แม้เธอจะเป็นโสเภณี - แม้เธอจะเป็นโสเภณี นิยาย แม้เธอจะเป็นโสเภณี : Dek-D.com - Writer

    แม้เธอจะเป็นโสเภณี

    ผู้เข้าชมรวม

    17

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    17

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 พ.ค. 67 / 18:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

                                                      แม้เธอจะเป็นโสเภณี 

           คงน่าจะเป็นเรื่องที่ผมได้รับความอับอายมากพอประมาณ  เมื่อวันหนึ่งที่ผมเจอเพื่อนร่วมงาน ที่หน้าอาคารอำนวยการ ของสถาบันที่ผมทำงาน 

      “  เฮ้ย.ไอ้ขลุ่ย เดี่ยวนี้นายเป็นคนดัง ไปแล้วล่ะ “สุรพล เพื่อนในที่ทำงานพูดขึ้น ผมทำสีหน้างงๆ นึกไม่ออกว่าเขาจะมีมุกอะไรมาเล่นกับผม

       “วันนี้..มีเรื่องอะไร ..จะมาอำกูอีก..ล่ะ” ผมพูด 

       “เมื่อคืนนี้…พี่แดงไปเที่ยวที่ซ่อง  ซอยแสนสุขโมเต็ล  พี่เขาเล่าให้กูฟังว่า เขาเห็นรูปมึงอยู่บนหัวเตียงห้องน้องดาว..”  สุรพล พูด

      “พูดไปเรื่อยน่ะพี่แดง ถ้าจะเมาหนัก กระมัง” ผมพูด

      “ไม่เลย พี่แดงกับไอ้นง แค่ไปนั่งกินเบียร์ ที่ร้านโตเกียว แค่คนละขวดเอง” สุรพลพูด

      “แก คงอำมึงมาอีกต่อนึง”

     “พี่แดง ไม่เคยโกหกใคร มึงก็รู้ ..นี่” สุรพล พูด

                                 ผมนิ่งไป….ในใจคิดว่า ถ้าคงจะเป็นเรื่องจริงแล้ว

                                           ********************

      น้องดาวที่สุรพลพูดถึง คือขวัญใจของหนุ่มๆ นักท่องเที่ยวยามราตรี เธอมีวัยเพียง16 ปี มีผิวพรรณขาว สวยปานกลาง  เอาใจคนเก่ง เวลานั้นใครๆที่ไปเที่ยวที่สถานบริการแห่งนี้  มักจะใช้บริการเธอเสมอ

        ปกติสุรพล .. เพื่อนร่วมงานคนนี้ เป็นคนชอบอำผม และชอบอำเพื่อนร่วมงานด้วยกันเป็นประจำ  

      “ ขอร้อง อย่ามาอำกันเลยเพื่อน “ ผมพูด

      “จริงโว้ย  เรื่องนี้มีประจักษ์ พยานยืนยันได้ชัวร์ และน่าเชื่อถือ”สุรพล พูด

      “ มันเป็นไปไม่ได้  ที่รูปกู จะไปอยู่บนหัวเตียงของ คุณโสเภณี คนนั้น “ผมพูด

      “มันเป็นไปแล้ว นอกจากพี่แดงจะเป็นพยานบุคคลยังมีไอ้นงอีกคนที่ไปพบรุูปภาพของมึงด้วย”สุรพลพูด

      ต้องเกริ่น.ให้ทราบสักนิดหนึ่งว่าตอนที่ผมมาทำงานปีแรก ครูบาอาจารย์ที่อาวุโสของสถานศึกษาแห่งนี้อายุอานาม ก็คงประมาณไม่เกิน 40 ปี ส่วนใหญ่ อาจารย์ที่มาบรรจุใหม่ๆ  อายุก็ประมาณ 23- 25  ปี เป็นคนโสดทั้งหมด แน่ล่ะ.. การไปเที่ยวในเมืองเพื่อไปปลดปล่อย จึงเป็นเรื่องธรรมดาของสุภาพบุรุษที่ยังไม่มีครอบครัว  พูดถึงสาวบริการจะมีการแบ่งเกรดตั้งแต่ระดับราคาจากถูกมากไปจนถึงราคาแพง ไอ้เราเงินเดือนน้อยก็เลือกสรรหาสาวบริการ ที่ราคาสมน้ำสมเเนื้อ แค่พอหอมปากหอมคอ. . สถานบริการในซอยแสนสุขจึงเป็นที่ใครๆ รวมทั้งอาจารย์และนักศึกษาที่ผมสอนก็ไปใช้บริการกันและบ่อยครั้งผม ก็จะ. จ๊ะเอ๋... กับนักศึกษา ผมจะส่งซิกแนลให้เขาได้รับรู้  

     “ จุ๊ๆพวกนาย อย่าเอ็ดไป จงอย่าแหกปาก ส่งเสียงดังหรือเรียกเราว่า อาจารย์.. อายเขา  รู้มั้ย “ ผมมักบอกนักศึกษาทีสอนในชั้นเรียนว่าหากบังเอิญไปเจอกันในสถานอาบ อบ นวด  สถานบริการทางเพศณ. ที่ใดๆโปรดจงนิ่งๆ  หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน หรือหากรู้จักก็ขอให้เรียกพี่..เท่านั้น  

    “อย่าทำตัวว่า เรารู้จักกันจงนิ่งๆและเฉยเสีย หากแขกคนอื่นที่มาเที่ยว รู้ว่าเราเป็นอาจารย์ เราจะต้องเสียหน้า” ผมพูด

                                                  ************************ 

             ผมมักจะมาใช้บริการเฉลี่ยเดือนละสองครั้ง   ส่วนใหญ่เวลามาเที่ยว  เราจะใช้จักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา 2 -3 คัน ก่อนจะแวะมาปลดปล่อยก็ต้องไปนั่งดื่มสุราฟังเพลงในบาร์ให้ครึ้มอกครึ้มใจเสียก่อน  พอขากลับจากการดื่ม.. สถานบริการ(ซ่อง)ที่เป็นทางผ่านที่เราจะกลับมาที่บ้านพัก  ก็ใช้เวลาดังกล่าวนี้แว๊บเข้าไปในซอยที่อยู่ไม่ลึกมากนัก ภายในสถานบริการแห่งนี้ มืดมาก หน้าซ่องมีต้นไม้สองต้น บ่อยๆครั้งสถานที่นี้ เกิดการวิวาทกัน เพราะแย่งชิงสาวบริการคนเดียวกัน  เมื่อพวกเราจอดรถแล้ว จึงเดินผ่านประตูที่เป็นรั้วสังกะสีเล็กๆ มีคนคุมสถานบริการ (แมงดา) ยืนคอยเปิด -ปิดประตู เมื่อเราเดินเข้าไปภายในสถานบริการจะมีห้องกระจกเล็กๆ มีสาวๆนั่งกันหน้าสลอนอายุต่ำสุดที่ประเมินจากสายตาคงประมาณสิบห้าปี  อายุสูงสุดประมาณสามสิบปี  ใครต้องการสาวคนไหนก็บอกหมายเลข ให้คนเชียร์สาวเรียกให้ ครู่ต่อมาเขาก็ เรียกชื่อสาวในตู้กระจก

     “ น้องดาว ห้องเบร์ 5 “  

      “น้องจิ๋ม  ห้องเบอร์7 ”

            จากนั้นผู้รับบริการจะเดินตามสาวเข้าไปห้องเล็กๆ ที่เป็นห้องประจำตัวของใครของมัน   โดยปกติผมจะไม่ค่อยพิถีพิถันในการเลือกคืดว่า .ใครก็ได้ สวยไม่สวย ไม่ได้เป็นสาระสำคัญ ขอให้เอาใจดีไม่รีบเร่ง  คุยกันรู้เรื่อง ก็ โอเค.. แต่หากสวยก็ดีหลายๆครั้งที่ไปใช้บริการ มันไม่มีตัวเลือก จำต้องใช้บริการ เพราะขี้เกียจนั่งรอ  เมื่อผมเริ่มจะคุ้นกับสถานบริการแห่งนี้ บางทีบางครั้งผมก็มาคนเดียว โดยยืมรถมอเตอร์ไซด์เพื่อนๆร่วมงาน โดยอ้างว่า จะมาซื้อของใช้ที่จำเป็น  ในที่สุดก็ได้สาวให้บริการเจ้าประจำคือน้องดาว ..อายุเธอเพียง 15 ปี เพราะได้สอบถามจากปากของเธอ  โดยครั้งแรกที่ผมเจอเธอ ดูจากที่เธอนั่งในตู้กระจก รู้ได้ว่าเธอยังเป็นเด็กมากเมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ผมเพียงแต่นอนคุย และสอบถามเรื่องราว เธอคงจะงงว่าแขกคนนี้ทำไม///?? มันจึงไม่เหมือนคนอื่นๆเลย

           จากครั้งแรก ..จนเรื่อยมา เวลาที่ผมมาที่สถานบริการทางเพศแห่งนี้ ผมก็จะรอเธอเพียงผู้เดียว     ในที่สุดผมกับเธอก็สนิทกันมาก คืนหนึ่งที่ผมไปเที่ยวโดยใช้บริการกับดาว เธอได้เปิดกระเป๋าตังค์ของผมที่อยู่บนหัวเตียง  เมื่อเธอเห็นรูปที่ผมสวมชุดครุยรับปริญญาจึงอยากได้เอาไว้ดู  ดาวพูดกับผมด้วยภาษากำเมือง ว่า  

        “  อ้าย เจ้า  ดาวอยากได้รูปพี่  จังเลย “    

         “จะเอาไปทำไม หรือ " ผมถาม

         คืนนั้นผมใจแข็งจึงไม่ยอมให้เธอไป เธอทำสีหน้าผิดหวัง  ผมได้ขับรถกลับมาที่บ้านพัก จากความคุ้นเคยระหว่างผมกับดาว จากหนึ่งเดือน เป็นสองเดือนและเป็นปี  เราจึงสนิทกันมากขึ้นๆ บางครั้ง..บางที ผมลองใจเธอ

       “พี่ไม่มีเงินใช้เลย ตอนนี้  ขอยืมเงินดาว มาใช้หน่อย จะได้ไหม”  

      “ ได้สิ..พี่  จะเอาเท่าไหร่  ล่ะ “. 

        แล้วเธอก็เอาเงินมายัดใส่ทีมือผม   ผมปฎิเสธและเอาเงินคืนให้เธอ  จากความใกล้ชิด สนิทสนม รูปถ่ายที่เธออยากได้ผมก็ได้ให้ไป .พร้อมกับลายเซ็นต์ที่หลังรูป  “

         ขอมอบภาพนี้ ให้น้องดาว  จากพี่..” 

       หลังจากมอบรูปถ่ายชุดครุยให้เธอแล้ว  ผมได้กำชับเธอว่า 

        "ภาพนี้ต้องเก็บรักษาให้มิดชิด เพราะหากใครเห็น พี่ต้องเสียชื่อแย่เลย “ 

                                         เธอรับปากและพูดว่า 

      " หนูจะเก็บไว้อย่างดีเลย หนูสัญญา “  

           ในระยะหลังผมไม่ค่อยได้ไปใช้บริการ แต่มีเพื่อนๆ ในที่ทำงาน ได้ใช้บริการกับเธอ ช่วงตอนก่อนจะออกจากห้องนอน  ดาวเปิดไฟในห้องจนแสงสว่าง  รุ่นพี่ที่ทำงานจึงเห็นรูปผมที่ถูกใส่กรอบเล็กๆอย่างดี  จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนมาอำผม  เท่านั้นยังไม่พอนักศึกษาที่ผมสอน ได้แอบมากระซิบกับผม 

       “ พี่ขลุ่ยๆ .. ผมเห็นรูปพี่ที่สวมชุดครุย  อยู่บนหัวเตียงสาวขายบริการที่ซอยโรงแรมแสนสุข ."นักศึกษาพูด 

          ไม่.ๆ เป็นไปไม่ได้ ผมไม่เคยให้รูปใคร.. เลย   "

         “แต่ผมเห็นนะ เพื่อนๆ ผม หลายๆคนก็เคยเห็น  “ นักศึกษา พูด   

        “ตายห่า..แล้ว  ไอ้ดาว ทำกูซะแสบ ขายหน้าไปทั่ว “ ผมนึก 

          จากปากต่อปากในเรื่องรูปถ่ายของผมที่ไปโชว์ในห้องกะหรี่ขายตัว  ลือกันไปจนทั่วทั้งอาจารย์ชายอาจารย์หญิงเม๊าท์ กันสนุกปาก ผมนี่แทบจะเอาปี๊บเดินคลุมหัว ปากก็แก้ตัวไป  

        “ผมไม่ได้ให้รูปน้อง เขาไปนะ  ผมอาจเผลอเมาจนหลับ แล้วน้องคงแอบเอาไป .."ผมแก้ตัวไปกับทุกคน

          ผมอดรนทนไม่ไหวกับเรื่องนี้แล้ว  ทำไงดี..  คิดแล้วว่า  พอตอนค่ำของคืนนี้ ผมจะขี่จ.ย.ย ไปหาดาวที่สถานบริการ และเมื่อได้พบกันแล้ว 

         "ทำไม ดาวถึงทำกับพี่  อย่างนี้"

        “เกิดอะไรขึ้น หรือพี่”

       “อย่ามาทำไก๋ ”

       “ดาวไม่รู้ จริงๆ ”

       “ไหนดาวบอกกับพี่ว่า เมื่อพี่ให้รูปไปแล้ว ดาวจะเก็บไว้ ไม่ให้ใครเห็น นี่ดาวมาไว้บนหัวนอน ใครๆ เขาก็เห็นรูปพี่หมด  สิ”

       “หนูขอโทษ  จากนี้ หนูจะเก็บไว้ ไมให้ใครเห็นแล้ว”

      “พี่ขอรูปพี่คืน นะ  ”

        ผมก็ได้ต่อว่าเธออย่างรุนแรง จนเธอร้องไห้ เธอได้กล่าวขอโทษผม ผมพยายามค้นหาและขอรูปคืน เธอก็ไม่ให้ท่าเดียว  เมื่อไม่ได้รูป ผมก็กลับมาบ้านกะว่า  ยังไง//??  จะต้องหาทางเอารูปกลับคืนมาให้ได้ 

                                                  ************************

         วันหนึ่ง..ขณะที่ผมสอนในชั้นเรียน ได้เจอกับน.ศ ชื่อนายบุญฤทธิ์ ผมได้บอกเขาไปว่าให้ช่วยไปประกาศให้เพื่อนๆนักเที่ยวด้วยว่า ใครสามารถเอารูป  ผมคืนกลับมาได้ จะให้เหล้าหนึ่งกลม พร้อมเงินสดอีก 100 บาท (สมัยนั้นไปเที่ยวสถานบริการ เสียค่าบริการแค่  50 บาทเท่านั้น   บุญฤทธิ์ได้ปล่าวประกาศให้เพื่อนๆ และรุ่นน้องของเขาทราบด้วยทั่วกันเพื่อหวังได้รางวัลจากผม  เมื่อทุกคนทราบแล้ว…ความอายของผม จึงไม่มีอีกต่อไป คิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไร จึงจะได้ภาพถ่ายภาพนั้นกลับคืนมาโดยพลัน

         ผมรอด้วยใจจดจ่อ.แรงจูงใจ ตรงนี้มีนักศึกษาส่วนใหญ่พร้อมอาสาที่จะนำรูปของผมมาคืนให้จงได้  และแล้ว…ภายในหนึ่งเดือนต่อมา..ผมก็ยิ้มออกได้. เพราะ ผมได้รับรูปกลับคืนมา .โดยมีนักศึกษาผู้กล้าได้แอบลักรูปของผมจากเธอเอามาให้ .ผมได้ให้รางวัลกับคนนำรูปมาคืนตามสัญญา พร้อมชื่นชมความสามารถของเขา  .. 

      “สุดยอดเลยโว้ย ไอ้น้อง   ”ผมพูด

      “ฝีมือครับ อาจารย์พี่” สันติพูด ด้วยความภูมิใจ

      “มีเทคนิคอย่างไร ..เหรอ ถึงได้ภาพคืนมา  ”ผมถาม

     “ผมแอบลักรูปเอามาตอนที่เธอเผลอ ช่วงนั้นเธอออกไปเอาน้ำอัดลม มาบริการผม  ”

                                                *************************

             จากนั้นเป็นต้นมา ผมก็จะไม่พกรูป..ติดไว้ในกระเป๋าเงินอีกเลย . และนี่คือเรื่องจริงที่ผมยังไม่ลืม ..แม้น้องดาว จะเป็นสาวงามในตู้กระจก เป็นคนไร้เกียรติ แต่อาชีพที่เธอทำก็เป็นอาชีพที่สุจริต ผมกับดาวยังคบกันต่อมา ในหลายๆครั้ง ผมได้ชวนเธอมานอนค้างคืนในบ้านสวนของเพื่อน เธอไม่เคยขัดใจหรือปฎิเสธผมเลยสักครั้ง    นั่นเป็นเพราะ เธอรักผมเสมือนคู่รักจริงๆ 

       ธุรกิจการค้าบริการทางเพศ เป็นอาชีพคู่สังคมมนุษย์ที่เก่าแก่พอๆ กับอาชีพขอทานและทุกสังคมไม่ค่อยให้การยอมรับ แต่โสเภณี ก็มีอยู่ในทุกสังคมและคนแทบทุกชนชั้นก็ใช้บริการผ่านมาเป็นพันๆ ปี สถานะทางสังคมของอาชีพนี้ก็ยังแทบจะเป็นแบบเดิมที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง

      คงต้องบอกว่า ทุกวันนี้ นักการเมืองผู้มีเกียรติ ทำตัวแย่กว่าโสเภณี เผลอๆ โสเภณียังดูดีกว่านักการเมืองผู้ทรงเกียรติที่เรียนจบสูง ใส่สูทซะอีก  โสเภณียอมขายเรือนร่าง เพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเพื่อครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง แต่...นักการเมืองส่วนหนึ่งขายตัว  ยังไม่พอ บางคน .. ยังขายอุดมการณ์และขายชาติ.. ของตนอีก        

                                                           ขลุ่ย   บ้านข่อย

                                                             (12 -5- 2567)

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×