ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟาโรห์ที่รัก ตอน จอมใจฟาโรห์

    ลำดับตอนที่ #28 : รอคอย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.78K
      4
      8 พ.ค. 56

          เรื่องของความรักมันช่างไม่เข้าใครออกใครเสียจริง เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงมีความหวังที่จะหลุดพ้นไปจากที่แห่งนี้อาณาจักรอียิปต์อันมีอดีตอันแสนขมขื่น ส่วนเจ้าชายวาสุเทพก็ทรงปรารถนาครอบครองความรักแห่งนางอันเป็นที่รัก พรพิงค์รับทราบเรื่องราวเหล่านี้และนางคิดว่ามีสิ่งเดียวในโลกนี้ที่ตัดสินปัญหาในเรื่องนี้ให้เด็ดขาดคือ องค์ฟาโรห์ พระองค์เดียวเท่านั้น พรพิงค์รอคอยอย่างอดทนที่จะดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปในหมู่เมฆ และอธิษฐานให้ดวงจันทร์ขึ้นสู่ยอดฟ้าโดยพลัน

           ราตรีกาลมาเยือนชาวโลกท้องฟ้าที่ใสสดค่อยๆปรับเปลี่ยนเป็สีหมองของรัตติกาลในมืดสนิทและสว่างด้วยแสงเดือนและแสงดาว พรพิงค์จุดดวงประทีปยังเบื้องเทวรูปแห่งเทพีไอซิสขนาดจิ๋วในส่วนหนึ่งของตำหนักที่นางตั้งขึ้นเป็นเสมือนห้องพระย่อยๆ ดวงประทีปเหล่านั้นถึงจะไม่กี่ดวงแต่กลับส่องสว่างให้บรรยายกาศสว่างไสว พรพิงค์ถึงกับสะดุ้งเมื่อมือปริศนาจับที่ไหล่ของนาง 
        
          "ว้าว........." นางร้องด้วยความตกใจ 

          "ข้าเองพรพิงค์" เสียงอันคุ้นเคย 

          พรพิงค์หันไปมองยังต้นเสียงที่อยู่ข้างหลังของนาง องค์ฟาโรห์ทรงประดับยืนอยู่เบื้องหลังของนาง "พระองค์ไฉนจึงทำเช่นนี้เล่าเพคะ หม่อมฉันตกใจหมดเลย" 

         องค์ฟาโรห์อ้อบกอดนาง "โธ่....ข้าขอโทษเจ้า" แล้วทรงหอมลงที่แก้มอย่างนุ่มนวล พรพิงค์ดึงตัวออกจากวงแขนของฟาโรห์แล้วไปนั่งบนเตียงซึ่งคุมด้วยผ้าม่านอันบางเหมือนมุ้ง องค์ฟาโรห์แหว่งม่านนั้นออกแล้วทรงลงประทับนั่งลงเคียงพรพิงค์ 

        องค์ฟาโรห์จับคางของพรพิงค์แล้วลูบไปตามใบหน้าและแก้มของนาง "พรพิงค์ ข้าอยากได้ทายาทน้อยจากเจ้า เจ้าจะช่วยข้าได้หรือไม่" 
     
        พรพิงค์รู้สึกเหมือนใจตกลงหลุมที่ลีกและนางเหมือนจะพร้อมเป็นใจให้องค์ฟาโรห์แต่แล้ว นางก็ระลึกถึงเหตุการณ์นั้นตอนที่นางฝันถึงเทพีไอซิส และพระสุรเสียงนั้นก็ดังอยู่ในหูของนาง 

        "พรพิงค์....ข้าสงสารครอบครัวของเจ้าเสียเหลือเกิน เหล่าเทพีไอยคุปต์โบราณล้วนสงสารเป็นอย่างหนักจึงมีข้อตกลงว่า เจ้าจะกลับคืนสู่ครอบครัวของเจ้าได้โดยมีข้อแม้นสองประการ คือ ประการที่หนึ่ง ข้าเจ้าให้กำเนิดพระโอรส-ธิดาแห่งองค์ฟาโรห์แล้วเท่านั้นเจ้าจะสามารถกลับคืนสู่ครอบครัวของเจ้า ส่วนประการที่สององค์ฟาโรห์ถึงคราวสวรรคตเท่านั้นเจ้าจึงจะกลับบ้านของเจ้าได้" พรพิงค์ซึ่งกำลังยอมจำนงไปตามความปรารถนาขององค์ฟาโรห์กลับได้สติขึ้น 

        "ยังไม่ถึงเวลาเพคะพระองค์" องค์ฟาโรห์ทรงชักพระหัตถ์กลับ 

         "อะไรของเจ้าพรพิงค์ เราแต่งงานกันมาก็ต้องมีทายาท" องค์ฟาโรห์กล่าวอย่างไม่พอพระทัย

        "แต่องค์ฟาโรห์หม่อมฉันมิอาจจะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ได้ไม่ ต้องรอการแจ้งเตือนจากเบื้องบนเสียก่อนเพคะ" 

         "การแจ้งเตือนจากเบื้องบนอะไรกัน"

         "คืนหนึ่งพระเทพีไอซิสทรงมาเข้าฝันหม่อมฉันว่า พระองค์จะประทานบุตรที่ดีเลิศแด่พระองค์และหม่อมฉันเพคะ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่สมควร หากวันนั้นมาถึงพระเทพีไอซิสจะส่งสาสน์มาแจ้งเองเพคะ" 

        "หากเป็นพระประสงค์แห่งเทพเจ้าก็มิไปไร" 

        "พระองค์เพคะ หม่อมฉันมีเรื่องของเจ้าชายวาสุเทพที่จะทูลเพคะ"

         "อืมจริงด้วย เห็นเจ้าบอกข้ามาแต่เมื่อตอนบ่ายแล้ว ไหนลองบอกข้ามาซิว่าเจ้าชายท่านเป็นอะไร หรือไม่พอพระทัยในที่ๆที่เราหาให้หรือเช่นไร"

        "มิได้เช่นนั้นเพคะ มันเป็นว่า เจ้าชายท่านทรงรักเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าเพคะ"

        "อะไรน่ะ เจ้าชายวาสุเทพทรงโปรดเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าหรือ"

         "เจ้าชายตรัสกับหม่อมฉันเพคะว่า พระองค์ทรงรักเจ้าหญิงมากถึงขนาดอยากสมรสกับเจ้าหญิงเลยนะเพคะ"

         "ตั้งแต่โบราณมาก ราชสำนักอียิปต์เคยส่งเจ้าหญิงต่างๆไปเป็นพระชายาให้กับเหล่าราชาทั้งหลายในอาณาจักรต่างๆเพื่อเกี่ยวดองเป็นเครือญาติ และได้หายไปนานมากเพราะเราถือว่าไม่อยากบังคับเจ้าหญิงนั้นๆ แต่เรื่องนี้มิใช่เรื่องใหญ่อันใด มันขึ้นอยู่กับฝ่ายชมพูทวีปหนึ่ง และสองคือตัวเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าเอง เพราะตอนนั้นเจ้าหญิงทรงไร้ผู้ปกครองเสียแล้ว การตัดสินนี้จึงตกอยู่ที่ตัวของเจ้าหญิงเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น แต่ปัญหาใหญ่คือ ทางชมพูทวีปจะยอมรับเจ้าหญิงของเราได้หรือไม่เท่านั้นเอง"

         "แสดงว่าทางเราไม่มีปัญหา แต่ต้องถามว่าเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงสมัครใจรักเจ้าชายวาสุเทพหรือไม่เท่านั้นใช่ไหมเพคะ"

        "ถูกแล้วพรพิงค์ เพราะทางราชสำนักเราก็มีกฎระเบียบเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่แค่ว่ามิได้กระทำสืบต่อมานานแล้วมันขาดช่วงมานานเสียเหลือเกิน"

         "ถ้าเช่นนั้นวันรุ่งขึ้นหม่อมฉันจะไปถามเจ้าหญิงถึงเรื่้องนี้เพคะ เพราะที่จริงแล้ววันพรุ่งนี้เจ้าชายวาสุเทพก็จะเดินทางกลับสู่ชมพูทวีปแล้ว"

         "เช่นนั้นพรพิงค์เป็นธุระของเจ้าแล้วนะที่จะต้องทำให้เจ้าชายท่านได้สมหวัง"

         "แต่หม่อมฉันก็ทราบหรอกเพคะว่า เจ้าหญิงท่านจะเล่นด้วยไหม" 

         "เอาเถิด ขอกามเทพีฮาเธอร์ทรงอวยพรให้ความรักของทั้งสองสำเร็จก็แล้วกัน" 

           พรพิงค์ยิ้มอย่างเอ็นดูองค์ฟาโรห์ "ถึงข้าจะทำทายาทมิได้ในราตรีนี้นั้นเจ้าต้องช่วยข้านะ" 

           "ตายจริงพระองค์ช่วยอะไรเพคะ" พรพิงค์ถึงกับตะลึงไปแล้ว 

           "ก็เจ้าใช้นวดข้าทีล่ะกัน ข้าปวดขามากเลย เดินมาทั้งวัน เจ้าช่วยนวดขาข้าทีนะพรพิงค์"

           "ยินดีเพคะ" พรพิงค์ถึงกับโล่งอกไปที นางสัมผัสยังพระเพลาขององค์ฟาโรห์ พระองค์ทรงล้มลงบรรทมกับหมอน พรพิงค์ค่อยบีบนวดพระเพลาอย่างแข็งขัง แล้วพระองค์ก็ทรงหลับพระเนตรลงสนิท พรพิงค์แอบมองพระพักตร์ขององค์ฟาโรห์ โธ่ฟาโรห์ที่รักแห่งข้า ท่านคงเหน็ดเหนื่อยนักข้าจะตั้งใจบีบนวดพระเพลาทั้งสองนี้ให้หายเป็นปลิดทิ้งเลย นางก็ตั้งใจบีบนวดพระเพลานั้นไปอย่างเต็มใจ และนางก็ทำเช่นนั้นจนรุ่งสาง

          แสงอาทิตย์แห่งวันใหม่เดินทางมาเยือนสาดส่องมาทางหน้าต่างและบานประตู จนเห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจน พรพิงค์ยังคงนั่งมองพระพักตร์ของพระองค์อย่างไม่คลาย นกน้อยบินเข้ามาเดินในตำหนัก พรพิงค์ยืนมือไปมันก็เหมือนรู้ก็เข้ามาเกาะยังมือของนางอย่างเชื่อง แมวน้อยแห่งวิหารวิฬารซึ่งแอบอยู่ใต้พระแท่นบรรทมก็ออกมาแล้วส่งเสริมร้องอย่างน่าเอ็นดู

         "เจ้าแมวน้อยจอมซนแห่งองค์ฟาโรห์แปลกจริงวันนี้ที่เจ้ากลับมายังนอนยังตำหนักทุกที่ชอบไปสิงสู่อยู่ที่อื่น" แมวเหมียวน้อยก็เข้ามายัง นกน้อยนั้นก็บินหนีไปด้วยความกลัว พรพิงค์ต้องอุ้มมันไว้แนบอกแล้วมันก็หันมามองยังพรพิงค์ด้วยแววตาที่เปล่งแสงผิดกับแมวทั่วไปแล้วมันก็ขยับปากพูดกับนางอย่างมหัศจรรย์

        "พระราชินีโปรดปล่อยข้าลงเถิด" พรพิงค์ตะลึงแต่ไม่กล้าที่จะกรี็ดร้องเพราะเกรงว่าจะรบกวนการบรรทมขององค์ฟาโรห์

        แมวนั้นก็ถูกวางบนเบาะนุ่มนิ่มแล้วมันก็คดลงนอน แต่มันก็ไม่เลิกที่จะแสดงความมหัศจรรย์นั้นต่อพรพิงค์

       "ขอพระองค์อย่าได้กลัวอะไรข้าเลย ข้าคือบริวารแห่งวิฬารเทพีบาสท์ ข้าขอทูลต่อพระราชินีว่า เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่ามีใจปฏิพัทธ์ต่อเจ้าชายวาสุเทพ และตอนนี้เจ้าหญิงทรงทุกข์มากกับการจากไปของพระองค์หญิงผู้เป็นพระมารดาและครอบครัวของนางซึ่งตอนนี้ก็เหลือนางเพียงคนเดียวเท่านั้น ข้ารู้ในเรื่องนี้แจ้งแก่ใจมาตลอดและข้าเห็นสมควรแล้วที่จะต้องจับการเรื่องนี้ให้มันเรียบร้อยพระองค์"

        "เช่นนั้นหรือ ขอบใจเจ้ามาก ข้าจะไปหาเจ้าหญิงเพื่อทราบจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง"
       
         "และอีกอย่างนะพระราชินีเหล่าทวยเทพรับทราบเรื่องนี้กันดีแล้ว ฝ่ายเราตกลงกันอย่างดีเพื่อแต่ฝ่ายอาณาจักรอันไกลโพ้นเท่านั้นว่าเขาจะยินยอมหรือไม่"

         พรพิงค์ลุกขึ้นจากเตียงปล่อยให้เจ้าแมวประหลาดนั้นอยู่กับองค์ฟาโรห์ตามลำพัง มันก็นอนลงคดตามเดิมเหมือนราวกับแมวธรรมดาไม่มีผิด องค์ฟาโรห์ยังคงบรรทมหลับอยู่เช่นนั้น พรพิงค์เดินออกจากตำหนักเหล่านางข้าหลวงที่เดินทางต่างหยุดทำความเคารพนางไปตามทาง แม้กระทั่งทหารเวรก็ต้องหยุดยืนมาโค้งคำนับนาง พรพิงค์ได้แต่ยิ้มทักเท่านั้นนางรีบเดินอย่างเร่งมาจนถึงพระตำหนักของเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ซึ่งช่างแสนจะเงียบเหงา เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงประทับยังพระอุทยานย่อมๆหลังพระตำหนักของพระองค์ เหล่าดอกไม้ต่างๆกำลังออกดอกสวยรับแสงอรุณ เจ้าหญิงในชุดอาภรณ์สีน้ำตาลอ่อนสดใสค่อยๆย่อพระกรเด็ดใส่ถาดทองเหลืองอย่างเทพธิดา พรพิงค์เข้าไปยังพระอุทยาน 

         "ขอพระอนุญาตเพคะ เจ้าหญิง"

         เจ้าหญิงหยุดแล้วทรงมองมายังพรพิงค์ "โธ่นึกว่าใคร ทีแท้ก็พระราชินีนี้เอง เชิญเพคะทรงเข้าไปยังในพระตำหนักดีกว่าทรงเสด็จมา"

        เจ้าหญิงทรงเชิญให้พรพิงค์นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่มีพนักพิง แล้วทรงริมน้ำใส่จองแก้วทองเหลือง "ไม่ต้องก็ได้เพคะ เจ้าหญิง" พรพิงค์กล่าวอย่างนุ่มนวลต่อเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่า 

        "โธ่...ทรงเสด็จมาทั้งทีนะเพคะ" เจ้าหญิงจัดรินน้ำใส่จองเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่งมอบให้พรพิงค์ นางเองก็รับไว้อย่างเต็มใจ 

         "เจ้าหญิงเพคะ วันนี้ที่หม่อมฉันมาก็มีเรื่องจะมาทูลถามเจ้าหญิงเพคะ" 

          "เรื่องอันใดหรือเพคะ พระองค์"

         "คือว่า เมื่อวานนี้หม่อมฉันพร้อมด้วยองค์ฟาโรห์ เจ้าชายวาสุเทพและคนสนิทของพระองค์ไปชมชนบทประเทศที่ๆใช้เป็นที่รับรองเหล่านักบวชและคนของเจ้าชายวาสุเทพนะเพคะ คือว่าเจ้าชายวาสุเทพทรงตรัสกับหม่อมฉันถึงเรื่องหนึ่งด้วยเพคะ" 

        เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงพระฤทัยพองโตแล้วทรงนิ่งเงียบ 

        "เจ้าหญิงทรงทราบไหมเพคะว่ามันเป็นเรื่องอันใด" พรพิงค์ยิ้มแย้มออก 

        "มิทราบเพคะ" เจ้าหญิงแกล้งเป็นไม่ทราบแต่ที่จริงแล้วทรงทราบอยู่เต็มพระทัย

        "เจ้าชายทรงโปรดเจ้าหญิงมากนะเพคะ ทรงตรัสกับหม่อมฉันว่าจะขอเจ้าหญิงเป็นพระชายาเพคะ" 

        เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ถึงกับตะลึงเมื่อสิ่งที่ทรงคิดมาตลอดนั้นมันกลายเป็นจริงขึ้นมา "พระองค์จริงหรือเพคะ" เจ้าหญิงทรงกรรแสงด้วยความโสมนัส

        "จริงซิเพคะ หม่อมฉันก็ทราบนะเพคะว่าเจ้าหญิงก็ทรงมีใจให้เจ้าชายอยู่บ้าง"

        "จริงเพคะ หม่อมฉันก็รักเจ้าชายวาสุเทพ แต่เรื่องของประเพณี ภาษา เราช่างแตกต่างกันเสียหรือเกินนะเพคะ" 

       "ไม่เห็นจะยากเลยเพคะ เจ้าหญิง ความรักชนะทุกสิ่งนะเพคะ" 

        เจ้าหญิงทรงได้แต่แย้มพระโอษฐ์ "เจ้าหญิงทรงยืนยันนะเพคะ หม่อมฉันจะไปทูลองค์ฟาโรห์และเจ้าชายวาสุเทพ" และแล้วในตอนนั้นเอง 


        "พระราชินีเพคะ องค์ฟาโรห์ทรงเรียกหาพระองค์และเจ้าหญิงด้วยเพคะ ตอนนี้พระองค์ทรงประทับยังท้องพระโรงพร้อมด้วยเจ้าชายวาสุเทพและบริวารเพคะ" นางข้าหลวงเข้ามาแจ้ง

        "เราไปกันเถิดเพคะ สงสัยจะเรื่องนี้แน่นอน" 

         พรพิงค์ทรงจับพระหัตถ์ของเจ้าหญิงแล้วออกไปจากพระตำหนักโดยมุ่งไปยังท้องพระโรง เมื่อทั้งสองมาถึงก็เห็นภาพขององค์ฟาโรห์ประทับยังบัลลังก์ว่าราชการ พระพันปีทรงองค์อย่างงดงามด้วยเครื่องพลอยสีชมพูและอาภรณ์สีฟ้าน้ำทะเลอ่อน เจ้าชายวาสุเทพทรงประทับบนพระแท่นของแขกและมีข้าราชบริพารนั่งอยู่รายรอบพระองค์ เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงสบพระเนตรยังเจ้าชายเสมือนมองคนรัก เจ้าชายทรงสัมผัสได้ถึงสายพระเนตรนั้นก็รู้สึกอิ่มสุขอย่างเต็มเปรี่ยง พรพิงค์พาเจ้าหญิงมาประทับยังพระแท่นข้างพระพันปี พรพิงค์ก็นั่งลงข้างๆเจ้าหญิง พรพิงค์ถอดสายสร้อยดวงเนตรเทพเจ้าออกแล้วคล้อยยังพระศอของเจ้าหญิง 

        "ทรงสวมมันไว้นะเพคะ แล้วหากเจ้าชายวาสุเทพตรัสอันใด ห้ามตรัสตอบเลยนะเพคะ"

          เจ้าหญิงทรงพยักพระพักตร์ตอบแสดงถึงว่าทรงเข้าใจแล้ว 

         องค์ฟาโรห์ทรงตรัสถามเจ้าชายวาสุเทพว่า "เราทราบจากพระราชินีหมดแล้วถึงเรื่องของเจ้าชาย เจ้าชายปรารถนารักเจ้าหญิงแห่งอาณาจักร เราก็ยินดีที่พระองค์ทรงเอ็นดูและเมตตานาง แต่หากเกรงเสียว่าฝ่ายเจ้าชายคือ พระมหาจักรพรรดิราช และ พระมเหสีจะมิทรงยินยอมด้วยในการสมรสระหว่างเจ้าชายกับเจ้าหญิงแห่งอียิปต์" 

        ล่ามหลวงก็แปลคำตรัสถวายเจ้าชาย "มิได้พระองค์ มิได้ หม่อมฉันรักเจ้าหญิง และจะไม่มีหญิงใดอีกแล้วที่หม่อมฉันจะรักนอกจากมารดาและนาง" เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงเข้าพระทัยในสิ่งที่เจ้าชายตรัส เจ้าหญิงแสนดีพระทัยอย่างสุขล้น 

        "และขอให้เจ้าหญิงโปรดรอคอยการกลับมาของหม่อมฉัน หม่อมฉันขอสัญญาว่าอีกหนึ่งเดือนในหลังจะกลับมาพร้อมขบวนสินสอดของหมั้นเพื่อมาสู่ขอเจ้าหญิงตามประเพณีของขัตติยราชสกุล ได้โปรดรอคอยฉันกลับมาได้ไหมเจ้าหญิง ยอดรักแห่งข้า"

        เจ้าหญิงทรงเขินอายจนพระฉวีพรรณตรงพระปรางแดงก่ำ ด้วยอำนาจแห่งพระเทพีไอซิสทรงเสด็จลงจากสวรรค์ไอยคุปต์โบราณมายังพรพิงค์ พระเทพีทรงแอบแกะสายสร้อยดวงเนตรแห่งเทพเจ้าแล้วทรงประทานสายพระศอรูปอังค์ กุญแจแห่งชีวิต แด่เจ้าหญิงโดยไม่มีผู้ใดทราบนอกจากพรพิงค์

       "เจ้าหญิงเพคะทรงตรัสอันใดแด่เจ้าชายวาสุเทพบ้างเถิดเพคะ"

         เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงทอดพระเนตรยังเจ้าชายวาสุเทพแล้วทรงตรัสว่า "ข้านี้เป็นดังนกน้อยที่ถูกขังในกรงทอง หวังพระองค์ผู้งามดุจพระเป็นเจ้า หากเอาสตรีทั้งมวลมาเทียบเหล่านางคงพ่ายแพ้ต่อพระองค์ แม้นโอรสสวรรค์โฮรัสยังว่าทรงปรีชาเยื้องมหาบุรุษแต่ข้าว่าพระองค์คือมหาบุรุษแห่งข้ามิอาจเทียม ขอท่านผู้ทรงเสมือนเทพเจ้าจากแดนไกลช่วยนำพาข้าไปยังดินแดนแห่งพระองค์อันสุขสบายและมีความสุขด้วยเครื่องเทศและดอกไม้หอมนานา"

         เจ้าชายสวาสุเทพทรงตะลึงเพราะทรงสดับเข้าพระทัยพระองค์จึงทรงตรัสไปว่า "เจ้าคือ สโรชามหาลักษมีเทวีผู้ผุดขึ้นจากทะเลน้ำนม ไม่มีนางใดจะเทียบความงามอันน่าพิศวงจากแดนไกลเช่นนี้ เหมือนดอกไม้ที่ผลิบานจากดินแดนอันไกลโพ้น ข้านี้จะขอเป็นพระปรเมศวรวิษณุเทพแห่งไวกูรณ์โลกพร้อมที่จะขอเจ้าวิวาห์ และขอเจ้าเป็นจอมใจแห่งข้านี้ชั่วกัลปวสาน" 

         เจ้าหญิงถึงกับน้ำพระเนตรไหลด้วยความปิติยินดี "หม่อมฉันพร้อมและยินดีที่จะเป็นชายาของเจ้าชายถึงอาณาจักรใหม่จะเป็นเช่นไร หม่อมฉันหารู้ไม่จะอดทนเพื่อความรักแห่งเราทั้งสอง" 

        "หม่อมฉันจะไม่ทำให้เจ้าหญิงต้องเสียเปล่าเลย ขอคำมั่นสัญญาว่า เจ้าหญิงจะทรงโปรดรอคอยหม่อมฉันกลับมาพร้อมกับขบวนเจ้าสาวอันทรงเกียรติไปยังชมพูทวีป" 

        "ช้าก่อนเจ้าชายวาสุเทพ" พรพิงค์กล่าว

        "ฝ่ายเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเจ้าชายจะทรงเสด็จกลับมารับเจ้าหญิงของเราเสกไว้เป็นพระชายามิได้ถูกหลอกปล้นไปทำมิดีมิร้าย เจ้าหญิงถูกแม้จะไร้แล้วซึ่งพระบิดามารดาแต่ตอนนี้เราและองค์ฟาโรห์ถือว่าเป็นผู้ปกครองในเจ้าหญิงพระองค์นี้"

       เจ้าชายวาสุเทพทรงถอดพระธำมรงค์พลอยสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับตรัสว่า " หม่อมฉันขอมอบแหวนพลอยสีนิลุบลนี้แด่เจ้าหญิงเก็บไว้เพื่อเป็นการจองและหลักฐานการยืนยันว่าหม่อมฉันจริงใจและพร้อมที่จะรับเจ้าหญิงเป็นชายาหลังจากได้รับคำตอบจากพระบิดาและพระมารดาแล้ว" เจ้าชายวานให้คนสนิทนำแหวนนั้ไปให้ยังพรพิงค์ 

       "หากพระมหาจักรพรรดิราชและพระมเหสีแห่งชมพูทวีปมิยอมเล่าพระองค์ เจ้าหญิงของหม่อมฉันจะมิหม้ายขันหมากหรือเช่นไรกัน" 

        "ไม่พระองค์พระราชินี หม่อมฉันเชื่อมั่นในเจ้าชายวาสุเทพว่าพระองค์ต้องกลับมารับหม่อมฉัน" 

       "เจ้าหญิงเพคะ หากพระองค์มิกลับมาเล่าเพคะ" 

        "แหวนนั้นไงเพคะเป็นของแทนใจกัน" เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงถอดต่างกระกรรณทองเหลืองดัดเป็นรูปดอกบัวประดับด้วยพลอยเม็ดสีแดงเลือดนก "ต่างหูนี้ปกติมันต้องอยู่กันเป็นคู่ ขอให้เจ้าชายเสด็จกลับมาหาหม่อมฉันเพื่อให้ได้กลับมาอยู่คู่กันอีกคราว" เจ้าหญิงวานนางกำนัลนั้นไปถวายเจ้าชายวาสุเทพ 

        "หม่อมฉันขอสัญญาว่าจะนำต่างพระกรรณนี้กลับมาคืนเจ้าหญิงเป็นแน่" 

         พรพิงค์ยิ้มด้วยความปิติแล้วทูลต่อองค์ฟาโรห์และพระพันปี "หม่อมฉันแต่องค์ฟาโรห์และพระพันปีตอนนี้เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงยินยอมเป็นพระชายาแห่งเจ้าชายวาสุเทพ ตอนนี้ฝ่ายเราไม่มีปัญหาอันใดขัดข้อง" 

         "จริงๆ ฝ่ายเราไม่มีอะไรขัดข้อง" พระพันปีตรัสขึ้นอย่างดีพระทัย 

       "แต่ว่าปัญหาอย่างที่ทราบ เจ้าชายของเวลาเพียงเดือนเดียวเพื่อที่จะกลับไปยังชมพูทวีป เพื่อทูลขอพระอนุญาตจากพระบิดาและพระมารดาถึงการพระอภิเษกสมรสระหว่างสองอาณาจักรนี้เพคะ" 

        "เป็นไปตามที่ข้าว่า ฝ่ายเราเจ้าหญิงเองก็ไม่มีปัญหา ปัญหาเสียแต่ฝ่ายชมพูทวีปจะยินยอมหรือไม่ อืมเช่นนั้นเราคงต้องเป็นฝ่ายรอ หากเจ้าชายเสด็จกลับมาภายระยะเวลาหนึ่งเดียวถือว่าเจ้าหญิงกับเจ้าชายได้เป็นเนื้อคู่ตามที่สวรรค์ทั้งสองได้ลิขิตไว้แล้ว เราอนุญาต" 

         "เจ้าชายวาสุเทพเพคะ องค์ฟาโรห์อนุญาตแล้วเพคะ และหม่อมฉันขออวยพรให้เจ้าชายสำเร็จเพคะ" พรพิงค์กล่าวด้วยความยินดี 

      เจ้าชายวาสุเทพทรงลุกขึ้นพร้อมกับตรัสว่า "หม่อมฉันยินดีที่ทางอียิปต์อนุญาตถือว่าเป็นความสำเร็จได้ครึ่งทาง ขอให้เจ้าหญิงยอดรักของหม่อมฉันโปรดรอคอยการกลับมาของหม่อมฉันอย่างอดทน"

        "หม่อมฉันจะรอคอยเจ้าชายยอดรักกลับมาเช่นกันเพคะ" เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าตรัสด้วยพระฤทัยที่เต้นแรง

        เจ้าชายวาสุเทพอำลาองค์ฟาโรห์เพื่อเดินทางกลับชมพูทวีป และในที่สุดต้องจากลาเจ้าชายทรงเสด็จถึงเรือหลวงที่เทียบท่าไว้ เจ้าหญิงได้แต่เห็นยอดใบเรือที่ออกไปไกลทุกที่ ๆ เจ้าหญิงก็ทรงนับวันรอคอยการกลับมาของเจ้าชายวาสุเทพยอดรักของนางตลอดนับแต่นั้นมา.... 

     
     
           ความรักระหว่างสองอาณาจักรโบราณนี้จะเป็นเช่นไร เจ้าชายวาสุเทพจะต้องผจญภัยกับเหตุเภทภัยอันใดบ้างหรือไม่คอยพบกับการผจญภัยของเจ้าชายวาสุเทพพร้อมด้วยศึกชิงบัลลังก์ในหมู่พี่น้องได้ใน "ฟาโรห์ที่รัก ภาค มหาราชยอดรัก" ได้เร็วๆนี้ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×