บทนำ
แสงไฟที่สว่างไสวภายในห้องที่ตกแต่งผนังห้องด้วยสีฟ้าอ่อนมีรูปภาพของเจ้าของห้องแขวนไว้รอบห้องจนทำให้ดูก็รู้ว่าห้องนี้เป็นห้องของใครภายในห้องมีตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้สีน้ำตาลอ่อนขนาดไม่ใหญ่มากนักและมีเตียงเล็กสำหรับนอนได้แค่คนเดียวบนเตียงมีเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มนอนอยู่ข้างกายของเธอมีผู้เป็นแม่นั่งอยู่
"แม่คะโตขึ้นมาหนูอยากเป็นเจ้าหญิงค่ะ" เด็กหญิงตัวน้อยเสียงใสบอกผู้เป็นแม่
"โถ่ลูกลูกทำไมจู่ๆถึงอยากเป็นเจ้าหญิงละจ้ะ" หญิงผู้เป็นแม่ยืนมือบางลูกหัวเด็กน้อยที่มีในตาสีนิลที่ทอประกายงดงามหาที่เปรียบไม่ได้
"แต่หนูเคยเห็นในโทรทัศน์นี่คะ"
"ลูกจ้าถ้าเราอยากเป็นเจ้าหญิงน่ะไม่ต้องไปมองในโทรทัศน์หรอกนะจ้ะรู้มั๊ยว่าลูกน่ะเป็นเจ้าหญิงน้อยของแม่เสมอไม่ว่าจะเมื่อไรก็ตาม" เด็กน้อยยิ้มอย่างดีใจที่แม่รักเธอกว่าทุกสิ่งและเป็นทุกอย่างสำหรับเธอเป็นทั้งพ่อและแม่อยู่ในร่างเดียวเพราะแม่ของเธอเคยบอกว่าพ่อของเธอน่ะเสียไปตั้งแต่เธออายุได้แค่2เดือนกว่า
"หลับเสียเถอะคนดีพรุ่งนี้ลูกจะได้ตื่นไปโรงเรียนแต่เช้านะจ้ะ"
"แม่คะเล่านิทานให้หนูฟังหน่อยสิคะ" เด็กผู้หญิงตัวน้อยร้องออดอ้อน
"ไม่ได้แล้วล่ะจ้ะตอนนี้มันดึกมากแล้วเอาเป็นว่าพรุ่งนี้แม่จะเล่าให้ฟังละกันนะ"เด็กน้อยทำหน้าบึ่งเมื่อไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการ
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิจ้ะ ไม่สวยเอาซะเลย แม่สัญญาว่าพรุ่งนี้จะเล่านิทานให้ฟังนะจ้ะ ฝันดีนะลูกรัก" เธอจูบหน้าฝากของเด็กน้อยแล้วเดินไปปิดไฟที่ข้างประตูสีฟ้า
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง เสียงนาฬิกาปลุกข้างเตียงทำให้ชีค1ตัวน้อยตื่นขึ้นจากเตียงขนาดใหญ่ เมื่อคืนชีคตัวน้อยฝันว่าได้พบเด็กผู้หญิงที่น่ารักมีดวงตาสีนิลอันงดงามเขาไม่เคยใครที่มีดวงตาสวยขนาดนี้มาก่อน ในความฝันเขาได้เล่นกับเธออย่างสนุกสนาน เมื่อใกล้รุ่งสางก่อนจะจากกันชีคตัวน้อยได้สัญญากับเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า 'เมื่อฉันโตขึ้นชั้นจะออกตามหาเธอไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ใดในโลกฉันจะหาเธอให้พบ'
"นี่มีใครอยู่บ้างเราหิวแล้วนะ" เสียงเด็กชายตัวน้อยพูดขึ้น ทันใดก็มีหญิงวัยกลางคนใส่ชุดแม่บ้านเดินเขามาพร้อมถาดอาหารร้อนๆ
"มาแล้วค่ะๆ" หญิงสาวที่เข้ามาใหม่ตอบรับเสียงเรียก
"วันนี้มีอะไรทานบ้างมายา" เสียงใสเอ่ยถาม
"วันนี้มีซุปเห็ด ไข่ดาว นมอุ่นๆ ขนมปังปิง และแยมบลูเบอร์รี่ที่ท่านชอบเจ้าค่ะ"
"ไม่เอาเราไม่ชอบซุปเห็ดไปเปลี่ยนเป็นซุปข้าวโพดมาเดี๋ยวนี้" ชีคตัวน้อยมีท่าทีไม่พอใจในของอาหารเช้านี้ มายาถอนหายใจแล้วเดินออกไปพร้อมกับถาดอาหารชุดเก่า สักพักมายาก็เดินกลับเขามาอีกครั้งพร้อมกับซุปข้าวโพดกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วห้อง ชีคตัวน้อยยิ้มจนแก้วปริเมื่อมายานำถาดอาหารมาวางไว้ตรงหน้า ชีคตัวน้อยเริ่มทานอาหารแต่ละอย่างๆเอร็ดอร่อย
"ชีคน้อยครับ" แล้วจู่ๆความสุขของชีคตัวน้อยก็หมดลง เพราะเสียงของผู้มาเยื่อนคนใหม่
"มีอะไรรึเปล่าฮัมดัม"
"วันนี้ท่านต้องไปเรียนวิชาป้องกันตัวกับราจีฟตอน9โมงนะขอรับ"
เรารู้แล้วน่าไม่ต้องบอกหรอก"
หลังจากที่ชีคตัวน้อยทานอาหารเช้าเสร็จก็รีบทำธุระส่วนตัวของเขาให้เรียบร้อย ไม่นานชีคตัวน้อยก็อยู่ในชุดที่เตรียมพร้อมสำหรับการฝึกวิชาป้องกันตัว เขาเดินออกมาจากหน้าบ้านก็พบฮัมดัมยืนรออยู่กับม้าสายพันธุ์เอาหรับ2
ม้ารอท่านอยู่แล้วขอรับ ชีคน้อยมีท่าทางตื่นเต้นกับการขี่ม้าและเรียนวิชาป้องกันตัว เขาขึ้นม้าตัวโปรดพร้อมกับกระตุกม้าให้ไปข้างหน้า ม้าพุ่งทะยานไปกับแรงกระตุกของเขาอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่นาทีชีคตัวน้อยก็มาถึงสถานที่ฝึกวิชาป้องกันตัว
คารวะชีคน้อย ราจีฟโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพ
ไม่ต้องมีพิธีรีตองก็ได้ราจีฟยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนะ
ไม่ได้หรอกขอรับกระผมเป็นแค่คนต้อยต่ำที่มาขออาศัยบ้านท่านอยู่
ก็ได้ช่างเถอะเราขี้เกียดเถียงเจ้าแล้ว ชีคตัวน้อยเบื่อหน่ายเพราะในแต่ละวันต้องจมอยู่กับความจำเจของชีวิตที่คนสนิทกันเหมือนพี่น้องต้องมาก้มหัวให้เสมอ
เอ้อ จริงสิราจีฟเมื่อคืนเราฝันแปลกๆด้วยแหละ
ท่านฝันอะไรหรือครับ
เราฝันว่าเราได้พบเด็กผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งน่ารัก และมีผมสีดำเงางาม ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีนิลที่ทอประกายอันงดงาม เธอน่ารักมากๆ ดวงตาของชีคตัวน้อยเม่อลอยไปถึงความฝันเมื่อคืน
นับว่าเป็นฝันที่ดีนะขอรับ ราจีฟยิ้มให้กับชีคตัวน้อย
เราก็คิดเช่นนั้น ชีคตัวน้อยยิ้มตอบอย่างมีความสุข อีกไม่นานเมื่อเขาโตพอเขาจะออกตามหาเธอ นางในฝันของเขา
ชีค1คือ ผู้ที่ปกครองๆเมืองนั้น เช่นอย่างในประเทศอาหรับมีทั้งหมด 17 รัฐ ในแต่ละรัฐก้อจะมีท่านชีคคอยดูแล
ม้าพันธุอาหรับ2(The Arab, Arabian Horse) หรือมีฉายาว่า ผู้ดื่มด่ำสายลม (Drinkers of the wind) เป็นม้าที่มีแหล่งกำเนิดมาจากทางทวีปเอเชีย โดยมีสายพันธุ์แรกเริ่มเชื่อกันว่าน่าจะมาจากม้าพันธุ์ BARB หรือ ANDALUSIAN ของสเปนที่ถูกจับใส่เรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปตั้งแต่โบราณ หลังจากมาขึ้นบกที่อินเดียและจีนก็เข้าผสมกับม้าพื้นเมืองและม้าในแถบทะเลทรายอาราเบีย ส่วนความเชื่ออีกสายหนึ่งเชื่อว่า เป็นม้าที่มีแหล่งกำเนิดในทะเลทรายอาหรับล้วนๆ (มีการขุดพบโครงกระดูกม้า) โดยได้ถูกเพาะเลี้ยงโดยชนเผ่าเบดูอิน (Bedouin) และชนเผ่านี้เขามีความเชื่อว่า ม้าของเขาเป็นของขวัญจากพระผู้เป็นเจ้าประทานลงมาให้ ดังนั้นการเลี้ยงดูม้าจะประคบประหงมมาก ห้ามมิให้ผสมข้ามสายพันธุ์อย่างเด็ดขาดนิยมใช้ม้าตัวโตของทางยุโรปและหุ้มเกราะเวลาออกรบแต่ครั้นออกรบจริงกับพ่ายแพ้แก่ฝ่ายข้าศึกที่ขี่ม้าตัวเล็ก แต่ปราดเปรียวคล่องแคล่ว
ความคิดเห็น