กรรมของไอ้ตัวเล็ก - กรรมของไอ้ตัวเล็ก นิยาย กรรมของไอ้ตัวเล็ก : Dek-D.com - Writer

    กรรมของไอ้ตัวเล็ก

    เรื่องของการแสดงน้ำใจ..มนุษยธรรม ที่ภริยาหลวง เมินเฉยกับเด็กน้อย

    ผู้เข้าชมรวม

    53

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    53

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ก.ย. 65 / 13:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

                                          กรรมของ.ไอ้ตัวเล็ก
             

             น้องแป้งหอม คือทายาทที่เกิดจากไฉนกับวันใหม่…  ในวันนี้แป้งหอมมีอายุเพียงสองขวบเศษๆ ที่ยังไร้เดียงสา ผมรู้จักมักคุ้นกับคนทั้งสองอย่างมาก ไฉน.เป็นเหมือนทั้งน้องทั้งลูกศิษย์ เพราะเขามีอายุอ่อนกว่าผมไม่ถึงห้าปี  ครั้งที่ผมเคยสอนเขา ได้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่น จริงจัง ไฉนเป็นคนเชียงใหม่ หลังจากที่เขาเรียนจบ ได้ประกอบอาชีพอิสระโดยรับโควต้าจากบริษัทเอกชนที่จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ เพื่อมาดำเนินการผลิตเมล็ดพันธุ์ ส่งต่อให้บริษัทอีกทอดหนึ่ง เขาพบรักกับสาวชาวบ้านและอยู่กินกันมาจนมีลูกสาวหนึ่งคน  

           ไฉน..ได้มาขอเช่าพื้นที่กับเกษตรกรที่ไม่ได้ใช้พื้นที่ทำกินทั้งยังได้ชักชวนและจ้างเกษตรกรให้มาปลูกแตงกวา ฟักทอง และอื่นๆ  เพียงระยะเวลาแค่สี่เดือนที่เขาปลูกและเก็บเมล็ดพันธุ์ส่งบริษัท  จะมีรายได้ต่อการผลิตกว่าแสนบาทต่อครั้ง และบางครั้งรายได้อาจถึงสามแสนบาท  ผมได้พบกับไฉนค่อนข้างบ่อยเนื่องจากผมทำงานด้านมวลชน จึงต้องไปหาผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้านเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการทำงาน บ้านที่ไฉนอาศัยอยู่ห่างจากบ้านของผู้ใหญ่บ้านไม่ถึง 50เมตรกอรปกับผู้ใหญ่บ้านมีอายุรุ่นคราวน้องของไฉนสักเล็กน้อย ไฉนจึงไปมาหาสู่กันเนืองๆ   ผมค่อนข้างจะสนิทกับไฉน เป็นเพราะเราได้เจอกันบ่อยๆ   อำพรคือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้ช่วยแบ่งเบาภาระสามี จากการใช้พื้นที่ที่หน้าบ้าน ขายส้มตำและก๋วยเตี๋ยว พื้นที่ที่ว่างที่เหลือของเธอได้แบ่งให้แม่ค้าจากที่อื่นๆมาเช่าเพื่อขายกับข้าว  สมัยที่พ่อของภริยาไฉนยังไม่เสียชีวิต ผมมักจะไปนั่งคุยเล่นกับเขาเสมอ    

         ไฉน ..เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง ขยัน  ประหยัดและรักครอบครัว เขามีบุตรสาวเพียงคนเดียว ตลอดเวลากว่า 25  ปี ไฉนได้ดูแลส่งเสียบุตรเป็นอย่างดี จนลูกเรียบจบคณะเภสัชศาสตร์  นับเป็นความภูมิใจและหายเหนื่อยของคนเป็นพ่อและแม่
           "สวัสดีครับ อาจารย์ "  ไฉนกล่าวทักทาย
           "ทำอะไร เหรอ ไฉน " ผมถามเขา 
           "อ๋อ ผมเกี่ยวหญ้าเอาไปให้วัวกิน ครับ  "
           "เลี้ยงไว้กี่ตัว เหรอ "
           "เกือบ10 ครับ" เขาตอบ พลางใช้มือรวบหญ้าขน ที่อยู่ข้างถนนทางหลวงและข้างริมคลองชลประทาน ขณะปากพูด มือของเขาก็ทำอย่างผู้ชำนาญการ
           "คุ่มค่าเหนื่อย มั้ย "ผมถาม
           "คุ้มครับ " 
           "ลูกสาว เรียนชั้นไหนแล้ว "ผมถาม
           “เรียนจบแล้ว ครับ”
           "ทำงานหรือยัง  "
           "ทำงานแล้วครับ เร็วๆนี้ จะแต่งงาน ผมขอเรียนเชิญอาจารย์ ไว้ล่วงหน้าเลย""ไฉนพูด
           "ครับ " ผมตอบสั้นๆ  
           ไฉน ทำงานอิสระอยู่ได้ไม่นาน ด้วยเป็นคนที่มีความสามารถมาก รุ่นพี่ของเขา จึงได้ชวนให้มาทำงานราชการ ในอัตราจ้างไปก่อน,,เขาไม่ได้สร้างความผิดหวังให้กับองค์กรเลย

               ******************************************************************************

           ต่อมา.เมื่อหน่วยงาน มีอัตราตำแหน่งเขาจึงได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ .สามสิบกว่าปี ที่ผมพบกับไฉน ได้เห็นถึงความเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ในด้านการมีมนุษยสัมพันธ์ ความอ่อนน้อมถ่อมตนของเขา.. ผลงานของไฉน มีความโดดเด่นมาก จนได้รับการยอมรับจากทุกหน่วยงาน ทุกๆครั้งที่เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดินทรงเยี่ยมพสกนิกร  เสด็จมาที่โครงการหลวงในจังหวัดภาคเหนือ ไฉนจะได้รับมอบหมายจากหน่วยงาน .ให้เป็นผู้บรรยายงาน ให้ทรงรับทราบถึงความเคลื่อนไหว และความเปลี่ยนแปลงที่พระองค์มีพระราชดำริไว้ เกี่ยวกับเมล็ดพันธ์ผักต่างๆ 
          บุคลิกของไฉนที่เป็นเอกลักษณ์คือเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ .รักใคร รักจริง..การที่เขามีวุฒิการศึกษา ด้อยกว่าใครๆ ในที่ทำงานจึงมักถูกฉกฉวยแย่งชิงผลงานเสมอๆ   ต้องบอกว่าหน่วยงานเกือบทุกแห่งของประเทศนี้ มีโจรในเครื่องแบบที่ไร้ความละอาย ที่มักจะเอารัดเอาเปรียบผู้ด้อยกว่าทางตำแหน่งเสมอๆ  ไฉนจึงถูกข้าราชการรุ่นพี่ที่มีตำแหน่งเหนือกว่ามาขอร่วมลงรายชื่อในโครงการที่เขาทำ เพื่อจะได้ให้ตนมีเครดิตในการขอตำแหน่งทางวิชาการ เขาต้องจำยอมให้บุคคลเหล่านั้นร่วมลงชื่อในโครงการ เพราะทนรำคาญกับการถูกคะยั้นคะยอไม่ได้ นอกจากไฉนจะมีงานหลักคือรับราชการแล้วอาชีพเสริมที่ไฉนทำมานานกว่าสิบปีแล้วคือการเลี้ยงโคขุน ช่วงที่ผมยังไม่เกษียณผมเคยสนใจ อยากจะเลี้ยงโคขุนบ้างได้สอบ ถามไฉนเกี่ยวกับเรื่องเคล็ดลับในการเลี้ยง เขาบอกผมว่าไม่มีเคล็ดลับพิเศษใดๆ

        ไฉนเป็นคนเรียบง่ายไม่ฟุ่มเฟือยแม้จะมีมนุษยสัมพันธ์ดี แต่เขาก็เลือกที่จะคบหาบุคคลที่เขาพึงพอใจ เขามักเล่าเรื่องต่างๆ ในที่ทำงานให้ผมฟังเสมอ ๆ
         “อาจารย์ครับ ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า ในที่ทำงานของผมเนี่ยะ  มีคนเรียนจบดอกเตอร์มาสามสิบกว่าคน มีวุฒิปริญญาโทอีกยี่สิบกว่าคน แต่อาจารย์เชื่อมั้ย..ว่าคนพวกนี้ ช่างเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด ร้อยละแปดสิบ หลังจากพวกเขาเซ็นต์ชื่อเสร็จก็จะกลับไปอยู่ที่บ้าน บางคนก็ไปทำสวนยาง ทำสวนผลไม้ บางคนไปรับเป็นที่ปรึกษาของบริษัทเอกชน ได้รับเงินเดือนอีกต่างหาก เดือนละหลายหมื่นบาท บางคนไปค้าขาย ไปรับจ๊อบพิเศษ” ไฉนบอกเล่า
       "ผมได้ข่าวนี้ มาตั้งนานแล้วล่ะ " ผมพูด
       "ผมว่า.. คนพวกนี้ มันเอาเปรียบสังคมอย่างมาก เสียดายเงินภาษีของประชาชนครับ “ไฉน พูด
       "เห็นด้วยกับไฉนเลย  อาจารย์ก็เสียดายเงินภาษี เหมือนกับที่ไฉนคิดนั่นแหละ  "ผมพูด
        ดูเหมือนไฉน จะอดทนกับคนเหล่านี้ ที่อ้างว่าตนมีการศึกษาสูง เขาจึงต้องมาระบายความในใจให้ผมได้รับรู้บ้าง ...         จากการที่ผมได้สัมผัสกับลูกศิษย์คนนี้  ดูเหมือนผมค่อนข้างจะพอใจ ในการเป็นคนสมถะ เรียบง่าย , การเป็นคนทุ่มเทจริงจังในการทำงาน, ผมแทบจะไม่เคยเห็นไฉนใส่เสื้อผ้าราคาแพงๆ ความประหยัดที่เขาทำได้ทำเป็นปกติวิสัย จึงสามารถเก็บเงินเป็นทุนรอนส่งเสียให้ลูกเรียนจบมหาวิทยาลัยของรัฐ  
         ช่วงหนึ่ง… ผมพบเห็นไฉนมักจะมาป่้วนเปี้ยนอยู่ที่ตลาดในหมู่บ้าน ในใจยังคิดว่าเขาคงมาหาซื้อกับข้าวกับปลาไปกินที่บ้าน   …ผมเริ่มได้ยินข่าวของเขาในทางไม่ดี ที่ชาวบ้านค่อนแคะนินทาในตัวเขาว่า มาแอบรักแม่ม่ายผัวทิ้ง และเกิดได้เสียกันจนฝ่ายหญิงได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตรสาว ภริยาหลวงของไฉนทราบข่าวแล้ว แทนที่เรื่องราวจะบานปลายดังนิยาย. … แต่..ทุกอย่างกลับตารปัตร ดังกับเหมือนไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น..

             **********************************************************************************

          ไฉนเปิดอกเปิดใจ ยอมรับผิดกับภริยาหลวงและแสดงความรับผิดชอบกับเด็กในครรภ์ว่า... เขาคือพ่อโดยชอบตามกฎหมาย แม้ภริยาหลวงจะไม่ว่า ไม่พูด ไม่หึงไม่หวงในตัวสามี แต่เธอก็ไม่ยินยอมที่จะให้สามีนำเงินเดือนของเขามาเป็นตัวแบ่งตัวหาร.ไปให้กับภริยาน้อยแม้แต่บาทเดียว   
          .วันใหม่ คือภริยาน้อย.. มีอายุอ่อนกว่าไฉนเกือบ 20 ปี.เธอมีลูกติดกับสามีเก่าสี่คน ลูกคนเล็กสุด ก่อนที่วันใหม่จะหย่าขาดจากกัน เพิ่งมีอายุขวบเศษๆ ข้อสันนิษฐานของผม ที่ค่อนข้างมั่นใจว่าคู่ผัวตัวเมียระหว่างวันใหม่ กับสามีคนเดิม มิอาจอยู่ร่วมกันได้ เป็นเพราะภริยาเอาแต่ดื่มกิน เล่นการพนันด้วย ทั้งไม่เอาใจใส่ดูแลลูกๆ   แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวของไฉน แต่ผมก็อดเสียดายในคุณความดี ทีไฉนเคยซื่อสัตย์ต่อภริยาหลวงและลูกมาโดยตลอด  แน่นอนว่าบางครั้งผู้ชาย ก็อาจหลงในเสน่ห์ การเอาอกเอาใจของหญิงอื่นที่มิใช่ภริยา.พูดก็พูดในชีวิตของผม.ก็ยังเคยเจอ แต่เมื่อสำนึกได้  ก็กลับเนื้อกลับตัวเสีย.. ก่อนที่จะสายเกินแก้..

       ไฉนได้ไปแจ้งแสดงตน ลงในสูติบัตรกับทางอำเภอว่าเขาคือบิดาของเด็กหญิงแป้งหอม ผมชื่นชมเขา อย่างจริงใจ ที่เมื่อตนพลั้งเผลอไป ก็กล้าที่จะยอมรับความจริงและแสดงความรับผิดชอบ เขาได้เจียดเงิน เพื่อซื้อนม ผ้าอ้อม ค่าอาหาร และอื่นๆ หลายๆครั้งเขาได้มานอนค้างคืนที่บ้านของวันใหม่ ในช่วงที่น้องแป้งหอมยังมีอายุเพียงเดือนเศษ ในส่วนที่ผมอยากตำหนิไฉนอยู่บ้างคือ..การเลือกคนที่จะมาเป็นแม่ของลูก ทั้งๆที่วันใหม่มีลูกติดกับสามีเก่าถึงสามคนแล้ว ใย..ไฉนจึงยังเลือกเธอมาเป็นภริยาน้อย  เท่านั้นไม่พอ. วันใหม่ ยังเป็นคนที่ขาดความรับผิดชอบไร้แก่นสาร วันทั้งวัน เธอเอาแต่เล่นไพ่ เล่นการพนั นเย็นมาก็ดื่มสุรายาเมากับเพื่อนบ้าน    
           ไฉนมีโอกาสได้ชื่นชม..เลี้ยงดูน้องแป้งหอมได้เพียงหกเดือน จากนั้นเขาได้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ และได้เสียชีวิต เมื่อปลายปี ผมมีโอกาสไปงานศพของเขา คงบอกว่างานศพของเขาสมเกียรติยิ่ง.มีบุคคลสำคัญมาร่วมงานไม่น้อย วันใหม่ได้อุ้มน้องแป้งหอมมาร่วมศพของพ่อ ณ เวลานั้น มีอายุยังไม่ถึงขวบดี  ในวาระสุดท้ายของไฉน เพื่อนร่วมงานได้นำผลงานของเขา ซึ่งมีภาพสำคัญๆที่เขาได้เป็นผู้บรรยายให้กับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มาแสดงให้ญาติมิตรและผู้มาร่วมงานศพ ได้ชมได้อ่าน  ผมรู้สึกภูมิใจแทนเขา..ในใจยังนึกถึง.และคิดไปว่าเขาไม่น่าจะมีอายุสั้นเลย
         ภริยาหลวง-ของไฉน.ได้ให้โอกาสแก่วันใหม่ มาร่วมเป็นเจ้าภาพด้วย น้องแป้งหอม มิอาจรับรู้ได้เลยว่าพ่อของตนเป็นอะไร เนื่องจากยังไร้เดียงสางานศพของไฉนมีแขกจากต่างจังหวัดจากหลายหน่วยงานจากเพื่อนร่วมรุ่น.  แม้เขาจะเป็นข้าราชการตัวเล็กๆแต่งานศพของเขาหาได้เล็กเพราะตำแหน่งไม่ ช่วงที่ไฉน.มีอาการป่วยใหม่ๆมีเพื่อนร่วมรุ่นของเขาสองคนได้แวะมาหาผมและบอกว่าไฉนล้มป่วย ผมบอกไปว่าไว้ว่างๆจะไปเยี่ยม..ผมผลัดวันแล้วผลัดวันอีก เพราะเห็นว่าบ้านของเราอยู่ใกล้ๆกันแค่นี้จะไปเยี่ยมเมื่อไหร่ก็ได้  . 
                                             
          แต่แล้ว.. ไฉน..ก็มาด่วนจากไป หลังจากเพื่อนๆมาเยี่ยมได้เพียงสามเดือน. ผมได้พูดกับคนรู้จักว่า ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าไฉน จะมีอาการเจ็บป่วยและเสียชีวิตอย่างรวดเร็วขนาดนั้น เนื่องจากผมดูจากภายนอกเห็นว่า เขาเป็นคนออกกำลัง และแข็งแรงมาก มีช่วงหนึ่งที่ผมและไฉนพบกันระหว่างทางในขณะที่เขาใช้จักรยานธรรมดาๆ ปั่นออกกำลังกาย และผมใช้จักรยานที่ไปซื้อจากห้างราคาไม่แพงมากนัก .  
      "อาจารย์ ขี่ไปไกลไม่ครับ "ไฉนทักทาย
      "วันละประมาณ 20 -25  กิโลเมตร "ผมตอบ
      "ผมขี่สัก 4-5  โลเอง ครับ  "เขาตอบสั้นๆ
         นี่คือภาพความทรงจำที่ผมมิอาจลืมลูกศิษย์คนนี้ .และสิ่งที่ผมมิอาจลืมไปได้ ในงานศพของเขาคือ  ผมได้พบเพื่อนๆร่วมรุ่นของไฉนที่ได้มาแสดงน้ำใจที่ดีงามกับเพื่อนผู้ล่วงลับ ซึ่งผมอดชื่นชมไม่ได้  งานศพของไฉน สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี หลังจากเสร็จงานทางภริยาหลวงของไฉน ได้รับเงินสะสมจากที่ทำงานกว่าล้านบาท ผมเคยได้ยินว่าก่อนที่ไฉน จะเสียชีวิต เขาได้เคยคุยกับภริยาหลวงว่า เขาอยากให้ภริยาได้แบ่งเงินบางส่วนให้กับลูก (แป้งหอม )บ้าง ทางภริยาได้รับปากว่าจะยินยอมแบ่งให้..
          เวลาล่วงเลยจากเดือน..สองเดือนจนมาถึงปัจจุบัน(เกือบปี)..ทางฝ่ายวันใหม่ซึ่งเป็น ภริยาน้อย ซึ่งรอการแสดงน้ำใจจากภริยาหลวง ก็ไร้วี่แววที่ภริยาหลวงจะแบ่งปันเงินมาให้เลยสักน้อยนิด  ผมมีโอกาสได้มาคุยกับวันใหม่..เนื่องจากเคยเห็นน้องแป้งหอมถูกปล่อยทิ้งดังกับเด็กอนาถาโดยไม่มีใครใส่ใจดูแล

    "อาจารย์ มาธุระอะไรหรือคะ "วันใหม่ ทักทายกับผม
            "อยากเห็นไอ้ตัวเล็ก ตอนนี้.กี่ขวบแล้วล่ะ คิดถึงไฉน เลยอยากแวะมาดูหลาน"ผมพูด
            "สองขวบแล้ว ค่ะ แป้ง. มานี่ มาตุ๊จ้า ลุง. " วันใหม่เรียกลูก
            แป้งหอม เดินออกจากห้อง..พร้อมยกมือไหว้แบบเด็กๆ..นี่คือครั้งแรก ที่ผมได้เห็นทายาทของไฉนเด็กผู้หญิงร่างผอมขาวใบหน้าละม้ายพ่อไม่ผิดแบบ
           "ใจด๊ำ ใจดำเลยค่ะ อาจารย์.เงินสักเก๊ เขาก็ไม่เอามาให้ลูกหนู" วันใหม่เอ่ยปากขึ้นมา โดยที่ผมไม่ได้ถาม
           "นี่ได้ข่าวว่า เขาได้รับเงินเพิ่มอีกสองแสนกว่าบาท หนูไม่เคยทวงถาม เพราะมันสิทธิ์ของเขา หนูคิดว่าเขาแล้งน้ำใจมากเลย " วันใหม่พูดด้วยความคับแค้นใจ  

    " ใช่. อาจารย์  เห็นด้วย "ผมพูด
             "ลูกเขา ก็ทำงานแล้ว  มีครอบครัวแล้ว แทนที่จะเห็นใจทางหนูบ้าง "
             "อืม..ใช่..อาจารย์เห็นใจนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของมนุษยธรรมล้วนๆเลยแหละ"ผมพูด
             "ไม่ให้  หนูก็ไม่เอา หนูเลี้ยงแป้งหอมได้ "เธอตัดพ้อ   
            ผมได้อุ้มแป้งหอมในมือสักครู่. ด้วยที่มีเด็กๆกำลังเล่นกันอยู่ก่อน จึงทำให้เธออยากจะลงไปเล่นกับเพื่อนๆ ผมจึงวางตัวเธอลงกับพื้น สายตาผมยังมองไปที่เด็กน้อยที่ยังไร้เดียงสา.. 

           ชีวิตของเด็กน้อย ที่ไร้พ่อ.ทั้งยังมาเจอแม่  ที่รักแต่เพียงความสนุก.ไปวันๆ       

                 อนาคตของเจ้า..จะเป็นอย่างไร...ใครๆก็ยากที่จะคาดเดา. 

                                                    ขลุ่ย    บ้านข่อย
                                                     ๓๐  กย  ๖๕

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×