ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : โจรปล้นใจ
เพชรไม่ได้เจอปิยวุฒิมาเป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว ซึ่งเพชรยังคงถวิลหาปิยวุฒิทุกครั้งที่เห็นที่คั้นหนังสือที่ปิยวุฒิมอบไว้ และตอนนี้เพชรชั้นม.6 แล้ว ด้วยความเป็นตัวของเพชรเองทำให้เพชรเป็นที่ชื่นชมของคุรครูและผู้อำนวยการฯ รวมทั้งเพื่อนๆและรุ่นน้องในโรงเรียน ถึงเพชรจึงไม่เก่งกาจไม่ครบทุกทางเหมือนปิยวุฒิ แต่ก็นับได้ว่าตอนนี้เพชรก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ปิยวุฒิเคยยืนมาก่อน คือ เป็นดาวเด่นของโรงเรียน เป็นที่รู้จักของน้องๆและยังเป็นแบบอย่างที่ดีของรุ่นน้อง คงด้วยความเป็นเด็กดีของเพชรจึงทำให้เพชรได้รับความรักและความเอ็นดูจากผู้คนรอบข้างเช่นนี้
เพชรทราบดีว่าตนเองในขณะนี้มาไกลเกินความคาดหมายคือการเป็นดาวเด่นของโรงเรียนหรือบุคคลที่เป็นที่รู้จัก แต่สำหรับเพชรแล้ว ดาวเด่นของเพชรก็หนีไม่พ้นปิยวุฒิชายหนุ่มที่เพชรรัก ปิยวุฒิสำหรับเพชรแล้วก็คือดวงดาวที่สุกสกาวที่ลอยอยู่สูงเกินที่เพชรจักคว้ามา ส่วนเพชรนั้นก็ต่ำด้อยมากเมื่อเทียบกับปิยวุฒิ
เพชรยังคงจูบและหอมกับที่คั้นหนังสือที่ถูกทำเป็นพวงกุญแจอย่างนุ่มนวลให้หายคิดถึงชายคนรักที่แสนห่างไกล
วันหนึ่งทางคุณครูภาควิชาภาษาไทยให้นักเรียนชั้นม.6ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นพี่ใหญ่แล้วนั้นจัดการแสดงละครเวทีเนื่องในวันสุนทรภู่ โดยแบ่งตามคณะสี ซึ่งห้องของเพชรนั้นได้คู่กับห้องสายวิทย์-คณิตห้องที่5 เพราะห้องสายวิทย์-คณิตมีทั้งหมด 5 ห้อง นอกนั้นเป็นสายศิลป์-คำนวณ ภาษา และการงานอาชีพ เมื่อเหล่านักเรียนม.6ทุกสีทราบดังนั้นก็รีบเสนอชื่อเรื่องที่จักนำมาเล่นในวันสุนทรภู่กันจนครบทุกสีแล้ว เว้นแต่สีห้องวิทย์-คณิตห้องที่5กับห้องศิลป์ฝรั่งเศสที่ยังตกลงกันไม่ได้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงส่งตัวแทนมาประชุมเพื่อหารือถึงการนำผลงานของสุนทรภู่เรื่องไหนมาแสดงเพราะผลงานเด่นๆของสุนทรภู่ก็ถูกสีอื่นๆแย่งไปหมดแล้ว โดยฝ่ายห้อง5ส่ง เพ็ญ หัวหน้าห้องมาคุยกับฝ่ายศิลป์ฝรั่งเศสซึ่งเพชรรับหน้าที่นี้เอง โดยเพ็ญเป็นฝ่ายมาหาเพชรเองที่ห้องสมุดในช่วงพักกลางวัน
"สวัสดีเพชร" เพ็ญทัก
"สวัสดีครับ เพ็ญ"
"สวัสดีค่ะ คุณครูจันจิรา" คุณครูจันจิรายิ้มและรับไหว้
"คุณครูจันจิราขออนุญาตไปปรึกษากับเพ็ญเรื่องงานสุนทรภู่ก่อนนะครับ"
คุณครูจันจิรายิ้ม "ได้ เดี๋ยวครูนั่งแทนเอง"
เพชรยกมือไหว้ขอบคุณคุณครูจันจิราแล้วเดินออกจากเคาว์เตอร์แล้วพาเพ็ญไปยังท้ายห้องสมุดซึ่งส่วนท้ายของห้องสมุดนั้นมีห้องกระจกสำหรับเป็นห้องซ่อมหนังสือเก่งที่ชำรุด และเก็บหนังสือใหม่ที่จักขึ้นชั้นในปีการศึกษาหน้า เพชรเลือกหนังสือที่ใช้เป็นข้อมูลไว้ประมาณ 5 เล่ม ซึ่งถูกซ่อมไว้บนชั้นหนังสือมุมหนึ่งของห้องแห่งนี้
"เพ็ญนั่งก่อนครับ" เพชรดึงเก้าอี้ไม้ออกมาให้เพ็ญนั่ง
"ขอบใจจ๊ะ"
เพชรยิ้มแล้วนั่งบนเก้าอี้ตัวถัดไปแล้วเริ่มวางหนังสือทั้งหมดลงบนตัก แล้วค่อยเลือกหนังสือเล่มหนึ่งแล้วเปิดออก
"หนังสือที่เราหามาเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับผลงานของสุนทรภู่และวรรณคดีไทยเรื่องอื่นๆ"
"เพชร เราว่าผลงานของสุนทรภู่ที่เลือกอยู่นะไม่เหลือแต่เรื่องที่มันไม่เด่นแล้วนะ อย่าง พระอภัยมณี ลักษณวงศ์ สิงหไกรภพ โคบุตร ก็ถูกสีอื่นเสนอเรื่องไปแล้ว หากมีเลือกก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยนิยมหรือไม่เป็นที่รู้จักแล้วนะเพชร อย่างเราจะเอานิราศต่างๆของท่านก็เล่นยาก สุภาษิตสอนหญิงยิ่งยากนักเลย"
"เราเห็นด้วยนะเพชร เอาอย่างนี้ซิ เราขออนุณาตคุณครูสุมาลีขอให้เราเล่นวรรณคดีเรื่องอื่นที่ไม่ใช่บทงานของสุนทรภู่ไหม แค่เราสีเดียวเองคงไม่เป็นไร"
"น่าจะโอเคนะ แต่เราจักเอาเรื่องอะไรอ่ะ" เพ็ญถามอย่างสงสัย
"วรรณคดีไทยที่มีอยู่ในใจเพชรตอนนี้นะ ก็เรื่อง ไกรทอง ครับ บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2"
เพ็ญยิ้มจนแก้มปริ "เอาเลยเรื่องนี้น้องๆต้องชอบมากแน่ๆ"
เพชรยิ้ม "ถ้าเพ็ญเห็นชอบด้วยเราก็ดีใจ แต่ต้องดูก่อนนะว่าคุณครูสุมาลีจักอนุญาตให้เราเล่นเรื่องนี้หรือเปล่า"
"นั้นซิ นั้นเราไปกันเลยไหม ตอนนี้พักกลางวัน คุณครูเขาน่าจะอยู่ที่ห้องพักครู"
เพชรพยักหน้าแล้วทั้งสองก็รีบลุกออกจากห้องกระจกนี้ออกไปแล้วออกจากห้องสมุดไป
"คุณครูจันจิราครับ ผมกับเพ็ญขอตัวไปพบคุณครูสุมาลีก่อนนะครับ"
"จ๊ะ" คุณครูจันจิรายิ้มรับ
ทั้งสองรีบเดินข้างไปยังอาคารเรียนซึ่งไม่ไกลจากห้องสมุดนักซึ่งเป็นอาคารเรียนสำหรับสาขาภาษาต่างๆ โดยห้องพักครูภาควิชาภาษาไทยนั้นอยู่ชั้นสงของอาคาร เพชรกับเพ็ญเข้าไปยังห้องพักครูก็ต้องถอดรองเท้าแล้วนั่งคุกชันแล้วค่อยๆเข้าไปหาคุณครูท่านหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ท่านเดียว เพชรยกมือขึ้นไหว้
"สวัสดีครับ คุณครูลัดลาภรณ์"
"สวัสดีค่ะ" เพ็ญกล่าวพร้อมกับยกมือไหว้เช่นกัน
"สวัสดีจ๊ะ มาหาครูเหรอเพชร เพ็ญ"
"คือผมกับเพ็ญมาหาคุณครูสุมาลีครับ คุณครูลัดดาภรณ์"
"อืม คุณครูเขาอยู่ในห้องนั้นนะเข้าไปเคาะเรียกได้เลย"
เพชรและเพ็ญยกมือขอบคุณ คุณครูลัดดาภรณ์แล้วค่อยลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องที่คุณครูลัดดาภรณ์บอก เพชรเคาะประตู สักพักประตูก็ถูกเปิดออก ซึ่งภาพที่เพชรเห็นคือ คุณครูสุมาลีและคุณครูมัทรีหัวหน้าภาควิชาภาษาไทยซึ่งรายรอบด้วยนักเรียนตัวแทนสีมานั่งกันจนเต็มห้อง
"สวัสดีครับ คุณครูมัทรี สวัสดีครับคุณครูสุมาลี"
"วันนี้ห้อง 5 กับ ห้องศิลป์ฝรั่งเศสจักมาเสนอชื่อละครหรือ" คุณครูมัทรีถาม
เพชรกับเพ็ญนั่งลงแล้วชันเข่าเข้าไปใกล้คุณครูมัทรีซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะ "วันนี้สีผมมาขอคำปรึกษาเท่านั้นครับคุณครูมัทรี"
"อะไรกันนี้สีอื่นเขาเสนอชื่อกันหมดแล้วนะ เพชร" คุณครูสุมาลีกล่าว
"ผมทราบครับ แต่สีผมมีเหตุผลครับคุณครูสุมาลี"
"ไหม เธอบอกเหตุผลที่ยังคิดเรื่องไม่ได้ให้ครูฟังซิเพชร" คุณครูมัทรีเอ็นดูเพชรเพราะท่านทราบว่าเพชรนั้นเป็นเด็กดีซึ่งท่านเคยสอบเพชรมาก่อนตอนเพชรเรียนอยู่ม.1
"คือว่า ผลงานของท่านสุนทรภู่มีอยู่หลายเรื่องก็จริง แต่ผลงานที่ถือได้ว่าเป็นผลงานน้ำเอกของท่านและเป็นที่รู้จักก็มีอยู่น้อยเรื่องมากเลยครับ ซึ่งสีอื่นเขาก็เอาไปกันหมดแล้ว เช่น พระอภัยมณี ลักษณวงศ์ สิงหไกรภพ และ โคบุตร ซึ่งที่เหลือก็เป็นนิราศ สุภาษิต สวัสดิรักษา ซึ่งยากมากต่อการนำมาดัดแปลงเป็นละครครับ"
"อืม น่าเห็นใจและจริงอย่างที่เพชรว่าน่ะค่ะคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรีกล่าว
"แต่วันสุนทรภู่ก็ต้องเล่นละครที่เป็นผลงานของท่านนะค่ะคุณครูมัทรี" คุณครูสุมาลีกล่าวเหมือนไม่ยอม
"นั้นเอาอย่างนี้ มีวรรณคดีไทยเรื่องไหนบ้างไหมที่สุนทรภู่ท่านแต่งประพันธ์ร่วมกวีท่านอื่น"
"ก็พอมีครับ เป็นเรื่องรามเกียรติ์ บางตอน กับ ขุนช้าง ขุนแผนบางตอน ครับคุณครูมัทรี"
"นะเราสามารถนำวรรณคดีเหล่านี้มาเล่นได้ไหมล่ะเพชร"
"ผมเกรงว่ามันจักยากไปอ่ะครับ เพราะอย่างรามเกียรติ์ก็ไม่นิยมเล่นในหมู่ประชาชนอยู่แล้ว ส่วนขุนช้าง ขุนแผน ตัวละครก็เยอะครับ งบที่ทางภาควิชาให้กับสีก็เก่งว่าจักไม่พอเอาครับ"
"อืม นั้นซินะ" คุณครูมัทรีกล่าวแล้วหันไปทางคุณครูสุมาลี
"นั้น ครูขอถามว่า พวกเธอจักเล่นเรื่องอะไรล่ะ" คุณครูสุมาลีถามเพชรกับเพ็ญ
"ผมคิดว่า สีของผมจักแสดงเรื่อง ไกรทอง ครับ"
"ไกรทอง เหรอไม่เลวนะคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรียิ้ม
"จะดีหรือค่ะคุณครูมัทรี"
"อย่างน้อยก็เป็นบทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 กษัตริย์ผู้มีคุณูปการต่อสุนทรภู่มิใช่หรือคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรีพยายามเชียร์เพชร
"คงได้ค่ะ นั้นครูอนุญาตแล้วให้ห้อง 5 และห้องศิลป์ฝรั่งเศสเล่นละครเรื่อง ไกรทอง" คุณครูสุมาลีเขียนชื่อเรื่องลงในแผ่นกระดาษ
และแล้ว "พวกหนูไม่ยอมค่ะ" นักเรียนหญิงคนหนึ่งยกมือค้าน
"ไหน กัลยาบอกครูซิว่าเธอไม่ยอมให้เพื่อนเราเรื่องนี้เพราะอะไร" คุณครูมัทรีถาม
"ก็ทั้ง 4 สีล้วนเล่นละครที่เป็นผลงานของสุนทรภู่ทั้งนั้นเลย และจะให้มีเรื่องไกรทองเข้ามาเป็นแกะดำในฝูงแกะขาวได้อย่างไรค่ะ"
"จริงด้วยครับ สีผมก็ไม่ยอมนะครับคุณครู"
"สุพจน์ เธอใจเย็น อะไรกัน เราก็เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมาในโรงเรียนเดียวกันนี้ เพื่อนเขามีความจำเป็น ทำไมพวกเธอไม่เห็นใจเขา"
"ผมว่าน่าเห็นใจนะครับ ก็พวกเราเลือกเรื่องที่ง่ายต่อการเล่นละครมากันหมดแล้ว สีของเพชรเขาลำบากทำไมพวกเราไม่เห็นใจเพื่อนกันเลยเหรอ" อนุชิตซึ่งเป็นเพื่อนของเพชรมาตั้งแต่ม.1แต่แยกอยู่กันคนละคนตั้งแต่ม.4 เพราะอนุชิตเรื่องไปเรียนสายไทย-สังคมแทน
"นั้นซิค่ะ ฉันไม่เห็นด้วยนะที่อีกสองสีจักรังแกสีเพชรกับเพ็ญ" นารีรัตน์ซึ่งเคยเรื่องห้องเดียวกับเพชรมาตั้งแต่ม.1แต่ต้องแยกไปเรียนห้องอื่นตอนม.4 โดยเลือกเรียนศิลป์-คำนวณ
"สงสัยกลัวว่าจะดีเกินหน้าเกินตาตัวเองแน่เลยเพชร" เพ็ญกระซิบ
"นั้นผมขอเปลี่ยนบ้าง ที่จริงเรื่องที่สีผมเลือกก็ไม่ชอบนักครับ" สุพจน์กล่าว
"เอ้าไหนเธอลองเสนอมาซิ สุพจน์" คุณครูสุมาลีถาม
"ผมขอเปลี่ยนจากโคบุตร ซึ่งเป็นผลงานหนึ่งของสุนทรภู่ที่ผมมองว่าก็ไม่มีคนรู้จักเท่าไร เป็นเรื่องแก้วหน้าม้าครับ"
"สุพจน์ แก้วหน้าม้า นี้เป็นนิทานพื้นบ้านนะ และไม่มีความร่วมสมัยกับสุนทรภู่เลย"
"เอาเถิด คุณครูสุมาลี"
"คุณครูมัทรีค่ะ นี้มันเริ่มจักเลอะไปกันใหญ่แล้วนะค่ะ"
"สุพจน์เธอไหวหรือที่เลือกเอาเรื่องแก้วหน้าม้ามาเล่น"
"ผมว่าไหวครับ และอีกอย่างถ้าสีผมได้เล่นเรื่องนี้จักแฮปปี้มากกว่าเรื่องโคบุตรเพราะที่จริงแล้วพวกผมยังไม่เคยอ่านหรือรู้จักโคบุตรเลย จึงขอเลือกนิทานธรรมดาดีกว่าครับ เพราะใครๆก็รู้จักนิทานเรื่องแก้วหน้าม้า และจะได้ง่ายต่อการทำงานของสีด้วยครับ"
"อืม เหตุผลฟังใช้ได้ นั้นครูอนุญาต ไหนกัลยาเธอจักเปลี่ยนจากเรื่องลักษณวงศ์เป็นเรื่องอะไร ที่จริงเรื่องลักษณวงศ์ก็เป็นที่รู้จักอยู่แล้วนะ เมื่อเร็วๆนี้ก็ถูกสร้างเป็นละครจักรๆวงศ์ๆอยู่เลย"
"สีของหนูขอเปลี่ยนเป็นเรื่อง ปลาบู่ทองค่ะ"
"ตายแล้ว นี้จักเอานิทานพื้นบ้านมาอีกแล้ว" คุณสุมาลีเหมือนไม่พอใจ
"ครูอนุญาต แต่อีกสองสีที่เหลือ คือ พระอภัยมณี และ สิงหไกรภพนี้ไม่มีการเปลี่ยนเรื่องอีกแล้วนะ เพราะเพื่อนของพวกเรารักง่าย รักสะดวกเรื่องเอานิทานพื้นบ้านไปแล้ว สองเรื่อง ถ้าสีที่เหลือคิดเปลี่ยนอีก วันสุนทรภู่คงไม่ใช่วันสุนทรภู่แล้วมันจะเป็นวันนิทานพื้นบ้านแห่งชาติแล้ว" คุณครูมัทรีกล่าวอย่างขำๆ
ทุกสีเงียบ "นั้นแสดงว่าวันสุนทรภู่ปีการศึกษานี้จักมีละครด้วยกัน 5 เรื่อง ครูขอเรียงลำดับเอาผลงานของสุนทรภู่ขึ้นก่อนนะ เป็นว่า เรื่องพระอภัยมณี เป็นเรื่องแรก เรื่องสิงหไกรภพ เป็นเรื่องที่สอง ส่วน เรื่องไกรทอง ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 ขึ้นเป็นเรื่องที่สาม ส่วนอีก 2 เรื่อง ขอเรียงตามพยัญชนะ โดยแก้วหน้าม้าเป็นเรื่องที่4 และปลาบู่ทองเป็นเรื่องสุดท้ายจ๊ะ"
"ทุกคนเอาตามนี้นะ" คุณครูสุมาลีกล่าว
"ครับ/ค่ะ" ทุกสีขานรับ
"เอ้าทุกคน ได้เรื่องครบแล้ว เริ่มซ้อมกันได้แล้วนะจ๊ะ เราเหลือเวลา 1 เดือนในการเตรียมตัว แยกย้ายไปเรียนได้แล้วจ๊ะ"
"สวัสดีครับ/ค่ะ" และแล้วนักเรียนทุกคนก็แยกย้ายออกจากห้องพักครูภาควิชาภาษาไทย เพ็ญกับเพชรแยกกันไปเรียน
"เพชรเราไปก่อนนะต้องไปเรียนพละต่อ"
"อืม โชคดีนะครับ" เพชรโบยมือให้เพ็ญ และเพ็ญก็ส่งยิ้มมาให้แล้วเดินแยกกันไป
เพชรรีบไปห้องสมุดเพื่อไปเอากระเป๋า ซึ่งเวลานั้นเหลืออีก 5 นาทีที่จะต้องขึ้นเรียนแล้ว คุณครูจันจิราเห็นเพชรวิ่งมาแต่ก็รีบลุกไปหยิบกระเป๋าถือส่งให้เพชรจักได้ไม่ต้องถอดรองเท้าเข้ามาในห้องสมุด
"ขอบคุณครับ" เพชรรีบรับกระเป๋าจากมือคุณครูจันจิราแล้ววิ่งลงบันไดแล้วไปขึ้นเรียนอย่างเร่งรีบแต่แล้วเพชรก็ต้องเกิดอุบัติเหตุเมื่อวิ่งไปชนกับนักเรียนคนหนึ่งจนล้มทั้งสอง เพชรไม่ทันได้มองจึงชนเข้ากับเขาอย่างจัง
"โอ๊ย เจ็บอ่ะ..." เพชรปวดที่หัวผากที่กระทบพื้นพอรู้สึกตัวก็รีบไปมองคนที่เพชรวิ่งชน
"ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ" เพชรลุกพยุงคนที่เพชรวิ่งชน
"เจ็บเป็นบ้าเลย" คนที่ถูกเพชรชนก็หันมามอง เพชรเห็นหน้าคนที่ชนถึงกับใจเต้นพองโต คนที่เพชรชนนั้นเป็นนักเรียนในชุดพลศึกษา ซึ่งคงกำลังรีบเหมือนเพชรเพราะโรงยิมนั้นอยู่เลยห้องสมุดไปก็ถึง แต่เพชรคิดว่าหน้าคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหน
"ขอโทษครับ" เพชรพยุงเขาขึ้น
"ครั้งหน้าดูตาม้าตาเรือบ้างนะ โอ๊ยเจ็บ"
"ขอโทษจริงๆครับ" และแล้วชายคนนั้นก็วิ่งจากไปอย่างรวดเร็วปานลมกรด
เพชรมองเขาไปจนหายไประหว่างอาคาร เพชรยืนยิ้มด้วยใจที่เบิกบาน ใครกันหนอหล่อจัง คิ้วคมเข้ม จมูกโด่ง ผิวเนียนเข้ม สงสัยเราคงหลงรักเขาเสียแล้ว
"พ่อโจรร้ายหยิบหัวใจเราติดไปแล้วเอามาคืนนะครับ" เพชรยิ้มและแล้วเสียงออนเตือนก็ดัง
"เอ้าแย่แล้ว" เพชรรีบวิ่งตรงไปยังอาคารเรียนโดยด่วน
เพชรทราบดีว่าตนเองในขณะนี้มาไกลเกินความคาดหมายคือการเป็นดาวเด่นของโรงเรียนหรือบุคคลที่เป็นที่รู้จัก แต่สำหรับเพชรแล้ว ดาวเด่นของเพชรก็หนีไม่พ้นปิยวุฒิชายหนุ่มที่เพชรรัก ปิยวุฒิสำหรับเพชรแล้วก็คือดวงดาวที่สุกสกาวที่ลอยอยู่สูงเกินที่เพชรจักคว้ามา ส่วนเพชรนั้นก็ต่ำด้อยมากเมื่อเทียบกับปิยวุฒิ
เพชรยังคงจูบและหอมกับที่คั้นหนังสือที่ถูกทำเป็นพวงกุญแจอย่างนุ่มนวลให้หายคิดถึงชายคนรักที่แสนห่างไกล
วันหนึ่งทางคุณครูภาควิชาภาษาไทยให้นักเรียนชั้นม.6ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นพี่ใหญ่แล้วนั้นจัดการแสดงละครเวทีเนื่องในวันสุนทรภู่ โดยแบ่งตามคณะสี ซึ่งห้องของเพชรนั้นได้คู่กับห้องสายวิทย์-คณิตห้องที่5 เพราะห้องสายวิทย์-คณิตมีทั้งหมด 5 ห้อง นอกนั้นเป็นสายศิลป์-คำนวณ ภาษา และการงานอาชีพ เมื่อเหล่านักเรียนม.6ทุกสีทราบดังนั้นก็รีบเสนอชื่อเรื่องที่จักนำมาเล่นในวันสุนทรภู่กันจนครบทุกสีแล้ว เว้นแต่สีห้องวิทย์-คณิตห้องที่5กับห้องศิลป์ฝรั่งเศสที่ยังตกลงกันไม่ได้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงส่งตัวแทนมาประชุมเพื่อหารือถึงการนำผลงานของสุนทรภู่เรื่องไหนมาแสดงเพราะผลงานเด่นๆของสุนทรภู่ก็ถูกสีอื่นๆแย่งไปหมดแล้ว โดยฝ่ายห้อง5ส่ง เพ็ญ หัวหน้าห้องมาคุยกับฝ่ายศิลป์ฝรั่งเศสซึ่งเพชรรับหน้าที่นี้เอง โดยเพ็ญเป็นฝ่ายมาหาเพชรเองที่ห้องสมุดในช่วงพักกลางวัน
"สวัสดีเพชร" เพ็ญทัก
"สวัสดีครับ เพ็ญ"
"สวัสดีค่ะ คุณครูจันจิรา" คุณครูจันจิรายิ้มและรับไหว้
"คุณครูจันจิราขออนุญาตไปปรึกษากับเพ็ญเรื่องงานสุนทรภู่ก่อนนะครับ"
คุณครูจันจิรายิ้ม "ได้ เดี๋ยวครูนั่งแทนเอง"
เพชรยกมือไหว้ขอบคุณคุณครูจันจิราแล้วเดินออกจากเคาว์เตอร์แล้วพาเพ็ญไปยังท้ายห้องสมุดซึ่งส่วนท้ายของห้องสมุดนั้นมีห้องกระจกสำหรับเป็นห้องซ่อมหนังสือเก่งที่ชำรุด และเก็บหนังสือใหม่ที่จักขึ้นชั้นในปีการศึกษาหน้า เพชรเลือกหนังสือที่ใช้เป็นข้อมูลไว้ประมาณ 5 เล่ม ซึ่งถูกซ่อมไว้บนชั้นหนังสือมุมหนึ่งของห้องแห่งนี้
"เพ็ญนั่งก่อนครับ" เพชรดึงเก้าอี้ไม้ออกมาให้เพ็ญนั่ง
"ขอบใจจ๊ะ"
เพชรยิ้มแล้วนั่งบนเก้าอี้ตัวถัดไปแล้วเริ่มวางหนังสือทั้งหมดลงบนตัก แล้วค่อยเลือกหนังสือเล่มหนึ่งแล้วเปิดออก
"หนังสือที่เราหามาเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับผลงานของสุนทรภู่และวรรณคดีไทยเรื่องอื่นๆ"
"เพชร เราว่าผลงานของสุนทรภู่ที่เลือกอยู่นะไม่เหลือแต่เรื่องที่มันไม่เด่นแล้วนะ อย่าง พระอภัยมณี ลักษณวงศ์ สิงหไกรภพ โคบุตร ก็ถูกสีอื่นเสนอเรื่องไปแล้ว หากมีเลือกก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยนิยมหรือไม่เป็นที่รู้จักแล้วนะเพชร อย่างเราจะเอานิราศต่างๆของท่านก็เล่นยาก สุภาษิตสอนหญิงยิ่งยากนักเลย"
"เราเห็นด้วยนะเพชร เอาอย่างนี้ซิ เราขออนุณาตคุณครูสุมาลีขอให้เราเล่นวรรณคดีเรื่องอื่นที่ไม่ใช่บทงานของสุนทรภู่ไหม แค่เราสีเดียวเองคงไม่เป็นไร"
"น่าจะโอเคนะ แต่เราจักเอาเรื่องอะไรอ่ะ" เพ็ญถามอย่างสงสัย
"วรรณคดีไทยที่มีอยู่ในใจเพชรตอนนี้นะ ก็เรื่อง ไกรทอง ครับ บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2"
เพ็ญยิ้มจนแก้มปริ "เอาเลยเรื่องนี้น้องๆต้องชอบมากแน่ๆ"
เพชรยิ้ม "ถ้าเพ็ญเห็นชอบด้วยเราก็ดีใจ แต่ต้องดูก่อนนะว่าคุณครูสุมาลีจักอนุญาตให้เราเล่นเรื่องนี้หรือเปล่า"
"นั้นซิ นั้นเราไปกันเลยไหม ตอนนี้พักกลางวัน คุณครูเขาน่าจะอยู่ที่ห้องพักครู"
เพชรพยักหน้าแล้วทั้งสองก็รีบลุกออกจากห้องกระจกนี้ออกไปแล้วออกจากห้องสมุดไป
"คุณครูจันจิราครับ ผมกับเพ็ญขอตัวไปพบคุณครูสุมาลีก่อนนะครับ"
"จ๊ะ" คุณครูจันจิรายิ้มรับ
ทั้งสองรีบเดินข้างไปยังอาคารเรียนซึ่งไม่ไกลจากห้องสมุดนักซึ่งเป็นอาคารเรียนสำหรับสาขาภาษาต่างๆ โดยห้องพักครูภาควิชาภาษาไทยนั้นอยู่ชั้นสงของอาคาร เพชรกับเพ็ญเข้าไปยังห้องพักครูก็ต้องถอดรองเท้าแล้วนั่งคุกชันแล้วค่อยๆเข้าไปหาคุณครูท่านหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ท่านเดียว เพชรยกมือขึ้นไหว้
"สวัสดีครับ คุณครูลัดลาภรณ์"
"สวัสดีค่ะ" เพ็ญกล่าวพร้อมกับยกมือไหว้เช่นกัน
"สวัสดีจ๊ะ มาหาครูเหรอเพชร เพ็ญ"
"คือผมกับเพ็ญมาหาคุณครูสุมาลีครับ คุณครูลัดดาภรณ์"
"อืม คุณครูเขาอยู่ในห้องนั้นนะเข้าไปเคาะเรียกได้เลย"
เพชรและเพ็ญยกมือขอบคุณ คุณครูลัดดาภรณ์แล้วค่อยลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องที่คุณครูลัดดาภรณ์บอก เพชรเคาะประตู สักพักประตูก็ถูกเปิดออก ซึ่งภาพที่เพชรเห็นคือ คุณครูสุมาลีและคุณครูมัทรีหัวหน้าภาควิชาภาษาไทยซึ่งรายรอบด้วยนักเรียนตัวแทนสีมานั่งกันจนเต็มห้อง
"สวัสดีครับ คุณครูมัทรี สวัสดีครับคุณครูสุมาลี"
"วันนี้ห้อง 5 กับ ห้องศิลป์ฝรั่งเศสจักมาเสนอชื่อละครหรือ" คุณครูมัทรีถาม
เพชรกับเพ็ญนั่งลงแล้วชันเข่าเข้าไปใกล้คุณครูมัทรีซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะ "วันนี้สีผมมาขอคำปรึกษาเท่านั้นครับคุณครูมัทรี"
"อะไรกันนี้สีอื่นเขาเสนอชื่อกันหมดแล้วนะ เพชร" คุณครูสุมาลีกล่าว
"ผมทราบครับ แต่สีผมมีเหตุผลครับคุณครูสุมาลี"
"ไหม เธอบอกเหตุผลที่ยังคิดเรื่องไม่ได้ให้ครูฟังซิเพชร" คุณครูมัทรีเอ็นดูเพชรเพราะท่านทราบว่าเพชรนั้นเป็นเด็กดีซึ่งท่านเคยสอบเพชรมาก่อนตอนเพชรเรียนอยู่ม.1
"คือว่า ผลงานของท่านสุนทรภู่มีอยู่หลายเรื่องก็จริง แต่ผลงานที่ถือได้ว่าเป็นผลงานน้ำเอกของท่านและเป็นที่รู้จักก็มีอยู่น้อยเรื่องมากเลยครับ ซึ่งสีอื่นเขาก็เอาไปกันหมดแล้ว เช่น พระอภัยมณี ลักษณวงศ์ สิงหไกรภพ และ โคบุตร ซึ่งที่เหลือก็เป็นนิราศ สุภาษิต สวัสดิรักษา ซึ่งยากมากต่อการนำมาดัดแปลงเป็นละครครับ"
"อืม น่าเห็นใจและจริงอย่างที่เพชรว่าน่ะค่ะคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรีกล่าว
"แต่วันสุนทรภู่ก็ต้องเล่นละครที่เป็นผลงานของท่านนะค่ะคุณครูมัทรี" คุณครูสุมาลีกล่าวเหมือนไม่ยอม
"นั้นเอาอย่างนี้ มีวรรณคดีไทยเรื่องไหนบ้างไหมที่สุนทรภู่ท่านแต่งประพันธ์ร่วมกวีท่านอื่น"
"ก็พอมีครับ เป็นเรื่องรามเกียรติ์ บางตอน กับ ขุนช้าง ขุนแผนบางตอน ครับคุณครูมัทรี"
"นะเราสามารถนำวรรณคดีเหล่านี้มาเล่นได้ไหมล่ะเพชร"
"ผมเกรงว่ามันจักยากไปอ่ะครับ เพราะอย่างรามเกียรติ์ก็ไม่นิยมเล่นในหมู่ประชาชนอยู่แล้ว ส่วนขุนช้าง ขุนแผน ตัวละครก็เยอะครับ งบที่ทางภาควิชาให้กับสีก็เก่งว่าจักไม่พอเอาครับ"
"อืม นั้นซินะ" คุณครูมัทรีกล่าวแล้วหันไปทางคุณครูสุมาลี
"นั้น ครูขอถามว่า พวกเธอจักเล่นเรื่องอะไรล่ะ" คุณครูสุมาลีถามเพชรกับเพ็ญ
"ผมคิดว่า สีของผมจักแสดงเรื่อง ไกรทอง ครับ"
"ไกรทอง เหรอไม่เลวนะคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรียิ้ม
"จะดีหรือค่ะคุณครูมัทรี"
"อย่างน้อยก็เป็นบทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 กษัตริย์ผู้มีคุณูปการต่อสุนทรภู่มิใช่หรือคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรีพยายามเชียร์เพชร
"คงได้ค่ะ นั้นครูอนุญาตแล้วให้ห้อง 5 และห้องศิลป์ฝรั่งเศสเล่นละครเรื่อง ไกรทอง" คุณครูสุมาลีเขียนชื่อเรื่องลงในแผ่นกระดาษ
และแล้ว "พวกหนูไม่ยอมค่ะ" นักเรียนหญิงคนหนึ่งยกมือค้าน
"ไหน กัลยาบอกครูซิว่าเธอไม่ยอมให้เพื่อนเราเรื่องนี้เพราะอะไร" คุณครูมัทรีถาม
"ก็ทั้ง 4 สีล้วนเล่นละครที่เป็นผลงานของสุนทรภู่ทั้งนั้นเลย และจะให้มีเรื่องไกรทองเข้ามาเป็นแกะดำในฝูงแกะขาวได้อย่างไรค่ะ"
"จริงด้วยครับ สีผมก็ไม่ยอมนะครับคุณครู"
"สุพจน์ เธอใจเย็น อะไรกัน เราก็เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมาในโรงเรียนเดียวกันนี้ เพื่อนเขามีความจำเป็น ทำไมพวกเธอไม่เห็นใจเขา"
"ผมว่าน่าเห็นใจนะครับ ก็พวกเราเลือกเรื่องที่ง่ายต่อการเล่นละครมากันหมดแล้ว สีของเพชรเขาลำบากทำไมพวกเราไม่เห็นใจเพื่อนกันเลยเหรอ" อนุชิตซึ่งเป็นเพื่อนของเพชรมาตั้งแต่ม.1แต่แยกอยู่กันคนละคนตั้งแต่ม.4 เพราะอนุชิตเรื่องไปเรียนสายไทย-สังคมแทน
"นั้นซิค่ะ ฉันไม่เห็นด้วยนะที่อีกสองสีจักรังแกสีเพชรกับเพ็ญ" นารีรัตน์ซึ่งเคยเรื่องห้องเดียวกับเพชรมาตั้งแต่ม.1แต่ต้องแยกไปเรียนห้องอื่นตอนม.4 โดยเลือกเรียนศิลป์-คำนวณ
"สงสัยกลัวว่าจะดีเกินหน้าเกินตาตัวเองแน่เลยเพชร" เพ็ญกระซิบ
"นั้นผมขอเปลี่ยนบ้าง ที่จริงเรื่องที่สีผมเลือกก็ไม่ชอบนักครับ" สุพจน์กล่าว
"เอ้าไหนเธอลองเสนอมาซิ สุพจน์" คุณครูสุมาลีถาม
"ผมขอเปลี่ยนจากโคบุตร ซึ่งเป็นผลงานหนึ่งของสุนทรภู่ที่ผมมองว่าก็ไม่มีคนรู้จักเท่าไร เป็นเรื่องแก้วหน้าม้าครับ"
"สุพจน์ แก้วหน้าม้า นี้เป็นนิทานพื้นบ้านนะ และไม่มีความร่วมสมัยกับสุนทรภู่เลย"
"เอาเถิด คุณครูสุมาลี"
"คุณครูมัทรีค่ะ นี้มันเริ่มจักเลอะไปกันใหญ่แล้วนะค่ะ"
"สุพจน์เธอไหวหรือที่เลือกเอาเรื่องแก้วหน้าม้ามาเล่น"
"ผมว่าไหวครับ และอีกอย่างถ้าสีผมได้เล่นเรื่องนี้จักแฮปปี้มากกว่าเรื่องโคบุตรเพราะที่จริงแล้วพวกผมยังไม่เคยอ่านหรือรู้จักโคบุตรเลย จึงขอเลือกนิทานธรรมดาดีกว่าครับ เพราะใครๆก็รู้จักนิทานเรื่องแก้วหน้าม้า และจะได้ง่ายต่อการทำงานของสีด้วยครับ"
"อืม เหตุผลฟังใช้ได้ นั้นครูอนุญาต ไหนกัลยาเธอจักเปลี่ยนจากเรื่องลักษณวงศ์เป็นเรื่องอะไร ที่จริงเรื่องลักษณวงศ์ก็เป็นที่รู้จักอยู่แล้วนะ เมื่อเร็วๆนี้ก็ถูกสร้างเป็นละครจักรๆวงศ์ๆอยู่เลย"
"สีของหนูขอเปลี่ยนเป็นเรื่อง ปลาบู่ทองค่ะ"
"ตายแล้ว นี้จักเอานิทานพื้นบ้านมาอีกแล้ว" คุณสุมาลีเหมือนไม่พอใจ
"ครูอนุญาต แต่อีกสองสีที่เหลือ คือ พระอภัยมณี และ สิงหไกรภพนี้ไม่มีการเปลี่ยนเรื่องอีกแล้วนะ เพราะเพื่อนของพวกเรารักง่าย รักสะดวกเรื่องเอานิทานพื้นบ้านไปแล้ว สองเรื่อง ถ้าสีที่เหลือคิดเปลี่ยนอีก วันสุนทรภู่คงไม่ใช่วันสุนทรภู่แล้วมันจะเป็นวันนิทานพื้นบ้านแห่งชาติแล้ว" คุณครูมัทรีกล่าวอย่างขำๆ
ทุกสีเงียบ "นั้นแสดงว่าวันสุนทรภู่ปีการศึกษานี้จักมีละครด้วยกัน 5 เรื่อง ครูขอเรียงลำดับเอาผลงานของสุนทรภู่ขึ้นก่อนนะ เป็นว่า เรื่องพระอภัยมณี เป็นเรื่องแรก เรื่องสิงหไกรภพ เป็นเรื่องที่สอง ส่วน เรื่องไกรทอง ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 ขึ้นเป็นเรื่องที่สาม ส่วนอีก 2 เรื่อง ขอเรียงตามพยัญชนะ โดยแก้วหน้าม้าเป็นเรื่องที่4 และปลาบู่ทองเป็นเรื่องสุดท้ายจ๊ะ"
"ทุกคนเอาตามนี้นะ" คุณครูสุมาลีกล่าว
"ครับ/ค่ะ" ทุกสีขานรับ
"เอ้าทุกคน ได้เรื่องครบแล้ว เริ่มซ้อมกันได้แล้วนะจ๊ะ เราเหลือเวลา 1 เดือนในการเตรียมตัว แยกย้ายไปเรียนได้แล้วจ๊ะ"
"สวัสดีครับ/ค่ะ" และแล้วนักเรียนทุกคนก็แยกย้ายออกจากห้องพักครูภาควิชาภาษาไทย เพ็ญกับเพชรแยกกันไปเรียน
"เพชรเราไปก่อนนะต้องไปเรียนพละต่อ"
"อืม โชคดีนะครับ" เพชรโบยมือให้เพ็ญ และเพ็ญก็ส่งยิ้มมาให้แล้วเดินแยกกันไป
เพชรรีบไปห้องสมุดเพื่อไปเอากระเป๋า ซึ่งเวลานั้นเหลืออีก 5 นาทีที่จะต้องขึ้นเรียนแล้ว คุณครูจันจิราเห็นเพชรวิ่งมาแต่ก็รีบลุกไปหยิบกระเป๋าถือส่งให้เพชรจักได้ไม่ต้องถอดรองเท้าเข้ามาในห้องสมุด
"ขอบคุณครับ" เพชรรีบรับกระเป๋าจากมือคุณครูจันจิราแล้ววิ่งลงบันไดแล้วไปขึ้นเรียนอย่างเร่งรีบแต่แล้วเพชรก็ต้องเกิดอุบัติเหตุเมื่อวิ่งไปชนกับนักเรียนคนหนึ่งจนล้มทั้งสอง เพชรไม่ทันได้มองจึงชนเข้ากับเขาอย่างจัง
"โอ๊ย เจ็บอ่ะ..." เพชรปวดที่หัวผากที่กระทบพื้นพอรู้สึกตัวก็รีบไปมองคนที่เพชรวิ่งชน
"ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ" เพชรลุกพยุงคนที่เพชรวิ่งชน
"เจ็บเป็นบ้าเลย" คนที่ถูกเพชรชนก็หันมามอง เพชรเห็นหน้าคนที่ชนถึงกับใจเต้นพองโต คนที่เพชรชนนั้นเป็นนักเรียนในชุดพลศึกษา ซึ่งคงกำลังรีบเหมือนเพชรเพราะโรงยิมนั้นอยู่เลยห้องสมุดไปก็ถึง แต่เพชรคิดว่าหน้าคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหน
"ขอโทษครับ" เพชรพยุงเขาขึ้น
"ครั้งหน้าดูตาม้าตาเรือบ้างนะ โอ๊ยเจ็บ"
"ขอโทษจริงๆครับ" และแล้วชายคนนั้นก็วิ่งจากไปอย่างรวดเร็วปานลมกรด
เพชรมองเขาไปจนหายไประหว่างอาคาร เพชรยืนยิ้มด้วยใจที่เบิกบาน ใครกันหนอหล่อจัง คิ้วคมเข้ม จมูกโด่ง ผิวเนียนเข้ม สงสัยเราคงหลงรักเขาเสียแล้ว
"พ่อโจรร้ายหยิบหัวใจเราติดไปแล้วเอามาคืนนะครับ" เพชรยิ้มและแล้วเสียงออนเตือนก็ดัง
"เอ้าแย่แล้ว" เพชรรีบวิ่งตรงไปยังอาคารเรียนโดยด่วน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น