เส้นทางที่เธอเลือกเอง
ผมเห็นเธอตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษาจนได้เข้ามาเรียนในสถานศึกษาที่ผมสอน หลังจากที่เธอจบระดับปวส. ได้เข้าทำงาน มีโอกาสเรียนต่อจนจบชั้นปริญญา จึงมีครอบครัว และต้องหย่ากกับสามี เพราะ...
ผู้เข้าชมรวม
32
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ทางเดินที่เธอเลือกเอง
ช่วงที่มาทำงานใหม่ๆ ผมมักจะแวะมากินอาหารตามสั่ง ที่บริเวณหลังวัดมงคลมิ่ง ซึ่งเจ้าของร้านชื่อน้าทองใบ ระยะทางจากบ้านพักมาที่ร้านอาหารตามสั่ง มีระยะทางประมาณ 500 เมตร เส้นทาง ณ เวลานั้นหากเป็นเวลาพลบค่ำออกจะเปลี่ยวไปไม่น้อย ขนาดผมเป็นผู้ชายยังนึกหวาดระแวงเรื่องการจี้ปล้นที่อาจจะเกิดขึ้นได้
“อาจารย์ขลุ่ย ต้องระวังตัวด้วยนะครับ เส้นทางเส้นนี้เคยมีการวิ่งราวทรัพย์นักศึกษาหญิงด้วย” อาจารย์ปวีณาพูด เตือนภัย
“ผมไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร จะให้เขาปล้นจี้”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ ดีไม่ดีเวลาเขาจี้ถามหาทรัพย์ หากเราไม่มีให้ไอ้คนจี้ มันอาจโมโหและอาจทำร้าย ฐานทำให้มันต้องเสียเวลา” อาจารย์แวีณา พูด
เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ที่ผมยังหนุ่มๆ ถนนเส้นคลองชลประทาน ยังเป็นดินลูกรังแคบๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าละ -เมาะ จะมีชาวบ้านสามสี่คนนำเอาวัว-ควายมาเลี้ยงเป็นฝูงๆ พอค่ำๆหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ชาวบ้านที่อยู่ข้างวิทยาลัยจะลำเลียงนำเอาไม้สักหรือไม้อื่นๆที่แปรรูปเป็นแผ่นกระดานในป่า ค่อยๆเลาะมาตามเส้นทางเล็กๆบนดอยเข้าสู่ถนนภายในวิทยาลัยแล้วจึงเลาะมาถนนคลองชลประทาน เพื่อข้ามฟาก ไปยังถนนทางหลวงหลักลำปาง- เชียงราย สู่บ้านของตนซึ่งส่วนใหญ่สร้างเป็นเพลิงกระต๊อบเล็กๆเวลานั้นป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์อยู่บ้างแต่ที่ผมรู้สึกไม่สบายใจคือช่วงฤดูหนาวที่ใบไม้กำลังผลัดใบจะเห็นบนดอยมักถูกชาวบ้านที่อยู่ใกล้วิทยาลัยลอบเผากันเกือบทุกวัน
“โอ้โห..ไฟลุกไหม้บนดอย อย่างงี้ ต้นไม้ก็เสียหายเป็นร้อยเป็นพันต้นนะ” ผมพูดกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นรักษาความปลอดภัย
“ชาวบ้าน เขาเผาเพื่อให้กระต่าย ไก่ป่า มันแตกจากรัง จากฝูง เพื่อจะได้จับตัว เพื่อจะได้ยิงเอามาทำเป็นอาหารและบางส่วนที่เผาป่าก็หวังจะให้ถึงช่วงเวลาที่เห็ดเผาะมันออกจะได้มีชุกชุมและออกมากๆไง ..ครับ”คนงานพูด
“ได้ไม่คุ้มเสียเลย ”ผมพูด
“เขาทำกันมาจากรุ่นสู่รุ่น คงยากที่จะแก้ไขได้แล้ว ”
************************
ที่หลังวัดมงคลมิื่ง มีชาวบ้านซึ่งเป็นคนเก่าแก่ ดั้งเดิมอาศัยอยู่ประมาณ 20 หลังคาเรือน ที่เป็นผู้ชายจะมาสมัครเข้าทำงานที่วิทยาลัยเพื่อทำงานในตำแหน่งนักการภารโรง รักษาความปลอดภัย คนงานแผนกพืชไร่ พืชสวน เลี้ยงสัตว์ เนื่องจากพวกเขามีพื้นฐานวิชาชีพเป็นเกษตรกรมาก่อน จึงมีทักษะที่สามารถเข้าทำงานได้ตรงกับความถนัดของตนได้ บ้านของคนงานที่ผมไปเที่ยวหาบ่อยๆ เป็นบ้านของลุงเป็งซึ่งสังกัดในหมวดงานเรือนเพาะชำ ช่วงหนึ่งที่ผมต้องนำผลิตผลการเกษตรออกไปจำหน่ายภายนอกวิทยาลัยฯ ลุงเป็งก็จะนำดอกไม้ที่ตัดดอกมาส่งให้ผมที่ห้องทำงานเกือบทุกวัน
“อาจารย์ครับอาจารย์อัลชลีให้ผมตัดดอกกุหลาบ ดอกซ่อนกลิ่น ดอกหน้าวัว ดอกเบญจมาศ มาส่งให้ครับ” ลุงเป็งพูด
“ลุงช่วยจดจำนวนของดอกไม้ ส่งตามหลังมาด้วยนะ ผมจะได้ชำระเงินให้ หลังจากการจัดจำหน่ายให้แล้ว” ผมพูด
ลุงเป็งถือเป็นคนงานที่มีความอาวุโสมากกว่าทุกคนที่เป็นคนงานในวิทยาลัย เป็นคนที่เคร่งขรึม พูดน้อย ชอบเข้าวัดฟังธรรมเสมอ ลุงเป็งได้ครองตนเป็นพ่อม่ายตั้งแต่ลูกสาวคนเล็กมีอายุได้ 14 ปี ช่วงที่ผมไปเที่ยวบ้านลุงเป็งลูกสาวคนเล็ก มีอายุ 18 ปี ข้างๆบ้านลุงเป็งมีเพื่อนบ้านชื่อนายเหรียญ
นายเหรียญมีอาชีพทำนามีภริยาชื่อนางน้อยซึ่งเปิดร้านขายสินค้าเล็กๆน้อยๆ เพื่อให้นักศึกษาที่พักในบริเวณนี้ ได้มาซื้อของกินอาทิ ข้าว(เหนียว)นึ่ง ปลากระป๋อง กะปิ น้ำปลา ผงชูรส บุหรี่ฯลฯหลายครั้งที่ผมต้องแวะซื้อขนมอย่างปาท่องโก๋ ขนมรังผึ้ง หรือข้าวเหนียวสังขยาเพื่อนำมากินกับกาแฟโบราณ ซึ่งสมัยก่อนร้านกาแฟที่ชงขายในหมู่บ้านจะเป็นกาแฟบรรจุปีบ แล้วผ่านการชงในกระป๋อง โดยมีถุงชงกาแฟเฉพาะที่ต้องถ่ายไปถ่ายมากับอีกกระป๋องหนึ่ง เพื่อให้น้ำกาแฟที่ชงไม่เข้มหรือจางจนขาดรสชาติที่ละมุนไป
“วันนี้ มีขนมอะไร? เหลือบ้าง ” ผมสอบถามนางน้อย ที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะขายของภายในบ้าน
“มีขนมชั้น ซาลาเปา และขนมใส่ไส้ เจ้า" นางน้อยตอบ
“ผมเอาซาลาเปาไส้เค็มหนึ่งลูก ขนมสอดใส้สองห่อ ”ผมพูด
นางน้อยนำถุงพลาสติกคลี่ออก แล้วหยิบซาลาเปากับขนสอดใส้บรรจุลงในถุงพลาสติกสีขุ่น แล้วยื่นส่งให้ ผมรับมาถือในมือแล้วจ่ายเงินไป 10 บาท
“ลูกสาวหรือครับ ป้าน้อย ”
“แม่นแล้วเจ้า อาจ๋าน” นางน้อยพูด(กำเมือง)
“มีลูกกี่คนครับ ”
“สองคนเจ้า คนนี้คนเก๊า(คนโต)เจ้า คนหล้าเป็นป้อจาย ”นางน้อยพูด
แรกๆนางน้อยจะสื่อสารกับผมด้วยภาษาท้องถิ่น แต่หลังๆมาเธอก็พยายามจะสื่อสารด้วยภาษากลาง สายบัว ลูกสาวคนโตของนางน้อยในขณะนั้นเพิ่งเรียนชั้นประถมปลาย หน้าตาสะสวยเป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้อาย พูดน้อย เวลาเจอผู้ใหญ่มักจะหลบเข้าไปในห้อง
“เป็นไงบ้างลูกสาว เรียนเก่งมั้ยแล้วคิดอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของเธอ” ผมถาม
“คิดว่าพอเรียนจบประถมปลายแล้ว จะให้เข้าเรียนมัธยมต้น-ปลาย ที่โรงเรียนมัธยมประจำตำบลที่เพิ่งเปิดได้เป็นรุ่นที่สอง ”นางน้อยพูด
“ดีเหมือนกัน เรียนอยู่ใกล้ๆบ้าน ไม่ต้องนั่งรถเข้าไปในเมืองซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกหลายตังค์ บอกตรงๆว่าผมสงสารเด็กๆที่เข้าไปเรียนในเมือง ทุกคนต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ”ผมพูด
“ใช่.แล้ว เจ้า”นางน้อยพูด กลางผสมกำเมือง
ที่นางน้อยพูดมา เป็นความจริงทุกอย่าง เพราะจากที่ผมเคยเห็นลูกๆของเพื่อนๆที่ร่วมงานในวิทยาลัย ต้องมาขึ้นรถบัสรับส่งไปโรงเรียน เด็กๆต้องหิ้วกระเป๋าต้องถือขิ้นงานที่ครูมอบหมายให้ทำจากโรงเรียนพะลุงพะลังไปหมด
***********************
เวลาผ่านไป…สายบัวก็เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง เธอเลือกที่จะเข้าเรียนในวิทยาลัยฯ ใกล้บ้าน ช่วงวันปฐมนิเทศผมเห็นสายบัวแต่งกายด้วยชุดนักศึกษา เวลานั้นสาขาที่นักเรียนเลือกเรียนมากที่สุดคือสาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร รองลงมาคือสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สายบัวเลือกที่จะเรียนในสาขานี้ เนื่องจากว่าวิทยาลัยเพิ่งเริ่มเปิดทำการสอนได้เป็นรุ่นที่สาม รุ่นพี่ของเธอที่เรียนจบชั้นมัธยมตอนปลายที่เพิ่งจบเป็นรุ่นแรกได้แนะนำกับเธอว่า ควรจะเรียนในสาขานี้ เนื่องจากที่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือที่จังหวัดลำพูนยังต้องการนักศึกษาที่จบด้านคอม -พิวเตอร์อีกจำนวนมาก
“สวัสดีค่ะ..อาจารย์” สายบัวเข้ามาทักทาย
“มาเรียนที่นี่..ด้วยหรือ ”ผมพูด
“ค่ะ ”สายบัวพูด
“เรียนสาขาอะไรหรือ ” ผมถาม
“คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ค่ะ” สายบัวตอบ
“ยากอยู่นะ ” ผมพูด
“ต้องลองเรียนก่อนค่ะ หากหนูเรียนไม่ไหวจริงๆ จะขอย้ายเรียนสาขาใหม่จะได้หรือเปล่าคะ ?”
“ได้น่ะได้ แต่มันจะเสียเวลา ต้องมาเรียนเก็บวิชาใหม่ อีกหลายวิชาเชียวนะ ”ผมพูด
การที่ผมได้แนะนำและบอกให้สายบัวทราบไว้ก่อน จึงทำให้เธอเกิดความลังเลใจ แต่แล้วเธอก็เชื่อมั่นว่า เธอจะต้องเรียนในสาขาที่รุ่นพี่แนะนำ เพื่อหวังจะมีอนาคตที่ดี
“หนู..จะพยายามค่ะ” สายบัวพูด
“ดีแล้ว”ผมพูดให้กำลังใจ
เป็นความโขคดีที่ในระยะแรกที่ผมมีโอกาสได้สอนวิชาพื้นฐานเกี่ยวกับด้านธุรกิจเบื้องต้น นักศึกษาจึงมีเกรดในมืออย่างน้อยคือB แม้วิชานี้จะเรียนแค่ 2 หน่วยกิต แต่มันก็สามารถนำเอาไปช่วยวิชาอื่นๆได้ เพียงเรียนผ่านไปแค่เทอมแรก สายบัวก็ต้องตกอยู่ในภาวะความเครียดเพราะผลการเรียนของเธอไม่ถึง 2.00
“เป็นไงบ้าง สายบัว คะแนนผลการเรียน ” ผมถาม ขณะที่ออกไปซื้อขนมที่ร้านของเธอในยามเช้า
“เกรดเฉลี่ยของหนู ได้แค่ 1.4 เอง.. ค่ะ ”สายบัวพูด
“แล้วคิดอย่างไร กับอนาคต ”
“หนูคิดว่า จะลองไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาดูก่อนค่ะ”
“หากยังเรียนในสาขาเดิมอีก ควรต้องขยันให้มากขึ้นกว่าเดิมนะ”
“ค่ะ ”
ผมได้รู้จักกับผู้ปกครองของสายบัวดีพอสมควร พ่อกับแม่ของสายบัว จัดเป็นชาวบ้านที่มีนิสัยดี ขยันทำมาหากิน ช่วงหลังๆบิดาของสายบัวหันมาเลี้ยงวัวขุนและเลิกจากการทำนา เมื่อได้พบและคุยกัน เขาได้ฝากฝังอนาคตของลูกสาวไว้ กับคนที่เขาเชื่อใจว่าจะช่วยเหลือเขาได้
“ช่วยๆ ดูแลลูกสาว ผมด้วยนะครับ..อาจารย์” นายเหรียญ พูด
“ทุกวันนี้ ก็่ช่วยดูแลอยู่ห่างๆ อยู่แล้วครับ”ผมพูด
เนื่องจากวิชาภาษีอากร ซึ่งอาจารย์ก้านสอน เป็นวิชาบังคับที่นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนมาก เขาจึงมอบหมายให้ผมช่วยสอนแทนให้หนึ่งห้องเรียน และโชคดีที่ห้องที่ผมได้สอนเป็นห้องที่สายบัวต้องเรียนในวิชานี้ หลังการสอบเสร็จเมื่อผมตัดเกรดนักศึกษาจึงสอบผ่านได้ยกชั้น สำหรับนักศึกษาที่อยุู่ในเกณฑ์เสี่ยงที่จะถูกรีไทร์ ผมได้ให้เกรด A ทุกคน
“ขอให้นักศึกษาในชั้นได้เข้าใจและอย่าไปอิจฉาเพื่อนที่ได้เกรดดีกว่าตน หากรักเพื่อนไม่ต้องการให้เพื่อนถูกออกก่อนจะจบ ขอจงเข้าใจว่าอาจารย์ จำเป็นต้องช่วยพวกเขาไว้ก่อน”ผมพูดให้ทุกคนเข้าใจ
นักศึกษาในห้องเรียนห้องนี้ จึงมีคนได้เกรด A มากกว่า 10 คนหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือสายบัวกว่าเธอจะจบชั้น ปวส. ได้ก็นับว่าช้ากว่ากำหนดไปหนึ่งเทอม ช่วงหนึ่งที่มีการฝึกงานภายใน เธอได้เลือกฝึกงานที่ห้องทะเบียนของฝ่ายวิชาการ นี่จึงทำให้มีความสนิทสนมกับหัวหน้าแผนกทะเบียนฯ รวมถึงรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ การเป็นคน อ่อนน้อม เรียกใช้งานง่าย บวกหน้าตาดี จึงเป็นโอกาสดีที่ทำให้เธอได้เข้าทำงานในแผนกทะเบียนในระยะเวลาต่อมา
******************************
จากที่เธอเคยใส่เครื่องแบบนักศึกษา ได้เปลี่ยนชุดมาเป็นชุดทำงาน เธอได้เข้าทำงานที่แผนกทะเบียนนับแต่นั้นมา ช่วงระหว่างทำงาน สถาบันราชภัฎได้เปิดรับสมัครเข้าศึกษาต่อระดับชั้นปริญญาตรีหลักสูตรสองปี สายบัวจึงได้ขออนุญาตลาไปเรียนในภาควันเสาร์ -อาทิตย์ สองปีเศษๆ เธอจึงได้วุฒิปริญญาตรีตามความฝัน ขณะไปเรียนต่อได้พบรักกับหนุ่มจากจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งทำงานเป็นครูอาสาสมัคร (ครูบนดอย)และได้แต่งงานจนมีบุตรเพียงคนเดียว ฝ่ายชายได้มาอยู่อาศัยที่บ้านฝ่ายหญิง ระหว่างครองรักกันใหม่ๆทั้งคู่ไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้ง หรือมีปากเสียงกันเลย ฝ่ายหญิงทำงานใกล้บ้าส่วนฝ่ายชายต้องทำงานเป็นครูสอนหนังสือบนดอย สองสัปดาห์..จึงจะได้แวะกับมาหาภริยากับบุตรสาว สายบัวเริ่มคบหาเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในวัยเดียวกันทั้งเพศชายและหญิง เธอไม่เคยใส่ใจกับการเลี้ยงดูบุตรสาว ภาระนี้จึงตกเป็นภาระของยายคือนางน้อย
“สายบัว ไม่ต้องเหนื่อยเลย นะครับ ” ผมพูดกับนางน้อย
“ตั้งแต่คลอด ข้าเจ้าฯต้องคอยดูแลเลี้ยงหลานตลอด เขาเป็นเพียงแค่ คนให้น้ำนมลูกกินเท่านั้น”
“ดูหลาน จะผูกพันธ์กับยายมากกว่าแม่เขาอีกนะ ผมว่า” ผมพูด
ระยะหลังๆสายบัวกลับเข้ามาบ้านด้วยอาการมึนเมาสุรา แรกๆเธอมักอ้างกับแม่ว่าเพื่อนๆชวนไปกินเลี้ยง ภายหลังเธอจะไปกินเหล้ากับอาจารย์สิทธิศักดิ์หัวหน้าแผนกทะเบียนบ่อยๆ สายบัวเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าแต่ก่อน การมีชั่วโมงบินมากขึ้น ทำให้เธอรู้หลบเป็นปีก หน้าที่การงานเริ่มหย่อนยาน แรกๆผมต้องวานเธอให้ช่วยเหลือเรื่องรูปแบบการประเมินผลระบบออนไลน์ ซึ่งทางต้นสังกัดทะเบียนกลางที่เชียงใหม่บังคับ ให้อาจารย์ผู้สอนต้องรายงานเพื่อเก็บข้อมูล และทุกคนต้องทำใบคะแนนรายวิชาแจ้งแก่ผู้ลงทะเบีนเรียนอีกด้วย
“รบกวนสายบัว ช่วยอาจารย์สอนวิธีการเข้ารหัส ขัั้นตอนการทำงานให้ด้วยนะ” ผมพูดกับลูกศิษย์ที่เคยช่วยเหลือให้พ้นจากการถูกรีไทร์ตั้งแต่เริ่มเรียนปีแรก
“ได้ค่ะ อาจารย์ หากมีอะไร??จะให้หนูช่วยงานในแผนกทะเบียน บอกเลยค่ะ” สายบัวพูด
ระยะแรกๆ ที่เธอทำงาน ท่าทีของเธอดูยินดีและเต็มใจที่จะช่วยเหลืองานให้แก่ผม แต่หลังจากที่เธอคบกับกลุ่มอาจารย์สิทธิศักดิ์ ที่เป็นนักดื่มสุรา เธอก็มีบุคลิกเปลี่นไป ความระหองระแหงในครอบครัว จึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และที่สุดเธอจึงขอหย่ากับสามี แม้เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่ผมก็อดเห็นใจฝ่ายชายไม่ได้ ทั้งๆที่เขาก็เป็นสามีที่ดี ไม่เที่ยวเตร่ไม่ดื่มสุรา
“อดุลย์ เขารักลูกมาก แต่สายบัวไม่ยอมให้เอาลูกไปอยู่ด้วย เขาจึงต้องจำใจจากไป” นางน้อยพูด
“สงสารเขามากเลยนะ ผมเห็นเขาเพียงครั้ง-สองครั้ง ตอนที่มาซื้อขนม แต่ก็ไม่เคยได้คุยกัน ” ผมพูด
ครั้งหนึ่งที่ผมมาซื้อขนม .อดุลย์สามีของสายบัวได้มาทำหน้าที่แทนแม่ยาย เนื่องจากนางน้อยกำลังอยู่ในครัวพอดี
“ท่าที สามีของสายบัว นี่สุภาพมาก เลยนะ ” ผมคิดในใจ หลังจากที่ได้สัมผัสกับเขา
*****************************
หลังจากสายบัว ได้หย่าขาดจากสามี เธอได้มีความสัมพันธ์กับชัยยศพนักงานขับรถยนต์ ทั้งสองมีความใกล้ชิดกันได้เนื่องจากภริยาของชัยยศเคยดื่มสุราด้วยกันบ่อยๆ กับสายบัว จึงเป็นรักสามเส้า..ในช่วงต่อมา นี่เองที่สายบัว ได้แย่งสามีของเพื่อนร่วมวงดื่มสุรามาอย่างไร้ยางอาย ไปๆมาๆชัยยศกับสายบัวจึงเป็นสามี-ภริยา กันโดยเปิดเผยและมีบุตรชายร่วมกันหนึ่งคน ผัวขวดเมียแก้ว..ร่วมชีวิตกันในระยะแรก ก็ดูจะมีความราบรื่น ทั้งคู่ไปไหนมาไหนออกหน้าออกตา ฝ่ายหญิงเป็นพนักงานของรัฐ ฝ่ายชายเป็นเพียงพนักงานขับรถ เมื่อภริยาชัยยศ เลิกร้างกับสามี ไม่นานก็ประสบเหตุถูกไฟฟ้าดูดจนสิ้นชีวิต นับเป็นชีวิตที่น่าสงสารไม่น้อย
ทั้งคู่สามี-ภริยา ได้สร้างหอรักหลังใหญ่ โดยฝ่ายหญิงต้องเป็นคนกู้เงิน ทั้งธนาคารและสหกรณ์ ส่วนฝ่ายชายมีเพียงมือเปล่าเมื่อเรือนหอเสร็จทั้งคู่ได้จัดงานขึ้นบ้านใหม่อย่างอลังการ เขาได้ลงทุนจ้างวงดนตรีราคาเป็นแสนมาเปิดการแสดง ให้แขกที่มาร่วมงานชม อวดฐานะความร่ำรวย ทั้งๆที่เป็นเพียงแค่การสร้างภาพ จากที่เคยรักหวาน เออออ..พะเน้าพะนอ กลายเป็นรักที่ต้องตบดี ระหว่างการดื่มสุรา
“หน้าตา ไปโดนอะไรมาหรือบัว ” ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกทะเบียน สอบถามด้วยสงสัย
“หนูเมาแล้วลื่น หน้าไปโดนขอบประตู ” สายบัวตอบน้ำขุ่นๆ
ในห้องทำงาน ไม่มีใครเชื่อเลยสักคน คงทราบถึงกิตติศัพท์ของชัยยศ ที่เคยกระทำกับภริยาเก่าไว้จนต้องมาร้องเรียนกับผู้บริหารในที่ทำงานเนืองๆ
“ข้าเจ้าฯ เคยเตือนแล้วว่าอย่าคบหากับชัยยศ แต่เขาไม่เชื่อ นี่ต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวบ่อยๆ "นางน้อยพูด
“ผมเสียดายแทน.สายบัวที่ไม่รู้จักแยกแยะ ยังมาเลือกคบกับคนที่ชอบแสดงตน เป็นอันธพาลน่ะ” ผมพูด
“ข้าเจ้า..ได้แต่สงสารลูกสาว บ่อยๆครั้งยามดึก เวลาที่ชัยยศเมา เขาชอบทำร้ายเมีย สายบัวต้องมาเรียกให้ข้าเจ้า..เปิดประตูเพื่อมาขออาศัยนอนด้วย” นางน้อยพูด
“อาจารย์…ช่วยลูกสาวข้าเจ้า..ด้วย ”
“เกิดอะไรขึ้น ”
“สายบัว กำลังจะถูกออกจากงานแล้ว ”
“เล่าเรื่องให้ฟังหน่อย”
“เรื่องมีอยู่ว่าสถาบัน ได้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยสายบัว สองเรื่อง เรื่องแรกคือสายบัวขาดงานบ่อยๆ และยังทำงานผิดพลาด และอีกเรื่องที่เพิ่งเกิด คือสายบัวถูกกล่าวหาปลอมแปลงเอกสารเพื่อทำเรื่องขอกู้เงินเพื่อสร้างบ้าน”
“แล้วมันจริงหรือเปล่า ”
“ข้าเจ้า ถามสายบัวแล้ว เธอว่าเป็นเรื่องจริง ดังที่ถูกกล่าวหา”
“ไม่น่าทำเลย นี่เพราะอยากมีหน้ามีตา อยากอวดร่ำอวดรวย หมดอนาคตกันคราวนี้ ”ผมคิด
“ได้ข่าวว่า โทษหนักถึงขั้นให้ออกจากงาน” นางน้อย พูด
“คงประมาณนั้น ครับ ”
ข่าวนี้..เป็นจริง . แม้สายบัวพยายามวิ่งเต้นแล้ว แต่นี่เพราะต้นเรื่อง อยูที่หน่วยงานกลางที่เชียงใหม่ จึงไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ สุดท้าย.. อนาคตของเธอก็กลายเป็นคนตกงานอย่างเจ็บปวด
ทางเดินที่เธอเลือกเอง…มิใช่หรือ
ขลุ่ย บ้านข่อย
(๔-๑-๒๕๖๘)
เนื้อเรื่อง
ค่าเริ่มต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
รีวิวจากนักอ่าน
นิยายเรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว
มาเป็นคนแรกที่เขียนรีวิวนิยายให้กับนิยายเรื่องนี้กันรีวิวถึงตอนที่ 0
รีวิวถึงตอนที่ 0
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย
ความคิดเห็น