ชีวิตพลิกผัน
จากวัยรุ่นที่เกเร ผ่านการเกณฑ์ทหาร ไปทำงานจนมีครอบครัว ถูกภริยาทิ้ง ความอย่างมั่งมีจึงใช้ธนบัตรปลอม จนถูกจับติดคุก ว่าไปชีวิตเขาก็น่าสงสารไม่น้อย
ผู้เข้าชมรวม
30
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
ชีวิตที่พลิกผัน
ในหมู่บ้านที่ใกล้สถาบันที่ผมทำงานที่สุดมีสองหมู่บ้าน ด้านทิศเหนือคือหมู่บ้านบ้านห้วยยางนา ส่วนทางทิศใต้คือบ้านมิ่งมงคล บ้านมิ่งมงคลเป็นหมู่บ้านเล็กมาก มีหลังคาเรือนปลูกอาศัยไม่น่าจะเกิน 50 หลังคาเรือน คนที่อยู่ในหมู่บ้านเป็นคนในท้องถิ่นตั้งแต่เกิด คนเก่าแก่ที่ผมรู้จักคือแม่คุ่ย ที่เป็นพี่สาวของหลวงพ่อ ในวันนี้มีอายุครบร้อยพอดี ท่านเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นานมานี้นี่เอง สถาบันที่ผมมาทำงาน ณ ขณะนั้นสังกัดกรมอาชีวศึกษา เป็นสายวิชาชีพเกษตรกรรม พื้นที่จึงต้องมีมากมากกว่าสถาบันการศึกษาในสังกัดกรมสามัญหรือสายวิชาชีพอื่นๆ เพราะวิชาชีพเกษตรกรรม จะต้องเป็นที่เพาะปลูกพืชชนิดต่างๆ อาทิ ข้าวจ้าว ข้าวเหนียว ข้าวโพด ยาสูบ พืชผักชนิดต่างๆ ตั้งแต่ผักกาดขาว คะน้า กวางตุ้ง กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก แตงกวา ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตาฯลฯทั้งยังมีการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล เช่น มะม่วง ลำใย หากเป็นด้านปศุสัตว์ก็จะต้องมีพื้นที่สร้างคอกสัตว์อาทิ สร้างคอกไก่เนื้อ ไก่ไข่ สุกร วัวนม บ่อปลานิล ฯลฯสรุปว่าที่สถาบันแห่งนี้มีพื้นที่เกือบ 800 ไร่ เพื่อเป็นที่ฝึกวิชาชีพให้กับนักศึกษาได้จริงๆ
ในอดีตโรงอาหารของสถาบันฯยังไม่มีการร้านจำหน่ายอาหารประเภท ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ให้คณาจารย์และนักศึกษาเพื่อบริโภค ผมจึงต้องออกไปหาของกินภายนอก ร้านที่มีในเวลานั้น มีเพียงร้านนายน้อยกับป้าย้าย ส่วนบ้านเจ๊เพ็ญจะรับทำอาหารประเภทผูกปิ่นโต ร้านที่ผมมาบ่อยที่สุดคือร้านนายน้อย ที่อยู่ติดกับวัด ร้านนี้จะมีนักศึกษาที่พักอยู่ในละแวกนี้มาอุดหนุนกันคับคั่ง นอกจากจะมีอาหารตามสั่งจำหน่ายยังมี บุหรี่ สุรา ตู้เพลงไว้ให้ลูกค้าสามารถหยอดเพลง ทั้งเพลงสากล ลูกทุ่ง ลูกกรุง ได้ตามความชอบ
“ทานอะไร หรือพ่อหนุ่ม ” ลุงเจ้าของร้าน ถาม
“มีอะไรบ้าง ครับ ”
“อ่านที่กระดาน บอกรายการอาหารเลย” ลุงพูด
เขาพูด..พร้อมมองมาที่ผม เขาคงสังเกตเห็นคนหนุ่มแปลกหน้า ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ผมอ่านเมนูที่ติดข้างฝาห้องซึ่งบริษัทผลิตน้ำอัดลมทำให้
“ข้าวผัดหมู กับไข่ดาวฟองนึง กาแฟเย็น.แก้ว ” ผมพูด
หลังจากผมสั่งแล้ว ได้สอบถามลุง ซึ่งเป็นพ่อของเจ้าของร้านค้าร้านนี้
“ลุงมีหนังสือพิมพ์ มั้ยครับ ”
“มีครับ แต่เป็นฉบับ เมื่อวานนี้ นะ ”
"ได้ครับ "
โดยปกติ ผมจะไปอ่านหนังสือพิมพ์ที่ห้องสมุดอย่างน้อยวันละหนึ่งชั่วโมง ที่ห้องสมุดมีหนังสือ พิมพ์ ที่รับเป็นประจำถึง 6ฉบับคือสยามรัฐ มติชนไทยรัฐ เดลินิวส์ บ้านเมืองและพาณิชย์ ผมจะต้องอ่านทุกฉบับ การมาอ่านที่ร้านนี้ก็เเพียงอ่านฆ่าเวลา เพราะบางทีบางครั้งที่ผมหยิบจับอ่านที่ห้องสมุดก็มิได้อ่านทุกคอลัมน์
“ได้แล้วครับ”
ผมขยับจานข้าวเข้ามาใกล้ตัว แล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำปลาพริก ใช้ช้อนเล็กที่อยู่ในแก้วจ้วงเอาเฉพาะพริกขี้หนูโรยลงบนข้าว แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นจึงตักเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ตามองหนังสือพิมพ์ไปพลาง นักศึกษาที่เข้ามาในร้าน บางคนไม่รู้จักกับผม ก็ได้แต่มองๆ ผมยิ้มๆให้ทุกคนเพื่อผูกมิตร อีกร้านหนึ่งที่อยู่หลังวัดคือร้านขายข้าวแกงป้าย้าย ร้านนี้ใช้พื้นที่ของบ้านเป็นที่จำหน่าย นอกจากจะขายข้าวแกงแล้วยังขายของเครื่องใช้ เครื่องเขียน ของกินเล็กน้อยๆ อย่างลูกอม ข้าวเกรียบ ร้านนี้ มีนักศึกษามากกว่าร้านนายน้อย เพราะกับข้าวเป็นแบบง่ายๆที่คนทางเหนือนิยมรับประทาน เช่น แกงวิญญาณไก่ใส่มะเขือ ต้มฟัก ต้มผักกาดดอง ผักถั่วงอก ผัดพริกถั่วฝักยาว ส่วนใหญ่นักศึกษาที่มาอุดหนุนจะเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ กินอิ่มเป็นหลัก ผมมาลองกินครั้งเดียวก็เริ่มรู้สึกว่าน่าจะต้องมาเป็นลูกค้าประจำ เพราะราคาถูกมาก ยิ่งโดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนมีรสนิยมสูงอะไรมากนัก
“ขอโทษ ..เจ้า เป็นอาจารย์ มาใหม่หรือ ” เจ้าของร้านที่เป็นผู้หญิงสอบถาม
“ครับ ” ผมตอบสั้นๆ
“ดูไม่ออกเลย ทีแรก ข้าเจ้า..นึกว่าเป็นนักศึกษา เสียอีก"
การที่ผมเคยเป็นเด็กกิจกรรม ตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งยังมีประสบการณ์ผ่านการทำงานสหกรณ์ และยังมีประสบการณ์ เคยเป็นเซลแมน ทำให้ต้องประสบพบเจอกับสังคมทุกรูปแบบตั้ งแต่สังคมชนบท สังคมเมืองหลวง จึงทำให้ผมปรับตัวได้ทุกรูปแบบโดยไม่ยากนี่จึงทำให้ผมเข้ามาในหมู่บ้านมิ่งมงคลได้อย่างกลมกลืนในเวลาที่รวดเร็ว มากกว่าอาจารย์ที่เคยอยู่มาก่อน
“ผมอยากขอรบกวนให้อาจารย์ มาช่วยเหลืองานทอดผ้าป่า ที่วัดซึ่งจะจัดในเดือนพฤศจิกายนนี้ ” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พูด
“ได้ครับ”
“ผมจะพาอาจารย์ ให้ไปรู้จักกับพระคุณเจ้าหลวงพ่อพระครูสุธรรม เจ้าอาวาสวัด ”
“ดีครับ”
**********************
หลังจากที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้พาผมไปพบกับหลวงพ่อนับแต่วันแรก และได้คุ้นเคยกันมาตามลำดับ และช่วงหนึ่งที่มีการจัดผ้าป่าที่วัด ผมจึงได้ประสานงานไปที่รุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าแผนกโสตฯศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนภาคเหนือ ที่เคเรียนร่วมสถาบันเดียวกันมาก่อน ได้อนุเคราะห์จัดพนักงานและนำภาพยนตร์มาฉายเพื่อสมโภชน์งานบุญผ้าป่า และนี่คือครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมเป็นผู้ริเริ่มทำ ทำให้ประชาชนและนักศึกษา มีความสุขกับการชมภาพยนตร์จนสว่างคาตา เวลานั้นเด็กวัยรุ่นที่อยู่รอบๆวัด ที่ผมรู้จักมี 5- 6 คนคืออดิศร นิวัฒน์ บุญล้ำ เสาร์คำและสุรเดช เวลานั้นพวกเขามีอายุได้ประมาณ17 ปี พวกเขามักจะมาคลุกคลีกับพี่ๆที่เป็นนักศึกษาที่มาเช่าพักในหมู่บ้าน วัยรุ่นทั้ง 5 คนนี้ คนที่มีแววเกเรที่สุดคือ บุญล้ำ เขามักจะแสดงพฤติกรรมใจถึงพึ่งได้ โดยการกระทำให้เห็นเสมอๆ
บุญล้ำเป็นลูกชายคนเดียวของป้าหอม คนเก่าแก่ของหมู่บ้านแห่งนี้ ป้าหอมเป็นม่ายตั้งแต่บุญล้ำอายุเพียง 5 ขวบ เท่านั้น สามีป้าหอมเคยเป็นคนขับรถยนต์โดยสารประจำทางลำปาง- เชียงราย บุญล้ำ เคยบวชเรียนเป็นสามเณรและได้ลาสิกขามาเรียนต่อที่วิทยาลัยเทคนิคจนจบชั้นปวช.แผนกช่างไฟฟ้า ในกลุ่มเพื่อนๆของเขาเท่าที่ผมมองเขาเป็นคนหน้าตา ดีและฐานะทางบ้านของเขาจะดีกว่าเพื่อนๆทุกคนแม่ของบุญล้ำค่อนข้างจะเอาใจและตามใจลูกชายคนเดียวของเธอมาก เมื่ออายุ 21 ปี เพื่อนๆรุ่นเดียวกันต้องไปเกณฑ์ทหารที่ในเมือง ในพื้นที่ของหมู่บ้านมีเขากับสาร์คำเท่านั้นที่จับใบแดงได้และต้องเข้าไปประจำการเพื่อฝึกทหาร และรับใช้ชาติถึงสองปีเต็ม
“สวัสดีครับอาจารย์ ” ชายหนุ่มผมเกรียน หน้าตาหล่อเหลา ร่างบึกบึน ความสูงประมาณ 165 เซนติเมตร เอ่ย. ทักทาย ในขณะที่ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ร้านขายข้าวแกงป้าย้าย ผมเงยหน้าตามเสียง
“หวัดดีครับ บุญล้ำ ”ผมพูด
“ทานข้าว หรือครับ” บุญล้ำ พูด
“ครับ.ใช่ มากินด้วยกินสิ”
“ตามสบายครับ ผมกินเรียบร้อยมาจากบ้านแล้ว ผมจะมาหาไอ้ศร ครับ” บุญล้ำ พูด
ศรหรืออดิศร เป็นลูกคนชายของป้าย้าย เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ไปเกณฑ์ทหารรุ่นเดียวกันกับบุญล้ำ อดิศร นิวัฒน์และเสาร์คำ แต่ที่จับใบแดงได้มีเพียงสองคนคือ บุญล้ำกับเสาร์คำ หลังจากเข้าประจำการจนครบกำหนดสองปีแล้ว เด็กหนุ่มทั้งสองคนจึงชวนกันไปทำงานต่างจังหวัด บุญล้ำไปทำงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตำแหน่งผู้ช่วยเชฟ ที่ห้องอาหารแห่งหนึ่ง เขาได้พบรักกับพนักงานแคชเชียร์สาวสวยแห่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นคนภาคเหนือด้วยกัน และทั้งคู่ได้ตกลงเป็นคู่ชีวิต ครองรักด้วยความหวานชื่น ผมไม่พบกับบุญล้ำกว่า 5 ปี แต่หลังจากช่วงสงกรานต์ของปีหนึ่ง เขากับภริยาได้ตกลงใจลาออกจากการทำงานเพื่อกลับมาตายที่บ้านเกิด เนื่องจากมีบุตรชายที่ต้องดูแลเลี้ยงดุู
บุญล้ำกับภริยา ได้เงินก้อนหนึ่ง ที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ขณะที่ทำงานในต่างจังหวัด ทั้งสองคงได้ตกลงใจที่เปิดห้องอาหาร ภายในบ้านข้างวัดที่มีเนื้อที่กว้างขวางพอสมควร ด้วยประสบการณ์ของคนทั้งสองที่เคยทำงานในห้องอาหารมาก่อนจึงช่วยกันออกแบบห้องอาหาร เพื่อจะสนองตอบความต้องการของลูกค้า และสามเดือนต่อมาห้องอาหารของบุญล้ำกับภริยา ก็ได้สร้างจนเสร็จ ค่าใช้จ่ายและค่าซื้ออุปกรณ์งานครัว ต่างๆ อาทิตู้แช่ เตาแก๊ส กระทะ ถ้วย ชาม ฯลฯไม่ต่ำกว่าสามแสนบาท
บุญล้ำ ได้ใช้กลยุทธ์ การตลาดเบื้องต้น ด้วยการเชิญชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่สนิทๆ มาร่วมทำบุญร้านอาหารของเขาที่เปิดขึ้นมาใหม่ พร้อมมีวงดนตรีมาสร้างบรรยากาศ และหลังจากนั้นอีกสามวันเขาได้ติดใบประกาศในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงให้มาชิมอาหารฟรีสามวัน
“อาจารย์ ขลุ่ย ผมกำลังจะทำบุญห้องอาหาร ที่จะเปิดในเร็วๆนี้ ยังไงอาจารย์ต้องมาร่วมงานของผมให้ได้ คนอื่นๆไม่มา ผมไม่ว่า แต่อาจารย์ไม่มาไม่ได้ นะครับ ผมไหว้จริงๆ ” บุญล้ำ พูด
บุญล้ำกับภริยาสาวสวยไม่แพ้นางงามที่ประกวดในงานฤดูหนาวของจังหวัดลำปาง เดินทางมาหาผมที่บ้านพัก ด้วยรถจักรยานยนต์
“ได้ ยังไงจะลองเช็กตารางเดินสายเข้าเมือง ประเดี๋ยวก่อนนะ”
“ผมขออาจารย์สักวัน นึงน่า.. ”บุญล้ำ พูดอ้อนวอน
“เค ตกลง” ผมพูด
สองสามี โล่งอกที่ผมตอบรับออกไป จากนั้นเขาก็ได้ขี่รถ ออกจากบ้านผมไปหาอาจารย์ประชัน คนที่คุ้นเคยอีกคน ที่มักจะพบเจอกันที่ตลาด
**************************
วันทำบุญที่ร้านอาหารจีรพรรณ เพื่อนฝูงของบุญล้ำ ญาติๆ และคนสนิทกว่า 50 คนมาพร้อมหน้า ช่วงเช้ามีการทำบุญตักบาตรเลี้ยงอาหารเพล และช่วงเย็นที่เป็นไฮไลท์ของงานก็เริ่มตั้งแต่ห้าโมงเย็น การจัดเลี้ยงอาหารเป็นฝีมือของบุญล้ำ ที่ได้เตรียมทำตั้ งแต่วันก่อนงานหนึ่งวัน สองสามีให้การต้อนรับ แขกเป็นอย่างดี วงดนตรีที่จ้างก็เป็นกลุ่มเพื่อนๆที่รู้จักกัน
“ขอบคุณครับอาจารย์ เดี๋ยวมานั่งโต๊ะผม จะได้คุยกันสักหน่อย” บุญล้ำ พูด
บุญล้ำ เดินนำผมมายังโต๊ะเพื่อนๆทั้ง 5 คนที่สนิทกัน วัยรุ่นกลุ่มนี้ รู้จักกับผมดี เพราะมีอาจารย์ในสถาบันเพียงคนเดียวเท่านั้น ทีมาคลุกคลีตีโมงกับนักศึกษาที่พักในหมู่บ้านนี้ โต๊ะที่บุญล้ำจัดไว้ให้แขกมีประมาณ 4 โต๊ะๆ ละ 8 คน ส่วนที่เหลือที่เป็นญาติก็ใช้วิธีการนั่งลงที่พื้นบ้าน แบบง่ายๆ ถัดจากนั้นมาอีกสามวัน ร้านอาหารของบุญล้ำใช้วิธีการจูงใจให้นักศึกษามากินฟรีสามวันแรก นับว่าเป็นการจูงใจที่ได้ผล จากนั้นลูกค้าที่เป็นนักศึกษาก็ได้มาอุดหนุนร้านของเขาอย่างอุดหนาฝาคั่่ง ทำให้ร้านที่เปิดก่อนมาก่อนเงียบเหงา การที่ลูกค้าเนืองแน่นส่วนหนึ่งมาจากรสชาติจากฝีมือของเชฟทั้ง ราคาอาหารตามสั่งที่ไม่แพง ทั้งภริยาของบุญล้ำ ซึ่งมีความสวย สุภาพ มารยาทดีจึงเรียกลูกค้าได้มาก
บุญล้ำกับภริยามีบุตรชายเพียงคนเดียว ชื่อเอกพงษ์ เอก เป็นเด็กชายที่ค่อนข้างเรียบร้อย ในวัยเด็กที่ผมเห็นเขาไม่มีแววเลยสักนิด ที่จะมีกิริยาอาการเอนเอียงมาทางสตรีเพศ สภาพแวดล้อมของเด็กๆ ในบริเวณนี้ ส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิง 80 เปอร์เซ็นต์ เอกเข้าเรียนชั้นประถม-มัธยม มาตามลำดับ ช่วงเรียนชั้นมัธยมต้น กิริยาท่าทางเขาค่อนข้างจะกระเดียดในทางตุ้งติ้งมากขึ้น จนชัดเจนเกินที่บุญล้ำจะดัดนิสัยให้มาเป็นสุภาพบุรุษได้ดังพ่อ เขาจึงปล่อยให้ลูกชายเป็นไปดังจิตใจที่อยากเป็น ระยะต่อมา.ภริยาของบุญล้ำ ปันใจไปมีคนรักใหม่ และละทิ้งจากบุญล้ำมาจนถึงปัจจุบัน เขาได้อยู่กับลูกชายเพียงสองคน ห้องอาหารจึงต้องปิดตัวลง
“แย่เลยครับ อาจารย์ ภริยาผมทิ้ง ไปมีคนรักใหม่ ผมอยู่กินกับเขามาตั้งแต่เป็นแฟน จนมีลูกชายอายุได้14 ปี เขาไม่น่าจะทำกับผมเลย” บุญล้ำ ระบายความในใจให้ผมฟัง ขณะเขาไปเที่ยวบ้านเพื่อนซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน
“คิดว่า เราคงทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ นะ”
“นี่ ผู้ใหญ่เสาร์คำ มันชวนให้ลงสมัคร สมาชิก อบต. ในหมู่บ้าน มันรับปากว่าจะช่วยสนับสนุนให้ผมมีโอกาสได้เป็นสมาชิกให้ได้”
“ดี ผมสนับสนุนอีกคน ยังไงผู้ใหญ่ ช่วยบุญล้ำด้วยนะ”ผมพูด
“ครับ อาจารย์ เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อนครับ” ผู้ใหญ่เสาร์คำพูด
เมื่อมีการเลือกสมาชิก อบต. ในพื้นที่บุญล้ำก็ได้รับเลือกเป็นสมาชิกของหมู่บ้าน เขาได้สวมเครื่องแบบตามความฝัน ที่เคยตั้งใจ สองปีแรกที่เขาทำหน้าที่ตัวแทนของชาวบ้านได้ทุ่มเท เสียสละอย่างเต็มความสามารถ การที่เขาได้รับเพียงเงินเดือนที่ไม่มากนัก จึงทำให้ต้องพยายามหารายได้เสริมเพื่อชดเชยกับรายจ่าย ค่าภาษีสังคม ที่มากขึ้นจากการต้องจ่ายค่าซองที่ได้รับเชิญจากชาวบ้านในหมู่บ้าน อาทิ .งานบวช งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานศพฯลฯ
บุญล้ำต้องรับงานเป็นช่างทาสีเพิ่มขึ้นมาอีกงาน เพื่อเพิ่มรายได้ แต่งานด้านช่างสี นานๆจึงจะมีให้ทำสักครั้ง ความคิดชั่ววูบกับปัญหาครอบครัว และส่วนตัว ทำให้บุญล้ำคิดตื้นๆ เพื่อความอยู่รอดและความสุขสบายโดยไม่ต้องเหนื่อยมาก เขาได้ลงทุนด้วยเงินน้อยนิด ไปซื้อธนบัตรปลอมจากแหล่งผลิตแห่งหนึ่ง ที่ทำธนบัตรปลอมเหมือนของจริงอย่างไม่ผิดเพี้ยน เขาได้เริ่มทดลองนำไปใช้ ในอำเภอใกล้เคียงและไม่มีแม่ค้ารายใดจับพิรุธได้เลยสักราย เขาใช้วิธีการซื้อบุหรี่และสุราและได้ให้ธนบัตรใบละ 500 เขาได้รับสิ่งของพร้อมเงินทอน แต่ก็ต้องเสี่ยงกับสักวัน ที่อาจจะมีผู้ค้าที่เห็นความพิรุธ จับธนบัตรปลอมที่เขาใช้
บุญล้ำมีความสุขกับการใช้ธนบัตรปลอมอย่างเพลิดเพลิน เขาไม่ได้ชะล่าใจเลยว่ากำ ลังถูกตำรวจตามล่าตัวการใช้ธนบัตรปลอม ข่าวลือเรื่องธนบัตรในต่างอำเภอเริ่มหนาหู แต่ผู้กระทำยังไม่หยุดยั้ง
“บุหรี่ซองนึง บะหมี่สำเร็จรูป 5 ซอง” บุญล้ำสั่งให้แม่หยิบสินค้า เธอยื่นส่งสินค้าให้พร้อมรับธนบัตรใบละห้าร้อยบาท จากที่มีข่าวลือธนบัตรปลอมทำให้แม่ค้าต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะบุญล้ำกำลังรอเงินทอน
“ช่วยจับ คนใช้แบงค์ปลอมด้วย” แม่ค้า ตะโกนเสียงดัง บอกให้คนมาเที่ยวในงานประเพณีได้รับรู้ บุญล้ำตกใจ จึงรีบหนีทันที เขารอดจากการถูกจับกุมและหลบไปต่างจังหวัด เมื่อข่าวคราวซาๆ เขาจึงได้กลับมาบ้าน และถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด จากนั้นจึงถูกศาลสั่งจำคุก 10 ปีฐานมีและใช้ธนบัตรปลอม เขาขาดอิสรภาพ 5 ปี และได้รับการพ้นโทษออกมา
หลังจากพ้นโทษ เขาเข้าหน้ากับเพื่อนบ้านไม่ติด เพราะมีแต่คนรังเกียจที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหมู่บ้าน เขาได้ออกจากบ้านกลับไปยังอยุธยา เพื่อกลับไปเป็นเชฟอีกครั้ง จนได้ภริยาคนใหม่ และได้ลูกสาว เวลาผ่านไปเมื่อข่าวต่างๆ ซาลงเขาได้พาครอบครัวกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง แรกๆ เขาไม่กล้าทักทายผม และผมก็ไม่ชอบกับคนที่เอาเปรียบสังคม แต่เมื่อช่วงหลังเขาสำนึกและกลับมาเป็นคนดีของสังคม ผมจึงยินยอมเปิดโอกาสให้เขากลับตัวกลับใจ
“ลูกสาว เรียนชั้นไหนแล้ว ” ผมถาม บุญล้ำ ช่วงยามเช้าที่พบเขาพาลูกสาวมารอขึ้นรถโดยสาร
“ ป.6 แล้ว ครับ”
ผมยืนคุยกับบุญล้ำ วันละเล็กละน้อย มองดูว่า อดีตที่เขาเคยผิดพลาด คงทำให้เขาเกิดความรู้สึกผิดและคงไม่กลับไปทำซ้ำอีก
“สมัยหน้า ผมจะลงสมัครลง สมาชิกอบต. อีกครั้งครับ ” บุญล้ำพูด
“โอเค ลืมเรื่องราวในอดีต และทำวันนี้ให้ดี ทุกคนคงให้โอกาส”
“ลูกคนโต ไปอยู่ไหนแล้ว”
“เขามีครอบครัวแล้ว ทำงานอยู่ที่พัทยา ” บุญล้ำพูด
ว่าไปแล้ว ชีวิตของบุญล้ำก็น่าเห็นใจ มีภริยาก็ถูกละทิ้ง ลูกชายที่เป็นความหวัง ก็เปลี่ยนเพศสภาพเป็นหญิง ห่างไกลกัน ตัวเขาเองก็ต้องผ่านคุกผ่านตาราง ชีวิตที่พลิกผันเพียงแค่หวังความสุขสบาย กลายเป็นตราบาปที่สร้างแผลเป็น ติดตัวชั่วชีวิต
“มีอะไรให้ผมช่วยได้ ยินดีจะช่วยให้ นะ สู้ๆนะ บุญล้ำ” ผมพูดให้กำลังใจ
เขายิ้ม.. เศร้าๆ บาดแผลนี้ ลึกเกินที่เขาจะเข้าหน้าผมติด
ขลุ่ย บ้านข่อย
(๒๕ มกราคม ๒๕๖๗)
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น