สงสาร ไอ้สิงโต - สงสาร ไอ้สิงโต นิยาย สงสาร ไอ้สิงโต : Dek-D.com - Writer

    สงสาร ไอ้สิงโต

    มันเป็นแมวที่ฉลาด ซึ่งทุกคนในบ้านรักมันมาก แต่.มันต้องตาย ด้วยน้ำมือคนบาป

    ผู้เข้าชมรวม

    89

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    89

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  อื่นๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ต.ค. 65 / 14:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

                                                สงสาร..  ไอ้ สิงห์โต

     ตุลาคม เมื่อหลายปีก่อน หลังจากที่ผมออกกำลังกายเสร็จ และได้มาติดตามฟังและอ่านข่าว ได้ยินแม่บ้านบอกว่า ให้ไปดูอาการไอ้สิงโตให้หน่อย ครู่ต่อมา.ผมจึงได้เดินไปที่บ้าน(่พ่อ)ตาซึ่งห่างจากบ้านที่ผมพักประมาณ20 เมตร  สองปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ที่บ้านของผมได้เคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์ลูกผสมระหว่างลาบาร์ดอกับโกลเด๊นท์  ลูกสาวทั้งสองคน ตั้งชื่อให้มันว่าไอ้ฮีโร่เลี้ยงได้สักสองปี ..มันก็เสียชีวิตเพราะเป็นปอดบวม ครั้งนั้นแม่บ้านกับลุงพามันไปโรงพยาบาลสัตว์  แต่อยู่ได้สองคืนเขาก็ห่อศพมันให้เอากลับมาบ้าน  สมาชิกในบ้านรู้สึกสงสารมันอย่างมาก ทุกคนมิอาจกลั้นน้ำตาได้ เพราะมันเป็นสุนัขแสนรู้ ประจบเก่ง  พวกเราในบ้านสัญญากันว่าจากนี้ไป เราจะไม่เลี้ยงสัตว์ชนิดใดๆอีกแล้ว

                                    ******************************************* 

     แต่แล้ว..เช้าวันหนึ่ง… ในขณะที่แม่บ้านทำอาหารในครัว ก็ได้ยินแมวสีดำเพศเมีย ส่งเสียงร้อง “ เมี๊ยวๆๆ “ เพื่อขออาหารกิน ด้วยเพราะรู้สึกสงสาร เธอก็เลยคลุกข้าวกับปลาให้มันกิน มันหายไปหลายวัน แล้วก็กลับมาอีกครั้ง จากที่สังเกตดู มันมีลักษณะคล้ายกับแมวท้อง  

    “ เดี๋ยวเถอะๆ ให้อาหาร มันบ่อยๆ สักวันมันต้องมาอยู่บ้านเราอย่าง ถาวรแน่ๆ “ผมบอกกับแม่บ้าน

    และมันก็เป็นจริงดังที่ผมคาดเอาไว้ จากนั้นมาอีกสองสัปดาห์ก็มีแมว วัยรุ่นสีเหลืองเพศเมีย ก็โผล่มาอีกตัว . ตัวนี้ผมดูแล้ว นึกว่ามันเพิ่งจะโตเป็นสาว ตั้งใจว่าเมื่อให้อาหารมันกินจนอิ่มก็จะไล่มันไป มันคงจะไม่หวนกลับมาอีก.. (ผมคิด ) ผมยืนดูมันกินข้าวจนหมดจาน จากนั้น.. ผมก็ส่งเสียงและเค้าะปี๊บ ให้มันตกใจ มันหนีออกไปนอกรั้ว และ

    อีกสองวันต่อมา. แมวทั้งสองตัวก็มาร้องขอข้าวกินทุกเช้า และเพิ่มมื้อเย็นอีกมื้อ.. นี่รู้ได้เลยว่า เจ้าสองตัวนี้คงจะมา อยู่ที่บ้านเราแบบถาวรแล้ว .. เจ้าตัวสีดำเพศเมียเริ่มอุ้ยอ้าย เดินต้วมเตี้ยมๆ มันหายไปพักหนึ่ง แต่เจ้าตัวสีเหลือง ก็ยังคงวนเวียนแถวๆ หลังบ้านที่เป็นป่ากล้วย สองตัวนี้เจอกันทีไร เป็นต้องไล่กัดกันเสียทุกครั้ง เดือนเมษา 2557 เจ้าสีดำเพศเมียพวกเราตั้งชื่อมันว่า"ไอ้ฮูก"เพราะตามันโต ก็คลอดลูกออกมาบนเพดานแถวโรงครัว. .เราสังเกตว่าระยะหลังนี้  เห็นมัน ชอบปีนขึ้นบนหลังคาและขลุกอยู่กับใต้ฝ้าหลังคาครั้งละสักครึ่งชั่วโมง   บังเอิญว่าที่โรงรถด้านหลังบ้านผมปลูกต้นมะรุมไว้ไอ้ฮุูกจึงได้อาศัยต้นมะรุมปีนไปหาลูกของมัน  

    ผมเริ่มเห็นชัดเจนว่า ท้องของไอ้ฮูกมันเล็กลง เดาว่ามันน่าจะคลอดลูกแล้ว แต่เดาไม่ถูกว่ามันไปคลอดลูกแถวไหน ช่วงเดือนเมษาซึ่งอากาศร้อนมาก  เสียงลูกแมว ที่มันอยู่ตรงฝ้าเพดานหลังบ้านได้ส่งเสียงร้อง เมี๊ยวๆๆๆๆ ดังมาก”  ไอ้ฮูก จึงปีนขึ้นไปคาบเอาลูกมันลงมาไว้ข้างตู้กับข้าวหนึ่งตัว  เพราะสงสารมัน. แม่บ้านผมจึงเอาบันไดปีนไปช่วยเอาลูกของมันมารวมไว้ที่จุดเดียวกัน ทั้งยังหากล่องกระดาษมาทำเป็นบ้านให้มันอยู่แบบถาวร ตอนนั้นนับดูแล้วมีเพียงแค่4 ตัว พวกเรา คิดว่าคงมีแค่นี้  จึงปิดรูบนหลังคาบ้านเพื่อไม่ให้ไอ้ฮูกคาบลูกมันกลับไปทีเดิมอีก เพราะโดยสัญชาติญาณของเขา หากใครรบกวนมาก แมวก็จะคาบลูกหนีไปเสียที่อื่น เราในฐานะองค์กรรับผู้อพยพลี้ภัยจึงยอมรับให้มันมาอาศัยในชายคาเดียวกันแบบไม่มีเงื่อนไข  สองวันต่อมา ..ไอ้ฮูกได้ปีนขึ้นบนหลังคาคาบลูกมันมาอีก1 ตัวรวมเป็น5 ตัว แยกเป็นตัวเมีย3 ตัว ตัวผู้ 2 ตัว      

    *******************************************************************************

    ทุกวันนี้.. มันมีคนเห็นแก่ตัวจำนวนหนึ่ง ที่เห็นว่าบ้านผม น่าจะเป็นบ้านที่ หากเขาเอาแมวมาปล่อยแล้ว มันต้องเข้ามาอาศัยโดยเจ้าของบ้านต้องรับเลี้ยงแน่ๆ และก็เป็นอย่างนั้น เพราะ2-3 ครั้งที่ผ่านมา มีคนมาปล่อยแมวไว้ที่หน้าบ้านของผม เป็นเพราะที่บ้านผมจะติดถนนมากกว่าหลังไหนๆ  ครั้งแรกที่มีคนเอาแมวมาปล่อยก็เป็นแมวตัวเมียที่มีท้องอีกต่างหาก เมื่อมันมาอยู่ก็จำต้องรับภาระเลี้ยงดู สองสัปดาห์ต่อมามันก็ออกลูกอีก4ตัว แม่มันหายไปไหนไม่ทราบ เราก็เบา ใจลงมาบ้างว่าประชากรแมวลดลง  พยายามเลี้ยงลูกของมันที่เป็นตัวเมีย ตั้งใจว่าพอโตอีกหน่อย ก็จะฉีดยาคุมให้ ความซุกซนของเขาคือที่ชอบเข้าไปในยางอะไหล่.ด้านล่าง  

    .สายๆวันเสาร์  ขณะที่ผมต้องไปจ่ายค่าบริการอินเตอร์เน็ต และบังเอิญ เจ้าลูกแมว4 ตัวเข้าไปในล้อยางอะไหล่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  เพราะผมไม่ได้ตรวจเช็คและก็ไม่คิดว่ามันจะเข้าไปอยู่  เมื่อทำธุระเสร็จก็กลับเข้ามาบ้านได้พยามหาลูกแมวทั้ง 4   ปรากฎว่าหาทั่วบ้านหลายชั่วโมงก็หาไม่เจอ  สองสามวันต่อมาจึงนึกได้ว่า 

    " เออ ..ใช่ด้วย.สิ  สงสัยวันที่เราเข้าเมือง ลูกแมวคงเข้าไปในยางอะไหล่ด้านล่างกระบะท้าย พอถึงห้าง มันคงลงมา และอาจตกใจเสียงรถ พวกมันคงวิ่งไปหลบบริเวณร้านค้าก็อาจเป็นได้  ใจหนึ่งก็สงสารมัน แต่ดูแล้วว่าในบริเวณนั้น  เป็นย่านที่มีคนพลุกพล่าน อาจมีคนเอามันไปเลี้ยงด้วยความสงสารก็อาจเป็นไปได้ ห่างจากนั้นมา เกือบปีก็มาเจอกรณีกับคนเอาแมวมาปล่อยหน้าบ้านผมอีก..  ดูดู๋  ดู เขาทำกัน.. 

    ไอ้เหลืองที่ผมกล่าวเมื่อสักครู่ได้คลอดลูกแถวๆป่ากล้วย ช่วง.เมื่อฝนตกหนัก เราได้ยินเสียงลูกแมวร้อง เหมียวๆ ดังมาก จนต้องพยายามเดินหา ที่สุดปล้ว..ก็เจอทั้งแม่ลูกนอนตากฝน ก็จำต้องอุ้มทั้งแม่ทั้งลูกมาจัดที่ให้อยู่  แมวทั้ง 2 คอกอยู่ด้วยกันได้…แม้บางที บางครั้งอาจแยกเขี้ยวคำรามกันบ้าง แต่กับแม่ๆแมวทั้ง 2 ก็ไม่ทำร้ายลูกของกันและกัน หนำซ้ำ ยังช่วยเลียขนให้เสมือนลูกหลานในไส้ตนเอง

     สรุปว่าลูกแมวทั้งสองคอก มี 9 ตัว นิสัยของแต่ละตัวแตกต่างกัน เจ้าสิงโตตัวที่ตาย เป็นแมวที่มีนิสัยแตกต่างจากตัวอื่นๆอย่างมาก ลักษณะเด่นของไอ้สิงโต คือเป็นแมวที่ฉลาด นิ่ง หยิ่ง สุขุม ลักษณะท่าทางดีกว่าแมวทุกตัว ขี้เล่น ตอนที่เขายังอยู่ในวัยเด็กสามารถจะเล่นอะไรได้อย่างสนุกสนานตามลำพังผู้เดียว มีเชือก มีลูกปิงปอง ลูกบอล  ดินสอ  ยางลบ เขาจะเขี่ยไปมาดังกับนักฟุตบอลเลีีบงลูกบอล จนพวกเราต้องเพลิดเพลินหยุดดูทุกครั้ง  ยามที่ทุกคนในบ้านเหงา  พอเห็นไอ้สิงโต ทุกคนก็จะมีความสุข  ในครอบครัวของผม เคยเลี้ยงแมวมา ไม่ต่ำกว่า 7-8  คอก สามารถเปรียบเทียบความเด่น ของแมวแต่ละตัวได้    

     ครั้งที่ลูกสาวได้กลับมาเยี่ยมบ้านและกำลังจะเดินทางกลับเชียงใหม่ ตอนนั้นสิงโตอายุเพียง 3เ ดือน ตัวยังเล็กอยู่ ทีแรกเห็นมันอยู่ในบ้าน ครั้นพอลูกสาวจะขับรถออกจากบ้าน ก็ได้ยินเสียกุกกักๆ บริเวณหน้ารถตรงช่องลม พอมองเข้า ไปก็เห็นไอ้สิงโต กำลังหาทางออกมาด้านนอก  นี่นับว่าโชคดี…. ที่เห็นมันก่อน หากรถวิ่งไป ในห้องเครื่องยนต์อากาศร้อนมันอาจตายได้ รถที่ซื้อมายังใหม่เอี่ยม.. ต้องจำใจใช้เลื่อยตัดช่องลมออก 2 ซี่ แล้วล้วงเอาตัวมันออกมา  มันรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด 

     ผมพยายามเตือนและบอกลูกเสมอๆว่า ก่อนออกรถทุกครั้ง ต้องตรวจสอบที่ใต้ท้องรถด้วย เดี๋ยวลูกแมวที่อยู่พื้นด้านล่างที่เราไม่เห็นมัน อาจจะถูกรถเหยียบและตายได้  ไอ้สิงโตรอดชีวิตในวันนั้น เพราะโชคช่วย..  วันนั้น เรานับจำนวนแมว ปรากฎว่ามันหายไป1ตัว และแมวที่หายไปคือแมวตัวโปรดของทุกคน  “

     ไอ้โต.ไปไหน”เสียงลูกสาวคนโตถาม 

    “ไม่รู้..น่าจะอยู่แถวนี้หรือในบ้าน” ผมตอบ เสียงที่ดังจากหน้ารถ กุกกักๆ แรงขึ้นๆจนลูกสาว ต้องก้มมองดู ก็เห็นไอ้โต กำลังตะกุยและเอาหัวรอดออกมา แต่ตัวมันใหญ่เลยรอดออกมาไม่ได้ เราต้องเสียเวลาใช้เลื่อยตัดพลาสติค เมื่อมันออกมาได้.มันส่งแววตาสื่อมาว่าขอบคุณ..นะ ที่ช่วยชีวิตผม มันคงรู้สึกผิด ที่เป็นต้นเหตุทำให้ทุกคนเสียเวลาและเสียของเพราะเปลี่ยนช่องลมใหม่ ราคาสามพันบาท    

             ผมพูดกับลูกสาวว่า ….

    "ระหว่างสิ่งมีชีวิต กับวัตถุ ลูกควรจะเสียดาย อะไรมากกว่ากัน “ผมเตือนสติลูก

    เมื่อเอาไอ้สิงห์โตออกจากรถ.. ลูกสาวทั้งสองก็กลับเชียงใหม่ บ่อยๆครั้ง เวลาเราโทรศัพท์พูดคุยกัน หากไอ้โตอยู่ ก็จะให้มันได้ยินเสียงคำทักทาย สิงโต  เป็นแมวที่ทุกๆคน ทั้งทางบ้านผมและบ้านตาชอบและรักมันมากกว่าแมวทุกตัว ที่เลี้ยง นอกจากความสง่างามในรูปร่างแล้ว มันยังมีบุคลิกที่โดดเด่นไม่หมือนใคร หานก หนู กระแต จิ้งจกก็เก่ง  ตกเย็นมาต้องจับจิ้งจกมาอวดเสมอๆ  ผมต้องไปฉีดยาที่โรงพยาบาลเพราะไอ้สิงโต เพราะวันนั้นไปเล่นกับมัน เล็บมันตะปบข่วน ที่มือผมจนเลือดโชก หมอเลยต้องฉีดยาพิษสุนัขบ้ากับบาดทะยักให้  ปีนี้เขาโตเป็นหนุ่มที่จะหาคู่ได้แล้ว ละแวกนั้นมีแมวตัวเมีย  หลายวันที่เขาออกจากบ้านไปหาคู่ แล้วจึงกลับเข้าบ้าน 

      ที่บ้านของผม มีแมวตัวผู้ 6 ตัว ที่ออกไปหาคู่ไกลๆก็มี ไอ้หัวใจกับไอ้สิงโต เป็นธรรมดาของสัตว์ ที่ต้องอวดสาวและเมื่อเจอหนุ่มๆด้วยกันก็ต้องกัดกัน มันก็ต้องมีแพ้ -มีชนะ หลายครั้งที่มันกลับมาก็ได้รับบาดเจ็บ มีแผลที่คอหน้า ขากะเผลก ต้องนอนรักษาบาดแผลหลายวันหายแล้วก็ไปหาสาวอีก 

    และวันที่พวกเราต้องสงสารมันอย่างที่สุด คือวันที่มันซมซานกลับมาที่บ้านตอนตีสาม ลุงที่เป็นพี่ชายของแม่บ้าน ได้ยินมันร้องด้วยความเจ็บปวด และมันได้มานอนใต้ท้องรถ เช้ามา จึงเห็นว่าบาดแผลมันถูกมีดฟันที่ข้างตัว จนเป็นแผลลึกและกว้างมาก  ผมอยากจะพามันไปหาหมอทันทีแต่ที่โรงพยาบาลสัตว์เปิด 9 โมงเช้า ผมหากล่องเอาผ้าวางมันไว้อย่างดี ภาวนาว่า ไอ้สิงห์โต อย่าเป็นอะไรนะ   สภาพที่ผมดูมันในขณะนั้น ..คิดว่าโอกาสมันรอดยาก. สภาพที่มันบาดเจ็บถึงขั้นสาหัส ที่มันอดทนมาตั้งแค่ตีสาม จนแปดโมงเศษๆ แววตา มันบอกว่า 

    “ช่วยผมด้วย ลิ้นของมันขบกับริมฝีปากด้วยความเจ็บปวด ผมเห็นบาดแผลมัน ถึงกับสถบออกมา 

    “ไอ้สัตว์นรก มึงทำได้กระทั่งแมว ที่ไม่มีทางสู้ “ 

    รอยมีดที่ฟัน ยาวจนหนังขาดเป็นทางยาวไม่ต่ำกว่า10 เซนติเมตร  สมัยเรียน ..ผมเคยพลาดจากการที่มีดแฉลบเข้านิ้วมือ เพียง .5 เซนติเมตร ต้องเย็บเกือบ 3 เข็ม ลองคิดดู เลือดของไอ้สิงโต ไหลออกจากร่างกาย จนไม่มีแรงจะเคลื่อนตัว.. เห็นแล้วสงสารมันมาก มันร้องขอความช่วยเหลือ .ผมถึงกลับน้ำตาไหลออกโดยมิรู้ตัว..

    ทำไม..ไอ้ สัตว์นรกคนนี้ มันช่างอำมหิตเหลือเกินนะ แมวมันทำอะไรถึงขนาดต้องใช้มีดฟันมันได้ขนาดนั้น  ผมคิด.. 

     ผมพยายามพามัน ไปให้ถึงมือหมอให้เร็วที่สุด..แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลสัตว์ เราก็ต้องรออีกครึ่งชั่วโมง ..คนสวนโรงพยาบาลสัตว์ บอกว่าตั้งแต่ตุลาคมโรงพยาบาลเปิดตั้งแต่ 9 โมง  ก่อนหน้าเขาเปิด 8.30 น นี่หากหมอเปิดเช้ากว่านี้ มันอาจรอดชีวิตก็ได้ แม่บ้านดึงกล่องมาดู พบว่าไอ้สิงโต..มันสิ้นลมไปแล้ว เพื่อความแน่ใจ ผมได้ยื่นมือไปจับชีพจรมันปรากฎว่านิ่งเงียบไปแล้ว ผมจึงตัดสินใจขับรถกลับมาบ้าน แล้วฝังมันไว้ที่ข้างบ้าน  

    วันนี้ภาพที่เคยเห็นไอ้สิงโต เคยหยอกล้อกับพวกเราไม่มีอีกแล้ว..ลูกสาวทั้งสองคนพอรู้ข่าวมันเสียชีวิต ทุกคนต้องน้ำตาไหล ไม้เว้นแม้แต่ผมที่อดสงสารมันไม่ได้ หากมันล้มเจ็บธรรมดา คงไม่เศร้าสะเทือนใจมากนัก  เพราะมันเป็นปกติของชีวิตคนและสัตว์ทั่วไป.   

    “ไอ้สัตว์นรก. ทำได้แม้กระทั่งแมว. ขอให้กรรมที่เอ็งทำเกิดกับตัวเอ็งบ้างเถิด.ไปดีเถิดนะ  สิงโต ยังไงทุกๆ คนจะไม่ลืมเจ้าเลย."

      “อโหสิกรรมให้กับ ไอ้นรก ตนนั้น ..มันด้วย.นะ.  สิงโต..”

                                               ขลุ่ย   บ้านข่อย

                                              (๕   ตค  ๖๕  )

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×