พราวดาวดั่งฝัน (มี e-book ขาย)​ - นิยาย พราวดาวดั่งฝัน (มี e-book ขาย)​ : Dek-D.com - Writer
×

    พราวดาวดั่งฝัน (มี e-book ขาย)​

    สัตวแพทย์หนุ่ม วาฬ เกื้อวิริยะ ก็ปรากฏตัวขึ้นในมาดเข้ม สุขุม และเชื่อมั่นในตัวเองสูง สายตาของเขามองเธอเป็นเพียงความว่างเปล่าไร้ตัวตน ทว่าความเงียบงันนั้นกลับปกคลุมหัวใจของเธอไว้อย่างไม่รู้ตัว

    ผู้เข้าชมรวม

    1,572

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.57K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    13
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  46 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  5 ธ.ค. 66 / 18:45 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

    เปรยเรื่อง

      พราวดาวเด็กหญิงตัวน้อย เธอเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไม่มีสิทธ์เรียกร้องขอความรักจากใคร จนกระทั้งสัตวแพทย์ นิธิ พูนผล และไททามพี่ชายที่แสนดี ทั้งสองได้รับเธอมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมและมอบความรัก ความอบอุ่นและความเมตตาที่ช่วยเยี่ยวยาจิตใจ เหมือนโรคร้ายที่ถูกปัดเป่าให้มลายหายไป พราวดาวได้อยู่ในครอบครัวที่แสนอบอุ่น เธอจึงทุ่มเทความรักหมดใจให้กับพวกเขาเหมือนเป็นบิดาและพี่ชายแท้ ๆ ของเธอ

    จู่ ๆ อุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น และได้คร่าชีวิตของทั้งสองไปจากเธอ ทำให้โลกทั้งใบมืดมิด หัวใจแตกสลายและช่างโหดร้าย พราวดาวเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน ตัดทุกอย่างจากโลกภายนอก

    แต่แล้ว สัตวแพทย์หนุ่มวาฬ เกื้อวิริยะ ก็ปรากฏตัวขึ้นในมาดเข้ม สุขุม และเชื่อมั่นในตัวเอง สายตาของเขามองเธอเป็นเพียงความว่างเปล่าไร้ตัวตน ทว่าความเงียบงันนั้นกลับล้อมกรอบหัวใจของเธอไว้อย่างไม่รู้ตัว

    บางช่วงบางตอน  

    พราวดาวรออย่างกระวนกระวายใจเกือบชั่วโมงสัตวแพทย์หนุ่มก็เดินออกมาจากห้อง คราวนี้เขาสวมเสื้อกาวน์ทับอยู่ในมาดสัตวแพทย์เต็มตัว ไม่ดูมาดเซอร์เหมือนครั้งแรกที่เจอ
    “อาการสาหัสมีบาดแผลยาวและลึกเหมือนถูกเขี้ยวของสุนัขกัด ผมเย็บแผลและฉีดยาฆ่าเชื้อให้มันเรียบร้อยแล้วครับ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพขณะก้มหน้าเขียนอะไรยุกยิกบนแผ่นการ์ดหรือประวัติการรักษาของคนไข้
    สัตวแพทย์หนุ่มไม่บอกหล่อนก็คิดไว้อย่างนั้น แต่ช่างเถอะ หล่อนไม่ต้องการที่จะเป็นอีกต่อไป ลืมเสียเถอะ ว่าเราเป็นสัตวแพทย์ หากหล่อนยังไม่ลืม! ภาพของหมอนิธิกับหมอไททามก็จะหวนกลับมาให้คิดถึงอีก ความเศร้าโศกเสียใจก็ยังวนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีวันสิ้นสุด
    “จันทร์เจ้าคงถูกหมาในซอยกัด แล้วหนีออกมาถนนใหญ่” พราวดาวพูดเฉไฉไปเรื่องอื่น เพื่อตัวเองจะได้หยุดคิดถึงเรื่องนี้เสียที
    “ครับ” สัตวแพทย์หนุ่มพูดเงยหน้าขึ้นมาฟังแวบนึ่ง
    เขาเริ่มเข้าใจชื่อจันทร์เจ้าที่หล่อนเรียกติดปากหมายถึงแมวส้มตัวนี้
    “ท่าทางคุณไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยคงจะเป็นห่วงเจ้าจันทร์มาก” เขาพูดพร้อมกับบันทึกอาการของจันทร์เจ้า
    “ค่ะ คุณหมอ”
    “ก็น่าเป็นห่วงครับ เพราะจันทร์เจ้าต้องนอนพักดูอาการที่นี่ก่อนครับ น้องยังไม่พ้นขีดอันตราย แผลลึกขณะนี้ผมกลัวว่าจะติดเชื้อ” สัตวแพทย์หนุ่มพูดอย่างสุภาพ
    “ขอบคุณนะคะ คุณหมอ ที่ช่วยจันทร์เจ้าไว้ และฉันต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจคุณผิดไป ตบหน้าคุณอย่างแรง ฉันทำไปตามสัญชาตญาณป้องกันตัว”
    “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” สัตวแพทย์หนุ่มพลางยักไหล่
    “เอ่อ ส่วนค่ารักษาขอผลัดไปก่อนนะคะ ฉันกำลังหางานอยู่ค่ะ”
    “อ้อ ตกงาน ผมไม่อยากจะเชื่อว่าคุณจะตกงาน” สัตวแพทย์หนุ่มพูดเสียงแปลกใจ
    เขาเงยหน้าขึ้นจ้องเขม็งราวกับจับผิดว่าหล่อนพูดจริงหรือล้อเล่น เมื่อโดนจ้องหน้าหล่อนก็กลัวว่า เขาจะไม่เชื่อ... และจะไม่รักษาจันทร์เจ้า...และก็กลัวสารพัด
    “กรุณาด้วยนะคะ จันทร์เจ้าเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่คุณพ่อกับพี่ชายทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าก่อนท่านจะเสียชีวิต ฉันทนไม่ได้หากมันตายไปอีก” หญิงสาวพูดตะกุกตะกัก
    “คุณทำถูกต้องแล้ว แต่อย่างไร คุณก็ต้องมีค่ารักษา” สัตวแพทย์หนุ่มเสียงเข้ม
    เขาวางปากกา ยึดตัวตรงเริ่มสำรวจหล่อนเป็นครั้งแรก
    หญิงสาวร่างเล็กสูงแค่ไหล่ของเขา ผิวขาวนวล ผมลอนสีน้ำตาลเข็มยาวสลวยบดบังใบหน้ารูปหัวใจเกือบหมดเห็นแต่ดวงตากลมรีภายใต้ขนตางอนสะดุดตา สันจมูกโด่งรั้นตรงปลายรับกับริมฝีปากบางสีชมพูเข้ม
    หล่อนสวมเสื้อลูกไม้สีครีม กางเกงสีเข้มยาวเหนือเข่าโชว์เรียวขา สวมรองเท้าผ้าใบแบบไม่มีเชือกผูกสีครีม
    “ฉัน...เอ่อ” หญิงสาวอึกอัก
    หล่อนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ชอบกล จากสายตาคมใต้เส้นผมบังดวงตาข้างหนึ่ง เขาจ้องมาอย่างพินิจ หล่อนไม่เคยอยู่กับคนที่ไม่รู้จักตามลำพังยามวิกาลเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็นหมอช่วยชีวิตจันทร์เจ้าก็เถอะ หล่อนเริ่มไม่ไว้ใจถอยไป2-3ก้าวเข้าหาประตูทางออก สัตวแพทย์หนุ่มก็ไม่ไว้ใจเช่นกัน เขาก้าวตามหล่อน แล้วถามขึ้นเสียงเข้ม
    “คุณจะไปไหน”
    “เปล่า ๆ” หล่อนสั่นหน้า อยากจะร้องไห้
    เขาสบตาหล่อนนิ่งชั่วขณะ แล้วเอ่ยขึ้น
    “ว่าไงครับ คุณจะชดใช้ผมอย่างไงล่ะครับ” เขาถามขึ้นเสียงดังพลางยิ้มมุมปาก ดวงตาเปล่งประกาย
    พราวดาวเห็นว่าน่าจะแยกเขี้ยวใส่หล่อนมากกว่า
    “เอ่อ เค้าว่าคนเป็นหมอ จะมีความเมตตาปรานีต่อสัตว์โลกมากกว่าคนทั่วไปนะคะ” หล่อนยิ้มอย่างซีดเซียวพยายามทำใจดีสู้เสือ
    สัตวแพทย์หนุ่มจ้องเขม้ง
    “งั้นหรือ”
    “ค่ะ” หล่อนตอบเต็มเสียง
    หล่อนเหลือบไปที่ประตูคิดอยากจะวิ่งหนีออกไปดื้อ ๆ แต่ก็อดเป็นห่วงจันทร์เจ้าแมวตัวแสบที่นอนอาการไม่สู้ดีอยู่บนเตียงไม่ได้

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น