แม้จะไร้..วุฒิการศึกษา - แม้จะไร้..วุฒิการศึกษา นิยาย แม้จะไร้..วุฒิการศึกษา : Dek-D.com - Writer

    แม้จะไร้..วุฒิการศึกษา

    ความผิดพลาดในวัยเรียน จนต้องลาออกจากสถานศึกษา ได้ต่อสู้ดิ้นรนเรื่อยมา แม้ไม่มีวุฒิ ใดๆ แต่เธอก็สามารถดำเนินชีวิตได้ อย่่างไม่เดือดร้อน

    ผู้เข้าชมรวม

    87

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    87

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ม.ค. 66 / 14:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

                                                  แม้จะไร้ . ซึ่งวุฒิ

      จันทรา หรือนกเป็นคนโต ของครอบครัว เธอมีน้องชายอีกหนึ่งคน  ครอบครัว มีฐานะปานกลาง  พ่อของจันทรา เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ  แม่ มีอาชีพค้าขายกับข้าวในตลาดในเมือง เธอเป็นความหวังของครอบครัว  บิดาเสียชีวิต ช่วงที่เธอกำลังเรียนชั้นประถมปีที่ 6  เมื่อนก จบชั้นมัธยมตอนปลายแล้ว  จึงมาสอบเข้าเรียนต่อในสายวิชาชีพ เกษตรกรรม ในรุ่นของนกในเวลานั้น มี 8 ห้องเรียน หลักสูตรที่นกเรียน จะต้องใช้เวลาในการศึกษาถึง 3 ปี จึงจะได้วุฒิ ปวส.จันทรา(นก) กับสุทิน  เป็นเพื่อนร่วมรุ่นและเรียนห้องเดียวกัน   

       นกได้มาเช่าหอพักอยู่กับเพื่อน ที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งผมคุ้นเคยดี และเคยพบปะช่วยเหลือกิจกรรมของเขามาได้ระยะเวลาหนึ่ง  เขาต้องจบชีวิตลงอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อได้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง  ทั้งๆ  ที่ผมกับเขาเพิ่ง นั่งกินข้าวร่วมกันก่อนเสียชีวิตเพียงไม่ถึง 10 ชั่วโมง

     “อาจารย์  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิตแล้วน่ะ   เมื่อเช้านี่เอง  ”  ผู้ใหญ่บ้าน พูด

      “เป็นไรหรือครับ  เมื่อวานตอนเย็น ผมยังนั่งกินข้าวกับผู้ช่วยฯ ด้วยกันเลย ” ผมพูด

      “ปวดท้องรุนแรง    เห็นภริยาผู้ช่วยบอกอย่างนั้นน่ะ" ผู้ใหญ่พูด

       ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมีบุตรชาย ชื่อ เปี๊ยก ที่กำลังเรียนชั้นมัธยมปลาย  การที่หนุ่มสาวในวัยเดียวกันเห็นกันและมองตากันทุกวัน จึงเกิดความรักใคร่กันในที่สุด ทั้งคู่แอบมีความ สัมพันธ์กันจนนกได้ตั้งครรภ์และเกิดบุตรชาย   ไม่ทันที่นกจะได้เรียนจบ เธอจึงต้องลาออกจากสถานศึกษา ผมมีโอกาสได้สอนนกเพียงสองเดือน นกเป็นคนตั้งใจเรียน เป็นนักกิจกรรมมีนิสัยร่าเริงเป็นที่รักของเพื่อนๆนกกับสุทิน มีความสนิทสนมกัน ถึงแม้ว่านกไม่ได้เรียนต่อ แต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน (ย้อนอ่านเรื่อง ฉลาดแต่ขาดความเฉลียว ) จะได้ทราบถึงพฤติกรรมและนิสัยของสุทิน

       จากความใกล้ชิด ของหนุ่มสาวที่ขาดความยั้งคิด และอารมณ์พาไป ทั้งคู่จึงมีบุตร ก่อนวัยอันควร  ความหวัง ของแม่ของฝ่ายผู้หญิง จึงพังทลายลง จะอย่างไร แม่ก็คงเป็นแม่ที่พร้อมให้อภัยลูกเสมอ

     “เมื่อมันพลาดพลั้งไปแล้ว ก็ขอให้ลูกทำหน้าที่ความเป็นแม่ให้ดีที่สุด  การศึกษาไม่มีคำว่าสายหรอกลูก “ แม่ของนกพูดกับลูกสาว

      “จ๊ะ แม่  หนูต้องขออภัย ที่ต้องทำให้แม่เสียใจและผิดหวัง ในตัวหนู  “  นกพูด

     “มาอยู่ที่บ้านของเรา ดีกว่านะ  เรื่องมันก็เกิดมาแล้ว  ไม่ต้องคิดอะไร  “ แม่ของนกพูด

     “หนูตั้งใจ จะกลับมาอยูกับแม่อยู่แล้ว   เมษายน ที่จะถึงนี้   เปี๊ยกเขาต้องไปเกณฑ์ทหาร   หากจับใบแดงได้ ก็ต้องเข้าประจำการตั้งสองปี น่ะ แม่ เขาเลิกเรียนหนังสือแล้ว ตอนนี้ มาเป็นลูกจ้างอู่ซ่อมรถใกล้ๆ บ้าน “  นกพูด

                   ********************************************************************

       เปี๊ยกจับได้ใบแดง  จึงต้องเข้าไปประจำการ รับใช้ชาติถึงสองปี  นกได้เอาลูกชายคนโต ไปให้ยายช่วยเลี้ยง ในเมือง  การได้รับใช้ชาติ ทำให้เปี๊ยก มีระเบียบวินัยและมีความรับผิดชอบตนเองมากขึ้น ช่วงเรียนมัธยมปลาย เปี๊ยกจะคบกับเพื่อนที่เกเร  เขามักจะเรื่องทะเลาะวิวาทในหมู่บ้านเสมอๆ   นกได้เลี้ยงลูกชายคนแรกจนมีวัยได้สามขวบ จึงได้ลูกสาวอีกหนึ่งคน เมื่อเปี๊ยกปลดประจำการแล้วอายุเขายังไม่ถึงเบญจเพส  แต่ต้องมีภาระเลี้ยงดูบุตร ถึง 2 คน ขณะที่ครอบครัวเปี๊ยกกับนก มีบุตรกันแล้ว  ผมยังคงมีสถานะโสด

      ผมมักแวะไปที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถึงแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว  แต่ด้วยความผูกพัน ที่เคยมีกับครอบครัวของเขา จึงมักเทียวไปเทียวมา เยี่ยมถามไถ่ สารทุกข์สุกดิบกับภริยาของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 

      “ว่างๆ อาจารย์ มาเที่ยวที่บ้านนะ  ” ภริยาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พูด

     “ครับ” ผมตอบ

        **************************************************************************

        นก..ได้เริ่มต้นประกอบวิชาชีพทำขนมจีน กับส้มตำขายที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งติดกับถนน  กิจการของเธอเริ่มดีวันดีคืน  เพราะขายไม่แพงฝีมือรสชาติของอาหาร เป็นที่ถูกปากของลูกค้า ผมมักจะแวะมาอุดหนุน และมานั่งอ่านหนังสือ พิมพ์  ทั้งให้ข้อแนะนำรวมทั้งให้กำลังใจกับคุณแม่ยังสาว แต่ไร้วุฒิในการศึกษา เพราะจำต้องลาออกจากสถานศึกษา    เสียก่อน เธอได้พยายามเลี้ยงลูกและประกอบสัมมาชีพ ด้วยความอดทน  สำหรับเพื่อนร่วมรุ่น คือสุทิน ได้แต่งงานกับสาวในหมู่บ้านและมีบุตรสองคนเช่นเดียวกับนกทั้งคู่ไปมาหาสู่ฉันท์เพื่อนเหมือนเคย ดังสมัยเรียน  สุทินสำเร็จการศึกษา มีวุฒิ ปวส. เขาไม่ได้สมัครงานเพื่อรับราชการเหมือนเพื่อนๆ แต่กลับมาช่วยภริยาทำไร่สัปปะรดแทน   

        นิสัยของสุทิน คือ นอบน้อม มีจิตอาสา จึงทำให้ชาวบ้านรักใคร่ เขาเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้าน โดย ที่ผมได้ชักนำ  

     “ทินว่างๆ  ก็เข้าไปช่วยผู้ใหญ่ และกรรมการหมู่บ้าน  ในการพัฒนาหมู่บ้าน ” ผมพูด บอกสุทิน 

     เวลานั้น..ผมเป็นอาจารย์ ด้านนันทนาการ และชมรม  หน้าที่ที่สำคัญคือการฝึกให้เยาวชน ได้รู้จักการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์  และการฝึกความเป็นผู้นำ   สุทิน มักจะเข้าไปช่วยเหลือหมู่บ้านเสมอๆ จนคุ้นเคยกับชาวบ้าน  และเขาก็เป็นเขยในหมู่บ้านแห่งนี้ 

    เขาได้สมัครเป็นนักการภารโรง และได้รับการบรรจุ  ต่อมา…ได้สมัครเป็นสมาชิก อบต.ของหมู่บ้าน  และได้รับการเลือกจากชาวบ้านมาทุกสมัย มันเป็นความบังเอิญจริงๆ ที่ผมกับลูกศิษย์ต้องมาอาศัยในหมู่บ้านเดียวกันจึงได้เห็นนิสัยพฤติกรรมของนก(จันทรา) กับสุทิน 

      จันทรา แม้จะไม่มีวุฒิ แต่เท่าที่ผมสัมผัส จะเห็นว่าเป็นคนมีปัญญา มีเหตุผล มีความเป็นผู้นำ  กล้าแสดงความเห็นในที่ประชุมของชาวบ้าน ส่วนสุทิน มีความซื่อ เสียสละ  มักจะเป็นผู้ตามมากกว่าการแสดงความเป็นผู้นำ จนชาวบ้าน มักแอบนินทาว่า เสียดายความรู้ที่เขามี แต่ไม่กล้าแสดงความเห็นใดๆ เลย   ครั้งที่ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านว่างลง เพราะผู้ใหญ่บ้านคนเก่าเสียชีวิต ผมมองว่าลูกศิษย์ทั้งสองคน มีความเหมาะสม ที่จะลงสมัครลงแข่งขัน

      “นก  อาจารย์ อยากให้เราลง สมัครลงแข่งตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านที่ว่างลง น่ะ  “ ผมพูด

     “หนูคิดว่า อาจารย์น่าจะชวนให้สุทิน ลงสมัครดีกว่าค่ะ  เขาเป็นผู้ชาย คงสะดวกและมีความคล่องตัวกว่าผู้หญิงมากเลย ”นกพูด

     “เขาไม่มีความ เป็นผู้นำเลย เท่าที่อาจารย์ สัมผัสมาตลอด  “

      “หนู ขออยู่เบื้องหลังดีกว่าค่ะ  “  นกตอบ

     เมื่อทาง จันทรา(นก ) ปฎิเสธการลงสมัคร ผมจึงจำเป็นต้องไปขอร้อง ให้สุทิน ลงสมัคร แต่เขาก็ปฎิเสธที่จะไม่ลงสมัคร 

      “ภริยา ผมไม่ให้ลง  ครับ  “สุทินพูด

     “ตามใจ ผมคงไม่บังคับนี่เห็นว่า หากเราได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน  หมู่บ้านของเรา คงดีขึ้นกว่าที่ผ่านๆ มา   “

       สุทิน เป็นสมาชิก อบต.มาสามสมัยติดต่อกัน จนปัจจุบันได้ตำแหน่งประธานสภาในครั้งล่าสุด    เวลาเปลี่ยน…คนเปลี่ยน แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า คนสุขุม คนเรียบร้อย อย่างเขา  จะแปรเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เมื่อแรกเป็นสมาชิก อบต.ใหม่ๆ เวลาเขาผมพบ จะเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง  หลายครั้งที่ผมพบเขาในงานของหมู่บ้าน ได้แนะนำให้เขามีความคิดริเริ่มที่จะพัฒนาหมู่บ้าน กลับนิ่งเฉย  จนผมรู้สึกรับ ไม่ได้กับพฤติกรรมของเขา  จึงนิ่งและไม่อยากจะพูดคุยด้วย อีกต่อไป

       **********************************************************************************

     ที่ร้านขายขนมจีน ส้มตำของจันทรา ผมได้นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ พร้อมสั่งส้มตำมานั่งกินฆ่าเวลา

     “เป็นไง  สุทิน  สบายดี “ นก ทักทายเพื่อนที่เคยร่วมเรียนกันมา 

     “สบายดี เพื่อน “ สุทิน ตอบ

      “วันนี้ กินอะไรดี  “นกพูด

     “ซื้อขนมเส้น(ขนมจีน น้ำเงี้ยว) จะเอาไปกินที่ไร่ " สุทินพูด

     ขณะที่ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ คนเดียวในร้าน ….แต่สุทินกลับทำไม่เห็น  ไม่ทักทาย  หลังจากที่เขารับขนมจีนแล้ว ก็ขับรถจักรยานยนต์จากไป 

        จนจันทราได้เอ่ยปากกับผม  เมื่อเขางุนงงกับพฤติกรรมของเพื่อน

      “แปลกจริงเลย ค่ะ  เพื่อนของหนู เขาไม่ทักทายอาจารย์สักคำ  “ นก พูด

      “ช่างเขาเถอะ เขาเป็นนักการเมือง แล้ว  “

      “แย่จัง  ไม่อยากเชื่อเลย ว่าสุทิน จะเปลี่ยนไป  “

     “เขาคงไม่ชอบอาจารย์ที่ไปติ ไปตำหนิเขา มั๊ง “

     “ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่ เขาไม่มีความเป็นผู้นำเลยสักนิด ที่ได้เป็น สมาชิกอบต.เพราะญาติทางเมียเขาเยอะนั่นเอง  แหละ  “

     “ช่างเถอะ ทางใคร ก็ทางของเขา อาจารย์ ไม่ว่าอะไร  ไม่มีเหตุผลอะไร อีกแล้ว ที่จะต้องไปบอกกล่าวอีก  เพราะวันนี้ เขาก็มีหัวโขนสวม  และมีปีกบินแล้ว “

     “หนูผิดหวังเขามากเลย  ทั้งๆ ที่อาจารย์เคยสอน เคยปลุกปั้นเขามา”

     “ป่วยการคิด  น่ะ . นก ช่างเถอะ ว่าแต่นกขยายกิจการและต่อเติมร้านค้า  หมดเงินไปกี่ตังค์เนี่ยะ เห็นมีผู้ชายขี่รถรถจักรยานยนต์ มาจอดที่ร้านทุกวัน  เขามาทำอะไร หรือ“

      “อ๋อ.. เขามาเก็บเงินค่าดอกเบี้ย และเงินต้นที่หนูกู้เงินนอกระบบ ค่ะ”

       “ดอกเบี้ยแพงมั้ย “

      “ร้อยละ 20  “

      “โอ้โหแพงจัง กู้ที่อาจารย์มั้ยล่ะ  ดอกถูก  “ ผมพูด เล่นๆ 

     “หนูขอกู้จากอาจารย์จะได้มั้ยค่ะ อยากได้สักสามพันบาทค่ะ   จะเอามาใช้หนี้นอกระบบให้หมด "

    ”ได้สิ รออีกสามวัน จะไปรับเงินปันผลจาก สหกรณ์มาให้ยืม  “

     “คิดดอก ยังไง คะ”

     “ไม่เอา อาจารย์เพียงขอให้นก รักษาคำพูด และ วันเวลา ที่จะคืนเงินแน่นอน  “

     “ค่ะ .ได้ค่ะ  หนูขอเวลาสามเดือน  จะคืนให้ ..ขอบคุณค่ะ

                           *******************************************************************

      แม้นักศึกษาในมหาวิทยาลัย จะเพิ่มมากขึ้น  แต่ร้านค้าก็มีเพิ่มมากราวดอกเห็ด   ร้านของนก ซึ่งค่อนข้างจะห่างไกลจากมหาวิทยาลัย นักศึกษาจึงไม่ค่อยออกมาอุดหนุนดังแต่ก่อน ร้านค้าของนกจึงต้องปิดตัวลง  เงินที่นกยืมผมไป ก็ได้ ชำระตามที่สัญญาไว้

      “นี่ค่ะ  เงินที่หนูยืมอาจารย์ไว้ “นกพูดพร้อมยื่นธนบัตรส่งคืนมาให้

     “หากจำเป็นจะต้องใช้  ก็บอกนะ  “ ผมพูดกับเธอ

         ตลอดเวลาเกือบ 20 ปี  ที่ผมเป็นลูกค้าประจำร้านของนก ได้เห็นถึงความขยัน อดทน เธอได้เลี้ยงดูบุตรทั้งสองคนจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี  และลูกทั้งสองได้มีหน้าที่การงานแล้ว   พูดได้ว่านกเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย อ่อนน้อม ถ่อมตน  มีความรับผิดชอบ ช่วยเหลืองานสังคม ต่างกับสุทินแม้จะมีตำแหน่งทางการเมืองส่วนท้องถิ่น  แต่ลูกๆของเขากับมีการศึกษาทีด้อยกว่าลูกของนก หนำซ้ำลูกของ สุทินยังต้องถูกจองจำ เพราะเป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติด  

        น้องชายของนกได้เสียชีวิต.เนื่องจากอุบัติเหตุ   บริษัทประกัน  ได้จ่ายค่าสินไหม ให้   แม่ของเธอจึงยกสินไหมให้ทั้งหมด  ต่อมาแม่ของนกได้เสียชีวิต นกจึง.ได้เงินค่าประกันของแม่อีก สองล้านบาทเศษ   นกมีปัญหาเรื่องสุขภาพอยู่บ้าง  เนื่องจากเป็นคนอ้วน เธอต้องเข้าโรงพยาบาลเนืองๆ   นกได้รับมรดกจากแม่ที่มอบไว้ให้   พูดถึงความยากลำบากของนกวันนี้  แทบจะไม่มี เพราะลูกๆ มีหน้าที่การงานกันแล้ว อีกทั้งเธอได้รับเงินจากประกันชีวิตของทั้งน้องชายและมารดา   นกกับสามีจึงมีเงินไว้ใช้จ่าย อย่างสบายๆ 

     ผมได้เห็นสภาพชีวิตของลูกศิษย์ทั้งสองคน คือนก กับสุทิน  ทั้งสองคนมีความแตกต่างกันอย่างมาก  แม้นกไม่มีวุฒิใดๆ  ไม่ได้ศึกษาต่อ.. แต่เธอก็สามารถดิ้นรน  เลี้ยงตน และครอบครัวได้ แม้จะมีอุปสรรคในบางห้วง   ว่าไปแล้ว ผมค่อนข้างเสียดายชีวิตและอนาคตของเธอที่ผ่านมา

         หากในวัยศึกษา เธอไม่พลาดพลั้ง มีบุตรเสียก่อน  อนาคตของเธอคงจะดีกว่านี้ อย่างแน่นอน 

    ตลอดเวลา.ที่ผมสัมผัสกับลูกศิษย์ มีนกเพียงคนเดียว ที่ผมชื่นชมและประทับใจ ในความเสมอต้นเสมอปลายที่สุด

                                                        ขลุ่ย  บ้านข่อย 

                                                    ( ๓๐ มกราคม   ๒๕๖๖  )

       

     

     

      “

     

     

     

      

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×