ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction : Our Lyrics {Kamikaze Fiction}

    ลำดับตอนที่ #3 : Our Lyrics : Chapter 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.41K
      7
      7 มิ.ย. 55

    Chapter 2

    อย่าเครียดสิ เดี๋ยวฟางเล่าเรื่องฟางให้ฟัง แก้วจะได้แต่งออกอ่อ. .งั้นก็คงเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องนั่งฟังและจับประเด็นสินะ มองใบหน้าหวานที่เริ่มเล่าอย่างเก้อเขิน มันเป็นเรื่องความรักของฟางวัยเรียนที่แอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งที่มีแฟนแล้ว เคยทำอะไรไปให้ตั้งหลายอย่างแต่เขาก็ยังคงไม่สนใจ ด้วยความน้อยใจฟางจึงเลิกสนใจเขาไปในที่สุด. .รู้สึกเพลินๆเวลาที่ฟางพูดว่าเธอทำอะไรให้รุ่นพี่คนนั้นบ้าง บางทีก็หลุดขำกับความน่ารักของคนตรงหน้า และโดนมือเล็กฟาดใส่แขนเขาเพราะเสียงหัวเราะเยาะ แต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อคนร่างบางนิ่งและเริ่มเล่าในตอนที่มันไม่น่ายิ้มนัก ในขณะที่ฟางกำลังขำกับฉากที่ฟางนำของของเธอไปวางบนโต๊ะรุ่นพี่แต่แฟนรุ่นพี่กลับเอามันไปซ่อนไว้ที่อื่น ของที่มันส่งไม่ถึง เธอกลับยิ้มไม่ออกแม้แต่นิด

    แย่เนอะโพล่งออกมาเบาๆก่อนจะยิ้มแหยะๆ

    ทำไงได้ ก็เขามีเจ้าของหัวเราะพลางมองอีกคนที่ไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่

    เป็นอะไร เรื่องมันนานมากแล้ว ขำๆหน่า ก็เอาไปแต่งเพลงให้ได้ละกันดันหัวอีกคนให้ยิ้มออกมาจนได้ก่อนจะหันไปสนใจขนมบนโต๊ะ หยิบขนมปังกรอบในซองพลาสติกใสก่อนจะกัดมันอย่างเอร็ดอร่อย มองอีกคนที่หยิบสมุดโน๊ตขึ้นมาร่างตัวหนังสือหยุกหยิก ชะเง้อไปดูอีกคนที่กำลังง่วนกับสิ่งตรงหน้าก็ยื่นขนมปังในมือชิ้นใหม่ให้เขา คนร่างสูงส่ายหน้าก่อนจะก้มลงเขียนต่อเหมือนเคย และเธอก็ตัดสินใจแกล้งด้วยกันยื่นใส่ปากเขาจนมันแตะริมฝีปากอิ่มจนเขาต้องยอมคาบมัน ทิ้งให้เธอดูเขาทำหน้าบู้ๆและคาบขนมปังไว้อย่างนั้น ยอมละมือข้างหนึ่งมาจับขนมก่อนจะกัดคำนึงและรีบกินเข้าไปให้หมดเพื่อที่จะได้เริ่มทำงาน นึกขำๆอยู่บ้างที่ฟางพยายามจะแกล้งเขา

    โซฟาเด้งตัวขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับแผ่นหลังเล็กของอีกคนที่หายไปยังห้องดนตรี เห็นร่างชายหนุ่มอยู่ข้างในนั้นจึงก้มลงตั้งใจเขียนเนื้อเพลงต่อ. .ความถนัดส่วนตัวและความชอบทำให้เขาแต่งท่อนคอรัสเสร็จก่อนเสมอ . .นิ้วยาวเริ่มควงปากกาเป็นวงกลมก่อนจะเคาะกับที่วางแขนโซฟาเป็นจังหวะ. .นึกไม่ออก

    พลันมองประตูห้องดนตรีที่มีเสียงเปียโนเล็ดลอดออกมาพร้อมกับเสียงหวานของหญิงสาว คาดว่าพี่เอคงกำลังเล่นเปียโนและฟางกำลังร้องเพลงสินะ. .จะว่าไปยังไม่เคยเห็นฟางร้องเพลงสดๆซักครั้งนึง ตัดสินใจวางสมุดเล่มเล็กไว้กับโซฟาก่อนจะยันกายลุกขึ้นมุ่งหน้าไปยังห้องประตูไม้สีดำ. .ดันประตูที่แง้มไว้พอประมาณให้เปิดออก เผยให้เห็นคนร่างบางที่กำลังบรรเลงนิ้วเรียวลงบนเปียโนพลางขับร้องเพลงที่ไม่ใช่ของเพลงของตนเอง. .เล่นเปียโนได้ด้วยแหะคนนี้ มองพี่เอที่กำลังนั่งบริเวณมุมห้องจิบกาแฟและอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์

    และเสียงเปียโนก็หยุดลงและจบด้วยเสียงปรบมือของเธอที่ทำให้ฟางหันมายิ้มกับเขาและเสียงพี่เอที่เอ่ยถามว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก่อนจะตอบออกไปว่าเข้ามาได้ซักพัก หันไปมองฟางที่เลื่อนตัวไปนั่งริมเก้าอี้และกวักมือเรียกเขาให้มาเล่นด้วยกัน. .ทั้งที่ความจริงคิดไว้แล้วว่าเพียงแค่จะแวบมาดูและกลับเขียนเพลงต่อ แต่ขาวยาวกลับพาเขาไปยังเปียโนหลังใหญ่และนั่งลงข้างฟางบนเก้าอี้ที่ไม่ยาวเท่าไหร่นักและมันทำให้แก้วต้องเขยิบชิดฟางมากขึ้น

    ฟางเล่นเปียโนเก่งนะ เขาว่าก่อนจะเปิดกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวโน๊ตไปมาพลางหาเพลงที่เขาชอบ

    เรียนแต่เด็กๆน่ะ แก้วเล่นให้ฟังมั่งสิหยุดลงที่หน้าของเพลงโปรดก่อนจะวางนิ้วทั้งสิบลงบนแท่งสีขาวช้าๆและเริ่มบรรเลง เลื่อนสายตามองตัวโน๊ตเป็นระยะ บางทีก็เล่นบ่อยจนเธอจำได้ เหลือบมองพร้อมรอยยิ้มเมื่อคนตัวเล็กเปร่งเสียงร้องออกมาพร้อมกับจังหวะที่เริ่มเล่นเข้าท่อนเนื้อเพลง

     

    หากคืนนี้มีดาวอยู่ล้านดวง ฉันขอได้ไหมสักดวงหนึ่งช่วยฟังฉันที
    เพราะว่าคืนนี้ฉันมีเรื่องร้อนใจ อยากอธิฐานและขอดวงดาวให้ช่วยฉันสักที

    เนื่องจากตอนนี้ฉันรู้สึกจิตใจมันอ่อนไหว อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไงจากคำพูดวันนี้

    เพราะฉันเพิ่งบอกรักไป และเขาก็รับฟังทุกอย่างทุกถ้อยคำ เหมือนความฝัน
    แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ ว่าพรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุขหรือแสนเศร้า
    จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอกที

     

    ไล่โน๊ตให้สูงขึ้นก่อนจะจบแค่เพียงครึ่งเพลงเท่านั้น. .ยิ้มกว้างเมื่อเสียงอีกคนกำลังตราตรึงอยู่ในหัวสมองของตน เพลงนั่น. .กับเสียงคนตัวเล็กข้างๆเขาสร้างความประทับใจไม่น้อย

    เห้ย พี่ยังอยู่ในห้องนะ อย่ามาเล่นดนตรีจีบกันแถวนี้อีกคนแซวก่อนจะลุกออกไปจากห้อง แยกเขี้ยวใส่อีกคนที่ปิดประตูหนีไปเสียก่อน หันไปมองฟางที่หัวเราะคิกคักเช่นกัน และเขาก็ได้แค่ละมือจากเปียโนและยิ้มเก้อเขิน

    เขินเหรอประโยคคำถามสั้นๆที่ทำให้เธอต้องหันกลับไปมองเจ้าของเสียงที่ส่งยิ้มให้เขา และก็ต้องส่ายหน้าตีหน้านิ่งและหันกลับไปมองเปียโน ..ทำไรไม่ถูกเลย

    . .ทำไมชอบรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่โดนแกล้งอยู่เรื่อย

     

    ชอบแกล้งจริง ทั้งพี่เอทั้งฟางเลยทำหน้าบูดก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปยังประตู ไม่ลืมที่เปิดรอให้ฟางได้ออกมาก่อนและเป็นเขาที่ออกคนสุดท้ายตามมารยาท. .แบบสุภาพบุรุษ?

     

    ฟางกลับแล้วนะคะพี่เอ พรุ่งนี้มีฟิตติ้ง อาจจะเจอกันที่บริษัทนะอ้าว. .ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ แต่แอบเหวอเล็กๆที่คนร่างบางพูดอย่างนั้น แต่ก็คงได้เวลา เพราะฟางอยู่ที่นี่มาครึ่งวัน และนี่ก็กำลังจะหกโมง มองอีกคนที่เดินไปหยิบกระเป๋าที่โซฟาและปล่อยให้ของกินที่เหลือตกเป็นของเจ้าของบ้านไปเสีย

    เจอกัน พรุ่งนี้พี่ก็เข้า พี่เอยิ้มหวานระหว่างที่กำลังเปิดสมุดโน๊ตของเธออ่าน โดยไม่ขอซักนิด เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วล่ะ ไม่รู้ยังเห็นเป็นน้องสาวหรือน้องชายกันแน่ คงกำลังดูเพลงที่เธอเพิ่งเขียนล่ะมั้ง

    เอ๊า เก็บของสิพี่เอเงยหน้าจากสมุดก่อนจะสั่งเธอและปิดสมุดดังปัง หนำซ้ำยังโยนมันให้อีกด้วย

    วันนี้ฟางนั่งแท็กซี่มา ใช่มั้ยเรา หันมายักคิ้วกับคนร่างสูงก่อนจะมองฟางที่พยักหน้าและอมยิ้มเล็กๆ

     

    พี่เอ! ถ้านี่กำลังหมายความว่าพี่เอพยายามเปิดทางให้ล่ะก็. .จะบ้าเหรอ ไม่ได้ชอบฟาง! ยังไม่ได้ทำอะไรเลย!

     

    ใบหน้าหล่อคมคงเหลือแค่เพียงหน้าเหวอที่ทำอะไรไม่ถูกนอกจากมองฟางที่ดูเหมือนจะรอให้เขาพูดอะไรบางอย่าง. . “เอ่อ. .งั้นฟางไปก่อนนะคะยิ้มหวานและเป็นฝ่ายโบกมือให้เขาก่อนจะเดินจากไป

    ไอบ้า ไปส่งฟางสิพี่ชายเดินมาตบศรีษะระหว่างที่คนร่างโปร่งกำลังหยิบของใส่กระเป๋าเป้และหยิบเฮดโฟนมาคล้องคอ และมันทำให้เธอต้องเถียงกลับไปเพราะมันไม่ใช่อย่างนั้น พี่เอ แก้วไม่ได้. .”

    เออ ไปส่งเถอะน่า!” โดนไล่แถมยังดันแผ่นหลังให้รีบตามคนร่างบางออกไป รีบสาวเท้าไปยังหน้าบ้านก่อนจะเรียกฟางให้หันมาสบตากับเขา

                    เอ่อ. .

    กลับด้วยกันมั้ย แก้วไปส่งยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเก้ๆกังๆ ก่อนจะยัดมือกร้านใส่กระเป๋ากางเกงเสีย อีกคนพยักหน้าเล็กก่อนจะปล่อยให้เขาเดินนำเธอไปยังรถ.. โดยไม่ลืมที่จะเปิดประตูให้ก่อนจะอ้อมไปยังด้านคนขับ

     

    ฟ้าที่เริ่มมืดครึ้มกับถนนที่แสงไฟสีแดงจากรถมากมายเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนใบหน้าของทั้งสองร่างกลายเป็นสีแดงอ่อนๆ ขยับนิ้วตามจังหวะเสียงเพลงในรถเบาๆ..รถติดจัง

    แก้วเล่าให้ฟังมั่งสิ เสียงหวานเอ่ยขณะเขาประคองพวงมาลัยและชะลอตัวรถลง. .ไฟแดงอีกแล้ว

    เรื่องของแก้วน่ะคำถามที่ทำให้เขาเอียงคอเล็กๆและทำเสียงในลำคอเป็นเชิงไม่เข้าใจ

    ก็วันนี้ฟางเล่าให้ฟังตั้งเยอะ เบื่อรถติดด้วยแล้วฟางก็ยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปลดเสียงเพลงให้เบาลงเพื่อเตรียมฟัง. .เล่นอย่างงี้เลยเหรอ นึกเรื่องที่จะพูดแล้วล่ะก็. .ยังไงดีล่ะ ความรักเหรอ

    ไม่รู้จะเริ่มยังไงอ่ะ ก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่หัวเราะเบาๆก่อนจะมองคนร่างบางที่หยิบแบล็คเบอรี่หลากสีขึ้นมาตอบข้อความ

    งั้นฟางถาม แก้วตอบนะอีกคนไม่ได้เงยหน้าแต่ยังคงพูดต่อไป จึงละสายตามาสนใจถนนเสียจะดีกว่า

    ตอนม.ต้นเคยมีแฟนมั้ยคำถามที่ทำให้แก้วนิ่งไปพักหนึ่งด้วยความที่งงจุดเริ่มต้นของคำถาม มัธยมต้นเนี่ยนะที่เธอเลือกถาม ก็นึกว่าจะถามอะไรที่มัน . .เจาะจงอีกแบบ

    ก็เคยน้ำเสียงนิ่งๆทำให้เธอต้องละสายตาจากโทรศัพท์และมองเขาที่ยังคงเพ่งไปยังไฟแดงเหนือรถและเวลาที่กำลังนับถอยหลังจากเลขหลักร้อย

    .ปลาย

    ก็มี

    มหาลัย

    ก็มี

    ตอนนี้ล่ะ

    โสดสนิท

    อ้าวชะงักเมื่ออีกคนตอบและก็ได้แต่จ้องหน้าเขาที่หันมาหัวเราะหน้าของเธอที่ตกใจเล็กๆ

    คนเดียวกันตั้งแต่. .?” นึกสงสัยถึงได้ถามไปอย่างนั้น

    อื้ม คนเดียวกันคงจะโรแมนติกมากถ้าตอนนี้เขากับ..อืม แฟนเก่ายังคบกันอยู่ คิดเล่นๆกับตัวเอง. .ทำไมตัวเองไม่เห็นมีแฟนคบกันนานอย่างนี้มั่งนะ

    ขอโทษนะ ฟาง. .” รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อตัวเองตั้งคำถามล้ำเส้นเขามากไป นี่อาจจะทำแก้วเสียใจก็ได้

    เห้ยไม่เป็นไร เฉยๆน่ะรอยยิ้มบนใบหน้าทำให้ชื้นใจแต่ก็ไม่เท่าไหร่นัก เงียบจะดีกว่า. .พูดเยอะไปแล้วเรา

     

    ปล่อยให้ความเงียบได้โรยตัวลงมาปกคลุม. .รถสีดำวาวเคลื่อนตัวไปข้างหน้าและมุ่งสู่ทิศทางบ้านเธอ หันไปตอบอีกคนเป็นระยะที่ถามว่าบ้านเธอไปทางไหนบ้าง..พบว่าไม่ต่างกับทางบ้านเขาเท่าไหร่ ดีนะ คนขี้เกียจขับรถอย่างเธอจะได้มีโชเฟอร์ติดรถไปด้วย ถ้าเขาไม่รังเกียจและเห็นว่าเธอเป็นภาระเสียก่อน

     

    และจู่ๆเขาก็โพล่งขึ้นมา. .จนเธอต้องหันไปมองเขากับสายตาเลื่อนลอยนั่น..

     

    เลิกกันเพราะเขาต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ วันที่เขากำลังจะกลับไทยหิมะตกหนัก เครื่องเลยดีเลย์ เขาอยากกลับไทยมากก็เลยเปลี่ยนเครื่องที่จะออกจากที่นั่นเร็วที่สุด . .แล้ววันนั้น เครื่องบินเกิดขัดข้อง เครื่องยนต์เย็นเกินไป . .มันก็เลยตก. .”

     

     

    กลายเป็นเธอที่น้ำตาคลอตากลมโต. .ใบหน้านิ่งเฉยแบบนั้นตลอดเวลา มันเป็นเพราะแบบนี้ อย่างนั้นใช่มั้ยแก้ว? ทิ้งให้มันอยู่ในความเงียบพักหนึ่ง อื้อไปหมด. .นี่เธอทำอะไร ไม่น่าถามออกไป เสียมารยาทที่สุด เสียมารยาทมาก แก้วจะเสียใจแค่ไหน เรื่องเเบบนี้แค่นี้ก็แย่พอมากแล้ว ไปย้ำเขาทำไมกัน! เขาจะได้เกลียดเราพอดี . .แล้วฉันต้องพูดยังไงต่อล่ะ

     

     

    ฟาง. .” น้ำเสียงเย็นชาเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างเชื่องช้าพลันมองอีกคนที่ก้มใบหน้าหวานลงต่ำไม่เหมือนเคย อ้าปากค้างเมื่อจะถามทางต่อไปแต่กลับ. .

    ฟางขอโทษนะแก้วตะโกนออกไปพร้อมกับสีหน้าจริงจัง และมันก็ทำให้คนร่างสูงตกใจไม่น้อย

    เห้ย ร้องไห้ทำไม มือกร้านหักพวงมาลัยเข้าข้างทางก่อนจะจอดและดูอาการอีกคนที่ตาแดงกล่ำ ปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะหันกายไปยังด้านคนร่างเล็กที่มีน้ำใสๆร่วงหล่นลงมา

    ไอบ้าที่ไหนมาส่งคนอื่นกลับบ้านแล้วทำเขาร้องไห้วะ! ไอบ้าที่ไหนทำนักร้องร้องไห้กัน!

    ฟางเสียใจด้วยจริงๆนะ มือเล็กคว้ามือของคนร่างสูงไปกุมไว้และนั่นทำให้เขาตกเป็นฝ่ายงุนงงและตกใจ. .สงสัยว่า เอ่อ . .ก้มลงมองมือนุ่มนั่นก่อนจะยิ้มแห้งๆและค่อยๆดึงมันกลับไปคืนที่เดิม นี่ฟางเป็นห่วงหรือฟางกำลังเสียใจตาม?

     

    . .คือว่า

     

    คือฟาง แก้วจะบอกว่า แก้วล้อเล่น

     

     

    เพี๊ยะ!

    รู้ตัวอีกทีใบหน้าคมก็เสไปทางขวา ความรู้สึกชาแล่นเข้ามาที่แก้มซ้ายก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บ

    เรื่องแบบนี้ใครเขาล้อเล่นกัน!” สีหน้าฟางบ่งบอกถึงควันที่เริ่มออกหู เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาจ้องตาเขาเขม็ง ใบหน้าของแก้วเริ่มซีดเซียว สายตาไม่กล้าสู้อีกต่อไป ก้มลงต่ำและเอ่ยขอโทษออกมาเบาๆ ไม่พูดอะไรนอกจากเลื่อนมือกร้านไปยังเกียร์ออโต้และเลื่อนเพื่อขับไปส่งฟางที่บ้านเสียที

    อ่า ฟาง ขอโทษอีกครั้งที่ขอโทษขอโพยพร้อมนำเสียงงอแงและมองอีกคนที่เบือนหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถนั่น มันมีน่าสนใจกว่าคนที่กำลังขอโทษหรือไงกัน. .ก็บอกว่าขอโทษ ผิดไปแล้วไง

    ต้องทำยังไง ต้องอธิบายเรื่องจริงใช่มั้ย?

    ฟาง คือความจริงแก้วเลิกกับเขาเพราะเขาต้องไปเรียนต่างประเทศ มันก็แค่นั้นน่ะ แก้วขอโทษ ก็แค่ล้อเล่. .”

    แล้วฟางตลกกับแก้วมั้ยดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวทำให้เขามองเธอและถนนสลับกันไปมา น่ากลัว. .น่ากลัวชะมัด ทำไมต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ด้วย. .รู้สึกแย่

    อึดอัดยิ่งอยู่ในรถแค่สองคน บ้านที่ไม่รู้จะถึงเมื่อไหร่ ต้องอยู่เงียบๆแบบนี้อีกนานมั้ย พูดอะไรออกไปเมื่อไหร่ฟางจะเลิกประชดกลับ. .คิดมาก

    แก้วขอโทษ จะเกลียดกันก็ได้ แต่รับคำขอโทษไปซักหน่อยไม่ได้หรอฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ รับคำขอโทษจากจริญญา เถอะนะ. .ได้โปรด จะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว. .นอกจากนักร้องที่ตัวเองต้องทำเพลงให้ยังเกลียด นี่เธอจะตกงานมั้ยเนี่ย!?

     

     

    ถ้าเลิกเป็นโปรดิวเซอร์ให้ฟาง ฟางจะรับขอโทษมั้ย ประโยคที่เปี่ยมด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและฟังดูหมดแรง ทำให้เธอเบิกตากว้าง. .ดวงตากลอกไปมาด้วยความกังวล นี่เธอกำลังโกรธจนโปรดิวเซอร์คนใหม่ของบริษัทจะลาออก นี่เธอนิสัยแย่ขนาดนั้น. .?

     

     

    ทิ้งให้เขาขมวดคิ้วอย่างนั้นอยู่ซักพักก่อนจะตัดสินใจ. .

     

    จู่ๆก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นที่มือ ทำให้เขาต้องเหลือบมองคนร่างบาง. .ได้ยินแต่เสียงหัวเราะคิกคักกับใบหน้าแจ่มใสของฟางยิ้มร่าให้ หน้าซีดเป็นไก่ต้มเลยนะ โดนเอาคืนมั่งเป็นไงและในที่สุดเธอก็เก็บเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว ปล่อยให้เขาอ้าปากค้างและไม่นานนักก็อมยิ้มออกมาเช่นกัน. .หายใจเข้าลึกๆก่อนจะพยายามหยุดหัวเราะ แต่เมื่อหันไปสบตาแก้วที่หน้ายังไม่หายซีดทีไรก็หลุดขำออกมาทุกที

    ตลกมากล่ะสิ

    ก็ขำอ่ะ

    ก็นึกว่าโกรธจริงๆนิเถียงกลับก่อนจะหันไปมองถนนกว้างก่อนที่รถเธอจะเสยคันข้างหน้าเข้าให้

    ทีแรกก็โกรธ แต่รู้ว่าแก้วอยากเล่นด้วย ใช่มั้ยล่ะยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

    มิน่าได้เป็นนางเอก น้ำเสียงนิ่งตอบกลับกับประโยคแรงๆนั่นทำให้เธออ้าปากค้าง

    นี่ น้อยๆหน่อยแทบจะหลุดมือไวของเธอเข้าไปทำร้ายเขาอีกแล้วและก็ต้องทำหน้าบู้เมื่อแก้วไม่ได้ตอบอะไรนอกจากตั้งใจขับรถและหัวเราะในลำคอเยาะเย้ยเธอ

    กัดเจ็บไม่ใช่ย่อย. .แปลกใจเล็กๆที่เธอกับเขาจะเล่นกันแรงแบบนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงอาทิตย์ แถมยังไม่รู้สึกรำคาญและคิดว่ามันเสียมารยาท. .สำหรับเธอมันคงเป็นเรื่องปกติเพราะเธอเป็นคนคุยง่าย แต่อย่างแก้วน่ะสิ. .นิ่งๆเงียบๆแบบนี้ ถ้าเขาเกิดประทุอารมณ์ขึ้นมาเขาจะขับรถพุ่งชนรถเสาไฟข้างหน้าเลยรึเปล่า

    คิดเงียบๆพลางมองอีกคนที่นิ่งเงียบไปแล้วเช่นกัน ดูเหมือนจะอารมณ์ดีกับเพลงที่เปิดคลอระหว่างรถกำลังขับเคลื่อนไปบนท้องถนน

     

     

    ใบหน้าขาวสะดุ้งเล็กๆก่อนจะหันไปตามข้างที่สัมผัสอุ่นๆแตะเข้าที่แก้มซ้ายของเขา

    เจ็บรึเปล่า. .ขอโทษนะ มือไปไวทุกทีเลยมองใบหน้าหวานที่บ่งบอกถึงคำขอโทษเต็มไปหมด และก็เป็นคนร่างสูงที่จับมือฟางกลับไปที่ตักแล้วบ่นอุบว่ามันแสบมาในตอนนี้ ไม่อยากให้แตะมากเพราะมันเจ็บ และก็ได้นั่งพูดว่าไม่เป็นไรสลับกับฟางที่พูดคำว่าขอโทษจนกระทั่งเธอเลี้ยวเข้าหมู่บ้านหรูของฟางที่ไม่ไกลจากบ้านเธอเท่าไหร่..ที่น่าแปลกใจคือเธออยู่หมู่บ้านถัดไปเองด้วยซ้ำ

    ขับเข้าไปอีกหน่อยก็ถึงแล้วล่ะ” . .รับทราบครับคุณนายฟาง

    ไม่นานนักรถสีดำคันหรูก็ชะลอความเร็วลงที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ด้านในสุดของหมู่บ้านหรู ขับเข้าไปยังสวนหน้าบ้านผ่านทางรถและจอดลงที่หน้าคฤหาสน์นั่น

    ไว้วันหลังฟางจะชดใช้ให้นะคะร่างบางเอ่ยพลางปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวเธอและคว้ากระเป๋าไว้ในมือเล็ก

    ไม่ต้องหรอก นิดหน่อยเองยิ้มจางๆพลางมองอีกคนเอื้อมมือเรียวเปิดประตูรถและก้าวขาเรียวข้างหนึ่งออกไป..เธอชะงักและหันกลับไปหาเขา. .รู้สึกต้องพูดบางอย่างสินะ

    “’งั้น ขับรถกลับดีๆนะคะ ขอบคุณมากๆตามนั้นแหละที่ควรพูด ยิ้มสุดท้ายของวันก่อนจะปิดประตูรถและยืนส่งจนรถเขาลับตาไป

     

    . .ขอบคุณนะ ที่ทำให้ไม่รู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว




    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×