ยำรกวัว - ยำรกวัว นิยาย ยำรกวัว : Dek-D.com - Writer

    ยำรกวัว

    รกวัว เป็นชิ้นส่วนหนึ่งที่อยู่ในร่างกายแม่วัว ซึ่งกินได้ และหายาก มันคือสิ่งนำโชค จะเป็นอย่างไรติดตามดู

    ผู้เข้าชมรวม

    79

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    79

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ต.ค. 65 / 09:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

                                                  ยำ รกวัว
     

             ต้องบอกว่าวิชาการทางด้านสัตวบาลที่ผมเคยเรียนมาก่อน พอมาถึงวันนี้ .คงจะได้คืนให้อาจารย์ผู้สอนเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว  จำได้ว่าเมื่อสมัยเรียนวิชาการผสมเทียมพันธุ์สัตว์ ผมโดนอ.ผู้สอนตบกระโหลกสั่งสอนไปสองที เพราะ มัวแต่เล่น.มัวแต่คุย พอถึงคิวจะต้องปฎิบัติจริงในการที่ผสมเทียมวัว ผมก็ทำผิดพลาด.จนวัวมันสะดุ้งและตกใจ.ทำให้รุ่นน้องต่างหัวเราะชอบใจ  ที่ผมทำการผสมเทียมวัวไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง. เขา
            บริเวณคอกวัว.ในฟาร์มของวิทยาลัยคือแหล่งที่ผมมักจะไปกินนอน- เที่ยวบ่อยที่สุดเป็นเพราะสนิทกับเพื่อนประจำ คอกวัว คือไอ้ชายและไอ้โภชน์ พอเพื่อนสองคนไม่ได้อยู่ประจำคอกวัวก็มีรุ่นน้องคือไอ้หมี ไอ้บาก เข้าอยู่แทน  คอกวัวจึงเป็นสถานที่ที่ผมจะไปกินเหล้าเพื่อคลายเครียดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง อาหาร- เหล้ายาปลาปิ้งที่นี่อุดมสมบูรณ์มีไม่ขาด ปาก. เมามาก็นอนตากยุง.ยุงที่คอกวัว.สามารถ หามคนให้เคลื่อนที่ได้เพราะมีเป็นแสนๆตัว.. ที่คอกวัว เป็นแหล่งที่ระบายมูลสัตว์ให้มาอยู่ในบ่อเกรอะ..มูลวัวจึงมารวมกันมากมายผสมกับน้ำล้างคอกจึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง  และแมลงวันให้แพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว

          คงน่าจะนับครั้งได้ ที่ผมมีโอกาสได้นั่งรีดนมวัว จะว่าง่ายก็คงไม่ง่าย จะว่ายากก็คงไม่ยาก เป็นเพราะผมไม่ค่อยจะได้สนใจ. จึงฝึกการรีดนมวัวพอให้รู้วิธีการปฎิบัติและเพื่อเก็บคะแนนสอบเท่านั้น ช่วงที่รุ่นน้องที่พักอยู่ประจำคอกสัตว์ ทั้งคอกไก่ คอกหมูและวัว เสร็จกิจงานฟาร์มคือให้อาหารล้างคอก รีดนม และส่งนมเสร็จ  พวกเขา.    มักจะตั้งวงกินเหล้าแน่นอนว่าในแต่ละวัน ในฟาร์มของวิทยาลัยฯ อาจมีไก่ตาย ไข่แตก ลูกหมูตาย ลูกวัวตาย (มีทั้งจงใจและไม่จงใจให้ตาย) น้องๆที่อยู่คอกสัตว์ ก็จะส่งสัญญาณให้ผมมาร่วมชวนชิมฝีมือที่พวกเขาบรรจงสร้างกับแกล้มแบบเปิบพิสดาร. 

                             ************************************************************ 
         มีเหตุการณ์ครั้งสำคัญ. เมื่อวันหนึ่งที่ควายที่เลี้ยงในคอก เกิดตายโดยไม่รู้สาเหตุ  คนงานต่างมาช่วยกันชำแหละซากควายมีน้าทุเรียน น้าเนียน  พี่โกสินทร์ ผมและน้องๆที่อยู่ประจำคอกสัตว์..  ตอนที่ควายตายใหม่ๆอาจารย์หมอได้สั่งให้คนงานให้ทำลายซากสัตว์โดยทันที .แต่ไม่บอกว่าเป็นวีธีแบบไหน ด้วยความเสียดายเนื้อควาย เหล่าบรรดาคนงานจึงเรียกพวกเดียวกันมาแบ่งเนื้อ เพื่อนำไปปรุงอาหารกิน บางคนก็ทำกินกันที่คอกวัวเลย   ผมไม่ได้ช่วยชำแหละเนื้อควายโดยตรง เพียงแต่ช่วยหยิบและจับชิ้นเนื้อชำแหละมาใส่หม้อเพื่อล้างน้ำ ช่วยหั่นเนื้อให้ชิ้นเล็กลง เพื่อทำต้มเนื้อเปื่อย และทำลาบบ้าง รุ่นน้องที่อยู่คอกวัวได้รับการแบ่งปันเนื้อจากน้าๆ  เนื้อควายส่วนหนึ่งเมื่อได้มาแล้ว ก็มาปิ้งกินเป็นกับแกล้มในเย็นวันนั้นเลย อีกส่วนหนึ่งที่เหลือก็เอามาตากแห้ง ทำเนื้อเค็มเพื่อประหยัดค่ากับข้าว  บรรดน้าๆที่เป็นพนักงานต่าง มีความสุข กินเหล้ากันไป ชำแหละเนื้อไป..ส่วนหนึ่งก็ได้ทำเป็นเนื้อเค็มเพื่อเก็บไว้กินได้นานๆ   

        วันรุ่งขึ้น… อาจารย์หมอได้สอบถามกับรุ่นน้องที่อยู่ประจำคอกวัว ถามถึงสาเหตุการตายของควาย

       “พอจะรู้สาเหตุมั้ยว่า ควายมันตายเพราะอะไร” อาจารย์หมอซักถาม ไอ้โย่ง 

       “ก่อนควายจะตาย มีหมาจากข้างนอก ได้เข้ามากัดควายในคอก. ครับ”ไอ้โย่งตอบ

         นี่จึงทำให้อาจารย์หมอ ฉุกคิดว่า . มันน่าจะมีเชื้อพิษสุนัขบ้าในควายด้วย เพื่อให้เกิดความมั่นใจ จึงสั่งให้คนงานรีบตัดหัวควายส่งพิสูจน์ที่กรมปศุสัตว์ทันที  . 

                                    ***********************************************       

    .    เวลาผ่านไปสัปดาห์เศษ  อาจารย์หมอได้รับหนังสือจากกรมปศุสัตว์ ยืนยันว่าควายที่ตาย มีเชื้อพิษสุนัขบ้าเทียม จึงได้สั่งให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง..ในวันนั้น ต้องไปฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกๆคน.

       “โย่ง . ไปบอกพวกน้าๆ ที่ร่วมชำแหละเนื้อควายวันนั้น รวมทั้งพวกเราที่อยู่ในเหตุการณ์ ต้องไปฉีดยาป้องกันโรคกลัวน้ำทุกๆคนด้วย”อาจารย์หมอกำชับ .   
        ผมรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี เพราะเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ โดยบังเอิญ .จากที่เคยเรียนวิชาโรคและสุขาภิบาลสัตว์ ได้กล่าวถึงอันตรายจากเชื้อพิษสุนัขบ้าว่า..ไม่สามารถรักษาได้และหากบุคคลใด มีเชื้อในตัวหากไม่ฉีดวัคซีนต้องตายสถานเดียว.

        “ขลุ่ย ต้องไปฉีดยา ด้วยล่ะ เราอยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้นด้วย” อาจารย์หมอสั่ง   

         แต่…ผมก็ดื้อ .ไม่ยอมไปฉีดยา.นับแต่วันนั้นมา ผมไม่เข้าไปที่คอกวัวอีกเลย เพราะ หากเข้าไป ต้องนึกถึงควายตัวนั้นจนต้องเครียดมาก ก็ยิ่งกินเหล้ามาก. พวกรุ่นน้องที่ไปฉีดยา พอฉีดครบกันแล้ว ต่างก็สบายใจ ส่วนผมนี่สิ. .ต้องมาคิดแล้วคิดอีกๆ จนเครียด. ระยะนั้น ผมจะดื่มเหล้าหนักมาก เพื่อให้ลืมเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น  หลังจากพ้น 6 เดือนไปแล้วความกังวลใจจึงไม่มี. โดยปกติระยะการฟักเชื้อของโรคกลัวน้ำ มีระยะ 2-12 สัปดาห์..ก็จะปรากฎอาการ เมื่อผมมั่นใจว่าคงจะไม่เป็นโรคกลัวน้ำแล้ว จึงย้อนกลับไปคอกวัว สัญญากับตัวเองว่าจะต้องระมัดระวังกับการสัมผัสกับวัตถุต่างๆ  ที่อาจจะเกิดความเสี่ยง
         บ่อยๆครั้งที่แม่วัวตกลูก. นศ.ประจำคอกสัตว์ก็ช่วยกันทำคลอดกันเอง และแจ้งให้อาจารย์หมอทราบในวันรุ่งขึ้น  เพื่อจะได้มาฉีดยาและทำการรักษากับแม่วัวบางตัวที่มีอาการผิดปกติ สมัยที่ผมยังเรียนเมื่อคลอดลูกวัวแล้วรกที่มีอยู่ ส่วนใหญ่พวกเราจะเอาไปฝังทิ้งเพราะคิดไปว่า มันสกปรกและอาจมีเชื้อโรค ไม่เคยคิดเลยว่ามันคืออาหารอันโอชะของคนชนบทบางจังหวัดและบางภาค 

                           ******************************************************************
          ช่วงผมมาทำงานใหม่ๆที่ลำปาง.ยามเย็นที่ไม่ได้ไปไหน  ผมมักจะแวะมาที่คอกโคนม นั่งคุยกับลูกศิษย์   ไม่ได้สังเกตและ.ไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องรกวัว.ว่ากินได้หรือเป็นอาหารชั้นฮ่องเต้หรือไม่  หลังจากทำงานมาได้อีกสักระยะ.เพิ่งมา ทราบว่า รกวัว..คืออาหารชั้นเลิศของคนทางนี้เลย มีเพื่อนร่วมงานของผม ที่จบด้านสัตวบาลและรับผิดชอบงานฟาร์ม เป็นคนหนุ่มที่เติบโตในหน้าที่การงานเร็วมาก..บุคลิกประจำตัวเขาคือ“ใช่ครับพี่  ดีครับท่าน สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน”  

        บุญเชิด ..บุรุษคนนี้ เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและกับผู้บริหาร เขามีบุคลิกสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน  สามารถเข้าถึงทุกๆคน  เป็นคนพึ่งพาอาศัยได้ ผู้บังคับบัญชาจึงรักและเมตตาเขาอย่างมาก บุญเชิด มีความสามารถในการทำงานได้ดี เป็นคนตาทิพย์ หูทิพย์ เอาใจนายเก่ง ระดับสุนัขที่ว่าเลียนายเก่งแล้วยัง เรียกว่าเขาว่า "ลูกพี่ "  ผมเคยทำนายอนาคตของเขาและเคยบอกกับลูกศิษย์ที่ผมสอนวิชาภาวะผู้นำว่า.อาจารย์คนนี้ไม่นานหรอก จะมีโอกาสได้นั่งเก้าอี้ผู้บริหารในองค์กร นี้ อย่างแน่นอน และก็เป็นจริงทุกประการมันช่างแม่นราวกับตาเห็น เมื่อหลายปีก่อนเขามีโอกาสนั่งตำแหน่งระดับเทียบเท่าผู้ช่วยอธิบดี เพราะมีรุ่นพี่ๆ และนายเก่าระดับอธิบดีคอยสนับสนุนค้ำจุน .. 

       .จากการประเมินผลความดีความชอบในรอบ10 ปี บุญเชิดได้สองขั้น ถึง 9 ปี. ผมนี่อึ้ง.กับความสามารถเขาจริงๆ  คงไม่ว่ากัน ผมลองมานึกถึง  ภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า“แข่งเรือแข่งพายพอแข่งกันได้ แต่แข่งบุญวาสนา  ย่อมแข่งกันไม่ได้”.. ตรงนี้.นี่เองทีผมยอมรับ.โดยดุษฎี..กับวิถีคนกล้าคนเก่งของเขา แรกๆที่ผมมาทำงานใหม่ๆ ผมมีโอกาสได้สัมผัส ใกล้ชิดกับเขามากพอควรเราเคยกินข้าวหม้อเดียวกัน เขาเป็นคนจริงจังและทุ่มเทการงาน  จนได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาเสมอ แม้ผู้บังคับบัญชาไม่สั่ง เขาก็อาสาทำเอง หลายครั้งที่ทำงานผิดพลาด โดนนายตำหนิ โดนด่า ก็ยิ้มรับ.และขอโทษ.. ใครจะมองว่าเขาใกล้ชิด ประจบนายอย่างไร เขาก็ไม่สนใจ..ยังคงทำตัวใกล้ชิดและพยามเข้าไปให้ถึงตัวนายให้มากที่สุด แม้จะถูกกีดกันก็ตาม 
        เมื่ออธิบดี.มาตรวจเยี่ยมงานที่จังหวัดในภาคเหนือ..บุญเชิดมักรู้ข่าวนี้ก่อนใครๆ เขายอมที่จะหยุดการเรียนการสอน และบ่อยๆครั้งเขาจะไม่อยู่ในที่ทำงาน แต่จะไปคอยเสนอหน้าต้อนรับขับสู้กับอธิบดีและระดับรองๆลงมา  เขายังรู้อีกว่าอธิบดีคนนี้ โปรดปรานกับรกวัวอย่างมาก เขาสู้อุตส่าห์หักคอคนงานประจำคอกวัว  .(เป็นสำนวนหมายถึงถือวิสาสะ บังคับ.)เอารกวัวที่เพิ่งคลอดใส่ถังแช่ฟีสเก็บไว้อย่างดี.  

      “ผมจะเอารกวัวไปทำยำรก ให้ท่านอธิบดีกิน เอาไว้คราวหน้าจะแบ่งปันให้พวกเรานะ”บุญเชิดบอก 

                                    คนงานประจำคอกวัว จึงหน้าจ๋อย ไปตามระเบียบ..

           ****************************************************************************

         บุญเชิด.มาทำงานที่หลังผมสามปี..แต่เขาสามารถกระโดดค้ำถ่อข้ามหัวผมโดยสามารถลาไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทก่อน     

                                   ผมเคยไปสอบถามผู้บังคับบัญชาว่า

        “ เพราะเหตุใด บุญเชิดอาวุโสน้อยกว่าผม จึงสามารถแซงคิว ลาไปศึกษาต่อได้ก่อน ก็ไหนผอ.เคยพูดว่าจะพิจารณา ตามความอาวุโส " ผมพูด 
         “อ้อ.กรณีของบุญเชิด ทางสถาบันมีความจำเป็น ที่จะต้องส่งให้เขาไปเรียนก่อน เพราะเร็วๆนี้ เราจะเปิดสอนสาขาสัตวบาลในระดับปริญญาตรี “ผู้อำนวยการอ้างเหตุผล จนผมก็ต้องจำยอมรับสภาพ   
         “ใช่ .เราไม่มีเส้นสาย มีพรรคพวก “ผมคิด. ผมเคยไปเยี่ยม ไปนั่งกินกาแฟ.ในสาขาที่บุญเชิดสังกัด เพื่อนๆในสังกัด  ของเขาเล่าให้ฟังว่า   
         “ไอ้…คนนี้ แม่งจอมกะล่อน ช่างประจบสอพลอนายเป็นที่หนึ่ง ต่อหน้าพวกเรา มันด่านายแต่พอลับหลัง มันเอาเรื่องที่พวกเราไปพูดฟ้องนาย“เพื่อนๆในสาขาสัตวบาล พูด

                  ****************************************************************

       บุญเชิดทราบดีว่าท่านอธิบดี เป็นคนที่ชอบกินอาหารพื้นบ้าน เป็นเพราะเขาเป็นคนจังหวัดภาคเหนือ เหตุนี้ นี่เองเวลาวัวใกล้คลอด บุญเชิดมักจะมาเฝ้ารอเอารกวัว 

     “หมู่สู(พวกคุณ) ต้องดูแลและเก็บรกวัวให้ดีหนา หากรกเปอะเปื้อนตกลงกับพื้นหมู่สูต้องรับผิดชอบตวย “บุญเชิดกำชับให้คนงานประจำคอกวัวให้ดูแลรกวัวไม่ให้หล่นลงกับพื้น เพราะหากรกวัวหล่นลงพื้นถูกมูลวัวแล้วมันจะล้างยาก 

       เมื่อใกล้กำหนดวันที่วัวจะคลอด.บุญเชิด จึงต้องมาดูแลด้วยตนเอง เพื่อจะได้เก็บรก ที่มีความสมบูรณ์ และดีที่สุด.. เพราะนั่นมันคือโชคลาภที่จะนำบุญพาวาสนาส่ง จะนำพาซึ่งความดี ความชอบ..รวมถึง บรรดาศักดิ์  ที่พึงจะได้รับกับท่านอธิบดีด้วย

        ตลอดชีวิตของผม.ลองมาทบทวนแล้ว พอจะจดจำการเปิบพิศดาร เมนูที่ทำจากรกวัว คงน่าจะไม่เกิน 2 ครั้ง.. ครั้งแรกได้กินในวงเหล้าของชาวบ้าน ที่เขาซื้อรกวัวที่ตลาดห้วยยางนามานึ่ง แม่ค้าบังเอิญ  ได้รกวัวที่มันตกลูกมาพอดี.    .พูดถึงรสชาติก็ต้องบอกว่า.ลำขนาด” (อร่อยที่สุด) ขนาดผมเพิ่งกินครั้งแรกยังถูกปาก. อย่างนี้นี่เอง.. จึงทำให้ผมนึกไปถึงอธิบดีคนนี้ว่าทำไมเขาจึงชอบกินรกวัวอย่างมาก.  รกวัว   นับเป็นของหายาก นานๆครั้งจึงจะมีโอกาสได้กิน ต่างกับเนื้อ หรือ อวัยวะส่วนอื่นๆของวัว  การจะได้กินรกวัวแต่ละครั้ง ต้องรอวัวที่ตั้งท้องจนกระทั่งมันคลอดออกมา จึงจะได้กิน บางคนถึงกับต้องไปนอนรอกันข้ามคืนกันเลย ยกเว้นบุญเชิด.. เท่านั้นที่ไม่ต้องไปนอนรอ .แต่เขาจะให้คนงานไปนอนรอแทน รกอันหนึ่งๆ จะมีน้ำหนัก 3- 5 กิโลกรัม ราคาซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 250-300  บาท 
       .ครั้งที่สองที่ผมได้กินรกวัว .คือช่วงสมัยที่ผมมาดำเนินรายการสถานีวิทยุ มีแฟนเพลงที่เป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านจำบอนซึ่งมีอาชีพหลักคือเลี้ยงวัวพื้นบ้าน วันหนึ่งเขาโทรมาขอเพลงลูกทุ่งที่ผมจัดรายการ  

      “อาจารย์ เคยกินรกวัวมั้ย“ผู้ใหญ่บ้าน ถาม
      “เคยครับ..แต่เป็นรกวัวนึ่งธรรมดาๆ “ผมตอบ
      “งั้น.เมื่อไหร่ ถ้าวัวผมคลอด ผมจะเก็บรกวัวไว้ แล้วจะโทรเรียกอาจารย์มากินยำรก ฝีมือผมเอง”   

      ต่อมา. ไม่นานนักเมื่อวัวของผู้ใหญ่บ้านคลอด เขาจึงได้โทรศัพท์มาตามผม ให้ไปกินเหล้าและกินยำรก ที่แกปรุงขึ้นเอง ระยะทางจากบ้านผม ไปบ้านแกประมาณ15 กม. เส้นทางเส้นนี้ค่อนข้างเปลี่ยวมาก  ผมใช้มอเตอร์ไซด์ เป็นพาหนะนำพา เพื่อออกไปลองเปิบพิศดาร ว่าไปแล้วมันเสี่ยงอันตรายอย่างมาก กับการออกนอกพื้นที่. ผมขี่รถออกจากบ้าน.ผ่านหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน ตั้งแต่บ้านแม่ทรายคำ ห้วยฮี ศรีดอนชัยและมาถึงบ้านจำบอนใช้เวลาประมาณ 40นาที  เมื่อเห็นป้ายบอกทางว่าเป็นบ้านจำบอนก็พยายามมองหาคอกวัว จนมาเจอป้ายที่เขียนข้อความว่า ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ผมจึงเลี้ยวรถเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน
       “สวัสดีครับพ่อหลวง ” ผมทักทายเจ้าของบ้าน
       “สวัสดีครับอาจารย์ เชิญครับเชิญ ในบ้านเลยครับ “ ผู้ใหญ่บ้านพูด 
        ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ เป็นคนผิวคล้ำไว้หนวด หน้าตาคล้ายคนแขก ช่างพูดช่างคุยเขาแนะนำตนเองว่าชื่อกรุง เรารู้จักและสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว เขาบอกแม่บ้านให้นำน้ำมาเสริฟ   
          “ คนนี้ไง อาจารย์ขลุ่ย บ้านข่อย ดีเจ สถานีวิทยุที่จัดรายการเพลงเพราะๆ ให้พวกเราฟัง “ผู้ใหญ่บ้านพูด
              ผมรับน้ำมาดื่ม ผู้ใหญ่บ้านขอตัวเข้าไปในโรงครัว เพื่อไปทำยำรกมาให้ผมชิม.. 
          “อาจารย์ จะมาดูวิธีการ ทำมั้ย  ไม่ยากเลย”ผู้ใหญ่บ้าน กวักมือเรียกผมให้เข้าไปดูขั้นตอนการปรุง ผมเดินผละออกจากโต๊ะรับแขกแล้วเข้าไปในโรงครัว เพื่อดูขั้นตอนการปรุง  
         “จริงๆแล้ว.วิธีทำยำฮก(รกวัว) ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยครับ ขั้นแรกคือล้างรกให้สะอาด แล้วก็นำรกไปต้มให้สุก โดยใส่ใบตะไคร้พันเป็นมัดลงไปให้หมด เพื่อดับกลิ่นคาว จากนั้นตักรกมาหั่นเป็นชิ้นๆพอคำ ยกเว้นชิ้นเนื้อเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำ เพราะถือว่ามีรสอร่อยจึงไม่ต้องสับ ไอ้ตะปุ่มตะป่ำนี่้ เดี๋ยวอาจารย์ชิมดูมันกุบๆหนุบๆอร่อย ลิ้นเลยเชียวแหละ “ ผู้ใหญ่บ้านบรรยายวิธีทำ

         หลังจากผู้ใหญ่บ้านปรุงยำรกเสร็จ ก็ยกมาวางที่โต๊ะ พร้อมหยิบช้อนมาสองคัน  ภริยาผู้ใหญ่บ้านเดินไปยกโหลยาดองที่ดองใส่โหลแก้วในครัว พร้อมกระบวยมาไว้ตักใส่แก้ว   พ่อหลวงผายมือพร้อมพูดขึ้นว่า  

      “อาจารย์กระดกเหล้าแล้วลองชิมยำรกเลยครับ “  

         ผมทำตามคำบอกของพ่อหลวง   

      “ คื่อ…” เหล้าดองยาม้ากระทืบโรง บาดคอจนผมต้องส่งเสียงออกมา ผมยื่นมือไปตักยำรก ที่กำลังร้อนๆ  ตักเข้าปาก..พร้อมบรรจงเคี้ยว  

      “โอ อร่อย ว่ะ.” ผมพูดกับตัวเองเบาๆเนื้อของรกวัวนุ่มลิ้น น้ำพริกที่ทำสดๆรสชาติ จี๊ดจ๊าดเผ็ดร้อนจนผมน้ำตาไหล..
      “อืม อร่อยมาก ครับผู้ใหญ่”ผมพูด

                              เขาได้ฟัง คำชมของผม ถึงกับยิ้มด้วยความภูมิใจ.   

      “ไม่ต้องเกรงใจ นะครับ อาจารย์ “ผู้ใหญ่บ้านพูด     

       ผมนั่งพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน จนตะวันตกดินโดยมิรู้ตัว แสงเทียนถูกจุดขึ้นมา เพราะไฟฟ้ายังเข้าไปไม่ถึงหมู่บ้าน ยำรกถูกกินจนหมด เวลาผ่านไป4 ชั่วโมง การพูดคุยกันแบบสองต่อสองที่ถูกคอ รสนิยมและความคิดที่เหมือนกัน จึงทำให้ผมแทบ ไม่อยากจะกลับบ้านเลย  เป็นธรรมดา .งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา  ผมจึงขอตัวกลับบ้าน.. แสงไฟ ตลอดถนนทางหลวงชนบทมืดมาก..นานๆครั้งจะมีรถยนต์วิ่งสวนมาสักคัน แม้จะเมาบ้างแต่ผม .ต้องควบคุมสติ.จนกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
       จากที่ได้สัมผัสกับยำรก. ที่มีรสชาติดีเยี่ยม ทำให้ผมนึกไปถึงบุญเชิดว่า เขาเป็นคนที่ชาญฉลาด  รู้จักเรียนทางลัด.. เพื่อความก้าวหน้าในยศถาบรรดาศักดิ์  ช่างรู้ใจนาย.ไปเสียทุกอย่าง  เจ้านายชอบกินยำรก ก็สู้อุตส่าห์เก็บหา..  รู้ว่านายชอบเล่นเทนนิส ตีกล์อฟ ก็ไปหาสนามที่ดีๆให้นายไปเล่น  พร้อมมีเครื่องดื่มกับแกล้มที่นายชอบ พร้อมสาวๆ น่าตาจิ้มลิ้ม คอยชงเหล้าให้.บุญเชิดจะลงมือปรุงยำรกด้วยตนเอง..โดยไปหาซื้อน้ำพริกสำเร็จรูปของจังหวัดแพร่.. ที่เขาว่าทำน้ำพริกอร่อยมาก.. 

      เขาสู้อุตส่าห์หอบเอารกวัว จากคอกวัวที่จัดเก็บไว้อย่างดี คอยติดตามว่า วันนี้ วันไหน   นายจะไปตรวจไปเยี่ยมงาที่ใดบ้าง. จากนั้นเขาก็ใช้รถยนต์ส่วนตัว ยอมที่จะจ่ายค่าน้ำมันเอง เหนื่อยเอง จ่ายค่าที่พักเอง แต่ก็คุ้มค่า..เพราะสองขั้นอยู่ในมือแล้ว. ตลอดระยะเวลาในการทำงานของผม เกือบ35 ปี ผมเคยได้รับการพิจารณาขั้นเงินเดือนพิเศษสองขั้น เพียงสองครั้ง ผิดกับบุญเชิดทำงานมา 32 ปีได้สองขั้น มาไม่ต่ำกว่า 29  ครั้ง..

       คนอะไร..จะเก่งปานนั้น เขาทำบุญ ด้วยอะไร ทำให้ชวนน่าตามศึกษา... 
                                                   
       ชีวิตราชการของเขา.โรยด้วยกลีบกุหลาบ จนน่าอิจฉา..เขาประสบความสำเร็จในชีวิตราชการอย่างมาก 

       ยำรกเคย เป็นสิ่งนำโชคให้กับเขา.ในช่วงเวลาหนึ่ง .วันนี้อดีตผู้นำคนที่ชอบยำรกได้สิ้นอายุขัยลง 

       วันนี้..บุญเชิดได้นายคนใหม่แล้ว เขาจะมีสิ่งใด.วัตถุใด.เป็นสิ่งนำโชคให้เขาได้ 

       เราต้องคอยติดตามและตั้งใจดูให้ดี..ๆ 
                                       

                                                  ขลุ่ย       บ้านข่อย    

                                                  ๕  /๑๐/๒๕๖๕
         

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×