ถั่วดำที่มิใช่ขนมหวาน
ผู้เข้าชมรวม
132
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ถั่วดำ ..ที่มิใช่ขนมหวาน
มีรุ่นน้อง.ที่ผมสนิทมากคือ ไอ้แบล็ก ไม่ทราบเหมือนกันว่า ผมเป็นคนโชคดี หรือโชคร้าย ที่ ต้องเรียนช้าไปหนึ่งปี จนต้องมาร่วมเรียนกับรุ่นน้อง ที่ต้องคำถามขึ้นมาก็เพื่อจะได้มาพิจารณาวิเคราะห์ ข้อดีและข้อเสีย ..แรกๆ เมื่อได้มาเรียนกับรุ่นน้อง มันค่อนข้างเค๊อะเขิน ยิ่งถูกบังคับให้มาเรียนสาขาที่ไม่สู้จะชอบ เลยไปกันใหญ่. ทำให้ผมต้องหลบไปนั่งเรียนด้านหลังห้อง ตลอดการเรียน
ที่บ้านน้าเยาว์ที่ผมเช่าอาศัยกับเพื่อนๆและอีกห้องที่พี่เผือกพี่แม้นและพี่เตี้ยเช่า ไอ้แบล๊ก มักจะแวะมาเที่ยวหา มานั่งคุย มากินเหล้า มาเล่นไพ่และบางครั้ง มาปรึกษาด้านการเรียน บ้างสองห้องที่เช่าติดกัน หากว่าง มักจะชวนกันเปิดวงไพ่ เพื่อฆ่าเวลา หาเงินกองกลางซื้อเหล้ามาดื่มกินพูดได้ว่าห้องเช่าที่ผมอยู่ติดถนนเป็นศูนย์ แห่งการรวมนัดกันเล่นไพ่ กินเหล้า นักศึกษาทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นน้อง มักจะแวะมาร่วมแจมด้วยเสมอ ชมรมดื่มได้ทุกเวลา ยินดี ต้อนรับทุกคนแบบไม่มีเลือกปฎิบัติ รุ่นน้องที่แวะมาบ่อยๆมีไอ้ญาไอ้แบล๊ค
ผมสนิทกับไอ้แบล๊ค เพราะเรียนด้วยกัน ทั้งเขายังเป็นคนใจสปอต แบล็ค เป็นคนปักษ์ใต้ หน้าตาคงไม่ต้องบรรยาย ใครๆ เห็นก็สามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้อง เขามีความสูงประมาณ175 เซนติเมตร เป็นคนยิ้มง่าย เสียงเล็กแหลม สุขุม ใจเย็น แต่ไม่ถึงกับเป็นคนเก็บตัว ตั้งใจเรียน และมีผลการเรียนดี -ดีมาก เขามักใช้รถจักรยานเสือหมอบสีเหลือง เป็นพาหนะคู่ใจ ในการเดินทางไปเรียน ไปตลาด และแวะมาที่บ้านเช่าที่ผมพัก ที่บ้านที่ผมเช่า มีรถจักรยานคันเก่าๆ อยู่หนึ่งคัน ซึ่งผมเป็นเจ้าของ จักรยาน คันนี้ แม่เห็นว่าพี่ชายของผมไม่ได้ใช้ จึงยกให้ ผมได้พี่งพารถคันนี้ขี่ไปเรียนบ้าง แม้จะเก่าไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าเดิน
ผมสนิทกับไอ้แบล๊คมากขึ้นๆจนเหมือนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันเขาสามารถหยอกล้อ เดินกอดคอ กินเที่ยวด้วยกันกับผม แบบไม่เงื่อนไข หากรถผมเสีย ผมจะอาศัย รถไอ้แบล๊ค นั่งตรงราวเหล็กด้านหน้า ไปเรียนหนังสือ หรือหลายๆ ครั้งผมก็ยืนด้านหลังบริเวณลูกล้อ และเกาะบ่าคนขี่เพื่อรักษาความสมดุลในการยืน คนบริเวณนั้น เห็นภาพนี้จนชินบางครั้ง บางครา เมื่อไอ้แบล๊ค รับเงินจากทางบ้าน เชาจะชวนผมเข้าไปที่พระโขนง เพื่อเข้าห้างดัง ดูเสื้อผ้า กางเกงรุ่นใหม่ๆพอช่วงขากลับ จะชวนผมแวะสวนอาหารข้างทางที่มีวงดนตรีเล่น
“พี่ขลุ่ย เดี๋ยวเราลงไปนั่งดริ๊ง ที่ร้านวังปลาดุก และนั่งฟังเพลงกัน นะ “ แบล๊ค เสนอความเห็น
“แล้วแต่ แบล๊คว่ะ “ ผมตอบ
“ ลงป้ายหน้ากันเลย ..พี่ “ แบล๊ค บอกผม เขาเริ่ม ขยับตัวพร้อมจะกดกริ่งลงจาก รถเมล์ หลังจากรถจอดแล้ว ผมเดินตามแบล๊คลงจากรถอย่างมิได้เร่งรีบ
“ผมผ่านห้องอาหารวังปลาดุกหลายครั้งแล้ว วันนี้พอดีพี่ขลุ่ย มาด้วย ถือเป็นโอกาสดี ที่จะได้มาฟังเพลงและดีไม่ดี ผมจะเขีบนจดหมายให้พี่ขลุ่ย ขึ้นไปโชว์เพลงซักเพลงสองเพลง “ แบล๊ค พูด
“โอ่โถง..กว้างขวางและ บรรยากาศดี นะแบล๊ค “ ผมพูด
“นั่งใกล้ๆวงดนตรี ก็ดีนะ จะได้ขอเพลง และดูนักร้องสาว “ แบล๊ค พูด
“ก็ดี เหมือนกัน “ผมพูด
เมื่อเลือกมุม.. และโต๊ะที่นั่งได้แล้ว บริกร ก็นำรายการอาหารมาให้พวกเราเลือก
“เครื่องดื่ม รับอะไรดีคะ พี่ “ บริกร สาวพูด
“เหล้าแบน โซดาขวด น้ำเปล่าขวดนึง น้ำแข็งเหยือก “ แบล๊คบอกบริกรสาว
“ค่ะ แล้วกับแกล้มล่ะคะ”
“ทางร้านมีอะไรจะแนะนำ บ้าง” แบล๊คสอบถาม
“ยำปลาดุกฟู ต้มยำปลาคัง ผัดเผ็ดหมูป่า ค่ะ”
“พี่ขลุ่ย กินไรดี “แบล๊ค ถามผม
“ตามใจ สั่งอะไรมาก็กินได้หมด น่ะ”
“งั้นช่วงแรก ถั่วทอดมาก่อนแล้วตามด้วยต้มยำและ ยำปลาดุกฟู”
บริกร จัดการตามที่สั่งและมาช่วยดูแล เอาใจใส่พวกเราอย่างดี ดนตรีบรรเลงเพลง ช้า จากนั้นมีนักร้องสาวมาขับกล่อม ผมกับแบล๊คนั่งดื่มจนหมดแบนในเวลาไม่ถึงชั่วโมง จำเป็นต้องสั่งเหล้าเพิ่มอีกชุด อาหารอร่อย สุราบางๆ ดนตรีไพเราะ บริกรสาวเอาใจใส่ดี.... ทำให้เราดื่มจนเพลิน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ไอ้แบล๊คได้เขียนจดหมายให้นักดนตรีประกาศเชิญผมขึ้นไปโชว์เพลง และผมก็สนองความต้องการให้หนึ่งเพลง คือเพลง เรือนแพ แม้จะยังเพลิดเพลินกับการดื่ม ฟ้งเพลง แต่ก็ต้องรีบกลับ เพราะเกรงใจเจ้าของหอพัก ที่รอปิดประตูหอพัก
แบล๊ค พักที่หอพักโรงเห็ด ข้างสวนพระนคร จากถนนใหญ่ เข้าไปที่หอพักมีระยะทาง 400 เมตรลักษณะหอพักเป็นการปลูกสร้างแบบง่ายๆโดยใช้อิฐบล็อกก่อสร้าง กั้นเป็นห้องๆ ขนาดกว้าง 2 เมตรยาว 2.5 เมตร หอพักหอเห็ด มีห้องให้เช่า20 ห้อง มีนักศึกษาจากคณะเกษตร และวิทยาลัยช่างศิลป์ พักเป็นส่วนใหญ่ ที่พิเศษคือมีชายชาวอังกฤษ คือคุณเฮนรี่ วัยใกล้ 60 อดีตวิศวกร เช่าพักอยู่ด้วย ห้องพักของไอ้แบล๊ค กับคุณเฮนรี่ อยู่เยื้องๆ กัน บางช่วงผมไปเที่ยวหาไอ้แบล๊ค เพราะติดใจสาวช่างศิลป์ ก็พบชายฝรั่งคนนี้เสมอ ผมกับเขาแม้จะเคยพบกันบ่อยครั้ง อย่างเก่งผมก็แค่ยิ้มๆให้
“พี่ขลุ่ย สงสัยมาเที่ยวหา ผมบ่อยๆ ถ้าจะมีแผนการอะไร แหงๆ “ ไอ้แบล๊ค พูด
“ไม่หรอก ไม่มีอะไรจริงๆ พอดีอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างแหละ” ผมพูด
“เมื่อก่อนผมชวนพี่ขลุ่ยมาหอพัก แต่จะถูกปฎิเสธว่าไกล “ แบล๊คพูด
“ที่หอพักที่นี่ เงียบสงบดี ชอบนะ. .เหมาะกับการดูหนังสือ วันหน้าขอมานอนติวตำรานะ “ผมพูด
“ไม่ขัดข้อง “ แบล๊คตอบ
ที่หอพักหอเห็ด มีนักศึกษาจากวิทยาลัยช่างศิลป์ทั้งชายและหญิง พักอาศัย จากที่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวหอพักแห่งนี้ ได้พบสาวช่างศิลป์ ชื่ออ้อ มันช่างถูกสเป๊กเสียเหลือเกิน เธอดูแก่นแก้ว ท่าทางออกจะหยิ่งๆ นี่แหละ.มันช่างท้าทาย ที่ผมคิดจะต้องเอาชนะสาวคนนี้ให้ได้
เมื่อก่อนผมจะไปบ้านเช่าของเพื่อน เพื่อไปนั่งดื่ม และมองดูนักเรียน ที่เดินทางกลับบ้าน เนื่องจากเขาต้องเดินผ่าน แต่หลังจากได้พบกับ น้องอ้อ เด็ก ช่างศิลป์ จึงเปลี่ยนเข็มทิศมาเป็นหอพักที่ไอ้แบล๊คพักแทน วันเสาร์ -วันหนึ่งช่วงเวลาประมาณ สี่โมงเย็น.... แบล๊ค ขี่จักรยาน แวะไปซื้อเหล้าหน้าที่ทำการสวนพระนคร และมาชวนผมไปนั่งดื่มด้วย ผมนั่งตรงตัวถังจักรยาน ดังเคยนั่ง เมื่อมาถึงหอพัก ไอ้แบล๊คก็เตรียมแก้ว ชามช้อน กระติกน้ำแข็ง แล้วไปที่โต๊ะหินอ่อน จากนั้นเราก็นั่งดื่มกัน จริงๆ แล้วคุณเฮนรี่ ก็เป็นคนชอบดื่ม แต่ก็แปลก ที่เขามักจะไม่ค่อยชอบออกมานั่งดื่มภายนอกห้องพัก และที่แปลกกว่านั้นผมเห็นฝรั่งคนนี้ ชอบดื่มเหล้าเชี่ยงชุน เป็นประจำ
ไอ้แบล๊คแนะนำให้ผมรู้จักกับบุรุษชาวต่างประเทศ ผมก็เริ่มหัดแนะนำตัว
“มายเนม อี๊ด สุรินทร์ “
นับแต่ผมได้รู้จักชายชาวอังกฤษคนนี้ ดูแล้วเป็น คนดี สุภาพ สมกับเป็นผู้ดีชาวอังกฤษ เขาแทบจะพูดภาษาไทยไม่ได้เลย จากที่ผมจะทราบ กับคำว่า ผู้ดีอังกฤษ นั้น หมายถึง การเป็นคนที่มีวาจาดี มีความสุภาพ ตรงต่อเวลา ไม่ซอกแซกเรื่องส่วนตัวคนอื่น และการวางตัวดี บุคลิกของคุณเฮนรี่ ที่ผมพบโดยส่วนใหญ่ จะแต่งกายเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ในหอพักที่เขาพักไม่ค่อยจะมีทรัพย์สมบัติส่วนตัวใดๆ ที่เห็นเด่นชัด ที่ครั้งหนึ่งเคยเข้าไปนั่งคุย พร้อมไอ้แบล๊ค คือมีตู้เย็น ตู้เล็กๆ ที่ไว้แช่โซดา และเก็บอาหารสำเร็จรูป มีตู้เสื้อผ้า จะว่าไปแล้วเขาเป็นฝรั่งที่สมถะ ก็อาจเป็นไปได้ ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า เขาเป็นถึงวิศวกร ทำไมจึงมาเช่าหอพักราคาถูกๆอยู่ เงินเดือนที่เขาเคยบอกกับผมกับไอ้แบล๊คว่า เงินเดือนที่เขาได้รับจากบริษัทคือประมาณ 6 หมื่นบาท
“เงินเดือนแกมากขนาดนี้ ทำไมแกไม่เช่าบ้านเป็นหลังอยู่ก็ไม่รู้นะ แบล๊ค “ ผมฉงนใจ จึงสอบถามไอ้แบล๊ค
“นั่นน่ะสิ พี่ ผมก็คิดเหมือนพี่ขลุ่ย เหมือนกัน จะถามแก ก็คงจะเสียมารยาท “ แบล๊คว่า
“แกไม่มีครอบครัว หรือแบล๊ค “
“ตามที่ผมเคยคุยกับแก แกบอกว่า เคยมีภริยา เมื่อตอนวัยหนุ่ม แต่ก็ไม่มีลูกด้วยกัน “
“แก มาอยู่เมืองไทย นานแล้วเหรอ “
“ห้าหกปี ก่อนที่แกจะมาอยู่กรุงเทพ เคยดูแลควบคุมการก่อสร้างถนน ธนบุรี -ปากท่อ และอาศัยอยู่ที่จังหวัดราชบุรี แกเล่าให้ฟังว่าช่วงอยู่ราชบุรี ได้จดทะเบียนรับบุตรธรรม หนึ่งคนอายุสามสิบกว่า “ แบล๊คเล่าให้ฟัง
“แล้ว ทำไมแก ไม่อยู่กับลูกบุญธรรม ล่ะ”
“ไม่รู้ สิ” แบล๊คตอบ
ยิ่งได้รู้จักคุณเฮนรี่ มันยิ่งทำให้ผมแอบสงสัย ในตัวเขาหลายๆ เรื่อง อย่างแรกคือเรื่องที่แกเคยเล่าว่า แกมีเงินเดือนๆละ หลายหมื่นบาท แต่ทำไมแกอยู่แบบลำบากลำบน ต้องนอนห้องที่อบอ้าวติดพัดลม ต้องเดิน ต้องขี้นรถเมล์ หรือนานๆ ครั้งจะเห็นรถแทคซี่เข้ามาส่งที่หอพัก เงิรเดือนมีตั้งมากมาย ทำไมไม่ออกรถยนต์ส่วนตัวสักคัน สภาพความเป็นอยู่ในห้องพักบางช่วงเห็นแกต้มบะหมี่สำเร็จรูป ไข่ดาว ขนมปัง กิน อายุของเขาก็มากแล้ว และอยู่คนเดียว มันเป็นเรื่องที่แปลก
“พี่ขลุ่ย รู้หรือเปล่า คุณเฮนรี่ แกมีฐานันดร ของราชวงศ์อังกฤษด้วยนะ แกเคยเอารูป และเอกสารให้ผมดู ศักดินาเทียบเท่าของไทยก็คงพอๆ กับหม่อมเจ้า น่ะ” แบล๊คพูด
“อาจจะจริง “ ผมพูด เพราะดูจากบุคลิกเขา มันก็ให้และสมบูรณ์เพียบพร้อมทุกประการ
ด้วยผมต้องการที่จะเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษ เพื่อเพิ่มทักษะการพูด การฟัง ช่วงหลังผมจึงไปหอเห็ดทุกเย็น การมาหอเห็ดเท่ากับว่ายิงนกนัดเดียวได้สองตัว คือได้จีบอ้อ ทั้งยังได้กินเหล้ากับชาวต่างชาติ และได้ฝึกการพูดการฟังภาษาอังกฤษ จากที่ผมไม่รู้เรื่องเลย ก็พอจะกล้าสื่อสารมากขึ้น. ส่วนไอ้แบล๊คสามารถพูดคุยสื่อสาร กับลุงเฮนรี่ ได้คล่องแคล่ว จนน่าอิจฉา
วันหนึ่ง..ที่ผมมาหาไอ้แบล๊ค แล้วไม่พบ ซึ่งเขาอาจแวะไปหาเพื่อนข้างนอก ลุงเฮนรี่ ซึ่งพักในห้องเยื้องๆ ห้องไอ้แบล๊ค เรียกผมไปนั่งดื่มเหล้าด้วย โดยปกติ ..ลุงเฮนรี่ เป็นคนง่ายๆ กินเหล้าได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเหล้าฝรั่งที่มีราคา เหล้าไทยอย่าง แสงโสม แม่โขง กวางทองตลอดจนเหล้าตรารวงข้าว และเชี่ยงชุน แกก็กินได้ ที่โต๊ะในห้องของแก มีขวดเหล้าเชี่ยงชุน ตั้งอยู่พร้อม มีข้าวเกรียบยี่ห้อหนึ่ง หลายๆครั้ง ที่ผมเคยไปนั่งดื่มเหล้ากับไอ้แบล๊คในห้องของคุณปีเตอร์ เขาจะนั่งดื่มอย่างสุภาพ ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นชายโฉด ผู้กระหายกามตัณหา
เมื่อคุณปีเตอร์ เรียกให้เข้าไปเพื่อน นั่งดื่มด้วย ผมเข้าไปนั่ง ดื่มและได้พูดคุยกับแก รู้บ้างไม่รู้บ้างที่ไม่รู้ ก็เปิดดิกชันนารีที่นำติดตัวไปด้วยเปิดดู แกพยายามสื่อสารให้ผมเข้าใจง่ายๆ ช้าๆ ..(ณ เวลานั้น ผมไม่ได้คิดว่ าจะพบกับอมนุษย์ จิตทราม ที่กำลังคิดวิปริต) ผมกำลังเพลินๆ.กับการจิบเหล้า และเปิดดิกชันนารี และพลันต้องเสียความรู้สึกและเกิดสัญชาติญาณการป้องกันตัว..โดยทันที เมื่อจู่ๆ ลุงเฮนรี่เดินไปปิดประตูห้องพักของแก
“ เฮ๊ย..มันเกิดอะไรขึ้น...วะ” ผมคิดในใจ และตกใจ
ลุงเฮนรี เอามือปิดกลอนแล้วล๊อคประตู.. แกเดินเข้ามาหาผม ดังกับผมเป็นเหยื่อ..ที่จะขบเขี้ยวง่ายๆแกพยายามจะเข้ามาโอบตัวผมแน่นอนแล้วว่า ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์ มันได้วางแผนหลอกเราให้ตายใจ โดยเอาเหล้ามาล่อผมและหวังจะมอมให้ผมมึนเมา วินาทีสำคัญที่ ผมจะต้องป้องกันภัยตัวเองแล้ว.. วิญญาณ นายขนมต้ม.. ได้เข้าสิงในตัวผมในบัดดล
“ ลุงเฮนรี่ ..อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามานะ “ ผมย้ำ ภาษาอังก่ง อังกิด ที่เคยพอพูดได้ .ลืมไปหมดสิ้น
แกพยายามจะเข้ามาใกล้ตัวผม
“ ถ้าลุงก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียว ผมต่อยนะ” ผมพูด ด้วยแกจะรู้ หรือไม่รู้ความหมายภาษาไทยหรือไม่ ผมไม่ทราบ จึงพูดทับศัพท์ เป็นภาษาอังกฤษ ไปว่า ยู เข้ามาอีกก้าว ไอ ไฟท์ ยู.ด้วย ยูรู้มั้ย .ไอ จะ คิ๊ก บ๊อกซิ่ง ยู “ ผมพูดไปเรื่อย ถูกหรือเปล่าผมไม่รู้..
แกหยุดชะงัก.ลง ผมพยายามเดินไป ที่ประตู เพื่อเปิดกลอน..มือหนึ่งผมเตรียม ที่จะออกอาวุธ หากแกเข้ามาประชิดตัว ตาผมจ้องแกดังพยัคฆาที่กำลังโกรธจัด แกเดินเข้ามาถึงตัวผมแล้ว..
“ โครม ..กำปั้นที่ผมปล่อย ใส่ไปที่ปลายคาง แกถึงกับทรุดตัวลงดังนกถลา ที่ถูกลูกศรจากคมธนูนายพราน .คุณเฮนรี่ เอามือจับที่ปลายคาง ผมเปิดประตูกลอนได้สำเร็จ... ไอ้แบล๊ค ขี่จักรยานเข้ามาถึง ห้องพักพอดี..
เสียงผมยืนด่า ตาลุงเฮนรี่ ภาษาไทยปนฝรั่ง
“ไอ้ลุงบ้า ตัณหากลับ ไอ้ฝรั่งเลว You ugly Egland มึงเห็นกูมีรสนิยม ชอบกินถั่วดำ อย่างนี้เหรอ. แกลุกขึ้นมานั่งบนเตียง
ผมเดินไปห้องไอ้แบล๊ค ไอ้แบล๊ค เข้ามาในห้องพักส่วนตัวแล้วถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“ มันชวนพี่ ไปนั่งกินเหล้า เราก็ไปนั่งกินด้วย .. กำลังกินเหล้าอยู่ดี ๆ มันก็ลุกขึ้นมาปิดห้อง และจะมาอัดถั่วดำพี่..ไอ้ห่า เอ๊ย..โดนน้อยไปนะไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์ ไม่คิดเลยว่า มันจะเลวได้ขนาดนี้...
ผมยังไม่หายโกรธดี ได้เดินกลับไปที่ห้องของเขาอีกครั้ง แล้วชี้หน้า ..”
"มึง...อย่าทำกับกูอย่างนี้อีกนะ..จะบอกให้”.. ผมใช้สรรพนาม ยุคสุโขทัย
ไอ้แบล๊ค ยืนยิ้มๆ ด้วยควาชอบใจ
“ไป พี่ขลุ่ย.มากินเหล้าที่ห้องผม ดีกว่า เรื่องมันแล้วไปแล้ว “ แบล๊ค ว่า
ผมเดินตามไอ้แบล๊คไปที่ห้อง..นั่งกินเหล้ากันต่อ.. อารมณ์ขุ่น.. ค่อยจางลงไปบ้าง
"วันนี้ พี่ขลุ่ยเกือบเสียพรหมจรรย์ให้ฝรั่งแล้ว “ ไอ้แบล๊ค พูดไป หัวเราะไป
ผมไม่ได้โกรธไอ้แบล๊คที่เขาล้อเลียน แต่ผมขำมันมากกว่า เพราะเสียง ไอ้แบล๊ค มันแหลมเล็ก แต่ตัวมันใหญ่.. ซึ่งมันไม่มีความสมดุลกัน
“ไอ้ห่า นี่ถ้าอ้อ รู้ว่าพี่จะถูกอัดถั่วดำนี่ เสียชื่อตายห่าเลย”..ผมพูด “
........................................................................................................
“บอกตรงๆ นะไอ้เฒ่านี่ เจ้าเล่ห์มา เห็นมันเงียบๆนี่ ไว้ใจไม่ได้เลยว่ะ. ว่าแต่เอ็ง ถูกมันอัดถั่วดำไปแล้วกี่รอบแล้ว “ ผมพูดล้อเล่นไอ้แบล๊คคืน บ้าง
“ ผมอยากให้มันอัด(ถั่วดำ) แต่มันเห็นหน้าผม มันคงไม่มีอารมณ์ มาอัด.ผม. มั๊ง พี่” แบล๊คพูด พลางหัวเราะชอบใจ
จากวันนั้น นานๆ ครั้ง ผมจึงไปหอเห็ดและหากมา ก็มาชั่วประเดี๋ยวประด๋าวก็กลับ สามเดือนให้หลัง ผมมาทราบข่าว จากไอ้แบล๊คว่า ลุงเฮนรี่ เสียชีวิตไปแล้วด้วย โรคตับแข็ง..
..อโหสิกรรม ให้ผมด้วยนะลุง เฮนรี่ ที่ผมสวมวิญาณนายขนมต้มกับลุง.. เป็นเพียง เพราะผมต้องป้องกัน และรักษาพรหมจรรย์ ของ ผมเท่านั้น...”
ขลุ่ย บ้านข่อย (๒๓ กรกฎาคม ๖๕ )
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย
ความคิดเห็น