แพะ รับบาป - แพะ รับบาป นิยาย แพะ รับบาป : Dek-D.com - Writer

    แพะ รับบาป

    จะทำอะไรๆ ก็ถูกจับตามอง อึดอัดใจมากกับการทำงานในหน่วยงานแห่งนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    58

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    58

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 ต.ค. 65 / 07:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

                                                แพะ..  รับบาป

     ไม่เคยคิดเลยว่า ผู้บริหารที่เป็นผู้บังคับบัญชา. ที่ผมเคยศรัทธาอย่างมาก   จะกลายเป็นคนมือถือสากปากถือศีล  ในระหว่างที่เขาเป็นผู้นำองค์กร ผมได้ทุ่มเทในการทำงานให้เขาอย่างเต็มกำลังความสามารถในฝ่ายกิจการนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นงานนันทนาการและชมรมดนตรี- กีฬา  ผมได้เข้าไปช่วยเหลืองานให้สถาบันฯที่ผมทำงาน จนมีชื่อเสียง   ให้คนลำปางได้รู้จักมากขึ้น ผมทุ่มเทกับหน้าที่การงานจนตัวเองแทบจะไม่ได้หลับได้นอน ช่วงที่สถาบัน จัดส่งกระทงรถ เข้าร่วมประกวดเป็นครั้งแรก ผมต้องวิ่งประสานงานยืมอุปกรณ์กับหน่วยงานต่างๆเช่นเครื่องปั่นไฟ ที่รพช.,เทศบาลนคร  เตรียมฝึกซ้อมชุดการฟ้อน ควบคุมขบวนแห่ แฟนซีและอื่นๆผมจัดทำโคมถือ ทำหัวโขน ด้วยมือผมเอง  กว่าผมจะได้เข้านอนไม่เคยต่ำกว่าสองยาม สักวัน... .การทำงานมีอุปสรรคมากมายคือไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากเพื่อนร่วมงานมากนัก

    คนส่วนใหญ่ คงคุ้นเคยกับวลี  คำว่า“แพะรับบาป” มาพอสมควร  ความหมาย ของคำว่า  แพะรับบาป ที่ทุกคนคงมอง คงน่าจะมีความใกล้เคียงกับที่ผมมองคือหมายถึง ผู้ที่มิได้กระทำผิดแต่กลับต้องเป็นผู้รับโทษ ดังที่ผมกลายเป็นแพะมาเกือบทุกยุคทุกสมัย    ตลอดชีวิตราชการ …ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด     ผมไม่เคยคาดหวังยศถาบรรดาศักดิ์ สรรเสริญ เพราะผมรู้ตัวดีว่าผมมิอาจเสแสร้งดัดจริต. ตีสองหน้า หน้าด้านหน้าทน ยอมขายจิตวิญญาญของคนที่มีจุดยืน-อุดมการณ์ของตนได้ ช่วงแรกๆ ที่ผมมารับราชการใหม่ๆ ผมคิดว่าที่ทำงานแห่งนี่มีความจริงใจ..  แต่อยู่ไปไม่ทันไร ก็เห็นกำพืดธาตุแท้ของคนที่เรียกตนเองว่าครู 

    ทุกๆเช้า ผอ. บรรจบ มักจะมายืนตรงทางขึ้นบันไดหน้าเสาธง เขาจะมองโน่น มองนี่   หลังจากที่นักศึกษาเคารพธงชาติแล้ว  บางวัน ผอ. บรรจบจะได้ขึ้นไปบนโพเดียมกล่าวอบรมให้ นศ.  หลังจากนั้น... ผมจะขึ้นไปประกาศข่าวสารให้นศ.ได้รับรู้ ความเคลื่อนไหวกับกิจกรรมต่างๆที่ควรรู้  เมื่อนศ.แยกแถวเข้าชั้นเรียนแล้ว   ผมจะเดินขึ้นบันไดตรงกลางตึกอำนวยการเพื่อเข้าห้องทำงาน  ผมมักจะเห็นผอ ยืนเอามือไพล่หลัง ยืนคุยกับอาจารย์รุ่งเรืองบ้าง อ. มงคลบ้าง, อ.คำนึง และอ.มานพ 

    ในฐานะที่ผมเป็นอาจารย์เพิ่งมาทำงานใหม่ๆย่อมต้องให้ความเคารพกับอาจารย์ที่มาอยู่ก่อน ผมพยายามเจียมเนื้อเจียมตนทั้งพยายามปรับตัวให้กลมกลืนไปกับพวกเขา แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะสามารถทำได้  เพราะเรามีมุมมองที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว  การที่ผมทำงานในแผนกพัสดุ หลายครั้งที่มีการเปิดซองประกวดราคา การประมูล เกี่ยวกับงานต่อเติม สร้างบ้านสร้างโรงเรือนเห็นได้ชัดว่ามีคนภายในที่นี่เอง  ได้ทำธุรกิจด้านรับเหมาก่อสร้าง แน่นอนว่า มันเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ที่มิควรกระทำอย่างยิ่ง อาจารย์คนหนึ่งเสนอโครงการ อีกคนมีตำแหน่งบริหารก็เป็นคนอนุมัติ เสมือนว่าพวกเขาร่วมกันสมคบคิดกันหาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง . 

    จากที่ผมเคยสัมผัสกับอาจารย์ที่นี่ส่วนใหญ่ มักอวดอำนาจว่าตนเป็นอาจารย์ จะคิดจะทำอะไรก็ถูกทั้งหมด นศ. ไม่มีสิทธิ์โต้แย้งใดๆ พวกเขาไม่ทำตัวให้กลมกลืนกับนศ.. จึงไม่สามารถจะเข้าถึงจิตใจของนักศึกษาได้  มันจึงเกิดช่องว่างระหว่างวัยที่จะสื่อสารกันได้ดี   ในยุคนี้นศ. เกิดปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างรุ่นพี่- รุ่นน้องเป็นระยะๆ เกี่ยวกับเรื่องการเอารุ่น -ไม่เอารุ่น  หลังจากที่ผมมีปัญหาความขัดแย้งกับผช.ผอ ฝ่ายกิจการนักศึกษาแล้ว  ผมเริ่มถอยห่างไม่อยากเข้าไปยุ่งกับกิจกรรมนศ. ดังแต่ก่อน  เพราะอาจต้องเปลืองตัว หากทำอะไรผิดพลาด ย่อมเป็นเป้าให้เขาหาความผิด ลงโทษทางวินัยผมได้ ผมรู้ตัวดีว่า ถ้าผมเกิดทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้นกับตัวผม เวลานี้ ผมจึงต้องระมัดระวังตัว //อย่างที่สุด

    ช่วงมีกิจกรรมกีฬาสี และกิจกรรมอย่างอื่นๆ ทางสถาบันจำเป็น ต้องมีการจัดการแข่งขันกันไปตามห้วงเวลา ที่เคยจัด  นักศึกษาในช่วงนั้นทุกคนมีความหวาดระแวงกันและกัน  เด็กเหนือไม่ลงรอยกับเด็กอิสานและเด็กปักษ์ใต้   หลังเลิกการแข่งขันกีฬาสี ในแต่ละวัจะมีข่าวเรื่องการชกต่อยกัน ผมยังคงไปไหนมาไหนโดยลำพังด้วยการเดินเท้า หรือขี่จักรยาน  ตามแต่อารมณ์ ร้านค้าที่ผมมักจะไปนั่งประจำคือ ร้านพี่แก้วขายข้าวแกง ร้านพี่เจือและร้านเจ๊จันทร์บริเวณใต้ต้นมะขาม เทศ เยื้องหน้าวัดดอนมูล อันเป็นสถานที่ ที่ผมมักจะมาอุดหนุนดื่มยาดองเสมอๆ ทั้งยังเป็นสถานที่ๆผมได้พบปะนักศึกษา บางวันผมกับพวกเขาจะได้นั่งถองยาดองกันคนละเป๊ก สองเป๊ก หรือบางครั้งเหมายกโหล  การได้นั่งพูดคุยกัน ย่อมทำให้ผมและพวกเขาเกิดความแนบแน่น มีความเข้าใจและไว้เนื้อเชื่อใจกัน  นศ.มักจะมาพบมาหาให้ผมช่วยแนะนำ เรื่องการเรียน ปัญหาครอบครัว และบางครั้งยังช่วยให้ไปเคลียร์กับปัญหาความขัดแย้งระหว่างเพื่อนๆด้วยกัน   หรือบางครั้งอาจเป็นคนจากนอกสถาบัน   หอพักเกือบทุกหอพัก ผมตระเวนไปเที่ยวหาไปเยี่ยมนักศึกษา  ผมคิดว่า. ผมน่าจะเป็นอาจารย์คนเดียวที่ได้มีโอกาสพบปะกับนศ.แบบลูกทุ่งๆเจอกันที่ไหน ก็ทักทายกันแบบพี่แบบน้อง     

    หลังจากที่นศ.มีการทะเลาะวิวาท.กันระหว่างรุ่น และหลังจากที่อาจารย์ฝ่ายปกครองของสถาบัน ได้เรียกคู่กรณี ให้เข้ามาให้ปากคำเพื่อจะได้รู้มูลเหตุการเกิดเรื่องราวต่างๆเพื่อพิจารณาโทษ แล้วส่งเรื่องให้ผู้อำนวยการพิจารณาลงโทษ ผู้กระทำความผิดอีกครั้ง   หลังจากคำสั่งของสถาบันได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว  มีนศ.คือนายฟ้าคราม  ดีธงชัยซึ่งกำลังจะจบการศึกษาได้ถูกลงโทษพักการเรียน จึงได้สร้างความไม่พอใจให้กับนศ.ในรุ่นของเขา ที่มองว่าอาจารย์ แผนกปกครองได้พิจารณาลงโทษเพื่อนของเขาเกินกว่าเหตุ เพราะด้วยความอคติและไร้เมตตาธรรม ทั้งๆที่อาจารย์ทุกคนที่เป็นกรรมการรู้อยู่แล้วว่านายฟ้าครามกำลังจะสอบปลายภาคและใกลจะสำเร็จการศึกษาภายในอีกสองสัปดาห์  แต่พวกเขาหาได้คำนึงถึงอนาคตของลูกศิษย์ไม่ 

    ผมได้เห็น.ผมได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอดรู้สึกเห็นใจฟ้าคราม ที่จะต้องมาเสียเวลอีกหนึ่งเทอมกับการต้องถูกพักการเรียน  แม้ฟ้าครามจะเป็นคนที่มีผลการเรียนดี คือได้เกรดเฉลี่ย 3.6   ทั้งเขายังได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสถาบันอย่างสม่ำเสมอ  แต่อาจารย์ฝ่ายปกครองก็มิได้พิจารณานำเอาคุณงามความดีของเขาที่มี มาช่วยลดหย่อนผ่อนโทษให้เลยผมรู้สึกเห็นอกเห็นใจ ฟ้าครามอย่างมาก จึงได้ไปเยี่ยมเขาที่หอพัก ให้กำลังใจรวมทั้งยังให้คำแนะนำในการร่างคำอุทธรณ์  ให้เขาเพื่อยื่นขอความเมตตาโดยตรงต่อผู้อำนวยการ 

    ณ เวลานั้นฟ้าครามไม่มีกะจิตกะใจที่จะดูหนังสือสอบเพราะเขาได้ถูกสั่งให้พักการเรียนแล้วจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าห้องสอบ  ดวงตาและสีหน้าเขาบ่งบอกถึงความเศร้าและอมทุกข์อย่างมาก

     "ใจเย็นๆก่อน ฟ้าคราม ผมคิดว่าเรายังมีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ คำสั่งบทลงโทษได้ ไหนลองบอกถึงคุณงามความดีที่เราได้ทำและช่วยสร้างชื่อเสียงกับสถาบันบ้าง"ผมพูด

    "ผมเป็นนักกีฬาของสถาบัน และได้ร่วมทำกิจกรรมการพัฒนา ด้วยดีเสมอมาครับ" 

    "ผลการเรียนของเราล่ะ เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่ "

    "3.6 ครับ " 

    หลังจากที่ผมได้พูดคุยกับเขาแล้ว จึงได้ทำการร่างหนังสือให้พร้อมบอกให้เพื่อนในรุ่นที่มีความสามารถในการพิมพ์ดีดให้มาพิมพ์หนังสืออย่างเป็นทางการ ที่ห้องทำงานที่ผมนั่งทำงาน โดยในวันรุ่งขึ้น.ผมให้เพื่อนของฟ้าครามข่วยเดินเรื่อง โดยผ่านขั้นตอนให้อาจารย์ที่ปรึกษาได้รับทราบด้วย หนังสืออุทธรณ์ของเขา ผ่านกระบวนการตามขั้นตอนการขออุทธรณ์ เขารอคำตอบการขอคำอุทธรณ์ด้วยใจจดจ่อ สองวันต่อมา ก็ได้คำตอบจากทางสถาบันว่ายังคงยืนคำสั่งให้เขาพักการเรียนไว้ดังเดิมทุกประการ

    ผมไม่ค่อยจะพอใจกับผู้อำนวยการ กับการที่เขายังคงยืนคำสั่งเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อลดหย่อนผ่อนโทษ จากพักการเรียนเป็นตัดคะแนนความประพฤติโดยให้สิทธินศเเข้า.สอบก่อน  และให้ระงับการออกเอกสารการจบไว้ก่อน อย่างน้อยเขาก็สามารถที่จะจบการศึกษาไปพร้อมๆ กับเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน  ทั้งยังจะประหยัดค่าใช้จ่ายให้ครอบครัวได้อีก ยิ่งผมได้สัมผัสยิ่งได้เรียนรู้ในตัวผู้นำองค์กรคนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้นำที่เห็นแก่ตัวมือถือสากปากถือศีลอย่างแท้จริง ดังจะเห็นได้จากเขาเป็นผู้ร่วมหุ้นส่วนกับการรับเหมาก่อสร้างกับลูกน้องในองค์กร เขาแอบซ่อนไม้เถื่อนไว้ในครอบครองมากมาย โดยซ่อนอำพรางไว้ในที่ต่างๆเพื่อจำหน่ายและไว้ใช้การประกอบการสร้างบ้านพักที่กลุ่มของเขาเป็นผู้รับเหมา  ในหลายๆกรณีที่นศ.เกิดความขัดแย้ง และเมื่อใดที่อาจารย์แผนกปกครองเสนอเรื่องขึ้นมาให้เขาพิจารณา เขามักจะใช้อำนาจในมือลงโทษสถานเดียวใช้หลักนิติศาสตร์มากกว่าหลักรัฐศาสตร์ เมื่อฟ้าครามต้องถูกพักการเรียนอย่างแน่นอนแล้ว เขาจึงแพ็คกระเป๋าเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดทันที   

       *******************************************************************

    ที่บ้านพัก ..ที่บ้านห้วยยางนาที่ผมพักอาศัย ค่ำๆของคืนวันเสาร์ก่อนการสอบปลายภาคสองวันเพื่อนๆของฟ้าครามที่สงสารเขาที่อยากช่วยเหลือฟ้าคราม ได้มาหาผมที่บ้านเพื่อปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไร ที่จะช่วยเหลือเพื่อนเขาได้  ศรีวรรณกับบัญญัติ ได้เดินกอดคอกันมา.พร้อมกับเสียงตะโกนร้องเรียกเจ้าบ้าน หมาที่ผมเลี้ยงเห่าต้อนรับบุคคลแปลกหน้า

    "อาจารย์ครับๆ อาจารย์อยู่มั้ย ครับ" ศรีวรรณ ตะโกนเรียก

    "ศรีวรรณเหรอ มีธุระอะไร. ผลักประตูเข้ามาเลยนะ หมาไม่ดุหรอก มันแค่เห่าคนแปลกหน้าเท่านั้นแหละ "

    ผมเดินลงจากบันไดบ้านพร้อมออกมาเชิญชวนแขกให้ขึ้นไปบนเรือนพร้อมนำน้ำมาเสริฟให้เขาทั้งสอง

    "ผมสงสารไอ้ครามมันครับ ทำไมผอ.เขาจึงมีอำมหิตเหลือเกินลูกชายเขาก็สนิทกับพวกผม แต่ทำไมแม่งอำมหิตกับลูกศิษย์ของตนเอง" บัญญัติพูดด้วยความคับแค้นใจ จากการสังเกตของผม มองได้ชัดว่าบุคคลทั้งสอง ดูจะมีอาการมึนเมาอยู่บ้าง 

    “ใจเย็นๆเรื่องมันเลยมาไกลแล้ว ขนาดอาจารย์ร่างหนังสืออุทธรณ์ขอความเมตตา เขายังไม่สนใจ พวกเราเห็นมั้ยล่ะ. งานไหนๆอาจารย์ก็ได้ทุ่มเทช่วยเหลือเขามาตลอด งานลอยกระทง เป็นโค้ชกีฬา ริเริ่มงานสมุนไพร งานค่ายอาสาพัฒนา  งานสโมสรนักศึกษา คุมวงดนตรี ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เวลาเขาพิจารณาความดี ความชอบ เขาก็ให้พวกสอพลอกลุ่มของพวกเขา นั่นไม่เท่าไหร่เขายังเคยเรียกอาจารย์เข้าไปด่า ไปตำหนิอีก”ผมได้โอกาส. เลยพูดระบายออกไป                                       

    “อาจารย์ครับ ผมคิดว่าพวกผมจะต้องมีมาตรการกดดันให้ทางสถาบัน สักอย่างแล้วเพื่อจะได้มีอำนาจ ต่อรองช่วยเหลือเพื่อนผมได้กลับมาสอบ "ศรีวรรณพูด

    "พวกเราจะทำอย่างไรเหรอ ขออย่าใช้ความรุนแรงล่ะ" ผมพูดและเตือนเขา 

    "ผมจะกลับไปคุยและวางแผนกันครับ ผมขอให้อาจารย์ปิดเป็นความลับนะครับ  "

    "ได้สิ "

            ผมกับลูกศิษย์คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง ในการพูดคุยกันทำให้ผมได้รับรู้ว่าเขาทั้งสองคนรักเพื่อนมาก

     "ผมไม่กลัวหรอก หากผมจะถูกทางสถาบันลงโทษอีกคน ถ้าการทำงานครั้งนี้ผมผิดพลาด ผมยอมตายครับ อาจารย์ "บัญญัติพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง 

         หลังจากบัญญัติและศรีวรรณ เดินทางกลับหอพัก. ผมกลับมานอนคิด ด้วยความห่วงใยบุคคลทั้งสองว่า จะทำอะไรลงไปด้วยอารมณ์วู่วาม เป็นเพราะเขายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ที่คิดเร็วทำเร็ว จึงอาจขาดความสุขุมรอบคอบและอาจเกิดความผิดพลาดได้

                           *****************************************************************************************************

    เช้าวันจันทร์ .วันแรกของการสอบได้เริ่มขึ้นบรรยากาศทั่วๆไปภายนอกสถาบัน ดูเป็นปกติดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา  ผมไม่ได้ข่าวระแคะระคายเลยว่านศ.จะระดมพล รวมพลังกันเพื่อปิดรั้วสถาบันทุกทิศ เพื่อไม่ให้นศ. และอาจารย์ ได้เข้าไปในรั้วสถาบันเพื่อเข้าห้องสอบ เวลาใกล้แปดนาฬิกาขณะผมขับจักรยานยนต์คันเก่าที่ซื้อมือสองจากชาวบ้าน ออกมาจากบ้านภริยาซี่งห่างจากสถาบันประมาณ 1กิโลเมตร พอมาถึงราวสะพานทางเข้าสถาบัน ผมมองเห็นที่ประตูทางเข้าสถาบัน ถูกโซ่ล่ามไว้สองสามชั้น มีแกนนำนศ ยืนควบคุมเจ้าหน้าที่ รปภ.ให้ยืนอยู่เฉยๆโดยมีการประกบตัวไม่ให้ไปไหน 

       เมื่อมาถึงประตูทางเข้าผมเห็นผู้อำนวยการที่ขับรถเก๋งคันใหญ่ ได้จอดรถยืนคุยกับแกนนำ 

     “ขอให้ครูเข้าไปข้างใน เพื่อเข้าไปทำงานหน่อยนะ”ผอ. บรรจบ พูดน้ำเสียงเบาๆ 

    "ไม่ได้ครับ.. วันนี้ใครๆ ก็ไม่มีสิทธิจะเข้าไปทั้งนั้น วันนี้ .ที่นี่ต้องไม่มีการสอบและจะต้องเลื่อนการสอบเท่านั้น  " นศ.แกนนำยืนยัน

      ผมเห็นผอ.กำลังเจรจากับนศ.อยู่ จึงได้จอดรถและยืนห่างๆ   นศ.ยังยืนยันอย่างเด็ดขาดว่าวันนี้ต้องไม่มีการสอบ และอาจารย์ที่มีบ้านพักภายนอกสถาบัน ห้ามเข้ามาคุมสอบโดยเด็ดขาด เมื่อผอ.เห็นผมยืนอยู่ห่างๆ  เขาได้กวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา

    " อาจารย์ขลุ่ย ช่วยเอาหนังสือที่ผมจะเขียนโน้ตย่อๆให้ผช.ผอ.ฝ่ายวิชาการ ได้ประกาศเพื่อเลื่อนการสอบไปก่อน อาจารย์ขลุ่ยช่วยขี่รถเครื่องอ้อมไปทางรั้วบ้านปงวังจะมีทางแคบๆ ทะลุเข้ามาทางด้านหลังสถาบันได้    "

     "ผมไปไม่ถูกครับ ไม่เคยไป .เอางี้ครับ ผมจะขอเข้าไปเจรจากับนศ. ให้เขาให้ผอ.เข้าไปภายใน  "

     "เอาสิ .ลองดูนะผมว่า นศ.เขาเข้าใจอาจารย์น่ะ"ผอ.พูด

    เมื่อผมเดินไปประชิดประตูทางเข้าก็พบศรีวรรณกับบัญญัติ ยืนกำชับเพื่อนๆ ให้ทำหน้าที่ดูแลรักษาแนวเขต ไม่ให้นศ.ที่อยู่ภายนอกที่จะปีนรั้วเข้าไปสอบ

     "ศรีวรรณ  อาจารย์ขอเข้าไปข้างในได้มั้ย  "ผมพูด

     "ผมขอปรึกษาเพื่อนๆ ก่อนครับ "   

       ศรีวรรณ เดินไปคุยกับเพื่อนๆสักครู่ จึงเดินมาชิดริมรั้วพร้อมสั่งให้เพื่อนๆเปิดประตูเล็ก ด้านข้างให้ผมเข้าไปข้างในได้ ผมสตาร์ทรถพร้อมออกตัวเบาๆมองเข้าไปด้านข้างเห็นนศ.มีกันเกือบร้อยคน อยู่บริเวณหน้าป้อมยามทางเข้า ทั้งยืนเรียงแถวตามแนวรั้วยาวไปจรดแนวริมรั้วอาคารประมง  ผมขับรถมาจอดหน้าตึกอำนวยการและนำหนังสือที่ผอ. เขียนให้ผช. ผอ. ฝ่ายวิชาการได้ประกาศงดสอบชั่วคราว 

                                      ห้านาทีต่อมา…  เสียงตามสายจึงประกาศขึ้น

    "วันนี้ทางสถาบัน จำเป็นต้องมีการงดการสอบ และขอให้นักศึกษารอฟังการประกาศอีกครั้ง "

    ทุกๆสายตาของอาจารย์ ที่ยืนอยู่ที่อาคารอำนวยการ ยืนและจ้องมองดูผมดังกับตัวประหลาด  มันเกิดอะไรขึ้น  ผมคิดในใจ  ผมผิดอะไรเหรอ. กับการที่นักศึกษาอนุญาตให้ผมเข้ามาภายในสถาบันได้..  

    หลังเหตุการณ์คลี่คลาย แกนนำสองคนหลักๆคืิอศรีวรรณกับบัญญัติ ก็ต้องถูกสถาบันพิจารณาโทษไล่ออก...ส่วนผมกลายเป็นหมาหัวเน่า และเป็นแพะรับบาป ที่พวกเขามองว่า ผมอยู่เบื้องหลัง นักศึกษาในการก่อม็อปประท้วง. ทั้งๆที่ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ..

               แฟร์มาก สุภาพบุรุษ -สุภาพสตรีปีศาจ ในเครื่องแบบข้าราชการ ในคาบคนในวงการศึกษา

                                              ขลุ่ย  บ้านข่อย  

                                             ๑๙ /๑๐   /๒๕๖๕

     

                     

     

     

     

      "

     

       

     

     

       

     

     

     

                     "

     

       

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×