the golden boy
เรื่องของชายแก่ อาหารไม่อร่อย ข้าวผัด แล้วก็คุก......
ผู้เข้าชมรวม
269
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ยุคทอง GOLDEN BOY
“ข้าวผัดจาน” ชายชราผมสีดอกเลา แต่งตัวปอนๆสั่ง
“เอาน้ำอะไรครับ”
“น้ำแข็งเปล่าแก้ว” ชายชรา สั่งอย่างคุ้นเคย เขาอยากจะทานข้าวผัดมานานแสนนาน
ทิมติดคุกตั้งแต่ เขายังหนุ่ม ข้อหาปล้นฆ่า ความระห่ำในวัยหนุ่ม ทำให้ต้องติดคุกกว่า 40 ปี ชายชรามองข้าวผัดเบื้องหน้า อย่างผิดหวัง
“น้องพี่ขอข้าวผัด นี่มันอะไร”
“ก็ข้าวผัดที่พี่สั่งไงล่ะ จะใส่กุ้งหรือจะสั่งข้าวผัดทะเลก็สั่งก่อนได้ แต่ถ้าข้าวผัดธรรมดาก็ใส่หมูครับ”
คนขายพูดกับเขาอย่างสุภาพ สายตามองชายชราอย่างสำรวจความผิดปกติ
“ทำไม ไม่สีชมพู ทำไมมันสีน้ำตาลไหม้อย่างนี้”
คนขายมองชายชราอย่างงๆ “ก็ใส่ซีอิ้วกับซอสถั่วเหลืองจะให้มันสีชมพูได้ไงละเฮีย” เขาพูดอย่างรำคาญ กระดกกระทะผัดกระเพราอย่างชำนาญ
40 กว่าปี ข้าวผัดใส่ซอสแดง ไม่มีใครรู้จักแล้วหรือนี่ ชายชรา ตักข้าวผัดกินอย่างผิดหวัง ความโกรธเพิ่มขีดสูงถ้าเป็นสมัยหนุ่มๆ ไอ้ลิงนี่คงถูกซ้อมจนกระอักเลือดไปแล้ว
“แล้วน้ำล่ะ นี่มีแต่น้ำแข็ง”
“น้ำก็อยู่ในขวดบนโต๊ะนั่นไง”
“ต้องซื้อด้วยหรือ ขวดเท่าไหร่ล่ะ”
“ 10 บาทครับ” อะไรกันน้ำขวดละ 10 บาท นี่มันน้ำกลั่นเติมรถหรือไงกัน
อากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เขารู้สึกปวดหัว ยิ่งกินไอ้ข้าวผัดน้ำมันเหม็นๆนี่ยิ่งพาลอยากจะอาเจียน
ทิม ล้วงมือลงในกระเป๋าเป้ หลังจากออกจากคุก เขาจะไปขุดทอง ที่ปล้นเก็บสะสม ฝังดินเอาไว้ แต่เขาจำไม่ได้ว่ามันฝังไว้ที่ใดสภาพโดยรอบเปลี่ยนไปหมดแล้ว
“ไอ้หนู เดี๋ยวนี้ทองมันบาทละเท่าไรแล้วละ”
“หมื่นกว่าบาท”
ชายชราแทบไม่เชื่อหูตัวเอง “ตั้งหมื่นเชียวหรือ สมัยลุงหนุ่มๆ บาทละ 400 เอง”
“เอาอะไรอีกไหมล่ะลุง” คนขายส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรกับชายชรา
“ไม่ละ คิดตังค์เลย”
“สี่สิบสองบาทครับ”
ชายชราแทบไม่เชื่อหูตัวเองอีกครั้ง “ข้าวจานละเท่าไร”
“สามสิบครับ”
“สมัยลุงยังหนุ่ม............” เออ.. ช่างมันเหอะ
ถือว่าเป็นการเลี้ยงฉลองละกันกินแพงๆ ซักมื้อ แต่ถ้าได้ข้าวผัด สีชมพู คงจะมีความสุข ชายชรากระชับกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้าจนโป่งกระเป๋าแทบปริ
“นี่ ไอ้หนู ทำไมในทีวีมันมีแต่โฆษณารถ กันเต็มไปหมด คนมันรวยกันจนซื้อรถกันเป็นสบู่เลยหรือไงวะ”
“แหมลุง บางทีไอ้สบู่มันก็ขายยากกว่ารถอีกนะ” คนขายหนุ่มหัวเราะชอบใจ
ควันไอเสีย จากรถยนต์ที่อยู่บนถนน เหม็นอบอวลอยู่ในร้าน รถเริ่มติด จากที่เคยเคลื่อนช้าๆ ในที่สุดก็หยุดนิ่ง อยู่กับที่ฝนตั้งเค้าในเวลาไม่นานนักก็ตกหนัก น้ำเอ่อขึ้นสูง ขึ้นเรื่อยๆ จนสูงมิดหน้าแข้ง
ทิมมองผู้คนในรถที่จอดนิ่งสนิท ท่าทางมันคงจะเบื่อ เขานึกถึงสมัยหนุ่มๆ 40กว่าปี รถมันติดยังไง เดี๋ยวนี้มันก็ติด เหมือนเดิม รถเมล์ที่เคยแน่นยังไง มันก็ยังแน่นเหมือนเดิม
แต่ไอ้ที่แปลกก็คือ นี่มันเดือน พฤศจิกายน แล้วอากาศร้อนจัด แล้วฝนก็ตก แทนที่มันจะเป็นหน้าหนาว
ข่าวในทีวี รายงานการจราจร รถติดเป็นงูกินหาง ลามไปฝั่งธน จากนั้นก็กระจายไปยังนนทบุรี รังสิต เมืองเป็นอัมพาตไปในเวลาไม่นาน
ชายชรามองจอทีวี ตื่นตาตื่นใจ ทำไมรถรามันมากมายมหาศาลปานนี้ เขาค่อยๆลากสังขารอันร่วงโรย ไปตามที่ๆเคยหมายว้าว่าเมื่อออกจากคุกเขาจะ กินทุกๆอย่างให้คุ้ม ไก่ย่างแสนอร่อยปากซอยโรงหนัง เท็กซัส ไม่มีมานานแล้ว กาแฟ ข้างโรงหนังเฉลิมกรุงก็ไม่อยู่ ไอติมถ้วยหนาเตอะที่โรงหนังเฉลิมไทย ไม่มีแม้แต่โรงหนัง
ชายชราคุกเข่าหน้าโรงหนัง เฉลิมไทย ที่บัดนี้กลายเป็นสวนสาธารณะไปแล้ว เขารู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ในใจอยากจะกลับไปอยู่ในคุก อย่างเดิมคงจะดี ถ้าเขาจำได้ว่าทองอยู่ตรงไหน ชีวิตในบั้นปลาย ไร้ญาติขาดมิตร คงจะเอาตัวรอดไปได้
“นี่ลุง กางเกงนั่นขายไหม” หนุ่มผิวขาว ไว้ผมทรงแปลก ทักชายชรา นิ้วมือชี้ไปที่กางเกงที่เขาใส่
ทิมมองกางเกงยีนส์ของตน มันเป็นกางเกงที่ซื้อมาตั้งแต่ เข้าคุกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว เอาวะ ทิมถอดกางเกงเหลือแต่กางเกงใน ควักผ้าขาวม้าในกระเป๋าออกมาสวม
“เอาสิ ลองใส่ดูสิ พอดีไหม”
ชายหนุ่มที่มีเคราแพะที่ปลายคาง ไม่สนใจจะลองใส่ เขาเพ่งพินิจดูรายละเอียด ทุกอย่างของกางเกง เนื้อผ้า รูปทรง ลายพิมพ์ นานกว่า 10 นาที เขาคืนกางเกงให้ทิมส่ายหน้า ไปมา
“ผมให้ลุง ห้าพันละกัน รุ่นนี้ไม่ค่อยจะนิยมสักเท่าไหร่”
ทิมรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าไอ้กางเกงที่เขาใส่มันต้องมีอะไรพิเศษแน่ เขาแกล้งเอ่ยปากเล่นๆ
“8 พันขาดตัวไม่ได้ก็ไม่เอา ไอ้นี่มันรุ่นแรกเลยนา 50 ปีกว่าแน่ะ ของแท้เลยนะ”
“ โอ เค ลุง”
ชายชรา ซึ่งบัดนี้ มีผ้าขาวม้าพันกาย รู้สึกว่า บางทีโชคชะตา มันก็มีพลิกผันเล่นตลกกับเขา
เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไร...............
เพิงเล็กๆ เป็นที่อยู่อาศัย และเปิดเป็น ร้านอาหารโกโรโกโส ชายชราอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ป้ายเขียนด้วยลายมือ โย้เย้ ร้านลุงทิม
ชายชรานั่งหาวด้วยความเหนื่อยล้า เคี้ยวปากจั๊บๆ เช้าๆ อากาศเย็นอย่างนี้ กระดูกมันปวดไปหมด ข้างฝาร้านเป็นป้ายเขียนด้วยลายมือ เช่นกัน อ่านได้ใจความว่า
ข้าวผัดโบราณ 30 บาท
ผัดซีอิ้ว โบราณ 30 บาท
กาแฟ เย็น โบราณ 10 บาท
น้ำชาฟรี น้ำแข็ง เปล่า 1 บาท
รถตู้จอดหน้าร้าน ลุงทิม คนในรถทยอยลงมา 10 กว่าคน
“นี่ไงร้านนี้ไงที่ลงในหนังสือชวนชิมน่ะ” ชายใส่แว่นชี้มาที่ร้าน
“ลุง ข้าวผัด 10 จาน ผัดซีอิ้ว อีก 10”
ชายชรา บิดขี้เกียจเล็กน้อย ในใจมีความสุข นับจำนวนลูกค้า ที่ค่อยๆ ทยอยมากันอย่างล้นหลาม
ผลงานอื่นๆ ของ merisa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ merisa
ความคิดเห็น