม่ควรจะอยู่ใกล้ผู้จัดการคนนั้น”
“…” ยัยนี่จะมาออกความเห็นไปเพื่ออะไร ให้ตายสิ . .
“ฉันมาเพื่อเตือนนะ”
“อืม เหรอ ขอบใจนะ งั้นก็ . . เชิญ” ผมเอ่ยปากไล่อย่างมีมารยาท(?)
“เซฮุน” เธอดูอึ้งๆไป
“นี่ก็ดึกมากแล้ว สำหรับคนที่ใกล้เดบิวต์อย่างเธอควรเอาเวลาไปซ้อม ไม่ใช่มาบ้านคนอื่นแบบนี้ เข้าใจมั้ย”
เยอึนอ้าปากค้าง “แต่ว่า . .”
“ลู่หาน ช่วยส่งแขกให้หน่อย” ผมร้องบอกลู่หาน ที่เดินออกมาทันทีที่ผมบอก . .
เยอึนกำแก้วเสียแน่น เธอคงไม่รู้ว่าการคุยกับผมจะลงเอยแบบนี้ และมันต้องลงเอยแบบไหนกันล่ะ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมาทำไม แต่ครั้งนี้ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายละกัน
เยอึนสะบัดตูดเดินหนีออกจากบ้านของผมไป ทิ้งให้ลู่หานปิดประตูตามหลัง เขาดูงงงันเอามากๆ
“นายเสียมารยาทกับเธอนะ” เขารำพึง . . นั่นทำให้ผมหน้าบูด
“ยังไง ฉันต้องทำยังไงกับเธอล่ะ”
“ก็ . .พูดจากับเธอดีๆ”
“ฉันพูดดีแล้ว”
“โอเซฮุน ถ้าฉันเป็นเยอึนป่านนี้ฉันคงต่อยนายไปแล้ว” ลู่หานกอดอกยืนมองผม
โอ้ยยยยยยยยย ต่อยมาเลยจ้า ที่รัก “แต่นายก็ไม่ใช่เยอึน” ผมยังคงหน้าบูดต่อไป
“เธอจะเป็นเพื่อนร่วมงานของนาย นายเสียมารยาทแบบนี้ เวลาทำงานกับเธอมันจะราบรื่นได้ยังไงกันล่ะ”
“เอ๊ะนี่!” ผมเริ่มทนไม่ไหวละนะ “นายต้องการอะไรจากฉันลู่หาน อยากให้ฉันปูพรมแดงต้อนรับเธอเข้ามาในบ้านหรือไง นายก็รู้ว่ามันไม่ใช่ฉัน!”
“ก็…”
“ฉันไปนอนละ” งอน! บอกได้คำเดียวว่าผมงอน! ผมสะบัดตูดเดินเข้าห้องนอนของตัวเอง . . แต่ไม่ปิดประตู (หวังให้เขามาง้อ) ก็จะไม่ให้งอนได้ยังไงล่ะ จะให้พูดจาดีๆกับผู้หญิงที่บุกรุกบ้านคนอื่นกลางดึกเนี่ยนะ และที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นยังทำหน้าทำตาดูถูกคนที่ผมรักอีก . .
เชอะ คงไม่มีวันเข้าใจสินะ
ผมเอาผ้าห่มคลุมโปง กระแทกเท้าตัวเองไปมาอย่างอดกลั้น พลางคิดในใจว่าทำยังไงดีความสัมพันธ์ระหว่างผมกับลู่หานถึงจะคืบหน้า ผมก็ได้แต่แอบมองเขาไปวันๆ แอบดูแลเขาแบบอ้อมๆแบบนี้มันใช้ไม่ได้เอาซะเลย ผมควรจะทำยังไงดี นี่ขนาดเขาอยู่บ้านเดียวกันกับผมนะ ผมยังก้าวหน้าไปได้ไม่ถึงไหน ให้ตายสิ
หรือจริงๆในใจของผมแอบหวั่นกลัว . . กลัวว่าลู่หานจะปฏิเสธผม
ก็แหงสิ! ดูพูดเข้าเรื่องให้พูดจาดีๆกับปาร์คเยอึน . . เขาจะจับคู่เธอกับผมเหรอ ทำไมต้องพูดออกมาถึงขนาดนั้นด้วย??
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย… เคยรักใครมากๆและคิดไปเองจนจะเป็นบ้าป่ะครับ?? นั่นแหละคือสิ่งที่ผมกำลังเป็น!
“โอเซฮุน” เสียงลู่หานนี่ . .
ผมที่อยู่ใต้ผ้าห่มทำตาโต แน่นอนว่าลู่หานไม่เห็น
“มีอะไร” งอนโว้ยงอน . . รู้ซะบ้างว่างอน
“พรุ่งนี้มีถ่ายรายการตอนตีห้า” ท่าทางจะไม่รู้ เพราะตารางงานในวันพรุ่งนี้ของผมคือสิ่งที่ลู่หานพูดให้ผมฟังก่อนนอนทุกคืน
“อืม” ผมรู้อยู่แล้วตอนที่ผมง้อให้เขาอยู่ต่อผมก็ดึงงานนี้มาช่วยเป็นเหตุผล
“ตื่นตีสี่ ตกลงนะ”
“อืม”
“เป็นไรไป นอนแบบนั้นหายใจออกรึไง”
. . งอนอยู่ ง้อสิ
“ช่างเถอะ ฉันไปนอนละ”
และลู่หานก็เดินจากไป . .ทิ้งให้ผมนอนน้ำตาจะไหลอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างใจไม้ไส้ระกำสิ้นดี . .
แต่ลู่หานจะรู้ได้ไงว่าผมงอน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมชอบเขาน่ะ เห้ออออออออออ T_____T
“โอเซฮุน นายอย่าทำตัวเป็นเด็กได้มั้ย”
ลู่หานกลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยน้ำเสียงโวยวาย ให้ตาย เซอร์ไพรส์ที่สุด เขารู้ด้วยว่าผมแปลกไป . . ตอนนี้เขากำลังใช้มือดึงผ้าห่มของผม ส่วนผมก็ดึงมันเอาไว้อย่างไม่ยอมสุดฤทธิ์
“เห้ย วันนี้ยังมีเรื่องไม่พอใช่ป่ะ” ลู่หานพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างแรง “หยุดเล่นเป็นเด็กและทำตัวตามปกติสักที”
แคร์กันหรือยังไง . .แคร์ก็บอกมาเหอะ . .
“โอเซฮุน” วันนี้ทั้งแย่งช็อคโกแลต ทั้งแย่งผ้าห่ม อนาคตสงสัยลูกจะดก . . “เลิก เล่น ได้ แล้ว” ลู่หานรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายแย่งผ้าห่มผมได้และก็โยนทิ้งไป ทิ้งร่างของผมให้นอนอล่างฉ่างอย่างน่าเกลียดเพราะเป็นผู้แพ้ยับเยิน “นายโกรธอะไรฉัน”
“เปล่า” ผมหันหน้าหนี
“ถ้านายไม่พูด พรุ่งนี้ฉันไม่ทำข้าวเช้าให้ทานนะ” ลู่หานงัดท่าไม้ตายออกมา ทำเอาผมอ้าปากค้างลับหลังลู่หาน เขาเริ่มรู้ว่าผมจะไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลยถ้าผมไม่ได้กินข้าว . .
แหม รู้ดีจังนะคนสวย . .
“ฉันแค่ . .”
“นายโกรธเรื่องที่ฉันบอกให้นายพูดดีๆกับเยอึนงั้นเหรอ” สรุปจะให้ผมพูดมั้ยเนี่ย ?? “อย่ามาตลก โอเซฮุน มันเป็นมารยาทพื้นๆที่นายควรรู้”
“มันไม่ใช่แค่นั้น” ผมลุกขึ้นมาเถียง “เขามองนาย .. แบบดูถูก . . ฉันไม่ชอบ”
สารภาพมันตรงๆไปเนี่ยแหละ แม้จะไม่ใช่สารภาพรักก็เหอะ ลู่หานดูอึ้งๆ เขานั่งลงบนเตียงของผมช้าๆ
“นายโกรธแทนฉัน?”
“ใช่” ผมตอบทันที “ฉันโกรธทุกคนที่ดูถูกผู้จัดการฉัน” ที่จริงต้องพูดว่า . . คนที่ผมรัก . .
“นายนี่มัน . .” ลู่หานพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปเลย “นายเป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย บางครั้งนายก็เย็นชาจนน่าขนลุก บางครั้งนายก็เด็กและปัญญาอ่อนจนน่าตกใจ”
นี่ผมควรภูมิใจดีมั้ยเนี่ย ??????
“แต่ก็ขอบใจนะ” ลู่หานตบบ่าของผมเบาๆ “รีบนอนเหอะ เดี๋ยวหน้าจะไม่ใส” เขากำลังจะออกจากห้องของผมไป . . “และก็ขอโทษด้วย เรื่องที่ทำให้นายเป็นข่าว และก็อีกหลายๆเรื่อง”
นายเคยทำผิดที่ไหนกันล่ะ . . “ความผิดไอ้มินจุนต่างหาก”
“ฉันไปนอนละนะ”
จะไปแล้วเหรอ . .ไม่จุ๊บลาราตรีสวัสด์กันบ้างเลยเหรอ T^T
“และถ้านายไม่นอน ฉันจะไม่ทำข้าวเช้าให้กิน”
ผมทิ้งตัวลงไปบนเตียงโดยอัตโนมัติ . .นั่นทำให้ลู่หานถึงกับหลุดขำออกมา ไม่ได้ เรื่องข้าวต้องมาก่อน แถมเป็นกับข้าวฝีมือของลู่หานที่อร่อยเกินเชฟภัตตาคารเป็นอะไรที่ไม่สมควรพลาดแบบสุดๆ . .
ลู่หานปิดประตูให้ผม และที่สำคัญไปกว่านั้นเขาเดินเข้ามาในห้องอีกครั้งเพื่อห่มผ้าห่มให้ผมด้วย
ฟินไปเลยล่ะ . .
“บางครั้งฉันก็รู้สึกว่านายหน้าตาคุ้นๆ..”
เป็นคำพูดทิ้งท้ายก่อนที่เขาจะออกจากห้องไปจริงๆ คำพูดนั้นทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมาและหลับไม่ลงไปอีกนาน . .
ฉันคือคนที่นายขโมยจูบแรกไปไง . .
ตื่นตีสี่อีกแล้วครับพี่น้อง T_T
ตอนนี้กำลังอยู่บนรถที่พี่แจซอกเป็นคนขับ ขอย้ำนะครับว่าพี่แจซอกยังคงเป็นผู้จัดการของผมอยู่ แม้ว่าจะเป็นจอมอู้หรืออะไรก็ตามแต่แต่ถ้าไม่มีพี่เขาก็ไม่มีโอเซฮุน เห้อ เน่าแต่เช้ามืด ผมก็งีบสักพักนะ
ผมเอาหมวกSnapbackมาปิดบังใบหน้าตอนหลับ ถึงตอนนี้ลู่หานจะอยู่ข้างๆแต่ผมก็ง่วงเกินบรรยาย
“พี่แจซอกครับ” ลู่หานเอ่ยขึ้นมา ท่าทางเขาจะคิดว่าผมหลับไปแล้ว
“ว่ายังไง”
“ผมเคยเจอเซฮุนมาก่อนรึเปล่าครับ ตอนที่ผมอยู่ข้างบ้านพี่ ผมรู้สึกว่าผมคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเอามากๆ”
พี่แจซอกหัวเราะก๊าก ส่วนผมถึงกับเกร็งตัวเองอย่างรู้ตัวว่าตอนนี้ผมกำลังจะหลับไม่ลงอีกต่อไป
“มันยังไม่บอกนายเหรอ” พี่แจซอกพูดแบบนี้ยิ่งทำให้ลู่หานอยากรู้เข้าไปใหญ่ ผมกำลังจะเปิดหมวกออกมาและก็ตะโกนด่าว่าอย่าพูดมาก แต่พี่แจซอกก็พูดขึ้นมาซะก่อน “ผลงานชิ้นแรกของโอเซฮุนที่จริงไม่ใช่ละคร แต่เป็นงานโฆษณา ตอนนั้นเป็นโฆษณาที่ดังมาก นายคงคุ้นหน้าคุ้นตาเขามาจากโฆษณาอันนั้นนั่นแหละ”
โห . . ส่งถ้วยรางวัลไปให้เลย ทำไมเก็บความลับได้ดีอย่างนี้ TT
ที่จริงก็ไม่ใช่ความลับหรอก ผมอยากให้ลู่หานเขารู้เองน่ะ
“อ๋อ นั่นสินะครับ” ลู่หานคนซื่อรับคำ ไม่รู้ว่าเขาสงสัยอะไรต่อรึเปล่า เพราะผมต้องแกล้งทำเป็นหลับ
“ทำไมเหรอ นายคิดว่านายเคยเจอโอเซฮุนมาก่อนเหรอ”
ลู่หานเงียบไป ผมแอบเปิดตามองลอดใต้หมวกเพราะอยากรู้ว่าลู่หานจะทำหน้ายังไง . . เขากำลังทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครับ
“ผมคิดว่า . .ผมเคยเจอเขามาก่อน” ลู่หานรำพึง มองออกไปนอกหน้าต่าง “และถ้าเขาเป็นคนนั้นขึ้นมาจริงๆ มันเป็นความทรงจำที่ผมไม่ค่อยอยากจะนึกถึงมันเท่าไหร่ครับ”
เพล้ง . . เสียงฝันสลาย . . นี่ผมมีหน้าตาเหมือนเจ้ากรรมนายเวรของลู่หานมาตั้งแต่ชาติปางไหนกันTT
“ฮ่าๆๆๆ ซะงั้น ทำไมล่ะ”
“ก็มัน . . น่าอาย” ลู่หานก้มหน้างุดและก็เอาเท้าเขี่ยพื้นรถเบาๆ . . ความทรงจำที่น่าอายนั่นจะเป็นความทรงจำเดียวกันกับที่ผมลืมไม่ลงรึเปล่านะ
“อ้อลู่หาน ช่วยปลุกเซฮุนด้วย เขาต้องเตรียมตัวสักหน่อย สถานที่ถ่ายทำเป็นตลาดยามเช้านะ คนค่อนข้างเยอะ”
“ปลุกมาทำไมเหรอครับ”
“ก็ดูมันสิ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงแถมหน้ายังซูบซีดเหมือนคนนอนไม่พอ”
ใช่ไง . . ผมนอนไม่พอเพราะนอนไม่หลับเนื่องจากมีคนมาห่มผ้าให้ . . และคนๆนั้นก็กำลังจะปลุกผมด้วย
โทษฐานที่คิดว่าความทรงจำที่แสนสุขของผมเป็นความทรงจำที่น่าอาย . .ผมควรจะแกล้งเขายังไงดีนะ
“โอเซฮุน ตื่น” ให้ตายเถอะ เถื่อนมากเลยคนสวยของผม เขาเอาเท้าที่เขาเพิ่งใช้เขี่ยพื้นรถตะกี้มาเขี่ยเท้าผม เอื้อมแขนมาสะกิดหน่อยไม่ได้รึไง . .
ผมแกล้งหลับต่อไป
“โอเซฮุน ตื่นเดี๋ยวนี้นะ” คราวนี้เขาใช้นิ้วจิ้มสะกิดที่สีข้าง “อุ๊ยนั่น! มิแรนด้าเคอร์กำลังข้ามถนน!!”
ผมสะดุ้งพรวด หมวกหล่นลงไปกองกับพื้นขณะที่ตัวเองกำลังสอดส่องมองหานางแบบในดวงใจสุดฤทธิ์ “ไหนๆๆๆๆ”
“นายนี่มัน . .” ลู่หานส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
ที่แท้ผมโดนแกล้งหรอกเหรอ . . “รู้ได้ไงว่าฉันชอบมิแรนด้านูน่า?”
“บทสัมภาษณ์ของนายมีให้อ่านเกลื่อนเต็มท้องถนน” ลู่หานพูด หยิบของออกมาจากกระเป๋า “นี่สเปรย์น้ำแร่ ฉีดซะจะได้สดชื่น นี่แวกซ์ เครื่องสำอาง กระจก . .และก็ . .”
“โอ้ย เยอะ ขี้เกียจทำ ทำให้หน่อย” ผมที่เพิ่งถูกหลอกมาหยกๆสะบัดตัวทำท่าจะนอนอีกครั้ง
“ไม่ได้” ลู่หานจับแขนผมไว้ทันที “อย่ามาขี้เกียจ ทำเอง เดี๋ยวนี้เลย”
“ฉันไม่ทำ”
“โอเซฮุน”
“นายเป็นผู้จัดการของฉันนะ” ผมงัดไม้ตายออกมาเพื่อตอกย้ำเขา ซึ่งทำให้เขาชะงักและไม่พูดอะไรต่อ
“ก็ . . ก็ได้” ท่าทางของเขากลัวนิดๆซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขากลัวอะไร
ผมหลับตายื่นหน้าเข้าไปหาเขาด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้ ผมขี้เกียจจริงๆนะครับไม่ได้ต้องการแกล้งลู่หานแต่อย่างใด(?) แต่สมัยที่มีแต่พี่แจซอกไอ้เรื่องพรรค์นี้ผมต้องทำเองคนเดียวทั้งนั้นนั่นแหละเพราะพี่แจซอกเองมือก็ไม่ว่างต้องขับรถ(…และกดเปลี่ยนเพลงวงเกิร์ลกรุ๊ป) พอมีลู่หานแล้วผมก็สบายขึ้น มีความสุขขึ้น ทุกๆวันมีแต่ความแฮปปี้ . .
“ผมของนายคงไม่ต้องทำอะไรมากมั้ง . .” ลู่หานนิ่งไปนานก่อนจะพูด
“แล้วแต่นาย”
“แต่หน้านี่ . .ดูท่าจะไม่ไหว”
หืม ตอนนี้ผมขี้เหร่มากเหรอ “อ๊ากกกกก” สเปรย์น้ำแร่ถูกฉีดเข้าใส่ใบหน้าของผมอย่างจังและอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ตื่นขึ้นมาเลยสินะ ฮ่าๆๆ” ลู่หานแกล้งผม เขาหัวเราะอย่างมีความสุข ผมลืมตาขึ้นมากะจะบ่นเขาสักหน่อย แต่เห็นรอยยิ้มและรอยย่นที่ปลายตาของเขานิดๆนั่นมันทำให้ผมบ่นเขาไม่ลง
โหยคนอะไร มีตรีนกาแล้วยังน่ารักสาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ผมตะลึงพรึงพรืดเมื่อเห็นรอยยิ้มลู่หานใกล้ๆ เผลอจ้องใบหน้านั่นอยู่นาน . .
“มองทำไม . .หลับตาสิ” ลู่หานกำลังจะหยิบบีบีขึ้นมาทาให้ผมแล้ว . .
“ฉันลืมตานายก็ทาได้นี่ ไม่ใช่อายเมคอัพสักหน่อย” ก็คนมันอยากจะจ้องอ่ะ . .
“หลับ ตา” ลู่หานพูดอย่างเน้นในแต่ละพยางค์อย่างชัดเจนซะจนผมขนลุกและก็ไม่กล้าดื้อดึงให้มากความ (อนาคตกลัวเมียเห็นๆ)
ผมจึงหลับตา และลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเพื่อแกล้งเขา นั่นทำให้ผมโดนขวดบีบีเขกเข้าที่กะโหลกเต็มๆ
“ฉันบอกให้นายหลับตา . .”
ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะว่าเขากลัวอะไร . .
สายตาของผมนี่เอง
หรือผมชัดเจนเกินไปจนทำให้เขาเขินกันนะ????
ตลาดยามเช้า . .
ทันทีที่ผมก้าวลงมาจากรถ แฟนคลับรุ่นป้าก็พากันหอบข้าวหอบของมาใส่มือผมกันยกใหญ่ ทั้งๆที่ผมยังไม่ทันได้ปิดประตูรถเลย
ลู่หานรู้หน้าที่วิ่งเข้ามาช่วยกันป้าๆให้ไม่ให้รุมผมมากจนเกินไป
“โอเซฮุน ทานเยอะๆนะลูก ผอมไปรึเปล่า เอาปลาทูที่เข่งของป้าได้ฟรีตลอดชีวิตเลยนะ”
“ป้าหอมแก้มหนูได้มั้ยจ๊ะเซฮุนนี่”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด หล่อมาก จะเป็นลม”
“ขอบคุณนะครับๆ ขอบคุณมากครับ” แฟนคลับรุ่นนี้น่ารักมากจริงๆ พวกเธอดูบริสุทธิ์ใจและดูจะรักผมจากใจจริงมากมายเหลือเกิน ทุกคนดูดีใจที่ผมมาถ่ายรายการแถวนี้มาขอถ่ายรูปกับผมยกใหญ่ ซึ่งผมเองก็ยินดี แหม มาทำงานแบบนี้ก็ต้องการคนรักคนชอบคนให้กำลังใจบ้างแหละ
“นู่นแน่ะ ทีมงานอยู่นู่น ไปได้แล้วเซฮุน” พี่แจซอกมากระซิบบอก ผมจึงได้ฤกษ์เอ่ยลาแฟนคลับเหล่านั้น
“แม้จะมีข่าวออกมาแบบแปลกๆ ก็ยังมีคนชอบนายแฮะ” พี่แจซอกตั้งข้อสังเกต
“พวกเธอคงไม่รู้มากกว่า ผมดีใจจัง ผมรักคนที่เขารักผมแบบนี้มากเลย” น้ำตาจะไหล . . “ว่าแต่ . .คนที่เป็นข่าวกับผมล่ะ? อยู่ไหน” ผมมองซ้ายมองขวาตามหาลู่หาน
“ดูนั่นสิ ฮ่าๆๆ”
ลู่หานอยู่กลางวงล้อมของแฟนคลับรุ่นป้าของผม และกำลังจะโดนรุมราวกับเป็นดาราซะเอง มีป้าจับแก้ม มีป้าจับผม มีป้าจับตามเนื้อตัวของลู่หานด้วย ซึ่งล่หานเองก็ดูงงๆแต่ก็ยอมให้จับโดยดีอย่างเลี่ยงไม่ได้
ป้าครับ!!!!!!!!!!!!!! อย่าจับแบบนั้น ผมอิจฉา!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ลู่หาน อย่าอู้งาน” ผมเดินกลับไปลากลู่หานออกมาจากกลางวง
“ฉันเปล่าอู้นะ”
“ถ้านายเป็นนักแสดงคงฮอตกว่าฉันซะอีก”
“เป็นผู้จัดการก็สนุกดี”
คำพูดนั้นของลู่หานทำให้ผมเผลอมองหน้าเขาอย่างตกตะลึง . . จนในที่สุดพี่แจซอกก็มาเรียกให้รีบไปทำงานอีกครั้ง ผมจึงได้ฤกษ์ทำงานเสียที
งานในวันนี้ก็คือรายการเที่ยวตลาดสดในยามเช้ายาวไปจนถึงตลาดอย่างอื่นในยามบ่าย คล้ายจับไอดอลมาเดินตลาด ผมก็ทำหน้าที่ของผมได้ดีอย่างเคยคือยิ้มและก็ทักทายแม่ค้าในตลาดอย่างรู้งาน และที่สำคัญผมได้เป็นตัวของตัวเองอย่างสุดๆ อะไรที่ผมไม่รู้จักไม่เคยกิน ผมก็จะบอกออกอากาศไปเลยไม่มีเตี๊ยมกับผู้กำกับรายงาน
ลู่หานเดินตามผมและทีมงานตลอดไม่ว่าจะเดินไปทางไหน(พี่แจซอกหายตัวไปอีกแล้วครับ) เขาเดินไปทำงานไป(กันคน)เที่ยวไปอย่างสนุกสนานจนน่าอิจฉา บางครั้งที่ผมอยู่ต่อหน้ากล้อง ผมก็แอบมองลู่หานที่กำลังเคี้ยวไอติมกะทิอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างอิจฉา ไม่ใช่อิจฉาลู่หาน แต่ผมอิจฉาไอติม
ให้ตายเถอะ อยากถูกกินTT
“คุณโอเซฮุนครับ ช่วยเล่าเหตุการณ์ประทับใจประสบการณ์การกินหอยนางรมครั้งแรกหน่อย . .” ผมไม่ได้ยินประโยคนั้นเพราะมัวมองแต่ลู่หาน “คุณโอเซฮุน . .”
“”ครับ ฮะ ว่าไงนะครับ”
“ดูคุณเหม่อลอยบ่อยนะครับเนี่ย คุณกำลังมีความรักรึเปล่าครับ”
ถามได้ตรงประเด็นสุดๆ ผมมองหน้าลู่หานทันที ลู่หานกำลังจ้องมองมาเหมือนกัน ไม่รู้ได้ยินคำพูดพิธีกรรึเปล่า
แต่ด้วยเนื้องาน . . และอนาคตของงานที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า “ยังครับ”
“โหวววววว จะว่าไปคุณโอเซฮุนก็อายุเพิ่งแค่สิบเจ็ดเองเนอะ”
คำพูดนั้นผมไม่ได้ยินอีกแล้ว เพราะตอนนี้ผมเห็นใครคนหนึ่งเดินเข้ามาทักลู่หาน หมอนั่นใส่หมวกปิดหน้าปิดตามิดชิด แต่ดูจากออร่าและก็รูปร่างภายนอก ดูดีระดับพระเอกซีรี่ย์ทีเดียว
ก็นั่นมันไอ้อีวอน . . พระเอกซีรี่ย์ส้มหล่นที่ผมโยนบทพระเอกไปให้มันนั่นไง
ช่างเรื่องพระเอกก่อน มันมาทำอะไรแถวนี้ และมันมาคุยอะไรกับลู่หาน ????
“เรื่องหอยนางรม คุณโอเซฮุนเคยทานมันมาก่อนรึเปล่าครับ . .”
“…” ผมเริ่มได้ยินคำพูดพิธีกรแล้ว แต่สายตาและความคิดกลับโฟกัสไปที่ผู้จัดการของผมและไอ้ขี้หลีของของคนอื่น “เอ่อ เพิ่งเคยได้ทานครั้งแรกเมื่อกี้นี่เองครับ”
“เป็นไงบ้างครับ รสชาติอร่อยดีมั้ย”
“ก็ . .” เมี่ยงเอ๊ยยยย มันชวนคุยไม่พอยังมาจับผมของลู่หานอีกด้วย! ผู้จัดการ! สนใจดาราในความดูแลของตัวเองตรงนี้นิดนึง! มันหึงจะแย่อยู่แล้ว . . “รสชาติขมใช้ได้”
“ขม??”
“ครับ ขมมาก” ผมกัดฟันพูด
“โอ๊ะ นั่น ผมรู้สึกว่าผมจะมีแขกมาเซอร์ไพรส์นะ คุณอีวอน!!!!!!” อีวอนได้ยินเสียงพิธีกรเลยเปิดหมวกออก หน้าตาของมันมาเต็มแถมผมยังเซ็ทเป๊ะ คือมันมาทำงานแน่นอน “แขกเซอร์ไพรส์ในรายการของเราวันนี้ คุณอีวอน!!!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
อืม . . เซอร์ไพรส์มากจริง ดีใจจนอยากจะถีบมันลงคลอง . .
“เมื่อกี้คุยอยู่กับสตาฟฟ์ของคุณโอเซฮุน จนผมนึกว่าคุณเป็นแฟนเขานะเนี่ย เนียนจริงๆ”
พิธีกรพล่ามไปเรื่อย . . ไอ้พิธีกร . . พูดผิดพูดใหม่ได้ให้โอกาสแก้ตัว
“เหรอครับ ฮ่าๆๆ สตาฟฟ์คนนั้นเป็นผู้ชายนะครับ ผมจะเป็นแฟนเขาได้ไง . . แต่ถ้าเป็นคุณโอเซฮุน อาจจะไม่แน่ จริงมั้ย” อีวอนหันมาถามพร้อมรอยยิ้ม นั่นทำให้ผมหน้าชา ข่าวที่เพิ่งแก้ออกไปจะกลับกลายเป็นประเด็นอีกครั้งเพราะคำพูดนี้ของอีวอน
แกล้งเหรอ . . สงสัยจะอยากตาย “ก็ไม่รู้สิครับ”
“เอ่อ แหะๆ เรากำลังชิมหอยนางรมอยู่ คุณอีวอนลองชิมดูสิครับ”
จากที่ทำงานอย่างมีความสุข หลังจากนั้นงานก็กร่อยทันที . .
ในช่วงพักผมเลยลากลู่หานออกไปไกลๆไอ้อีวอนโดยถือกล่องข้าวมาสองกล่องเพื่อที่จะไปกินที่อื่น ที่ๆไม่มีอีวอน
“ลากมาตั้งไกล เดี๋ยวทีมงานเขาก็คิดว่านายหนีงาน” ลู่หานบ่นอุบ
“ทำไม หรือนายอยากกินกับไอ้อีวอน”
“อะไรอีกล่ะ . .ทำไมชอบหาเรื่องอยู่เรื่อย”
“ฉันไม่ได้หาเรื่อง” ผมนั่งลงบนพื้นหญ้าและก็ตบพื้นข้างๆให้ลู่หานนั่งตาม ซึ่งเขาก็นั่ง . .
“อย่ามาทำตัวเป็นเด็กหน่อยเลยน่า เอาข้าวฉันมา หิวจะแย่”
ผมยังคงหน้าบึ้งตึงอยู่
“เกิดอะไรขึ้น โอเซฮุนในวันนี้ไม่อยากกินข้าวจริงๆน่ะเหรอ”
“…”
“เฮ้ นายเป็นอะไรของนายน่ะ”
“เปล่าสักหน่อย” ผมส่งข้าวกล่องของลู่หานให้เขา “ฉันก็แค่ . .โว้ยยยยยยยย!” ผมโวยวาย
งับ . .
ลู่หานจับเอาข้าวยัดปากผม
“พูดมาก”
เขาบ่น และเขาก็ตักข้าวยัดปากของผมอีกคำ . .
นี่ผมกับเขามาปิกนิกกันรึไงเนี่ย . . (ลืมความโกรธไปซะงั้น)
แชะ แชะ แชะ
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นที่พุ่มไม้ ทันทีที่ผมรู้ตัว ผมก็หากล้องนั้นเจอทันที มันแอบอยู่ที่พุ่มไม้และก็กำลังถ่ายรูป . . บอกเลยว่าคงเห็นใบหน้าของลู่หานเต็มๆ
นั่นเป็นเรื่องที่ผมยอมไม่ได้
“จะไปไหนน่ะ โอเซฮุน”
ผมไม่ทันได้ตอบลู่หาน เพราะผมมัวแต่วิ่งตามไอ้ปาปารัซซี่บ้าคนหนึ่งอยู่อย่างบ้าคลั่ง
มันวิ่งเร็วมาก . .
มันพาผมทะลุตรอกซอกซอยต่างๆจนทำให้ชาวบ้านแตกตื่น แต่ผมไม่คิดอะไรทั้งนั้นนอกจากตามมันให้ทันอย่างเดียวและก็ทำลายรูปที่มันถ่ายซะ ปกติผมโดนอะไรแบบนี้บ่อยแต่ไม่มีตอนไหนที่ผมอยากจะตั๊นหน้าให้ปาปารัซซี่มากเท่าครั้งนี้
ผมน่ะเสียหายได้นะ แต่ลู่หานเนี่ยสิ . .
พอวิ่งไปได้สักพัก . . ไอ้ปาปารัซซี่มันก็โผล่หน้ามายืนประจันหน้ากับผม ผมหักนิ้วเตรียมต่อสู้เพื่อแย่งกล้องเต็มที่แต่ไม่นานนัก . . พรรคพวกของมันก็มา พวกมันมีกล้องกันทุกคนและก็เริ่มแชะๆมาที่ผมแล้ว
เล่นเป็นกองทัพเลยเรอะ!
“เซฮุน ทางนี้” ลู่หานตะโกนเรียกที่ซอยหนึ่ง ผมเลยต้องไปหาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนแรกจะวิ่งไล่มันกลับกลายเป็นผมที่โดนไล่แทน เป็นอะไรที่อัปยศสุดๆ “วิ่งหนีก่อนเหอะ”
ลู่หานจับข้อมือผมและก็พาวิ่ง . . ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ่มคลับคล้ายคลับคลาว่าฝนจะใกล้ตกเต็มที ป่านนี้ผมไม่รู้ว่าทีมงานจะว่ายังไงบ้าง เพราะผมกำลังอยู่ในสถานที่ที่ห่างออกมาจากตลาดสดยามเช้าอย่างมากมาย
“จะจับมันได้อยู่แล้ว” ผมอดบ่นไม่ได้
“คนเยอะอย่างนั้นนายสู้ไม่ไหวหรอก”
“มันถ่ายรูปนาย!”
“เซฮุน เรื่องรูปนั่นนายต่างหากที่เสียหาย ไม่ใช่ฉัน นายเป็นดาราดังนะ”
ผมพูดไม่ออก . . แต่ไม่ว่าจะยังไงความคิดของผมก็คือลู่หานสำคัญที่สุดอยู่ดี “แล้วนายจะพาฉันวิ่งไปไหน”
“วิ่งไปอีกประมาณสองร้อยเมตรก็บ้านฉันแล้ว” ลู่หานหันมาตอบ “ไปหลบกันที่นั่นก่อนก็ได้”
จริงๆด้วย แถวนี้มันเป็นย่านบ้านของลู่หานนี่นา ผมเลยวิ่งตามลู่หานไปจนกระทั่งมาถึงที่หน้าบ้านของเขา
ลู่หานเคาะประตูเรียกคุณยาย “คุณยายครับ ผมลู่หานนะ เปิดประตูให้ผมที”
ไม่นานนักคุณยายก็เดินมาเปิดประตู . . เธอดูดีใจที่ได้เห็นหน้าลู่หานแต่ไม่ทันจะพูดอะไรลู่หานก็ดึงผมให้เข้าไปในบ้านและก็ปิดประตูซะงั้น
ราวกับว่ามีความโชคดีอยู่ในความโชคร้าย ฝนเทกระหน่ำลงมาหลังจากที่ผมเข้าไปในบ้านได้เรียบร้อย
“โอ ตายละ วันนี้พาเพื่อนมาด้วยTT” คุณยายอ้าปากค้าง “ไม่ได้นะ วันนี้ยายต้องขอลายเซ็นพ่อหนุ่มคนนี้ให้ได้”
“สวัสดีครับคุณยาย” ผมโค้งให้คุณยายอย่างนอบน้อมและแฝงไปด้วยเสียงหอบ
“หวัดดีจ้ะลูก ท่าทางเหนื่อยๆนะ วิ่งหนีอะไรกันมารึ” คุณยายเดินเข้ามาจับหลังของผมดูด้วยความเป็นห่วง
“ก็…”
“ไม่มีอะไรครับยาย แค่. .พวกแฟนคลับน่ะ” ลู่หานตอบ เขาเดินไปหยิบน้ำชาร้อนๆมาวางที่โต๊ะและรินให้ผม ผมเลยต้องนั่งอยู่ที่บริเวณนั้น โดยมีคุณยายคอยจับสัมผัสคอยดูแลไม่ห่าง “โธ่คุณยายครับ หลานยายอยู่ทางนี้นะ ไม่ใช่ทางนั้น”
“แหม ลู่หานนี่ก็ . .”
“ลู่ถิงไปเรียนใช่มั้ยครับ”
“ใช่จ้ะ แต่คงกรี๊ดสลบแน่เมื่อรู้ว่าองค์ชายรัชทายาทเสด็จมาที่บ้านเราอีกหนน่ะ” บทนั้นมันสร้างชื่อเสียงให้ผมจริงๆใช่มั้ยครับเนี่ย ทำไมมีแต่คนพูดถึงตลอด . . “เอ้าดื่มชาสิ พักผ่อนนะจ๊ะ ถือซะว่าหลบฝนสักพักละกัน”
ผมยิ้มเหนื่อยๆให้คุณยาย มองออกไปที่หน้าต่างผมยังเห็นเงาของพวกปาปารัซซี่อยู่เลย เพราะฉะนั้นนอกจากหลบฝนแล้วผมยังต้องหลบพวกนั้นอีกด้วย . . น่ารำคาญชะมัด
เสียงฝนสาดเทกระหน่ำไม่หยุดทำให้ผมนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น โทรศัพท์ก็ไม่มีอยู่กับพี่แจซอก ป่านนี้ไม่รู้ว่าทีมงานจะตามหาผมสักแค่ไหน ผมมองดูคุณยายดองกิมจิอยู่ที่ห้องครัว มองลู่หานเดินไปเก็บผ้ามาพับไว้ และเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่าการที่ผมอยู่นิ่งๆนั้นไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเลย
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ” ผมเลยเดินเข้าไปหาคุณยาย เพราะถ้าไปหาลู่หาน หมอนั่นก็คงตวาดฉับและก็ให้ผมไปนั่งรอนิ่งๆ
“โอยยย ไม่มีหรอกจ้า นู่น ไปนั่งเซ็นลายเซ็นตรงนู้นดีกว่านะ ยายขอสักห้าแผ่น ยายจะเอาไปแจกยายซุนคนข้างบ้าน ><”
“แต่ว่า ..”
“หรืออยากจะดองกิมจิล่ะ”
“ผม . . ทำไม่เป็น”
“ฮ่าๆๆ งั้นดูยายอยู่อย่างนั้นแหละลูก ยายทำไม่เยอะเพราะบ้านนี้ไม่ค่อยชอบกิมจิกันสักเท่าไหร่น่ะ เหมือนจะชอบติ่มซำกันมากกว่า” . .เกือบลืมไปเลยว่าลู่หานน่ะคนจีนแท้ๆ
“แล้วพ่อกับแม่ของลู่หานล่ะครับ” ผมตัดสินใจนั่งลงข้างๆคุณยายเพื่อชวนยายคุย มองไปที่ข้างหลังเห็นลู่หานยังคงทำงานบ้านอยู่ไกลๆ มาถามซอกแซกคงไม่โดนด่ามั้ง
“พ่อกับแม่ของเขาน่ะเหรอ ทำงานอยู่ที่จีนนู่นแน่ะ”
อ้าว . . แล้วลู่หานย้ายกลับมาที่นี่ทำไมล่ะ ? “แล้วทำไมเขาถึง . .”
“เรื่องที่ย้ายกลับไปกลับมาใช่มั้ย ยายก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่” คุณยายลงมือพลิกผักดองไปมา “เพราะสุขภาพของยายกระมัง ยายรักษากับหมอที่นี่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรและอีกอย่างหนึ่ง . .”
“อะไรเหรอครับ”
“เหมือนเขาจะตามหาคนน่ะ”
“ตามหาคน???”
“โอเซฮุน นายอย่าไปกวนยายของฉัน” ลู่หานเดินเข้ามาโวยวายทันที “มานั่งนิ่งๆอยู่หน้าทีวีซะ”
“แต่ฉัน ..” ผมอยากที่จะถามคุณยายต่อ
“มาเลย”
ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้รูปแบบไหนเชื่อเถอะว่ายังไงผมก็แพ้ลู่หาน ผมเดินคอตกไปนั่งหน้าทีวีโดยมีคุณยายยิ้มขำอยู่ด้านหลัง ลู่หานหายไปทำงานบ้านต่อ ส่วนผมก็มีเพียงแต่เสียงฝนเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน
นายตามหาใครอยู่เหรอลู่หาน ???
รู้สึกตัวอีกทีผมก็โดนสะกิดให้ตื่น สงสัยผมจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย คุณยายเลยบอกให้ผมไปนอนในห้องของลู่หานดีกว่า ทั้งหลับสบายและก็อุ่น ผมขยี้ตา ฝนยังคงตกหนักอยู่ภายนอกท่าทางงานของผมวันนี้จะล่มไม่เป็นท่าซะแล้วล่ะมั้ง
ผมเลยเดินไปที่ห้องของลู่หาน คุณยายปูที่นอนให้เสร็จสรรพนั่นทำให้ผมเกรงใจเอามากๆ
“จุ๊ๆ” คุณยายส่งเสียง “อย่าให้เขารู้ว่ายายพาเธอมานอนที่นี่เชียว เจ้าเด็กนั่นหวงของอย่างกับอะไร”
“หึ ผมพอจะทราบครับ”
“รีบหลับนะ ก่อนที่เขาจะรู้ตัว”
“ได้ครับ” ผมง่วงเกินกว่าที่จะพูดอะไรมาก ตอนตื่นขึ้นมาค่อยสำรวจห้องของลู่หานอีกทีก็แล้วกัน ตอนนี้ขอนอนก่อน
ผมคงหลับไปนานมากๆใช่มั้ย . .
“โอเซฮุน นายอย่ามาหลับในที่นอนของฉัน!” ลู่หานเข้ามาเขย่าตัวผม นั่นทำให้ผมที่กำลังหลับอยู่ดีๆถึงกับตื่นขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้
“อือออออ” นอนนิดนอนหน่อยไม่ได้รึไง หวงทำไมฟะกะอีแค่ที่นอนเนี่ย
“ตื่นเดี๋ยวนี้ พี่แจซอกอยู่ข้างนอก”
ไม่ตื่นเฟ้ย . . ตื่นแล้วต้องเจอยิงคำถามจนตัวพรุนแน่ หลับดีกว่า . .
“เซฮุน นี่มันจะหกโมงเย็นเข้าให้แล้วนะ”
“อืออออ”
“เซฮุน” ป๊าบ ผมโดนตีเข้าให้ทีหลัง เจ็บเป็นบ้า!
โวยวายนักใช่มั้ย หวงนักใช่มั้ย . . มานอนด้วยกันเลยมา
ผมดึงตัวของลู่หานลงมานอนด้วย แน่นอนว่าเขาดิ้นพล่านผมเลยเอาขาเกี่ยวตัวเขาเอาไว้ อย่าได้มาสู้กับโอเซฮุนตอนหิวหรือตอนง่วง
“นี่นาย!” ถ้าไม่โวยวายก็ไม่ใช่คนสวยของผมแล้ว . .
“เห็นมั้ย นอนด้วยกันก็ไม่เสียหาย เลิกหวงได้แล้วที่นอนหรือเตียงน่ะ”
“ไอ้โอเซฮุน!” ท่าทางเขาจะเดือดปุดๆ
“ชู่ววว หลับกันเถอะ” ผมฉวยโอกาสนี้กอดเขาเอาไว้จากด้านหลัง ใบหน้าของผมซุกอยู่ที่ซอกคอของเขาแบบอัตโนมัติ ที่จริงผมเอาหน้าเข้าไปซุกเองน่ะ (มารยาสุดไรสุด)
“เซฮุน . .” เสียงของลู่หานเบาลงแต่ก็ยังคงดังอยู่ . .
“ฉันขอหลับแบบนี้ . . แป๊บนึงนะ” ผมกระซิบบอกเขาที่ข้างหู . . ลู่หานเลยนิ่งไป ที่จริง . . ผมว่าผมเริ่มไม่ง่วงแล้วล่ะ ได้นอนกอดเขาแบบนี้ ได้อยู่ใกล้ๆเขาแบบนี้ . . เขาทำให้ผมสติกระเจิดกระเจิง
ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้น มองใบหน้าด้านข้างของเขาอย่างเผลอไผล ลู่หานยังคงมีดวงตาที่เบิกโพลงและท่าทางเขาจะทำอะไรไม่ถูกเลยนิ่งอยู่อย่างนั้น . .
นายสัมผัสได้ใช่มั้ย . .
หัวใจของฉัน . . มันเต้นแรงและก็เต้นดังมากขนาดไหน . .
chiffon_cake say hi : กว่าจะครบร้อย T_T
อย่าแปลกใจนะคะที่ฟิคนี้ไม่มีอะไรเลยจริงๆ มีแต่ความเขินสนองตัณหาของตัวเองล้วนๆ
พอดีเป็นคนที่อวยเมนน่ะค่ะ 555555555555555555555
คนอ่านน่ารักกันมากๆเลย ทั้งอ่าน ทั้งเม้น ทั้งเฟพ และก็ติดแท็คน่ารักที่สุด T_T
บางคนที่ไม่มีแอคเคาท์ของเด็กดีแต่ก็ยังเข้ามาอ่านและก็เม้นคือเป็นอะไรที่ดีมากเลยนะคะ
แสดงว่าเข้ามาดูบ่อยใช่มั้ยว่าอัพรึยัง TT ไรท์ซึ้งค่อดดดดดดดด
ต่อไปจะชี้แจงข่าวร้ายนะ . . อ้าวๆตกใจกันล่ะสิ 555555
ไม่มีอะไรค่ะ แค่ไรท์อาจจะฝากรีทวิตในบ้านแฟนเบสลดลง
เพราะเกรงใจชาวบ้านแบบสุดๆค่ะ ช่วงนี้อัพบ่อยแทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้
เลยอยากรบกวนให้คนอ่านที่น่ารักส่องแทค ส่องหน้าฟิค ส่องทวิตคนเขียนหน่อยนะ
ด้วยความเลิฟแบบฝุดๆ ตอนหน้าจะมาเร็วเหมือนเดิมนะ เม้นกันหน่อย โหวตกันหน่อย
แทคกันหน่อย #ผู้จัดการของผม เลิฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟยูวววววววววววววว <3
ความคิดเห็น