ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { fic } Call it MAGIC | Kaido #ฟิคคนที่คุณก็รู้ว่าไค

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 01

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.91K
      100
      16 พ.ย. 57

    01

     



     

    บนรถด่วนมีแต่ความวุ่นวาย เป็นโชคร้ายของจงอินกับชานยอลเองที่ออกเดินทางมายังชานชาลาไป ตามระเบียงทางเดินมีแต่คนวิ่งวุ่นเพื่อทักทายเพื่อนตรงนั้นตรงนี้บ้าง จงอินพากรงนกฮูกและหีบในมือเดินไปตามระเบียงทางเดินอย่างยากลำบาก พื้นรถไฟสั่นเสียจนทรงตัวลำบาก เขามองลอดช่องกระจกที่มีคนนั่งเต็มทุกตู้ด้วยความหวังว่าจะมีที่นั่งเหลือซักตู้ แต่ผ่านมาจนจะสุดขบวนก็ถือว่าความพยายามนั้นล้มเหลว

     

     

    นั่งกันริมระเบียงทางเดินมั้ย นั่งบนหีบอะไรแบบนี้ รู้สึกเกะกะขวางทางดีชานยอลเสนอทางเลือกให้จงอินพร้อมกับใบหน้าจริงจัง จงอินกลอกตาน้อยๆ รู้จักกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง จนถึงตอนนี้ ปาร์คชานยอลก็ยังเป็นคนไร้สาระเหมือนเคย

     

    ถ้านายอยากนอนจะไม่พูดแบบนี้

     

    แบคฮยอน ไปหาตู้มาให้หน่อย คนรู้จักเยอะไม่ใช่เหรอชานยอลหันไปร้องเรียกเพื่อนที่เดินลากหีบอยู่ข้างหลังแทน จงอินได้ยินเสียงปฏิเสธดังอู้อี้ๆผ่านเสียงรถจักรเคลื่อนลอยมา ภาพนอกหน้าต่างเริ่มพร่าเลือนเนื่องจากรถไฟด่วนฮอกวอตส์เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆเสียจนเขามองไม่เห็นอะไรอื่นนอกจากสีสันลายตา

     

    เขาเดินมาจนเกือบหมดขบวนรถไฟ ในตู้เกือบท้ายขบวนพบเด็กตัวเล็กจิ๊ดริ๊ดที่ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นปีหนึ่งอยู่สองคน เป็นเด็กผู้ชายทั้งคู่ จงอินหรี่ตาลง ก่อนที่จะผลักประตูโบกี้ออก เด็กโชคร้ายที่นั่งอยู่ข้างในหันมาเขา บทสนทนาระหว่างเหยื่อหยุดลง และจากสีหน้าปกติกลายเป็นตื่นตระหนกทันที

     

    จะว่าอะไรมั้ยถ้าจะนั่งด้วยจงอินยิ้มให้ เด็กปีหนึ่งสองคนนั้นหันหน้ามองกันเองแบบเลิกลั่ก ที่ประตูโบกี้ก็มีชานยอลยืนยิ้มอยู่ แบคฮยอนยืนโยนไม้กายสิทธิ์ขึ้นลงตามหลังเป็นจังหวะ และแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือเด็กผู้โชคร้ายทั้งสองคนต่างลากหีบออกจากโบกี้ด้วยท่าทางหดหู่




                แน่นอนว่าเขาไม่ได้ไล่เลย ไม่ใช่ความผิดเขาสักนิด เด็กพวกนั้นเลือกที่จะสละที่ให้เขาต่างหาก

     

    จงอินวางกรงนกฮูกสีน้ำตาลของเขาให้เข้าที่ ยกหีบขึ้นเก็บด้วยความยากลำบากเนื่องจากตัวรถสั่นสะเทือน ชานยอลเริ่มชวนแบคฮยอนคุยเสียงดังเกี่ยวกับขนมที่คิดจะซื้อเมื่อรถเข็นขายอาหารมาถึง จงอินนั่งลงตรงข้ามชานยอล

     

    หน้าร้อนที่ผ่านมาเป็นไงแบคฮยอนถาม

     

    ก็ใช้ได้จงอินยักไหล่มีเรื่องนิดหน่อย โดนแม่ว่าตอนแอบหยิบไม้กวาดไปบินเล่นนอกบ้าน แล้วก็เรียงความยังทำไม่เสร็จ

     

    มาพูดถึงการบ้านอะไรเอาตอนนี้ชานยอลโอดครวญ มือก็ลูบขนแมวสีขาวสว่างที่นอนอยู่บนตักไปด้วย ชานยอลเลี้ยงแมว ซึ่งเจ้าตัวเรียกมันว่า เบ็นเบ็น (ชื่อที่คิมจงอินคิดว่าไร้สาระสิ้นดี แต่นั่นแหล่ะ ชานยอลใช่คนมีสาระเสียเมื่อไหร่) จงอินคิดว่ามันแปลกประหลาดอยู่เหมือนกันที่ชานยอลเลือกเลี้ยงแมวแทนที่จะเป็นนกฮูก อันที่จริง จงอินมีนกฮูกอยู่สามตัว ซึ่งเขาอยากจะพกทุกตัวมาฮอกวอตส์ น่าเสียดายที่กรงสามกรงน่าจะลำบากในการแบกเกินไป เขาเลยพกมงกู นกฮูกสีน้ำตาลตัวใหญ่ขนฟูมาแค่ตัวเดียว

     

    นี่แค่คิดก็ขี้เกียจซ้อมละแบคฮยอนพูดขึ้นมาบ้าง ดวงตาจับอยู่ที่ท้องฟ้าสีสดใสข้างนอกอยากกลับไปบินนะ แค่คิดถึงหน้ากัปตันจงฮยอนก็ชวนให้อยากหักไม้กวาดทิ้ง

     

    จงอินหัวเราะ เมื่อเพื่อนแอบนินทากัปตันสุดโหดของทีม ชานยอลทำหน้าหงอยลงไปนิดหน่อยเมื่อพูดถึงควิดดิช จงอินมีตำแหน่งเป็นซีกเกอร์ประจำทีมควิดดิชบ้านกริฟฟินดอร์ ในขณะที่แบคฮยอนมีตำแหน่งเป็นบีตเตอร์ ส่วนชานยอล(ผู้ที่ทำหน้าหงอยลงนิดหน่อยเมื่อพูดถึงควิชดิช) นั้นกระตือรือร้นจะเล่นตั้งแต่เข้ามาปีหนึ่งไม่มีตำแหน่งอะไรเลย ซึ่งข้อนี้ไม่มีใครในโลกแปลกใจ แค่เจ้าตัวปีนขึ้นไม้กวาดยังแทบจะปีนขึ้นผิดด้าน ยังไม่ต้องพูดถึงการโยนควัฟเฟิลให้เข้าห่วง

     

    พวกเขาทั้งสามคนอยู่ปีห้า เป็นอันดับต้นๆของฮอกวอตส์ในชื่อเสียงด้านการเป็นตัวกวน คิม จงอิน ปาร์ค ชานยอล และพยอน แบคฮยอน ยิ่งการมีตำแหน่งในทีมควิดดิชยิ่งทำให้จงอิน กับแบคฮยอน เป็นที่เด่นดังมากขึ้นไปอีก ส่วนชานยอลนั้นถึงแม้จะดูไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่ แต่ก็เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใสน่าคบหา ถึงแม้จะไม่ได้เพื่อนเยอะแบบแบคฮยอน แต่อาการไม่ถือตัว ทำให้แต่การและแน่นอนว่าการที่เขาอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ เขาย่อมมีการทำตัวปฏิปักษ์กับบุคคลจากบ้านขั้วตรงข้ามอย่างแน่นอน


                สลิธีรินกับกริฟฟินดอร์ สองบ้านที่แทบจะไม่เคยกินเส้นกันเลยในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่โรงเรียนก่อสร้างมา ตอนจงอินเด็กๆนั้น พี่สาวจงอินเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อไหร่ที่สลิธีรินสมานฉันท์กับกริฟฟินดอร์ เมื่อนั้นต้นวิลโล่ว์จอมหวดจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู (สาบานว่าตอนนั้นจงอินไม่รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง)

     

    ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น จงอินเหมาขนมมากองใหญ่จากรถเข็นขายขนม แบคฮยอนกำลังคุยเรื่องฟุตบอลของมักเกิ้ลอยู่ตอนที่ประตูโบกี้เลื่อนเปิดเสียงดัง หัวทั้งสามหัวหันไปตามทิศทางเสียง จงอินเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นบุคคลที่ยืนอยู่ตรงประตู ท่าทางนิ่งเย็นชาคุ้นตาเขาดี สองสามวินาทีที่เกิดความเงียบปกคลุมทั้งโบกี้ รถไฟแล่นเขย่าโครมครามเสียงดัง ก่อนที่จงอินจะพูดทะลุความเงียบขึ้นมา

     

    นี่ยังไม่ทันถึงฮอกวอตส์ก็ตามมาหาเรื่องกันแล้วเหรอคุณนกฮูก

     

    ฉันได้ยินมาว่านายรังแกเด็กปีหนึ่งสองคนคยองซูตอบกลับด้วยเสียงเรียบๆ ร่างเล็กในชุดเสื้อคลุมสีเขียวดำยืนหลังตรงอย่างไม่หวั่นไหวต่อสายตาขำๆของจงอิน ตราพรีเฟ็คที่อกส่องแสงเป็นมันวาว จงอินมองนัยน์ตาโตๆที่ทำให้เจ้าของใบหน้าคล้ายนกฮูกแล้วยิ้มกว้างขึ้นมา

     

    โด คยองซู เด็กปีห้า บ้านสลิธีริน อันดับหนึ่งของเด็กสลิธีรินที่เขาไม่ชอบหน้า ครบสูตรแห่งการเป็นสลิธีรินตัวจริง พูดน้อย ท่าทางเย็นชา แววตาที่เหมือนมองคนอื่นต่ำกว่าตลอดเวลา และแน่นอนว่าพวกเขาสองคนไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่วินาทีแรกที่พบเจอกัน เรียกได้ว่าสบตากันครั้งแรกก็อคติตั้งแต่เริ่มต้น

     

    ถ้าเท้าแตะพื้นฮอกวอตส์เมื่อไหร่คงได้มีการหักคะแนนกันแน่นอนคยองซูพูดต่อด้วยเสียงนิ่งๆ ใบหน้าที่เชิดขึ้นนิดหน่อยทำให้จงอินแอบเบะปากฉันแค่มาตักเตือนตามที่ได้รับรายงานมา

     

    ครับๆ คุณพรีเฟ็คผู้แสนดี ปฏิบัติตามหน้าที่จงอินประชดประชัน หากเขาสังเกตไม่ผิด สายตาของคยองซูดูเหมือนจะแข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย นั่นทำให้เขารู้สึกสะใจเล็กๆ ราวกับจับสนิชได้ตั้งแต่เริ่มเกมควิชดิชตักเตือนเสร็จแล้วก็เชิญกลับไปที่โบกี้พรีเฟ็คด้วยครับ

     

    หน้าร้อนสนุกไหมคยองซูชานยอลทะลุกลางปล้องขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นเต้น แววตาเป็นประกาย ประโยคนั้นตลกเสียจนไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าพูดขึ้นมาตอนนี้ แต่เพราะคนพูดคือชานยอล จงอินเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่

                ชานยอลเป็นคนประหลาดที่ปลาบปลื้มคยองซูมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ไม่รู้สะดุดใจอะไรในตัวมนุษย์เงียบจากสลิธีริน ไม่ว่าชานยอลจะพยายามเข้าหาหรือพูดคุยกับคยองซูเท่าไหร่ อย่าว่าแต่คยองซูไม่ยอมตอบ  ความจริงคือแทบไม่หันมามองด้วยซ้ำ (ยังดีที่ชานยอลไม่อิจฉาจงอินที่ได้คุยกับคยองซู คุยที่ว่าคือกัดกันแทบจะทุกประโยค) พรีเฟ็คจากสลิธีรินเพียงแต่จ้องตากับจงอินอย่างดุเดือดอีกซักพัก ก่อนที่คยองซูจะเดินจากไปในที่สุด

     

    พวกนายนี่ไม่เคยจะคุยกันดีๆได้เลยนะแบคฮยอนกระเซ้า ตาที่เล็กอยู่แล้วหรี่ลงจนจงอินไม่มั่นใจว่าเพื่อนเขาสามารถมองเห็นเห็นตีกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง

    มันไม่ใช่ว่าแบคฮยอนชอบพอสลิธีรินหรืออะไร เขาแค่รู้สึกว่าการทะเลาะกันระหว่างบ้านมันไร้สาระ เขาเองก็มีเพื่อนจากสลิธีรินบางคนเหมือนกัน แต่สำหรับบางคนเขาก็ไม่สามารถคบได้จริงๆ

    ใครเลือกหมอนั่นมาเป็นพรีเฟ็คนะจงอินไม่สนใจตอบคำถามของแบคฮยอน (“อาจารย์ใหญ่ไง!ชานยอลตอบคำถามแทรกขึ้นมาสำหรับคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ โดยที่ไม่มีใครสนใจ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเวลาชานยอลอ้าปากพูดก็ไม่ค่อยมีใครสนใจอยู่แล้ว)  เขายืดแขน แล้วพิงหลังลงกับเก้าอี้พนันสิบเกลเลียนเลยว่าหมอนั่นเป็นพรีเฟ็คที่บ้าอำนาจที่สุดตั้งแต่ฮอกวอตส์มีมา

     

    นายก็พูดเกินไปชานยอลทักท้วงทั้งที่พายฟักทองยังเต็มปากนายอย่าลืมสิว่ามีแฟนคลับคยองซูอยู่ตรงนี้อีกหนึ่งคน

     

    พวกนาย นาย แล้วก็นาย ทั้งหมดที่บอกว่าคยองซูดูดีนี่ใช้อะไรดูกันนะ ให้ตายจงอินถอนหายใจ หยิบกบช็อกโกแลตที่เหลืออยู่บนโต๊ะมาแกะกินบ้าง เขามั่นใจว่าตอนนี้เสียงท้องของเขาร้องยิ่งกว่าผีแบนชี สงสัยจังว่าปีนี้ใครเป็นพรีเฟ็คบ้าง

     

    รู้แค่กริฟฟินดอร์ มินโฮกับซูจองได้เป็นพรีเฟ็คแบคฮยอนตอบ ในหมู่พวกเขาสามคน แบคฮยอนเป็นคนที่รู้จักคนมากที่สุด ด้วยความที่ชอบทักทายคนไปทั่ว เขามั่นใจว่าเกินครึ่งฮอกวอตส์แบคฮยอนรู้จักขอไปหาพวกนั้นแป๊บนึง เดี๋ยวกลับมา อย่าเพิ่งกินพายฟักทองหมดนะ

     

    พูดแบบนี้ปุ๊บ พายฟักทองก็น่ากินขึ้นมาเลยชานยอลว่า แบคฮยอนทำหน้ากินเลือดกินเนื้อใส่ก่อนที่จะเปิดประตูโบกี้ออกไป ทิ้งให้ชานยอลอยู่กับจงอินสองคน เพื่อนหูกางหยิบนิตยสารจากในกระเป๋าขึ้นมาอ่าน จงอินเคาะนิ้วกับโต๊ะอย่างครุ่นคิด

     

    เสียดายที่เอาโทรศัพท์มาฮอกวอตส์ไม่ได้จงอินเอ่ยขึ้น ตามองท้องฟ้าที่กลายเป็นสีขมุกขมัวข้างนอก ทิวทัศน์เปลี่ยนเป็นทุ่งไกลสุดลูกหูลูกตา อากาศในเดือนกันยายนแปรปรวนตามเคยอยู่ในโลกมักเกิ้ลนานๆนี่ไม่ดีเลยนะ


    คิมจงอินมีสถานะในโลกเวทมนตร์เป็นเลือดผสม แม่ของเขาเป็นมักเกิ้ลธรรมดา ตกหลุมรักกับคุณพ่อของเขา (พ่อมดที่ชื่นชอบมักเกิลและวิชามักเกิลศึกษามากกว่าการปรุงยาหรือธนาคารกริงกอตส์) ที่ร้านอาหาร บ้านของเขาอยู่ในแถวกลางเมืองของชุมชนมักเกิล จึงไม่แปลกที่จะรู้จักเครื่องอำนวยความสะดวกของมักเกิ้ลเป็นอย่างดี


    อื้อ จะคุยกับแม่ทีต้องส่งนกฮูก จะคุยกับพี่ยูรางี้ก็ลำบากชานยอลพยักหน้าหงึกๆ บ้านชานยอลเป็นมักเกิ้ลทั้งครอบครัว แถมยังติดแม่มาก เขายังจำได้ดีที่ชานยอลร้องไห้ทุกคืนตอนปีหนึ่งเพราะติดต่อกับที่บ้านได้ยาก จนเขากับแบคฮยอนนอนไม่หลับกันหลายอาทิตย์

     

    นี่ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าจบออกไปแม่ให้ทำงานฝั่งโลกมักเกิ้ลจะเอาวุฒิอะไรไปสมัคร ถ้ายื่นวุฒิฮอกวอตส์น่าจะไม่ตลก

     

    เหมือนกัน แม่ดูอยากให้ทำกิจการที่บ้านต่อจงอินว่าต่อด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ยิ่งเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันไปไกลมากขึ้นเท่าไหร่ การกลับเข้ามาในโลกเวทมนตร์ยิ่งเหมือนการย้อนอดีตมากขึ้นเท่านั้นเมื่อไหร่จะแก้ไขให้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทำงานในเขตโลกเวทมนตร์ได้ซักทีนะ

     

    ยาก ไม่งั้นปั่นป่วนแน่ นายจะได้เห็นการปะทะกันของโลกเวทมนตร์และโลกยุคใหม่ชานยอลพูดต่อ แอบขำคนเดียวเมื่อนึกถึงร่างแอนนิเมจัสแมวของอาจารย์ฮีชอลเล่นไอโฟนนี่เริ่มคิดถึงอาหารในงานเลี้ยงต้อนรับละ อีกนานมั้ยกว่าจะถึง

     

    กินๆไอ้พวกนี้ก่อนไปจงอินโยนกบช็อกโกแลตให้เดี๋ยวออกไปข้างนอกแป๊บนึง นั่งนานๆแล้วหงุดหงิด

     

    จงอินเปิดประตูออกมายังทางเดินที่เริ่มเงียบลง รถไฟมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือไปเรื่อยๆ ดวงอาทิตย์ที่อ่อนกำลังหายเข้าไปหลังกลีบเมฆ เขาเดินทอดน่องไปตามระเบียงทางเดิน หยุดแวะทักทายคนรู้จักนิดหน่อย จงอินเดินฝ่าความโคลงเคลงของรถไฟมาจนถึงหัวขบวน เขาก้มมองผ่านช่องกระจกก่อนที่จะยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นเป้าหมายที่ต้องการนั่งอยู่คนเดียวในโบกี้

     

    โดคยองซูเพื่อนน้อยเช่นเคย ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาก็เห็นเจ้าตัวนั่งคนเดียว เรียนคนเดียวอยู่ทุกครั้ง แล้วเขาก็คิดว่าปีนี้พรีเฟคสลิธีรินก็คงนั่งเรียนอย่างโดดเดี่ยวเหมือนเดิม

     

    ไม่มีใครคบหรือไง?” จงอินผลักประตูโบกี้ออก คยองซูหันขวับมาหา ใบหน้าที่เคยนิ่งแสดงความเบื่อออกมาทันทีสงสารเลยว่าจะแวะมานั่งด้วย

     

    ซักวันฉันจะสั่งกักบริเวณนาย คิมจงอินคยองซูพูดด้วยท่าทีเยือกเย็นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เห็นนายใส่แบบนี้แล้วเกะกะสายตา

     

    เสื้อผ้ามักเกิ้ลมันแย่ตรงไหนเหรอครับคุณโดจงอินเลิกคิ้ว ก้มลงมองเสื้อยืดลายกราฟฟิกกับกางเกงยีนส์ขาดๆของตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นมองคยองซูที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมโรงเรียนเรียบร้อยนี่ซื้อมาหลายเหรียญเลยนะ

     

    ยังต้องให้พูดอีกมั้ยสีหน้าเหม็นเบื่อของคยองซูนั้นชัดเจนมากขึ้น แต่จงอินไม่สน แน่นอนว่าเขาไม่สนมันมาตั้งสี่ปีแล้วออกไปได้แล้วคิมจงอิน

     

    ตอนนี้นายยังหักคะแนนไม่ได้ ขอใช้โอกาสนี้ให้คุ้มก่อนเขาว่า ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกัน ใบหน้าของคยองซูนั้นดูตลกดีเหมือนกัน เห็นสีหน้าท่าทางแบบนี้ทีไรก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเสียดื้อๆ นี่คงเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแกล้งคยองซูมาได้ตลอดว่าไง ปิดเทอมของคุณหนูตระกูลโดสนุกไหม? อ่านตำราไปกี่ตั้ง?”

     

    คยองซูไม่ตอบ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ จงอินหัวเราะขึ้นมาแล้วควงไม้กายสิทธิ์ที่หยิบติดตัวมาด้วย ไม้ของจงอินเป็นไม้ไซเปรส ยาว 12 นิ้ว แกนกลางเป็นขนยูนิคอร์น เขาติดนิสัยควงไม้กายสิทธิ์เล่นเหมือนกับที่ชอบควงปากกาขนนก และเขาจำได้ว่าเคยโดนคยองซูบอกให้หยุดควงไม้ไปมาซะ มันน่ารำคาญ ตั้งแต่นั้นมาเขาเคยเล่นควงไม้กายสิทธิ์หนักเข้าไปอีก


    จงอินผ่านความเงียบไปด้วยการนั่งจ้องหน้าคยองซูอยู่แบบนั้น เขาชอบรอจนกว่าคยองซูจะหมดความอดทนเสียเอง

     

    ไม่มีอะไรทำหรือไงในที่สุดคยองซูก็เอ่ยปากไล่ ท้องฟ้าข้างนอกเป็นสีน้ำเงินเข้มแล้ว โคมไฟข้างนอกเริ่มเปิดขึ้นทีละดวง จงอินส่ายหัวตอบไปหาอย่าอื่นทำซะบ้างนะ อย่างน้อยก็จะได้เพิ่มพื้นที่ความคิดในหัวสมองบ้าง

     

    กินนี่ไหมจงอินไม่ใส่ใจคำปรามาสจากอีกฝ่าย เขาโยนอมยิ้มสีแดงก่ำใส่คยองซู คนถูกโยนใส่รับไว้แทบไม่ทัน นัยน์ตาโตๆมองค้อนกลับเดี๋ยวก็ใกล้ถึงฮอกวอตส์แล้ว

     

    ฉันเฝ้าบอกให้นายเลิกวุ่นวายกับฉันมาตั้งแต่ปีหนึ่งนี่ไม่เคยเข้าหัวเลยใช่มั้ยคิมจงอินคยองซูกดเสียงลงต่ำ มือยังถืออมยิ้มนั้นไว้อยู่ ลูกอมรสชาติปะแล่มแบบนี้ไม่เคยเป็นของชอบเขาอยู่แล้ว ยิ่งพอได้รับจากคิมจงอิน มันดูอร่อยน้อยลงไปอีกแล้วฉันเคยบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่กินอมยิ้มรสเลือด

     

    งั้นวันหลังให้กินลูกอมกรดก็ได้

     

    เหนื่อยใจกับนายจริงๆ แผนการเล่นควิชดิชของบ้านกริฟฟินดอร์ทำลายเซลล์สมองอะไรหรือเปล่า หรืออากาศในโลกมักเกิ้ลทำให้ความคิดไม่พัฒนา วันหลังลองใช้เวลาปิดเทอมฤดูร้อนในโลกเวทมนตร์บ้างนะ เผื่อจะได้เข้าใจอะไรง่ายๆบ้างสีหน้าของคยองซูนั้นเหนื่อยใจจริงๆสมกับประโยคที่กล่าวออกมา

     

    จงอินยิ้มมุมปากให้กับประโยคเชือดเฉือนนั่น


    ไม่ล่ะ ฉันกลัวว่าสูดแต่กลิ่นเลือดบริสุทธิ์ในโลกเวทมนตร์แบบนายแล้วจะหยุดสูงน่ะ แต่ก็ขอบใจนะที่เป็นห่วง”  พรีเฟ็คคนเก่งขมวดคิ้วลงพร้อมแยกคิ้วให้คนตรงข้ามที่มองกลับมาอย่างท้าทาย ทว่าไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย


    จงอินมองออกไปนอกหน้าต่าง กระจกสีดำสะท้อนภาพของเขาออกมาแทน ภาพของเด็กผู้ชายร่างสูง ผิวสีเข้ม โครงหน้าชัดเจนจ้องตอบกลับมา ตรงข้ามกับบุคคลที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน คยองซูเป็นคนที่ตัวเล็ก ไม่ใช่แค่ความสูง แต่ยังรวมไปถึงโครงสร้างโดยรวม ไหล่แคบ ใบหน้าเป็นรูปไข่ มีแก้มน้อยๆ ผิวขาว ดูยังไงก็ตรงข้ามกับเขาแทบจะทุกประการ



    แถมยังไม่ชอบขี้หน้ากันอีกต่างหาก



    ไปละอยู่ๆจงอินก็ลุกขึ้นยืนกะทันหัน รถไฟเริ่มแล่นช้าลง เสียงอึกทึกข้างนอกเป็นของนักเรียนที่เริ่มเก็บสัมภาระและสัตว์เลี้ยงของตัวเอง คยองซูเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่จะหดคอลงเมื่อจงอินเอื้อมมือมาปัดหน้าม้าที่ปรกตาให้แล้วเจอกัน คุณชายโด

     

    เสียงประตูเลื่อนปิดตามหลัง ทิ้งให้คยองซูนั่งอยู่ในโบกี้คนเดียว คนตัวเล็กยกมือขึ้นปัดผมหน้าม้าด้วยความรำคาญใจ เขาลุกขึ้นหยิบกรงนกฮูกมาถือ นกฮูกสีดำเอียงคอมองหน้าเขา คยองซูขมวดคิ้วใส่มัน ก่อนที่จะยกสัมภาระลงจากชั้นวางของแล้วเตรียมออกไปรวมกับพรีเฟ็คคนอื่น


    โดยปกติเขาก็ไม่ค่อยจะชอบขี้หน้าพวกกริฟฟินดอร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะคิมจงอิน คนน่ารำคาญที่เขาไม่ชอบขี้หน้า



    คยองซูถอนหายใจหนักๆอย่างไม่สบอารมณ์ การที่ต้องมาปะทะคารมกับคนที่แบบนี้ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวเสียจริง ไม่รู้นายนั่นเป็นบ้าอะไรชอบเข้ามาหาเรื่องเขาตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้ก็ปีห้าแล้ว ยังไม่เลิกอีก

     

    คิมจงอินจากกริฟฟินดอร์เป็นหนึ่งในบุคคลที่เขาจะรู้สึกเกลียดขี้หน้าแบบนี้ได้ตลอดไป



    คยองซูมั่นใจว่าต้องเป็นแบบนั้น

     
    ------------------------------------------------------------------------------------------



    ไฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
    นี่สี่คูณร้อยมาอัพฟิค เพิ่งอัพเรื่องนู้นจบแว่บมาลงเรื่องนี้ต่อเลยยยยยยยยยยยยยยยย
    กลับมากับไคซูเต็มๆทั้งเรื่อง เรื่องนี้คยองซูจะสู้คนค่ะบอกเลย จงอินโดนด่าเยอะๆซะบ้าง ดูเรื่องที่แล้วดิ่... 
    คิดถึงการลงฟิคใหม่ๆสดๆแบบนี้มั่ก รู้สึกตื่นเต้น เมื่อคืนก่อนลงนี่ตบตีกันอยู่พักใหญ่มาก เห้ยธีมสีไรดี โปสเตอร์งี้ แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม่

    ฟิคเรื่องนี้ไม่มีตัวละครของเจเคในเรื่องเลยนะ ยืมสถานที่ไรงี้มา อารมณ์แบบ universe อีกอันงี้ ถ้ารู้สึกว่ามันทะแม่งๆก็ติชมกันได้ค่า

    แล้วก็เรื่องนี้ติดแท็ก #ฟิคคนที่คุณก็รู้ว่าไค น่อ กรี๊ดได้ สกรีมได้ สกรีมเยอะยิ่งคันไม้คันมือ ผมนี่เปิดเวิร์ดเลย /ทำหน้าจริงจัง
    เอาเป็นว่าฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ อ่านแก้เหงากันช่วงสอบ (เหงาโพ่ง) กันนะคะ

    แอนด์อายยยยยยยยวิลออลเวย์ส์เลิ้ฟฟฟฟยูวววววววววววว
    น้องโม่งหนึ่ง (ติดต่อ ทวงฟิคเค้าได้ที่ @miintare (ไม่รับประกันผลการทวง))


    ---------------------------------------------


    ฮัลโหล มักเกิ้ลเวิร์ล 
    อย่างที่โม่งอื่นๆบอกไปครัช เรื่องนี้จะไม่มีแฮร์รี่ ไม่มีรอน ไม่มีเฮอร์ไมโอนี่ มีแต่สถานที่แล้วก็เวทมนตร์เท่านั้น 
    แท็กก็ #ฟิคคนที่คุณก็รู้ว่าไค คือชื่อดูเป็นท่านลอร์ดมากแต่ความจริงนี่เป็นแค่คิมจงอินคนกากที่แกล้งคยองซูไปวันๆ เห้อม
    เมื่อกี้คือนอนอืดแบบขี้เกียจอยู่ พอเข้ามาส่องแท็กเท่านั้นแหละ ผมนี่ลุกขึ้นมาเป็นคอมเลย ฮือ
    ขอบคุณที่สกรีมกันนะ เราชอบอ่าน 555555555555
    เรื่องนี้เหมือนเราเก็บกดมาจากฟิคซ่อนหาอ่ะนาย แบบคยองซูยอมคนนี่จะไม่มีให้เห็น เผลอๆนางจะสาปส่งจงอินทุกบทให้เป็นพิธี 
    ปล​. ใครที่ไม่ได้อ่านแฮร์รี่(แบบเราที่เอาแต่ดูหนัง) ก็อาจจะตกหล่นเรื่องศัพท์เฉพาะบางคำไป วันนี้ขอเสนอคำว่า พรีเฟ็ค ซึ่งจะอยู่กับเรื่องนี้ไปจนจบ พรีเฟ็คคือหัวหน้านักเรียนในแต่ละบ้านนั่นเอง
    ปล2. ฟิคเรื่องนี้เป็นแฝดกับ #ฟิคคนที่คุณก็รู้ว่าคริส คือทามไลน์เดียวกัน มีเรื่องคาบเกี่ยวกันนิดหน่อย แต่ถ้าไม่อ่านก็ไม่ได้ทำให้งงเนื้อเรื่องนะ 55555555

    โม่งสองครัช


    - - - - - - -


    สวัสดีค่า นี่โม่งศูนย์นะก๊ะ 

    ผมนี่อัพฟิคเลยยยยยย ต่อกันสองเรื่องเลยยยยย 
    (ก็ยังยืนยันว่าฟิคเรื่องนี้มีแฝดนะแก ชื่อ #ฟิคที่คุณก็รู้ว่าคริส นะแก แต่ไม่อ่านก็ไม่เป็นไร ยังเข้าใจได้อยู่ๆ)
    เรื่องนี้เราจะเจอคยองในโหมดคาร์คนะคะ นางอยู่สลิธีรินนะคะ จงอินมาวอแวมากเดี๋ยวก็โดนคาถาพิฆาตแค่นั้นแหล่ะแก

    ฟิคเรื่องนี้เรายืมสถานที่จากเจเคมานะคะ ถ้าตรงไหนที่ผิดไปจาก Harry Potter Universe บอกได้เลยนะก๊ะ เราจะตรวจทานและแก้ไขค่า

    แล้วจะมาต่อเร็วๆนี้นะคะ แต่งเรื่องนี้สนุกมือมากอ้ะบอกเลย แต่งทั้งวัน ชอบ น่ารัก 5555

    ด้วยรักและวิสกี้ไฟ
    โม่งศูนย์  


    ปล. ตอนหน้ามีงานจานเลื่อนนะคะ อันนี้สปอยล์นะ 55555555555555 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×