ไม่หล่อแต่ก็มีเสน่ห์
หน้าตาเป็นสิ่งที่มนุษย์กำหนดด้วยตนเองมิได้ โรจนะ เด็กหนุ่ม ผู้มีปมด้อยไม่ต่างจากพ่อ... แต่ทั้งพ่อและตัวเขาเอง ก็ได้ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ ด้วยความขยัน มุ่งมั่น จนมีครอบครัว
ผู้เข้าชมรวม
40
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ไม่หล่อแต่.. ก็มีเสน่ห์
ผมคุ้นเคยกับบุญชมซึ่งเป็นพ่อของโรจนะ ตั้งแต่ผมยังเพิ่งมารับราชการที่ลำปางใหม่ๆพ่อของโรจนะ เป็นคนต่าง-หมู่บ้านที่มาเป็นลูกมือช่างก่อสร้างในหมู่บ้าน บ้านห้วยยางนา เขามาเช่าห้องเล็กๆ ปนๆอยู่กับนักศึกษา ในราคาไม่แพงมากนัก บุญชมมีบุคลิกคือผิวคล้ำและฟันเหยิินยื่นออกมาค่อนข้างมาก ซึ่งอาจเป็นปมด้อยส่วนตัวของเขาก็ได้ อายุของบุญชมในขณะนั้นประมาณ 19-20 ปี ซึ่งอ่อนกว่าผมประมาณ 5-6 ปี เขาเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ มีการศึกษาเพียงจบชั้น มัธยมต้น ในเวลานั้น ..เขาไปทำงานในเมืองกับหัวหน้าช่างไม้ ที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงกัน
ทุกๆค่ำ หลังจากเขากลับจากทำงานในเมืองแล้ว นักศึกษาที่พักใกล้เคียงในกระท่อมที่เขาเช่า ต่างรวมตัวกันหุงหาอาหารมื้อเย็นและสิ่งที่ขาดไม่ได้คือพวกเขาจะต้องไปซื้อสุราเถื่อนจากบ้านผู้ใหญ่บ้าน มาดื่มก่อนกินข้าว
“ชม.. แวะกรึี๊บเหล้าที่หอผมหน่อยดิ” ผจญ เรียกสมาชิกที่มีห้องเช่าใกล้เคียง
สมาชิกในหอพัก (กระท่อม)ในกลุ่มนี้มีประมาณ 10 หลัง กระท่อมที่ปลูกสร้างเป็นการสร้างแบบง่ายๆ ทุกหลังส่วนใหญ่ใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุก่อสร้างหลังคาใช้หญ้าคามุุงเพื่อทำให้ไม่ร้อนดังเช่น การมุงสังกะสี
“สักครู่นะ ผจญ ผมขออาบน้ำประเดี๋ยว” บุญชม ตะโกนตอบกลับมา
“ได้ครับ…เดี๋ยวพวกผมรอ ”ผจญพูด
กลุ่มนักศึกษากลุ่มที่พักในหอพักแห่งนี้ เป็นเด็กที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายวิชาเอก เกษตรกรรม จากโรงเรียประจำอำเภอและโรงเรียนประจำจังหวัด ทั้งในภาคเหนือและจากหลากหลายทั่วประเทศที่ได้เข้ามาสอบ เพื่อเรียนต่อในระดับปวส. บุญชม มีอายุอยู่ในวัยเดียวกันกับนักศึกษาจึงสามารถเป็นเพื่อนกันได้ง่าย
“มา เข้ามานั่งกรึ๊บเหล้ากัน วันนี้ ..ผมพล่าเนื้อกิน พวกเราเข้าหุ้นกันคนละสิบบาท” ผจญ พูด
“นี่.เป็นกับแกล้ม ที่ผมชอบมากเลย ล่ะ” บุญชม พูด
“เต็มที่เลย กับแกล้มมีหลายอย่าง มีต้มส้มไก่พื้นเมืองหม้อนึงและผัดผักบุ้ง ” อุทัยเพื่อนร่วมรุ่น พูดเสริม
“ได้ไก่..มาจากไหน ”บุญชม พูด
“ไก่ชนของไอ้ชนกที่ไปตี(ชน)ที่บ่อนไก่บ้านห้วยน้ำเค็ม เมื่อวานมันชนแพ้ ไอ้นกเลยจัดการเชือดซะ ” อุทัยพูด
ทุกคนนิ่ง.. เมื่อพูดถึงไก่ชน จริงๆแล้วไอ้เหลืองเคยเป็นไก่ชน ที่ชนกเคยโปรดปรานมากตัวหนึ่ง สมัยที่มันยังแกร่ง แข็งแรง มันไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลย นั่นก็เป็นธรรมดาที่การพนัน ย่อมมีแพ้ชนะ อายุขัยและกำลังวังชาชั้นเชิงมันคงถดถอยจึงสู้ไก่ที่หนุ่มกว่าไม่ได้การแพ้ของไอ้เหลือง ในระยะหลังๆทำให้ชนกขาดการทะนุถนอม แยแสดังแต่ก่อน ว่าไปชีวิตของไก่ตัวนี้ ก็น่าสงสาร พอมันไร้ค่ามันก็กลายเป็นอาหารของเจ้าของ ในวันดังกล่าว.. ผมได้เข้าไปนั่งสมทบนั่งดื่มสุราหลังจากที่บุญชม หย่อนก้นลงในวงเหล้า ก่อนหน้าผมสักสิบนาที
ชนก .เป็นนักศึกษาที่มาจากเมืองน้ำเค็มย่านภาคตะวันออก เขาเป็นหนุ่มหน้าตาดี ทางบ้านฐานะดีมากคนหนึ่ง การมาเล่าเรียนที่นี่ ดูเหมือนจะเป็นการมาหาประสบการณ์ชีวิตเสียมากกว่า นอกจากเขาไม่ค่อยตั้งใจเรียนแล้ว ยังเป็นนักดื่มตัวยง เวลาไปเรียนหนังสือจึงมักไปสายหรือขาดเรียนสอบครั้งใดๆก็ไม่ผ่านเกณฑ์ จึงได้เกรด D กับ F
“ดูมึง ไม่มีท่าทีที่จะเครียดกับเรื่องเกรดการเรียน บ้างเลยนะไอ้นก ” อุทัย พูด
“เลิกคุยเรื่องการเรียนเลยโว้ย นั่งกินเหล้าดีกว่าว่ะ”ชนก บอกเพื่อนๆในวงเหล้าให้เปลี่ยนเรื่องคุย
“ได้ข่าวว่าจีบ..เพ็ญ เหรอไอ้ชม”อุทัย หยอกล้อเพื่อนที่เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ แต่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน
“จะลองดูสักยก เผื่อฟลุ๊ค ” บุญชมพูด
“เพ็ญ..หน้าตาสวยนะ ยังไง พยายามติดตามหน่อย น้าแหวนแม่ของเพ็ญก็ใจดี เข้าหาได้ไม่ยาก อีกอย่างแกก็ไม่ได้กีดกัน”อุทัยพูด
“ตอนนี้ เพ็ญ ยังเรียนอยู่ชั้นม.5 น่ะ คงเป็นเรื่องของอนาคต แต่ดูแล้วแนวโน้ม เธอก็มีใจให้กู น่ะ ”บุญชม พูดอย่างมั่นใจ
บรรยากาศการดื่มสุราแบบชาวบ้านๆ ของนักศึกษาที่เรียนในสถานศึกษากับเพื่อนชาวบ้านในวัยเดียวกัน เป็นแบบง่ายๆ กินเหล้าไปคุยกันเรื่องการเรียนบ้าง เรื่องทั่วๆไป บางครั้งก็มีการร้องเพลงกัน ผมในฐานะผู้อาวุโสกว่าทุกคนก็เพียงแต่คอยเสริม และคอยแก้ปัญหาความขัดแย้งในการถกเถียงระหว่างบุคคลในวงสุราที่อาจเกิดขี้นบ้าง..ในบางครั้ง
****************************
บุญชมเป็นคนขยันหนักเอาเบาสู้ เขาได้ใช้ความพยายามเอาใจทั้งน้าแหวนและเพ็ญคนที่หมายปอง และหลังจากเพ็ญเรียนจบม.6จนได้เข้าทำงานเป็นแม่บ้านในเมือง ซึ่งพอจะมีรายได้ที่แน่นอนแล้ว ทั้งคู่จึงตกลงใจสมรสกันแบบเรียบง่าย คือผูกข้อมือและเชิญผู้ใหญ่ที่นับถือ พ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย เพื่อนๆมาร่วมเป็นสักขีพยาน จากนั้นเพ็ญได้ตั้งครรภ์และได้บุตรชายคนแรกชื่อว่า“โรจนะ” ถัดมาอีกสองปี เธอก็ได้บุตรสาวชื่อฐานิษฐ์แม้ทั้งสองคนจะมีรายได้ไม่มากนัก แต่ด้วยที่คนทั้งสอง มองการณ์ไกลเกี่ยวกับอนาคตของบุตร จึงรู้จักการเก็บหอมรอมริบ ทั้งยังต้องรับงานพิเศษตามที่มีผู้ว่าจ้าง วันเสาร์ อาทิตย์ เพ็ญจะไปรับพืชผักจากตลาดในเมืองมาจำหน่ายในตลาดหมู่บ้าน
ผมเห็นโรจนะกับนิษฐ์ ตั้งแต่ยังแบเบาะ ทั้งสองคนฟูมฟักบุตรจนเข้าเรียนชั้นอนุบาลเรื่อยมา ….โรจนะ ได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมจากพ่อ โรจน์ผิวคล้ำและฟันเหยิน เหมือนพ่อไม่ผิดเพี้ยนไปเลยสักนิด แน่นอนว่า เมื่อโรจน์เข้าเรียน จึงถูกเพื่อนล้อ เกี่ยวกับเรื่องฟันเหยินและเรียกเขาว่า"ไอ้เหยิน" จนบ่อยๆ ครั้ง เมื่อโรจน์กลับจากโรงเรียน ต้องกลับมาร้องไห้ที่บ้านและฟ้องพ่อกับแม่ว่าเพื่อนๆล้อเขา
“อย่าไปสนใจ พวกเขาเลยนะโรจน์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของธรรมชาติ คนเราเลือกเกิดไม่ได้เลือกจะหล่อและจะเลือกเป็นคนหน้าตาดีไม่ได้ เราเกิดมามีสภาพร่างกายครบสามสิบสอง ก็เป็นบุญแล้วล่ะ โรจน์ลองดูพี่พันข้างบ้านเราสิ เป็นใบ้ มาตั้งแต่กำเนิดพูดสื่อสารกับใครก็ไม่ได้ เรียนหนังสือก็ไม่ได้”ผมพูดปลอบใจโรจน์ ในบางโอกาสที่ได้ไปนั่งกินข้าวที่บ้านพ่อของเขา
“มันล้อ ผมแทบทุกวันเลยครับอาจารย์ ” โรจน์ ฟ้อง
“เราทำ ไม่รู้ไม่ชี้ นานๆเข้า หากเราไม่สนใจพวกเขา ก็ต้องเลิกล้อไปเอง ”ผมพูด
“ครับ ผมจะอดทน ”โรจน์ พูด
“ตั้งใจเรียนมากๆ เราคือความหวังของพ่อแม่นะ” ผมพูด
โรจน์เป็นเด็กสุภาพเรียบร้อย ขยัน เด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านห้วยยางนาในวัยเดียวกันกับเขา หลายคนเกเร กินเหล้าเมายา เมากัญชา เป็นนักเลงหัวไม้ ผมไม่เคยเห็นแววว่าโรจน์ จะเข้าไปคลุกคลีกับเพื่อนๆในหมู่บ้านแม้เขาจะเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนๆในหมู่บ้านในฐานะเพื่อน แต่เขาก็ไม่ทำความเสื่อมเสียให้กับครอบครัว โรจน์เชื่อฟังพ่อแม่ ที่จะไม่เข้าไปข้องแวะกับสิ่งไม่ดี
“ดีจังเลยนายชม เลี้ยงลูกได้สุดยอดมาก ขอชมเชยจากใจจริงนะ ”ผมพูด
“ผมมองลูกชายผมห่างๆ ไม่ได้ห้ามโน่น ห้ามนี่เลย เขาคงอาจเห็นแบบอย่างของผม ที่ไม่นอกลู่นอกทาง ขยันทำมาหากิน ”ชม พูด
“นี่ถ้าโรจน์ เรียนจบ ม.หก.. หากไม่อยากเอ็นทรานซ์ เพื่อเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ ให้เขาลองมาสมัครสอบที่สถาบันที่ผมสอนสิ ที่นี่เขามีหลักสูตรทั้งปวส.และปริญญาต่อเนื่อง 4 ปี เลย” ผมพูดแนะนำ
“ปีนี้ลูกชายของผม เพิ่งเรียนอยู่แค่ชั้นม.6 เอง คงรอไปอีกปีนึง น่ะครับอาจารย์ ยังไง ผมคงต้องพึ่งพาอาจารย์ น่ะครับ”
“ยินดีครับ พร้อมเมื่อไหร่ ก็แวะหาผมที่บ้านได้ ” ผมพูด
“ขอบคุณครับ ”ชม พูด
******************************
เมื่อลูกชายของบุญชมคือ โรจนะ เรียนจบมัธยมปลายที่โรงเรียนประจำตำบลแล้ว เขาได้นำบุตรชายไปสมัครเรียนต่อเอง โดยไม่ต้องให้ผมช่วยแต่ประการใด เด็กวัยรุ่นในบ้านห้วยยางนา มีคนได้เข้าเรียนในสถาบันนี้ 3 คนและเลือกเรียน ในสาขาสัตวศาสตร์ ทุกคนเลือกเรียนหลักสูตร 4 ปี แน่นอนว่าการเรียนหลักสูตร 4 ปีติดต่อกัน ย่อมมีความเสี่ยงที่จะถูกรีไทร์มากกว่าเรียนหลักสูตรปวส. ที่เรียนเพียงแค่สองปีแล้วสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตร ( 2 ปี ต่อเนื่อง) อีกครั้ง เป็นความโชคดีที่โรจนะ เป็นคนตั้งใจเรียน ส่วนเพื่อนๆในรุ่นของเขาต้องใจหายใจคว่ำกับที่ต้องคอยลุ้นเกรดของตน ในแต่ละเทอม หลายคนโดนรีไทร์ตั้งแต่เทอมแรก แล้วสอบเข้ามาเรียนใหม่ในปีการศึกษาต่อไป โดยปกติในสาขาสัตว์ศาสตร์ ผมจะได้สอนพวกเขาในวิชาเลือกเสรี คือวิชาภาวะผู้นำ หรืออาจเปิดวิชาอื่นๆให้เป็นกรณีพิเศษสำหรับคนที่มีผลการเรียนที่เสี่ยงกับการถูกรีไทร์
การเปิดสอนวิชาเพิ่มขึ้นในยุคหลังๆของผม ถือเป็นปริมาณงานที่สามารถให้คุณเพื่อคิดเป็นคะแนนเพื่อการประเมินการขึ้นเงินเดือนของอาจารย์ แต่สำหรับผม ..คงไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะสถาบันที่ผมทำงาน เล่นพรรคเล่นพวกมากกว่า ที่จะคำนึงถึงปริมาณและคุณภาพ ผมจึงทำใจ … คิดอย่างเดียวว่า การได้สอนนักศึกษามากๆก็เท่ากับได้ถ่ายทอด ความรู้ ให้นักศึกษาได้นำเอาไปใช้ในการทำงานในอนาคต พูดได้ว่าทุกๆเทอม ผมไม่ได้ดิ้นรนหรือไปบังคับให้นักศึกษาต้องมาเรียนวิชาที่ผมเปิดสอน
จากที่ภายหลังที่กระทรวงศึกษา มีกติกาการประเมินผลงาน โดยบังคับให้ทุกคนต้องมีการทำแฟ้มผลงานส่งไปยังคณะกรรมการกลางนี่จึงยิ่งทำให้เกิดการแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตายแม้จะเป็นสิ่งที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนแต่.ในความเป็นจริง.มันกลับเป็นสิ่งที่ทำให้คณาจารย์ ต้องทุ่มเทกับการสร้างภาพและหลอกตัวเอง ทั้งยังเอารัดเอาเปรียบเพื่อนร่วมวิชาชีพเดียวกัน
“อาจารย์ครับ ผมมาขอปรึกษา เพื่อที่จะขอให้อาจารย์ได้กรุณาเปิดสอนวิชาเลือกเสรี ให้พวกผมเรียน น่ะครับ ”โรจนะ มากับหัวหน้าชั้น เหตุที่เขามาหาผมเป็นเพราะมีความคุ้นเคยกันในฐานะคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันและบิดาของโรจนะคงเคยเล่าเรื่องราวต่างๆของผมให้เขาฟัง
*****************************
วิชาเลือกเสรี ที่ผมเปิดสอนได้ทุกๆเทอม คือวิชาภาวะผู้นำ วัตถุประสงค์ที่ผมเปิดสอน คือเพื่อต้องการถ่ายทอดความรู้ และต้องการให้ลูกศิษย์มีภาวะความเป็นผู้นำ ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวตายตัวแทนคนรุ่นเก่า ทำหน้าที่ของการเป็นผู้นำที่ดี มีคุณธรรม ความคาดหวังนี้ อาจจะเป็นจริงได้บ้างซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากแต่นั่นคือหน้าที ที่ผมคิดว่าจะต้องสร้างทรัพยา-กรมนุษย์
"เพื่อนๆ ผมลงชื่อเรียน กับอาจารย์เกือบร้อยคนเลยครับ” โรจนะพูด
“งั้นอาจารย์ จะจัดห้องเรียนรวมห้องใหญ่ให้เลย ยังไงเดี๋ยว จะจัดตารางเรียนให้” ผมพูด
การเรียนวิชาภาวะผู้นำจึงเริ่มขึ้นและหลังสอบปลายภาคแล้ว ผมได้ตัดเกรดเพียงสามเกรดคือ A B + และ B ข้อสอบที่ออกเป็นแบบอัตนัย ผมให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นโดยอิสระ นักศึกษาที่ได้เกรด B ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาที่มักท่องจำมาตอบ โรจนะได้เกรด A ในวิชาภาวะผู้นำ ทุกครั้งที่ตรวจข้อสอบแล้ว ผมจะนำคำตอบของนักศึกษาที่ตอบดีๆ มาอ่านให้นักศึกษาทุกคนฟัง และให้ทุกคนได้ปรับปรุงแนวทางการเขียนตอบ ระหว่างการเรียน โรจนะ ได้ทุ่มเทการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติอย่างจริงจัง กิจกรรมในชมรมและกิจกรรมต่างๆภายในสถาบันเขาได้ให้ความร่วมมือด้วยดี โรจนะ กับน้องสาวของเขาคือฐานิษฐ์ มีความแตกต่างกันทางสติปัญญา ฐานิษฐ์เรียนระดับปวส. สาขาการจัดการได้เพียงปีเดียว ก็รู้สึกท้อ ผมในฐานะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาได้พยายามช่วยเธอ อย่างเต็มที่ขนาดว่าผมได้รับปากกับบุญชมว่าจะช่วยเหลือ อย่างเต็มที่
“ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไง ผมจะวางแผนให้ลูกสาวของชม จบให้ได้” ผมพูด
“ลูกสาวของผม บอกยอมแพ้แล้ว เธอสู้ไม่ไหว เพราะยังมีวิชาคำนวณอีกในเทอมหน้า ผมยังบอกว่าอาจารย์ขลุ่ยรับปากว่าจะช่วยเหลือแต่เธอก็ไม่ยอมท่าเดียว”นายชมพูด
สรุปว่าฐานิษฐ์ ไม่ได้เรียนต่อ. บุญชมจึงฝากให้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การเงินของหมู่บ้าน เมื่อโรจนะเรียนจบหลักสูตรแล้ว เขาได้ไปทำงานเป็นลูกจ้างที่สำนักงานปศุสัตว์ ในอัตราจ้างรายวัน ด้วยความขยันและทุ่มเท ต่อมาจึงได้กินเงินเดือนในอัตราจ้างรายเดือน
“ โรจน์ ..วันเสาร์นี้ ช่วยไปฉีดวัคซีน โรคกลัวน้ำให้อาจารย์ที่บ้านด้วยนะ ” ผมบอกลูกศิษย์
ที่บ้านของผมมีแมว 11 ตัว เนื่องจากมีคนตั้งใจมาปล่อยบริเวณหน้าบ้าน มันจึงเข้ามาอาศัยอยู่ แม้จะขับไล่อย่างไร มันก็ไม่หนีไปไหนจึงจำยอมต้องเลี้ยงไว้
“ได้ครับ ..”โรจนะ พูด
วันนัดหมายมาถึง โรจนะ ขี่จักรยานยนต์ที่พ่อเขาซื้อไว้ให้ไปทำงานในเมือง ก็ได้มาจอดที่บ้านของผม เขาเตรียมอุปกรณ์การทำวัคซีนไว้ครบถ้วน จากนั้นจึงฉีดวัคซีนแมวจนครบทุกตัว
“คิดราคาอย่างไร หรือ”
“ตัวละ 30 บาทครับ ผมลดราคาให้ตัวนึง ขอคิดแค่สามร้อบบาทถ้วนๆ ครับ”
ผมจ่ายเงินให้โรจนะ พลางกระเซ้าเล่น
“เมื่อไหร่จะหาคู่ เสียที โรจน์ ” ผมพูด
“อาจารย์ก็ทราบนี่ครับ สาวไหนจะสนใจคนขี้เหร่อย่างผมทั้งยังดำอีก” โรจนะพูด ทำนองน้อยใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
“เฮ้ย.. ผู้หญิงทุกคน เขาไม่ได้มองที่หน้าตาของคนเสมอไปหรอกโว้ย โรจน์ สักวันหนึ่งไม่แน่หรอก ต้องมีคนงาม น้ำใจงาม อาจชื่นชอบความดีของนายก็ได้”ผมพูดให้กำลังใจ
“ฝันไปเถอะครับอาจารย์เพื่อนๆผมมันยังบอกว่าวันไหน มึงมีแฟนเป็นตัวเป็นตน วันมึงแต่งงานกูจะให้เบียร์มึงสองลัง ” โรจน์พูด
*************************************************
โรจน์ทำงานที่สำนักงานปศุสัตว์ เมื่อขึ้นปีที่สี่ ..
วันหนึ่ง เขาออกท้องที่ไปทำวัคซีนในเขตอำเภอรอบนอก ร่วมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ครั้งนี้ได้พบกับพยาบาลสาวสวย ที่ทำงานในโรงพยาบาลประจำอำเภอนั้น เพียงครั้งแรกที่หนุ่มสาวคู่นี้พบกันก็เกิดถูกใจกัน จากนั้นทั้งคู่จึงสานสัมพันธ์กันนานกว่าหนี่งปี ที่สุดทั้งคู่ จึงได้ตกลงร่วมเป็นคู่ชีวิต
“ อาจารย์ครับ ขอเชิญไปร่วมงานแต่งงาน ลูกชายผมด้วยนะครับ”บุญชม พูด
“ได้สิ ”
บุญชม นำการ์ดงานแต่งงานของลูกชาย มาเชิญให้ไปร่วมงาน งานแต่งเป็นไปแบบเรียบง่ายที่บ้านของเจ้าสาว แขกส่วนใหญ่เป็นญาติสนิทและมิตรสหายที่เคยร่วมเรียนในสถาบันด้วยกัน คนทั้งหมู่บ้านชื่นชมยินดี กับชายหนุ่มฟันเหยิน โรจนะ อาจมีปมที่ซ่อนในใจไม่ต่างกับบิดา บุญชมขี้เหร่แต่ก็ได้ภริยาสวย ทั้งหน้าตาดีและน้ำใจงาม แต่โรจนะแน่กว่าบิดาของเขา คือเรียนจบปริญญาตรี มีงานทำที่มั่นคงกว่าทั้งยังได้ภริยาที่เป็นสาวงาม ทำงานโรงพยาบาลอำเภอ ปมที่สะสมเก็บกดมาแต่เด็กเล็กจางหายไป แม้ผมไม่ได้เป็นญาติกับโรจนะเลยสักนิด เป็นเพียงอาจารย์ที่เคยสอน ที่เคยเห็นเขาเมื่อครั้งเยาว์วัย เมื่อเห็นลูกศิษย์เห็นหลานชาย. มีครอบครัวมีหน้าที่การงาน ก็อดจะชื่นชมในความมุ่งมั่น ความเพียร ความอดทน จนมีวันนี้ สิ่งที่เขารอคอย. คือการมีภริยาและหน้าที่การงาน ตามความฝันได้เป็นจริงแล้ว
ทุกครั้งที่โรจนะขับรถจักรยานยนต์ซ้อนภริยาพบผมครั้งใด เขาอดที่อวดภริยาคนงามของเขาเสียไม่ได้
“เจ๋งว่ะ ไอ้โรจน์ เอ็ง. ไม่หล่อ แต่เอ็ง ก็มีเสน่ห์ในความงามด้านจิตใจ จนมีนางฟ้าในชุดขาวที่สวย เป็นคู่ชีวิต ”ผมกระซิบกับลูกศิษย์เบาๆ
ขลุ่ย บ้านข่อย
(๒๗ ธันวาคม ๖๖)
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น