ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน อมตะเทวตำนาน

    ลำดับตอนที่ #6 : โพไซดอน พระสมุทรแห่งกรีก

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 53





    โพไซดอน
    พระสมุทรแห่งกรีก
         ในตำนานเคยกล่าวว่า เทพซีอุสมีพี่ชาย2พระองค์ พี่สาว3พระองค์ ซึ่งเทพโพไซดอนก็เป็น 1 ในพี่ชายแห่งเทพซีอุส เมื่อเทพซีอุสขึ้นเป็นประมุขฟ้าแล้วก็มอบอำนาจบางส่วนให้พี่ๆช่วยดูแล โดยเทพโพไซดอนรับอำนาจควบคุมครอบครองมหาสมุทร จากนั้นเทพบุตรโพไซดอนก็กลายเป็นพระสมุทร เทพเจ้าผู้ปกครองสรรพสิ่งในมหาสมุทรรวมถึงภูตปีศาจในทะเลอีกด้วย และชาวประมงที่จับปลาเป็นอาชีพก็จะอยู่ในความคุ้มครองของพระองค์ด้วย ยามท้องทะเลปั่นป่วนเหล่าชาวประมงจึงเชื่อกันว่า เทพโพไซดอนพิโรธจึงจะไม่ออกทะเลเพราะกลัวพลังอำนาจของพระองค์ เทพโพไซดอนจึงมีฉายาว่า"ผู้เขย่าโลก"อีกด้วย 



          เทพโพไซดอนประดับในปราสาทที่งดงามภายใต้มหาสมุทร ท่ามกลางเหล่าพระราชบริวารที่เป็นเทพแห่งทะเล เหล่าเทพธิดา นางพรายแห่งท้องทะเล ที่รูปร่างงดงามที่มีส่วนล่างเป็นปลา พระองค์ประทับบนบัลลังก์ทองคำที่สุกเปล่งสว่างดังแสงอาทิตย์ สวมมงกุฎแสดงถึงอำนาจแห่งประมุขแห่งภพบาดาล และศาสตราวุธคู่พระวรกายคู่ ตรีศูลที่ทรงพลานุภาพที่แกร่งทีหนึ่งก็แสดงทำให้มหาสมุทรสั่นสะเทือนได้(ทรงเป็นอาุวุธที่น่ากลัวจริงๆ) ได้พูดถึงภาระหน้าที่ของพระองค์ไปแ้ล้ว มาพูดถึงอำนาจเขตขอบขันธสีมาของพระองค์กันดีกว่า


    ภาพเทพโอเซียนัส
          เทพโพไซดอนเดิมอย่างว่าเป็นเทพบุตรรุ่นใหม่อันกำเนิดจากเทพโครนัสกับนางเรอา ซึ่งก่อนที่พระองค์จะขึ้นตำแหน่งพระสมุทรนั้น มีเทพเจ้ารุ่้นเก่าคือ เทพไตรต้นนามว่า "โอเซียนัส" เป็นพระสมุทรอยู่ก่่อนแล้ว ซึ่งเทพโอเซียนัสมีอำนาจครอบคลุมอำนาจน้ำทุกอย่างในโลก แต่พอเทพรุ่นใหม่ล้มอำนาจของเทพไตรตัน เทพโอเซียนัสจึงถูกลดอำนาจแต่ยังคงสภาพพระสมุทรอยู่(อย่างงงนะฟังต่อ) คือ เทพโพไซดอนปกครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (ในอดีตชาวกรีกนั้นมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนมีความสำคัญต่อตนมาก) ส่วนเทพโอเซียนัสจึงปกครองในห้วงสมุทรที่เป็นเพียงน้ำไหลวนรอบโลกซึ่งไม่มีความสำคัญอะไรเลย

         พระองค์ในฐานะเป็น 1 ใน เทพสภาทั้ง12แห่งโอลิมปัส มักจะตั้งเสด็จขึ้นไปยังโอลิมปัสด้วย เวลาพระองค์เสด็จจะทรงบนราชวงศ์เทียมม้าน้ำและจะมีเหล่าเทพบุุตร เทพธิดาแห่งทะเลรวมถึงหมู่นางพรายขึ้นมาส่งเสด็จต่างประโคมแตรสังข์ดนตรีอย่างอลังการ สมกับขบวนส่งเสด็จพระสมุทร ท้องทะเลจะแหวกเป็นทางให้รถม้าของพระองค์เหาะขึ้นสู่ท้องฟ้ามุ่งสู่โอลิมปัสอย่างสวยงาม 


          
         เทพโพไซดอนทรงเป็นพระสมุทรที่เท่ากับเป็นประมุขบรรดาสรรพสิ่งทั้งหลายในมหาสมุทร ก็คงขาดไม่ได้ที่จะต้องมีพระมเหสีหรือราชินีคู่บัลลังก์ พระราชินีแห่งท้องทะเลจะหนีไปไม่ได้เลย เพราะหนีแล้วท่านยังตามทันนั้นคือ เทพีอัมฟิตรีตี กว่าพระองค์จะได้เทพีพระองค์นี้มาเป็นพระมเหสีช่างยากอยู่เหมือนกัน ตอนแรกพระองค์ขอพระเทพีจากเทพโอเซียนัสผู้เป็นบิดา แต่พระเทพีกลับไม่ยินดีกับการจะเป็นพระมเหสีพระสมุทรพระองค์ใหม่จึงหนี..!! พระเทพีหนีซ่อนองค์อยู่ทีึ่อื่น แต่คงไม่พ้นพระเนตรพระกรรณของเ้ทพโพไซดอนได้ พระองค์จึงวานปลาโลมาช่วยตามหาพระเทพีอันเป็นที่รัก ในที่สุดเจ้าปลาโลมาก็พบพระเทพีและนำกลับมามอบแก่เทพโพไซดอนได้สำเร็จ พระเทพีผู้โสภาคงหนีไม่รอดตำแหน่งพระราชินีแห่งมหาสมุทร จึงยอมรับเทพโพไซดอนเป็นพระสวามีโดยดี

    เทพไทรตัน พระโอรสแห่งเทพโพไซดอน
         พระเทพีทรงมีพระโอรสให้เทพโพไซดอน คือ เทพไทรตัน โดยพระโอรสพระองค์นี้จะมีหน้าที่เป่าสังข์เป็นสัญญาณเวลาพระบิดาจะเสด็จสู่โอลิมปัส โดยพระองค์จะมีรูปลักษณ์เป็นคนครึ่งปลา เขาว่าพระองค์เป็นต้นตระกูลของเงือกกรีกด้วย 


    ภาพนางไม้ซิลลาที่กลายเป็นปีศาจ

          พระเทพีทรงมีความเมตตา ความอ่อนโยน สมฐานะราชินีแห่งท้องทะเล ถึงพระสวามีจะออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้านก็ไม่บ่นไม่ว่าไม่ตามราวี ตามใจพระสวามีทุกอย่างจะมีพระชายาเก็บ มีพระชายาน้อยจะมีกิ๊กกี่คน มีนางบำเรอเท่าไรไม่ว่า แต่แปลกมากที่พระเทพีกลับมาหึงหวงพระสมุทรภายแค่นางผู้นี้เพียงนางเดียว คือ นางไม้ นามว่า "ซิลลา" พระเทพีหึงหวงขนาดเรียกกันว่า ร้ายลึก (แบบนี้น่ากลัวที่สุด) เขาว่านางไม้ซิลลามีความเลอโฉมมากมายจนเอาเทพโพไซดอนอยู่หมัด พระเทพีเลยกริ้วเิกิดความหึงหวงจึงคอยโอกาศเหมาะที่จะแก้เผ็ดนางไม้นางนี้ และแล้ววันชะตาเคราะห์หนักก็มาถึง เมื่อนางไม้ซิลลาลงอาบน้ำในสระน้ำที่นางอาบเป็นประจำ แทนที่นางจะสบายและชุ่มชื่นกับน้ำเย็นๆสบายๆที่วันนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น พอนางลุกขึ้นจากน้ำเท่านั้น ร่างของนางกลับกลายร่างเป็นปีศาจอสูรกายที่น่ากลัวจนขนาดตัวนางเองยังรับไม่ได้จึงหนีไปอาศัยยังเกาะที่เป็นถ้ำห่างไกลผู้คน และจับคนที่เป็นคนเดินเรือผ่านไปมากินเป็นอาหาร (จะกล่าวตอนในตอนต่อไป เพราะนางเป็น1ในปีศาจที่เป็นอุปสรรคต่อวีรบุรุษแห่งกรีก) แต่ทำไมนางจึงกลายเป็นปีศาจไปได้? คงไม่ต้องสงสัยอะไรเพราะคงไม่พ้นน้ำมือพระเทพีนี้เอง พระเทพีนำยาพิษมาหยดไว้ในสระน้ำที่เป็นสระน้ำประจำของนางไม้ซิลลานั่นเอง (ร้าย...ลึกจริงๆ) ก็ของใคร ของใครก็หวง    




          เทพโพไซดอนจะมีความเจ้าชู้ไม่แพ้เทพซีอุสผู้เป็นน้องชาย พระองค์ก็เคยทำให้หญิงที่พระองค์มีความสัมพันธ์ด้วยพินาศมาแล้ว ใครจะรู้ว่านางปีศาจเมดูซ่าที่มีผมเป็นงูจะเคยมาชายาของเทพโพไซดอนมาแล้ว แต่ในอดีตนางเป็นเทพธิดาที่มีความงามมาก ซึ่งนางเป็นข้าบาทแห่งเทพีอธีน่าซึ่งนางเองได้ปฏิญาณไว้ว่าจะรักษาความพรหมจรรย์ แต่นางกลับมาถูกเทพโพไซดอนมาเจาะไข่แดงไปเสียนี้ เมื่อเทพีอธีน่าทราบเข้าก็พิโรธสาปให้นางกลายเป็นปีศาจไป (น่าสงสารจริงๆเลยT.T)




          เหตุที่เทพีอธีน่าลงโทษนางเมดูซ่าอย่างรุนแรงคงอาจมาจากความไม่ลงรอยกันระหว่างลุงกับหลานคู่นี้ ต้องท้าวความว่า เทพเจ้ามีหน้าที่อย่างหนึ่งคือการเป็นเทพประจำเมือง ซึ่งครั้งนั้นมีเมืองเกิดใหม่ขึ้น ซึ่งเมืองนี้เป็นที่ถูกใจของเทพ2พระองค์ คือ เทพโพไซดอน กับ เทพีอธีน่้า ซึ่งไม่ยอมกันเสียที อีกคนก็ไม่ยอม ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน เรื่องจึงเข้าถึงเทพซีอุส ด้วยความยุติธรรมพระองค์จึงให้ทั้งสองประลองว่าใครจะสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเมืองนี้ โดยให้ชาวเมืองเป็นผู้ตัดสิน เทพโพไซดอนเนรมิตม้าให้แก่ชาวเมืองก็เป็นที่พอใจของชาวเมือง แต่เทพีอธีน่าทรงเนรมิตต้นมะกอกขึ้น ชาวเมืองกลับเลือกต้นมะกอกเพราะมีประโยชน์ได้ทุกส่วนของต้น จากนั้นเมืองนี้จึงมีเทพีอธีน่าเป็นเทพประจำ และมีชื่อเมืองว่า "เอเธนท์" เทพโพไซดอนจึงไม่ถูกกับเทพีอธีน่้าตั้งแต่นั้นมา

                    ถึงเทพโพไซดอนจะเป็นพี่ชายแห่งเทพซีอุส และดูจะเป็นพี่ชายที่รักน้องชาย แต่แล้วก็ไม่เหมือนอย่างที่คิด ดังอย่างที่กล่าวไปแล้วในตอนเทพีเฮร่า ราชินีแห่งสรวงสวรรค์ ว่าพระองค์ร่วมมือกับเทพีเฮร่า โค่นอำนาจเทพซีอุส แต่อย่างที่เล่าแล้วว่าเป็นการโค่นล้มที่ไม่สำเร็จ เทพซีอุสจึงทรงลงโทษให้เทพโพไซดอนลงจากโอลิมปัสไปเป็นทำงานหนักเยี่ยงมนุษย์โดยไปช่วย ท้าวเลือมมิดอน พระราชาเมืองทรอย สร้างกำแพงโดยมีเทพอะพอลโลที่โดนลงโทษเช่นกันมาช่วย ท้าวเลือมมิดอนเคยกล่าวว่าจะมอบรางวัลอย่างงามแก่เทพโพไซดอนหลังการสร้างกำแพงเสร็จ แต่พอกำแพงทรอยสร้างเสร็จ ท้าวเลือมมิดอนกลับตระบัดสัตย์ เทพโพไซดอนจึงพิโรธเป็นอันมากจึงเรียกสัตว์ร้ายจากท้องทะเลขึ้นมาไล่กินชาวเมือง ชาวเมืองต้องนำสาวพรหมจรรย์มาสังเวยปีละครั้ง จนหญิงสาวหมดเมือง ซึ่งเจ้าหญิงฮีไซโอนีต้องยอมพลีชีพเพื่อบ้านเมือง ท้าวเลือมมิดอนพยายามหาทุกวิถีทางที่ช่วยลูกของตน จึงประกาศหาชายหนุ่มมาปราบ หากผู้ใดปราบได้พระองค์จะมอบรางวัลให้อย่างงาม ในที่สุกเฮอร์คิวลิสก็รับอาสา เฮอร์คิวลิสก็ปราบสัตว์ร้ายได้ลง เมื่อเฮอร์คิวลิสมารับรางวัลพระองค์กลับตระบัดสัตย์เช่นเดิม ท้าวเลือมมิดอนก็สิ้นพระชนม์ด้วยน้ำมือของเฮอร์คิวลิส เพราะความไม่รักษาสัญญาเป็นต้นเหตุของเรื่อง
        ท้าวเลือมมิดอนเคยสัญญาจะมอบลูกวัวท้องแรกทั้งหมดเป็นเครื่องสังเวย นับจากนั้นเทพโพไซดอนจึงเป็นอริกับกรุงทรอยนับแต่นั้นมา...(ทำอะไรไว่ย่อมได้สิ่้งนั้นสนอง...สม...)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×