ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { fic } Call it MAGIC | Kaido #ฟิคคนที่คุณก็รู้ว่าไค

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 05

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.11K
      57
      17 ธ.ค. 57

     

     

     

     

    05

     
     

     

     

     

    จริงๆแล้วที่สมัครตำแหน่งซีกเกอร์นี่มีสาเหตุ

     

    ว่า?”

     

    ให้ทายสีหน้าของลู่หานดูเหมือนเก็บงำเรื่องราวลับสุดยอดไว้ จงอินเดาะลิ้นกับเพดานปาก ในหัวนึกถึงความน่าจะเป็นของการสมัครตำแหน่งซีกเกอร์ พวกเขายังคงยืนคุยกันอยู่ที่ริมสนาม ผู้คนบางตาลงไปมากแล้วเนื่องจากใกล้เวลาอาหารกลางวันขึ้นทุกที เขาได้ติดต่อกับลู่หานเพียงสองสามครั้งตอนปิดเทอมเนื่องจากเจ้าตัวเดินทางไปต่างประเทศ พอได้เจอกันเลยมีเรื่องให้คุยกันโดยไม่เบื่อ

     

    สายตาดีเหมือนฮอว์กอาย?” จงอินถามทีเล่นทีจริง ลู่หานส่ายหัวน้อยๆ

     

    ตอนเข้ามาเข้าใจผิดไปเป็นปีว่าตำแหน่งซีกเกอร์เป็นซอกเกอร์ ตอนนั้นคือดีใจมากที่ฮอกวอตส์มีกีฬาภาคพื้นดินกับเค้าด้วย แต่พอรู้ก็ เออ โอเค สมัครก็ได้วะ ทดแทนการเตะบอลคนบ้าบอลว่า สายตาก็มองไปยังพื้นหญ้าสีเขียวด้วยความโหยหาเห็นหญ้าแล้วอยากหยิบรองเท้าสตั๊ดมาใส่ เสร็จละก็วิ่งลุย

     

    นี่ถ้าอยู่โลกมักเกิ้ล ป่านนี้พี่กับผมคงงัดเอาผลการแข่งมาทับถมกันแล้วจงอินว่าด้วยเสียงขรึมๆ แต่ตาติดแววทะเล้น ลู่หานหัวเราะจนหางตาพับเป็นรอยย่น มือเอื้อมไปขยี้หัวรุ่นน้องคนสนิทจนผมสีน้ำตาลฟุ้งกระจาย เขากับจงอินเผอิญเคยอยู่โรงเรียนประถมที่เดียวกัน เห็นหน้าอีกฝ่ายตามระเบียงทางเดินสองสามครั้ง แต่ใครจะรู้ว่าจะได้อยู่ฮอกวอตส์เหมือนกัน และด้วยความที่ทั้งคู่ชอบฟุตบอลเหมือนกัน การหาเวลาไปบ้านอีกฝ่ายเพื่อเชียร์บอลนัดสำคัญๆทั้งหลายแหล่ก็ไม่ใช่เรื่องยากซักเท่าไหร่ ยิ่งเชียร์คนละทีมยิ่งมีประเด็นให้คุยกันได้เรื่อยๆอีกต่างหาก

     

    นี่บอกให้แม่ส่งนกฮูกมาหาอย่างเร็วเลยถ้าทีมฉันชนะลู่หานยิ้มกว้าง แต่บทสนทนาหลังจากนั้นสะดุดลงกะทันหัน เสียงฝีเท้าที่ดังกระแทกๆอย่างไรชอบกลก้องขึ้นมา จงอินหันหลังไปมอง ก่อนที่จะระลึกขึ้นได้ว่า คยองซูอยู่ตรงนี้ด้วย มนุษย์ในชุดดำไม่สบตาใคร นัยน์ตาที่ส่อแววแข็งกระด้างนั้นมองตรงไปข้างหน้า เย็นชาเสียจนน่าอึดอัด

     

    คยองซูเข้าโหมดนี้อีกแล้ว

     

    จงอินถอนหายใจน้อยๆ เวลาคยองซูทำตัวไม่น่ารัก ชนิดที่ว่าไม่น่ารักแบบจริงจังนั้นเขาดูออก อารมณ์ขุ่นมัวเหมือนโดนสาปให้กลืนทาก อยู่ใกล้แล้วรู้สึกหงุดหงิดตามไปด้วยทุกที

     

    จะไปไหนจงอินห้ามปากตัวเองไม่ทัน เขาโพล่งถามทันทีเมื่อคยองซูก้าวผ่านมาทางเขา คยองซูไม่หยุดเดิน ไม่แม้แต่จะหยุดตอบคำถาม ด้วยความที่คนตัวเล็กรีบเดิน หนังสือสือเลยตกกระแทกพื้นเสียงดัง ซ้ำร้ายมันกระเด็นมาทางที่ที่ลู่หานกับจงอินยืนอยู่ รุ่นพี่ปีหกก้มลงไปเก็บมันขึ้นมาให้ ลู่หานมองหน้าเด็กบ้านสลิธีรินที่เขาเองก็คุ้นหน้าคุ้นตา คยองซูเม้มปาก ..และถ้าเข้าใจไม่ผิด เด็กสลิธีรินคนนี้ดูเหมือนจะมีอะไรในใจ

     

    เซฮุนไม่มาด้วย --

     

    ถือเองได้ลู่หานถูกกระตุกหนังสือไปจากมือ คยองซูพูดตัดกลางประโยคและมองสวนกลับมาอย่างไม่สนใจประโยคที่ลู่หานพยายามจะพูด นัยน์ตาเป็นประกายดุและไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย วันหลังไม่ต้องสะเออะมาช่วย สกปรก ของๆฉันเปื้อนเลือดสีโคลนหมด

     

    โดคยองซู!จงอินตะคอกเสียงดัง คำพูดเชือดเฉือนของอีกฝ่ายไม่ว่าอย่างไรก็ยอมไม่ได้ ลู่หานรีบโบกไม้โบกมือห้ามจงอินเป็นการใหญ่

     

    ใจเย็นจงอิน ไม่เป็นไรเมื่อเจ้าทุกข์ไม่ถือโทษโกรธเคืองแล้วคนนอกอย่างคิมจงอินจะทำอะไรได้ ซีกเกอร์ทีมกริฟฟินดอร์ขบกรามแน่นเป็นเชิงไม่พอใจแต่ก็แสดงออกอะไรไม่ได้มาก เพราะเลือดสีโคลนนั้นเป็นคำหยาบในโลกเวทมนตร์ที่ค่อนข้างร้ายแรง แน่นอนว่าเป็นการแสดงทัศนคติที่ดูถูกเชื้อสายของมักเกิ้ลโดยตรง ไม่ว่าใครที่โดนว่าคำนี้เข้าคงนั่งไม่ติดเก้าอี้แน่ๆ จงอินนึกนับถือลู่หานในใจที่ยังคงใจเย็นทั้งที่โดนคำพูดร้ายกาจแบบนั้นเข้าไปจังๆ

     

    หึ”​ คยองซูส่งเสียงในลำคอกับการกระทำนั้นของลู่หาน ช่างเป็นคนดีเสียจริง พรีเฟ็คบ้านสลิธีรินละสายตาจากคู่กรณีคนใหม่ก่อนจะจ้องคู่กรณีหน้าเดิมตรงๆ เห็นแววตาไม่พอใจของอีกฝ่ายแต่ทำอะไรไม่ได้ก็ยิ่งนึกสนุกขอบคุณที่ให้ดูพวกนายคัดเลือกสมาชิกเข้าทีมนะ น่าตื่นเต้นซะไม่มี

     
     

    “...”

     
     

    น่าตื่นเต้น...จนฉันแทบนับวันรอที่จะฉลองให้กับทีมสลิธีรินไม่ไหวเลยล่ะคนอย่างโดคยองซูมีใบหน้าแค่สองแบบเท่านั้น แบบแรกคือนิ่งเฉย อีกแบบหนึ่งคือส่งรอยยิ้มเย้ยหยันให้กับคู่สนทนาอย่างที่เจ้าตัวกำลังทำอยู่ในตอนนี้ ดูจากวี่แววสมาชิกที่เข้าใหม่ ท่าทางปีนี้สลิธีรินคงได้ครองแชมป์

     

    ริมฝีปากรูปหัวใจบิดเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าดูเลยสักนิดเมื่อนำมารวมกับแววตาที่แฝงความเย่อหยิ่งเอาไว้ตลอดเวลาของเจ้าตัว โดยปกติแล้วคยองซูไม่ใช่คนหาเรื่องใครง่ายๆ แต่ด้วยความหงุดหงิดบางอย่างเขาถึงได้มาต่อปากต่อคำอย่างไร้ประโยชน์อยู่ตรงนี้ ร่างเล็กหันหลังให้กับซีกเกอร์ทั้งสองเป็นการบอกลา แต่แล้วเสียงขึ้นจมูกของคิมจงอินก็รั้งความเร็วฝีเท้าของเขาเอาไว้

     

    งั้นถ้าฉันแข่งชนะคู่แรก นายต้องทำตามที่ฉันสั่งหนึ่งอย่าง

     

    ...ก่อนที่ขาสองข้างของเขาจะหยุดลง แม้จะมองจากหางตาแต่คยองซูก็พอจะรู้ว่าคิมจงอินกำลังเดินเข้ามาใกล้

     

    แล้วถ้านายไม่?”

     

    ฉันจะทำตามคำสั่งของนายหนึ่งอย่างเช่นกัน

           

    ซีกเกอร์ในชุดสีแดงกับไม้กวาดในมือเดินผ่านหน้าเขาไปพร้อมกับข้อเสนอที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจากอีกฝ่าย เมื่อคล้อยหลังไปแล้ว ร่างนั้นทำเพียงแค่หันมามองหน้าเขาครั้งหนึ่งกับรอยยิ้มแปลกตาบนใบหน้าก่อนจะก้มลงไปพูดอะไรสักอย่างกับลู่หานต่อ ทิ้งให้เขายืนอยู่ตรงอัฒจันทร์ที่มีกริฟฟินดอร์นั่งอยู่ประปราย หลายๆคนเงียบเสียงแล้วหันมามองพวกเขาอย่างสนใจ คยองซูมองจงอินที่ยังยืนกระซิบกับลู่หานไม่หยุด มือของอีกฝ่ายยังคงพาดบ่ารุ่นพี่เรเวนคลอเอาไว้อยู่เหมือนเดิม ความรู้สึกโหวงลึกๆพุ่งวาบขึ้นมาในเสี้ยววินาที คยองซูส่ายหัวน้อยๆ ก่อนที่จะดึงสติมาโฟกัสกับเรื่องตรงหน้าก่อน



    แสดงว่าเมื่อครู่ที่พนันกันไว้ทุกคนที่นี่ก็ได้ยินกันหมดเลยหรือ

     

    หมอนั่นไม่ให้โอกาสเขาปฏิเสธด้วยซ้ำ







    เช้าวันจันทร์นั้นมาถึงไวยิ่งกว่ารถไฟฮอกวอตส์ คยองซูมองตามเลือดผสมจากกริฟฟินดอร์ที่เดินทำหน้าตายังไม่ตื่นดีมานั่งข้างๆ คิมจงอินแทบจะฟุบลงกับโต๊ะในวินาทีเดียวที่ก้นติดเก้าอี้ก็ว่าได้ แต่ในวินาทีต่อมาเจ้าตัวก็ต้องลุกขึ้นมานั่งหลังตรงเพราะแรงไม่เบานักที่เตะเข้าที่เก้าอี้ทำเอาเขาตื่น

     

    คยองซูไม่พูดอะไรนอกจากใช้นัยน์ตากลมๆนั่นจ้องอีกฝ่ายเป็นเชิงติเตียน ไม่นานนักพวกเขาก็เข้าสู่ชั่วโมงปรุงยาอย่างจริงๆจังๆเสียที หนังสือสมุนไพรและเห็ดราวิเศษพันชนิดถูกยกขึ้นมาวางพร้อมกับม้วนกระดาษและปากกาขนนก เสียงของศาสตราจารย์คิมฮีชอลที่บรรยายสรรพคุณของน้ำยาเสริมกำลังที่จะต้องเรียนวันนี้ดังก้องไปทั่วคุกใต้ดิน

     

    จงอินอ้าปากหาวอย่างไม่เกรงใจ เขาไม่ชอบเรียนปรุงยา มันน่าเบื่อและยากเกินกว่าที่จะสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง เขามองไปรอบห้องเพื่อคลายความเบื่อหน่าย การเห็นแบคฮยอนนั่งหลับอยู่มุมหนึ่ง และชานยอลที่ทำหน้าเซ็งอารมณ์อยู่ข้างๆโอเซฮุนบ้านสลิธีรินทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยที่ไม่ใช่คนเดียวที่รอให้เวลาเรียนหมดไปเสียที

     

    น่าเบื่อขนาดนี้ใครชอบเรียนท่าทางจะบ้า

     

    เขาลืมไปว่าบนโลกนี้ยังมีคนบ้าเหลืออยู่

     

    พรีเฟ็คบ้านสลิธีรินที่นั่งอยู่ข้างเขากำลังนั่งตั้งใจฟังอาจารย์ฮีชอลสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ ปากกาขนนกของอีกคนตวัดไวเสียจนจงอินมองตามแทบไม่ทัน ใบหน้ามุ่งมั่นกับท่าทีตั้งใจของอีกคนทำให้จงอินเกิดความรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาเสียดื้อๆ เรื่องที่ทะเลาะกันวันก่อนยังทิ้งตะกอนอารมณ์ขุ่นมัวอยู่ในใจ จงอินเลิกหาเรื่องแกล้งคยองซูไปตลอดสุดสัปดาห์ด้วยความหงุดหงิด

     

    อยู่ๆก็พาลไปว่าลู่หาน แค่เพราะอีกฝ่ายเป็นเลือดสีโคลนเท่านั้น


    เขายอมรับว่านิสัยจุดนี้ของคยองซูเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยชอบใจเลยซักนิด แต่เขาพอจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายถูกเลี้ยงดูมาอย่างไรถึงได้มีนิสัยชอบเหยียดชนชั้นแบบนี้ เขาถอนหายใจเบาๆ มือหยุดจดอะไรซักอย่างที่ฮีชอลพูดออกมาหน้าชั้น นัยน์ตาก็เหลือบไปมองคนข้างๆที่ยังคงก้มหน้าก้มตาจดอยู่

     

    บรรยากาศระหว่างเขาสองคนกลับมาเย็นชาเสมือนคนไม่รู้จักกันอีกรอบ และจงอินก็ไม่เข้าใจอาการหงุดหงิดในใจที่เกิดขึ้นเลยซักนิด

     

    ควันและไอน้ำหลากสีลอยฟุ้งทั่วคุกใต้ดิน จงอินพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะทำน้ำยาออกมาให้ได้ตามคำสั่ง เขายังคงไม่ได้พูดอะไรกับคยองซูแม้แต่คำเดียว มีอยู่สองสามครั้งที่เขาเหลือบมองอีกฝ่ายและพบว่าคยองซูเองก็มองกลับมาเช่นกัน แต่ก็แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เขาจึงไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายเองก็อยู่ไม่สุขพอๆกัน

     

    มาหมดอะไรเอาตอนนี้จงอินครางเสียงเบา เขามองโถใส่รากขิงที่ว่างเปล่าด้วยความรู้สึกหงุดหงิดที่ทบทวีขึ้นมาอีก น้ำยาเสริมกำลังสีฟ้าอมม่วงในหม้อของเขากำลังพ่นควันจางๆออกมา เขาต้องรีบหั่นรากขิงใส่ ไม่อย่างนั้นเขาคงได้คะแนนมาประดับอีกตัว

     

    คยองซูลุกขึ้น ดูเหมือนจะไปหยิบส่วนผสมของผงอะไรซักอย่าง โถใส่รากขิงของเจ้าตัววางเด่นอยู่บนโต๊ะ ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จงอินเอื้อมมือไปคว้ามันมา เทรากขิงออกมาสามสี่อัน พอดีกับที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของคยองซูเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ โถใส่วัตถุดิบที่ควรจะไปสถิตอยู่ที่เดิมเลยถูกวางอย่างเร่งรีบไว้บนพื้นข้างตัวเขา หลบสายตาของคยองซู

     

    จะให้คยองซูรู้ได้ไงว่าเขาแอบหยิบของอีกฝ่ายมาใช้ ยิ่งตอนอึมครึมแบบนี้ยิ่งไม่ควรให้รู้เข้าไปใหญ่

     

    จงอินทำเป็นสับรากขิงอย่างใจเย็น กวาดมันลงจากเขียง น้ำยาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีฟ้าธรรมดา เขาพยายามอย่างหนักในการควบคุมกล้ามเนื้อกระบอกตาไม่ให้หันไปทางอีกฝ่าย ผ่านไปซักพัก เขาเริ่มรู้สึกได้ว่าคยองซูกำลังหยิบอะไรวุ่นวายอยู่ข้างๆเขา คนตัวสูงกว่าเหลือบมอง และพบว่าคยองซูกำลังไล่ดูวัตถุดิบปรุงยาของตัวเองด้วยหัวคิ้วขมวดมุ่น ริมฝีปากรูปหัวใจเม้มแน่น จงอินรีบหันกลับมาใส่ใจน้ำยาของตัวเองต่อ หัวใจเต้นโครมครามด้วยความรู้สึกผิด

     

    ถ้าพระเจ้าเข้าข้างเขา ขอให้คยองซูเดินไปหาวัตถุดิบเพิ่มที่ตู้ปรุงยาเถอะ เขาจะได้วางไอ้โถบ้านี่คืนที่ไปซะ

     

    นาย

     

    ครับจงอินสะดุ้งโหยง เผลอตอบรับด้วยคำสุภาพเกินไปนิดหน่อย คยองซูมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด เจ้าตัวยื่นหน้าเข้ามาใกล้ นัยน์ตาโตจ้องเขาชนิดที่ว่าแทบไม่กะพริบตา จงอินหยุดหายใจไปซักสองสามวินาทีเมื่ออีกฝ่ายเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้อีก

     

    เอาคืนมาประโยคนั้นเรียบนิ่ง ไม่มีการกล่าวโทษใดๆ เหมือนคนพูดพูดกับกำแพงแกล้งวิธีนี้ไม่ตลก

     

    จงอินหยิบโถบนพื้นมาวางที่เดิม พยายามข่มความรู้สึกขุ่นมัวที่เกิดขึ้นในอก เขาไม่ได้แกล้งคยองซู แค่ยืมวัตถุดิบมาใช้แล้วไม่ได้คืน อีกฝ่ายก็ตีความไปแล้วว่าเขาจงใจกลั่นแกล้ง

     

    เขาดูเป็นคนไม่ดีขนาดนั้นเลยหรือไง

     

    อย่าลืมล้างโถนะจงอินว่า มือก็กลับมาคนน้ำยาต่อแตะทับรอยเลือดผสมเดี๋ยวก็ผื่นขึ้นหรอก

     

    เสียงมีดที่กำลังหั่นรากขิงหยุดชะงัก คยองซูกัดริมฝีปาก มาตรวัดความขุ่นเคืองในใจพุ่งสูงขึ้นไปอีก ดูท่าทางแล้วคิมจงอินคงเก็บเรื่องที่เขาว่าลู่หานเอามาเจ็บใจอยู่ไม่น้อย จากหางตา เขาเห็นสีหน้ากวนประสาทของจงอินลอยเด่นขึ้นมา มีความผิดติดตัวแท้ๆยังกล้าพูดจาถากถางเขา

     

    ทนหายใจร่วมโลกกันได้มาตั้งนาน แค่นี้ไม่เป็นไรคยองซูตอบกลับนิ่งๆ เขากวาดรากขิงลงหม้อดีบุก น้ำยาเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำทะเลทันทีแต่ถ้าเลือกได้ ไม่มีคนอย่างพวกนายคงดีกว่า

     

    คยองซูหันกลับไปสบตาจงอินตรงๆ ใส่ความเหยียดหยามลงไปในสายตาให้ได้มากที่สุด เขายังคงหงุดหงิดจงอินค้างอยู่ ด้วยสาเหตุอะไรเขาเองก็ไม่มีทางรู้ได้ จงอินมองตอบกลับมา คิ้วเข้มขมวดมุ่น คนตัวเล็กยิ้มเย็นๆให้อีกทีหนึ่งก่อนที่จะหันกลับมาตวงน้ำยาใส่ขวดแก้วของตัวเอง พอดีกับที่ระฆังดังขึ้น คยองซูเดินกลับมากวาดข้าวของลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วและเดินตรงไปหาโอเซฮุน เพื่อนร่วมบ้านสลิธีริน

     

    ในใจของจงอินร้อนวาบขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุตอนที่เห็นคยองซูก้มลงไปกระซิบข้างหูสลิธีรินหัวทองทรงแสกกลางคนนั้น เซฮุนพยักหน้าแล้วจัดการตวงน้ำยาสีฟ้าอมเขียวใส่โถ ในระหว่างที่เซฮุนเดินไปส่ง คยองซูก็กวาดข้าวของของเพื่อนใส่กระเป๋าแทน จงอินแอบเห็นว่าชานยอลที่นั่งข้างๆเซฮุนพยายามชวนคยองซูคุย แน่นอนว่าไม่ได้ผล

     

    ปกติคยองซูไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับเซฮุน หรือทำอะไรที่เหมือนเพื่อนปกติเขาทำกันแบบนี้

     

    เขาชินกับการที่คยองซูทำตัวไม่มีเพื่อน แต่เขาก็พอจำได้ว่าโอเซฮุนเป็นหนึ่งในบุคคลที่คยองซูเรียกว่าเพื่อน ถึงแม้จะไม่ค่อยเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันก็ตาม ชานยอลเคยบอกเขาว่าถ้านับๆดูแล้ว วันๆหนึ่ง คนที่คุยกับคยองซูมากที่สุดอาจจะเป็นจงอินก็เป็นได้ (รองลงมาน่าจะเป็นพวกศาสตราจารย์เวลาถามคำถาม)

     

    แต่ที่แน่ๆ เขาเกลียดความรู้สึกประหลาดๆในอกที่รบกวนเขาชะมัด ให้ตายเถอะ

     



     

     

    อากาศข้างนอกไม่ค่อยน่าพิสมัยนัก ลมแรงพัดตีหน้าจนเขารู้สึกหนาว ปลายเดือนกันยายนที่อากาศยังคงค้างความอึมครึมอยู่นั้นไม่ค่อยเหมาะกับควิดดิชเท่าไหร่ ฤดูกาลแรกของควิดดิชมาถึงไวกว่าปีก่อนๆ จงอินในชุดเสื้อคลุมควิดดิชนั่งฟังกัปตันทีมจงฮยอนเรียกประชมกลยุทธ์ครั้งสุดท้ายก่อนแข่งอยู่ในห้องแต่งตัว เสียงฝูงชนข้างนอกดังหึ่งๆลอดผนังเข้ามา แบคฮยอนนั่งใส่ถุงมือเข้าๆออกอยู่ข้างๆด้วยความตื่นเต้น

     

    ทีมใหม่ของพวกเขาหน้าตาพอใช้ได้ น่าจะฟาดฟันกับสลิธีรินได้พอฟัดพอเหวี่ยง จงฮยอน มุนคยู และซูจองซึ่งเป็นสมาชิกใหม่เป็นเชสเซอร์ (คนหลังบอกว่าอยากลองเล่นซักปีดู) บีตเตอร์มีแบคฮยอน และสมาชิกใหม่ แจฮยอน เด็กปีสาม คีปเปอร์เองก็เป็นสมาชิกใหม่ แทยง เด็กปีสาม และซีกเกอร์ ซึ่งก็คือเขา

     

    ส่วนฝั่งสลิธีริน เขารู้ตำแหน่งเพียงแค่ว่าคริสเป็นกัปตันทีม ตำแหน่งเชสเซอร์ที่ใช้รูปร่างเป็นตัวข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม และแทมิน เพื่อนสมัยเด็กของเขาเป็นซีกเกอร์ นอกจากนั้นเขาก็แทบไม่รู้ข้อมูลอะไรอีกเลย

     

    ตำแหน่งของฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนไปนิดหน่อย เพราะพวกนั้นรับเด็กใหม่เข้ามาจงฮยอนก้มลงมองกระดาษในมือแล้วขมวดคิ้วมีคีปเปอร์ใหม่เป็นเด็กปีสอง ส่วนบีตเตอร์เป็นเด็กปีสาม เราไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนั้น อย่าลืมกลยุทธ์ที่ซ้อมกันเอาไว้

     

    รู้แล้วน่าแบคฮยอนว่าได้เวลาหรือยัง อยากหวดบลัดเจอร์แล้ว

     

    ห้าวมาเลยจงอินหัวเราะแล้วลุกขึ้นตบบ่าเพื่อนนัดนี้ขออย่าง ต้องชนะนะ

     

    ถึงพี่ไม่บอกก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่แจฮยอนแทรกขึ้นมา ตลอดการซ้อมสองสามครั้งที่เหลือสมาชิกใหม่ปรับตัวเข้าได้โดยง่าย แทบไม่มีปัญหาอะไรกับการฝึก จงอินตบบ่ารุ่นน้องแล้วบุ้ยใบ้หัวออกไปข้างนอก

     

    ถึงเวลาแล้ว ไปกันสมาชิกหญิงคนเดียวของทีมพูดขึ้นมา ซูจองรวบผมขึ้นเป็นมวย ใบหน้าซีดขาวด้วยความตื่นเต้น จงอินเองก็รู้สึกได้ถึงอาการปวดท้องนิดหน่อยที่มักจะมาทุกครั้งก่อนเริ่มแข่ง เขานึกถึงหน้าคู่อริ ก่อนที่ความรู้สึกรุนแรงในใจบางประการจะเริ่มก่อตัว

     

    เขาต้องชนะ ไม่ใช่แค่เพื่อหักหน้าคยองซู แต่เพื่อกริฟฟินดอร์


    ท้องฟ้าเป็นสีเทาอึมครึม ถึงแม้อากาศจะไม่สู้แจ่มใสนัก เสียงเชียร์ในสนามยังคงคึกคักเหมือนที่เคยเป็นมา มาดามยูริร้องสั่งให้กัปตันทีมของแต่ละฝ่ายจับมือกัน อาจารย์ประจำวิชาควิดดิชนั้นเป็นกรรมการในการแข่งขันทุกครั้ง จงฮยอนและคริสเดินออกมา ต่างฝ่ายต่างยื่นมือออกมาจับกันโดยสีหน้าไร้ความรู้สึก จงอินเหลือบไปทางอัฒจันทร์ที่เต็มไปด้วยสีเขียวเงิน แน่นอนว่าเขาหาคู่อริตัวเล็กไม่เจอ แต่แค่คิดว่าถ้าเขาชนะแล้วอีกฝ่ายจะทำหน้ายังไงเขาก็มีกำลังใจขึ้นมาแล้ว

     

    เสียงนกหวีดดังขึ้นพร้อมกับเสียงเฮดังสนั่น จงอินเหวี่ยงขาข้ามไม้กวาดและถีบตัวเองขึ้นไปในอากาศ ผู้เล่นสิบสี่คนแตกกระจายไปทั่วสนาม จงอินบินเป็นวงกว้างรอบสนาม สายตาก็สอดส่ายหาลูกสนิช เบื้องล่าง ผู้บรรยายควิดดิชจากบ้านฮัฟเฟิลพัพกำลังเริ่มรายงาน

     

    เริ่มแล้วนะครับสำหรับควิดดิชในฤดูกาลแรกของฮอกวอตส์คิมจงแดจากฮัฟเฟิลพัพบรรยาย จงอินเห็นแว่นกลมๆที่อีกฝ่ายใส่เด่นขึ้นมาจากเบื้องล่างตอนนี้ลูกควัฟเฟิลอยู่ที่เจสสิก้า ผู้เล่นจากสลิธีรินนะครับ นอกจากเซนส์ทางแฟชั่นที่เยี่ยมยอดแล้วยังจะเล่นควิดดิชเก่งอีก ผมนี่ถึงกับยืน -- โอ๊ย ศาสตราจารย์โบอาอย่าตีสิครับ

     

    จงอินได้ยินเสียงคนดูหัวเราะ เขาบินหักลงข้างล่างเพื่อหลบลูกควัฟเฟิลที่แอมเบอร์ บีตเตอร์สาวจากสลิธีรินตีใส่เขา เธอยิ้มกว้างให้และยักไหล่ ก่อนที่จะพุ่งไปตีลูกบลัดเจอร์อีกลูกใส่ร่างในเสื้อคลุมสีแดงที่บินผ่านมา จงอินได้ยินเสียงหนักๆดังขึ้น เขาหันกลับไปดู และพบว่าลูกบลัดเจอร์อัดเข้าใส่ซูจองพอดี เธอแยกเขี้ยวใส่คนตีลูก แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรมาก

     

    แอมเบอร์นี่เป็นบีตเตอร์ที่พลังแขนหนักแน่นจริงๆนะครับเสียงจงแดดังก้องไปสนาม จงอินยังคงเหลียวไปรอบๆเพื่อหาลูกสนิชอยู่ตอนนี้ควัฟเฟิลอยู่ที่จงฮยอนนะครับ เขาบินข้ามสนาม ผ่านคีย์ที่พยายามสกัดนะครับ -- แต่ไม่สำเร็จ บลัดเจอร์มาจากแอมเบอร์นะครับ -- อา แล้วก็พลาดไป จงฮยอนตรงมาใกล้ประตูขึ้นเรื่อยๆนะครับ -- โอ้ คริสพุ่งตรงมาครับ ท่าสวยมาก และเสียงกรี๊ดเองก็ดังมากเหมือนกันครับ

     

    จงอินเงี่ยหูฟังเท่าที่ทำได้ เสียงกรี๊ดจากแฟนคลับสาวๆของคริสดังกลบเสียงเชียร์ โชคไม่ดีที่ฝนจางๆเริ่มโปรยปรายลงมา เขาถอนหายใจ ก่อนที่ร่างเขียวๆจะพุ่งตรงมา แทมินโบกมือให้เขา ซีกเกอร์จากสลิธีรินทะยานหายไปอีกฝั่งหนึ่ง

     

    จงฮยอนถึงหน้าประตูแล้วครับ คีปเปอร์จะตั้งรับไหวไหม -- โอ้ นั่น เขาทำคะแนน!! กริฟฟินดอร์สิบต่อศูนย์ครับ!!

     

    เสียงเฮดังลั่นทำเอาจงอินแก้วหูแทบแตก แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เขามองหาจงฮยอนที่ชูกำปั้นอยู่ในท้องฟ้าสีเทา ควัฟเฟิลถูกส่งกลับไปยังคริสที่บินผ่านไปด้วยความเร็วสูงเสียจนมองเห็นเป็นเงาสีเขียวลางๆ

     

    “-- คริสได้ลูกนะครับจงแดตะโกนแทรกผ่านเสียงเฮขึ้นมาเขาส่งลูกให้คีย์นะครับ ก่อนที่คีย์จะสไลด์ -- เอ๊ย ส่งลูกไปยังเจสสิก้า ไหลไปแล้วครับ! กัปตันคริสพุ่งมารับลูกอีกหน เขาหลบบลัดเจอร์จากแบคฮยอนได้ -- เฉียดไปนิดเดียว

     

    จงอินหลุดขำพรืดออกมา จงแดเป็นพ่อมดเลือดผสม ไม่แปลกเลยที่อีกฝ่ายจะหลุดคำพากย์ที่เป็นสไตล์ของเกมฟุตบอลขึ้นมา

     

    คริสไปยาวเลยครับ! เขาพุ่งไปหน้าประตู -- และ -- เขาทำคะแนน! สิบต่อสิบนะครับ ลูกกลับมายังซูจองนะครับ เชสเซอร์หน้าใหม่จากกริฟฟินดอร์ -- น่าเสียดาย เจสสิก้าพุ่งเข้ามาสกัดกะทันหันนะครับ พี่น้องคู่นี้ดุเดือดจริงๆครับ -- ลูกควัฟเฟิลตกเป็นของสลิธีรินนะครับ

     

    จงอินเห็นแสงสีทองอยู่ที่เสาฝั่งสลิธีริน เขาหักเลี้ยวกลางอากาศกะทันหัน สายลมผ่านอากาศไปเป็นเสียงหวัดหวิว -- ลูกสนิชกระพือปีกสีเงินอยู่ ก่อนที่เขาจะไปถึง มันก็หายไป จงอินคำรามและพุ่งลงต่ำอย่างไร้จุดหมาย

     

    บอล -- เอ๊ย ควัฟเฟิลเปิดยาวไปนะครับ มีบลัดเจอร์สวยๆจากแบคฮยอนอีกหนึ่งลูก กระแทกแอมเบอร์เข้ากลางหลัง -- เจ็บน่าดูจงแดพากย์ต่อ เสียงเชียร์ผสมคำรามด้านหลังยังดังลั่นอยู่เป็นอันว่าเปิดฤดูกาลมาได้ตื่นเต้นสุดๆ ซูจองได้ลูกนะครับตอนนี้

     

    จงอินยังคงสอดส่ายไปทั่วสนามเพื่อหาควัฟเฟิล เกมค่อยๆเดือดขึ้นเรื่อยๆ ซูจองกับมุนคยูผลัดกันทำคะแนนอีกคนละประตู แต่สลิธีรินนั้นทำไปได้อีกสี่ประตู โดยฝีมือของคริสถึงสามลูก จงอินบินหลบบลัดเจอร์อีกรอบ ฝนค่อยๆตกหนักขึ้นจนกองเชียร์ด้านล่างกลายเป็นร่มหลากสีสันแทน

     

    แทยง คีปเปอร์ของกริฟฟินดอร์รักษาประตูไว้ได้ ก่อนที่เขาจะขว้างลูกให้จงฮยอน จงอินก้มลงมองฝูงชนเบื้องล่าง เขาบินอยู่ในระดับต่ำเพื่อมองหาลูกสนิช ใบหน้าขาวเผือดที่ลอดผ่านร่มสีดำขึ้นมานั้นเตะตาเขา จงอินเสยผมที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนขึ้นและยิ้มยั่วอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าโดคยองซูจะเห็นเขาไหม

     

    เขาหลบบลัดเจอร์อีกหน เกมการแข่งขันผ่านไปอีกห้านาทีโดยที่ไม่มีทีมไหนทำประตูได้เลย ตอนนี้คะแนนอยู่ที่สามสิบต่อห้าสิบ ยังเหลือเวลาอีกมากที่จะตามทัน

     

    ทัศนวิสัยไม่ค่อยดีนะครับว่าไหมผู้บรรยายแทรกขึ้นมา จงอินกลอกตา ข้อนี้ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ตอนนี้ควัฟเฟิลอยู่ที่คีย์นะครับ เปิดไปแล้วคราวนี้ -- จงฮยอนสกัดมาได้ เขาพุ่งข้ามสนามไปนะครับ ผ่านคริส ผ่านบลัดเจอร์จากเจโน่ -- ยิงเลยครับ ยิง!

     

    เสียงโห่ร้องจากฟากกองเชียร์สีแดงและทองทำให้จงอินรู้ว่าการยิงเข้านั้นประสบผลสำเร็จหรือไม่ จงอินตัดสินใจเร่งความเร็วขึ้นตามแทมิน เขาประกบติดอีกฝ่าย ซีกเกอร์ทั้งสองเหาะไปรอบสนาม มองหาลูกสนิชที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะเจอ

     

    คีปเปอร์ของสลิธีรินป้องกันประตูได้อีกสองครั้ง จงอินเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ฝนยังคงตกหนักอยู่ มีบลัดเจอร์ส่งตรงมาให้เขาอีกสองลูก (แต่แน่นอนว่าจงอินหลบได้) ตอนนี้คะแนนขึ้นเป็นเจ็บสิบต่อเจ็ดสิบ เสมอกันทั้งสองฝ่าย เขาควรจะรีบปิดเกมให้ได้ไวๆ ก่อนที่จะป่วยหนักกันทั้งโรงเรียน

     

    ยังคงสูสีกันนะครับ จังหวะนี้ ควัฟเฟิลอยู่ที่ -- อา ควัฟเฟิลร่วงนะครับ คริสพุ่งไปรับและทะยานไปอีกหน เรามาดูกันครับว่าจะทำคะแนนได้ไหม -- ผ่านซูจอง -- ผ่านมุนคยู เข้าซ้าย ! ยิงอัดไปแล้วครับ! แต่น่าเสียดายที่แทยงป้องกันประตูไว้ได้ -- ซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์ดูเหมือนจะเห็นสนิช! จงอินพุ่งไปเร็วจนมองแทบไม่ทัน -- แทมินเองก็พุ่งตามไปนะครับ

     

    ถูกอย่างที่จงแดพากย์ เขาเห็นสนิชแล้ว สายสีทองในอากาศหม่นมัววาบขึ้นยังประตูเสาที่อีกฟากของสนาม โชคดีที่เขาและแทมินอยู่ห่างจากลูกสนิชทั้งคู่ จงอินก้มตัวต่ำ เสียงหวีดหวิวในหูกลบเสียงอื่นจนหมดสิ้น แสงสีทองใกล้เข้ามา และเขาก็รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าแทมินเองก็ตามหลังมาติดๆ

     

    เงาดำๆบิดผ่านหน้าไป จงอินเสียการทรงตัวจนต้องหักหลบกะทันหัน เขาหมุนตัวกลางอากาศเพื่อเช็คว่าคู่แข่งได้ลูกสนิชไปหรือไม่ เสียงโห่ดังลั่นสนามที่จงอินถูกสกัดจากเชสเซอร์สลิธีริน คีย์หันมายิ้มมุมปากให้เขา ก่อนที่เจ้าตัวจะบินกลับไปร่วมเกมตามเดิม จงอินสบถ เขาไม่ได้บาดเจ็บหรือถูกชน ดังนั้นจึงไม่ถือว่าฟาวล์

     

    ยังดีที่แทมินไม่ได้ลูกสนิชไป

     

    “-- พลาดไปเสี้ยววินาทีนะครับกับสนิชเมื่อครู่ น่าเสียดายจริงๆเสียงพากย์ยังตามมาให้เจ็บใจเล่นตอนนี้ควัฟเฟิลอยู่ที่คริสนะครับ แล้วก็อยู่ที่เจสสิก้า -- ซูจองพุ่งมาตัดลูกไปจากทางซ้าย ฉับไวจริงๆครับ

     

    ฝนตกถี่ขึ้นเรื่อยๆ จงอินพยายามดิ่งลงสู่พื้นสนามเพื่อทำมุกหลอกรอนสกี้ เผื่อๆแทมินจะพุ่งตามเขาลงมาแล้วเอาหน้ากระแทกสนามบ้าง แต่ก็ไร้ผล แต้มเพิ่มเป็นหนึ่งร้อยต่อหนึ่งร้อยสิบ สลิธีรินยังคงนำเกมอยู่

     

    ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว -- ควัฟเฟิลร่วงลงพื้นไปนะครับจงแดว่า เสียงของนักพากย์เริ่มมีแววของการเจ็บคอ เสียงเชียร์เบื้องล่างยังคงดังสนั่นควัฟเฟิลกลับไปที่คริส -- มีบลัดเจอร์แถมมาให้จากทางซ้าย กระแทกเข้าไปเต็มๆ แต่คริสยังไม่ปล่อยง่ายๆครับ เขาส่งกลับไปให้คีย์ -- ที่บินตรงไปยังประตู สลิธีรินจะทำประตูได้อีกหรือไม่

     

    เสียงโห่ผสมกับเสียงเฮดังลั่น แทยงป้องกันประตูไว้ได้ กัปตันทีมกริฟฟินดอร์ขว้างลูกกลับไปให้เชสเซอร์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว จงอินหลบบลัดเจอร์ที่หันมาสนใจเขาอย่างกะทันหัน เขาตีลังหาอย่างไม่น่าดูนัก แต่ก็พอเอาตัวรอดจากอาการจุกเพราะโดนบลัดเจอร์อัดไปได้

     

    เกมดำเนินต่อไปอีกสิบนาที จนกระทั่งเขาเห็นแทมินพุ่งปราดไปยังเสาต้นหนึ่ง เสียงลมครางหวีดหวิวอยู่ในหู จงอินหัวใจเต้นโครมครามเมื่อเห็นลูกกลมๆกระจิดริดแวบอยู่ตรงนั้น เขาหักเลี้ยวกะทันหัน เร่งความเร็วสูงสุดเพื่อถีบตัวเองไปข้างหน้า แทมินยังนำเขาอยู่เกือบห้าเมตร แต่ทั้งคู่ยังไม่มีใครถึงสนิช

     

    เขาเร่งความเร็วจนทันแทมิน ซีกเกอร์ทั้งสองต่างจดจ่ออยู่กับสนิชที่บินแวบไปมา จงอินพยายามห้ามความรู้สึกอยากเอาศอกถองอีกฝ่ายเอาไว้ ทางซ้ายของเขา แทมินเอื้อมมือออกมา จงอินเองก็เอื้อมมืออย่างสุดกำลังเช่นกัน ทุกเสียงในสนามเหมือนจะเงียบลงไปทั้งหมด จงอินกัดฟันจนรู้สึกร้าวไปทั้งแก้ม และสัมผัสเย็นๆของสนิชในมือก็เป็นตัวบอกถึงชัยชนะ จงอินปล่อยให้ความเร็วของไม้กวาดวูบลง หูของเขากลับมารับรู้เสียงได้เหมือนเดิม ในสนามมีเสียงเฮดังสนั่นหวั่นไหว

     

    สองร้อยห้าสิบต่อหนึ่งร้อยสิบนะครับ!! -- เป็นนัดเปิดฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นสุด และก็เปียกสุดๆด้วยเช่นกันเสียงคนพากย์แหวกเสียงเฮของกริฟฟินดอร์ออากมาอย่าลืมเช็ดผมให้แห้ง เดินทางเข้าปราสาทโดยสุขภาพ สวัสดิภาพ ขอบคุณครับ

     

    กองเชียร์สีแดงและทองต่างกระเพื่อมเป็นคลื่นอยู่ท่ามกลางสายฝน ผู้เล่นทีมกริฟฟินดอร์ต่างรุมล้อมกันเข้ามาหาซีกเกอร์ที่ชูสนิชไว้ในมือ จงอินหัวเราะร่า เขาไม่ได้มองกองเชียร์กริฟฟินดอร์ ผู้ร่วมทีม หรือสีหน้าของคู่แข่งเลยซักนิด

     

    แต่สายตาของเขากลับมองเข้าไปในกลุ่มกองเชียร์สลิธีรินที่เริ่มลุกขึ้น บางส่วนก็ยังส่งเสียงโห่อยู่ เขามองไม่เห็นคยองซูแล้ว แต่อะไรบางอย่างในใจบอกให้เขาเดินไปยังอัฒจันทร์สีเขียวเงินทันทีที่เท้าแตะพื้นดิน

     

    เขาชนะ และสัญญาต้องเป็นสัญญา

     

    คิมจงอินลงมาจากไม้กวาดพร้อมกับรอยยิ้มแห่งชัยชนะ แต่แทนที่เขาจะไปหาเพื่อนๆที่ยืนรอแสดงความยินดีกันตรงอัฒจันทร์ของบ้านกริฟฟินดอร์ คิมจงอินกลับตรงไปที่อัฒจันทร์ของสลิธีรินแทน สายฝนที่ยังคงโปรยปรายทำให้คยองซูต้องกระชับร่มสีดำในมือแน่น เขาลงมาจากอัฒจันทร์แล้ว และตั้งใจว่าจะเดินเข้าตัวปราสาทให้ไวที่สุด

     

    แน่นอนว่าคนที่มองอากัปกิริยาของจงอินอยู่ตั้งแต่แรกอย่างคยองซูจะต้องเห็นภาพการมาเยือนของคิมจงอินอยู่แล้ว สีแดงบาดตาของเสื้อคลุมที่เจ้าตัวใช้ลงแข่งนั้นทำให้ซีกเกอร์จากกริฟฟินดอร์โดดเด่นเข้าไปอีก เพราะเด็กบ้านสลิธีรินเลือกที่จะใส่เสื้อผ้าโทนสีดำเขียวกันเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งร่างใต้เสื้อคลุมสีแดงนั่นเข้ามาใกล้เท่าไร คยองซูก็ยิ่งรู้สึกประหม่ามากขึ้นเท่านั้น อย่างแรกคือมันน่าแปลกที่คนอย่างโดคยองซูที่ขนาดเด็กสลิธีรินด้วยกันเองยังไม่กล้าเสวนาด้วย กลับมาคบค้าสมาคมกับคนที่ขึ้นชื่อว่าแค่เห็นหน้าก็รู้สึกกริฟฟินดอร์แล้วอย่างคิมจงอิน และอย่างที่สอง...เขายังจำข้อเสนอที่ตกลงไว้กับคิมจงอินได้ดี และนั่นทำให้คยองซูเผลอใช้เล็บจิกเสื้อคลุมของตัวเองด้วยแรงที่ไม่เบานัก

     

    ตามสัญญาใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มมาตลอดทางยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปอีกราวกับได้ของเล่นใหม่เมื่อมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคยองซู ทำเอาพรีเฟ็คจากสลิธีรินพาลรู้สึกหมั่นไส้อีกฝ่ายเสียดื้อๆ ยิ่งเห็นคิมจงอินพอใจกับผลการแข่งขันเขาก็ยิ่งอยากจะขัดใจนัก แต่เพราะสัญญาที่ให้ไว้แล้วโดคยองซูจึงทำได้แค่พยักหน้ากลับไป และเช่นเคย...ใบหน้าเรียบเฉยนั้นไม่ได้แฝงความเต็มใจไว้เลยสักนิด

     

    คิมจงอินจงใจมองข้ามสีหน้านกฮูกป่วยของคยองซูไป สีหน้าอยากรู้อยากเห็นจากกลุ่มสลิธีรินข้างหลังเด่นชัด และมันก็ไม่ได้กระทบอะไรกับความตั้งใจของเขา เขาอารมณ์ดีเกินกว่าที่จะสนใจว่าคยองซูนั้นเต็มใจกับสิ่งที่เขาจะให้อีกฝ่ายทำหรือไม่ เพราะอย่างไรสุดท้ายฝ่ายนั้นก็ต้องทำตามคำสั่งของเขาอยู่ดี ยิ่งนึกถึงใบหน้าที่โดนขัดใจของคุณหนูตระกูลโดเขายิ่งรู้สึกสนุก คนขี้แกล้งยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนจะเอ่ยเบาๆเพียงให้ได้ยินกันแค่สองคน

     

    นายต้องไปฮอกส์มี้ดส์กับฉันคำสั่งของอีกฝ่ายทำให้คยองซูประหลาดใจนิดหน่อย มันไม่ใช่คำสั่งที่ยากเกินความสามารถของเขา ไม่ได้เป็นคำสั่งที่ทำให้เขาต้องขายหน้าต่อหน้าคนอื่นอย่างที่เขาเคยคิดเอาไว้ แต่ถ้าถามว่ามันน่าอายมั้ย ยอมรับเลยว่าคยองซูก็แอบรู้สึกหน้าร้อนอยู่หน่อยๆเหมือนกัน การเที่ยวไปไหนมาไหนกับคนที่เกลียดขี้หน้าที่สุดไม่ใช่เรื่องที่คนปกติทั่วไปเขาทำกันนัก และคิมจงอินกำลังขอให้เขาทำแบบนั้น

     

    เมื่อไหร่คำตอบรับกลายๆนั่นเรียกรอยยิ้มบนหน้าของคิมจงอินให้กว้างเข้าไปอีก

     

    นายไม่ได้ติดตามข่าวสารของฮอกวอตส์เลยหรือไง? สุดสัปดาห์ของต้นเดือนตุลาจงอินยังไม่วายแขวะคยองซูจนได้อย่าลืมไปลงชื่อ ถ้านายทำเป็นลืมลงชื่อ ข้อเสนอใหม่ที่แย่กว่านี้จะได้มาเสิร์ฟให้นายแน่นอน

     

    คยองซูทำหน้าบึ้งใส่ จงอินหันหลังกลับไป คนตัวสูงตบบ่าซีกเกอร์ของสลิธีรินที่ยืนอยู่หน้าอัฒจันทร์ อีแทมิน นักเรียนปีห้า อยู่ร่วมบ้านกับเขา คยองซูไม่เคยคุยกับอีกฝ่าย แต่รู้แค่ว่าแทมินรู้จักกับจงอิน (และนั่นก็ทำให้เขาหงุดหงิดนิดหน่อย) แทมินเป็นเลือดผสมที่มีทัศนคติในทางบวกกับมักเกิ้ล (นั่นทำให้เขาหงุดหงิดสุดๆ)

     

    แทมินหัวเราะกับอะไรบางอย่างที่จงอินพูด ก่อนที่ทั้งสองคนจะกอดกัน คยองซูเม้มปากแน่น เขาหันหลังเดินเข้าสู่ตัวปราสาททันที วันนี้โอเซฮุนไม่มาดูควิดดิชด้วยเหตุผลที่ว่าอยากนอนมากกว่าอยากดูพวกงี่เง่าชุดแดงบนไม้กวาดลอยไปมา เขาเลยต้องเดินคนเดียวในระหว่างทางกลับปราสาท แต่ก็อย่างว่า เขาไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับข้อเท็จจริงนี้นัก


                สุดสัปดาห์หน้าเขาคงได้มีเรื่องเดือดร้อนแน่ๆ






    * ชี้แจง
    จากความเห็นที่ 225 นะคะ ที่ว่าด้วยเรื่องของพรีเฟ็คหักคะแนนได้หรือไม่ได้




    อ้างอิงจากข้อมูลของ http://harrypotter.wikia.com/wiki/Prefect นะคะ ที่ว่าด้วยเรื่องการหักคะแนนของพรีเฟ็ค

    '
    Prefects are allowed to take House points away from students in their own house, but they are not allowed to take points from or other prefects. Prefects can give detentions as a form of punishment.'

    พรีเฟ็คสามารถหักคะแนนนักเรียนในบ้านของตัวเองได้ค่ะ แต่ไม่สามารถหักจากนักเรียนบ้านอื่นได้ ในขณะเดียวกัน พรีเฟ็คสามารถสั่งกักบริเวณได้ค่ะ

    ถ้าหากอ้างอิงจาก
    จากบทที่สิบเจ็ด เล่ม 5 หน้า 755 ตอนที่มัลฟอยกำลังจะหักคะแนนจากกริฟฟินดอร์และฮัฟเฟิลพัฟ หลังจากที่ได้รับตำแหน่งเป็น “หน่วยสอบสวน” เออร์นี่ มักมิลลันซึ่งเป็นพรีเฟ็คของฮัฟเฟิลพัฟ กล่าวแย้งมัลฟอยว่า “มีแต่อาจารย์เท่านั้นที่จะหักคะแนนจากบ้านต่างๆได้ มัลฟอย” - แต่ในกรณีนั้น มัลฟอยถูกแต่งตั้งเป็นหน่วยสอบสวนจากอัมบริจด์ จึงมีสถานะพิเศษ หักคะแนนจากนักเรียนบ้านอื่นได้

    แต่ในหนังสือเล่ม 2 บทที่เก้า หน้า 193-194 ในจังหวะที่แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ออกมาจากห้องน้ำของเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ เพอร์ซี่ในตอนนั้นเป็นพรีเฟ็คเดินตรวจมาพบและหักคะแนน 5 คะแนนจากกริฟฟินดอร์ค่ะ


    และเล่ม 5 หน้าที่ 244 บทสี่สิบ เดรโกขู่แฮร์รี่ว่าจะสั่งกักบริเวณ และเสริมว่าตัวเองมีอำนาจที่จะสั่งลงโทษได้ค่ะ

    ดังนั้นในเรื่องนี้คยองซูจะสามารถสั่งกักบริเวณจงอินได้และซูจองสามารถหักคะแนนจงอินได้ค่ะ ตามที่เขียนไว้ข้างต้น
    ยังไงก็ขอบคุณที่ชี้แนะจุดผิดพลาดนะคะ 


    ------------------------ 100% -------------------------------

    ตอนนี้แต่งแบบเหนื่อยหอบมาก
    สารภาพว่าก่อนแต่งควิดดิช อีนี่บิ๊วอารมณ์ด้วยการนั่งดูพี่เอก ฮรก. เล่นฟีฟ่า แล้วก็เล่นฟีฟ่าเองซักรอบสองรอบ
    จังหวะนี้นะครับ -- ยังงงง
    จะว่าไป ก็พูดถึงไฟนอลมาหลายรอบแล้วนะคะ พูดแล้วพูดอีก แต่มันก็ยังไม่จบซักทีค่ะ
    ทำไมโม่งหนึ่งยังไม่เป็นไท อีบ้า นี่น้องจะเป็นบ้า น้องอยากกินบิงซู

    สปอยนินุง -- ตอนหน้าจะได้นั่งตบโต๊ะ ตีเข่าคนข้างๆ เนื่องจากมีอะไรอิ๊อะ โอเค ไม่สปอยและ ฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    อ้อ ละก็ แท็กฟิคคือ #ฟิคคนที่คุณก็รู้ว่าไค นะคะ มีคำว่าฟิค นี่ไปเจอแท็ก #คนที่คุณก็รู้ว่าไค แล้วอึ้งเลย มาซ่อนในนี้นี่เอง ก็นึกว่าแท็กน้อย 55555555555555555555555555555555555555555555

    โอเก เจอกันตอนหน้าค่า

    โม่งเดอะเฟิร์ส



    - - - - -


    ตอนนี้ยาวมากแบบมากกกกกก อย่างกับแม่น้ำแยงซีเกียงต่อด้วยแม่น้ำไนล์อีกที
    ครึ่งแรกหน่วงกันไปแล้ว ครึ่งหลังพี่แกนัดกันเที่ยวหน้าตาเฉย 555555555555555
    อยากจะบอกว่าคยองซูความจริงนางก็ไม่ได้เป็นคนปากร้ายอะไรขนาดนั้นนะ แต่เพราะเหตุบางอย่างทำให้นางเป็นแบบนี้
    เหตุที่คุณก็รู้ว่าอะไร /ตามคอนเซปต์ฟิค
    **ขอขยายความสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านแฮร์รี่เนอะ ฮอกส์มี้ดส์เป็นหมู่บ้านใกล้ๆกับฮอกวอตส์ค่ะ ในนั้นจะมีร้านค้าต่างๆ เป็นที่ผ่อนคลายก็ว่าได้ อารมณ์เหมือนเตรียมอุดมกับสยามอะไรแบบนั้น ส่วนการออกจากฮอกวอตส์นี่นักเรียนต้องลงชื่อกันค่ะ ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้จงอินขู่คยองซูว่าถ้าทำเป็นลืมไปลงชื่อแล้วไม่ได้ออกไปด้วยกันนี่เดี๋ยวรู้เลยยยยย 

    พาร์ทหน้าจะมาด้วยความกิ๊วก๊าวอะไรต้องติดตาม แต่อยากบอกว่าศัตรูตลอดชีวิตการศึกษาที่ฮอกวอตส์อย่างจงอินกับคยองซูได้ออกไปเที่ยวด้วยกันรับรองว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ แฮ่

    เจอกันพาร์ทหน้านะตะเอง <3

    โม่ง the second

    ------------------------- 50% --------------------------------

    โม่งเป็นคนครึกครื้นค่ะ
    ไฟนอลก็ยังไม่จบ คืออะไรคะ นี่ไม่ยอมไปทำงานด้วยค่ะ มาอัพฟิค
    โอเคนะ ตอนนี้อ่านแล้วกิ๊วก๊าวมะ ฮึ่ย

    ไปละ ไม่เฉงเลย..................

    โม่งหนึ่ง




    อยากอัพก็อัพสินะ
    เป็นฟิคที่มาตามลมจริงๆ /เปิดพัดลมสนาม 
    ตอนนี้มีเรื่องการพนันด้วยนะคะ เด็กๆอายุต่ำกว่า3ปีควรให้คำแนะนำจย้า 5555555555555
    พี่ลู่เรเวนคลอกำลังมีบทบาทขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคนที่โลกเวทมนตร์ไม่โอเคพี่จะซิ่วมาเรียนเอแบคก็ได้นะ 
    น้องต้อนรับเสมอ อยู่ที่โน่นก็โดนเรียกว่าเลือดสีโคลน แง /กดแบนคยองซูสักครู่

    โม่ง เดอะ เซคค่อน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×