[[Resume Ofzz Britney]]
เด็กสาวที่เติบโตขึ้นพร้อมความตั้งใจ มุ่งมั่น ที่จะเข้าสู่วงการมายา และเมื่อเธอทำได้ เกียรติยศ ชื่อเสียง และข่าวคาว ก็กลายเป็นเงาตามตัว เริ่มต้น Britney Jean Spears เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1981 ที่เค้นท์วูด หลุยซ์เซียน่า สหรัฐอเมริกา เด็กหญิง
ผู้เข้าชมรวม
701
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เด็กสาวที่เติบโตขึ้นพร้อมความตั้งใจ มุ่งมั่น ที่จะเข้าสู่วงการมายา และเมื่อเธอทำได้ เกียรติยศ ชื่อเสียง และข่าวคาว ก็กลายเป็นเงาตามตัว
เริ่มต้น P
T.
Britney Jean Spears เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1981 ที่เค้นท์วูด หลุยซ์เซียน่า สหรัฐอเมริกา เด็กหญิงบริทนี่ย์เรียนเต้นรำ และร่วมร้องเพลงในโบสถ์ตั้งแต่อายุน้อย จนเมื่ออายุ 8 ขวบ บริทนี่ย์สมัครเพื่อเข้าร่วมรายการของ The Mickey Mouse Club แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะถูกมองว่าอายุน้อยเกินไป แต่ความสามารถของเธอตอนนั้น ก็ทำให้โปรดิวเซอร์รายการคนนึง เห็นแวว และแนะนำเธอให้กับเอเจนซี่ที่นิวยอร์ค
ก้าวแรก
บริทนี่ย์ฝึกฝนความสามารถของเธอที่ Professional Performing Arts School Center นิวยอร์ค ตลอด 3 ปีต่อมา และร่วมเป็นนักแสดงบรอดเวย์ ในเรื่อง Ruthless เมื่อปี 1999 แล้วกลับไปที่มิคกี้เม้าส์คลับอีกครั้ง ต่อมาเธอสมัครคัดเลือกเพื่อเป็นนักร้อง เทปเดโมของเธอถูกส่งไปถึง Jeff Fenster บอสใหญ่ของ Jive Records ที่ติดต่อให้บริทนี่ย์มาเซ็นต์สัญญาเข้าสังกัดทันที
เพียงอัลบั้มแรก บริทนี่ย์ก็ได้ร่วมงานกับ Eric Foster White โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงที่เคยทำเพลงให้ Whitney Houston และคนดังๆอีกหลายต่อหลายคน รวมถึง Max Martin คนดนตรีคนสำคัญที่ผู้ผลักดันให้ Backstreet Boys โด่งดังในขณะนั้น
ความสำเร็จ
แล้ว Baby One More Time ซิงเกิ้ลแรก จากอัลบั้มแรกชื่อเดียวกัน ขึ้นถึง Top 20 ในอเมริกาทันที และขึ้นถึงอันดับ 1 ในสัปดาห์เดียวกับที่อัลบั้มแรกของเธอติดอันดับ 1 เช่นกัน ทำให้บิรทนี่ย์ สเปียร์ กลายเป็นนักร้องสาวคนแรกที่มีซิงเกิ้ลและอัลบั้มอันดับ 1 ในสัปดาห์เดียวกันของบิลบอร์ด และความแรงของเธอยังข้ามฝากไปถึงอังกฤษ ยุโรป และเอเชีย ซิงเกิ้ลต่อๆมาของเธอ กลายเป็นเพลงฮิตทั่วทุกชาร์ตเพลง ทั้ง Sometimes, (You Drive Me) Crazy, Born To Make You Happy
บริทนี่ย์ สเปียร์ กลายเป็นนักร้องชื่อก้อง ที่ทุกสื่อจากทุกเชื้อชาติต่างจับตามอง เรื่องราวของเธอกลายเป็นหัวข้อสนทนา ทั้งเรื่องเพลง เรื่องการแต่งตัว และการถ่ายภาพสุดเซ็กซี่ขึ้นปกนิตยสาร Rolling Stone เมื่อปี 99 ทำให้ภาพสาวน้อยนักเรียนวัยสดใสจากเอ็มวี Baby One More Time กลายเป็นนักร้องสาวร้อนแรง และเธอตอกย้ำภาพลักษณ์สุดเซ็กซี่ของตัวเองมากขึ้นๆ ในแต่ละครั้งที่ออกสื่อ
พฤษภาคม 2000 อัลบั้มชุดที่ 2 "Oops! .. I Did It Again" บริทนี่ย์ยังคงได้โปรดิวเซอร์ฝีมือดีมาร่วมงาน และเป็นไปตามคาด เมื่อเพลงในชุดนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ตัวอัลบั้มสามารถขึ้นถึงอันดับ 1 และซิงเกิ้ลอื่นๆที่ปล่อยออกตามกันออกมา ทั้ง Oops! .. I Did It Again, Lucky, Stronger และ Don't Let Me Be The Last To Know ที่ช่วยกันทำให้อัลบั้มนี้มียอดขายที่อเมริกาถึง 9 ล้านแผ่น
จุดล้มเหลว
ปีถัดไป บริทนี่ย์เปิดตัวซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มที่ 3 "I'm A Slave 4 U" ในงานประกาศผลรางวัล MTV Video Music Awards พร้อมภาพลักษณ์เซ็กซี่เต็มสตรีม จากนั้นไม่นาน อัลบั้มที่ 3 "Britney" ก็ออกตามมา ถึงตอนนี้ภาพความเซ็กซี่ของเธอ ส่งผลให้แฟนเธอของเธอกลุ่มนึงเริ่มไม่พอใจ ทำให้ I'm a slave 4 u ทำได้ดีเพียงอันดับที่ 8 ในบิลบอร์ดชาร์ท และซิงเกิ้ลอื่นๆที่ตามออกมาในอัลบั้มนี้ ก็ไม่สามารถขึ้นถึง Top10 ได้ รวมถึงภาพยนตร์เรื่องแรกที่เธอนำแสดง Crossroads ก็ล้มเหลวทั้งรายได้และคำวิจารณ์ แต่สิ่งที่ทำให้เธอเป็นที่สนใจ กลับกลายเป็นเรื่องราวความรักของเธอกับแฟนเก่า จัสติน ทิมเบอร์เลค และเหล่านักร้องนักแสดงหลายต่อหลายคน
ข่าวคาวไม่เว้นวัน
ตั้งแต่เธอเข้าวงการมา บริทนี่ย์ได้รับฉายา Princess of Pop มาตลอด แม้บางครั้งงานของเธอ อาจจะไม่ได้รับความนิยม แต่ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ ก็ตอกย้ำให้เห็นว่า เธอคือนักร้องเพลงป๊อปแถวหน้า ที่สร้างความฮือฮาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนเธอกำลังพยายาม ที่จะก้าวขึ้นสู่ Queen of Pop ดังเช่นที่ "มาดอนน่า" ขวัญใจของเธอเป็น
แล้ว 28 ส.ค. 2003 ที่ผ่านมา เธอและมาดอนน่า ก็สร้างความตื่นตะลึง เมื่อ 2 สาว จูบกันบนเวที MTV Video Music Awards กลายเป็นสีสันเผ็ดร้อนที่สุดของงาน และจนถึงตอนนี้ ก็ทำให้รายชื่อผู้ชนะประจำปีของเอ็มทีวีแทบไม่มีใครใส่ใจจำ
บริทนี่ย์และมาดอนน่ายังคงสานต่อความสัมพันธ์อันดี โดยนักร้องสาวรุ่นพี่ มาร่วมร้อง และร่วมแสดงเอ็มวีให้รุ่นน้อง ในส่งซิงเกิ้ลใหม่ "Me Against the Music" เป็นการเปิดตัวอัลบั้มที่ 4 "In the Zone" ของบริทนี่ย์อย่างสวยหรู และทำให้อัลบั้มใหม่นี้ขึ้นสู่อันดับ 1 Billboard ทันที
บริทนี่ย์ยังสร้างเซอร์ไพร้สต่อเนื่องอีกครั้ง เมื่อเธอควงเพื่อนนักเรียน Jason Allen Alexander เข้าพิธีวิวาห์เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2004 แต่ช่วงบ่ายเธอก็เปิดใจแถลงข่าวว่างานแต่งเป็นโมฆะ เกิดขึ้นเพราะความเมา และการเล่นเรื่องตลกที่เลยเถิดเท่านั้น
ล่าสุดกับซิงเกิ้ลใหม่ "Toxic" บริทนี่ย์ยังคงภาพลักษณ์ความเซ็กซี่เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยเนื้อหา ท่วงทำนอง เมโลดี้ ที่สนุกสนาน และเอ็มวีฮอทๆ ที่ทำให้ทุกคนพูดถึงเธอและเอ็มวีนี้อย่างล้นหลาม
บทสรุป
นับตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ คงปฎิเสธไม่ได้ว่า บริทนี่ย์ สเปียร์ คือนักร้องคนสำคัญ ที่กลายเป็นสีสัน และเป็นจุดสนใจในทุกๆงานที่เธอทำ แม้การกระทำหลายๆอย่างของเธอจะไม่เหมาะสม แต่ความพยายามและความมุ่งมั่น คือตัวอย่างที่ดีสำหรับวัยรุ่นทั่วโลก ที่มีความใฝ่ฝันอยู่เต็มเปี่ยม แต่ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกไปเพื่อไขว่คว้า
ผลงานอื่นๆ ของ oleseko ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ oleseko
ความคิดเห็น