ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sehun x luhan } .ผู้จัดการของผม

    ลำดับตอนที่ #32 : { SEHUN X LUHAN } CHAPTER TWENTY FOUR

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.78K
      43
      11 ม.ค. 57

    { SEHUN x LUHAN } CHAPTER TWENTY FOUR

     

     



     

     

     

     

     

     

     

                “คุณยาย . . พี่ลู่หานเขาเป็นอะไรเหรอคะ”

              “ลู่ถิงอย่าไปกวนพี่เขานะลูก . .

              “พี่เขาเป็นอะไรอ่ะ TT และทำไมเซฮุนอปป้าถึงไม่มาดูพี่เขาอ่ะ ทะเลาะกันเหรอคะ”

              “อย่าพูดเสียงดังสิถิงถิง”

              “งือออ ถิงถิงไม่ชอบให้เป็นแบบนี้เลย . .TT

     

     

     

     

     

     

              “พี่ลู่หานนนนน ทานข้าวกันเถอะค่ะ” เสียงน้องสาวของลู่หานดังขึ้นมาจากนอกห้อง ลู่หานที่ยังคงนอนห่มผ้าห่มอยู่ในห้องไม่ตอบอะไรน้องสาวของเขา “เมื่อวานพี่ลู่หานก็ไม่กิน วันนี้พี่ลู่หานก็เอาแต่อยู่ในห้องทั้งวันอ่ะ ถิงถิงจะร้องไห้ล่ะนะ แง้”

                ลู่หานหลับตาลงอย่างเจ็บปวดเมื่อเขารู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ลู่ถิงกับคุณยายจะต้องคิดมากและก็คิดหนักเรื่องของเขา . . แต่จะให้ทำยังไงได้ เขาไม่มีแก่ใจจะทำอะไรทั้งนั้น ตั้งแต่เมื่อวานจนมาถึงวันนี้ คำว่าผีตายซากน่าจะเหมาะกับสภาพเขาในตอนนี้ที่สุด

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                “พี่ลู่หานนนนนนนนน” ลู่ถิงเรียกเสียงเป็นห่วง “ทานอะไรสักหน่อยนะคะ ลู่ถิงขอร้องนะ”

                เขาไม่อยากให้น้องสาวของเขาเป็นห่วงมากกว่านี้ เขาจึงจำใจต้องลุกขึ้นยืน อาการปวดหัวจี๊ดและหน้ามืดเข้ามาหาเขาอย่างกะทันหัน เขาสะบัดหัวไล่อาการนั้นทิ้งไปและก็เลื่อนประตูเปิดให้น้องสาว

                “พี่ลู่หาน!” ทันทีที่ลู่หานเปิดประตู เด็กหญิงร่างท้วมตัวเตี้ยก็โผเข้ากอดเขา “อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย แง้”

                “ลู่ถิง พี่ไม่เป็นไร” ลู่หานกอดตอบน้องและก็บอกให้เธอสบายใจ

                “ไม่จริง หนูไม่เคยเห็นพี่เศร้าขนาดนี้ ตอนที่พี่ตามหาใครคนนั้นไม่เจอ พี่ก็ยังไม่เป็นขนาดนี้”

     

                ใช่ . . ลู่ถิงพูดถูก ลู่หานไม่เคยเศร้าขนาดนี้มาก่อน . .

     

                “ไม่มีอะไรทั้งนั้น พี่แค่ . . ไม่สบายนิดหน่อย”

                “โกหก!

                “ลู่ถิง . .

                “ทะเลาะกับเซฮุนอปป้ามาใช่มั้ย”

                “”     

                “หนูจะโทรหาเซฮุนอปป้าเดี๋ยวนี้ บอกเขาให้มาดูอาการพี่ลู่หานด่วนเลย!

                “ไม่ได้นะ!” ลู่หานรีบห้ามน้องสาวของเขา “ไม่ได้นะลู่ถิง”

                “ทำไมอ่ะ . . พี่ชายหนูมีอาการแบบนี้เพราะเซฮุนอปป้า และถ้าอปป้าคนนั้นไม่สนใจล่ะก็ จากเป็นแฟนคลับหนูจะเปลี่ยนเป็นแอนตี้แฟนจริงๆด้วย!

                “ยัยลูกหมูนี่!” ลู่หานยึดโทรศัพท์ของเธอเข้ามาอยู่ในมือเขา “ไหนบอกจะให้พี่ทานข้าว . . พี่หิวข้าวแล้ว ไปทานข้าวกันดีกว่า . .

                “แต่ว่า . .

                “คุณยาย ผมออกมาแล้วครับ”

                ลู่หานเดินหลบน้องสาวของตัวเองมานั่งตรงโต๊ะกลางบ้านที่มีอาหารเย็นวางรออยู่ เขามองพวกมันและเขาก็ต้องรู้สึกว่าเขากินอะไรไม่ลงสักอย่างแม้กระทั่งข้าวเม็ดเดียว

     

                และคนที่กินจุคนนั้น . . จะทานอะไรรึยังนะ . .

     

                “ลู่หาน ทานอะไรบ้างก็ดีนะลูก อย่าทำแบบนี้เลย” คุณยายบอกลู่หานอย่างเป็นห่วงหลานชายมาก “นี่ ยายทำซุปกิมจิไว้ให้ ไชเท้าดองด้วย เนื้อผัดกิมจิ . .

                “ขอโทษนะครับที่ทำให้ไม่สบายใจ” ลู่หานพูดด้วยน้ำเสียงไม่เต็มปากเต็มคำ

                คุณยายมองลู่หานด้วยสีหน้าเข้าอกเข้าใจ เธอเอามือของเธอแตะที่มือของลู่หานเบาๆ

                “มันผ่านไปได้ยาก แต่เดี๋ยวมันจะผ่านไปนะลูก”

                ลู่หานก้มหน้าลงต่ำ ไม่นานนัก . . เขาก็คิดว่าเขาไม่สามารถทนอ่อนแอต่อหน้าคุณยายและลู่ถิงได้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นยืนทั้งๆที่ยังไม่ได้กินอะไรสักคำ

     

                “ผมขอโทษนะครับคุณยาย พี่ขอโทษนะลู่ถิง แต่พี่ขออยู่คนเดียวสักพักนะ”

     

               

     

                ลู่หานกลับเข้ามาอยู่ในห้องของตัวเองด้วยท่าทีเศร้าหมอง . .

                เขารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ในสักวัน แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วมันทำใจได้ยากกว่าที่คิด เขาคิดเสมอว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะไม่ใช่คนที่อยู่เคียงข้างกับเซฮุนได้ตลอดไป เซฮุนเป็นดารา เป็นคนของประชาชน และถึงแม้ว่าเขาจะรักเซฮุนมากขนาดไหน ยังไงมันก็ต้องลงเอยแบบนี้อยู่วันยังค่ำ

     

     

                คนรอบตัวของเขาอาจรับได้ . . แต่ไม่ใช่สังคมของประเทศนี้ . .

     

     

                และการที่ลู่หานสมัครใจทำอย่างนี้ก็เพื่อตัวของเซฮุนเอง . . ให้เซฮุนได้มีอนาคตที่สดใสอยู่ในวงการที่เขารักต่อไป . .

     

     

                แม้ว่าหัวใจของพวกเขาจะเจ็บปวดมากก็ตาม . .

     

     

     

     

     

     

               

     

     

     

     

                ในความพยายาม ถึงแม้ว่ามันจะไม่สำเร็จ . . อย่างน้อยมันก็มีความพยายาม

                หลังจากโดนหิ้วกลับมาที่ห้องโดยการ์ดที่เฝ้าหน้าห้องเป็นครั้งที่สาม ผมก็มานั่งหน้าบูดอยู่ในห้อง พยายามคิดหาวิธีออกไปจากที่นี่สารพัดวิธีแม่งก็ออกไปไม่ได้ . . การ์ดสองคนนี้ตัวใหญ่มากสูงเกือบสองเมตร ไม่ว่าผมจะหว่านล้อมด้วยเงิน สินบน และทุกๆอย่างเขาก็ไม่ยอมปล่อยผมออกไป

     

                นี่ผมจนปัญญาแล้ว . .

     

                โทรศัพท์ที่อพาร์ตเม้นท์โทรออกได้ แต่โทรไปที่เบอร์ของลู่หานไม่ได้ ผมไม่รู้จักเบอร์ของคุณยายกับเบอร์ของลู่ถิง ดังนั้นผมจึงนั่งโง่ๆอยู่บนโซฟา ปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปอย่างเซ็งที่สุดในชีวิต

     

                จะบ้าตายอยู่แล้วนะ . .

     

                “อ่า เซฮุนน่า ฉันซื้อไก่ทอดมาฝาก” พี่แจซอกเดินเข้ามาในห้องพร้อมๆกับไก่ทอดร้อนๆ “นายคงจะเซ็งแย่เลยสินะ ฉันเลยซื้อมาเยอะเป็นพิเศษ”

                “เมื่อกี้เห็นคุยกับการ์ดข้างนอกตั้งนาน คุยไรกันเหรอ” ผมเห็นพี่แจซอกอ้อยอิ่งอยู่ข้างนอกนานผ่านจออินเตอร์คอมเลยถามผ่านๆ

                “เม้ามอยกันเรื่องเกิร์ลกรุ๊ปน่ะสิ” พี่แจซอกพูดยิ้มๆ “วันก่อนฉันเห็นสองคนนี้ไปดูCRAYON POP กันมา เมนเวย์กับโชอาด้วยนะ!

                พี่แจซอกเมนโซยูลนูน่าครับ . . ผมรับฟังและก็พยักหน้าเบาๆ . .

               

                แต่แล้ว . .

     

                ผมก็ปิ๊งไอเดียอะไรบางอย่างขึ้นมา . .

     

                ไม่แน่ . . วันนี้ผมอาจจะออกไปจากการกักบริเวณบ้าๆนี้ได้ก็ได้นะ . .

     

                ผมรอจังหวะที่พี่แจซอกเผลอ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา . . และต่อสายภายในอพาร์ตเมนท์ไปยังเบอร์ห้องของหอวงCRAYON POP

     

                พี่ๆเธอพักอพาร์ตเม้นท์เดียวกันกับผม . .

     

     

             

     

     

              ผมบอกให้พี่เวย์กับพี่โชอามาเดินผ่านหน้าห้องผม . . เท่านั้นแหละ การ์ดสองคนนั้นก็หูผึ่งหางกระดิก(?)เดินตามพี่แฝดแทบไม่ทัน แต่สองสาวปลอดภัยหายห่วงเนื่องจากพวกเธอควงตัวผู้จัดการมาด้วย แค่มาเดินผ่านเบี่ยงเบนความสนใจการ์ดสองคนที่เงินก็ไม่เอาสินบนก็ไม่สนแต่ชอบเกิร์ลกรุ๊ป เมื่อพี่แจซอกเห็นการ์ดสองคนหายไป เขาก็ออกไปตาม รู้สึกว่าจะไปนานเหมือนกัน เพราะพี่เวย์บอกพี่โซยูลก็ว่าจะลงมาช่วยเหมือนกัน ผมอยากขอบคุณพวกเธอเหลือเกิน T^T

     

                เดี๋ยวผมจะซื้ออัลบั้มสักสองพันชุดนะครับนูน่า . .

     

                ผมคว้ามาได้สองอย่างในมือคือกระเป๋าตังค์กับเสื้อแจ๊คเก็ตตัวบาง . . คิดผิดคิดใหม่ดีมั้ยเซฮุนเอ้ย ข้างนอกอากาศหนาวชิบเป๋งเพราะใกล้จะเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส ผมจุ๊ปากใส่ยามของอพาร์ตเม้นท์ที่ลุกขึ้นทักทายผม ในขณะที่ผมเดินไปจากตึกอพาร์ตเม้นท์ด้วยอาการตัวสั่นงันงก . .

                เวลาบ่ายแก่ๆ . . ลู่หานจะอยู่ที่ไหนนะ

                ง่ายที่สุดคือบ้าน . . ผมจะต้องไปบ้านของลู่หาน แต่แล้ว ทันทีที่ผมก้าวออกมาจากนอกตึกอพาร์ตเม้นท์ ผมก็ได้ยินเสียงแชะๆๆๆๆๆๆดังระงมไปหมด . .

                จริงๆมันก็มีแฟนที่มีตามผมอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์จำนวนหนึ่งอยู่นะครับ แต่เพราะข่าวที่ออกไปเป็นกระแสในวงกว้างทำให้ดูเหมือนแฟนๆที่มาตามผมที่ตึกจะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ และเมื่อผมอยู่นิ่งๆ . .

                ผมก็โดนรุมทึ้งแบบนี้ไง . .

     

                “อปป้า ตกลงยังไงคะ . . ตกลงยังไง บอกหน่อยสิ!

              “ข่าวลือไม่จริงใช่มั้ยคะ”

              “เซฮุนน่าจะเป็นเกย์ได้ยังไง”

              “แถลงข่าวยอมรับไปเลยค่ะ!!!!!!!!!!!!

     

              อันหลังนี่รู้สึกจะเหมือนเป็นเสียงภาษาไทยแฮะ . .

             

              ถ้าจะขนาดนี้ . . ผมคิดว่าที่เจ๊ใหญ่ปิดข่าวคงไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ และถ้ามีนักข่าวแอบเจ๊ใหญ่เอาไปเขียนข่าวผมว่า . . สักวันผมคงต้องได้ตั้งโต๊ะแถลงการณ์ . .

                “ขอโทษนะครับ ผมขอตัว ..” ผมพยายามออกไปจากวงล้อมที่เริ่มเข้ามารุมเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ . . พี่แจซอกกับการ์ดคงวิ่งตาลีตาเหลือกลงมาหาผมแน่ ไม่ได้การละ ผมต้องรีบเผ่น . .  “เห้ย นั่น! วงEXOนี่!!!!!!!!” ชี้ไปมั่วแล้วร้องลั่น

     

                มากกว่าครึ่งหันพรึ่บ . .  ผมสบโอกาสหนีจึงรีบวิ่งหนี

     

              “กรี๊ดดดดดดดดด เซฮุนนี่อย่าหลอกนูน่า!

              “นึกว่าEXOมาจริงๆT_______T

             

              ถ้ามาจริงบอกผมด้วยนะครับ . . ผมก็เป็นติ่งวงนี้นะ . .

                รีบโบกรถแท็กซี่และก็บอกที่หมายคนขับให้ชัดเจน . . ไม่มีสาวๆคนไหนตามผมมาทันสักกะคน

                และที่เด็ดไปกว่านั้นคือ . . ป่านนี้พี่แจซอกคงจะยังไม่รู้ตัวและก็คงมัวแต่เคลิ้มกับโซยูลนูน่าที่แค่เดินผ่านพี่เขาไปอยู่แน่ๆ

     

                เสี่ยวลู่ . . อยู่บ้านเถอะนะ . . ขอร้องล่ะ . .

     

               

     

     

     

              “คุณยาย . . ถ้าลู่ถิงผอมลู่ถิงจะสวยมั้ย”

              “สวยสิลูก . . ทำไมจะไม่สวยล่ะ”

              “คุณยายน่ารักฝุดดดดดดด ><

               

                บทสนทนาดังขึ้นที่ภายนอกห้อง แม้ว่ามันจะฟังดูน่ารักน่าหยิกขนาดไหนลู่หานก็ทำได้แต่เพียงซึมกะทือและยิ้มไม่ออก . . เขายังคงเก็บตัวอยู่ในห้องและไม่ทานอะไรสักอย่างลงไปในท้อง ถึงแม้ว่าลู่ถิงจะพยายามหลอกล่อเขาทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นอาหารของโปรดลู่หานหรือแม้กระทั่งแมตช์ฟุตบอลคู่สำคัญที่ลู่หานเชียร์ เขาก็ไม่ออกไปทานอะไรเลย . . จนเธอหมดความพยายาม ไปทำการบ้าน ดูทีวี และก็ฟังเพลง

     

                จนกระทั่ง . .

     

                “พี่ลู่หานนนนนนนน เซฮุนอปป้ามาแน่ะ!!!!

     

                หัวใจของลู่หานกระตุกวูบ . .

     

                ราวกับถูกปลุกให้ตื่นหลังจากหลับมาเนิ่นนาน . . ลู่หานมองไปที่ประตูที่มีเสียงของลู่ถิงดังโดดเด่น

     

                “โกหกรึเปล่า” ลู่หานพึมพำ

     

                เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างนั้นสูงมาก . . แต่ทำไมลู่หานกลับหวังให้สิ่งที่ลู่ถิงพูดเป็นความจริงล่ะ . .

     

                ไม่หรอกน่า . . เซฮุนไม่น่าจะหลุดออกจากการกักบริเวณของทางค่ายได้ง่ายๆ

     

                “พี่ลู่หาน ลู่ถิงพูดจริงๆนะ ออกมาเร็วเข้า!!!! หล่อเหมือนเดิมเลยง่า แอนตี้ไม่ลง แง้”

     

                ลู่หานขมวดคิ้ว . . เขานึกไม่ออกว่าลู่ถิงจะพูดจริงหรือพูดเล่น .  .

     

                บานประตูถูกเลื่อนเปิดออก . .

     

                ใบหน้าของเซฮุนที่โผล่เข้ามาในสายตาทำให้ลู่หานรู้ว่า . .ที่ลู่ถิงพูดนั้นคือความจริง

     

                “เคลียร์กันเองนะคะ T_T

     

                ประตูถูกเลื่อนปิด พร้อมๆกับน้องสาวตัวอ้วนหายไปจากประตู

     

     

     

                เซฮุนก้มหน้ามองลู่หาน

     

     

                ลู่หานเงยหน้ามองเซฮุน . .

     

     

                “จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ . .

     

                “

     

                “จีนก็ยังไปมาแล้ว . . ประสาอะไรกับอยู่ประเทศเดียวกัน”

     

                “

     

                “เสี่ยวลู่ . .

     

                เซฮุนยังพูดไม่จบ . . แต่คนตัวเล็กกว่ากลับกระโดดโผเข้าไปกอดอย่างเต็มเหนี่ยวจนเขาแทบยืนไม่อยู่ . . เซฮุนอ้าปากค้าง . . ก่อนที่จะกอดตอบลู่หานพร้อมๆกับจุมพิตที่หน้าผากของลู่หานอย่างแผ่วเบาแต่ทว่าตาตรึงอยู่นาน . .

     

                ไหล่ของเซฮุนรู้สึกชุ่ม . . เขาดึงตัวคนรักให้ออกห่างจากตัวเขาและก้มหน้าลงจ้องมอง . .

     

                “เสี่ยวลู่ . .

     

                น้ำตาที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆของลู่หานบัดนี้อยู่ในสายตาของเซฮุน . . นั่นทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน . .

     

                เขาจับลู่หานซบอก . . คนตัวเล็กบีบเสื้อเซฮุนแน่นราวกับเก็บกดอะไรบางอย่างไว้มานาน

     

                บางอย่างที่เขาต้องพูดออกไป

     

     

     

     

     

     

              “คิดถึง . .

     

     

     

     

     

                เซฮุนลูบผมลู่หานอย่างแผ่วเบา . . ก่อนที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมาเหมือนกัน

     

                                           

     

     

     

                “ก็มาหาแล้วนี่ไงครับ . .

     

     




     






     

              ลู่หานน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย . . ผมเอามือเช็ดน้ำตาให้เขาอย่างปลอบประโลม ผมไม่ค่อยได้เห็นน้ำตาของลู่หาน และตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมไม่ชอบมันขนาดไหน ผมไม่อยากเห็นเขาร้องไห้ ยิ่งเพราะมีผมเป็นสาเหตุผมยิ่งไม่อยากให้เขาร้องไห้ใหญ่ . .

                “ไม่เป็นไรนะลู่หาน” ผมลูบหลังของเขา ในขณะที่ลู่หานร้องไห้จนเสื้อของผมเปียกแฉะไปหมด

                “เซฮุน . .

                “ครับ?”

               

                ผมรู้ว่าลู่หานไม่อยากจะพูด ผมรู้ว่ามันเป็นคำพูดที่เสียดแทงเจ้าของคำพูดนั้นแค่ไหน

     

                . . ออกไป”

     

              ผมรู้ความหมายของมัน . . ผมได้ยินมันชัดเต็มสองหู . .

                แต่ผมไม่อยากจะเชื่อในความจริงที่ผมเพิ่งได้ยิน

     

                “อะไรนะ . .

     

                “ออกไป . .

               

                “. . .

     

                “นายไม่ควรจะมาที่นี่”

     

                ลู่หานผลักไสผมจนหลังของผมชิดติดขอบประตู . . ใบหน้าของลู่หานที่อยู่ห่างจากผมเพียงไม่ถึงคืบบ่งบอกว่าเขากำลังพยายามฝืนหัวใจตัวเองขนาดไหน

                “ทำไมถึงจะไม่ควร . . แฟนฉันอยู่ที่นี่นะ”

                “ถ้ามีคนรู้ ถ้ามีคนเห็น . .

                “แล้วยังไง คนที่ฉันแคร์ก็มีแค่นายกับคังมิร่า พี่แจซอกอีกคนด้วย แค่นั้น ฉันจำเป็นต้องสนใครคนอื่นอีกงั้นเหรอ”

                “

                “ฉันรู้ลู่หาน . . ฉันรู้ว่าฉันอยู่กับนายที่นี่ไม่ได้ . .

                “

                ผมเอื้อมมือไปจับมือที่สั่นเทาของลู่หานเอาไว้

     

                “แต่อย่าผลักไสฉันเลยนะ . . ฉันขอร้อง . .

     

                “

     

                “ฉันรักนายนะ”

               

                ยิ่งผมพูด . . ลู่หานก็ยิ่งร้องไห้หนักมากขึ้นกว่าเก่า เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้นสะบัดมือออกจากมือที่เกาะกุมมือผมอยู่และก็ทุบไหล่ผมเสียงดัง . .

                “ไม่ต้องพูดก็ได้ . .

                “ทำไมจะพูดไม่ได้ล่ะ”

                “

                “ลู่หาน . . วันนี้ฉันขอเถอะนะ ฉันอยากอยู่กับนาย”

                “

                “เดี๋ยวพี่แจซอกก็คงมาแล้ว”

                ผมสังเกตว่าลู่หานเริ่มอ่อนลง . . ผมจึงจับมือเขาให้นั่งลงกับพื้นห้องและก็สวมกอดเขาจากด้านหลัง ลู่หานจากเหมือนตุ๊กตาและยิ่งอยู่ในสภาพที่อ่อนปวกเปียกแบบนี้ยิ่งน่าทะนุถนอมเข้าไปใหญ่

                บรรยากาศรอบตัวเรามีแต่ความมืด และความเงียบ . . สิ่งเดียวที่ดังอยู่ก็คือเสียงหัวใจของเราสองคน . . ผมหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ลู่หาน วันนี้ก็เช่นกัน . .

                “นายไม่น่าห่างจากฉันแบบนี้”

                “

                “ฉันไม่มีแรงจะสู้กับอะไรเลย . . นายรู้มั้ย”

                “” ลู่หานไม่ตอบอะไร . . เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไรท่าเดียว

     

                “ฉันเป็นดารา แต่ฉันก็ยังเป็นคน ฉันมีหัวใจ ฉันก็ยังอยากจะรักใครที่หัวใจฉันอยากจะรัก . . ถ้าไม่มีคนเข้าใจในความรักของฉัน ฉันก็ไม่สนใจคนเหล่านั้นหรอกนะ”

     

                “

     

                “ฉันให้ความสุขกับแฟนๆได้แต่ไม่ได้ในทุกเรื่อง . . และความสุขนั้นไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะสามารถให้กับแฟนๆได้ตลอดไป . .

     

                “

     

                “เสร็จจากการถ่ายซีรี่ส์เรื่องนี้ . .

     

                “

     

              “. . ฉันจะออกจากวงการ”

     

              ลู่หานหันขวับมามองผมอย่างแรงอย่างตื่นตะลึง “อะไรนะ เซฮุน นายพูดอะไรออกมาน่ะ”

     

                “ฉันจะออกจากวงการ” ผมยืนยันคำเดิม . .

     

                “ไม่ได้นะ”

     

                “ทำไมจะไม่ได้”

     

                “นายจะทำอย่างนั้นไม่ได้”

     

                “ฉันเลือกแล้ว”

     

                “เพราะฉันเหรอ มันเป็นเพราะฉันงั้นเหรอ”

     

                “ลู่หาน” ผมรีบพูดเมื่อลู่หานเริ่มโกรธจนหน้าแดงจัด “ไม่ใช่เพราะนาย อย่าโทษตัวเองสิ”

     

                “ฉันไม่มีวันยอมให้นายทำแบบนั้นเด็ดขาด”

     

                เสียงของลู่หานเริ่มดังขึ้นไปทุกที . . ผมจะคว้ามือของเขาเอาไว้แต่เขากลับสะบัดหนี

     

                ผมว่าแล้ว . . ยังไงลู่หานก็ไม่ยอมให้ผมทำแบบนั้น และเขาก็คงจะโทษตัวของเขาเอง ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดของเขา . .

                มันเป็นความผิดของผมเอง . .

     

                “มันคืองานของนาย มันคือชีวิตของนาย ได้ทำมันมากี่ปีแล้ว มันจะมาพังป่นปี้เพราะฉันคนเดียวไม่ได้”

     

                “ลู่หาน มันไม่ใช่แบบนั้นนะ ไม่ใช่เพราะนาย”

     

                “นายห้ามออกจากวงการ . .

     

                “

     

                “เพราะฉันจะออกไปจากชีวิตของนายเอง”

     

                เหมือนโดนน้ำกรดสาดหน้า . . ผมอ้าปากค้างแม้ริมฝีปากจะสั่นระริก

     

                “พูดอะไรออกมาน่ะเสี่ยวลู่!!!!!

                “นายได้ยินชัดแล้ว”

                “ทำไมไม่ฟังกันบ้าง ทำไมไม่ฟังความต้องการของฉันบ้างเลยล่ะลู่หาน”

                “. . ออกไปซะเซฮุน”

                “ลู่หาน . .

                “. . ออกไป . .

     

                ลู่หานเดินไปเปิดประตูและยืนนิ่งให้ผมออกไปที่ข้างนอกห้อง . . ลู่ถิงกับคุณยายตัวสั่นเทาด้วยความตกใจกับเสียงที่ดังแสนดังของพวกเรา ผมมองลู่หานอย่างน้อยใจและเจ็บปวดรวดร้าว . .

     

              วงการมันไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย เมื่อเทียบกับนาย . .

             

                “นายห้ามฉันไม่ได้หรอกนะเสี่ยวลู่” ก่อนที่ผมจะเดินออกไป . . ผมพูดทิ้งท้ายไว้แบบนั้น

     

                “โอเซฮุน!” ลู่หานตะโกนไล่หลังผมมา “อย่าเลือกฉัน . . อย่าให้ทุกอย่างที่นายสร้างต้องมาพังเพราะฉัน!!!!!

     

     

                ผมไม่สนใจคำพูดนั้นของลู่หาน . .

                ผมก้าวดุ่มๆออกไปข้างนอกบ้านของลู่หาน ไม่ลืมที่จะโค้งบอกลาคุณยายและก็ลูบหัวยัยลูกหมูน้อยที่น้ำตาคลอเบ้า . . พวกเราทะเลาะกันเสียงดังมาก . . และบทสรุปยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันจะจบยังไงกันแน่ . .

     

                เมื่อไหร่จะผ่านพ้นมรสุมร้ายนี้ไปนะ . .

     

     

     

                ไม่รู้ว่าฮู้ดสีดำจะปิดบังหน้าตาของผมได้นานแค่ไหน

                นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้เดินถนนเป็นคนธรรมดาอยู่ที่ริมฟุตบาท ผมเดินเอามือสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อก้มหน้าก้มตาและก็คิดว่าควรจะทำยังไงกับชีวิตต่อไป . . ให้ตายสิ . . นี่ผมเพิ่งอายุสิบเจ็ดเองนะ ผมจะคิดเรื่องพรรค์นี้ออกได้ไง และผมจะสามารถคิดว่าอะไรคือผลดีผลเสียที่จะตามมาได้อย่างคลอบคลุมเหรอ ในเมื่อวุฒิภาวะผมก็มีแค่นี้ ในหัวผมมีแต่เรื่องลู่หาน . . แต่เอาเข้าจริงถ้าผมลาออกจากวงการ ผลกระทบที่ตามมาย่อมเกิดผลเสียเป็นมูลค่าหลายพันล้าน เพราะตัวผมมีสปอนเซอร์หลายอย่างคาบเกี่ยวตัวผมอยู่

                ทำไมต้องเกิดเป็นดารานักแสดงโอเซฮุน

                ทำไมไม่เกิดเป็นโอเซฮุน คนธรรมดา . .

               

                เสียงเมสเสจดังขึ้นตอนที่ผมอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ . . ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างหวาดระแวงว่าจะเป็นพี่แจซอกซึ่งโทรมาเกือบจะร้อยมิสคอลแล้ว . .

               

                ข้อความจากลู่หาน . .

     

     

     

     

              เราเลิกกันเถอะ

     

     

     

     

              ผมกำหมัดแน่น . . หลับตาพริ้มอย่างสะเทือนในหัวใจ . .

                ลู่หานไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น . . ต้องไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆแน่ๆ . .

     

                ผมยัดโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกง . . เลี้ยวเข้าร้านสะดวกซื้อที่แคชเชียร์รุ่นอาจุมม่าตกใจแทบผงะแค่เพียงเห็นเสี้ยวหน้าของผมภายในหมวกฮู้ดสีดำ

                “เซฮุนนี่!” เธอร้อง . . ผมโค้งให้เธอเล็กๆขณะเดินเข้าไปหยิบเบียร์ออกมาจากตู้ห้ากระป๋อง วางลงบนแคชเชียร์คิดเงิน พร้อมเครดิตการ์ดไม่จำกัดวงเงินที่พกมาด้วย . . “หนูอายุไม่ถึงใช่มั้ยลูก หนูจะซื้อของพวกนี้ไม่ได้นะ ไม่ได้เด็ดขาด . .

                ผมแอบหน้าบึ้ง . . “นูน่า . .” เธอดูอ่อนระทวยเมื่อได้ยินผมเสียงเธอเสียงออดอ้อน “ให้ผมซื้อเถอะนะ . . นูน่าก็รู้ว่าตอนนี้ผมเป็นข่าวนี่”

                เธอดูไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ มองซ้ายมองขวา . . กลัวตำรวจจะมาเห็น . .

                “ถ้านูน่าให้ผมซื้อนะ . .ผมจะแจกลายเซ็น . .ลายเซ็นผมแพงนะ”

                เธอดูสนใจมากขึ้น . .

                “ผมจะหอมแก้มนูน่าด้วยอ่ะ”

                “งั้นเอาไปหมดนี่เลย นูน่าเลี้ยงเอง” เธอหยิบเบียร์กระป๋องทั้งหมดที่ผมถือมาใส่ถุงสีดำ ยื่นมาให้ผม “เอาสิ . . หอมแก้มนูน่าเลย หอมๆๆ” เธอทำแก้มพองลม ขณะที่ผมรับถุงนั่นมาถือ

                ผมยิ้มนิดหน่อย . .ก่อนที่จะเอียงคอเข้าไปใกล้ๆ

     

                แต่ผมไม่หอมแก้มเธอหรอก . . ผมแค่กระซิบใส่หูเธอเท่านั้น . .

     

              “อย่าบอกใครนะครับว่าผมมาที่นี่ . . ขอบคุณมากครับ”

     

     

     

     

     

              “ลู่หาน เซฮุนอยู่ไหน เซฮุนอยู่ที่ไหน!” แจซอกพร้อมคนจากทางค่ายบริษัทเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังบ้านหลังเล็กของลู่หานเต็มไปหมด

                ลู่หานที่โทรมจนแทบดูไม่ได้ ส่ายหน้าเบาๆกับแจซอก “ไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”

                “อะไรนะ!” แจซอกแทบจะเอาเท้าก่ายหน้าผาก “ไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วจะอยู่ที่ไหน หัวใจมันอยู่นี่ ตัวมันก็ต้องอยู่นี่สิ!

                ลู่หานเหมือนคนไร้วิญญาณไปแล้ว . .

                “มันเป็นความผิดของฉันเองที่จับพวกนายแยกกัน เรื่องมันก็เลยวุ่นแบบนี้” แจซอกบ่น เขาอดสงสารทั้งเซฮุนและก็ลู่หานไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาต้องรีบตามหาตัวเซฮุนให้พบ . . เขาไม่ได้เดินตามสาวๆเครยอนป๊อบไปเลย ไม่น่าเลยจริงๆ . .

                ทุกคนที่มากับแจซอกดูวุ่นวาย โทรศัพท์กันให้วุ่นและก็ช่วยกันมองหา

                “ถ้านายได้ข่าวเขา . .บอกฉันด้วยนะ . .ฉันขอร้อง . .

                ลู่หานไม่แน่ใจเท่าไหร่ หลังจากที่เขาพิมพ์เมสเสจนั้นไป เขาก็ไม่กล้าจะติดต่อกับเซฮุนอีก . .

     

                ข้อความนั้น . . ที่เขาต้องใช้ความกล้ามหาศาลในการพิมพ์ . . และมันไม่ได้ออกมาจากหัวจิตหัวใจของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว . .

     

                “ดูแลตัวเองด้วยนะลู่หาน . .

     

     

     

     

     

     

     

     

                “เจอมั้ยครับพี่แจซอก”

                “ยังเลย ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว เจ้าเด็กบ้านั่นมันจะไปอยู่ไหนได้!

                “นี่มัน . . หลายชั่วโมงแล้วนะครับ”

                “อา . .ฉันควรทำไงดีเนี่ย อีกนิดรองประธานจะแจ้งตำรวจแล้วนะ”

     

     

     

     

                เป็นเพราะลู่หาน

                เป็นเพราะเขาแท้ๆทำให้ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด

                ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วไม่มีใครตามหาเซฮุนพบ . . ลู่หานอยู่ที่บ้านนั่งไม่ติดกับพื้นเดินไปเดินมาจนทำให้คุณยายกับลู่ถิงพลอยเป็นห่วงไปด้วย ในมือของเขาคอยติดต่อกับพี่แจซอกตลอด หรือไม่ก็เพื่อนร่วมชั้นเรียนเผื่อมีใครที่เซฮุนจะไปหาได้ แต่กลับไม่มีเลยสักคน . .

                เพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันกับเซฮุน ก็มีแต่ลู่หาน . .

                ตอนนี้ลู่หานเป็นห่วงเซฮุนแทบบ้า แม้ว่าเขาจะเพิ่งส่งเมสเสจไปตัดรอนความสัมพันธ์ของเขากับเซฮุนไปก็เถอะ แต่เอาเข้าจริง . . มันดูเหมือนเป็นเมสเสจที่ไร้ค่าและดูไม่มีความหมายเหมือนสแปมอย่างหนึ่ง

               

                เพราะไม่ว่าจะยังไง . .หัวใจของเขาก็ยังเป็นของเซฮุนอยู่ดี

     

                และเขาก็เป็นห่วงเซฮุนที่สุด . .

     

                เขายอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้รับข่าวดีว่าพี่แจซอกของเขาจะตามหาตัวเซฮุนเจอ . .

     

     

                “พี่ลู่หาน ใจเย็นๆนะคะ อปป้าจะต้องไม่เป็นอะไร” ลู่ถิงที่กอดคุณยายบอกกับลู่หาน

                “ปกติเขาเดินออกไปสองสามก้าวเขาก็โดนรุมแล้ว . .และดูสิ นี่หายไปตั้งหลายชั่วโมง”

                “ก็เพราะพี่ลู่หานไล่อปป้าไปนี่คะ”

                “ลู่ถิง” คุณยายปรามเมื่อลู่ถิงโพล่งขึ้น ลู่หานไม่ถือสาน้องสาว เขาถอนหายใจและสีหน้ายิ่งดูเป็นกังวลมากขึ้น “เรื่องของพี่เขา”

                “เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอกสักพักนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วง” ลู่หานตัดสินใจในที่สุด

                “นี่เสื้อจ้ะ” คุณยายส่งเสื้อแจ็คเกตมาให้ลู่หานราวกับรู้ว่ายังไงหลานชายของเธอก็ต้องออกไปตามหาเซฮุนอยู่ดี

                ลู่หานยิ้มให้คุณยายอย่างเนือยๆ เขาลูบผมลู่ถิงในแบบเดียวกันกับที่เซฮุนทำก่อนออกไปจากบ้าน . .

     

                เซฮุน . . นายจะไปที่ไหนนะ . .

     

                เขาเดินออกไปจากประตูบ้านได้แค่สองก้าวเท่านั้น . .

     

                เขาก็พบเซฮุน . .

     

                ผู้ที่อาจจะมาอยู่หน้าบ้านของลู่หานได้หลายชั่วโมงแล้ว . . ดูจากสภาพการกอดอกที่สั่นเทาบวกกับ . .

     

                กระป๋องเบียร์ที่ลู่หานคิดว่าเซฮุนไม่น่าจะกล้าแตะ

     

                “ไอ้บ้าเซฮุน!” ลู่หานร้องทันที “แตะเบียร์เหรอ แตะแอลกอฮอล์เหรอ ไอ้บ้าเอ๊ย!

     

                เมาจนหมดสภาพ . . ลู่หานค่อยๆพยุงตัวของเซฮุนขึ้นมาและก็ลากเข้าไปในบ้าน . .

     

                ลู่หานรู้สึกเศร้าในหัวใจ . .แม้ว่าเขาจะดีใจที่เขารู้ว่าเซฮุนอยู่แค่หน้าบ้านเขามานานก็ตามที . .

     

                เขาทำอะไรลงไปกับเซฮุน

     

     

                ทำอะไรลงไปกับผู้ชายที่รักเขามากขนาดนี้ . .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “เสี่ยวลู่ . .

     

              “

     

              “ไม่เลิกกันนะ . .ไม่เลิกกัน . .

     

              “

     

     

     

              “เสี่ยวลู่จะต้องไม่เลิกกับเซฮุนนะ . .

     

     

     

     






     

     

     

     

     

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×