chansoo.[SF] TRUSTFULLY.{{END}} 100% - chansoo.[SF] TRUSTFULLY.{{END}} 100% นิยาย chansoo.[SF] TRUSTFULLY.{{END}} 100% : Dek-D.com - Writer

    chansoo.[SF] TRUSTFULLY.{{END}} 100%

    เพราะเขาคือเพื่อนสนิท(ใจ)ของผม ขอฉันยืนในหัวใจนายบ้างได้ไหม

    ผู้เข้าชมรวม

    2,348

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.34K

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    50
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 พ.ย. 58 / 12:22 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    เพราะ เขา คือเพื่อนสนิท (ใจ)
    ...ขอที่ยืนในหัวใจนายบ้างได้ไหม
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      TRUSTFULLY
      เพื่อนสนิทใจ
       
       
           
          .. ปาร์คชานยอลxโดคยองซู..
       
       
       

      Twitter : @chansoo1993.


      03.00 น.

       

       

       

       

       

      "เฮอะ !" เสียงสบถจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภาพลักษณ์ของวง ด้วยลุคของแรพเปอร์สุดเท่อย่าง ปาร์คชานยอล เขานั่งตรงนี้มานานแค่ไหน ทำไมนายยังไม่กลับมาอีกนะ ชายหนุ่มทำได้แค่พึมพำไปอย่างนั้น...ไม่ต้องเดาให้ยากหรอกครับ ว่าผมนั่งอยู่กับที่ 6 ชั่วโมง เพื่อรอใคร ก็เพื่อน. เพื่อนสนิทขอมผมนั่นแหล่ะครับ โดคยองซู

       

       

       

       

       

       

      ...หลายคนสงสัยใช่มั้ยครับ เราสองคนสนิทกันได้ยังไงนะ อา..ไม่ใช่สิ หมายถึงสนิทที่สุดน่ะ ถ้าบอกว่าผมสนิทกับแบคฮยอน เพื่อนตัวแสบ. หรือจะบอกว่าสนิทกับโอเซฮุน น้องชายหัวแก้วหัวแหวน ที่ผมชุบเลี้ยงมากับมือยังดูเป็นไปได้มากกว่า ผมก็ไม่รู้นะครับ ถึงแม้ว่า ...ผมจะไม่ใช่คนที่เค้าสนิทด้วยที่สุดก็ตามหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้ บ่งบอกว่าผมให้ความสำคัญ กับคยองซูมากแค่ไหน 'ถ้านายไม่รับรู้ว่าฉันคิดยังไง ก็บื้อเกินไปแล้วล่ะ เจ้าเตี้ย ..'

       

               

       

      -------------Trustfully---------------

       

       03.30 น. เสียงกดกริ่งดังขึ้นที่หน้าหอพักพร้อมๆกับเกมส์โทรศัพท์มือถือของแรพเปอร์หนุ่มเดินทางมาถึงด่านสุดท้ายและจบเกมส์ด้วยการ. แพ้ เช่นเคย อีกแล้วสินะชานยอล. นายเก่งอะไรกับเขาบ้างนะ. นอกจากเรื่องเรียกร้องความสนใจจาก. คยองซู ......

      "ทำอะไร"เสียงนุ่มหู สมกับตำแหน่งเมนโวคอลของวงดังขึ้น ถามคนตัวโตที่นั่งจ้องโทรศัพท์ อย่างหัวเสีย.

       "..เฮ้ออ " ชานยอลพ่นลมหายใจแทนคำตอบ. เพื่อนสนิทตัวเล็กของเขานี่ยังไงกันนะ ก็เห็นอยู่ว่านั่งรอ.เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เขานั่งรออย่างนี้เป็นประจำ หากวันไหนที่ว่างไม่มีงานหรืออีเวนท์.  มันน่านัก....

      "ก็รอนายไง"เจ้าโง่เอ้ย 'เจ้าโง่' ฮะๆ เขาไม่กล้าพูดไปหรอก ไม่อยากโดนกระทืบตอนตี 3 น่ะ

       

      "ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้ว ว่าไม่ต้องรอฉันกลับมา นายก็เห็นว่าว่าฉันกลับดึกแค่ไหน จะรอทำไม บอกไม่ฟังเลยนะ น่ารำคาญ". คนตัวเล็กบ่นออกมาเสียเต็มประดา ปากอิ่มขยับไปมา คิ้วเข้มขมวดแสดงอารมณ์ของผู้พูดได้ดี'จะรอทำไม

       

       ' น่ารำคาญ '  ผมเข้าใจนะว่าเจ้าเพื่อนตัวเล็กน่ะ นิสัยเป็นคนพูดตรงไปตรงมา แต่คำนี้มันไม่ทำร้ายจิตใจกันไปหน่อยหรอ คยองซู ...เพราะอะไรน่ะหรอ. เพราะ 'ฉันเป็นห่วง คิดถึง อยากเจอหน้า อยากได้ยินเสียงก่อนนอนไงล่ะ' เหตุผลแค่นี้น่ะพอไหม คนอย่างชานยอลก็ทำได้แค่ พูดในใจอยู่แบบนั้น .....  มีใครน่าสงสารเท่าผมไหมครับ ? ...

      เห็นคนตัวโตเงียบไปพร้อมส่งสายตาไม่พอใจมาให้ มีหรือคนตัวเล็กจะไม่รู้ว่าเพื่อนตัวโย่ง หูกาง หัวล้าน ของเขาเกิดอาการน้อยใจขึ้นอีกแล้ว.

       

      "อย่ามาทำหน้าแบบนั้นชานยอล. วันนี้ฉันเหนื่อย ฉันไม่อยากมาปวดหัวทะเลาะกับนายอีกนะ" คยองซูพูดพลางเดินผ่านหน้าเพื่อนตัวสูงเพื่อเข้าห้อง.

      "นายทำงานหนักไปหรือเปล่า คยองซู นายเปลี่ยนไปมากนะ" คนถูกทักหนยุดฝีเท้าลง .. เปลี่ยนไป ผมหมายถึงทั้งภายในและภายนอกนั่นแหล่ะครับ. ก็เมื่อก่อนเจ้าเตี้ยนี่ผิวขาว ตัวเล็ก จิ้มลิ้มจะตายไป แล้วดูตอนนี้สิครับ ผิวทั้งคล้ำ แถมล่ำขึ้น สายตาก็ดูเหนื่อยอ่อนทุกครั้งที่กลับหอ

       แถมดูหงุดหงิดง่ายไม่เหมือนเมื่อก่อน คยองซูใจเย็นกว่านี้ ถึงแม้ว่าหน้าสื่อเขาจะแสดงมันออกมาดูปกติดีก็ตาม

      "ฉันน่ะเหรอ เปลี่ยนไป"คนตัวเล็ก ส่งสายตาเชิงคำถามมาให้

       "ก็ใช่น่ะสิ. ""เวลาเจอกันก็น้อยลง บอกตรงๆ นะคยองซู ฉันไม่อยากให้นายแสดงละครแล้วล่ะ " คนตัวสูงตัดพ้อ ความน้อยเนื้อต่ำใจมันตีตื้นขึ้นมา ทำให้เขาเผลอพูดไปแบบนั้น

      "เวลาให้สัมภาษณ์นายดูมีความสุขมากเลยนะ ถ้าพูดถึงเรื่องการแสดง หรือเวลาที่นายอยู่ในกองละคร" ร่างสูงยังคงตัดพ้อต่อไปพลันนึกถึงภาพถ่าย นักแสดงหนุ่มไอดอลกับนักแสดงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่นั่งข้างกัน พร้อมกับปากที่กำลังยกยิ้มเป็นรูปหัวใจของทั้งสองคน หมั่นไส้ คนมันหวง..

      "ผิดกับเวลาที่สัมภาษณ์วงเลยนะ ถ้าฉันไม่เอาไมไปจ่อปาก มีหรือที่นายจะยอมพูด ทำไม มันไม่อยากพูดขนาดนั้นเลยหรอ "

      "......"

      "เวลาฉันติดต่อไป มีไหมที่นายจะติดต่อกลับมาบ้าง. คนทางนี้เขาเป็นยังไง เขาอยู่กันยังไง (เขาคิดถึงนายแค่ไหน) นายสนใจบ้างไหม " ทำไมต้องทำเหมือนฉันต้องวิ่งตามนายอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ ไม่พอใจแค่ไหนทำได้แค่เก็บมันเอาไว้ ฉันมันก็แค่ไอ้ชาลยอลคนโง่

       ให้เป็นแบบนี้.. มันเหนื่อยนะ คยองซู

       "......." "ฉันขอถามนายอย่างนะ คยองซู อยู่ตรงนี้ยังมีความสุขดีรึเปล่า ที่ตรงนี้มันไม่น่าอยู่แล้วใช่ไหมรู้ตัวไหมว่านายไม่ยิ้มให้ฉันมานานแค่ไหนแล้ว ตอนนี้นายคงไม่คิดจะไปอยู่ที่ใหม่หรอกใช่ไหม นายคงไม่.."

       

      รู้ว่าถ้อยคำนี้รุนแรงแค่ไหน คนตัวเล็กจะเจ็บแค่ไหน ทำไมล่ะ ทำไมชานยอลคนนี้จะไม่รู้

       

      "หยุดนะ !! ทำไมพูดแบบนี้ล่ะชานยอล นายพูดออกมาได้ยังไง! " ร่างเล็กไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามจากเพื่อนคน'สนิท' ของเขา ใช่แล้วล่ะ. ปาร์คชานยอลก็คือเพื่อนสนิท(ใจ)ของเช่นกัน ถึงแม้ว่าเจ้าเพื่อนตัวโตจะไม่เคยได้ยินจากปากเขาก็ตาม

      "มันจี้ใจดำนายหรอคยองซู นายคิดว่าบนโลกนี้สามารถหาความแน่นอนจากคนเราได้แค่ไหนกัน เรื่องราวที่ผ่านมามันสอนให้ฉันเรียนรู้เองแหล่ะ เฮอะ ..."

      " แม่กระทั่งฉันอย่างนั้นน่ะหรอ " คนตัวเล็กเสียงสั่นเครือ

      เสียใจ'นี่คือสิ่งที่คยองซูรับรู้ว่าตัวเองกำลังเสียใจอย่างมากกับคำพูดจาของชานยอล น้ำตาเจ้ากรรมก็พลันจะไหลรินรดแก้ม

      "ใช่" ร่างสูงตอบออกไปห้วนๆ 

       

      เจ็บหรอ เจ็บเท่ากับฉันบ้างหรือเปล่า หัวใจของนาย ขอให้ชานยอลคนนี้เข้าไปยืนบ้างจะได้ไหม คยองซู ....

      "กับสิ่งที่ทำให้มาตลอด คนอย่างฉันมันไม่น่าเชื่อใจมากเลยสินะ ทำไมถึงใจร้ายแบบนี้ชานยอล " ไม่รู้ว่าเสียงที่พูดไปสั่นมากแค่ไหน แต่ตอนนี้ขอบตาร่างเล็กกำลังร้อนผ่าว เขาควรออกไปจากตรงนี้ ไปให้พ้นหน้า ผู้ชายที่ชื่อชานยอล คนใจร้าย ปาร์คชานยอลคนโง่

       

      "โถ่เว้ยย!!" ชานยอลถึงกับหัวเสีย. จากความตั้งใจที่จะแค่นั่งรอ พูดจาแหย่เหย้าคนตัวเล็กเช่นทุกคืนให้พอมีสีสันแล้วแยกย้ายเข้านอน แต่ทำไมกลับกลายเป็นแบบนี้..ทำไมต้องทะเลาะกัน..ทำไมต้องเดินหนี ทนมองหน้ากันแค่นี้ยังลำบาก ใครกันแน่ที่ใจร้าย ....

       -------------Trustfully---------------

       

      จะอยู่ดูแลแต่เธอ ก็เธอจะมีฉัน

      คอยผูกพัน ห่วงใยอยู่ทุกวัน

      รู้บ้างไหม ว่าเธอคือคนสำคัญ ในหัวใจ

       

       

      "ฮึก ฮึก..." น้ำตาลคนตัวเล็กไหลรินไปกับน้ำจากฝักบัวเล็ก พยายามกลั้นเสียงสะอื้นแต่ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์

      ก็อกๆๆ "พี่คยองซู พี่เป็นอะไร.  รึเปล่า" จงอินเอ่ยถาม เมื่อได้ยินเสียงแปลกๆมาจากห้องน้ำ. เขากลับมาเอา จั๊มไดร์ฟที่ลืมไว้ ช่วงนี้จงอินย้ายไปอาศัยห้องเซฮุนชั่วคราว เพราะมีโปรเจ็คเข้ามาเลยซ้อมกันจนดึกดื่น หรือไม่ก็จนสว่าง ห้องเซฮุนจึงกลายเป็นที่นอนไปโดยปริยาย

       

      "ปะ เปล่า น่ะ จง อิน"

      "หรอพี่. แต่ผมว่าเสียงพี่สั่นๆนะ

      ร้องไห้รึเปล่า"

      "พี่ จะ ระ ร้อง ทำไมจงอิน. พอดี พี่เหนื่อยหน่อยน่ะ"

      "โอเคๆพี่. มีไรเรียกผมได้นะ ผมไปนอนกับไอ้ฮุนมัน"

      "อึ้มม. .." ร่างเล็กจบการสนทนากับน้องชายร่วมเมทลง ปล่อยให้น้ำตายังไหลอยู่แบบนั้น จงอินไม่เชื่อ มีหรือที่เขาจะจับสังเกตไม่ได้. เห็นชัดว่าเสียงสั่นพร่าแค่ไหน ทะเลาะกับคนนั้นมาแน่ๆ

       

      -------------Trustfully---------------

       

      "พี่ทำอะไร พี่คยองซูรึเปล่า"จงอินเอ่ยถามชานยอล ที่ตอนนี้นอนมือก่ายหน้าผากอยู่บนโซฟา

      "เปล่าหนิจงอิน พี่จะทำอะไรเค้าได้ล่ะรายนั้น"

       

      "ผมไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น ผมรู้แค่ว่าพี่คยองซู .....ร้องไห้ "

       

      'ร้องไห้' หัวใจชายหนุ่มกระตุกวูบเจ้าเพื่อนตัวเล็กของเขาร้องไห้อย่างนั้นหรือ ก็รายนั้นน่ะ เคยร้องไห้ให้ใครเห็นซะที่ไหนกัน

      "ผมขอพูดตรงๆนะพี่. พี่คยองซูเหนื่อยกับการทำงานกว่าพวกเราเป็น 2เท่า ตอนนี้พี่เขาดูเหนื่อยมาก เราควรช่วยซัพพอร์ตเขาไม่ใช่หรอ"

       

      "........"

       

      "เป็นไปได้พี่ซูโฮไม่อยากให้แตะงานบ้านเลยด้วยซ้ำ ข้าวปลาพวกผมก็ต้องหากินเองเพราะไม่อยากไปรบกวน เวลาพักผ่อน"

       

      "อีเวนท์บางงานบริษัทก็อนุญาตให้พี่เขาไม่มาก็ได้ แต่พี่เขาก็มาตลอด กับการเดินทาง 5-6 ชม. โดยรถยนต์น่ะพี่ ทั้งที่ต้องถ่ายละครทั้งวัน เป็นพี่พี่จะมาหรือเปล่า??"

       

      "......"

       

      "ผมเดาว่าเกิดจากพี่นะ พี่ชานยอล. เพราะพี่คยองซูไม่เคยร้องไห้เพราะใคร ถ้าคนคนนั้น..... ไม่สำคัญพอ ..."

               

      'สำคัญ' เหมือนน้องชายคนเล็กจะเป็นคนดึงสติพี่ชายตัวสูงกลับมา. ร่างสูงรีบก้าวพรวดไปยังห้องนอน ร่างเล็กนั่งเหม่อเช็ดผม อยู่บนเตียง. ไม่รับรู้การเข้ามาในห้องของใครบางคน

      "คยองซู...."  ร่างเล็กเบือนหน้าหนี เพราะรู้สึกว่าขอบตาเริ่มร้อนผ่าวอีกครั้ง

       

      "คยองซู ยาาา" ชานยอลเรียกพร้อมกับรั้งแขนคนตัวเล็กที่กำลังจะล้มตัวลงนอน

      "......"  คราวนี้แก้วตาใสกลับรื้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น คยองซูนายอ่อนแอแบบนี้เมื่อไหร่กัน

       

      "นายเป็นอะไร"

      "มะ ไม่ต้องมายุ่ง ฮึก .." คนตัวเล็กสะอื้น น้ำตาเจ้ากรรมไหลรินอีกครั้งพยายามสะบัดแขนออก แต่มีหรือที่ชานยอล จะยอมปล่อยง่ายๆ

      "มองหน้าฉันก่อน" พูดพลางใช้มือทั้งสองข้างล็อกใบหน้าเล็กให้มองเขาตรงๆอาา ..หมอนี่ร้องไห้อีกแล้ว.

       

      "ออกไป!! ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก "ทั้งเจ็บทั้งโมโห พูดจาทำร้ายกันขนาดนั้นแล้วจะตามมาทำไมอีก คนตัวเล็กผลักเพื่อนตัวสูงออกเต็มแรง เหตุชุลมุลเล็กๆจึงเกิดขึ้น "เพี้ยะ!!" เสียงฝ่ามือเล็กที่เผลอสะบัดจากการเกาะกุม กระทบใบหน้าร่างสูงจนเกิดเสียง นั่นแหล่ะเหตุการณ์ถึงได้สงบลง

       

      "ชะ ชานยอล" ถึงแม้จะแกล้งกันบ่อยครั้ง ทั้งเตะ ทั้งต่อย แต่นั่นคือการแกล้ง เขาไม่เคยโมโหชานยอลจริงจังสักครั้ง ถึงชานยอลจะเป็นฝ่ายผิด แต่มาเจ็บตัวในสถานการณ์แบบนี้ คยองซูก็อดรู้สึกผิดไม่ได้

       

      "ตีฉันได้เลยนะ ตีฉันแรงๆ ถ้ามันทำให้นายดีขึ้น แบ่งความเจ็บของนายมาให้ฉัน คยองซู " ไม่ใช่ถ้อยคำตัดพ้อ แต่เขาอยากรับความเจ็บนั้นมาบ้าง

      มันเป็นสิ่งเดียวที่คิดได้ตอนนี้

      "ฉันคงตีนายจนตายเลยนะสิ ชานยอล" ชานยอลมักใช้มุกอ้อนกับเขาได้ผลเสมอ

       

      " ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย ถึงจะฆ่าฉันได้เนี่ย หืม..."  สายตาคมจ้องลงมา จนคยองซูต้องเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน

       

      "เข้ามา มีอะไร" เสียงอู้อี้ถามกลับมา แต่ยังหลบสายตาอยู่แบบนั้น

      "โกรธหรอ"

      "....." ตากลมช้อนมองคนตัวสูง น้ำใสยังคลอหน่วยตา

      "โกรธชานยอลใช่มั้ย. ถึงกับร้องไห้เลยหรอ?" นิ้วยาวเกลี่ยหยาดน้ำตาบนแก้มใส

      ปริบๆ. ตากลมมองอยู่อย่างนั้น คยองซูไม่รู้ตัวเลยว่า สายตาแบบนี้ทำเพื่อนสนิทอย่างชานยอลใจเต้นแรงแค่ไหน

      "ขอโทษ ....." 

      "ฮึก ..."

      "ขอโทษนะ ที่พูดไปแบบนั้น"

      "นายพูดแรงมาก..ฮึก. รู้ตัวไหมชานยอล..."

      "รู้สิ" ไม่ใช่ว่าไม่รู้ ถ้อยคำที่พูดไปจะทำร้ายจิตใจคนฟังมากแค่ไหน เพียงแต่คนตรงหน้าเขามักเลือกที่จะไม่แสดงมันออก ถ้าหากไม่พูดคนอื่นก็มักมองข้ามไป โดคยองซูก็ไม่ใช่คนที่จะแสดงอาการไม่พอใจแบบที่ปาร์คชานยอลชอบทำ

      "รู้แล้วทำไมถึงพูดแบบนั้นกับฉันได้ นายไม่คิดว่าฉันจะเสียใจบ้างหรือยังไงน่ะ ชานยอ..." ยังไม่ทันได้พูดจบร่างเล็กก็ถูกดึงไปซบกับอกกว้าง มือใหญ่ลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ เสียงสะอื้นเบาลง แต่ยังคนก้องกังวาลในหัวชานยอล. เขาเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเข้มแข็งอย่างคยองซูร้องไห้

      "ขอโทษอยู่นี่ไง... ต่อไปจะไม่ทำแล้ว". คยองซูขืนตัวออกเล็กน้อยมองคนตรงหน้า เพื่อนเขาเป็นไบโพลาหรือยังไงกัน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย 

       

      "อย่าพูดจาทำร้ายจิตใจกันแบบนั้นอีกได้ไหม. ไม่ใช่แค่กับฉัน. แต่หมายถึงทุกคนรอบตัวนายนะชานยอล  "

       

      "รู้แล้วน่า. ปกติก็ไม่ได้เป็นแบบนี้. ก็ตอนนั้นโมโหนายมาก ไม่สิ ฉันน่ะน้อยใจนายนะ รู้มั้ย"

      "อายุเท่าไหร่ ทำงอลเป็นเด็กไปได้ ไม่ได้น่ารักเหมือนเซฮุนหรอกนะ"

      "นายว่าฉันอีกแล้ว" คนตัวโตเม้มปากเข้าหากันจนแก้มเกิดรอยบุ๋มขึ้น

      'อ๋าา. อย่ามาโชว์ลักยิ้มนะ เห็นแล้วมัน..'

       

      "แล้วก็เลิกมานั่งเล่นเกมส์รอฉันกลับดึกๆดื่นๆแบบนี้ได้แล้ว ชานยอล"

      "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนายต้องดุที่ฉันมานั่งรอด้วยล่ะ มันน่ารำคาญมากเลยหรอ คนเขาอุตส่าห์ ..."

       

      "อุตส่าห์อะไร"

      "ก็. กะ ก็..... อุตส่าห์เป็นห่วงไงเล่า !!"คนตัวเล็กถึงกับหลุดยิ้มออกมา

      "ที่ฉันห้ามรอ ก็เพราะห่วงนายนะชานยอล" ชานยอลถึงกับเลิกคิ้วสูง. ก็เขาน่าห่วงซะที่ไหนกันล่ะ

       

      "นายจะห่วงอะไร. ฉันสบายดี"

      "ปวดตาบ่อยไม่ใช่หรือไง สองอาทิตย์ที่แล้วนายเป็นคนไลน์บอกฉันเอง"

      "นายจำได้..?"

      "ก็ใช่น่ะสิ. ตานายน่ะทำเลสิกมา เวลาใช้งานมากๆมันก็ปวดเอา แล้วเล่นมานั่งปิดไฟมืดๆเล่นเกมส์ จ้องอยู่แบบนั้นน่ะไม่ปวดแย่รึยังไง"

      "ที่ดุฉัน เพราะเหตุผลนี้เองหรอ"

      "แล้วคิดว่ายังไงล่ะ ฉันไม่ใช่คนไร้เหตุผลนะ"

      "อ่าา. ครับๆ. ต่อไปนี้ชานยอลจะไม่เล่นเกมส์โทรศัพท์. แต่ขอรอเหมือนเดิมได้ไหม. ก็คนมันนอนไม่หลับ" คนฟังกลอกตาไปมา

      จู่ๆรอยยิ้มกรุ้มกริ่มห์ก็ผุดขึ้นมาบนหน้าคนตัวสูง  คนตัวเล็กไม่สังเกตว่าท่านั่งของเขากับชานยอลนี่มันล่อแหลมแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็ขึ้นมานั่งเกยตักชานยอลแล้ว

      "ปล่อยได้แล้ว .."

      "ถ้าปล่อยไป จะร้องไห้อีกไหม ถ้าฉันไม่กอดนายแบบนี้ นายจะยังคิดถึงฉันอยู่ไหม" น้ำเสียงที่ถามแฝงด้วยแววจริงจัง.   

      ตึก ตึก นั่นเสียงหัวใจใครกัน เต้นน่าเกลียดเหลือเกินนะ

       

      "ใจนายเต้นแรงจังนะ .คยองซู" เสียงทุ้มดังขึ้นชิดใบหูหน้าคนตัวเล็กตอนนี้แดงไปหมด

       

      "ไอ้หูกางเอ้ยย" ว่าพลางใช้สองมือดันหน้าคนตัวสูงที่ไม่รู้ว่าจะโน้มมาใกล้ทำไมนักหนาออก

       

      "ฮะ. นายว่าไงนะ หูอะไร" ชานยอลโน้มหน้าไปใกล้กว่าเดิม จนหูคนตัวเล็กแดงเถือกไปหมด

      "บอกว่า ไอ้หูกาง ไอ้หัวล้าน ขี้น้อยใจโว้ยยย"

       

       "คยองซู นายย!!"

       

      "ฮ่ะ ๆๆ โอ้ย ๆๆ ชานยอล" คนตัวเล็กดิ้นพราด เมื่อถูกจี้เอวทันทีที่พูดจบ

      "นี่แน่ะๆ ว่าฉันหัวล้าน ว่าฉันหูกางหรอ"

      "ขะ ขอโทษ ฮ่ะๆ ฮ่าๆ พะ พอแล้ว พอแล้ว ชานยอล" คนตัวเล็กนิ่วหน้าเพราะอาการปวดหัวที่เริ่มมาอีกแล้ว

      เป็นอะไรไป นายปวดหัวใช่มั้ย" ชานยอลจับสังเกตได้ จึงหยุดการแกล้ง

      "อืม. ปวดนิดหน่อยน่ะ วันนี้เข้าฉากใหญ่"

      "มีนางเอกเข้าด้วยรึเปล่า"

      "นายนี่ยังไง ฉันเป็นพระเอก ก็ต้องมีนางเอกสิ"

      "มีน้องนางเอกเข้าด้วย ทำไมดูอิดโรยกลับมาขนาดนี้ วันก่อนถ่ายรูปกัน นายดูสดใส๊ สดใสมากกก นะ ชอบเขารึไง"จิ้มหน้าหน้าผากคนหัวล้านไปหนึ่งที

      "คิดอะไร น้องเค้าเด็กมากนะ อีกอย่าง ฉันไม่เคยคิดจะจีบหรือชอบน้อง หรือใครทั้งนั้น"

      "ทำไมล่ะ แสดงว่ามีคนชอบอยู่แล้วสิ"

      "............" จะให้ฉันตอบว่าไง เพราะฉันชอบนายไงล่ะ

      "หื้ม หื้ม ว่ายังไง ครับ คุณนักแสดงโด" ว่าพลางโยกหัวคนตัวเล็กส่ายไปมา

       

      "ไม่รู้......รู้แต่ว่าเดี๋ยวไอ้เพื่อนสนิทมันจะงอลอีก" บอกปัดไปแบบนั้นคนตัวโตยิ้มกว้าง ถึงคนตัวเล็กจะพูดว่าไม่รู้ แต่เขาก็รู้อยู่แล้ว 'สักวันฉันจะทำให้นายพูดออกมาให้ได้ คยองซู'

      "มานี่ มา" ว่าพลางตบมือลงบนตัก จับหัวทุยๆนั่น และลงมือนวดขมับให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย

      "อืมม นวดดีจังนะ นวดสาวบ่อยรึยังไง"

      "ใช่ นวดให้บ่อยๆเลยล่ะ" คิ้วคนฟังขมวดเข้าแทบจะทันที

      "อย่างงั้นหรอ เธอโชคดีจังนะ"

      "ที่นวด ก็มีพี่สาวกับแม่. นอกเหนือจากนั้น คนที่ฉันอยากนวดให้ก็มีนายนี่แหล่ะ คยองซู" คนพูดจงใจสื่อความหมายออกไป

       

      "......."

      "นายนี่โชคดีสุดๆไปเลยรู้ไหมเจ้าเตี้ย"

       

      "......."

      "นี่คยองซู " ว่าพลางก้มมองคนบนตัก

       

      "คงเหนื่อยมาสินะ หลับไปตอนไหนกัน." ว่าพลางจิ้มแก้มนิ่มนั่นเข้าให้ จ้องหน้าคนบนตักพักหนึ่ง จึง ...

            

      ขอหอมหน่อยนะ ไอ้แก้มนุ่มๆเนี่ย หมั่นเขี้ยวจริงๆ

      "ใครใช้ให้น่ารักล่ะ  ฝันดีนะ ฝันถึงชานยอลด้วยนะคยองซู จุ้บ" ฝ่าย อธรรมในสมองของผมบอกมาแบบนี้ล่ะ ฮ่าๆ แต่ถ้าคยองซูรู้สึกตัว ชานยอลคงเละคาเตียงไปแล้วล่ะครับ หากรู้ว่าทำมากกว่าหอมแก้ม และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ....

      "อย่าทิ้งฉันไปไหนเลยนะ คยองซู ฉันคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ" ชานยอลคิดว่าเขาต้องเป็นแบบนั้น เป็นอย่างที่พูด เขาคงอยู่ไม่ได้ชานยอลจัดการปิดไฟ และสาวเท้ากลับที่นอนตัวเอง

       

       

       

      เสียงแผ่วเบาของคนตัวเล็กดังขึ้นในความมืด"ฝันดีเหมือนกันนะชานยอล ....ฉันไม่มีวันทิ้งนายไปไหน สัญญา..."

       

      END

       

       -------------Trustfully---------------

      TALK

      จบแล้ววว

      ไม่งงกันใช่มั้ย จบเหมือนไม่จบ

       

      คือเรื่องนี้แต่งไว้นานแล้วจริงๆ

      เหตุการณ์อาจจะไม่เข้ากับสถาการณ์ปัจจุบันเท่าไร

       

      ขออภัยจริงๆ นะคะ อาจจะไม่ไหลลื่น รู้สึกว่ามันยังแข็งๆ

      ก็ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

       

      เราชอบคู่ชานซูมากจริงๆ

      ชอบในความเป็นเพื่อนสนิท

      ชอบเวลาเขาอยู่ด้วยกัน

      อยากจะถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนได้อ่าน

      แต่คงต้องฝึกฝนอีกนานนน

      ^____________________________^

       

       

      เม้นท์ติชมให้กำลังใจกันด้วยน้าาาา

      เจอกันใหม่ค่ะ


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×