ความเหมือนที่แตกต่าง:พระยาวสวัตตีมาราธิราชกับลูซิเฟอร์ - ความเหมือนที่แตกต่าง:พระยาวสวัตตีมาราธิราชกับลูซิเฟอร์ นิยาย ความเหมือนที่แตกต่าง:พระยาวสวัตตีมาราธิราชกับลูซิเฟอร์ : Dek-D.com - Writer

    ความเหมือนที่แตกต่าง:พระยาวสวัตตีมาราธิราชกับลูซิเฟอร์

    เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกนะครับ ขอฝากไว้ด้วยนะครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    426

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    426

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  อื่นๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 ต.ค. 53 / 20:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
                ศาสนาคริสต์และพุทธต่างก็มีอุปสรรคเข้ามาขัดขวางทั้งนั้น  หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่า "มาร" อยู่เสมอ  ถึงแม้ว่าจะต่างกันทั้งรูปร่าง  นิสัย  หรือชื่อ  แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ  การเป็นมารที่คอยขัดขวางคนในการทำความดี  พอผมพูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงมารทั้งสองศาสนาเลยล่ะครับ  คราวนี้ผมก็เลยนึกถึงพระยาวสวัตตีมาราธิราชของศาสนาพุทธกับลูซิเฟอร์ของศาสนาคริสต์  เรื่องเป็นอย่างไรก็ต้องอ่านดูแล้วล่ะครับ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      พระยาวสวัตตีมาราธิราช หรือ พระยามาราธิราช หรือ พระยามาร ในพระพุทธศาสนา คือราชาแห่งเทวบุตรมารทั้งหลายผู้เเป็นใหญ่ในฝ่ายมาร อยู่สวรรค์ชั้นเดียวที่เป็นที่อยู่ของเทวบุตร และเทวบุตรมาร ได้ชื่อว่าเป็นมารเพราะชอบมาผจญผู้ที่จะทำความดีต่างๆ

      ในอดีตชาติเคยได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้ากัสสปะว่า จะได้ตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต พระยามารได้ครองทิพยสมบัติอยู่ที่สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัดดี โดยสวรรค์ชั้นนี้จะมีเทพ และ มารอาศัยอยู่ร่วมกัน แต่ทั้งคู่จะไม่มายุ่งกันเลย

      หลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ ปัจจุบัน กำลังทรงค้นพบอริยสัจ 4 และทรงกำลังจะก้าวล่วงจากอุปจารสมาธิไปถึงอัปปนาสมาธิ (ฌาน 1) พระยามารมีความเห็นว่า พระพุทธเจ้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา จะทำให้คนสำเร็จมรรคผลเข้าสู่พระนิพพานกันหมด ไม่เหลือวิญญาณไปขึ้นสวรรค์ จึงต้องยกทัพมากำหลาบ แต่ถูกน้ำจากมวยผมของพระแม่ธรณีพัดไป จนในที่สุดพระยามารก็ยอมแพ้ ในภายหลังพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงพยากรณ์เอาไว้ว่า พระยามารจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่า "พระธรรมสามี"

      พระยามารเคยรบกวนงานฉลองพระธาตุของพระเจ้าอโศกมหาราช แต่ถูกพระอุปคุตเถระสร้างความอับอายโดยการจับมัดไว้ที่เขาพระสุเมรุภายหลังปรารถนาพุทธภูมิ และเป็นยอมศิษย์ของพระอุปคุตพญามาร.jpeg

      ทีนี้มาดูเรื่องของลูซิเฟอร์บ้าง

      อัครเทวทูตองค์ นี้ ได้ถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมาจากแสงสว่าง และให้ความเอ็นดูเป็นอย่างมาก อาจถือได้ว่า เป็นทูตสวรรค์ที่เป็นใหญ่รองมาจากพระเป็นเจ้า และเป็นอัครเทวทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ ทว่า ด้วยความที่นึกว่าตนเองยิ่งใหญ่เหนือทูตสวรรค์ จึงได้กระทำการก่อกบฏหักหลังองค์พระเป็นเจ้า และในที่สุดก็ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ กลายมาเป็น"ปีศาจ"ตามตำนานของชาวฮิบรู โดยที่ลูซิเฟอร์ ได้ถูกยุยงโดยซาตานอีก ทีหนึ่ง (ซึ่งทำให้ทราบว่า ตามตำนานฮิบรู ลูซิเฟอร์ และ ซาตานนั้น ไม่ใช่คนเดียวกันแต่อย่างใด) ในพระคัมภีร์ของชาวฮิบรูนั้นได้กล่าวไว้ว่า ซาตานเคยเป็นหนึ่งในอัครเทวทูต มีชื่อว่า Satan-Sataniel หรือ Samael ว่ากันว่าซาตาน ต้องการจะครอบครองทุกสิ่ง มีอำนาจดั่งพระเจ้า จึงได้ยุยง บ้างก็สิงสู่เทพบางองค์ ทำให้กลายมาเป็นเป็นมารร้าย

      ตามตำนานของชาวคริสต์ จากคัมภีร์พันธสัญญาเดิม ได้แปลคำว่า Helel เป็น ลูซิเฟอร์ และได้มีการโยงถึงปีศาจร้ายที่มีร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ที่ลอบเข้ามาในสวนอีเดนและหลอกลวงอาดัมและอีฟ

      นักบุญเจอโรมนักพรตในศาสนจักรในยุคกลาง ได้ให้ความเห็นว่า ชื่อ "ลูซิเฟอร์" ไม่ใช่ชื่อที่ดีสำหรับ "ปิศาจ" จึงได้เปลี่ยนมาเป็น "ซาตาน" จนในที่สุด ทั้งสองก็ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน จะเห็นได้ว่าในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ในบางครั้งก็จะเรียกลูซิเฟอร์ และในบางครั้งก็จะเรียก ซาตาน

      ในตำนานกรีก คำว่า ลูซิเฟอร์ เปรียบได้กับดาววีนัส (ลูซิเฟอร์เป็นชื่อเดิมของดาววีนัส หรือดาวศุกร์) ในบางตำนานของชาวเพแก้น หรือวิคคา กล่าวไว้ว่า เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา พระองค์ทรงให้ความดูแลเอาใจใส่ในตัวมนุษย์มากกว่าสิ่งอื่นใด และมากกว่าตัวลูซิเฟอร์เองด้วย ทำให้ลูซิเฟอร์เกิดความรู้สึกน้อยใจและประชดองค์พระเป็นเจ้า โดยการชักนำพรรคพวก ก่อกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ในบางความเชื่อของชาวเพเก้น เชื่อกันว่าลูซิเฟอร์อยู่ในยุโรปและเอเชีย

      ในปัจจุบัน ได้มีลัทธิหนึ่งซึ่งนับถือลูซิเฟอร์เยี่ยงพระเจ้า พวกเขาเหล่านั้นเรียกตัวเองว่า นักนิยมลูซิเฟอร์(Luciferains) ตามชื่อศาสดาของพวกเขา "Lucifer Calaritanus" บิชอปของลัทธิลูซิเฟอร์ กล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่า องค์พระเยซูคริสต์ไม่ใช่บุตรมนุษย์ผู้ที่ถูกเลือก แต่คือลูซิเฟอร์ (เข้าข่ายพวกลัทธิบูชาซาตาน หรือบูชาปีศาจ) ในคัมภีร์ของพวกเขาได้บอกเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ "ก่อนการเกิดอัปยศ" หรือ "Before the fall" ซึ่งเล่าเรื่องราวไว้ว่า "เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ ลูซิเฟอร์เอ็นดูมนุษย์เป็นอย่างมาก และหลงใหลในความใสซื่อบริสุทธิ์ของมนุษย์ แต่เป็นเพราะว่าการที่มนุษย์นั้นใสซื่อนั่นเอง ทำให้มนุษย์ไม่รู้สึกถึงตัวตนอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า" ในคัมภีร์จึงได้บอกไว้ว่า "พระเจ้าได้เสกให้งูมาเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้กินผลไม้แห่งปัญญา เมื่อมนุษย์ได้กินเข้าไป จึงได้รู้สึกถึงตัวตนของพระเจ้า จากนั้นพระองค์จึงได้ขับไล่มนุษย์ทั้งสองออกจากสวนอีเดนไป เมื่อลูซิเฟอร์รู้เรื่องเข้าจึงได้โกรธและก่อการกบฏต่อพระเจ้าขึ้น" นี่เป็นอีกเรื่องที่ถูกนำมาเล่า เพื่อใช้โน้มน้าวจิตใจสาวกของลัทธิลูซิเฟอเรี่ยนส์ ซึ่งต่อมาได้ถูกกล่าวกันว่าเป็นลัทธินอกรีต และมีกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ซึ่งบางคนใช้ยาเสพติด หรือ เสียงเพลงเพื่อกลอมประสาท เพื่อมอมเมาผู้คนให้เข้าร่วมลัทธิ

      ลูซิเฟอร์ คือตัวแทนของบาปแห่งความเย่อหยิ่งจองหอง (ภาษาอังกฤษ: Vanity/pride) เพราะลูซิเฟอร์ลำพองว่าตนเองยิ่งใหญ่ และมีอำนาจมากกว่าทูตสวรรค์องค์ใด จึงได้หลงผิดและก่อการกบฏขึ้น ก่อให้เกิดสงครามภายในสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยลูซิเฟอร์ได้ชักจูงเทพ 2 ใน 3 ส่วน จากเทพทั้งหมดบนสวรรค์ (บ้างก็ว่า 3 ใน 5 ส่วน) มาต่อสู้กับกองทัพขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งนำทัพโดยอัครเทวทูตมิคาเอล ผลปรากฏว่ากองทัพแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงได้ขับไล่ลูซิเฟอร์ออกจากสวรรค์

      ตำนานกล่าวว่า ลูซิเฟอร์นั้นมักจะปรากฏกายในรูปของมังกร หรือ สิงโต และมีผู้รับใช้อันภักดี ชื่อ Satanackia และ Agalierept ที่เปรียบเสมือนแขนทั้งสองข้างของเขา (ตามความเชื่อของพ่อมดแม่มด ตราทั้งสองนี้อันตรายเป็นอย่างมาก)

      200px-Paradise_Lost_19.jpg

      ต่อไปจะมีผลงานเรื่องยุคล่าแม่มดนะครับ  อดใจรอไว้ละกัน
        

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×