นักรบสาว the worrior
เรื่องของ แมงมุมสาว ชาวไทย
ผู้เข้าชมรวม
243
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นักรบสาว the worrior
อีแมงมุมสาว ยืนเด่นสง่า อยู่เหนือยอดตึกใบหยก2 ดวงจันทร์สว่างเต็มดวงลอยเป็นแบคกราวด์ ขับร่างในชุดเข้ารูปสีดำให้ดูทะมัดทะแมง แข็งแกร่ง
ใยแมงมุมที่ปกคลุมภายนอกชุดบอดี้สูท ส่องประกายเมื่อยามต้องแสงจันทร์ ศีรษะของเธอปกคลุมด้วยสายใยจนดูเหมือน สวมหน้ากากปิดบังใบหน้า
นักพรตเหล็ก จ้องมอง อีแมงมุม อย่างโกรธแค้น ร่างในชุดนักบวช ยามต้องสายลมโบกพลิ้ว ผ้าคลุมเหมือนมีชีวิต
หัวโล้นของมัน แวววาวดูน่ากลัว มันขยับบาตรเหล็ก ปาเข้าใส่ร่างของอีแมงมุม บาตรเหล็กทะยานพุ่งเข้าใส่ เสียงเมื่อยามแหวกอากาศ ฟังดูหวีดหวิวน่ากลัว
ประสาทแมงมุม เตือนภัย แต่สายเกินไป มันเร็วเกินกว่า อีแมงมุมจะหลบทัน
“โอ๊ย..........” อีแมงมุม โดนบาตร กระแทกหัวอย่างแรง รู้สึกมึนงง เสียหลักล้มลง
บาตรเหล็ก ลอยกลับสู่อุ้งมือของนักพรต
“อมิตตพุทธ” นักบวชหัวเหล็ก มองอีแมงมุมอย่างปลงอนิจจัง ร่างของมันโดดกระโจนเข้าใส่ ศัตรูอย่างรวดเร็วเหมือนกับผ้าขี้ริ้ว ปลิงตามกระแสลม
“แกจงไปสู่ นิพพาน” ฝ่ามือที่แข็งปานคีมเหล็ก บีบคอ อีแมงมุมจนหายใจติดขัด
หัวมันวาว ของมัน กระแทกใส่กระหม่อม ของ แมงมุมสาว
“ป๊อง” เสียงเหมือนเหล็กกระแทก
อีแมงมุมร่างอ่อนระทวย หน้ากากใยแมงมุมขาดกระจุย
“ยุบหนอพองหนอ” นักพรตเหล็ก มองใบหน้างาม ภายใต้หน้ากาก
ขณะที่มันกำลังตื่นตะลึงในความงาม อีแมงมุม คว้าบาตรเหล็ก ที่วางอยู่ข้างกายเจ้านักพรตโล้น ตีใส่หัวมัน เข้าด้านซ้ายของท้ายทอย
“โพล๊ะ” เสียงดังเหมือนมะพร้าวแตก เจ้าหัวโล้นหมดสติ พลัดตกจากยอดตึก มือของมันจับขาของอีแมงมุมแน่น มันละเมอเสียงฉุนเฉียว
“ตายด้วยกัน อีแมงมุม ทุกชีวิตต้องจบด้วยมรณัง”
ทั้งคู่พลัดตกจากยอดตึก ใบหยก2 ลอยละลิ่วอย่างรวดเร็วลงสู่พื้นเบื้องล่าง
อีแมงมุม ยิงเส้นใยเหนียวเกาะเสาอากาศของตึกไว้เหวี่ยงตัวเองพร้อม ปีศาจโล้น ขึ้นสู่ยอดตึกอีกครั้ง
“เอาของๆแก กลับไปด้วย” เธอหยิบระเบิด ซึ่งมันใช้กวนเมือง จากยอดตึก ผูกกับนักพรต ซึ่งบัดนี้ เหมือนซากขยะ เหวี่ยงไปสู่อากาศ
ดวงจันทร์ กลมโตสีขาว ลอยเด่น อยู่กลางฟ้ามืดเหมือนมี จุดดำๆ เป็นรอยตำหนิ
“ตูม” ระเบิด ส่งเสียงดังไปทั่วย่าน ประตูน้ำ ดีที่ระเบิดลูกนี้เป็นระเบิดเสียง ไม่มีสะเก็ดที่ทำอันตราย จึงทำให้นักพรตหัวใสแค่หูหนวกสนิท ร่างของมันลอยละลิ่ว ลงสู่ยอดตึกใบหยก 1
“โชคดีที่รอดตาย ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว” มันพึมพำก่อนหมดสติ
อีแมงมุม มองร่างไร้สติ ของ คู่ปรับ ประสาทแมงมุมเตือนว่า เธอกำลังถูกแอบถ่ายรูปอยู่ เธอมองไปรอบๆ มันหนีไปแล้ว สักพัก เธอพุ่งทะยานหายไปในความมืด
เช้าวันต่อมา
สาว จุ๋ย ขยับแว่น แทะโดนัท กับชาเขียว อย่างเอร็ดอร่อย เหลือบตามองแทนคุง เพื่อนชาย ที่เดินตรงรี่มานั่งข้างๆอย่างร้อนรน หน้าตาเหมือนปวดท้อง
“เป็นอะไร รีบร้อน จะรีบไปไหน” จุ๋ย ทักอย่างสุภาพ
“ ปวดตดน่ะ จะมาตด” แทนคุงยิ้มแห้งๆ เขาหันไปยิ้มให้เพื่อนๆที่นั่งมองตาเขียวกลุ่มใหญ่
“แกไปไกลๆเลย เจอทีไรมามุขนี้ทุกที” เพื่อนคนที่แทนคุง จำชื่อไม่ได้กล่าวสัพยอก
“วันนี้ เราแกล้งยายอาจารย์สุนีย์ กันเถอะ” จุ๋ยพูด โดนัทยังอยู่เต็มปาก
“ใช่แล้ว วันนี้แกล้งไม่เข้าห้องสอบวิชา ของแกดีไหม” แทนคุง เสนอ
ทุกคนไม่เห็นด้วย เป็นเอกฉันท์ แต่ปล่อยให้ แทนคุง กลับไปคิดใหม่
“นี่ เมื่อคืน อีแมงมุม อาละวาดอีกแล้ว”
“หรอ สุดยอดเลยนะ ฉันอยากรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร”แทนคุงสบตาจุ๋ยแฟนสาว แววตาเธอดูแปลกๆ เมื่อพูดถึง อีแมงมุม
“ทำไมเรา ไม่เรียกเธอว่า คุณแมงมุม หรือ นางแมงมุมบ้างล่ะ” จุ๋ยออกความเห็น เธอรู้สึกว่า เรียกอีมันเป็นการจิกหัวเหมือนกับเธอเป็นคนใช้ อย่างนั้น ได้ยินทีไร หงุดหงิดทุกที พร้อมกับขยับแว่น ไปมา
“ก็มันมีหนังไอ้แมงมุม แล้ว อย่างนั้นถ้า ประเทศไทยเรามีฮีโร่ เป็น มนุษย์ แมงมุมบ้าง ก็ต้องเรียกเธอคนนั้นว่าอีนะสิ”
จุ๋ย อยากจะไปเกิดต่างประเทศ เธออยากเป็น สไปดี้เกิลร์ มากกว่า อีแมงมุม
ต้นเหตุมาจากในห้องทดลองในมหาวิทยาลัย เธอถูกแมงมุมไฟฟ้ากัด จากนั้น ตำนาน สไปดี้เกิลร์ ก็เกิดขึ้นในประเทศไทย
สาวใส ทำหน้าเบื่อหน่าย เธอต้องซ่อนใบหน้าอันสวยงาม หลังแว่นตาหนาตึก และไอ้หน้ากาก นั่นก็รัดหน้าจนเป็นริ้วรอย ยามเช้า
เธอแอบมอง แทนคุงแฟนหนุ่ม ซึ่งเขาก็กำลังลอบมองเธออยู่เช่นกัน
“รักนะ” แทนคุงกล่าว กลางวง สนทนาอย่างไม่รู้กาละเทศะ
ใบหน้า จุ๋ย แดงก่ำ เธอค่อยๆถอดแว่นออก อยากจะบอกความลับของเธอ
เพื่อนๆ ในกลุ่มจ้องมองหน้าเธอ ทุกคนรู้สึกตกตะลึงกับใบหน้าของเพื่อนสาว
“นี่ จุ๋ย หน้าเธอเป็นอะไรน่ะ เหมือนรอยตาข่ายเต็มไปหมด” เพื่อนสาวทัก
จุ๋ยรีบใส่แว่น ทำให้เพื่อนๆ เลิกสนใจใบหน้าเธอ หันไปโขกหมากรุกกันต่ออย่างสนุกสนาน
รถสปอร์ต ลัมโบกินี สีเหลืองจอดพรืด ข้างๆกลุ่มที่กำลังโขกหมากรุก กันอย่างดุเดือด
หนุ่มหน้า ญี่ปุ่น ทรงผม เกาหลี ค่อยๆกระเถิบตัวลงจากรถอย่างลำบาก
ปังปอนด์ เพลย์บอยหนุ่ม ร่างสูงระหงเดินมาหาจุ๋ยอย่างร้อนรน
“ปวดตด มาเหรอ” แทนคุง ทัก ปังปอนด์ เพื่อนรัก
หนุ่มหล่อ จับผมเข้าที่ อย่างอารมณ์ดี เขาตอบแทนคุงอย่างสุภาพ
“แกอย่ามายุ่งกับฉัน” พลางปรายตามอง สาวน้อย จุ๋ย อย่างสนใจ “จุ๋ย วันนี้ เลิกเรียนแล้วไปดูหนังกันนะ”
“เรื่องอะไรล่ะ หนังไทยกูไม่ดูนะ” แทนคุง ขัดลำ
จุ๋ย เดินไปข้างๆรถ ลัมโบกินี วนไปรอบๆ เหมือนอยากได้ “ขอลองขับได้ไหม”
“เชิญ” เจ้าของรถกล่าวอย่างเต็มใจ ว่าพลางปังปอนด์ ก้าวไปนั่งข้างๆ คนขับ
“ไปด้วย” แทนคุง ขยับเข้าใกล้รถหรู
“นั่งได้แค่ 2 โว้ย”
รถสปอร์ต คันงามขับออกไปอย่างรวดเร็ว สายตาของแทนคุงมองตามอย่างห่วงใย
บนรถสปอร์ต เสียงเพลงดังคลอเบาๆ กับเสียงเครื่อง ซึ่งอยู่ห่างจาก ด้านหลังคนขับไม่ถึงคืบ
“จะไปไหนเหรอ” ปังปอนด์ ถามสาวที่เขาแอบหลงรัก
“วนรอบๆ มหาวิทยาลัย สักรอบสองรอบ มีเรียนตอน สองโมงเช้า”
“ลงกีฏะ กับอาจารย์อเนกไว้เหรอ” ปังปอนด์ถามอย่างสนใจ
“สนใจ เรื่องแมลงมากนะ เดี๋ยวนี้ เห็นขลุกอยู่กับอาจารย์อเนกตลอดเลย”
“ใช่ บางทีเราก็อยากจะรู้ว่าตัวเราเป็นใคร” จุ๋ย พูดเป็นปริศนา
“รถนี่ พ่อเปลี่ยนให้ เมื่อวาน อาทิตย์ นี้เราไปเที่ยวทะเลกันไหม” เพลย์บอยหนุ่ม มองสาว จุ๋ย สายตากรุ้มกริ่ม
พ่อของปังปอนด์ เป็น เจ้าพ่อ ธุรกิจสื่อสาร เขาคิดจะครองโลกโดยซื้อสื่อทุกชนิด หากเขาคุมสื่อได้ก็เท่ากับครองโลกนี้สำเร็จ
“จุ๋ย ผมรู้นะว่าคุณเป็นใคร” ปังปอนด์ เปิดแฟ้มเอกสาร หยิบรูปออกมาโชว์
มันเป็นรูปถ่าย อีแมงมุมในการต่อสู้กับ นักพรต หัวเหล็ก โดยรูปสุดท้าย อีแมงมุมไม่สวมหน้ากาก
จุ๋ย มองหน้าเพื่อนรัก นัยน์ตาเธออ่อนโยน เหมือนจะบอกเขาว่าฉันรักคุณนะ แต่ฉันมีแฟนแล้ว
เธอจอดรถพรืด ในที่เปลี่ยว เวิ้งว้างปราศจากผู้คน ปังปอนด์รู้สึกว่า เขาไม่น่า ทำอะไรอย่างนี้เลย แต่เพื่อความรักที่อัดอั้นมานาน เขาบ่นไปดังๆ อย่างสุภาพ
“ เป็นเมียผมนะจุ๋ย ผมรักคุณจริงๆ แทนคุงมันดียังไง ถึงไปรักมัน ผมหล่อกว่า รวยกว่า รักคุณมากกว่า”
“ไม่ได้หรอกค่ะ” สาวแว่นใส มองปังปอนด์ อย่างสงสาร
“ฉันรักใครไม่ได้ ทั้งแทนคุง และ คุณ ตัดใจจากฉันเถอะ”
“เพราะคุณเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่น่ะหรือ” ปังปอนด์ กล้ำกลืนน้ำตา
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ที่รัก” จุ๋ย อยากสารภาพความจริง กับ เพื่อนรัก
“งั้นก็รักผมสิ เป็นของผมเถิด” เพลย์บอย หนุ่มโน้มหน้า จูบ สาวแว่น อย่างจงใจ จุ๋ยหดคอรู้สึกจั๊กกะจี้
“ เธอ รู้จัก แมงมุมไหม เวลาตัวเมีย มันผสมพันธุ์กับ ไอ้ตัวผู้เสร็จ” จุ๋ย เน้นคำว่าไอ้ตัวผู้ อย่างมีอารมณ์
“มันจะกัดกิน ไอ้ตัวผู้ อย่างเอร็ดอร่อย คือ กินไปผสมพันธุ์ไป” จุ๋ย หลบหน้า อย่างเอียงอาย รู้สึก ขวยเขิน ที่จะพูด คำว่า ผสมพันธุ์
“ถ้า อย่างนั้น เราจะเป็นเพื่อนกัน ตลอดไป ฉันจะไม่บอกใครว่า ฉันรู้ว่าเธอเป็นอีแมงมุม” ปังปอนด์ รู้สึก สำนึก อะไรบางอย่าง
“เกือบไปแล้วกู” เขานึกอย่างสุภาพ
ลัมโบกินี สีเหลือง พุ่งกลับเข้ามหาวิทยาลัยอย่างสงบ
ผลงานอื่นๆ ของ merisa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ merisa
ความคิดเห็น