ทะเลน้ำนม : realism, amazing, surface structure
ความทรงจำในการเปลี่ยนแปลงของสังคม
ผู้เข้าชมรวม
673
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ความใฝ่ฝัน ความงาม การเปลี่ยนแปลงท ความย้อนแย้ง อัตลักษณ์ ชาติพันธุ์ สัจนิยมมหัศจรรย สุนทรียภาพ ดินแดนฝั่งขวา คุณค่าแท้จริง การเมือง อำนาจ ลูก ภรรยา ความรัก
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ทะเลน้ำนม ภาคหนึ่ง เทือกเขาวงกตแห่งความคนิงฝัน
๑.
เช้าแรกจูมชวนนิภาจิบกาแฟคั่วหอมบดจากเมล็ดสดในถ้วยกระเบื้องสีส้มสลักลวดลายฝูงนาคเล่นน้ำ สายลมพวยพัดละอองเม็ดทรายจากแนวชายฝั่งแม่น้ำโชยมาเหมือนกลิ่นน้ำพุจากสรวงสวรรค์ของพระโพธิสัตว์ในพุทธศักราช ๒๔๐๘ สนามหญ้าสดสะพรั่งรอบบ้านพักได้เปล่งพุทธานุภาพรูปร่างเหมือนดอกบัวในทะเลสาบผิวน้ำสีดอกมะลิออกมาปลุกเร้าความจำเกี่ยวกับความสงสัยของเขาให้ตื่นขึ้นมาสามอย่าง
หนึ่ง-น้ำพุตั้งอยู่ส่วนใดของภูเขาพุ่งชันและลดหลั่นราวคลื่นสมองมนุษย์ปักกิ่ง
สอง-บรรพบุรุษของท้าวฮุ่งกับนางง้อมม่วนได้ร่วมพิธีตำน้ำดึกดำบรรพ์หรือไม่
สาม-ย่าระเมียรบอกให้เขามองกลับไปดูประวัติศาสตร์แบบยอกย้อนเพื่อประโยชน์อันใด?
น้ำพุมีอยู่สองแบบ จูมรู้ว่าแบบแรกอยู่บนเปลือกดาวเคราะห์โลกจำนวนหนึ่งล้านหกหมื่นแห่ง อีกแบบหนึ่งอยู่ในจอคอมพิวเตอร์พุ่งตัวมาตามสายเคเบิ้ลใยแก้ว น้ำพุแบบแรกพุ่งตรงขึ้นไปในอากาศแล้วหักโค้งลงมาเหมือนแสดงความเคารพพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สิงสถิตอยู่ทุกแห่งหน บางครั้งเหมือนแผ่เมตตาให้เครือญาติชาติพันธุ์ทั้งหลาย ผู้มีดวงจิตชีวิตแหวกว่ายดั่งวงล้อเกวียนอยู่ในประเทศบนเปลือกดาวเคราะห์โลก ซึ่งหมุนลอยล่องอยู่ในห้วงมหาทะเลสีขาว ส่วนน้ำพุแบบหนึ่งบีบรัดตัวเองอยู่ในพื้นที่จำกัดขนาดศูนย์จุดศูนย์มิลลิเมตรที่มองไม่เห็นโลกข้างนอก
น้ำพุนี้เปล่งประกายเหมือนเกล็ดปลาขาวสร้อยนับพันตัวที่ผู้หญิงชาวนาวัยเก้าสิบหกขอดเกล็ดแล้วเทลงในไหปลาร้าเมื่อฤดูน้ำล้นรินผ่านป่าข้าวในต้นทศวรรษ ๒๔๓๓
ในวันหยุด จูมเพ่งมองหารูปเงาสดใสสวยงามของประวัติศาสตร์ที่ย่าระเมียรบอกไว้ แน่นอน เขารู้ว่ามันเป็นประวัติศาสตร์แบบยอกย้อนซ่อนเงื่อนโดยผู้นำการปกครองสั่งการให้เขียนขึ้นมา ความรู้สึกเยี่ยงนี้ปลุกเร้าสำนึกความเป็นเครือญาติชาติพันธุ์ของเขาให้ปะทุหลั่งล้นออกมา คล้ายเสียงย่าดังขึ้น “ประวัติศาสตร์เป็นเพียงเรื่องรัฐชาตินิยมของผู้จงใจเลือกใช้คำโดยปราศจากความจริงทางจิตวิญญาณและการขาดความเข้าใจความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง บางครั้งประวัติศาสตร์มีคุณค่าเข้มข้นเพราะหยาดเหงื่อและน้ำตา
แต่ประวัติศาสตร์ที่เราอ้าปากท่องจำงึมงำกันอยู่ในจัตุรัสแห่งเสียงท่องจำไม่รู้จบ เป็นการครอบงำมนุษย์ไม่ให้รู้สึกถึงการมีความเท่าเทียมกันในฐานะทางสังคมวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมือง ทั้งการกระทำอย่างชัดแจ้งและซ่อนเร้น แน่ล่ะ การแสดงความเมตตาบนพื้นฐานของการทำประวัติศาสตร์ให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องของชีวิตและชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่เวลาเก่าแก่ของประวัติศาสตร์ที่มีความทัดเทียมกัน เป็นความยอกย้อนของการกำหนดนิยามประวัติศาสตร์บิดเบือนแสแสร้งอย่างฝังรากลึกและเอาเป็นเอาตาย
แกรู้ไหมเล่า ผลร้ายของมายาคติในประวัติศาสตร์แบบยอกย้อนคือ การเกิดสำนึกไม่ไว้วางใจกันและกัน การสร้างความชอบธรรมขึ้นมาเพื่อกลบฝังความไม่จริงใจต่อกันระหว่างผู้นำทางการปกครองกับประชาชนผู้ถูกปกครอง โดยอาศัยมายาคติเทวราชาจากมหากาพย์ศักดิ์สิทธิ์มาแต่งเป็นถ้อยคำโองการแช่งน้ำผ่านลำคอของนักบวชพราหมณ์ฮินดูและคำแซ่ซ้องสรรเสริญยกตัวเองให้อยู่เหนือสรรพสิ่งทั้งปวง กดหัวประชาชนผู้บริสุทธิ์เพื่อรักษาอำนาจ เก็บเกี่ยวผลประโยชน์และความมั่งคั่งจากการถือครองที่ดินจำนวนหลายหมื่นไร่ การสัมปทานแร่ ป่าไม้และทำแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวตะวันตกผู้หลั่งไหลเข้ามาในแผ่นดินทุกวินาที ถ้าใครขัดขืนด้วยการอ้างเหตุผลเสรีภาพในความเป็นมนุษย์และยกอ้างความมีตัวตนของประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์จะถูกกำจัดให้สิ้น
ด้วยเหตุดังกล่าว ปัญญาชนและนักการเมืองจึงถูกสังหารเหมือนสัตว์ข้างถนน ข้ออ้างการมีประวัติศาสตร์แบบยอกย้อนเพื่อความสามัคคีและความมั่นคงของรัฐชาติจึงเป็นแค่เปลือกนอกห่อหุ้มตัวหนอนและอาจมอุจาดตาเอาไว้ โอ้ ผีแถน บัดนี้ฝูงหนอนมุดเนื้ออาจมนั้นเป็นเพียงการเริ่มปะทุเชื้อธรรมดาก่อนจะพุ่งกราวไปยังจุดดับสลายตามหลักพุทธไตรลักษณ์ เพราะไม่มีสิ่งใดเป็นอมตะ แม้ในอนาคตอันใกล้ ความรู้สึกเลวร้ายระหว่างเครือญาติและชาติพันธุ์ในประวัติศาสตร์รัฐชาติสมัยใหม่จะเปลี่ยนไป ไม่มีสำนึกเหยียดหยาม ทำให้เครือญาติพี่น้องบรรลุการเข้าถึงอิสรภาพของความจริงทางจิตวิญญาณร่วมกันสูงสุด แต่ประวัติศาสตร์แบบยอกย้อนสร้างขึ้นมาโดยไม่คำนึงถึงอิสรภาพและคุณค่ามนุษย์จากครั้งก่อน จะยังหลอกหลอนกัดทึ้งเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของผู้นำการปกครองที่ว่ายวนอยู่ในห้วงน้ำทะเลสีขาว จนกว่าพิธีตำน้ำดึกดำบรรพ์จะเกิดขึ้นอีกในค่ำคืนแสงจันทราส่องตรงลงมาเหมือนรังสีจากกลุ่มดาวสายฝน”
จากคำพูดย่าระเมียร "ประวัติศาสตร์แบบยอกย้อนได้รับการสร้างขึ้นมาเพื่อครอบงำ ยึดครองพื้นที่และเวลา ขับเคลื่อนความว่างเปล่าผ่านไปอย่างไร้ขอบเขต" ทำให้จูมเชื่อว่า เขาเป็นเครือญาติชาติพันธุ์เดียวกันกับผู้ออกแรงแท้จริงในพิธีตำน้ำดึกดำบรรพ์มาตั้งแต่ครั้งนั้น แต่เขาไม่ใช่เชื้อสายของผู้สถาปนาความชอบธรรมให้ตัวเองเพื่อเอารัดเอาเปรียบมนุษย์ด้วยกัน แน่ล่ะ เขายังเชื่อว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่สิงสถิตนิ่งงันอยู่ในแผ่นศิลาระเบียงนครวัดคือบรรพบุรุษย่าระเมียร โดยเฉพาะนางอัปสรทั้งหนึ่งพันเจ็ดร้อยนางย่อมสละหยาดเหงื่อและน้ำนมให้เป็นสายยาวไกลมาถึงลูกหลาน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เขาคือสิ่งมีชีวิตลำดับที่หนึ่งล้านล้านที่อุบัติหน่อเนื้อขึ้นมาจากพระเมตตาของพระผู้มีพระภาคเจ้าหลังจากทำพิธีตำน้ำดึกดำบรรพ์ครั้งแรก ใช่หรือไม่?
ความสงสัยผุดขึ้นมาในใจจูมเหมือนน้ำพุ ย่าระเมียรกับเขามีเชื้อสายมาจากฝ่ายเทพหรืออสูรกันแน่ หรือเป็นส่วนผสมระหว่างยีนของนาคกับม้าและปลาขนาดใหญ่ หรือมาจากผลพวงในวิวัฒนาการชั้นสูงของพันธุ์พืชชนิดใดชนิดหนึ่งจากระบบนิเวศของกระแสลมพายุเหนือแผ่นพื้นผิวทะเลน้ำนม
“ถ้าไม่ใช่ดอกไม้ทะเลแล้วเป็นอะไรฤา?” จูมพึมพำ
“จากลิงไม่มีหางหรือเปล่าคะ” นิภาถาม
“ผมว่าพิธีตำทะเลน้ำนมกำลังเกิดขึ้น!” จูมคาดคะเน
“จริงหรือคะ?” นิภาถามด้วยสีหน้าฉงน
“กลิ่นเหมือนเด็กทารก” จูมทำจมูกย่น “บางคืนผมได้ยินเสียงพวกอสูรกับเทวดายกภูเขามันทระมาปักลงใจกลางทะเลน้ำนม”
“เป็นไปได้จริงหรือค่ะ?” เธอแสดงสีหน้างุนงงมากขึ้น
“โอ้ นาคใหญ่กำลังรัดเกี้ยวภูเขา” จูมร้องตื่นเต้น
“คุณคิดเรื่องโบราณมากเกินไปไหม?”
“บรรพบุรุษเราอยู่ในพิธีตำน้ำดึกดำบรรพ์หรือเปล่า?”
“มันเป็นอานิสงส์หรือบาปที่ไม่มีวันชำระล้างหรือคะ”
“อสูรกับเทวดาทำงานร่วมกันนับพันปี”
“บางทีเสียงน้ำพุที่คุณได้ยินอาจมาจากพิธีนี้ก็ได้”
“คุณสนใจพิธีนี้ด้วยฤา?” จูมถาม ยิ้มสบตาเธออย่างสำรวจ
“เปล่าค่ะ ฉันอยากรู้ว่าน้ำอมฤตยังเหลืออยู่กี่หยด?”
“คุณอยากเป็นอมตะ” จูมถามอย่างตลก
“ถ้าน้ำอมฤตทำให้คนไม่มีวันตาย เราควรทำพิธีอีก”
“ผมว่าแค่ว่ายออกจากทะเลน้ำนมให้ได้ก็พอแล้ว”
“คุณหมายถึงการหลุดพ้น!”
“คุณคิดว่าจริงหรือเปล่า?” จูมถาม
“มันคงเป็นเรื่องใหญ่โตมาก”
“น้ำพุน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง”
เธอนั่งลงบนม้าไม้ วางหนังสือพิมพ์และถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ
“อากาศดีจังเลยนะคะ” เธอเปลี่ยนเรื่อง เสียงเสนาะใสเหมือนแสงแดดยามเช้าที่ส่องมาเป็นแนวกว้าง
“เมื่อเช้าผมว่าจะปลุกคุณ” จูมพูด “หมอกดูสวย”
ผลงานอื่นๆ ของ chattanapong ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ chattanapong
ความคิดเห็น