ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : กริ้ง(บทจบ)
ชิเอลเดินตามร่างสูงของจิซาลเข้าไปยังหอสมุดที่เงียบสงัดด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดและกังวลใจ แต่ก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำถามออกไปให้คนข้างหน้าได้รับรู้
...กริ๊ง...
ดวงตาสีมรกตสุกใสของชิเอลเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งนั่นเหมือนกับในความฝันของเขาแต่ในครั้งนี้มันกลับดังกว่าทุกที และเขาก็ไม่ได้ฝันอยู่ด้วย ยิ่งเป็นการกระตุ้นรางสังหรณ์แปลกให้เกิดขึ้นยิ่งกว่าเดิม และกว่าชิเอลจะรู้สึกตัว ร่างสูงของจิซาลที่เคยเดินนำหน้าก็หายไปจากสายตาเสียแล้ว
นัยน์ตาสีมรกตสุกใสของชิส่อแวววิตกยิ่งกว่ายิ่งคิดถึงเสียงของกระดิ่งที่เกิดเมื่อครู่จะดึงจิซาลที่ไม่เกี่ยวมาโดนหางเร่ไปด้วย ร่างเล็กก็ยิ่งหนักใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงกระดิ่ง มันเริ่มขึ้นเมื่อนานมาแล้ว หากลองนึกย้อนกลับไปนึกดูคงจะเป็นตั้งแต่ครั้งที่สูญเสียมารดาผู้ให้กำเนิดไปเสียงของมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นจนแทบจะนึกว่ามันอยู่ข้างๆหูของเขา แต่เรื่องนี้ชิเอลก็ไม่เคยเคยบอกใครไปไม่ว่าจะเป็นจิซาล โรล หรือแม้กระทั่งพ่อของเขาเองก็ตาม เดิมทีชิเอลคิดว่ามันเป็นปฏิกริยาที่มีสาเหตุมาจากจิตใจได้รับความกระทบกระเทือน แต่นี่มันผ่านมานานมากแล้วเสียงกระดิ่งยังไม่จางหายไปเสียที
...กริ๊ง...
"..."
ชิเอลปล่อยเสียงกระดิ่งยังคงดังขึ้นเรื่อยๆให้ผ่านไปเป็นเหมือนเสียงหลอนดั่งที่เคยทำมาตลอดสิบกว่าปี พลางใช้นัยน์ตาสีมรกตสุกใสกวาดมองหาร่างสูงผ่านชั้นหนังสือของหอสมุด ที่ดูแล้วการจัดวางชั้นหนังสือไม่ต่างกับการสร้างเขาวงกตสักเท่าไร แม้จะเคยชินกับหอสมุดแห่งนี้พอควร แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะตามหาจิซาล
ร่างบางที่สูงเพียงร้อยเจ็ดสิบนิดๆ เมื่อเทียบกับชั้นหนังสือที่สูงเกือบสามเมตรครึ่งยิ่งรู้สึกทดท้อมากขึ้นราวกับเดินวนไปมาภายในเขาวงกตที่ไร้ทางออก ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นเงาดำผ่านไปข้างหน้า ร่างเล็กของชิเอลก็พุ่งออกไปตามสัณชาตญาณทันที
" จิซาล! "
"..."
" จะไปไหน! "
ชิเอลวิ่งไล่ตามเงาของร่างสูง เข้าไปยังส่วนลึกของหอสมุดแม้จะเร่งความเร็วแค่ไหนแต่ก็เห็นเพียงเงาของจิซาลเท่านั้นและเงาของคนเบื้องหน้าก็ไม่ท่าทีว่าจะหยุดเดินเลยแม้แต่น้อย
" จิซาล! จิซาล! " ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากผู้ถูกเรียกแม้แต่น้อย " คุณจะไปไหน? "
ชิเอลเริ่มเรียกอย่างเสียขวัญ ความกลัวแล่นเข้าเกาะกุมภายในจิตใจ เขากำลังกลัว หวาดกลัว ว่าคนตรงหน้าจะหายไป
...เฮือก...
นัยน์ตาสีมรกตสุกใสของชิเอลเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจเมื่อความรู้สึกเย็นยะเยือกเข้าจู่โจมไปถึงกระดูกสันหลังจนเกิดเป็นกปฏิกริยาสะท้อนกลับให้ร่างเล็กของเขาหันกลับไปทันทีที่รู้สึก
แต่สิ่งที่ปรากฎแก่สายตากลับไม่พบสิ่งใดเลยนอกจากความว่างเปล่า ราวกับอุณหภูมิรอบตัวลดต่ำลงจนทำให้ชิเอลต้องห่อไหล่เข้าหาตัวพลางกอดอกเพื่อสร้างไออุ่นให้กับตัวเอง และเมื่อหันกลับไปยังทางเดิมก็ไร้วี่แววของจิซาลเสียแล้ว
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าดังขึ่นในที่ๆห่างออกไปไม่กี่ช่อง เร่งจังหวะการเต้นของชิเอลดังถี่ขึ้นจนน่ากลัวแต่ขาทั้งสองข้างก็ยังก้าวไปโดยไม่ฟังเสียงที่ร่ำร้องของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้านั่นดังขึ้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รวมถึงสองขาของชิเอลที่ก้าวเข้าไปหาเสียงนั่น ราวกับเวลาผ่านไปชวดช้ายิ่งนัก ทุกการย่างก้าวเดินเรียกเหงื่อกาฬเม็ดโตซึมรอบขมับข้างดวงตาสีมรกตที่ทอแววหลากหลายทั้งตื่นเต้น หวาดกลัว และมากขึ้นเมื่อเสียงฝีเท้าดังสะท้อนอยู่ช่องข้างตัวของร่างบางเอง
ชิเอลรู้สึกว่าหัวใจของตนมันเต้นแรงจนแทบจะออกมานอกอกของเขาอยู่แล้ว ยิ่งกว่าเวลาอ่านนวนิยายสือสวนเล่นโต แต่เป็นหนังฆาตกรรมฟอรมยักษ์เลยที่เดียว และฉากนี้ก็เป็นฉากที่ตัวละครก้าวเดินไปเป็นจังหวะเดียวกันกับสตอกเกอร์ แต่นี่มันชีวิตจริง ไม่ใช่นิยายหรือละครน้ำเน่าที่จะจบแบบสวยเป็นส่วนใหญ่
สุดทางของช่องหนังสือในหอสมุดอยู่เบื้องหน้าระดับสายตา จุดสิ้นสุดของมันร่างเล็กจำได้ดี มันเป็นจุดศูนย์กลางของหอสมุดแห่งนี้ที่มีหนังสือโบราณที่อยู่นานกว่าโรงเรียนนี้ไม่รู้กี่ร้อยปี มันถูกเก็บรักษาอยู่ภายในตู้กระจกนิรภัยอย่างหนา ราวกับว่ามันเป็นสิ่งของล้ำค่านับคณา
" จิซาล... "
สิ่งที่ทำให้เจ้าของนัยน์ตาสีมรกตสะดุดตาไม่ใช่ตู้หนังสือโบราณโอ่อ่านั่น แต่เป็นร่างสูงของจิซาลที่ยืนอยู่ข้างตู้นิรภัยด้วยสายตาที่เหม่อลอย นัยน์ตาสีครามรับกับใบหน้าคมที่เคยทำให้ชิเอลหลงเส่นห์ของมัน แต่ตอนนี้กับคงเหลืออยู่แค่เพียงความว่างเปล่าราวกับไร้ซึ่งลมหายใจ ชิเอลเอื้อมมือไปเขย่าตัวจิซาลด้วยความร้อนใจแต่ไร้ซึ่งปฏิกริยาตอบโต้ใดๆจากร่างสูงเบื้องหน้า
" จิซาล! จิซาล! คุณเป็นอะไร?! "
"..."
" จิซาล... "
มือบางเอื้อมไปหวังจะสัมผัสใบหน้าคม แต่ทันทีที่มือบางสัมผัสโดนผิวหนังก็ราวกับสายฟ้าฟาดเข้าใส่ทั้งคู่ ความเจ็บปวดทำให้ร่างสูงได้สติ เขากรีดร้องออกเมื่อได้ยินเสียงของบางสิ่งดังก้องอยู่ภายในหัว
" อ้ากกกก! "
" จิซาล... "
ชิเอลรู้สึกราวกับเรี่ยวแรงในกายเหือดหายไปจนสิ้น ในหัวกลับมีสิ่งกระดิ่งที่ก้องกังวานกว่าทุกที มือเรียวพยายามพาร่างที่หนังอึ่งไปหาจิซาลที่ทรุดตัวเอามือกุมศีรษะอยู่ข้างๆแท่นวางหนังสือโบราณนั่น เขามองภาพเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกผิดเข้าจู่โจมอย่างแรง บางทีที่จิซาลเป็นแบบนี้อาจจะมีสาเหตุมาจากเขาก็เป็นได้ แล้วในตาสีครามคู่สวยเบื้องหน้าก็เริ่มทอประกายความรู้สึกออกแต่กลับดูอ่อนแรงยิ่งนัก
" ชิ...เอ..ล... " เมื่อกลับมามีสติจิซาลพยายามที่จะพาร่างกายที่หนักอึ่งของตัวเองไปหาชิเอลด้วยเช่นกัน " ชิ..เอล... "
" ผมขอโทษ...จิซาล ผมขอขอโทษ "
นัยน์ตาสีครามทอประกายอ่อนโยนไปยังชิเอลที่อยู่เบื้องหน้า อีกไม่ไกลนักมือของทั้งคู่จะสัมผัสกันได้แล้ว จิซาลพยายามพาร่างกายที่หนักอึ่งออกไปข้างหน้า
เสียงกระดิ่งยังคงดังก้องอยู่ภายในหัวทั้งคู่ สร้างความปั่นป่วนและภาระเป็นให้กับร่างกายเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกันแต่กลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายสำคัญมากจนให้หายไปไม่ได้เด็ดขาด
ชิเอลมองดวงตาสีครามของจิซาลด้วยความรู้สึกปวดแปรบภายในอก เมื่อมือของทั้งคู่ใกล้จะสัมผัสกัน ชิเอลกลับรู้สึกชาวูบบริเวณรอบคอ ก่อนจะรู้สึกเหนือนสายฟ้าฟาดลงมาอีกแต่ครั้งนี้มันรุนแรงยิ่งกว่าเก่า เขาหดข้อมือกลับมากุมศีรษะของตัวเองที่รู้สึกราวกันมันจะระเบิดให้ได้
จิซาลมองร่างเล็กบางของชิเอลที่ดูทรมานด้วยความตกใจ พลางพยายามคลานเข้าไปหาแต่กลับรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกด้านหลังพร้อมกับแสงสีน้ำเงินอ่อนราวกับเขากำลังจะถูกดูดเข้าไป แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าหากพลาดกับมันคนข้างหน้า จะไม่ได้อยู่กับเขาอีกและมันคือสิ่งที่เขาหวาดกลัวมากที่สุด
" ชิเอล... "
" จิซาล...! " ชิเอลฝืนความเจ็บปวดพุ่งตัวออกไปคว้างร่างเบื้องหน้าไว้แต่สิ่งที่เห็นกับเป็นรอยยิ้มเศร้าๆของจิซาลที่ส่งมา ในขณะที่แสงสีน้ำเงินกำลังแผ่ตัวราวกับจะกลืนกินเขาไป
" ฉันต่างหาก..ที่ต้องขอโทษนาย... "
" ไม่...ไม่เอานะ... "
มือบางค้างอยู่กลางอากาศ ชิเอลทอดนัยน์ตาสีมรกตไปมองจุดที่เคยมีร่างสูงของจิซาลอยู่ แต่ตอนนี้เหลือแค่เพียงความว่างเปล่า ข้อมือบางลดกลับเข้ามาหาตัวอีกครั้ง พลางเปิดฝ่ามือดูสิ่งที่อยู่ข้างใน สร้อยสีเงินสลักเป็นตัวอักษรดูหรูหรา
...'Jizal'...
ริมฝีปากบางแย้มออกมาเป็นรอยยิ้มที่ต่างไปจากเช่นเคยราวกับว่า กำลังหัวเราะเยาะในความน่าสมเพชของตัวเอง ทั้งๆที่เป็นของสำคัญ ของสำคัญเพียงหนึ่งเดียวยังไม่มีปัญญารักษามันไว้ น่าสมเพชจริงๆ
ชิเอลเหม่อมองสิ่งของในมือจนกระทั่งลืมสังเกตุบรรยากาศรอบตัวที่เปลี่ยนไป แสงสีเขียวอ่อนโอบล้อมรอบตัวเขาไว้ ไม่มีวี่แววของหอสมุดเฉกเช่นเดิมแม้แต่น้อย ดวงตาสีมรกตยังคงเหม่อมองไปยังที่ใดซักที่หนึ่ง บางทีมันอาจจะไม่มีที่แห่งนั้นอยู่จริงก็เป็นได้
.
.
.
กริ๊ง
.
.
.
กริ๊ง
.
.
.
เสียงใสก้องกังวานดังขึ้นอีกสองสามครั้งราวกับมนต์สะกด ก่อนแสงสีเขียวอ่ออนรอบตัวของชีเอลจะเปร่งประกายยิ่งขึ้น ดวงตาสีมรกตของชิเอลค่อยหลี่ลงอย่่างช้าๆก่อนจะปิดลงไป
...พร้อมกับสติสัมปชัญญะจะดับวูบลง!!!...
[TBC]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น